ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Because I'm Crazy เพราะฉันมันบ้ารักเธอสุดสุด ❤♪

    ลำดับตอนที่ #15 : File 11 : พักงาน / กลับบ้าน / คุณนายชเว

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 457
      2
      24 พ.ค. 55

     

     



    File 11 : พักงาน / กลับบ้าน / คุณนายชเว

    Icing ’s Talk :

                ขอขอบคุณความบังเอิญและทุกสิ่งที่ทำให้ฉันได้รักเธอ  ชเวเทโฮ...ผู้ชายที่เป็นเจ้าชายของฉันมาตลอด  ตั้งแต่วินาทีแรกที่ฉันพบกับเขาผ่านโปสเตอร์คอนเสิร์ต  นับตั้งแน่เสี่ยวของวินาทีนั้นฉันก็ได้ตกเป็นจำเลยรักของเขาในทันที  หัวหน้าวง  เจ้าชายของการย้อนเวลารีเทิร์น...  ฉันหัวใจเต้นแทบตายเมื่อรู้ว่าฉันจะได้ใช้ชีวิตร่วมกับเขา  ให้ตายสิฉันแทบจะเก็บความรักที่อยู่ในใจไม่ได้  กฎมีไว้ให้รักษายากที่จะแหกคือ  “ห้ามคิดรักศิลปินตัวเอง”  เฮ้ออ

                    สวัสดีค่ะท่านผู้อ่าน  ในที่สุดก็ถึงพาร์ทของฉันสักที  ฉันชื่อไอซิ่งที่แปลว่าน้ำแข็งค่ะ  อายุสิบเก้าปีแล้วก็เป็นนักเรียนแผนกผ้าที่มีใจรักในแฟชั่นเสียด้วย  เพราะอะไรน่ะเหรอ  ก็เพราะเจ้าชายคนนี้ของฉันยังไงล่ะ  วันนี้เป็นวันโปรโมทวันสุดท้าย  ทำให้ที่ห้องเงียบสนิท  เนื่องจากไม่มีตารางงานทุกคนเลยตื่นสายกันหมด  ยกเว้นฉันที่นอนไม่หลับสักเท่าไร  หลังจากวันนั้นที่ฟังเรื่องที่ผู้จัดการเล่า  ฉันระวังตัวมากขึ้นและสังเกตสายตาของเทโฮมากขึ้น  แต่เนื่องจากว่า...บางทีฉันก็เผลอจ้องเขามากไปจนฉันใจสั่นควบคุมไม่ได้ต้องเลี่ยงสายตาก่อนตลอด  โอ้ยย  ทุกคนต้องเข้าใจนะคะว่าทำงานกับพวกคนหล่อมันยาก

                    เอาเถอะโม้จนจะเกินครึ่งหน้าเอสี่อยู่แล้ว  ยังไม่มีใครตื่นเลย  เพื่อนฉันเองยังนอนหลับตายสนิทกันอยู่  เฮ้อ...เมื่อวานนี้ช็อกโกล่าโชคดีมากๆที่ได้อยู่กับเฮซองสองต่อสอง  เธอยังเล่าอีกด้วยว่าได้ช่วยผู้กำกับหนังทำซี่รี่ตอนใกล้จะจบใหม่อย่างสนุกเชียว  ฟังแล้วอิจฉาที่สุด!  ชาตินี้จะได้มีช่วงเวลาแบบนั้นไหมนะ...บางทีถ้าเทโฮเป็นคนแบบเฮซองก็คงดี  ฉันจะได้ไม่ต้องกลุ้มใจ  เฮ้ออ  ถอนหายใจจนคาร์บอนเต็มอากาศแล้วนะ

                    แอ๊ดดด

                    อุ๊ย! 

                    ฉันที่นั่งเพ้ออยู่ที่ระเบียงสะดุ้งโหยงเมื่อประตูห้องของใครสักคนเปิดออก  ฉันหันหลังและชะเง้อไปมองดูก็เห็นเงารางๆ  แต่ก็ไม่แน่ใจว่าเป็นใคร  ฉันเลยขยี้ตาแว๊บเดียวเท่านั้น  ร่างปริศนาก็หายไปอย่างเงียบๆ

                    =0=;;  ผีเหรอ  ผีเกาหลีใช่ไหม

                    พรึบ! 

                    “เหวอ  โอ๊ย”  ฉันหันขวับทันทีที่ได้ยินเสียงเหมือนลมพัด  แต่ก็ตกใจจนตกเก้าอี้  เมื่อเจอกับแก้วสีแสงหนึ่งในที่ถูกยื่นมาให้ใกล้ๆแก้ม

                    “อรุณสวัสดิ์  เป็นอะไรมากไหมนั้น  ขอโทษทีนะไม่คิดว่าจะตกใจ  พอดีฉันเห็นข้างนอกอากาศเย็นเลยชงโกโก้มาให้”  เทโฮวางแก้วลงตรงระเบียงหนาสีขาว  ก่อนส่งมือมาให้ฉันจับและพยุงตัวขึ้น 

                    เขายิ้มเล็กน้อยแล้วส่งแก้วที่มีกลิ่นหอมของโกโก้ให้ฉัน  แล้วนั่งลงข้างๆ   ใบหน้าด้านข้างของเขานี่ดูเท่สุดๆไปเลย  จมูกโด่งสวย

                    “นายกินกาแฟเหรอ”  ฉันชวนคุย

                    “ใช่  เธอยังเด็กกินกาแฟไม่ดีนะ”

                    เด็ก!  เคืองเบาๆนะเนี่ย  มามองว่าฉันเป็นเด็กได้ไงฉันกำลังจะบรรลุนิติภาวะเร็วๆนี้นะ  ฮือออเสียใจ

                    “ฉันไม่เด็กแล้วนะ”

                    “ฮะๆ  ขอโทษทีไอซ์สาวน้อย  พอใจไหม”  เทโฮพูดไปหัวเราะไป

                    อุ๊ย  ใจฉันเต้นโครมครามจนจะออกมาเต้นข้างนอกแทนแล้วนะ  หายใจก็รู้สึกไม่สะดวกเลยด้วย  ฉันขอพรไปได้ไม่ถึงชั่วโมง  พระเจ้าก็ประทานพรสองต่อสองให้ลูกเลยเหรอเนี่ย  ปลื้มค่า

                    “อื้ม  ขอบคุณเรื่องโกโก้นะ  ว่าแต่วันนี้ไม่มีตารางงาน  ปกติพวกนายไปไหนกันเหรอ”  ฉันถามเพราะความอยากรู้

                    “นั้นสิ  ปกติจะไปตกปลา  ไปบ้านพักสกีกังเฮซองนะ  แต่ปีนี้ฉันยังไม่ได้กลับบ้านเลยด้วย  เลยคิดว่าจะกลับบ้าน” 

                    “กลับบ้านเหรอ?  แล้วไปกี่วันอะ”  ฉันถามแบบลืมตัว  ทำให้ชะงักแล้วรีบแก้ตัว  “ก็...คือแบบ...ฉันจะได้ไม่ต้องทำกับข้าวเผื่อไง  จะได้ลดวัตถุดิบลง”

                    ใจจริงอยากจะถามว่า  ถ้านายไม่อยู่แล้วฉันก็ไม่มีอะไรทำน่ะสิ  ว่างงงงง

                    “ฮะๆ  เธอไม่อยากไปบ้านฉันเหรอ”  เทโฮพูดแล้วหันมามองหน้าฉันแบบจริงจัง

                    กรี๊ดดด  เขารักตัวเองนะ  ไอเลิฟยู  ไอนีดยู

                    “อะไรนะ  ฉันไปได้เหรอ”  ฉันรีบหันกลับไปถามเพื่อความแน่ใจ

                    “ก็พี่เลี้ยงต้องอยู่ด้วยกันตลอดสิ”  เทโฮพูดยิ้มๆแล้วลุกขึ้นขยี้หัวฉันก่อนทิ้งท้าย  “รีบไปเก็บกระเป๋าแล้วออกเดินทางกันเถอะ  เธอต้องชอบแน่ๆเพราะแม่ฉันทำอาหารอร่อย  ฮะๆ”

                    เขาเดินไปแล้ว  แต่ฉันยังค้างอยู่นี่  กรี๊ดดดหูไม่ฝาดไปใช่ไหม  เทโฮชวนฉันไปบ้านเขาค่า  สาวๆสาวกรีเทิร์น  หวังว่าพวกเธอจะเข้าใจเรานะ  กรี๊ดดดมีความสุขที่สุดเลย  แต่แสดงออกไม่ได้  (ลืมเรื่องที่กังวลตอนแรก)  รีบไปเก็บเสื้อผ้าด่วนเลย 

                    ฉันรีบเก็บกระเป๋าทันที  ตอนที่มาก็มีกระเป๋าอยู่ใบเดียว  งั้น...ยกไปทั้งหมดเนี่ยแหละ

                    พรึบบบบ

                    อร๊ายยวันนี้หนาวมากไม่อาบน้ำดีกว่า  ล้างหน้าล้างตาพอ...  แต่เดี๋ยวคุณแม่ของเทโฮจะได้กลิ่นตุๆรึเปล่าหว่า  ไม่เป็นไรเดี๋ยวแอบไปจิ๊กน้ำหอมของซูชิมาฉีดนิดนึง  อิอิอิ 

                    ฉันย่องๆไปหยิบน้ำหอมมาฉีดซอกคอสองข้างเล็กน้อย  แล้วตบแป้งนิดหน่อยให้หน้าไม่มัน  พร้อมหวีผมและมัดรวบเรียบร้อย  ราวกับไปสมัครงาน...  นี่แม่เทโฮได้ข่าวว่าเป็นอาจารย์  เขาเรียบร้อยมากไหมนะ  T^T

                    “ไอซ์  แกทำอะไรอยู่อะ” 

                    อยู่ๆเสียงของซูชิก็ดังขึ้น  ฉันสะดุ้งอีกรอบทันที  ก่อนจะซ้อนน้ำหอมไว้ข้างหลัง  แต่ดูเหมือนจะไม่ช่วยอะไรเพราะหลักฐานคาซอกคออยู่  ฮืออ

                    “ไม่ต้องซ้อนหรอกย่ะ  ฉันเห็นหมดแล้ว  ทำไมแต่งตัวเหมือนจะไปสมัครงานเลยอะ”

                    แป่ว  - - เคืองๆไม่ชอบให้มีคนคิดตาม

                    “ชู่ๆ  เบาๆนะเดี๋ยวคนอื่นจะตื่น  ฉันจะบอกแกคนเดียวนะเว้ยๆ”  ฉันพูดจบก็ซุบซิบๆข้างหูซูชิ  เล่าตั้งแต่ต้นจนจบ

                    “กรี๊ดดด  จริงดิ!  เขาชวนแกแน่ๆนะเว้ย”  ซุชิพูดด้วยความตื่นเต้น  “เดี๋ยว...ไอซ์แกจำที่ผู้จัดการเล่าได้ปะ...แกระวังตัวไว้ก็ดีนะ”

                    “อื้อ  รู้แล้วล่ะ  ถ้ามีอะไรเกิดขึ้นนะจะโทรบอกทันทีเลย  เอ๊ยแกอย่าลืมให้ซิมใหม่ช็อกโก้นะ”

                    ฉันนั่งคุยกับซูชิได้สักพัก  เทโฮก็เดินออกมาจากห้องด้วยเสื้อผ้าสุดสบาย  เสื้อกล้ามสีขาวด้านใน  ด้านนอกเป็นเสื้อสีฟ้าลายสก็อตกับกางเกงเกงยีนส์ขายาวสุดชิก

                    “โอ้  วันนี้แต่งตัวบ้านๆมากเลยอะ”  ฉันพูดขึ้นก่อนจะลุกขึ้นแล้วยิ้มให้

                    “หล่อใช่ไหมล่ะ  ฮะๆไปกันเถอะต้องรีบไปให้ทันรถเมล์นะ”  เทโฮที่เดินตัวเปล่ากับเป้หนึ่งใบก็มาช่วยฉันยกกระเป๋า  ก่อนจะก้มหัวเชิงบอกลาซูชิแล้วเดินนำไป...เฮ้อออุ่นใจที่สุดเลย

                    ณ.ป้ายรถเมล์

                    ฉันอ่านภาษาเกาหลีคำว่าป้ายรถเมล์ บ้านที่เทโฮจะไปนั้นเป็นบ้านของคุณยายเขานั้นเอง  แม่และพ่อของเขาก็ชอบไปพักผ่อนที่นั่นบ่อยครั้ง(บ้านพ่อแม่เขาอยู่ในโซลนี่เองค่ะ)  เพราะว่าพื้นที่ของบ้านที่เป็นสไตล์เกาหลีโบราณบวกกับพื้นที่กว้างขวาง  ทำให้จัดรวมญาติได้สบายมาก  (ฉันเพิ่งรู้อีกว่าแม่เขารวยมากเป็นเชื่อราชวงศ์เก่า) ที่ที่เราสองคนกำลังจะไปคือจังหวัดคังวอนโด  ต้องขึ้นรถเมล์ไปลงสนามบินอินชอนแต่รถทัวร์ไปถึงจะถึง  เขาว่ามาอย่างนี้นะฮะๆ

                    ไม่นานนักรถเมล์ก็แล่นมาจอดตรงป้าย  เทโฮรีบหยิบแว่นตากรอบสีขาวและหมวกมาใส่พร้อมผ้าพันคอ  ก่อนจะยกกระเป๋าฉันขึ้นรถเมล์  พวกเราเลือกนั่งหลังสุดมุมในสุด  เพื่อไม่ให้เป็นจุดสนใจ  เขายิ้มให้ฉันอย่างสนุกสนานราวกับนานมากแล้วที่ไม่ได้ออกมาเที่ยวเริงร่าปาจิงโกะ  แถมวันนี้เขาดูมีความสุขที่สุดตั้งแต่เจอกันมาด้วย

                    “นี่นมรสช็อกโกแล็ตกับโยเกิร์ต”  เทโฮพูดขึ้น  “ขอโทษนะที่เมื่อวานไม่ได้บอกล่วงหน้า  นึกอยากจะไปกระทันหันทำให้เธอไม่ได้กินข้าวเช้าด้วย  หิวมากล่ะสิ ^^ 

                    กรี๊ดดเจ้าชายของฉันวันนี้น่ารักมากเลยวะ  -.,-

                    “โอ๊ะ  ขอบคุณมาก  ปกติฉันก็ไม่ค่อยได้กินข้าวเช้าเท่าไร  เรื่องแค่นี้สบายมาก”

                    “ฉันนึกว่าเธอชอบกินข้าวตรงเวลาซะอีก  ขนาดมีงานเช้ามากเธอยังลุกมาทำอาหาร”

                    “ฉันเป็นพี่เลี้ยงนะ  ก็ต้องบำรุงสุขภาพให้นายสิ  จริงไหมล่ะๆ”

                    “ฮะ...เป็นห่วงฉันเหรอ”  เทโฮพูดพร้อมจ้องมองฉัน

                    ตึกตักตึกตัก

                    เสียงหัวใจฉันเต้นเร็วมากขึ้นกว่าปกติ  หน้าร้อนผ่าวโดยไม่รู้ตัว  ฉันไม่รู้ว่าอาการแบบนี้เรียกว่าตกหลุมรักหรือเปล่า

                    “อะ...อื้ม  ก็นิดนึง”

                    นางเอกเขาไม่มีปิดบังกันอีกต่อไปสมัยนี้ฮ่าๆๆ  คิดยังไงก็บอกไปตามตรง  ดูเหมือนเทโฮเองจะชะงักเล็กน้อยด้วยความเขินแล้วก็หันไปมองนอกหน้าต่างพร้อมดูดนมในกล่องเหมือนเด็กอนุบาล  ผมที่ปรกลงมาปิดตาเขาข้างหนึ่งทำให้เขาดูเท่สุดๆ  นี่ฉันจะชมเขามากไปจนเปลืองหน้ากระดาษแล้วนะ

                    เมื่อมาถึงสนามบินอินชอนเราก็ตรงไปขึ้นรถโดยสารแทนเครื่องบิน  เพราะเรางบน้อยทั้งคู่  - - (ดูจนๆ)  พวกเราออกเดินทางแต่เข้ารถจึงไม่ติดมาก  ทำให้เดินทางสะดวกติดไฟแดงเล็กน้อย  อีกทั้งยิ่งเข้าใกล้คังวอนโด  อากาศเริ่มหนาวมากยิ่งขึ้น  เทโฮบอกว่าอากาศหนาวจัดมากที่จังหวัดนี้  ยิ่งถ้าตอนกลางคืนจะหนาวจนหายใจเป็นไอเลยอ่ะ  ต้องใส่เสื้อผ้าหลายๆฉันนอนหรือใส่เสื้อโอเวอร์โค้ท  ถึงมือหนาๆกับถุงเท้าสักห้าฉันถึงจะอุ่น  แต่ที่ขาดไม่ได้คือที่ปิดหู 

                    ไม่เข้าใจเลยว่าจะมาทนอยู่ในจังหวัดที่หนาวกระหน่ำซัมเมอ์เซลแบบนี้ทำไมมมม  จังหวัดอื่นมีอยู่มากมาย  ทำไมต้องเป็นที่นี่เนี่ย  แค่ในกรุงโซลก็หนาวจะแย่แล้วนะ  T^T  ร่างกายปรับสภาพไม่ทัน...

                    หลายนาทีผ่านไป...

                    สะลึมสะลือ  หาว ~

                    ง่วงนอนชะมัดเลย  เทโฮเล่นเอาหูฟังอุดหูคนเดียวไม่แบ่งปันกันเลย  แถมยังฮัมเพลงสบายใจ  เราสองคนน่าจะมีสกินชิพกันเล็กน้อยเหมือนคู่รักยงซฮบ้างนะเธอ...  อร๊อยยย  ไม่ไหวแล้วอะง่วงนอน

                    ฉันหลับมาลงไปเมื่อไรก็ไม่รู้  บรรยากาศแบบนี้ชวนเข้านิทราไปเฝ้าพระอินทร์ถึงไทยเสียเหลือเกิน  ZZzzZz

                    โปก!

                    เสียงหัวของฉันโขกกับพนักพิงของคนนั่งหน้าเข้าอย่างจัง  จนต้องสะดุ้งตื่นแล้วร้องด้วยความตกใจ  และที่ยิ่งแย่ไปกว่านั้นคือคนในรถหันมามองฉันแล้วหัวเราะคิกคัก  ฉันก้มหัวขอโทษเล็กน้อยพร้อมยิ้มแหยๆให้ด้วยความอาย  รู้งี้น่าจะขอนั่งข้างในดีกว่า  อย่างน้อยฉันจะได้กินลมชมวิวบ้าง  โอ๊ยเจ็บ 

                    “เป็นอะไรมากไหม”  เทโฮที่เหมือนเพิ่งจะรู้สึกตัวหันมาถามฉัน

    -          -  ทำไมเขาไม่รอให้หน้าฉันจุ่มลงพื้นก่อนแล้วค่อยถามเลยล่ะ  น้อยใจT^T

    “ไม่เป็นไรๆ  แค่ง่วงนิดหน่อยเท่านั้นเอง  ก็นายเล่นฟังเพลงคนเดียวนี่นา”

    ใช่  บอกให้รู้ว่าฉันงอนนน

                    “โธ่แล้วไม่บอก  หน้าผากแดงหมดแล้วนะเธอเนี่ยตลกดีจัง  ฮ่าๆๆ  อะๆฟังคนละข้างนะ  แต่ไม่รู้เพลงจะถูกใจเธอไหม”  เขาหัวเราะแล้วส่งหูฟังมาให้ฉันข้างหนึ่ง

    เหวอออ  เหมือนแฟนกันเลยอะ  ฉันนี่โชคดีอะไรอย่างนี้ฮ่าๆๆ  ฉันนอกใจไปรักคนอื่นไม่ลงเลยอะ

    “โอ๊ะ  ขอบคุณนะ”  ฉันรับมาฟังก่อนจะยัดมาใส่ลงหู  “โอ๊ะเพลงนี้  ของเทเลอร์ใช่ป่ะ”

    “ใช่ๆ  เธอรู้ไหมบ้างทีฟังเพลงพวกนี้ก็ทำให้เราแต่งเพลงขึ้นมาได้เลยนะ”  เทโฮพูด

    “จริงเหรอ  ฉันอยากลองเล่นดนตรีบ้างจัง”

    “ถ้าเธออยากเล่นเดี๋ยวฉันสอนให้เอาไหมล่ะ  เธอชอบเล่นอะไร”

                    เหมือนฝันอีกแล้ววว  ความฝันของฉันคือให้เทโฮสอนกีตาร์ให้  นี่ฉันฝันไปรึเปล่าวะเนี่ย  หรือจะเอาหัวโขกกับพนักเก้าอี้อีกทีดี

    “อื้มม  กีตาร์  ฉันชอบกีตาร์ที่สุดเลย”  ฉันตอบ

    “ชอบคนเล่นกีตาร์ด้วยรึเปล่า” 

                    ชะงักเล็กน้อย  หน้าขึ้นสีอีกครา  แต่คราวนี้ฉันเลี่ยงที่จะสบตามาก  อยู่ก็มาพูดอะไรแบบนี้  กรี๊ดดดฉันจะกรี๊ดเยอะเหมือนกับยัยช็อกโกล่าแล้วนะ

                    “ฉันก็ชอบนายไง ^_^ ฉันตอบแบบแหย่เล่น  แต่เทโฮก็ยังคงตกใจแล้วยิ้ม

                    “เธอ...พูดกับคนอื่นแบบนี้บ่อยๆไม่ดีนักหรอกนะ”  เขายิ้มก่อนจะหันไปมองนอกหน้าต่างเช่นเดิม

                    บรรยากาศกลับมาเงียบอีกครั้ง  อะไรกันฉันพูดอะไรผิดเหรอ  เขาถึงพูดจาเย็นชามากๆออกมา  ฮือออ  ไม่ไหวแล้วง่วงอีกแล้วฉัน  สงสัยไม่ได้นอนเต็มอิ่มมาหลายวัน

                    ......

                    “ยัยบ๊อง  จะหลับก็น่าจะมาซบไหล่ฉันสิ  เดี๋ยวคอก็หักพอดี”

                    เทโฮพูดประโยคนั้นเบาๆ  ก่อนจะค่อยๆดันหัวไอซิ่งมานอนบนไหล่ตัวเอง  โดยที่มองสาวน้อยขี้เซาตรงหน้าอย่างปลงๆ  สาวน้อยที่หลับสนิทไม่อาจได้ยินคำพูเหล่านั้น...

                    เวลาผ่านไปหลายขั่วโมง  ในที่สุดรถก็เข้าสู่คังวอนโดเป็นที่เรียบร้อย  ลมเย็นพัดแรงแทบดับขั้วหัวใจ  หน้านั้นแทบชาไม่รับรู้อะไร  แต่ยังมีคนหนึ่งที่หลับเป็นตายราวกับเจ้าหญิงนิทรา

                    “เฮ่ๆ  ไอซ์ถึงแล้ว”  เทโฮสะกิดฉันที่ยังคงหลับเป็นตายแบบไม่ยอมตื่น

                    เขาส่ายหน้าช้าๆ  ก่อนจะตัดสินใจอุ้มเธอลงจากรถแล้วเดินตรงเข้าหมู่บ้านเล็กๆที่เงียบสงบ

                    .......

                    ฉันหลับไปเท่าไรไม่รู้เลยยย  แต่มารู้อีกทีรู้สึกเหมือนกับว่ากำลังมีตาหลายสิบคู่จ้องมองมาทางฉันอย่างไม่ละสายตา  ฉันรู้สึกและสัมผัสได้  แต่ก็ยังไม่อยากจะลืมตา  ฉันอยากจะนอนต่ออีกสักพัก...เฮ้ออ

                    เอ๊ะเดี๋ยว ! 

                    พรึบ O_O

                    O[]o!!

                    ฉันรีบสปริงตัวขึ้นทันที  ที่จับได้ลางๆว่าอยู่บนรถทัวร์กำลังจะไปบ้านเทโฮ  แล้วฉันก็หลับไป  แต่ว่าที่นอนอยู่รู้สึกได้ถึงพื้น  แล้วฉันก็ได้รู้ความจริงว่า...ฉันหลับลึกเกินไปแล้ววววว

                    ตรงหน้าของฉันเต็มไปด้วยสายตามากกว่าสี่คู่  T_T  มีทั้งของหญิงชรา  เด็กสาว  ผู้ชายและหญิงวัยกลางคน  พวกเขามองฉันด้วยความเป็นห่วง  สายตาแบบนั้นฉันอ่านได้  เมื่อเห็นฉันตื่นพวกเขาก็ทำสีหน้าดีใจขึ้นทันที

                    ฉันมองพวกเขาอย่างงงๆก่อนจะมองไปรอบๆห้อง  ที่นี่เป็นห้องห้องหนึ่ง  มีประตูเลื่อนไม้เหมือนสมัยก่อน  พร้อมโต๊ะอุ่นขาหนึ่งตัว  ทีวี  ฮิตเตอร์บลาๆมากมาย  เดาได้ว่านี่น่าจะเป็นห้องรับแขกของใครสักคนหนึ่ง

                    “พวกคุณ...เป็นใครคะ”  ฉันถามเมื่อตั้งสติได้

                    “อ้าว  ตื่นแล้วเหรอ...หลับสบายดีไหม”  เสียงเทโฮดังขึ้น  ในชุดผ้ากันเปื้อน

                    กรี๊ดดเขาทำอะไรอยู่เนี่ย  พูดจบเขาก็เดินหายไปที่ไหนสักแห่ง  แล้วที่นี่คือที่ไหนอะ

                    “นาย  ที่นี่...อย่าบอกนะว่าฉันหลับ...”  หยุดแต่เพียงเท่านั้น  ไม่อยากจะนึกถึงภาพที่ไม่ดีเลยสักนิด  โอ๊ยยย T^T  ฉันเผลอหลับลึกอีกแล้วเหรอเนี่ย  น่าอายชะมัด  เข้าบ้านคนอื่นสภาพแบบนี้  แถมยังเป็นบ้านของเทโฮอีก  ฉันไม่อยากอยู่แล้ว  ฮือออ  พระเจ้าแกล้งฉันอะ

                    “หนูหลับไปตั้งนานเป็นห่วงแทบแย่  ยินดีตอนรับจ้า”  คุณยายทักทายด้วยน้ำเสียงอบอุ่น

                    “สวัสดีค่ะ  คือ...หนูต้องขอโทษเรื่องที่เสียมารยาทด้วยนะคะ” 

                    “ไม่เป็นไรจ้า  เขาไม่เคยพาสาวไหนมาบ้านเลยนะเนี่ย  หนูคงจะเป็นคุณนายชเวสินะ คิคิคิ”

                    =[]=  คุณนายชเว?  ฉันไปใช้นามสกุลนั้นตั้งแต่เมื่อไรวะเนี่ย

                    “เอ่อ...คุณแม่คะ  พูดอะไรก็ไม่รู้  เทโฮเขาก็บอกแล้วว่าเป็นเพื่อนร่วมงานกัน  ขอโทษแทนคุณแม่ด้วยนะจ้ะ”

                    คนนี้น่าจะเป็นคุณแม่ของเทโฮนะ  เธอดูหน้าตาใจดีมากๆ  ฉันคิดว่าคนเป็ฯครูต้องหน้าดุๆเสียอีก

                    “ไม่เป็นไรค่ะ ฮะๆ”

                    “อุ๊ย  หัวเราะเหมือนกันอีกต่างหาก  คิคิคิ”

                    คุณยายยังไม่เลิกที่จะจับคู่อีก  ฉันเขินนะค่า

                    นี่ฉันจะอยู่ที่นี่สามวันจริงๆเหรอ  ครอบครัวของเทโฮจะหรรษาเกินไปแล้วนะย่ะ  เดี๊ยนชอบบบบ ฮ่าๆๆ  เมื่อกี้เขาบอกว่าไม่เคยพาสาวไหนมา  นั้นแสดงให้ถึงว่าฉันคือคนแรกและคนสุดท้ายนะเนี่ยฮ่าๆๆ  คุณนายชเว!

    :) Shalunla
    SHALUNLA : T H E M E

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×