ตอนที่ 3 : บทที่1 เหม่ยจินตัวน้อยออกเดินทาง
“นายน้อยพักสักหน่อยเถิดขอรับ” หว้าอูผู้เคยเงียบสงบ บัดนี้กลายเป็นเหมือนท่านลุงเขยที่พร้อมจะสั่งสอนเหม่ยจินตลอดเวลา จนตัวเหม่ยจินเองได้แต่หัวเราะหึหึในลำคอ
“อีก3ชั่วยามก็เดินทางถึงแผ่นดินแคว้นจินแล้ว แถบทะเลทรายนอนไม่สบายนัก เมื่อเข้าเขตแคว้นจินแล้วค่อยพักกันดีกว่า”
“แต่เมื่อคืนนายน้อยก็นอนพักเพียงหนึ่งชั่วยาม นี่ก็ปลายยามจื่อแล้วนะขอรับ อีก1ชั่วยามก็เช้าเลยทีเดียว...นายน้อยเข้าไปพักด้านในเกวียนเทียมก่อนเถิดขอรับ”หว้าอูยังไม่ยอมแพ้ ตัวเขานั้นฝึกมาอย่างหนัก แต่กับนายน้อย...
“เช่นนั้นข้าจะเข้าไปพักสายตา แล้วจะออกมาเปลี่ยนเวรแล้วกัน” หว้าอูได้แต่ต้องตามน้ำไป ทั้งหวังเฟยเหม่ยเสี้ยว(เหมยฮวา) และท่านอ๋องต้าจินฟาง ล้วนแต่เป็นคนดื้อรั้น ไม่แปลกนักว่านิสัยดื้อรั้นของนายน้อยเหม่ยจินได้แต่ใดมา
“อีกอย่าง ท่านลุง เลิกเรียกข้าว่านายน้อยเสียที ตอนนี้ข้าเป็นหลานชายของท่านมิใช่หรือ” หลังจากเดินทางทั่วแผ่นดินใหญ่กว่าหนึ่งปี แต่ก็ตามหาข่าวเกี่ยวกับท่านแม่ไม่ได้เลย
เหม่ยจินตัดสินใจเดินทางข้ามทะเลทรายหลายหมื่นลี้เพื่อไปยังแผ่นดินเล็ก จึงต้องปลอมตัวเป็นขบวนพ่อค้าเร่ ตอนนี้เขาเดินทางมาเกือบครึ่งปีจึงเกือบถึงแคว้นจินซึ่งเป็นแคว้นที่ติดทะเลทรายของแผ่นดินเล็กเสียที
เหม่ยจินจำได้ว่าท่านแม่เคยบอกว่า จะสอนเวทย์มิติของท่านแม่ให้กับเขา แต่ตัวเขากลับไม่ได้มีเวทย์ประจำกายเป็นเวทย์มิติ
แม้จะมีถึงสามเวทย์อย่าง น้ำ ทอง สายฟ้าก็ตาม ไม่มีมนุษย์คนใดในโลกใบนี้มีสี่ธาตุมาก่อน ระดับ3ธาตุในร่างเดียวก็เทียบเท่ากับนักปราชญ์ของแคว้นได้แล้ว
พอนึกถึงตอนนั้นแล้วเขาก็อดยิ้มออกมาไม่ได้
‘ท่านแม่ สุดยอด!ขอรับ’ เขายามเมื่อเป็นเด็กน้อยอุทานอย่างประหลาดใจทุกครั้ง และครานั้นเขาเห็นท่านแม่ใช้เวทย์มิติส่งพี่สาวหนี่หลิงเข้าไปด้านใน
ยามนั้นอายุเพียงปีกว่าเท่านั้น แต่ถึงอย่างไรเขาก็ยังจดจำช่วงเวลากับท่านแม่ไว้อย่างดีทุกลมหายใจ
‘ใช่มั้ยล่ะ! เอาไว้เจ้าโตกว่านี้ แม่จะลองสอนเจ้าดูแล้วกัน!!’ เสียงหวานของท่านแม่ตอบกลับมา แต่เมื่อถึงยามต้องจากกัน...เขาจดจำวันที่ต้องจากกันไม่ได้ด้วยซ้ำ และเพราะตอนนั้นเขายังเด็กเกินไป ใบหน้าท่านแม่ในความทรงจำจึงเลือนลางเหลือเกิน
หว้าอูเหลือบมองเข้าไปด้านในเกวียนเทียมล้อลาก นายน้อยนั่งพิงคอกกั้นอยู่อย่างนั้น ดวงตาเหม่อมองออกไปในความมืดมิดไกลแสนไกล...นายน้อยของเขาคงคิดถึงท่านหญิงเหม่ยเสี้ยว(เหมยฮวา)อีกแล้วกระมัง
“นายน้อยถึงแล้วขอรับ มีโรงเตี้ยมเล็กๆอยู่นอกเมือง วันนี้เราแวะที่นี่กันก่อนแล้วกันขอรับ”
“ท่านลุงๆ ข้าคือหลานชายของท่าน ข้าว่าเราจะมีภัยก็เพราะท่านเนี่ยแหละ อ้อ ข้าลืมไปได้อย่างไรว่าท่านเป็นถึงองครักษ์ผู้ยิ่งใหญ่ของท่านลุงเขย...เอ่อท่านพะ...ช่างเถอะ ท่านอยากเรียกอะไรก็เรียกไปแล้วกัน!”
อยู่ๆเขาก็หงุดหงิดขึ้นมาเมื่อเอ่ยถึงท่านลุงเขย หรือก็คือ ฟางอ๋อง พ่อของเขาเอง
“นายน้อย...” หว้าอูได้แต่มองตามนายน้อยของเขาที่กำลังเดินขึ้นโรงเตี้ยมไป ส่วนตัวเขารีบเดินตามและไม่ลืมระแวดระวังรอบด้านอย่างดี
เพราะทั้งนายหญิงนายใหญ่จนถึงนายน้อย(เหม่ยเสี้ยว ต้าจินฟาง จนถึงเหม่ยจิน) ล้วนแต่เป็นตัวเรียกโชคร้ายทั้งสิ้น
เหม่ยจินเข้าสู่ห้วงนิทราทันที ด้วยความอ่อนล้าสะสมมาตลอดครึ่งปีที่อาศัยอยู่ในเกวียนรู้อย่างนี้เขาเลือกเดินทางทางเรือโดยสารเสียก็ดี แต่เพราะตัวเขาไม่เคยนั่งเรือเลยสักครั้งเลยเกิดกังวลใจขึ้นมาถึงเลือกนั่งเกวียนข้ามทวีปมาเช่นนี้
เช้าวันถัดมาหว้าอูเตรียมอ่างล้างหน้าและเสื้อผ้าให้แก่นายน้อยของเขาด้วยความว่องไว หมดมาดองครักษ์ผู้เก่งกาจแสนเย็นชาไปเสียสนิท
บางทีหว้าอูก็คิดว่าความสามารถในการเอาชนะใจของเขาสืบทอดกันทางสายเลือดกระมัง คราหวังเฟยก็ทีนึง ครานายน้อยก็อีกที แม่ลูกช่างเหมือนกันเสียจริง
“นายน้อยขอรับ วันนี้รับเป็น..”
“ผักผลไม้อะไรก็ได้” เสียงเกียจคร้านดังมาจากเตียง แต่เหม่ยจินก็เคลื่อนตัวจากท่าเดิมและเตรียมลุกแล้ว
“เหมือนเดิมนะขอรับ” หว้าอูเดินออกไปเรียกเสี่ยวเอ้อร์ก่อนสั่งอาหารขึ้นมาสองอย่าง ของเขาอย่างหนึ่ง ของนายน้อยอีกอย่าง
“ท่านลุง!! น้ำ...น้ำมัน...” เสียงโวยวายของนายน้อยทำให้หว้าอูพุ่งเข้าไปในห้องจนประตูห้องที่ทำจากเยื่อไม้บางๆขาดออก
“นายน้อย! เกิดอะไรขึ้นขอรับ!” เขาชักดาบออกมาจากเอวก่อนจะเอาตัวบังนายน้อยของตนเองไว้ แต่ว่า...
เงียบกริบ...
“เดี๋ยวสิท่านลุง โถ่ว น้ำในอ่างมัน กระเพื่อมแปลกๆ ข้าว่าข้าใช้เวทย์น้ำได้แล้วล่ะ” ว่าแล้วเหม่ยจินก็ลองทำอีกครั้ง หว้าอูส่งดาบกลับเข้าฝักก่อนจะเปลี่ยนท่าทีเป็นสนใจใคร่รู้จ้องมองไปยังน้ำในอ่างแทน
“ฮึบ....ฮึ่บบบ” เหม่ยจินกลั้นหายใจเต็มที่
“โถ่เว้ย!! ทำไมเวลาจะให้คนอื่นดูมันไม่ออกมาล่ะเนี่ย” เขาสะบัดมือด้วยความหงุดหงิดใจ
เคร้ง.... ซ่า....
“เอ่อ...”
“ขะ..ข้าขออภัย ท่านลุง แหะๆๆ”
หว้าอูได้แต่มองหน้านายน้อยด้วยความเอ็นดู เขาหยิบผ้าที่เตรียมให้นายน้อยเช็ดหน้าขึ้นมาเช็ดตัวจนแห้ง
ใช่แล้ว เมื่อครู่เสียงน้ำจากอ่างล้างหน้าสาดใส่หน้าเขาเต็มๆเลยล่ะ สงสัยเพราะนายน้อยจะมีพลังเวทย์มากเกินไป ทำให้ควบคุมได้ยากกว่าคนอื่น ถึงอย่างนั้นพลังปราณก็ไม่ได้ด้อยไปกว่าวัยเดียวกัน
“ข้าน้อยจะไปเตรียมน้ำให้นายน้อยอีกครั้งนะขอรับ” หว้าอูผลุบหายไปก่อนจะกลับมาอย่างรวดเร็ว
...
ซื้อนิยายคลิก!!!
นิยาย ตำนานรักดอกเหมย ภาคปลาย ท่านหมอเซียนบุตรชายท่านมาตามหาแล้วขอรับ
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ
