ตอนที่ 24 : บทที่ ๒๔
“เดินเร็วๆสิวะ ยืดยาดเป็นคนแก่ไปได้” ถึงถ้อยคำจะแสลงหูแต่คุณพีชก็ไม่อาจแผลงฤทธิ์ได้อีก เธอทั้งเจ็บแผลและกลัวว่าคนพวกนั้นจะยิงเธอทิ้งจริงๆ
“หยุดตรงนี้แหละ” มันสั่งให้คุณพีชและเก๋หยุดที่หน้าหลุม คุณพีชใจหายวาบ นี่เป็นวันสุดท้ายของชีวิตจริงหรือนี่ ส่วนเก๋ที่คุณพีชโอบไว้มาตลอดได้แต่ร้องไห้และกอดตัวคุณพีชไว้ไม่ยอมห่าง
“ที่นี่ที่ไหน แล้วพวกแกเป็นใคร จะฆ่าฉันกับเก๋ทำไม”
“เดี๋ยวก็ตายแล้วจะอยากรู้ไปทำไมหนักหนา ถามมากน่ารำคาญ”
“ก็ตอบฉันมาสิ จะให้ฉันตายไปทั้งๆที่ยังคาใจเนี่ยนะ” พวกนั้นนิ่งแล้วเตรียมปืนให้พร้อมสำหรับงานสุดท้ายของวันนี้
“เฮ้ย...เดี๋ยวๆ พี่ชาติบอกว่าอย่าเพิ่ง มีคนมาที่หน้าโกดัง”
ที่ด้านหน้าโกดัง...ตำรวจทั้งในและนอกเครื่องแบบเตรียมพร้อมสำหรับบุกเข้าไป รุ่งรุจตามมาสมทบทันพอดี ปืนในมือของเขาเตรียมพร้อมแต่ใจหวาดหวั่นตราบใดที่ยังไม่เห็นว่าคุณพีชปลอดภัย
“คุณตำรวจมาทำไมกันเยอะแยะครับเนี่ย”
“มีคนเขาบอกว่า มีคนร้ายพาตัวประกับหลบเข้ามาในนี้ ถ้ายังไงเปิดให้เข้าไปดูหน่อย”
“นี่มันที่ส่วนบุคคลนะครับ จะเข้ามาค้นพร่ำเพรื่อได้ไง คุณตำรวจมีหมายค้นมาหรือเปล่าล่ะ”
ทันทีที่คุณพีชได้ยินว่ามีคนมาความหวังที่จะรอดตายก็มีมากขึ้น คนร้ายที่ควบคุมเธอกับเก๋อยู่มีแค่สองคนแต่ก็มีปืนอยู่ในมือ จะทำอย่างไรดี หน้าโกดังคงไม่ไกลจากตรงนี้มาก ถ้าเสียงดังหรือวิ่งออกไปก็คงมีคนเห็น แต่ว่า...ถ้ามันตัดสินใจยิงขึ้นมา เอาเถอะ...อย่างน้อยก็ต้องมีคนได้ยินเสียงปืนและเข้ามาช่วยเก๋ ส่วนเธอ....
“ฉันอยากเข้าห้องน้ำ ขอไปเข้าห้องน้ำหน่อยได้ไหม” คุณพีชพูดเสียงอ่อน
“จะไปเข้าทำไมให้เสียเวลา ปล่อยมันตรงนี้แหละ เดี๋ยวก็จะตายอยู่แล้วอย่าเรื่องมาก”
“โอ้ย...ฉันเป็นผู้หญิงนะ จะให้มาปล่อยเรี่ยราดได้ไง อย่างน้อยก็ขอหลบมุมตรงนั้นหน่อยก็ได้” หนึ่งในนั้นเกาหัวแกรกๆ ผู้หญิงนี่เรื่องมากจริงๆ
“เอ้า จัดการให้เรียบร้อย เร็วๆด้วย แก่แล้วก็งี้...อั้นขี้อั้นเยี่ยวไม่ค่อยอยู่ น่าเบื่อจริงๆ”
“ก็หันไปทางโน้นสิ นี่ฉันเป็นผู้หญิงนะ”
ทันทีที่มันหันไปคุณพีชก็ออกวิ่งสุดแรงเกิด พอได้ยินเสียงวิ่งมันก็ยิงปืนออกไปนัดหนึ่งแต่เพราะรอบตัวมืดสนิท กระสุนนัดนั้นเลยพลาดไปโดนต้นไม้ใกล้ๆแทน
สิ้นเสียงปืน...ตำรวจที่อยู่หน้าโกดังก็พากันกรูเข้าไปด้านใน ตำรวจส่วนหนึ่งคุมตัวชาติไว้ส่วนรุ่งรุจวิ่งไปทางด้านหลังโกดังที่เป็นต้นเสียงพร้อมกับตำรวจอีกกลุ่มหนึ่ง
“วางปืนลง แล้วยกมือให้เห็นชัดๆ ทั้งสองข้าง...เร็ว!!” คนร้ายคนหนึ่งวางปืนลงกับพื้นแล้วยกมือขึ้นเหนือหัว คุณพีชที่หลบอยู่หลังต้นไม้ค่อยๆโผล่ออกมาเพราะเสียงนั้นคุ้นเคยเหลือเกิน
“คุณพีชเป็นอะไรหรือเปล่าครับ” หญิงสาวน้ำตาไหลพรากเพราะภาพที่เห็นตรงหน้าคือรุ่งรุจกับตำรวจอีกหลายคน คราวนี้รอดตายแล้ว
“พวกมึงนั่นแหละต้องวางปืนลง ไม่งั้นอีนี่ตาย” คนร้ายอีกคนใช้ปืนจ่อไว้ที่หัวของเก๋แล้วลากเธออกมาจากมุมมืด
“พี่รุจ ช่วยหนูด้วย...”
“โอเคๆ น้องใจเย็นๆนะ คุยกันก่อน”
“ถอยไป ไม่งั้นอีสองคนนี่ตาย” อีกคนที่อยู่ใกล้คุณพีชรวบตัวเธอไว้แล้วล๊อคคอจนดิ้นไม่หลุด
“เดี๋ยวๆ ไม่ต้องถึงกับฆ่าแกงกันหรอก ผู้หญิงเขาไม่รู้เรื่องอะไร ปล่อยเขาเถอะแล้วเรามาคุยกันแบบลูกผู้ชายดีกว่า”
“ปล่อยก็โง่ดิ ถอยไป!!”
รุ่งรุจและพวกตำรวจถอนร่นจนมาถึงลานปูนกว้างข้างโกดัง คนร้ายทั้งสองคนมองหน้ากันเลิ่กลั่ก เพราะตำรวจล้อมไว้หมด ส่วนลูกพี่ก็โดนจับใส่กุญแจมือไพล่หลังอยู่ไม่ไกล
“ถ้าเขาเป็นอะไรไปโทษมันหนักกว่าเดิมเยอะนะ ปล่อยตัวประกันเถอะ” รุ่งรุจเจรจาด้วยความใจเย็น
“เอาไงดีพี่ ตำรวจเต็มเลย”
“ไม่รู้ว่ะ”
ในระหว่างที่สองคนนั่นกำลังปรึกษากันอยู่ ตำรวจอีกส่วนก็อ้อมไปทางด้านหลังและพร้อมแล้วสำหรับช่วยตัวประกันออกมา ทันทีที่คนร้ายเผลอ ผู้กองรุ่งรุจก็ให้สัญญาณตำรวจด้านหลังเข้าช่วยตัวประกันทั้งสองออกมาจากการควบคุมของสองคนร้าย และทันทีที่หมดข้อต่อรอง คนร้ายทั้งสองก็ยอมจำนนแต่โดยดี
ตำรวจนำกำลังเข้าค้นภายในโกดังก็พบหญิงสาวหลายคน ทุกคนอยู่ในสภาพอิดโรยและหวาดกลัว เจ้าหน้าที่ช่วยกันพาทุกคนออกไปจากตรงนั้น ส่วนคุณพีชที่อยู่ในอาการตระหนกกำลังนั่งทำแผลอยู่ในรถพยาบาล เมื่อกี้เหมือนฝันร้ายสำหรับเธอ มันเป็นเพียงเสี้ยววินาทีที่ความกลัวครอบงำจิตใจแต่กับผู้หญิงพวกนั้นสิ ความหวาดกลัวคงเกาะกินพวกเธอตลอดเวลาที่อยู่กับพวกนรกนี่
“เป็นอะไรมากไหมครับคุณพีช” รุ่งรุจถามเธอด้วยเสียงอ่อนโยน
“เจ็บนิดหน่อยน่ะ แล้วเก๋ล่ะ...อยู่ไหน”
“เก๋ปลอดภัยครับ อยู่กับ....อ่อ....ตำรวจ เดี๋ยวผมจะพาคุณพีชไปส่งที่บ้านนะครับ เดี๋ยวคงต้องให้...”
“ผู้กองครับ เชิญทางนี้หน่อยครับ” คุณพีชมองชายหนุ่มตรงหน้าด้วยความแปลกใจ เมื่อกี้ทำไมตำรวจคนนั้นถึงได้เรียกรุ่งรุจว่า ‘ผู้กอง’
“คุณพีชรอผมตรงนี้สักครู่นะครับ เดี๋ยวผมมา” รุ่งรุจเดินตามตำรวจนายนั้นออกไปทิ้งให้คุณพีชสงสัยว่าที่จริงแล้วรุ่งรุจเป็นใครกันแน่
ระหว่างรออยู่นั้น...คุณพีชก็เหลือบเห็นพ่อของรุ่งรุจเดินปะปนอยู่กับพวกตำรวจ ถ้าจำไม่ผิดเขาก็ใช้ปืนยิงต่อสู้กับคนร้ายก่อนพวกนั้นจะจับเธอมาที่นี่
“คุณพิชชาภาใช่ไหมครับ เดี๋ยวเชิญที่รถเลยครับ ผู้กองรุ่งรุจให้ผมไปส่งคุณที่บ้าน” คุณพีชเดินตามตำรวจนายนั้นไปด้วยความงุนงง หญิงสาวค่อนข้างสับสน...เรื่องทั้งหมดเป็นอย่างไรกันแน่
หลังการทลายแก๊งค์ค้ามนุษย์รายใหญ่เป็นข่าวดังอยู่หลายวัน คุณพีชก็ได้รับการติดต่อให้ไปให้การเกี่ยวกับเรื่องนี้ในฐานะผู้ต้องสงสัยที่มีส่วนในขบวนการค้ามนุษย์โดยมีนายกลดเป็นหัวหน้า ครูเทืองกับแม่แขลมแทบจับเมื่อรู้ว่าลูกสาวคนเดียวมีชื่ออยู่ในขบวนการค้ามนุษย์กับเขาด้วย ในขณะที่นายกลดปฎิเสธทุกข้อกล่าวหาว่าเขาไม่รู้ไม่เห็นอะไรทั้งนั้น และพวกผู้หญิงที่อยู่ในโกดังของเขาเป็นเพราะเขาหละหลวมปล่อยให้ลูกน้องทำตามอำเภอใจ จึงได้ใช้โกดังของเขาเป็นที่ซ่อนผู้หญิงพวกนั้นก่อนจะเอาไปขาย คนที่ทำเรื่องนี้ทั้งหมดก็คือลูกน้องคนสนิทที่ชื่อชาตินั่นเอง
ในห้องสอบสวน...เจ้าหน้าที่ถามคุณพีชมากมายโดยเฉพาะธุรกิจโมเดลลิ่งและวงดนตรีของเธอ เพราะจากเบาะแสทำให้ทราบว่ามีผู้หญิงหลายคนถูกแอบอ้างให้เข้ามาทำงานกับเธอและพบว่ามีรายชื่ออยู่ในกลุ่มที่ถูกขังไว้ก่อนขายต่อให้กับขบวนการค้ามนุษย์
“ฉันบอกคุณไปหมดแล้ว ฉันไม่รู้เรื่อง ฉันทำธุรกิจถูกต้องตามกฎหมายทุกอย่าง คุณคงตรวจสอบได้”
“แต่หลักฐานพวกนี้ชี้มาที่บริษัทคุณว่าเป็นผู้จัดหาผู้หญิงพวกนั้นให้นายกลด คุณจะว่ายังไง”
“เด็กพวกนี้เคยทำงานกับฉันจริง แต่เขาก็ลาออกโดยสมัครใจเพื่อที่จะไปทำงานกับคุณกลด ฉันไม่ได้บังคับอะไรเขานี่”
“แล้วพวกที่ทำงานกับวงดนตรีของคุณล่ะ จะบอกว่าเขาลาออกไปทำงานกับนายกลดโดยสมัครใจด้วยอย่างนั้นรึ เป็นสิบๆคนเนี่ยนะ แถมบางคนบอกว่าสมัครมาทำงานกับคุณแต่สุดท้ายก็อยู่ในกลุ่มที่ถูกช่วยมา เรื่องนี้คุณจะว่ายังไง” เจ้าหน้าที่สอบสวนทำหน้าไม่เชื่อ
“นายกลดลงทุนกับคุณในฐานะอะไร”
“ก็...หุ้นส่วน เขามีเงินแล้วก็แค่อยากหาธุรกิจลงทุน”
“เขาลงทุนกับบริษัทของคุณด้วยเงินมหาศาล แล้วเขาจะไม่หวังสิ่งตอบแทนอะไรเลยหรือไง” คุณพีชหน้าเครียด หลักฐานทุกอย่างชี้ชัดมาที่เธอทั้งหมด...แต่เธอไม่ได้ทำผิด
“หลักฐานทุกอย่างฉันก็ให้ทางตำรวจดูหมดแล้ว ต่อจากนี้...ฉันต้องการทนาย”
“ผมว่าคุณต้องหาทนายที่เก่งหน่อยนะ เพราะนอกจากคุณจะโดนข้อหาสมคบกันนายกลดจัดหาผู้หญิงให้ขบวนการค้ามนุษย์แล้ว คุณยังมีข้อหาฟอกเงินจากขบวนการค้ามนุษย์ของเขาด้วย”
จากผู้ต้องสงสัยคุณพีชกลายเป็นผู้ต้องหา แต่ก่อนที่เธอจะเดินออกจากห้องสอบสวนไป หญิงสาวเดินสวนกับใครคนหนึ่งในเครื่องแบบตำรวจดูแปลกตา
“ผมขอคุยกับผู้ต้องหาหน่อย” ตำรวจที่คุมตัวคุณพีชถอยออกไป ปล่อยให้รุ่งรุจคุยกับคุณพีชตามลำพัง
“คุณพีชครับ คือ...ผม ต้องขอโทษ”
“ขอโทษรึ นาย...อ้อ...ไม่ใช่ ผู้กองทำอะไรผิดล่ะคะถึงต้องมาขอโทษฉัน หรือจะขอโทษฉันที่เห็นฉันเป็นคนโง่ เลยโกหกฉันมาตลอด” คุณพีชกล้ำกลืนความรู้สึกเสียใจทั้งหมดเอาไว้ ผู้ชายคนหนึ่งที่เธอเห็นว่าเป็นคนดี เป็นคนซื่อๆ กลับลายเป็นใครคนหนึ่งที่เธอไม่รู้จักเลยสักนิด
“มันไม่ใช่อย่างนั้น คุณพีชต้องเข้าใจนะครับ”
“อืม...ตอนนี้ฉันเข้าใจทุกอย่างแล้ว ตลอดเวลา...คุณเชื่อมาตลอดว่าฉันเป็นคนเลว เป็นพวกเดียวกับคุณกลด ใจดำค้าขายคนได้อย่างกับผักปลา แล้วตอนนี้คุณก็ได้พิสูจน์แล้วว่าสิ่งที่คุณคิดมันถูกต้อง”
“โธ่...คุณพีชครับ ผมต้องทำตามหน้าที่ของผม” คุณพีชปาดน้ำตาที่อยู่ๆก็ไหลออกมาด้วยความน้อยใจ
“คุณทำถูกแล้วนี่ ทำตามหน้าที่ของคุณ ส่วนฉัน...คงต้องทำหน้าที่ของฉันคือสู้คดีต่อไป หวังว่าต่อจากนี้หน้าที่ของคุณกับฉันคงไม่ต้องมาเกี่ยวข้องอะไรกันอีก” คุณพีชเดินเลี่ยงออกไปโดยที่ไม่หันมองเขาแม้แต่น้อย
“เดี๋ยวสิครับคุณพีช”
“อ้อ...อย่างน้อยคุณก็ไม่ได้โกหกฉันเรื่องชื่อ นี่คงเป็นเรื่องเดียวล่ะมั้งที่คุณไม่ได้หลอกฉัน ผู้กองรุ่งรุจ” ตำรวจคุมตัวผู้ต้องหาเดินห่างออกไปแล้ว ผู้กองหนุ่มอยากจะบอกคุณพีช อีกเรื่องหนึ่งที่เขาไม่เคยโกหกเธอเลยคือความรู้สึกรักและผูกพันที่เขามีให้เธอมาตลอด
คุณพีชใช้หลักทรัพย์ประกันตัวเพื่อสู้คดี แม้แต่ทนายมือดีที่คุณพีชจ้างมาก็ยังหนักใจกับพยานและหลักฐานของทางตำรวจที่มัดตัวเธอแน่นจนยากที่จะดิ้นหลุด เรื่องราวของคุณพีชยังไม่ทันจะดำเนินไปถึงไหน หมายเรียกให้เข้ารับฟังข้อกล่าวหาของเนตรอัปสรก็มาถึงที่บ้าน
“นี่มันเรื่องอะไรกันเนี่ย” แม่แขที่อ่านหมายเรียกถึงกับทรุดลงนั่งอย่างอ่อนแรง ทั้งลูกและหลานสาวอยู่ๆก็เข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องกับขบวนการค้ามนุษย์กันหมด เธอรู้ว่านี่ไม่ใช่เรื่องจริง...เด็กสองคนนี้เธอเลี้ยงมาเองกับมือ ไอ้เรื่องที่จะไปทำแบบนั้นจะเป็นไปได้อย่างไร
เนตรอัปสรหน้าเครียด เธอเข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ได้อย่างไรในเมื่อเธอก็แค่นักร้องในวงดนตรี แต่ถ้าจะเกี่ยวข้องด้วยก็มีแค่นายกลดเท่านั้น
“เนตร ไหนบอกน้ามาสิว่าทำไมเนตรถึงได้หมายเรียกนี่ด้วย”
“เนตรไม่รู้ค่ะน้าแข เนตรก็แค่...รู้จักกับคุณกลดเท่านั้น”
“แค่รู้จักเขา แล้วทำไมเขาส่งหมายเรียกไปรับทราบข้อกล่าวหาฟอกเงินล่ะ”
“พอเถอะ!!...จะคาดคั้นตอนนี้ไปก็เปล่าประโยชน์ ถ้าเราไม่ผิดก็ไม่เห็นต้องกลัว หลักฐานเราก็มี ทนายเราก็มี ก็ไปสู้กันในศาลเอา แต่พ่อขอยื่นคำขาดเลยนะ อย่าให้นายกลดกับไอ้ผู้กองนั่นเข้ามาเหยียบบ้านเราอีก” ครูเทืองประกาศก้องด้วยน้ำเสียงขุ่นเคือง เพราะผู้ชายสองคนนี้นี่แหละที่ทำให้ครอบครัวของเขาเดือดร้อน
เนตรอัปสรเดินทางมารับทราบข้อกล่าวหา และก็เป็นไปอย่างที่เธอคิดบ้านหลังนั้นที่นายกลดซื้อให้เป็นสาเหตุ ส่วนที่นายกลดบอกว่าให้โอนลอยเอาไว้ก็ไม่เป็นจริงเพราะเขาซื้อให้เป็นของเธอตั้งแต่ต้น เรื่องนี้เนตรอัปสรรู้มาตลอดเพียงแต่โกหกคนอื่นอย่างนั้นเอง
“คุณมีความสัมพันธ์อะไรกับนายกลด”
“ก็แค่รู้จักกันน่ะค่ะ” เนตรอัปสรตอบพลางหลบสายตา
“คนรู้จักกันเขาไม่ซื้อบ้านราคาเป็นล้านให้กันหรอกมั้งครับ คุณบอกมาเถอะว่าเขากับคุณเป็นอะไรกัน”
เนตรอัปสรนั่งนิ่ง ถ้าบอกความจริงออกไปจะเป็นผลร้ายหรือดีกับตัวเธอก็ไม่รู้ แต่ถึงพนักงานสอบสวนจะคาดคั้นหรือถามเธออย่างไรเธอก็ไม่ยอมบอกความจริง เพียงแต่พูดอ้อมไปอ้อมมาและปฏิเสธไม่รู้เรื่องอื่นๆ
“ท่าทางจะไม่ยอมพูดความจริงง่ายๆนะ” นายตำรวจที่ยืนข้างๆเอ่ยกับรุ่งรุจหลังจากฟังการสอบสวนอยู่นาน
“นั่นสิ ที่จริงถ้าคุณเนตรพูดความจริงออกไปเรื่องมันก็น่าจะง่ายขึ้น”
“ไม่ลองเข้าไปเกลี่ยกล่อมดูล่ะ บางทีเขาอาจจะยอมพูดกับคนที่เขาคุ้นเคยก็ได้” รุ่งรุจตัดสินใจพักหนึ่งจึงได้เข้าไปในห้องสอบสวนเพื่อคุยกับเนตรอัปสรตามลำพัง
“เรื่องบ้านหลังนั้นคุณเนตรน่าจะรู้ดีว่าเขาตั้งใจซื้อให้คุณเนตรเพราะอะไร” เนตรอัปสรเงยหน้าขึ้นมองรุ่งรุจในเครื่องแบบตำรวจด้วยสายตาระแวง
“นี่สินะผู้กองนามสกุลดังของคุณพีช...ก็เนตรเคยผู้กองไปแล้วไงคะว่าคุณกลดซื้อบ้านในชื่อเนตรเฉยๆ แล้วเขาก็ให้เนตรเซ็นชื่อโอนลอยไว้ก็แค่นั้น”
“คุณเนตรครับ อย่าโกหกเลยครับ คุณรู้ทั้งรู้ว่าบ้านหลังนั้นนายกลดซื้อให้คุณตั้งแต่แรก เราเพียงแค่ต้องการรู้ว่าเขาเอาเงินไปทำอะไรบ้างนอกจากลงทุนทำบริษัทกับคุณพีชแล้วก็ซื้อบ้านให้คุณ”
เนตรอัปสรหน้าซีด รุ่งรุจคงรู้ทุกอย่างโดยเฉพาะเรื่องบ้านแม้กระทั่งเรื่องความสัมพันธ์กับนายกลดเขาก็รู้และเห็นมาด้วยตัวของเขาเอง ถ้าเธอโกหกอะไรออกไปเขาต้องรู้แน่ๆ
“ถ้าคุณเนตรให้การที่เป็นประโยชน์ ผมรับรองได้ว่าจะกันคุณเนตรไว้ในฐานะพยาน”
ขณะที่เนตรอัปสรเดินออกจากห้องสอบสวน ภู่วารินก็เดินสวนเข้ามาพอดี สีหน้าของของเธอนิ่งสนิทโดยมีนักข่าวจำนวนหนึ่งรอทำข่าวของเธออยู่ด้านนอก ผู้หญิงที่เกี่ยวข้องกับนายกลดพากันเดือดร้อนกันหมด จากเทพบุตรผู้แสนดีตอนนี้กลายเป็นซาตานที่หยิบยื่นโชคร้ายให้แก่ทุกคน พนักงานสอบสวนเริ่มทำหน้าที่อีกครั้งเพื่อแยกผู้ร่วมขบวนการและเหยื่อออกจากกัน
“ผู้กองครับ คุณภู่วารินอยากคุยกับผู้กอง เชิญทางนี้ครับ”
รุ่งรุจเดินเข้าไปในห้องสอบสวนอีกครั้ง ข้อกล่าวหาของเนตรอัปสรและภู่วารินอาจจะดูไม่หนักหนาเท่าของคุณพีช แต่เขาไม่อยากให้ใครแม้แต่คนเดียวต้องมาติดร่างแหกับขบวนการนรกนี่ ขอแค่ความจริงทั้งหมดกระจ่างเท่านั้น คนร้ายตัวจริงก็ไม่อาจจะลอยนวลได้อีก
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ
