ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    「大天狗 の 花嫁」DAITENGU NO HANAYOME เจ้าสาวแห่งขุนเขา

    ลำดับตอนที่ #47 : การรอคอย

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 48
      4
      21 ต.ค. 61

     


    ชิโระยูกิยังคงนั่งอยู่ในห้องของตน แม้ว่าจะกลางดึกแล้วแต่ก็ยังพยายามลืมตาตื่นอยู่เช่นนั้น ร่างบางเก็บตัวเงียบอยู่แต่ในห้อง ชิโระยูกิรอคอยการมาถึงของฤดูหนาวอย่างใจจดใจจ่อ และตอนนี้ก็เป็นฤดูใบไม้ร่วงเสียแล้วคงไม่นานเกินรอ เธอมองปิ่นปักผมสีทองที่ดูสวยงามประหลาดที่ติดตัวเธอมาตลอดและกำลังคิดว่าอาจเป็นของสำคัญจึงเหน็บไว้ที่โอบิตลอดเวลา เสียงหนึ่งเรียกให้ชิโระยูกิรู้สึกตัว ดวงตาสีเงินมองไปรอบๆก่อนจะเห็นเงาที่ทอดผ่านประตูเลื่อนจากกระดาษสา เธอได้ยินเสียงคนเดินไปมาอย่างชัดเจนและที่น่าแปลกคือทำไมร่างนั้นถึงมาหยุดที่หน้าห้องของเธอ ชิโระยูกิยังคงนั่งนิ่งอยู่บนฟูกนอนเช่นนั้นและรอว่าเมื่อไหร่อีกฝ่ายจะเดินจากไปเสียที

    ชิโระยูกิหลับหรือยังจ๊ะร่างบางแกล้งล้มตัวลงนอนนิ่งอยู่สักพักหนึ่ง ก่อนยูกิอนนะตนหนึ่งจะเข้ามา ดวงตาสีเงินหลับอย่างสงบ และจำเสียงนั้นได้ทันทีว่าเป็น ยูกิอนนะที่เคยหัวเราะเยาะเธอนามว่า ยูกิโกะ เสียงเดินนั้นเข้ามาใกล้อย่างเชื่องช้า ตอนนี้เธอไม่อยากต่อล้อต่อเถียงกับอีกฝ่ายหนึ่ง ถ้าแกล้งหลับล่ะก็ยูกิโกะคงออกไปในที่สุดแน่ๆ

    ชิโระยูกิจังเสียงนั้นเรียกเธออย่างแผ่วเบา ดวงตาสีเงินค่อยๆลืมตาขึ้นเมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายไม่ยอมออกไปเสียทีหนึ่งจนน่ารำคาญ ยูกิโกะพยายามยื่นหน้าเข้ามาใกล้เธอจนอีกฝ่ายผงะไปและรีบถอยกรูด ชิโระยูกิไม่เข้าใจการกระทำของอีกฝ่ายเลยสักนิดเดียว

    จะหนีไปไหน ข้าจะสูบพลังของเจ้านิดหน่อยเอง…”ยูกิโกะแสยะยิ้มออกมา และวิ่งงเข้าหาชิโระยูกิทันที ร่างบางรีบวิ่งออกไปตามทางเดินอย่างรวดเร็ว

    เจ้าช่างน่าสงสาร ใช้พลังไม่ได้ไม่ต่างอะไรกับพวกอมนุษย์เลยนี่นาเป็นแค่ยูกิอนนะพิการเท่านั้นแหละ”อีกฝ่ายเยาะเย้ยเธอ ก่อนผู้ที่มีเรือนผมสีขาวจะถูกอีกฝ่ายคว้าไว้ ความเย็นจัดทำให้ชิโระยูกิแทบจะเคลื่อนไหวตนเองไม่ได้ ร่างนั้นสวมกอดชิโระยูกิจากด้านหลัง และเบือนหน้าของผู้มีเรือนจบสีขาวให้หันมามองหน้าอีกฝ่าย

    จับได้แล้วล่ะ งั้นข้าจะขอดูดพลังชีวิตของเจ้าก่อนให้ตายช้าๆดีไหมริมฝีปากขยับเข้ามาใกล้เหมือนจะจุมพิตเธอ ชิโระยูกิใช้หน้าผากของเธอโขกริมฝีปากอีกฝ่ายสุดแรงและสะบัดจนหลุดทั้งสองมึนงงจากแรงกระแทกชั่วครู่ก่อนจะรีบวิ่งหนีต่อในทันที ยูกิอนนะตนนั้นมีใบหน้าที่เหยเกด้วยความเจ็บปวด ร่างบางจะวิ่งออกไปด้านนอกคฤหาสน์และหายไปในพายุหิมะที่พัดถล่มอยู่ด้านนอกในที่สุดแม้ว่าพื้นที่อื่นนอกอาณาเขตนี้จะยังไม่ใช่ฤดูหนาวก็ตาม

     จะตายก็ไม่สนแล้ว ขอออกไปจากที่แห่งนี้ก็พอ ข้าต้องไปแห่งใดต่อ จะไปหาทาโร่ดีหรือว่าจะกลับไปยังภูเขาน้ำแข็งที่ข้าจากมาดีล่ะ



    หลายสัปดาห์มานี้ ไดกิที่มีงานทำนั้นต้องไปตีเหล็กให้เหล่าเทพเสียอีก เขาแกล้งรับงานมาแต่โดยดี แต่งานนี้จะเป็นงานสุดท้ายของเขาที่จะทำให้เหล่าเทพ คอยดูเถอะเวลาที่นี้เขาเกือบหายดีจนเป็นปกติแล้ว พอปีหน้ามาถึงล่ะก็เขาจะต้องเป็นอิสระจากเทพพวกนี้ให้ได้  ดาบที่กำลังจะตีนั้นเป็นดาบที่มอบให้พยัคฆ์ขาว โดยเฉพาะเบียคโกะที่ชอบลืมดาบทิ้งไว้เสมอ เมื่อเขากลายร่างเป็นเสือขาว ชายหนุ่มต้องจำใจมาตีดาบให้เสียใหม่ เพราะหากให้เทพประจำทิศตะวันตกไปขอให้เทพแห่งการตีดาบ ตีดาบให้ล่ะก็ เขาก็คงจะลืมอยู่ดีและอาจถูกลงโทษได้ สุดท้ายจึงกลายเป็นไดกิเสียแหละที่ต้องมานั่งควบคุมดูแลการาสุเทนกุให้ตีดาบในแบบที่ต้องการ เสียงเหล็กกระทบกันเป็นจังหวะ และประกายไฟที่เกิดจากการตีดาบพร้อมด้วยความร้อนระอุนั้น ที่เพิงตีดาบจึงไม่ใช่สถานที่ที่สะดวกสบายมากนัก แต่ยังดีที่บรรยากาศด้านนอกนั้นเย็นสบายด้วยฤดูใบไม้ร่วง ใบไม้สีเหลือง แสด แดง ไล่ระดับสีกันอย่างสวยงามจนละสายตาไม่ได้ ดวงตาเรียวสีดำจับจ้องไปยังใบไม้ที่ถูกพัดไปตามพื้น เขาหวนนึกถึงวันแรกที่ได้พบกับมายุเพียงชั่วครู่ก่อนจะหันกลับมาสนใจงานเบื้องหน้าของเขาต่อ

    อย่างน้อยเจ้านั่นก็เคยช่วยข้า การตีดาบครั้งนี้คงเป็นครั้งสุดท้ายที่ข้าจะรับใช้เหล่าเทพจริงๆแล้ว...แต่ก็ดีเช่นกัน ให้เจ้าพวกนั้นหายแคลงใจลงบ้าง ข้าต้องพยายามทำให้พวกนั้นเชื่อว่า ข้าจะหายดีแล้วกลับไปรับใช้เทพพวกนั้นอีกและรอให้เจ้าพวกนั้นตายใจเสียก่อน เมื่อโอกาสนั้นมาถึงเมื่อไหร่...

    ท่านไดกิขอรับ ฟืนเราใกล้จะหมดขอรับ ข้าขอไปหยิบมาเติมนะขอรับการาสุเทนกุผู้ตีดาบกล่าวขึ้น

    เจ้าไม่ต้อง!! เดี๋ยวข้าจะไปเอง เจ้าจะได้ทำงานต่อได้เลยชายหนุ่มบินออกไปยังชายป่าทางทิศเหนือ และหอบฟืนกลับมาจำนวนหนึ่งในทันที

    แค่นี้คงจะพอได้อีกสักพักนะ ข้าจะไปตัดฟืนเพิ่มไดกิกล่าว เขาต้องออกไปตัดฟืนเช่นนี้มาหลายวันแล้ว รวมถึงการหล่อน้ำที่ต้องใช้น้ำในบึงทางด้านเหนืออีก เขาจึงต้องอาสาทำเพราะจะได้ควบคุมคุณภาพและวัตถุดิบแล้วด้วย ดวงตาสีดำขลับมองใบดาบที่เริ่มเป็นรูปเป็นร่างก็ยิ้มกริ่มออกมาด้วยความภูมิใจ ก่อนจะรีบไปตัดฟืนและเตรียมน้ำมาหล่อ ชายหนุ่มเดินลึกเข้าไปในป่าที่ใบไม้เปลี่ยนสี จนไปถึงกระท่อมขนาดเล็กที่เอาไว้เก็บฟืนและอุปกรณ์ต่างๆ แต่เขากลับรู้สึกถึงพลังที่อ่อนแรงแต่ก็มีอยู่มากนักอยู่ไกลๆ เขารู้สึกประหลาดที่ไม่เคยรับรู้ถึงพลังเช่นนี้มาก่อน และเหมือนเจ้าของพลังจะเดินมาทางอาณาเขตของเขาไดกิจึงรีบบินออกไปดักอีกฝ่ายหนึ่งไม่ให้เข้ามา

    เบื้องหน้าของเขาคือร่างบาง ของยูกิอนนะที่ใกล้หมดแรงเพราะอากาศร้อนอย่างเต็มทน ชิโระยูกิมีท่าทางกลัวไดกิอย่างชัดเจนเพราะพลังของเขาและสิ่งต่างๆที่เธอเจอมาทำให้ไม่อาจเชื่อใจใครได้แล้ว ชิโระยูกิเดินไปหลบหลังต้นไม้โดยที่ไม่รู้ว่าไดกิเห็นเธอแล้ว

    เจ้าเป็นใคร?”ไดกิตะโกนถามเพราะไม่อยากจะให้อีกฝ่ายเข้ามาใกล้อาณาเขตของเขาไปมากกว่านี้

    ชิโระยูกิเจ้าค่ะร่างบางตอบกลับมา เขาถอนหายใจเมื่อได้ยินเช่นนั้น เพราะไม่คิดว่าอีกฝ่ายจะมาที่นี่อีกและรีบมาที่นี่ก่อนถึงฤดูหนาวเสียอีก

    ออกมาซะ!! และเจ้าห้ามเข้าไปในนี้เป็นอันขาด ที่นี่เป็นดินแดนของไดเทนกุเขาดุอีกฝ่าย ชิโระยูกิรีบออกมาจากหลังต้นไม้ ไดกิเห็นหน้าอีกฝ่ายแล้วก็เข้าใจว่าสิ่งที่ทุกคนกล่าวมันไม่เกินความจริงเลยแม้แต่นิดเดียว ใบหน้าที่งดงามของอีกฝ่ายชวนให้เขานึกถึงเทพีแห่งความงามในทันที คงเป็นฝีมือของนางอย่างแน่นอน

    ข้าไม่มีที่ไปแล้วเจ้าค่ะ อย่างน้อยให้ข้าพบทาโร่ได้ไหมเจ้าคะ?”เธออ้อนวอนเขา

    ไม่ได้!! ไปจากที่นี่เสียเถิด…”เขาตะโกนออกมาเสียงดังประดุจกัมปนาท จนเธอวิ่งไปหลบหลังต้นไม้อีกคราด้วยความตกใจ

    ...แต่ว่า ขอร้องล่ะเจ้าค่ะ ข้ามีแค่ปิ่นปักผม นี้เท่านั้น ถ้าท่านอยากได้ ข้าก็ยกให้ท่านได้ แต่ข้าขอพบทาโร่เท่านั้นเจ้าค่ะเธอส่งปิ่นปักผมให้เขา ไดกิตกตะลึงกับปิ่นปักผมที่สวยงามสีทองอร่าม เขาจำปิ่นปักผมชิ้นนี้ได้ทันที หัวใจของเขาเต้นไม่เป็นจังหวะ

    เจ้าได้มาจากไหน?”เขาถามขึ้น

    ข้าจำไม่ได้เจ้าค่ะ มันอยู่ที่ข้าตั้งแต่ข้ารู้ตัวมันก็อยู่ที่ข้าแล้ว”ชิโระยูกิกล่าวออกมาตามความเป็นจริง ไดกิมีสีหน้าที่ตกใจอย่างเห็นได้ชัดเมื่อได้ฟัง ปิ่นปักผมสีทองอันนั้น ไม่ผิดแน่ เขายังคงจำได้ดีว่ายามปิ่นปักผมอันนั้นประดับอยู่บนมวยผมของมายุ มันช่างงดงามเพียงใด

    โกหก!!! เจ้าขโมยมาใช่หรือไม่!!!”ไดกิตะคอกกลับ ทั้งตกใจ ประหลาดใจ โมโห ไปพร้อมๆกันจนทำตัวไม่ถูก

    ไม่ใช่นะเจ้าคะชิโระยูกิแอบอยู่หลังต้นไม้เช่นเดิม ส่วนไดกิเองก็นิ่งงัน เขาไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้นเสียเลย ตอนนี้เขาก็ไม่อาจมีสมาธิมากพอจะประติดประต่อเรื่องราว ก่อนจะกล่าวออกมา

    ถ้าเช่นนั้น ข้าขอปิ่นปักผมของเจ้าได้ไหม? แต่ข้ายังตัดสินใจให้เจ้าเข้ามายังไม่ได้ ฉะนั้นแลกกับพลังของข้าแทนได้ไหม?”ไดกิที่ดูใจเย็นลงถามขึ้น เขาต้องการปิ่นปักผมนั้นจริงๆ ร่างบางลังเลสักพักแต่ก็ยอมเดินออกมามอบให้เขาอย่างง่ายดาย เธอมองหน้าอีกฝ่าย และรู้สึกคุ้นอย่างบอกไม่ถูก ชายหนุ่มรับปิ่นปักผมมาเก็บไว้ และยื่นมือให้เธอ

    ดูดพลังข้าสิ ให้เจ้าพอมีชีวิตอยู่ต่อไปได้

    ...ข้าทำไม่เป็นเจ้าค่ะชิโระยูกิกล่าวขึ้น ด้วยความกังวลและกลัวอีกฝ่ายสุดขีด

    นั่นไม่ใช่สิ่งที่ยูกิอนนะทำมาตลอดรึ? แล้วเจ้าดูดซับพลังชีวิตไม่เป็นได้อย่างไร และทำไมเจ้าถึงมีพลังมากมายขนาดนั้น?”

    ข้าไม่ทราบเจ้าค่ะ ข้ารู้ตัวก็มีพลังมากมายขนาดนี้แล้ว เลยไม่เคยค่ะชิโระยูกิหน้าแดงด้วยความอายเมื่อนึกถึงวิธีสูบพลังชีวิตที่เคยได้ยินมา ชายหนุ่มเพียงพยักหน้ารับ

    ถ้าเช่นนั้น….ยังไงเจ้าก็ต้องลองดู ข้าต้องการปิ่นปักผมนี้มาก คงจะยกคืนให้เจ้าไม่ได้หรอกไดกิไม่หันหลังกลับเด็ดขาดหากไม่ได้ปิ่นปักผมนั้นคืน

    แล้วท่านชื่ออะไรหรือเจ้าคะ?”ร่างบางถาม

    เจ้าต้องรู้ก่อนที่จะสูบพลังของข้าด้วยรึ?”เขาถามด้วยความสงสัย ส่วนชิโระยูกิพยายามถ่วงเวลาอีกฝ่ายไว้เพราะเธอไม่กล้าดูดพลังอย่างที่ยูกิอนนะพยายามจะทำกับเธอหรอก

    ก็ไม่ทราบสิเจ้าคะ…”ทั้งสองมองหน้ากันเจ้าของดวงตาสีเงินหน้าแดงด้วยความอาย แต่สุดท้ายเธอก็ลองแค่จับมืออีกฝ่ายเท่านั้น ชิโระยูกิรู้สึกถึงพลังที่ถ่ายทอดมาหาเธอช้าๆ ร่างบางขยับเข้าหาไดกิและกอดอีกฝ่ายไว้ทุกครั้งที่สัมผัสกันมากขึ้นพลังที่ไหลเข้ามาในร่างเธอก็มากขึ้นตามไปด้วย

    พลังแบบนี้น่ะหรืออยากได้อีกแบบนี้หรอเรียกว่าอบอุ่น คิดถึงความรู้สึกแบบนี้จัง แบบนี้หรอคือการสูบพลัง ไม่ได้สิ...เราสูบพลังมากเกินไปแล้วนี่นา

    พอแล้วล่ะเจ้าค่ะ…”หญิงสาวรีบผละออก เมื่อเธอคิดเช่นนั้น นี่เธอกำลังกอดใครก็ไม่รู้ ที่เขาไม่ยอมบอกชื่อของเธอด้วยซ้ำ แต่ทำไมหัวใจถึงเต้นแรงขนาดนี้กันนะเมื่อยิ่งได้รับรู้ถึงพลังของอีกฝ่ายที่เข้ามาอยู่ในตัวของเธอด้วยแล้ว ร่างของไดกิพิงกับผนังบ้านไม้อย่างอ่อนแรง ไม่น่าเชื่อว่าเธอจะดูพลังของเขามากมายเพียงนี้ได้ เขาคงประมาทเธอมากเกินไป

    ขอโทษเจ้าค่ะ!!เธอคำนับในทันที แต่ก็รู้สึกดีขึ้นมากแล้ว ไดกิค่อยลุกขึ้นยืนเขาคงแบกของพวกนี้ไม่ไหวเสียแล้ว จึงทิ้งไว้เสียตรงนี้ และหันหลังเดินกลับไปเงียบๆ ทีนี้ชิโระยูกิคงจะต้องอยู่แถวนี้ไปก่อนสินะจนกว่าเขาจะมา บอกเธออีกทีว่าพบทาโร่

    "ไว้วันหลังข้าจะมาบอกเจ้าว่าจะเข้าไปได้หรือไม่ ข้าขอเวลาคิดแต่จะให้คำตอบเจ้าภายในสามสี่วัน"เขากล่าวออกมาและหันหลังเดินกลับ ชายหนุ่มที่ร่างกายยังไม่แข็งแรงดีนักเดินไปตามทางด้วยความเหนื่อยอ่อน เขาจึงต้องสั่งให้คนอื่นไปทำงานแทนเขา ก่อนไดกิจะกลับไปที่คฤหาสน์ในทันที ทันใด ร่างกำยำนั้นล้มฟุบลงบนเตียงอย่างหมดแรง และวางปิ่นปักผมไว้ที่ข้างๆเขาบนผ้าพันคอที่พับไว้อย่างดี

    ท่านไดกิ เป็นอะไรเจ้าคะ!! ข้าจะเตรียมยาให้นะเจ้าคะ!!”อากาเนะกล่าวขึ้น และรีบออกไป ส่วนไดกิได้แต่เพียงนอนมองเพดานเท่านั้น เขานึกถึงมายุเสียเหลือเกิน และวันนี้เขายังปล่อยให้ยูกิอนนะมากอดรั้งเค้าไว้อีก เขานึกถึงยามที่เขากอดมายุมันช่างอบอุ่น แต่ยูกิอนนะตนนั้นแล้วเขากลับได้รับแต่เพียงความเย็นยะเยือกเท่านั้น ไดกิที่นอนคิดอยู่เช่นนั้นก็หลับไปในที่สุดด้วยความเหนื่อยล้า

     

    ในวันรุ่งขึ้นที่มาถึงชิโระยูกิยังรอคอยคำตอบอยู่ ตรงนั้นและแน่นอนว่าชายหนุ่มก็ยังคงปรากฏตัวขึ้นที่เดิมเวลาเดิม เมื่อวานเขาทำงานได้ไม่เต็มที่ฉะนั้นวันนี้เขาจึงต้องมาตักน้ำและผ่าฟืน ร่างบางหัวใจเต้นโครมครามเมื่อพบเจอเขาอย่างไม่ทราบสาเหตุ เธอไม่เข้าใจความรู้สึกเช่นนี้เลยว่ามันเรียกว่าอะไรทำไมมันถึงช่างอบอุ่นนักและความอบอุ่นเช่นนี้เธอก็ชอบเสียด้วยแม้ว่ามันจะไม่เหมาะกับเธอก็ตาม

    เมื่อวานต้องขอโทษด้วยเจ้าค่ะเธอคำนับอีกฝ่าย ก่อนจะยืนอยู่ห่างๆเช่นเดิม

    ไม่เป็นไรเขาตัดจบบทสนทนาเท่านี้ เมื่อไดกิตักน้ำเสร็จก็กำลังเดินจากไป ชิโระยูกิมองเขาอย่างครุ่นคิด และเดินมานั่งลงที่ข้างกระท่อมไม้ ร่างบางถอนหายใจออกมา แต่ร่างกำยำกลับหยุดกึก ไดกิกลับมาที่นี่อีกครั้งหนึ่ง ชิโระยูกิที่เห็นเขาก็ลุกขึ้นยืนในทันที ทำไมกันนะ กับชายหนุ่มที่อยู่เบื้องหน้าเธอถึงทำตัวไม่ถูกขนาดนี้

    เจ้าจะนั่งอยู่เช่นนี้ตั้งแต่เมื่อวานไม่เบื่อรึ?”เขาถามขึ้น

    ไม่เจ้าค่ะ ทุกวันข้าเห็นอะไรที่น่าแปลกตาไปเสียหมด ดูมีสีสันมากกว่าหิมะ มีสัตว์มากมาย ที่ที่ข้าจากมามันไม่มีอะไรแบบนี้เจ้าค่ะเธอกล่าวต่อ สีหน้าของยูกิอนนะนั้นเต็มไปด้วยความตื่นเต้นและยิ้มแย้มออกมาอย่างมีความสุขโดยที่เจ้าตัวไม่รู้ตัวเลยก็ตามที ก่อนมือเรียวจะจับใบหน้าของตนอย่างประหลาดใจ

    "ข้ายิ้มสินะเจ้าคะ?"ไดกิเพียงพยักหน้าตอบรับเท่านั้น

    "แบบนี้ข้ากำลังมีความสุขสินะเจ้าคะ รู้สึกดีจังเลยนะ ความสุขเนี่ย ข้าอยากมีความสุขเยอะๆจัง"ชิโระยูกิยิ้มแฉ่งออกมาเหมือนเด็กๆ

    "เจ้าไม่รู้จักความสุขมาก่อนเลยรึ?"ไดกิถามขึ้น

    "ไม่เคยเลยเจ้าค่ะ ทุกคนเกลียดข้า ข้าก็เลยไม่มีความสุข ข้าคงไปทำอะไรให้เขาไม่ชอบใจแน่ๆเลยเจ้าค่ะ...ถ้าเป็นแบบนี้...ท่านไดกิจะเกลียดดิฉันไหมเจ้าคะ"ชิโระยูกิถามออกมาโดยที่ไม่รู้ว่า อีกฝ่ายก็คือคนที่เธอตามหาอยู่ สีหน้าของเธอสลดลงอย่างเห็นได้ชัดเมื่อคิดเช่นนั้น ก่อนจะถามอีกฝ่าย

    แล้วท่านไดกิ เขาอยู่ที่นี่ไหมเจ้าคะเธอถามขึ้น ไดกิกอดอกและเลี่ยงตอบอีกฝ่าย

    เขาไม่ค่อยสบายตั้งแต่เสียภริยาของเขาไป ทำไมรึ?”

    ข้าแค่สงสัยเท่านั้นเจ้าค่ะ มีแต่คนบอกให้ข้ามาที่นี่ แต่ข้าเองก็ไม่รู้เหตุผลจริงๆที่มาที่นี่ ข้าน่ะไม่ค่อยรู้เรื่องอะไร พลังที่มีก็ใช้ไม่ได้ดีข้าไม่รู้ว่าตัวข้ามาทำอะไรที่นี่ และข้ากำลังคิดว่าท่านไดกิคงไม่อยากพบข้าที่เป็นเช่นนี้แน่เลยเจ้าค่ะ ท่านยูกิกับทาโร่เคยเขียนจดหมายไปหาแต่ท่านไดกิก็ปฏิเสธมาตลอด ทำไมถึงต้องเป็นข้าที่ถูกส่งมา ข้าผิดอะไร ข้ามันแย่มากขนาดนั้นเลยรึเจ้าคะ เขาไม่แม้แต่จะให้ข้าเข้าไปหรือออกมาพบ หากท่านไดกิจะปฏิเสธ ข้าก็แค่จากไปเท่านั้นชิโระยูกิกล่าวขึ้น

    “ถ้าเขาไม่ออกมาและไม่ให้เจ้าเข้าไป เช่นนั้นเจ้าก็ไปเถิด…”เขากล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงที่เรียบเฉย

    ไม่เจ้าค่ะ ข้าขอรอจนกว่าจะฟังเหตุผลของท่านไดกิ  ข้าอยากรู้ว่าข้ามีข้อเสียอะไรบ้าง ทำไมทุกคนถึงไม่ชอบข้าชายหนุ่มถอนหายใจออกมา ชิโระยูกินั้นคงเด็กเกินกว่าจะเข้าใจได้ และหากนางใช้พลังได้เสียหน่อยก็คงรู้ว่าเขาเป็นใครแล้ว

    ชิโระยูกิ ตามความคิดข้า เจ้าไม่ได้ผิดอะไรหรือแย่เสียตรงไหน แต่ว่าเขาไม่มีวันสนใจเจ้าเพราะเขามีคนอื่นแล้ว เจ้าจะฝืนอยู่ไปทำไม ความรักต่อให้เจอคนดีกว่า ไดกิก็ยังรักมายุเท่านั้นร่างบางชะงักไปเมื่อได้ฟัง

    มายุ….ท่านไดกิยังรักนางหรือเจ้าคะ”เธอพึมพำกับตนเอง ความเจ็บปวดเริ่มแล่นเข้ามาที่กลางอกอย่างเชื่องช้า เจ้าของดวงตาสีเงินยกมือขึ้นมาปิดหน้าตนเอง  ก่อนผลึกน้ำแข็งใสๆจะร่วงหล่นลงมาบนพื้นจากตาทั้งสองข้าง ชายหนุ่มทำตัวไม่ถูก ไม่เข้าใจว่าอีกฝ่ายจะเศร้าใจไปทำไม เพราะเธอยังไม่เคยเจอไดกิจริงๆเลยสักครั้ง

    ข้าโศกเศร้าแทนนาง หากข้าต้องมาเป็นของกำนัลให้ท่านไดกิ ข้ารู้สึกเจ็บปวดแทนนางที่ท่านไดกิต้องแต่งงานกับคนอื่นชิโระยูกิกล่าวออกมา

    “…”ไดกิเงียบลง

    "ข้ารู้สึกผิด ข้าไม่อยากมาแทนนางเลยแม้แต่น้อย ท่านไดกิคงไม่รักข้าแน่ๆ"เธอพึมพำออกมา และยังไม่รู้ว่าควรไปที่ไหนต่อ จึงค่อยๆปาดน้ำตา

    ข้าชอบท่านนะเจ้าคะ แม้ว่าข้าจะไม่รู้ว่าท่านชื่ออะไร แต่ท่านเป็นคนใจดี ข้าคิดว่าถ้ายูกิอนนะคนอื่นๆเป็นเช่นท่านก็คงจะดีชิโระยูกิกล่าวออกมาด้วยความรู้สึกจากใจจริง แต่ไดกิไม่ได้ฟังแต่อย่างใด

    เจ้าน่ะ สงสารมายุด้วยรึ? นั่นมันเป็นความผิดของไดกิคนเดียวทำให้นางตาย คนที่สมควรตายคือไดกิไม่ใช่นาง…”ปิศาจเทนกุมองดูตะวันที่ลอยอยู่กลางท้องนภา และโทษตัวเอง ชิโระยูกิดึงแขนเสื้ออีกฝ่ายเบาๆให้เขาได้สติ

    อย่าโทษว่ามันเป็นความผิดใครเลยเจ้าค่ะเขามีสีหน้าประหลาดใจเพียงชั่วครู่เท่านั้นกับคำพูดดังกล่าว และกล่าวต่อ

    ไดกิเป็นผู้นำต้องดูแลคนมากมาย แต่รักษาคนรักที่มีเพียงคนเดียวไม่ได้ชิโระยูกินิ่งฟัง และมองอีกฝ่ายเดินจากไปแต่โดยดี และในวันนี้เธอก็ยังไม่ได้รับคำตอบจากอีกฝ่ายหนึ่งเสียที ชิโระยูกิเองก็ไม่รู้จะทำเช่นไรดีเธอคงได้แต่รออยู่ที่แห่งนี้ไปเรื่อยๆ

     

    ชิโระยูกิยังคงรอคอยคำตอบอยู่อย่างนั้น ยังดีที่ว่าฤดูใบไม้ร่วงนั้นยังพอทำให้เธอทนสภาพอากาศนอกทุ่งหิมะได้บ้าง ร่างบางมองเห็นใบแป๊ะก๋วยสีเหลืองสวยงามนัก รูปร่างใบไม้นั้นมีรูปร่างแปลกประหลาด น่าชมเป็นอย่างมาก ดวงตาสีเงินมองกระต่ายป่าวิ่งไปตามทางเล็กๆที่ทอดยาว ร่างบางได้เพียงแต่รอชายหนุ่มออกมาพบเจอเธอบริเวณนี้เท่านั้นเพราะต้องการคำตอบอย่างใจจดใจจ่อ หากจำไม่ผิดเขาคงต้องให้คำตอบเธอภายในวันนี้ แต่ทว่าทันใดนั้นชิโระยูกิกลับรู้สึกถึงพลังที่น่าหวาดกลัวของเปลวเพลิงยิ่งนักจนต้องวิ่งไปซ่อนตัวในกระท่อมแต่มีหรือที่อีกฝ่ายจะไม่รู้ว่าเธออยู่ที่แห่งนี้ วิหกเพลิงก้าวลงมาเดินทางและหันไปมองทั่วๆที่นี่สงบและร่มรื่นย์ดี เว้นเสียแต่มีปิศาจบางตนทำให้เธออารมณ์ไม่ดีเท่าใดนัก ดวงตาสีแดงจับจ้องไปยังกระท่อมและรีบเปิดประตูไม้เข้าไปในทันทีและเผชิญหน้ากับชิโระยูกิที่ยืนตัวสั่นอยู่ด้านในกระท่อม โดยเฉพาะอีกฝ่ายมีพลังเปลวเพลิงสามารถแผดเผาร่างบางได้แล้ว เธอจึงรู้สึกหวาดกลัวเป็นอย่างมาก

    เจ้าอยู่นี่นี่เอง ข้าไปหาเจ้าที่คฤหาสน์ของยูกิอนนะแต่เจ้าไม่อยู่ ไม่ยักรู้ว่าหนีออกมาที่นี่ตั้งแต่ฤดูหนาวยังมาไม่ถึงวิหกเพลิงกล่าวก่อนจะกล่าวต่อ

    แล้วเจ้าเองทำไม่ไปหาท่านไดกิสักทีล่ะซุซาคุตำหนิเธอ

    ข้าขอโทษเจ้าค่ะ ข้าไม่สามารถเข้าไปใกล้กว่านี้ได้ เพราะว่ามีคนบอกว่าท่านไดกิไม่ให้ข้าเข้าไปเจ้าค่ะ

    เจ้าจะไปฟังทำไมล่ะ เข้าไปเสียสิ เจ้าถือว่ามากับข้านะ!!”ซุซาคุคะยั้นคะยอ

    ไม่เจ้าค่ะ ข้าไม่อยากเข้าไปตอนที่ท่านไดกิยังไม่อนุญาตเจ้าค่ะ ท่านไดกิไม่ชอบข้าอยู่แล้วเจ้าค่ะ หากข้าเข้าไปตอนนี้ท่านไดกิอาจจะยิ่งเกลียดข้าก็ได้เจ้าค่ะ”ชิโระยูกิตัวสั่นเทาด้วยความกลัวอีกฝ่าย

    เจ้านี่นะ!!! ข้าเป็นเทพนะ มีสิทธิสั่งเจ้าได้ทุกอย่าง!!! เจ้าบังอาจปฏิเสธคำสั่งข้า ข้าไม่ยอมเด็ดขาด!! ”ซุซาคุหมดความอดทน มือเรียวดึงร่างบางให้เดินตามเธอ ชิโระยูกิร้องออกมาด้วยความเจ็บปวดเพราะพลังแห่งวิหกเพลิงกำลังลวกผิวขาวนวลของเธอให้เป็นรอยแดง

    ท่านซุซาคุพอเถอะค่ะ ข้าเจ็บนะเจ้าคะเธอร้องและพยายามแกะมืออีกฝ่ายแต่เพียงสัมผัสก็เกิดรอยแดงขึ้นที่ผิวอันขาวผ่องของเธอ ก่อนซุซาคุจะลากไปตามทางอย่างไม่ใยดีจนร่างบางหกล้มจนเนื้อตัวเปรอะเปื้อน เมื่อรู้ตัวอีกทีวิหกเพลิงก็เผชิญหน้ากับชายหนุ่มที่มักจะออกมาในช่วงเวลานี้พอดิบพอดี เขาได้ยินเสียงร้องด้วยความเจ็บปวดอย่างมากจึงเดินออกมาดู

    ท่านทำอะไรน่ะ ท่านซุซาคุ!!!”ไดกิถามเมื่อเห็นเธอกำลังยื้อยุดอยู่กับชิโระยูกิ

    เจ้ามาได้พอดีเลยสินะไดกิ ข้าจะถามเจ้าเสียหน่อยว่าจะรับนางเข้าไปในคฤหาสน์ได้หรือไม่ ไม่งั้นข้าจะเผานางให้เป็นจุณ ข้อหาชอบเถียงข้าและขัดคำสั่งเหล่าเทพ!!!”มือเรียวลูบไปที่แผ่นหลังของชิโระยูกิ ร่างบางสะดุ้งเฮือกและกรีดร้องออกมา

    พอเถอะเจ้าค่ะ ท่านซุซาคุข้ายอมแล้วเจ้าค่ะ ข้าจะไม่ดื้อกับท่านอีกชิโระยูกิกรีดร้องออกมาและเริ่มร้องไห้ออกมาด้วยความเจ็บปวด

    พอเถอะขอรับ นางยังเด็กอยู่นะขอรับไดกิกล่าวขึ้น  ก่อนชิโระยูกิก็ถูกผลักใส่คนตรงหน้าจนนางล้มลงไปกองกับพื้น ชิโระยูกิมีแต่รอยแดงไปทั่วตัว สีหน้ามีแต่ความเจ็บปวด

    “ข้าจะทำเพียงเท่านี้ก็ได้ ชิโระยูกิเจ้าถูกโชคชะตากำหนดมาแล้ว ข้าเป็นเทพข้ารู้ดีว่าเจ้าต้องแต่งงานกับไดกิ เจ้าเปลี่ยนแปลงไม่ได้แม้เจ้าไม่อยากจะเป็นเจ้าสาวของเขาก็ตามที!!!”

    “แล้วท่านจะทำร้ายนางทำไมกัน นางแค่มีเหตุผลของนาง และหากท่านคิดว่าข้าจะนางจะเข้าไปในอาณาเขตของไดเทนกุเพราะความสงสารของข้า ท่านคิดผิดแล้วล่ะ”ซุซาคุหันหลังกลับ ก่อนจะทะยานและบินลับหายไปในทันที ไดกิสงสัยเสียจริงว่าทำไมของกำนัลที่ว่าจึงส่งให้เขาในสภาพนี้ และคิดว่าทุกคนพยายามบังคับให้เขารับนางจนมากเกินไป เหมือนกับทำเพื่อความสบายใจของตนเอง มากกว่าความสมัครใจของเขา และของนางเอง

    เจ้าน่าจะไปจากที่นี่เสียไดกิกล่าว เขาไม่แม้แต่จะแตะต้องหรือดูอาการอีกฝ่ายแต่อย่างใด

    แต่ว่าท่านไดกิ ไม่รับข้าไว้ข้าจะมีชีวิตต่อไปเพื่ออะไรกัน ถ้าข้าถูกกำหนดมาแล้วว่าให้มาเป็นเจ้าสาวของท่านไดกิ แต่จนวันนี้เขาคงจะเกลียดข้า ข้าจึงยังไม่เคยพบเขาสักครั้งเลยชิโระยูกิกล่าวออกมาอย่างแผ่วเบา

    เจ้ายังเยาว์นัก หนทางในชีวิตมีอีกมากมายเจ้าควรเลือกเองเขายื่นมือมาให้ร่างบางอีกครั้งหนึ่ง

    ถือว่านี่เป็นคำไถ่โทษจากข้าไดกิกล่าวออกมา มือบางค่อยๆกุมมือของไดกิช้าๆ เพื่อรักษาบาดแผล

    อบอุ่นจัง ข้าอยากอยู่กับชายผู้นี้เขาใจดีกับข้ามากๆ นอกจากท่านยูกิกับทาโร่แล้ว ก็มีแค่เขานี่แหละ ข้า...อยากอยู่กับเขา ข้ากลัวเหลือเกินทำไมทุกคนถึงทำร้ายข้าเช่นนี้

    ร่างบางตัวสั่นเทาและร้องไห้ออกมาอีกรอบหนึ่งด้วยความหมดหวัง ไดกิชะงักไปเขามักจะทำตัวไม่ถูกเมื่อมีคนมาร้องไห้ต่อหน้าเขา เขาจะปลอบอีกฝ่ายยังไงดี ถ้าเป็นมายุเขาจะปลอบนางเช่นไรที่ทำให้เธอหยุดร้องไห้ได้ ก่อนแขนกำยำจะกอดปลอบอีกฝ่ายหนึ่งเอาไว้อย่างแผ่วเบา

    "ถ้าเศร้าใจก็ร้องไห้ออกมาจนหมด ที่นี่มีแต่ข้าเท่านั้นอยากจะบ่นหรือโวยวายสิ่งใดก็กล่าวออกมา ข้าจะรับฟังเอง"ชิโระยูกิตะลึงงันไปชั่วครู่ ก่อนจะกอดเขาเอาไว้แน่น และเริ่มกล่าวสิ่งที่อัดอั้นใจออกมา

    "ข้ามันแย่ ข้ามันไม่ดี ทุกคนเกลียดข้า ยูกิอนนะคนอื่นๆก็เกลียดข้า ท่านไดกิก็เกลียดข้า ข้าจะมีชีวิตไปทำไมกัน ไม่มีใครรักข้าเลย ท่านยูกิเองก็ตายไปแล้ว ข้าก็ยังไม่ได้พบกับทาโร่อีก ข้าทรมาณเหลือเกิน ข้าทำอะไรผิดหรือทำไมทุกคนถึงทำกับข้าเช่นนี้ ข้าจะเปลี่ยนแปลงตัวเองได้หรือไม่ ข้ามันมีข้อเสียที่ตรงไหนหรือเจ้าคะ..."ชิโระยูกิฟุบหน้าลงที่อกอีกฝ่ายและร้องไห้ออกมา เธอกล่าวทุกสิ่งทุกอย่างออกมาจนหมด มือกำยำค่อยๆปาดน้ำตาของเธอออก ช้าๆ แผ่วเบาคิดดูแล้วอีกฝ่ายช่างน่าสงสารเหลือทน แต่เขามีคนรักอยู่แล้ว...แต่พออยู่ใกล้ๆอีกฝ่ายเขากลับรู้สึกคุ้นเคยอย่างบอกไม่ถูก

    ขอบคุณเจ้าค่ะเธอคอยๆปล่อยมือจากเขา เมื่ออารมณ์ดีขึ้นแล้ว นี่เป็นครั้งแรกที่เธอร้องไห้ จึงยังจัดการอารมณ์ของตนได้ไม่ดีเท่าใดนัก

    ท่านใจดีจังเลยเจ้าค่ะ…”ไดกิหรี่ตาลงเมื่อได้ฟังเช่นนั้น เขานึกถึงมายุขึ้นมาเสียดื้อๆ นางชอบบอกว่าเขาใจดี

    ข้าไม่ได้ใจดีแต่อย่างใดเขาตอบออกมาเช่นเดิมเหมือนที่ เคยตอบมายุเมื่อนานมาแล้วเช่นกัน ร่างบางค่อยลุกขึ้นช้าๆ ตอนนี้แผลของเธอดูดีขึ้นแล้ว

    ท่านยูกิเคยบอกว่าข้าควรจะมีชื่ออื่นที่ไม่ใช่ชื่อของยูกิอนนะ แต่ข้าไม่รู้ว่าข้าควรจะมีชื่ออย่างไรดี ท่านช่วยตั้งให้ข้าแทนได้ไหม?”จู่ๆเธอก็วิ่งมาถามเขา

    ชื่อของเจ้า เจ้าควรจะคิดออกมาเอง ข้าไม่ควรไปตั้งชื่อให้เจ้าหรอกชิโระยูกิมีสีหน้าสลดลงเมื่อได้ฟัง

    เจ้าค่ะแต่ชิโระนึกยังไงก็นึกไม่ออก ไดกิเองที่ครุ่นคิดอยู่สักพักเขามองร่างบางที่ไร้ทางสู้เบื้องหน้า ตั้งแต่หัวจรดเท้า จนอีกฝ่ายสงสัยขึ้นมา

    อะไรรึเจ้าคะ?”

    ตัวเจ้าน่ะเลอะโคลนไปเสียหมด ลงไปอาบน้ำในบึงเสียสิหญิงสาวพยักหน้า และเห็นเป็นเช่นนั้น เธอเดินลงไปที่ริมบึง และหันมาดูเขาซึ่งไดกิเองก็ยืนกอดอกอยู่อย่างนั้นไม่ขยับไปไหนเหมือนเขากำลังครุ่นคิดอะไรอยู่

    ...ท่านไดกิจะลงมาแช่น้ำด้วยกันไหมเจ้าคะ?”ชิโระยูกิถามออกมาด้วยความไร้เดียงสา ส่วนอีกฝ่ายมีสีหน้าประหลาดใจอย่างเห็นได้ชัด ก่อนจะหรี่ตาและพึมพำออกมา

    “ถ้าเป็นมายุคงจะไม่ยอมทำเช่นนี้เด็ดขาด…. ข้ามันแค่คิดไปเองเท่านั้นไดกิเพียงถอนหายใจ

    เจ้าจะอาบน้ำเสียก็ได้  แต่ข้าจะกลับแล้วไดกิเดินจากไปในที่สุด ชิโระยูกิเองมองอีกฝ่ายเดินจากไปอย่างงุนงง และกำลังคิดว่าเธอทำอะไรผิดไปหรือเปล่า ชิโระยูกิไม่เห็นจะเข้าใจสักอย่างเดียว ร่างบางถอดเสื้อผ้าออกปรากฏให้เห็นรอยแผลเป็นกลางอก  และนี่ก็เป็นบาดแผลที่เธอได้รับมาตั้งแต่ก่อนจะจำความได้แล้ว ร่างบาง ค่อยนั่งลงแช่น้ำและครุ่นคิดเรื่องราวต่างๆ

     

    ไดกิรีบนำท่อนซุงและน้ำกลับมาที่เพิงตีเหล็ก และคุมงานต่อในทันทีเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นทั้งสิ้น เขามองใบดาบสีเงินที่ตีขึ้นจนเสร็จสิ้น สีเงินเงางามมีลายที่คมดาบอย่างมีเอกลักษณ์ เขายิ้มกริ่มออกมาอย่างถูกใจ และหวังว่าเบียคโกะจะไม่ทำดาบเล่มนี้หายในเร็วๆนี้ ไดกิครุ่นคิดถึงมายุอีกแล้วสิ แม้ความเจ็บปวดจะจางหายไปบ้างในช่วงหลายสิบปี แต่ว่าเมื่อครู่นี้เขากลับนึกถึงเธอขึ้นมาจับใจ ภาพของชิโระยูกิมักจะซ้อนทับภาพของมายุ เขาจำนางได้ดีแน่นอนและรู้มาตั้งนานแล้วว่าทั้งสองเหมือนกันจนน่าตกใจมีเพียงใบหน้าของเธอเท่านั้นที่ไม่เหมือนมายุเลย ก่อนจะกลับมาใส่ใจในงานเบื้องหน้าของตนอยู่อย่างนั้น และคุมงานอยู่เช่นนั้นจนกระทั่งตกเย็น

    พวกเจ้าไปพักเสียเถอะ ตัวด้ามดาบค่อยมาทำต่อพรุ่งนี้ก็ได้ไดกิสั่ง เมื่อเห็นว่าเวลาได้ดำเนินมาสักพักแล้ว ก่อนร่างนั้นจะเดินออกมาและพบกับยามะคาวะที่ยืนรอเขาอยู่เบื้องหน้า

    มีธุระอะไรกับข้ารึขอรับ?”ไดกิรีบถามไถ่ขึ้น

    ข้าแค่อยากมาดูว่าท่านอาการดีขึ้นหรือยังเท่านั้นขอรับ แต่ดูเหมือนว่าท่านไดกิกำลังจะหายเป็นปกติแล้วนะขอรับการาสุเทนกุชรากล่าวออกมา เขาเองก็ดูดีใจมากเมื่อเห็นชายหนุ่มสุขภาพดีขึ้น

    ท่านไปพบเจออะไรที่น่าสนใจในป่าทางเหนือมารึขอรับ?”ไดกิถึงกับหุบยิ้มเมื่อได้ฟังเช่นนั้น

    ท่านรู้รึ?”เขาถามกลับ

    อย่าลืมสิขอรับว่าข้ามีบริวารอยู่ทุกที่ยามะคาวะหัวเราะออกมา ชายหนุ่มเองถึงถามเขากลับในฐานะที่ยามะคาวะคือผู้รอบรู้

    ข้าพบเจอยูกิอนนะ ตนหนึ่ง นางเหมือนมายุในบางที แต่ก็ไม่เหมือนในบางที สุดท้ายนางก็ยังเป็นยูกิอนนะที่ชอบหลอกล่อบุรุษเท่านั้นกระมัง?”เขากล่าวออกมาและถอนหายใจออกมา

    บางทีนั่นก็เป็นธรรมชาติของยูกิอนนะขอรับ พวกเราเองก็มีธรรมชาติของเราเองชายชรามักจะกล่าวให้ชายหนุ่มได้เก็บไปคิดเสมอ

    บางทีมายุก็คงต้องทนกับนิสัยแย่ๆของข้าเช่นกันไดกิถอนหายใจออกมาเมื่อคิดได้เช่นนั้น

    ข้าเองก็ไม่ได้ว่าท่านไดกิหรอกขอรับ ถ้าท่านไดกิจะสนใจหญิงผู้ใด ดีเสียอีกที่ท่านไดกิจะได้มีความสุข

    แต่ว่าข้าไม่อยากข้ายังรักนางอยู่ยามะคาวะเมื่อได้ฟังจึงกล่าวขึ้นออกมาด้วยความใจเย็น

    คนตายไปแล้วเขาไม่รับรู้เรื่องราวอะไรหรอกขอรับ เหลือแต่ท่านไดกิขอรับที่ยังมีชีวิตอยู่ ชีวิตต้องดำเนินต่อไปขอรับนั่นเป็นสัจธรรม ถ้าท่านมายุทราบล่ะก็คงอยากให้ท่านไดกิมีความสุขขอรับปิศาจการาสุเทนกุกล่าวกับเขา ทำให้ไดเทนกุได้คิดไตร่ตรองอย่างถี่ถ้วน

    แต่ยังไงข้าก็ไม่ได้รักนางสาเหตุหนึ่งที่ข้าทนมีชีวิตอยู่ถึงตอนนี้ได้เพราะมายุบอกให้ข้าช่วยมีชีวิตอยู่จนถึงตอนนี้ ข้าทนมีชีวิตอยู่เพื่อพบกับนางอีกครั้ง...แต่ถ้าชิโระยูกิเป็นนางจริง...ยามะคาวะยิ้มออกมาเมื่อได้ฟัง ด้วยใบหน้าที่สบายใจขึ้นมาก

    นั่นสินะขอรับข้าเองเข้าใจแล้ว และทำตามคำสั่งที่ได้รับการทาบทามมาเรียบร้อยแล้ว ข้าจึงขอกลับไปพักผ่อนก่อนขอรับการาสุเทนกุชราคำนับและเดินจากไป ไดกิที่ได้ฟังก็รู้เสียแล้วว่าทุกคนต่างพยายามให้เขาไปพบยูกิอนนะตนนั้นให้จนได้ จึงเดินตามชายชราไปติดๆ ด้วยความขุ่นเคือง

    ท่านไดกิมีธุระอะไรกับข้ารึ?”เขากล่าวด้วยเสียงที่สั่นด้วยความชรา

    ข้าไม่เข้าใจว่าทำไม ทุกคนถึงอยากให้ข้าแต่งงานกับนางนัก เพื่อจะให้ตนเองรู้สึกผิดน้อยลงกับสิ่งที่เคยทำไปเมื่อหลายสิบปีแล้วรึยังไง มันสายไปแล้ว ที่ข้าอยากอยู่อย่างสงบกับมายุแต่เหล่าเทพพวกนั้นกลับให้ข้าตามล่านางเหมือนข้าเป็นเพียงสัตว์กระหายเลือด ตามล่ากวางที่ไร้ทางสู้ ทำให้ข้าเป็นสิ่งที่เลวกว่าปิศาจ และข้าเห็นนางตายไปต่อหน้าต่อตา….”ไดกิหายใจแรงด้วยความอัดอั้นตันใจที่ตนได้ระบายออกมาเสียทีหนึ่ง

    ข้าทั้งโกรธทั้งเกลียดพวกเขานัก แม้ว่านางเป็นมายุจริงล่ะก็ข้าจะไม่ให้อภัยพวกเขาเหล่านั้น นางกลายเป็นปิศาจไปเสียแล้ว เป็นยูกิอนนะที่ไร้ยางอายพวกนั้น และความทรมาณที่ข้าได้รับ พวกมันต้องชดใช้!!”

    “ขอรับท่านไดกิ พวกข้าพร้อมจะอยู่เคียงข้างท่านเสมอขอรับ หากท่านไดกิอยากทำสิ่งใดพวกข้าจะไม่ห้ามขอรับ"ยามะคาวะกล่าวออกมา ชายชราเองก็ไม่ได้กลัวเกรงที่จะต้องเผชิญหน้ากับเหล่าเทพแม้แต่น้อย ส่วนเรื่องของยูกิอนนะเขาเชื่อมั่นว่าไดกิคงมีแผนการณ์บางอย่างอยู่ในใจแล้วจึงมีหน้าที่เพียงแนะนำบางสิ่งบางอย่างเท่านั้น

    " ท่านไดกิคงจะมองท่านมายุออกเป็นแน่ขอรับ ลองให้โอกาสตนเองเถิด ท่านไดกิ ท่านจะได้มีโอกาสทำความรู้จักนางมากขึ้นกว่านี้" ชายหนุ่มที่ได้ฟังก็นิ่งไป เขาเองก็ควรจะตัดสินใจได้แล้ว ไม่ใช่ให้ปิศาจหิมะมารอคอยคำตอบของเขาอยู่โดยไร้จุดหมาย

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×