ตอนที่ 2 : บทนำ2
“อีกไม่ไกลแล้วขอรับ”หว้าอูมีสีหน้าสงสัยเมื่อเหม่ยจินหยุดม้าแล้วกระโดดลงจากหลังม้า เขาจึงกระโดดตามก่อนจะผูกม้าไว้ข้างๆกัน
“ที่นี่หรือขอรับ...คงเพราะเราเดินทางมาจากแคว้นต้าซ่งเลยพบกับถ้ำก่อน เพราะครั้งก่อนข้าน้อยมาจากอีกด้านขอรับ”หว้าอูอธิบาย
ภาพน้ำตกตรงหน้าทำให้คนตกตะลึงได้จริงๆ เพราะดวงจันทร์สองดวงบนท้องฟ้ากำลังสะท้อนอยู่ในน้ำตกมืดทึบ ขณะเดียวกันก็มีละอองน้ำสีขาวดูเหมือนสายหมอกเป็นฉากหน้า แต่กลับไม่สามารถมองออกได้เลยว่าจะมีทางเข้าถ้ำอยู่ที่ใด
เหม่ยจินกลับเดินดุ่มๆเข้าไปสำรวจ เขาค่อนข้างแปลกใจเมื่อเห็นว่าทางเข้าที่ควรจะเปิดโล่ง ตอนนี้กลับมีพลังบางอย่างพรางตาไว้ด้วยม่านน้ำตกเสมือนจริงคล้ายเวทย์ของคนที่ใช้ธาตุน้ำได้
“นี่มัน เวทย์น้ำมายา! หลายพันปีแล้วที่สูญหายไป” ได้ยินคำพูดหว้าอูเขาก็ยิ่งสงสัย หรือมีใครเข้ามาที่นี่หลังจากนั้นงั้นหรือ?
หรือเพราะที่นี่เป็นสถานที่บำเพ็ญของเซียนบางคนอยู่แล้ว แล้วบังเอิญท่านแม่มาพบงั้นหรือ? เขาก็ไม่ได้ถามพี่สาวหนี่หลิงมาอย่างแน่ชัดด้วยสิ
“เข้ามาเถิดขอรับ ข้าจำได้ว่าจะมีเรือนที่ใช้อาศัยอยู่ ...นั่นไง”เหม่ยจินว่า เมื่อผ่านม่านน้ำเข้ามาแล้ว ภาพที่อยู่ตรงหน้าทำให้คนทั้งสองตกตะลึง
เรือนพักหลังหนึ่งอยู่ท่ามกลางแปลงดอกไม้และพืชพันธุ์อย่างสวยงามเหมาะเจาะและแทบไม่มีร่องรอยการเดินย่ำเข้าไปใกล้ มีเพียงทางเดินหินเล็กๆที่ทอดยาวไปถึงหน้าเรือนเท่านั้น
ขณะเดียวกันสายตาของเหม่ยจินกลับไปตกอยู่ที่ต้นไม้สีทองที่กำลังล้อแสงจันทร์ซึ่งทะลุลงมาจากเพดานถ้ำ เพราะต้นไม้สีทองอยู่ริมน้ำสีฟ้าสว่างพอดีเลยทำให้ภาพที่เห็นราวกับภาพวาดเวทมนต์มากยิ่งขึ้น
“งดงามยิ่ง”เหม่ยจินอดอุทานออกมาไม่ได้
“สมุนไพรมีค่าทั้งนั้น นายน้อย...ดีแล้วหรือขอรับที่ให้ข้าน้อยมาพบสถานที่นี้ด้วย” เพราะแปลงสมุนไพรนั้นถูกจัดระเบียบไว้อย่างสวยงามทำให้รู้ว่าเป็นการตั้งใจหามาปลูกโดยใครบางคน ซึ่งก็คือเหมยฮวา แม่ของเหม่ยจินนั่นเอง
“ไม่เป็นไรหรอก ข้าไว้ใจท่าน ไปรออยู่ที่เรือนเถิด วันนี้เราจะพักกันที่นี่” ว่าแล้วเขาก็เดินไปยังต้นไม้สีทอง
ที่นั่นในวัยสองหนาวเขาได้ให้คำสัญญากับท่านแม่ไว้ว่า เมื่ออายุครบ20หนาวแล้วจะมาขุดดูจดหมายบอกเล่าเรื่องราวที่แท้จริงซึ่งท่านแม่ไม่อาจเล่าให้เขาฟังได้ในตอนนั้น
พอมาคิดถึงตรงนี้แล้วเขาก็คิดอยู่เสมอว่า หรือท่านแม่จะล่วงรู้ว่าตนเองอาจจะต้องจากเขาไปก่อนเขาจะเติบใหญ่ ถึงได้ทิ้งจดหมายไว้ให้เขาเช่นนี้
ขณะที่เหม่ยจินกำลังเดินไปลำลึกความหลังถึงท่านหญิงเหมยฮวา หว้าอูก็กำลังตกใจกับเรือนหลังงามจนแทบจะพุ่งไปดูแลนายน้อยของเขาในทันที
เหม่ยจินขุดใต้โคนต้นไม้หลายจุดเพราะจำไม่ค่อยได้ว่าตนเองฝังไว้บริเวณไหน กระทั่งได้ขวดไม้ขึ้นมาจากพื้นดิน มือเขาสั่นเทาเล็กน้อยขณะคลี่อ่านจดหมาย
‘เหม่ยจินลูกรัก หากลูกได้อ่านจดหมายฉบับนี้ตอนนี้คงมีเหตุให้แม่จากเจ้าไปแล้ว ดังนั้นขอให้ลืมความแค้นทั้งหมดแล้วใช้ชีวิตของลูกให้ดีเถิด ...ก่อนอื่นแม่ขอเล่าเรื่องราวของตนเองก่อน ตัวแม่นั้นเข้ามาอยู่ในร่างของเหม่ยเสี้ยวผู้ที่ฟางอ๋องทรงแต่งเป็นชายา แต่เพราะโดนลอบทำร้ายแม่จึงเลือกทิ้งตัวตนเหม่ยเสี้ยวไปและกลายเป็นเหมยฮวา แม่ของเจ้า! ...เข้าใจหรือยังลูกรัก ดังนั้นพ่อที่แท้จริงของเจ้าก็คือ ต้าจินฟางนั่นล่ะ หากหลังจากนี้ลูกจะบอกกล่าวความจริงแก่เขาแม่ก็ไม่ว่าอะไร เพราะลำพังแค่พรากพ่อพรากลูกมายี่สิบปีแม่ก็คงจะบาปหนาพอแล้ว..’
น้ำตาไหลออกจากสองหน่วยตาของเหม่ยจิน ก่อนที่เขาจะพยายามเช็ดน้ำตาตัวเองให้เรียบร้อยเมื่อน้ำตาหยดใส่จดหมายจนตัวหนังสือเลือน
‘ตัวแม่นั้นมีตบะเซียน1หมื่นปีอยู่ในกายแต่ตอนที่คลอดเจ้าก็กลายเป็นว่าร่างกายของเจ้ามีตบะเซียนครึ่งหนึ่งของแม่...เหม่ยจิน ลูกไม่เหมือนคนอื่น จากที่แม่ศึกษามาหากบำเพ็ญตบะแล้ว ร่างกายจะไม่คล้อยไปตามกาลเวลา เซียนบางคนก็หยุดอายุไว้ช้า บางคนก็เร็ว ซ้ำเมื่อร่างกายสิ้นชีพก็จะเป็นดวงวิญญาณที่โลกนี้ไม่ต้องการ เจ้าอาจจะถูกโยนให้ไปอยู่ในร่างของบางอย่างหรือบางคนจนกว่าจะมีวาสนาได้เป็นเทพ ดังนั้นโปรดระวังด้วยลูกรัก..’
อ่านถึงตรงนี้ก็เหมือนหัวใจของเขาหยุดเต้น หมายความว่าเขามีความหวังเรื่องท่านแม่งั้นหรือ? แปลว่านางอาจจะได้ไปอยู่ในร่างของบางคนหรือบางสิ่ง แต่อย่างไรก็เป็นวิญญาณของท่านแม่เช่นเดิม
“นายน้อย ที่นี่แปลกๆคล้ายมีคนแวะมาอยู่ตลอด พวกเรารีบออกไปกันเถิดขอรับ อาจมีคนทำกับดัก...ขออภัยที่รบกวน” หว้าอูรีบหันหน้าหนีเมื่อเห็นว่าอ๋องน้อยของเขากำลังหลั่งน้ำตา
“ไม่เป็นไร”ได้ยินอย่างนั้นเหม่ยจินก็ยิ่งมีความหวังมากยิ่งขึ้น จะเป็นใครเสียอีกล่ะหากไม่ใช่ท่านแม่ที่มาดูแลเขาแห่งนี้… แต่เขาจะตามหาท่านแม่เช่นใดดี ท่านแม่มีเวทย์มิติ ซ้ำยังมีเวทย์น้ำที่ใช้อำพรางหน้าถ้ำ ตอนนี้วรยุทธ์ท่านแม่ถึงขั้นใดแล้วก็ไม่รู้ คิดแล้วก็ได้แต่ถอนหายใจแล้วอ่านจดหมายต่อไป
‘ดังนั้นโปรดระวังด้วยลูกรัก… ตัวแม่เองแม้อาจจะมีโอกาสได้กลับไปเกิด แต่ก็ไม่แน่เช่นกันเพราะแม่ไม่ใช่ดวงวิญญาณของโลกนี้...ขอให้อาเหม่ยจินของแม่ใช้ชีวิตให้ดี...หากมีวาสนาคงได้พบพาน’
เหม่ยจินกลั้นน้ำตาไว้เต็มที่ก่อนจะสูดหายใจลึกๆแล้วเก็บกระดาษแผ่นนั้นไว้แนบอกอย่างดี
“ไปเตรียมนอนพักกันเถิด วันพรุ่งค่อยลงเขา”คราแรกเขาก็แอบคิดว่าอาจจะเป็นท่านแม่ที่มาทำความสะอาดเรือนพัก แต่พอได้อ่านประโยคนั้น ความคาดหวังก็หายไป
แม้เขาจะไม่เข้าใจคำว่าไม่ใช่คนของโลกนี้ แต่เขาก็ตั้งใจว่าจะสืบหาตัวท่านแม่ให้พบ ไม่ว่าจะต้องเดินทางไปไกลแค่ใดก็ตาม
“เอ่อ ขอรับ”
“ท่านหว้าอู..จากนี้คงลำบากท่านแล้ว อาจจะต้องเดินทางกันอีกแสนไกล ข้าตั้งใจแล้วว่าจะตามหาท่านแม่… ท่านแม่เป็นเซียนย่อมสามารถลงมาเกิดใหม่ได้แน่นอน” เพราะในจดหมายเขียนไว้ราวๆนั้นเขาเลยทำความเข้าใจด้วยตัวเอง
“นายน้อย..” หว้าอูเสียงอ่อน ผ่านมา15ปีแล้ว นายน้อยของเขายังทำใจไม่ได้อีก
...
ซื้อนิยายคลิก!!!
นิยาย ตำนานรักดอกเหมย ภาคปลาย ท่านหมอเซียนบุตรชายท่านมาตามหาแล้วขอรับ
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ
