ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    「大天狗 の 花嫁」DAITENGU NO HANAYOME เจ้าสาวแห่งขุนเขา

    ลำดับตอนที่ #48 : บันทึกของมายุ

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 59
      4
      23 ต.ค. 61


    ยูกิอนนะกำลังแช่น้ำที่เย็นฉ่ำ แต่ความรู้สึกของเธอคือน้ำนั้นค่อนข้างจะอุ่นเกินไปสำหรับเธอเสียด้วยซ้ำ ผิวกายสีขาวผ่องที่เรียบเนียน นั้นกระทบกับแสงจันทร์ยามค่ำคืน ร่างบางรู้สึกผ่อนคลายอย่างมาก เธอไม่เคยแช่น้ำมาก่อน การเป็นยูกิอนนะนั้นมีแต่ความน่าเบื่อมากนัก เส้นผมสีขาวสยายตามแรงลม  และนึกถึงเรื่องราวต่างๆมากมายร่างงามเสมือนเทพธิดานั้น กลับมีรอยบาดแผลอยู่ที่กลางอก เป็นรอยประดุจถูกของมีคมบาดลึก แต่เธอก็จำที่มาของรอยแผลเป็นนี้ไม่ได้แต่อย่างใดไม่ว่าจะพยายามนึกเท่าไหร่ก็นึกไม่ออกเสียที

    ช่างงามเสียจริง ข้าคิดว่าพบเจอเทพธิดาที่นี่เสียอีก…”ร่างบางหันขวับไปมองชายที่มีสุรเสียงที่น่าเกรงขาม ร่างของมังกรฟ้าปรากฏตัวขึ้น น่าแปลกที่เธอไม่รับรู้ถึงการมาอีกฝ่าย  มือเรียวบางรีบปกปิดร่างกายของเธอและมองอีกฝ่ายอย่างไม่ไว้ใจนัก

    อย่ากลัวข้าไป ข้าเป็นเทพมังกรฟ้า นามว่าเซริวเขาหันหลังให้หญิงสาว เพื่อให้เธอขึ้นมาแต่งตัวให้เรียบร้อย ร่างบางรีบขึ้นมาจากน้ำและคว้าเสื้อผ้าของเธอไว้ ก่อนจะรีบไปแต่งตัวหลังพุ่มไม้กอใหญ่ เมื่อแต่งตัวเรียบร้อยแล้ว จึงยืนหลบอยู่หลังต้นสนขนาดใหญ่เพราะไม่ไว้ใจอีกฝ่ายหนึ่ง

    เจ้าจำได้ไหมว่าข้าเป็นคนไปพบเจ้าบนยอดเขาสูง บอกให้เจ้ามาที่นี่เขาถามไถ่ขึ้น ชิโระยูกิที่ชะโงกหน้ามาพบเขาก็ครุ่นคิดสักพัก

    จำได้แล้วเจ้าค่ะเธอนึกถึงตอนที่เธอเพิ่งตื่นขึ้นมา เธอพบเซริวบนยอดเขาหิมะนั้นอย่างที่เขากล่าวขึ้นจริงๆ

    ไดกิยังไม่ยอมให้เจ้าเข้าไปในเขตของเขาอีกรึ?”หญิงสาวส่ายหน้า แต่อีกฝ่ายกลับแสยะยิ้มออกมา

    เขาใจแข็งเสียจริง ถ้าเป็นข้าล่ะก็ คงจะพาเจ้าไปอยู่ที่วิหารและดูแลเจ้าอย่างดีแล้วร่างกำยำยิ้มกริ่มให้เธอ แต่ชิโระยูกิรู้สึกกลัวอีกฝ่าย รอยยิ้มนั้นดูไม่จริงใจเสียเลย ผิดกับชายหนุ่มอีกคนที่ไม่แทบไม่เคยยิ้มออกมาแต่เขาไม่เคยทำให้ชิโระยูกิกลัวเช่นนี้ นิ้วเรียวของเขาเชยคางให้หญิงสาวเงยขึ้นมามองเซริว

    ท่านเบนไซเทนช่างทำให้นางสวยเกินกว่าหญิงใดที่ข้าเคยพบเจอ ถ้าข้าจะแอบแตะต้องเจ้า เจ้าไดกิคงไม่ว่าข้ากระมังเขาแสยะยิ้มออกมา

    ข้ากลัวแล้ว ท่านเซริวพอเถอะค่ะร่างบางกล่าวขึ้น นิ้วมือของเขาลูบไปตามซอกคออีกฝ่ายอย่างเสน่หา ชิโระยูกิรีบหันตัวหนี

    ข้าเห็นเจ้าครั้งแรกก็ไม่สามารถสลัดใบหน้าที่งดงามของเจ้าออกไปได้แล้ว แม้ว่าตอนเจ้าจะเป็นมนุษย์เจ้าจะไม่ได้งามเสียขนาดจะทำให้ข้าหันมาสนใจเจ้าได้ แต่ตอนนี้มันต่างกัน…”เทพที่มักได้ทุกสิ่งทุกอย่างตามที่ตนต้องการมักจะทำให้เกิดความอยากอย่างไม่มีที่สิ้นสุด และเขาจะต้องได้นางมาครอบครองให้ได้ โดยไม่สนใจแล้วว่าอีกฝ่ายจะยอมหรือไม่

    “เจ้างดงามมากกว่าหญิงใดที่ข้าเคยพบเจอ ข้าอยากจะเห็นเจ้าทุกเมื่อเชื่อวัน มาอยู่กับข้าเถิด”มือกำยำดึงเธอให้มาแนบชิดเขา

    ข้ามิยักรู้ว่าท่านจะชอบเด็กไร้เดียงสาอย่างนี้? นี่เจ้าเป็นมังกรหรืออีแร้งกันแน่….”เสียงที่กล่าวอย่างเย้ยหยันกล่าวขึ้นด้านหลังเซริว เทพมังกรฟ้าหันไปมองและพบไดกิที่ยืนกอดอกอยู่ด้านหลังเขาแล้ว

    อะไรกัน เจ้าเองก็แอบมาหานางนี่นา เจ้าน่ะไม่ต่างจากข้าหรอก ทำเป็นปากแข็งที่แท้ก็แอบมาหานางนี่เองเซริวกล่าวออกมาอย่างยียวน

    ข้ามาที่นี่เพราะรู้ว่าพวกเทพอย่างท่านต้องมารังควาญนาง ท่านมันเหมือนท่านซุซาคุไม่มีผิด ตอนกลางวันก็ทำร้ายนางไปรอบหนึ่งแล้วยังไม่พอใจอีกรึ?”ไดกิสาวเท้าเข้ามาใกล้

    ข้าจะพานางไปเป็นภริยาเท่านั้น เจ้าตอบมาให้ข้ารู้สิว่า จะรับนางไหมถ้าเจ้าไม่อยากปฏิเสธแต่กลัวว่านางจะไม่มีที่ไป ก็ไม่ต้องห่วงข้าจะดูแลนางอย่างดีเองชิโระยูกิที่ยืนอยู่หลังเขารีบส่ายหน้าทันที ไดกิเองก็เห็นท่าทางนั้นชัดเจน

    ให้นางเลือกนางมิใช่สิ่งของ ข้าตอบไม่ได้หรอกไดกิกล่าวออกมาและกอดอก

    ก็แค่ยูกิอนนะ ทำไมต้องถามนางด้วย!!”เซริวหงุดหงิดขึ้นมา

    ถามสิขอรับ นี่คือชีวิตของนาง ถ้านางอยากไปกับท่านข้าจะไม่ไปก้าวก่ายอะไรอีก แต่ถ้านางเลือกไดกิข้าจะพานางไปที่คฤหาสน์ในตอนนี้เลยขอรับเซริวชะงักไปเมื่อได้ฟัง ชิโระยูกิเองก็มีสีหน้าที่ดีขึ้น

    ข้าจะอยู่กับท่านเทนกุร่างบางรีบวิ่งไปหาเขาในทันที  เทพมังกรฟ้าเสียหน้าอย่างยิ่ง แต่ก็พูดกลบเกลื่อน

    แบบนี้ก็ดี ข้ากะแล้วว่าเจ้าต้องรับนางไว้ในท้ายที่สุด”เขาทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้

    “แบบนี้เจ้าก็รับนางไว้ได้สักที ถือว่าข้าทำงานสำเร็จแล้วสินะ”เซริวฝืนยิ้มออกมา

    “ไม่ใช่หรอกขอรับ นางเลือกที่จะอยู่กับข้าเท่านั้น ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับสิ่งที่ท่านทำเลย ท่านก็พอๆกับท่านซุซาคุเสียจริง ไม่ได้ช่วยอะไรเลยสักอย่าง นางมาที่นี่ด้วยตัวของนางเองแท้ๆ” เขากล่าวออกมาและเหยียดยิ้มอย่างมีชัย เซริวที่มีสีหน้าไม่สบอารมณ์นัก รีบทะยานขึ้นไปบนท้องฟ้าในทันที ไดกิรอจนร่างนั้นหายลับไป

    ขอบคุณนะเจ้าคะ ที่ช่วยข้าผู้ชายคนนั้นน่ากลัวมากๆเลยชิโระยูกิกล่าวขึ้นและคำนับเขา

    เจ้าไม่เป็นไรใช่ไหม?”ชายหนุ่มถามเธอขึ้นและมองไปรอบๆตัวของเธอว่าบาดเจ็บอะไรหรือเปล่า

    ไม่เป็นอะไรเจ้าค่ะ แค่ข้าอายเหลือเกินที่ถูกแอบมองตอนแช่น้ำร่างบางยกมือขึ้นมาปิดหน้าของตน ทั้งอายทั้งโกรธอีกฝ่ายหนึ่งแต่เธอก็ทำอะไรไม่ได้ ไดกิถลึงตาออกมาเมื่อได้ฟังเช่นนั้น

    เจ้าบ้า ถ้าเจอครั้งหน้าเจ้านั่นคงต้องถูกสั่งสอนบ้างแล้ว!! เจ้างูลามก!!”ไดกิกัดฟันกรอด ชิโระยูกิรู้สึกสบายใจขึ้นเห็นชายหนุ่มผู้นี้ แม้ว่าเขาจะบอกเสียทีว่าเขามีนามว่าอะไร แต่หญิงสาวอยากอยู่ใกล้ๆเขา แล้วท่านไดกิสำหรับเธอล่ะ ชิโระยูกิเริ่มจะกังวลแล้วว่าหากเธอต้องไปพบท่านไดกิจริงๆจะใช่อย่างที่เธอหวังไหมนะ แต่ว่ามีเทนกุตนนี้อยู่ สิ่งต่างๆคงไม่แย่อย่างที่คิดไว้หรอก แค่มีเขาอยู่เธอก็สบายใจขึ้นมาบ้างแล้ว

    มากับข้า ข้าปล่อยให้เจ้าอยู่คนเดียวไม่ได้!!”ชายหนุ่มเดินนำเธอ

    แล้วท่านไดกิจะไม่ว่าหรือเจ้าคะ?”เธอถามขึ้น ด้วยเสียงที่เจื้อยแจ้ว ชายหนุ่มไม่ตอบอะไร แต่เดินนำเธอไปตามทางใบเมเปิ้ลร่วงหล่นไปตามทางที่ทั้งสองเดินไป ชิโระยูกิมองไปรอบๆเห็นเงาตะคุ่มๆตามต้นไม้เต็มไปทั้งหมด ดูน่ากลัวยิ่งนัก เหล่าการาสุเทนกุเริ่มรับรู้ว่ามีแขกแปลกหน้ามาเยือนจึงออกมาดูร่างบาง แต่ชิโระยูกิกลับตกใจกลัว เธอรีบเดินตามอีกฝ่ายไปติดๆ ท่ามกลางป่าไม้ที่มีเงามืด

    นั่นการาสุเทนกุ เจ้าอย่ากลัวไปพวกนั้นแค่อยากเห็นว่าใครเข้ามาในดินแดนของข้าก็เท่านั้น ข้าจะพาเจ้าไปพบกับทาโร่เสียทีเขาเดินนำไปเรื่อยๆ จนการาสุเทนกุตนหนึ่งรีบตรงออกมาเมื่อรับรู้ถึงพลังของยูกิอนนะ

    ชิโระยูกิ!! เจ้ามาเสียทีทาโร่รีบวิ่งมาพบเธอ แต่อีกฝ่ายมีสีหน้างุนงงและใช้เวลาคิดสักพักหนึ่ง

    ทาโร่!!”เธอดูดีใจที่พบเขา

    ใช่ ข้าเองทาโร่ ท่านได-“ทาโร่ชะงักเมื่อมองหน้าเขาก่อนจะรีบหันไปกล่าวกับชิโระยูกิ

    เจ้าเข้ามาพักก่อนเถิด ท่านเองก็เช่นกันขอรับ ข้าจะไปบอกอากาเนะให้ขอรับทาโร่รีบวิ่งจากไป ชิโระยูกิเดินตามเขาเข้าไปที่คฤหาสน์ และนั่งลงที่ห้องโถงใหญ่ อากาเนะยกน้ำชามาวางไว้ต่อหน้าคนทั้งสอง แต่ก็มองชิโระยูกิด้วยสายตาแปลกๆ และไม่เป็นมิตรนัก หญิงสาวเพียงหลบตาอีกฝ่ายเท่านั้นเพราะไม่อยากจะมีปัญหาใดๆ ก่อนหญิงในชุดเฮอันจะออกมาด้านนอกห้องและกล่าวกับสามีของนาง

    ข้าไม่ชอบนางเลย นางจะมาแทนที่ท่านมายุ ได้อย่างไรกันเธอพูดด้วยความขุ่นเคือง

    เจ้าต้องใจเย็นก่อนอากาเนะ…”คาบูโตะกล่าวด้วยเสียงอันเบา  ชิโระยูกิเหลือบมองทั้งสองคุยกันอย่างเงียบงัน ทำไมถึงมีแต่คนไม่ชอบเธอกันนะ แน่นอนว่าชายหนุ่มเบื้องหน้าก็ได้ยินเช่นกันเพียงแต่เขาไม่กล่าวอะไรออกมา

    ท่านมายุคงเป็นที่รักของทุกคนสินะเจ้าคะหญิงสาวยิ้มออกมาเมื่อกล่าวเช่นนั้น พร้อมกับความรู้สึกกดดันอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน และก็เป็นอีกครั้งที่เธอถูกเกลียดตั้งแต่ที่ยังไม่ทันได้ทำอะไรแม้แต่น้อย

    ใช่มายุทำให้คนที่ไม่ค่อยชอบนางก็ยังยอมสยบลงได้ นางเป็นคนที่มีวาทศิลป์ในการพูดและมีความจริงใจไดกิกล่าวออกมา ชิโระยูกิยิ้มรับเท่านั้น และมองถ้วยชาด้านหน้าเธอที่มีไอร้อนออกมา แน่นอนว่ายูกิอนนะอย่างเธอดื่มของร้อนขนาดนั้นไม่ไหวอย่างแน่นอน และมองอีกฝ่ายนั่งจิบชาเท่านั้น

    ข้าขอบคุณท่านเทนกุมากเลยเจ้าค่ะ ที่ช่วยข้าไว้จากเทพเซริว ข้าสัญญาว่าจะไม่ก่อความเดือดร้อนให้ท่านเป็นอันขาดเจ้าค่ะเธอกล่าวขึ้น อากาเนะรีบตะโกนบอกอีกฝ่ายหนึ่ง

    เจ้าเรียกท่านไดกิว่าเทนกุได้อย่างไรกัน!! ท่านไดกิน่ะเป็นไดเทนกุผู้ยิ่งใหญ่นะไดกิกระแอมเบาๆเมื่อได้ยิน ส่วนชิโระยูกิที่เพิ่งรู้ว่าอีกฝ่ายคือไดกิก็อึ้งไปสักพักใหญ่ 

    อากาเนะถ้าเจ้ามีปัญหานักก็เข้ามานั่งคุยด้วยเลยไหมชายหนุ่มกล่าวขึ้น

    ไม่...หรอกเจ้าค่ะเธอรีบก้มหน้างุด อย่างสำนึกผิดอยู่อย่างนั้น

    เจ้าฟังไว้นะอากาเนะ ข้ารับนางมาอยู่ที่นี่ ก็เพราะข้ามั่นใจในระดับหนึ่งแล้วว่าจะต้องเป็นนาง แม้เมื่อครู่นางก็ยังเลือกข้า ข้าเชื่อว่านางเป็นมายุแน่นอนหญิงผู้สวมชุดเฮอันเงียบลงเมื่อได้ฟัง และมองอีกฝ่ายหนึ่ง

    ท่านไดกิมั่นใจขนาดนนั้นเลยหรือเจ้าคะ? ข้าไม่เห็นว่านางจะเหมือนท่านมายุเลยเจ้าค่ะอากาเนะมีสีหน้าฉงน เธอสงสัยในตัวไดกิเหลือเกินว่าทำไมเขาถึงมั่นใจได้ขนาดนี้

    “ข้าเห็นว่านางยังเหมือนเดิมนะอากาเนะ ทุกอย่าง...เจ้าจำน้ำเสียงของมายุไม่ได้รึ กิริยาท่าทางของนาง ข้ามองแวบเดียวข้าก็ดูออกแล้ว”ดวงตาสีดำขลับมองตรงไปที่ร่างบางที่นั่งอยู่เบื้องหน้าเขา

    “แต่ว่าก็ยังไม่มีอะไรชัดเจนจริงๆเลยนะเจ้าคะ ท่านไดกิ!!”อากาเนะกล่าวออกมากลัวว่าเขาจะเป็นฝ่ายคิดไปเองเสียมากกว่า ก่อนคาบูโตะจะสะกิดอีกฝ่ายว่าให้พอได้แล้วจนในที่สุดการาสุเทนกุหญิงก็ยอมแพ้ไป ไดกิหันมามองชิโระยูกิและคลี่ยิ้มออกมาด้วยความอ่อนโยน

    ท่านไดกิ...ข้าเคยเป็นมายุมาก่อนหรือเจ้าคะยูกิอนนะถามขึ้นด้วยความตกตะลึงเธอไม่เข้าใจอะไรสักอย่างแม้แต่น้อย แม้แต่ตัวของเธอเองก็ยังไม่มั่นใจเลย หากอากาเนะหรือคนอื่นๆจะเคลือบแคลงสงสัยก็คงแปลก

    "ข้าเคยสาบานกับเจ้าเอาไว้ ข้ามั่นใจว่าเป็นเจ้าอย่างแน่นอน แต่ตอนนี้ข้ายังไม่ไว้ใจที่เจ้าเป็นปิศาจ ทาโร่ คาบูโตะ พานางไปที่ห้องและห้ามให้นางออกมา"เขากล่าวด้วยน้ำเสียงที่ราบเรียบท่ามกลางความตกตะลึงของคนทุกคน ก่อนไดกิจะกล่าวออกมา

    ถ้าเจ้าเลือกที่จะเจอข้าให้ได้ เจ้าก็สมหวังแล้วทีนี้ข้าเลือกบ้างว่าจะให้เจ้าเหมาะสมจะที่จะเป็นนายหญิงหรือไม่?”ชายหนุ่มแสยะยิ้มออกมา

     

    ยูกิอนนะนั่งลงในห้องนอนกว้างห้องหนึ่งที่มีตู้เตียง และของทุกสิ่งทุกอย่างพร้อม เช่นนั้น ห้องนอนที่ปูด้วยเสื่อทาทามิ และระเบียงที่มองออกไปเห็นวิวทิวทัศน์ได้ก็ยังดีสำหรับเธอนัก แต่ทำไมเธอถึงต้องมาถูกขังอยู่ในที่แห่งนี้เธอกลับไม่เข้าใจเลย หรือว่าการที่เธอเป็นยูกิอนนะจะถือว่าอันตรายกับเขาอย่างนั้นหรือ แต่เธอไม่ได้อยากสูบพลังผู้อื่นอย่างเอาเป็นเอาตายเสียหน่อย ทำไมต้องหวาดกลัวขนาดนั้นด้วย ก่อนชิโระยูกิจะได้ยินเสียงอากาเนะกล่าวกับไดกิอยู่เบื้องหน้าไกลๆนัก

    ท่านไดกิจะให้นางอยู่ห้องของท่านมายุหรือเจ้าคะ?”

    ถ้านางคือมายุ นางก็ต้องจำได้เองสิว่าเคยอยู่ในห้องนี้ นี่คือแบบทดสอบของข้าเสียแล้วกัน ระหว่างนี้ใกล้ฤดูหนาวเต็มที ข้าคงมาเยี่ยมเยียนนางได้ไม่บ่อยนัก อย่างไรยูกิอนนะอย่างนางก็เป็นอันตรายได้เช่นกัน ข้าจึงต้องให้นางอยู่แต่ข้างในห้องเท่านั้น จนกว่าข้าจะมั่นใจได้ว่านางควบคุมอารมณ์ได้ ฝากเจ้าทำอาหารมาให้นางด้วยนะอากาเนะ

    ...ข้ารึเจ้าคะ!??!”อากาเนะตกใจอย่างมาก ส่วนชิโระยูกิได้เพียงเดินนั่งลงที่ปลายเตียง และล้มตัวลงนอน ก่อนจะคิดถึงเรื่องราวมากมาย

    ข้าจำไม่เห็นได้เลยว่าข้าคือมายุ มายุเป็นเช่นไรกัน ถ้าข้าเป็นมายุทำไมทุกคนถึงทำกับข้าเช่นนี้นะ ข้ามันโชคร้ายพลังที่ข้ามีกลับใช้ไม่ได้เลย ไม่ต่างจากตัวตลกให้คนอื่นเหยียบย่ำ ข้านั้นต่างจากมายุอยู่มากสินะทำยังไงจะเป็นคนในแบบที่ท่านไดกิชอบได้นะ  ข้าต้องจำเรื่องของมายุให้ได้ มันยากจังเลยข้านึกเท่าใดก็นึกไม่ออก

    ชิโระยูกินอนก่ายหน้าผากตนเองอยู่อย่างนั้น ความคาดหวังให้เธอเป็นคนรักของเขานั้น เธอจะเป็นให้เขาได้หรือเปล่านะ  และไหนจะเหล่าเทพอีก

    ข้าไม่มีความสุขเลย…”เธอพึมพำออกมา และนอนอยู่เช่นนั้นเป็นเวลาสักพักใหญ่ การถูกขังในที่นี้ก็ไม่ได้แย่เสียเท่าไหร่ แต่ชิโระยูกิกำลังถูกกดดันให้เป็นมายุนี่สิ ถึงขนาดทำให้เธอถอนหายใจออกมา ก่อนอากาเนะจะเข้ามาในห้อง พร้อมอาหารหนึ่งชุด และวางลงอย่างเบามือ กลิ่นที่หอมหวน ชิโระยูกิจนต้องลุกขึ้นมาดู

    ข้าทำอาหารมาให้ ลองทานดูไหม?”อากาเนะกล่าวขึ้น แม้จะดูดีกว่าการพบเจอครั้งแรก แต่เพราะว่าหญิงผู้สวมชุดสมัยเฮอันนั้นไม่รู้ว่าตนควรจะทำตัวเช่นไรดีกับอีกฝ่าย อีกทั้งยังหวาดระแวงด้วย ร่างบางเดินเข้ามานั่งและมองอาหารตรงหน้า

    นี่คงเป็นอาหารสินะเจ้าคะ? น่าอร่อยนะเจ้าคะ อากาเนะทำเก่งจังเลยค่ะเธอมองอย่างน่าสนใจ

    เจ้าต้องลองชิมก่อนนะ ถึงจะรู้ว่าอร่อยไหม ข้าพอรู้ว่ายูกิอนนะไม่กินอาหารกันหรอก

    เจ้าค่ะ ข้าไม่เคยกินอาหารเลยและก็ไม่เคยเห็นยูกิอนนะทานอาหารกันด้วย ยกเว้นท่านยูกิคนเดียวเท่านั้นชิโระยูกิจะหยิบตะเกียบขึ้นมาแต่ก็นึกขึ้นได้ว่าเธอใช้ไม่เป็น

    ข้าใช้ตะเกียบไม่เป็นเจ้าค่ะ ช่วยสอนข้าใช้ได้ไหมเจ้าคะเธออ้อนอีกฝ่าย อากาเนะที่ถอนหายใจด้วยความเหนื่อยใจ จึงลงมือสอนการจับตะเกียบตั้งแต่เริ่ม และรู้สึกว่าตนเองต้องมาสอนเด็กน้อยธรรมดาๆคนหนึ่งเท่านั้น

    จับแบบนี้นะ และก็ค่อยๆคีบขึ้นมาแบบนี้ เวลากินปลาก็ระวังก้างด้วย…”เสียงหัวเราะคิกคักดังมาจากหน้าประตูนั้นไม่ใช่ใครที่ไหนแต่เป็นคาบูโตะ

    อากาเนะ เจ้ามีลูกสาวเพิ่มแล้วล่ะ

    เดี๋ยวเถอะ!!”อากาเนะแผดเสียง ก่อนจะค่อยส่งตะเกียบให้ชิโระยูกิลองใช้ตะเกียบคีบมือเรียวค่อยๆใช้ใช้ตะเกียบคีบขึ้นมา น่าแปลกที่ทำได้ดีกว่าที่คิด และค่อยๆนำปลาย่างเข้าปากอย่างพอดีคำ

    อร่อยจังเลยค่ะเธอชมอากาเนะ อีกฝ่ายจึงพอจะวางใจได้แล้ว จึงออกมาจากห้อง ชิโระยูกิค่อยๆลงมือทานอาหารแต่ก็ทานได้เพียงนิดหน่อยเท่านั้นก็รู้สึกอิ่มแล้ว

    ถ้าข้ากินอาหารพวกนี้แล้ว ก็คงไม่ต้องสูบพลังชีวิตคนอื่นๆสินะเธอพึมพำออกมา คงเพราะยูกิอนนะอยู่ในที่อากาศเย็นมากจึงไม่สะดวกที่จะทำอาหาร ร่างบางเก็บตะเกียบอย่างเรียบร้อยและวางถาดอาหารไว้ที่มุมห้อง ส่วนซุปมิโซะนั้นร้อนเกินไปจนเธอทานไม่ได้ ยูกิอนนะจึงเข้าใจว่าตนเองอาจจะไม่เหมาะกับอาหารมนุษย์จริงๆ แต่ก็ต้องทนไปยังไงก็ไม่อยากจะไปสูบพลังชีวิตคนอื่นๆเช่นกัน ร่างบางเดินไปที่ระเบียงและมองใบเมเปิ้ลสีแสดจากต้นไม้ในป่าใหญ่ เธอมองอยู่อย่างนั้นก่อนจะหันมาเห็นระเบียงห้องทำงานของชายหนุ่มที่อยู่เยื้องๆเช่นกันและเขาก็นั่งอยู่ที่ระเบียง ชิโระยูกิหัวใจเต้นอย่างไม่เป็นจังหวะเมื่อเห็นเขาที่นั่น ก่อนไดกิจะหันมามองเธอ แต่หญิงสาวทำเป็นมองไปทางอื่นเสียก่อนด้วยความเขินอาย

    ช่างรู้สึกคุ้นเคยเสียจริง ความรู้สึกนี้ ภาพวิวทิวทัศน์เช่นนี้

    ร่างบางเดินไปมาในห้องอยู่อย่างนั้นก่อนจะพบกระเป๋าเก่าๆสีดำใบหนึ่งอยู่มุมห้อง กระเป๋าเอกสารนั้นดูแปลกตานัก และชิโระยูกิเปิดออกมา ก่อนจะพบเอกสารมากมาย โชคดีที่เธอยังพออ่านหนังสือได้บ้างเพราะท่านยูกิสอนเธอไว้ ร่างบางนำเอกสารมากมายออกมากางและใบอนุญาตว่าความ  จึงนำออกมาเปิดดูและพบรูปของหญิงสาวที่ชื่อว่ามายุ

    นี่สินะมายุ….คนรักของท่านไดกิ

    เธอดูเอกสารนั้น ทั้งชื่อของมายุ ประวัติต่างๆมากมาย และพบกับรูปใบหนึ่งเป็นรูปเด็กผู้หญิงสองคน คนหนึ่งผมยาวและผมสั้น มีสีหน้าที่สดใสร่าเริง ด้านหลังภาพมีลายเซ็นต์เขียนเอาไว้

    มายุ และ ยูกิเธอพึมพำออกมา ก่อนจะนึกขึ้นได้ว่านี่คือท่านยูกิมาที่เธอพบ แต่ท่านยูกิไม่เคยพูดเรื่องมายุเลยสักครั้งเดียว เมื่อเห็นข้าวของต่างๆแล้วทำให้ชิโระยูกิตื่นเต้นเป็นที่สุด

    ท่านมายุเก่งเสียจริง ข้าอยากเป็นแบบท่านมายุบ้างจังมือเรียวค้นกระเป๋าเอกสารไปต่อและพบสมุดเล่มหนึ่ง เป็นไดอารี่ของมายุ เธอค่อยๆเปิดอ่านอย่างตั้งอกตั้งใจ

     

    ไม่น่าเชื่อว่าฉันจะมาเสียเวลานั่งเขียนไดอารี่เช่นนี้ทุกวัน แต่ฉันตั้งใจแล้วว่าจะเขียนมันออกมา รู้ไหมว่าฉันถูกยิงได้รับบาดเจ็บในป่าแถวๆจังหวัดไอชิ แต่ว่าฉันถูกเทนกุช่วยเอาไว้ด้วย ตอนนี้ฉันอาการดีขึ้นแล้ว เพราะท่านไดกิช่วยเอาไว้ ซึ่งมันเป็นเรื่องที่ฉันพบเจอมาได้สักพักแล้วแต่ไม่มีโอกาสได้เขียนลงไดอารี่สักทีหนึ่ง แต่พอดีมีสมุดว่างๆอยู่ในกระเป๋าจึงหยิบมาเขียนเอาไว้ เผื่อว่าสักวันฉันจะกลับไปที่เมืองและรู้ว่า ในโลกนี้ปิศาจมีอยู่จริงและใจดีมากๆด้วย….

     

    ชิโระยูกิอ่านไดอารี่ไปเรื่อยๆ ดูเหมือนมายุจะเขียนไดอารี่ในวันที่เธอกลับมาที่นี่ ร่างบางตั้งใจอ่านและรู้สึกสนุกเสียด้วยซ้ำประดุจหนึ่งว่าเธออ่านนิยาย และเรื่องราวก็ดำเนินมาถึงวันแต่งงานก่อนหน้ากระดาษต่อๆมาจะว่างเปล่าลง ชิโระยูกิหาไดอารี่หลังจากวันนั้นไม่พบแล้ว มายุคงไม่ได้เขียนต่อ หรืออาจเกิดเรื่องบางอย่างขึ้น พอดีกับเสียงเปิดประตูและไดกิก็หันมามองเธอกำลังรื้อค้นของมายุอยู่พอดิบพอดี

    เจ้าช่างซุกซนเสียจริง ข้าวของรกเต็มห้องไปหมดแล้วชายหนุ่มกล่าวขึ้นด้วยน้ำเสียงปกติ เขาไม่ได้จะตำหนิเธอแต่อย่างใด

    ...ขอโทษเจ้าค่ะ ข้าจะเก็บเดี๋ยวนี้ร่างบางรีบลุกขึ้นและเก็บของต่างๆนาๆ ก่อนชายหนุ่มจะเห็นรูปภาพของยูกิและมายุอยู่บนพื้น จึงหยิบขึ้นมาพิจารณาดู แต่ก็ไม่ได้กล่าวสิ่งใดออกมา

    ท่านไดกิเจ้าคะ ข้าเจอไดอารี่เออ สมุดที่เขียนเรื่องราวของตัวเองที่ ท่านมายุเขียนไว้ด้วยเจ้าค่ะ ท่านไดกิเคยอ่านไหมเจ้าคะ?”

    ข้ารึ?”เขารับหนังสือมาเปิดอ่านแต่ก็ส่งคืนชิโระยูกิ

    ข้าอ่านตัวอักษรสมัยใหม่ไม่ได้หรอก

    แต่ข้าอ่านได้ ถ้าท่านไดกิอยากจะทราบข้าจะอ่านให้ท่านฟังได้นะเจ้าคะอีกฝ่ายมองเธออย่างสงสัย

    เจ้าเกิดมาไม่กี่ปี ทำไมถึงเก่งได้ขนาดนี้กันล่ะชายหนุ่มครุ่นคิด แม้แต่อากาเนะยังเล่าถึงการจับตะเกียบของนาง เหมือนหญิงสาวจะเพียงไม่ได้จับตะเกียบมาเป็นเวลานานเท่านั้นไม่ใช่จับตะเกียบไม่เป็นเลย

    ท่านยูกิก็บอกว่าข้าเรียนรู้เร็วเจ้าค่ะชิโระยูกิกล่าวขึ้น

    ถ้าเช่นนั้นข้าขอทดสอบเจ้าหน่อยแล้วกันชายหนุ่มนั่งลงและฟังชิโระยูกิเล่าเรื่องราวที่ถูกเขียนในไดอารี่อีกรอบหนึ่ง อย่างไม่รู้สึกเบื่อหน่าย จนเวลาผ่านไปเนิ่นนานเสียเหลือเกินกว่าชิโระยูกิจะอ่านจนจบได้ ไดกิมักจะนั่งมองเธออยู่เงียบๆและฟังไปด้วยเท่านั้น ท้องฟ้าเปลี่ยนเป็นสีแสดในเวลาเย็น เมื่อเรื่องทุกอย่างจบลงความรู้สึกเหงาและว้าเหว่ก็ก่อตัวขึ้น ชิโระยูกิรีบเก็บของให้เรียบร้อย ก่อนชายหนุ่มจะหันมาถามเธอขึ้น

    ชีวิตของนาง มันเปลี่ยนไปตั้งแต่วันนั้นวันที่เราแต่งงานกันไดกิเพียงลุกขึ้นยืน หญิงสาวรู้สึกได้ถึงความเศร้าของอีกฝ่ายได้อย่างชัดเจน

    ท่านไดกิเจ้าคะ ท่านมายุคงไม่อยากให้ท่านโทษตัวเองหรอกเจ้าค่ะเธอกล่าวขึ้น ชายหนุ่มจึงหันมาถามเธอบ้าง

    แล้วเจ้าล่ะ ยูกิเองก็คงจะสอนให้เจ้าพูดภาษาสมัยใหม่ด้วยใช่ไหม?”

    ได้เจ้าค่ะ

    ถ้าเช่นนั้นชอบพูดแบบไหนมากกว่ากันเขาถามขึ้น

    ที่จริงแล้ว ข้าคิดว่าพูดแบบสมัยใหม่ก็ง่ายกว่าเจ้าค่ะ เหมือนข้าจะคุ้นเคยมากกว่า แต่คงไม่มีใครพูดเหมือนกับข้าหรอกเจ้าค่ะ ให้ข้าลองกล่าวสักประโยคนึงก็ได้เจ้าค่ะ

    เจ้าอยากพูดอะไรก็พูด ข้าไม่ห้ามเจ้าหรอก

    ค่ะ ท่านไดกิ ขอบคุณท่านไดกิมากเลยค่ะไดกิรู้สึกคุ้นเคยกับคำพูดแบบนี้มากกว่า ก่อนร่างบางจะนั่งข้างๆเขาหลังจากที่เธอเก็บของเสร็จ

    ท่านไดกิจะขังดิฉันไว้จนถึงเมื่อไหร่หรือคะ?”เธอถามขึ้นด้วยความอยากรู้

    แค่สองวันเจ้าก็ถามข้าแล้วรึ?”

    ก็ ดิฉันไม่ทราบนี่คะว่าท่านไดกิ จะให้ดิฉันออกไปเดินเล่นได้เมื่อไหร่ค่ะเธอทำหน้าสงสัย

    "ถ้าเช่นนั้นขอดิฉันพูดแบบนี้ต่อไปได้ไหมคะ"ชิโระยูกิกล่าวออก

    "ได้สิ ข้าชอบเวลาเจ้าพูดภาษาสมัยใหม่"ไดกิกระซิบข้างหูของเธอ มือกำยำไล้เส้นผมสีขาวของเธอและสูดดมเส้นผมของหญิงสาว

    ...ท่านไดกิทำอะไรหรือคะชิโระยูกิที่เห็นถามขึ้น ก่อนมือกำยำจะดึงเธอเข้ามา จมูกที่เป็นสันไล่ไปตามต้นคอของยูกิอนนะ จนเธอดิ้นเพราะความจักจี้

    ท่านไดกิคะ พอเถอะค่ะ มันจักจี้หญิงสาวหัวเราะออกมา เธอยังไร้เดียงสาเกินไปที่จะรู้ว่าทำไมชายหนุ่มถึงทำเช่นนี้ ก่อนไดกิจะปล่อยเธอลง ร่างบางยังหัวเราะร่าอยู่อย่างนั้น

    กลิ่นของเจ้าช่างทำให้ข้านึกถึงนางเสียจริง... อยากจะมอบความรักให้เจ้าจะแย่แล้ว แต่เจ้าในตอนนี้รู้จักความรักแบบชายหญิงหรือยังนะ ข้าควรจะรักเจ้าด้วยความเอ็นดูแบบผู้ใหญ่ที่มีต่อเด็กหรือเปล่านะ เจ้าในตอนนี้รู้สึกรักข้าบ้างหรือเปล่า ข้าเคยบอกเจ้าไปแล้วว่าข้าจะรักเจ้าไม่ว่าเจ้าจะเกิดเป็นผู้ใดก็ตาม

    ชิโระยูกิ…”เขาดูลังเลที่จะกล่าวออกมา

    คะ?”

    ข้าจะไม่ทำเจ้าให้โศกเศร้าเด็ดขาด ข้าสัญญาเขากล่าวขึ้น ในที่สุดเขาก็ได้เพียงแต่กล่าวคำนั้นออกไปเท่านั้น เรื่องรูปแบบความความรักของชิโระยูกิเขาคงต้องค่อยๆดูท่าทางของอีกฝ่ายหนึ่งไปช้าๆ

    ...ค่ะร่างบางตอบรับอย่างงุนงง แบบนี้ถือว่าเขาจะยอมดูแลเธอแล้วล่ะสิ หญิงสาวสงสัยแต่ไม่ได้ถามออกมาและมองอีกฝ่ายเดินออกไปจากห้องอย่างไม่เข้าใจในการกระทำนัก

     

    หลายวันผ่านไปจนกระทั่งต้นไม้เริ่มผลัดใบ ท้องฟ้าที่มืดมิดยามค่ำคืน ร่างบางได้นอนพลิกตัวไปมาอยู่บนเตียงใหญ่ ดวงตาสีเงินลืมตาขึ้นมากลางดึกช้าๆเพราะเธอนอนไม่หลับดีนัก แม้ห้องนี้จะมีของสะดวกสบายมากมาย แต่ชิโระยูกิก็คิดถึงหิมะแรกของปี ร่างบางรู้สึกถึงความหนาวเย็นที่มาเยือนได้เป็นอย่างดี จึงค่อยยันตัวลุกขึ้น และเดินไปเปิดประตูระเบียง ให้ลมเย็นปะทะใบหน้าของเธอ หลายวันมานี้ชิโระยูกิต้องทนนอนนิ่งตลอดเวลาเพื่อเก็บพลังให้ได้มากที่สุด แต่ตอนนี้พลังของเธอเริ่มกลับมาแล้ว และอยากออกไปวิ่งเล่นบ้างแล้ว เธอนั่งลงที่ระเบียงปล่อยลมหนาวปะทะที่ใบหน้าเธอจนกระทั่งหิมะสีขาวโปรยลงมาจากท้องฟ้ายามค่ำคืนไอควันสีขาวปกคลุมทั่วพื้นที่ ช่างเป็นภาพที่เธอคุ้นตาเสียเหลือเกิน

    ถ้าได้ออกไปวิ่งเล่นก็คงจะดีนะเธอกล่าวขึ้น และหลับลงเสียตรงระเบียง จนกระทั่งเวลาเช้ามาถึง หิมะสีขาวปกคลุมไปทั่วบริเวณ รวมถึงร่างของชิโระยูกิ หญิงสาวตื่นขึ้นมาโดยมีเศษหิมะติดเต็มเส้นผม พอดีกับอากาเนะที่เข้ามานำถาดอาการมาให้ เธอยังคงไม่ยอมพูดกับชิโระยูกิมากนักแม้ว่าหญิงสาวจะพยายามเท่าใดก็ตาม

    ข้าเอาอาหารเช้ามาให้”อากาเนะกล่าวด้วยน้ำเสียงที่นิ่งเรียบ

    ขอบคุณค่ะ แล้วดิฉันจะลงไปเล่นหิมะได้ไหมคะเธอถามขึ้น

    ไม่ได้หรอก ท่านไดกิไม่ได้สั่งเอาไว้ ข้าให้เจ้าออกไปไม่ได้หรอกอากาเนะตอบปัดไป

    แล้วดิฉันต้องรอท่านไดกิมาใช่ไหมคะ?”อากาเนะพยักหน้ารับ

    “แต่คงมิใช่เร็วๆนี้”

     ทำไมกันล่ะคะ?”เธอทำเสียงเศร้าสลด ปกติเขาจะแวะมาคุยกับเธอ อยู่ทุกวัน แม้ว่าจะไม่นานก็ตาม แต่เป็นสิ่งเดียวที่ทำให้เธอคลายความเหงาที่ต้องขังอยู่เดี่ยวๆในที่แห่งนี้ได้บ้าง

    ท่านไดกิป่วยน่ะ เขาไม่ชอบฤดูหนาวเท่าใดนัก และก็เขามีงานมากมายที่ต้องทำหญิงรับใช้เลี่ยงที่จะบอกให้อีกฝ่ายรู้

    ดิฉันไปเยี่ยมได้ไหมคะ?”

    ไม่ได้!!”ชิโระยูกิทำหน้าสลดลงเมื่อได้ฟัง และมองอีกฝ่ายจากไป ชิโระยูกิลงมือทานอาหารซึ่งเธอรับประทานได้มากยิ่งขึ้นจากตอนแรกนิดหน่อย ร่างบางยังคงรอคอยให้ชายหนุ่มแวะมาหาเธอแต่ก็ผิดหวัง เพราะเขาไม่เคยมาหาเธอ เสียงเจื้อยแจ้วของเด็กน้อยดังขึ้นที่ลานด้านล่าง การาสุเทนกุตัวน้อยสิบกว่าตัวกำลังเล่นหิมะกันอย่างสนุกสนาน ร่างบางได้แต่ยืนมองเท่านั้น ก่อนจะแอบย่องไปเปิดประตูออกช้าๆ คาบูโตะที่ยืนเฝ้าประตูอยู่หันขวับมามองเธอ

    จะออกไปไหน!!!”คาบูโตะกล่าวด้วยเสียงอันดังจนอีกฝ่ายตกใจ

    ดิฉันอยากไปเล่นหิมะได้ไหมคะ?”

    ไม่ได้ ท่านไดกิห้ามไม่ให้เจ้าออกมาร่างบางปิดประตูลง และเดินไปที่ระเบียง ก่อนจะยืนดูเด็กน้อยเล่นกันอย่างสนุกสนาน เธอมองด้วยความละห้อยนักอยู่นานจนลืมไปแล้วว่านานเท่าใด กระทั่งประตูห้องของเธอเปิดออกอีกคราหนึ่ง ซึ่งก็คืออากาเนะ 

    “ท่านไดกิอนุญาตให้เจ้าออกไปเที่ยวเล่นได้ แต่ห้ามเข้าห้องของท่านไดกิเด็ดขาด”ชิโระยูกิพยักหน้าด้วยความดีใจ และรีบออกไปจากห้อง แต่ก็หยุดวิ่งก่อนจะถามอากาเนะด้วยความสงสัย

    “แล้วท่านไดกิอยู่ไหนคะ ดิฉันอยากคุยกับเขาค่ะ”

    “ท่านไดกิเข้าสู้ห้วงจำศีลแล้ว จะตื่นอีกทีก็ตอนฤดูใบไม้ผลิมาเยือน”ร่างบางชะงักไปเมื่อได้ฟัง แปลว่าเธอจะไม่ได้เห็นเขาเลย ชิโระยูกิมีสีหน้าสลดลง เธอแต่เดินไปด้านนอกคฤหาสน์ และรู้สึกถึงความเย็นสบายนักและเดินไปหาเด็กน้อยทั้งหลาย

     เล่นกันสนุกไหม?”ชิโระยูกิโบกมือกลับและถามขึ้น

    สนุกขอรับ ท่านยูกิอนนะมาเล่นด้วยไหมขอรับสึบาสะถามขึ้น

    ฉันคงเล่นด้วยได้ไม่นานหรอก  แต่จะเล่นลูกเล่นอะไรให้ดูนะเธอโกยหิมะขึ้นมาและโปรยลงไปยังที่พื้น หิมะนั้นสลายไปกลางอากาศและเกิดแสงระยิบระยับสวยงาม เกล็ดหิมะรูปร่างสวยงามกระทบแสงแดดจ้าจนเกิดประกาย เหล่าการาสุเทนกุตัวน้อยดูด้วยความตื่นเต้น

    สวยจัง~”ไอกล่าวขึ้น ร่างบางยิ้มออกมาเมื่อได้ฟัง และเนรมิตรมงกุฏแก้วใสขึ้นมา ส่งเสียงฮือฮาแก่ผู้พบเห็นมากนัก

    โห สุดยอด!!!”ทุกคนต่างตาค้างเพราะพวกเขาก็เหมือนอีกาที่ชอบของระยิบระยับ  แม้หญิงสาวจะเห็นเป็นเรื่องปกติที่ยูกิอนนะทำกันก็ตามที เธอส่งดอกไม้น้ำแข็งเหล่าให้เด็กน้อย ที่มองของระยิบระยับด้วยสายตาที่ชื่นชอบ และดูตื่นตาตื่นใจนัก

    ท่านยูกิอนนะใจดีจัง ขอบคุณขอรับหญิงสาวยิ้มให้

    “พวกเธอไม่กลัวฉันหรอ”ชิโระยูกิถามออกมา และถามทุกคนๆที่อยู่ตรงนั้น

    “พวกข้าคิดว่าท่านจะทำให้ท่านไดกิมาความสุขได้ หากท่านเป็นท่านมายุแล้วล่ะก็ ท่านก็คือนายหญิงของพวกเรา และก็ท่านมายุยังเคยช่วยการาสุเทนกุไว้ด้วย แม้ว่าท่านจะเป็นยูกิอนนะแต่ข้าเชื่อว่าท่านคงไม่ทำร้ายพวกเราหรอก”แม้ประโยคหลังจะดูไม่ค่อยมั่นใจก็ตามที ชิโระยูกิก็ยิ้มออกมา

    “ดิฉันไม่ทำร้ายพวกท่านหรอกค่ะ”เธอกล่าว และโบกมือลา ก่อนจะเดินไปมองลานหิมะรอบๆ และอยากให้เขามาเล่นหิมะด้วยกันกับเธอจัง ว่าแล้วก็แอบไปเยี่ยมเขาดีกว่า ร่างบาง กลายเป็นเกล็ดหิมะไปและลอยขึ้นกลับไปด้านบน แต่เลือกไปปรากฏตัวที่ระเบียงห้องของท่านไดกิ หญิงสาวแอบเลื่อนประตูเลื่อนอย่างเบามือเข้าไปข้างใน เพื่อไม่ให้การาสุเทนกุทั้งสองที่เฝ้าประตูหน้าห้องรู้ตัว  และมองห้องนอนใหญ่ด้วยความตื่นตาตื่นใจ ห้องนอนนั้นปิดเงียบ ก่อนเธอจะเดินไปที่ส่วนที่กั้นม่านเอาไว้อย่างดี  และค่อยๆแง้มดูภายในม่านไม้ไผ่นั้น เธอเห็นร่างที่ซีดเซียวนอนสงบนิ่งอยู่บนเตียง ร่างของเขาหายใจเข้าออกช้าๆเป็นจังหวะ ถึงตอนนี้เธอกลับรู้สึกสงสารชายหนุ่มนัก ร่างบางก้าวเข้าไปในม่านนั้นและยืนอยู่ข้างเตียง ดวงตาสีเงินมองเห็นผ้าพันคอสีขาวคล้องคอเขาอยู่ มือกำยำจับผ้าพันคอแน่น และโต๊ะข้างเตียงมีปิ่นปักผมวางอยู่ สีหน้าของเขาดูไม่สู้ดีนัก ร่างบางนั่งลงข้างๆ นึกอยากจะช่วยเขาได้บ้างถ้านางเป็นมายุก็คงจะดีเธอกุมมือชายหนุ่มช้าๆ

    ดิฉันจะมาเยี่ยมท่านไดกิบ่อยๆนะคะ ท่านไดกิต้องเหงามากแน่ๆเลยอยู่คนเดียวตลอดหน้าหนาวเช่นนี้ดิฉันจะมาหาท่านไดกิทุกวันเลยเธอสัญญากับเขา หญิงสาวนั่งลงข้างเขาและมองชายหนุ่มอย่างเงียบงัน มือเรียวลูบใบหน้าที่นอนหลับตาอยู่ เขาเองก็ดูไม่มีความสุขเสียเลย ถ้ากำลังฝันร้ายอยู่แล้วจะทำเช่นไรดี คงเป็นฝันร้ายที่ยาวนานมากแน่ๆ

    ท่านไดกิคงไม่ได้นึกถึงชิโระยูกิคนนี้เลยสินะคะเธอฝืนยิ้มออกมา แน่นอนว่าในใจของเขามีแค่มายุเท่านั้น ทำไมทุกคนต้องการเปลี่ยนเธอให้กลายเป็นคนอื่นไปเสียได้ และนี่คือความรู้สึกที่เธอมีต่อเขามาตลอด

    ถ้าฉันยอมทิ้งความเป็นตัวเองไปทั้งหมด กลับมาเป็นมายุของเขาจะดีไหมนะ เขาคงมีความสุขมากแน่ๆ ถ้าเพื่อรอยยิ้มของเขาล่ะ ฉันควรจะทำเช่นไรดี แล้วถ้าฉันฝืนตัวเองมากไปล่ะ ฉันก็คงไม่มีความสุขเหมือนกัน แต่ถ้าได้รอยยิ้มของเขาตอบแทนล่ะมันจะคุ้มค่าไหมนะ

    “ดิฉันเหงาเหลือเกินท่านไดกิ แต่ก่อนดิฉันไม่เคยรู้จักความเหงา ดิฉันยืนอยู่ที่บนภูเขาหิมะอย่างโดดเดี่ยวมาตลอด ไม่มีใครมาคุยด้วย แต่ว่าพอได้มาพบคนอื่นๆก็ได้รู้จักความรู้สึกมากมายมากขึ้น และคงมีอีกหลายอย่างที่ดิฉันไม่รู้จัก แต่อยู่กับท่านไดกิแล้วดิฉันมีความสุขจริงๆนะ รู้สึกว่าที่นี่ปลอดภัยมากกว่าที่ที่ดิฉันจากมา ท่านไดกิคะรีบตื่นมาเล่นหิมะกับดิฉันได้ไหม? ดิฉันเหงามากๆเลย”เธอแนบใบหน้าที่เย็นเฉียบของเธอลงที่ฝ่ามือใหญ่ของเขาก่อนร่างของเธอจะกลายเป็นปุยหิมะสีขาวและลอยออกไปจากห้องในที่สุด ชิโระยูกิคิดไว้แล้วว่าเธอจะแอบมาเยี่ยมเยียนเขาทุกๆวัน แม้ว่าอาจจะถูกทำโทษก็ตาม

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×