ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fic EXO] Silently::ไซเลนท์ลี่ CHANBAEK

    ลำดับตอนที่ #41 : Silently XXXI::ความรักทำให้โลกหมุนไป [100%] --เห็นฉันไหม?--

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 3.06K
      9
      12 ต.ค. 56

    Silently XXXI

    ความรักทำให้โลกหมุนไป

    Author : Wi Lyn


     

     

     

     

    Love makes to world go round

     

    ความรักทำให้โลกหมุนไป




     

    ประเทศอังกฤษ ตั้งอยู่ในทวีปยุโรป มีประชากรโดยประมาณ 64,000,000 ล้านคน

    ประเทศเกาหลี ตั้งอยู่ในทวีปเอเชีย มีประชากรโดยประมาณ 50,000,000 ล้านคน

     

    ใช้เวลาเดินทาง 17 ชั่วโมง ในการข้ามทวีป

     

     

     

    “สัญญานะว่าจะติดต่อมา สัญญานะว่าจะไม่มีคนอื่น สัญญานะว่าจะรักฉันคนนี้คนเดียว สัญญานะว่าจะต้องบินกลับมาดูฉันแข่งทุกนัด สัญญาด้วยหัวใจของนายนะแบคฮยอน”

    Park Chanyeol

     

     

    “สัญญาว่าจะติดต่อหานายทุกวัน สัญญาว่าฉันจะมีสายตาเอาไว้มองแค่นาย สัญญาว่าจะใช้หัวใจดวงนี้รักนายเพียงคนเดียว สัญญาว่าจะบินกลับมาดูนายแข่งทุกนัด(ถ้ามีเงิน) สัญญาด้วยหัวใจและชีวิตของแบคฮยอน”

    Byun Baekhyun

     

     

     

     

     

    ฉันมั่นใจว่าระยะทาง จะไม่ทำให้เราสองคนหมดรักกัน








     

    “เรียน นักศึกษา บยอนแบคฮยอน

     

    ทางมหาวิทยาลัยใคร่ขอมอบทุนการศึกษาในการศึกษาต่อในระดับปริญญาโท สาขา สังคมสงเคราะห์ ให้แก่นักศึกษา บยอนแบคฮยอนที่ผ่านการทดสอบข้อเขียนด้วยคะแนนอันดับหนึ่ง เดินทางไปศึกษาต่อ ณ ประเทศอังกฤษ นักศึกษากรุณาเตรียมเอกสาร...................................”

     

     

    เนื้อความในจดหมายทำให้ผมดีใจได้เพียงชั่วครู่ชั่วยามเท่านั้น เมื่อตระหนักได้ว่าอังกฤษ ประเทศที่มีประชากรมากมาย หลากหลายเชื้อชาติ ประเทศที่อยู่อีกซีกโลกหนึ่ง ประเทศที่ต้องใช้เวลาเดินทางข้ามวันข้ามคืน ประเทศที่ไม่มี......

     

     

    ปาร์ค ชานยอล

     

     

    “ไอ้หมา เอาไงอ่ะ? ทุนนี้อย่าโกหกฉันว่านายไม่ได้หวังกับมันมาตั้งแต่แรก” เทาแย่งจดหมายตอบรับไปอ่าน ก่อนจะไล่สายตาดูทุกบรรทัดแล้วเอ่ยขึ้น

     

    ใช่...

     

     

    ผมหวังกับมันไว้มาก หวังว่าทุนนี้จะทำให้ผมมีโอกาสในการศึกษาต่อ เอาวิชาความรู้ทั้งหมดมาช่วยเหลือคนอื่น

     

    แต่ตอนนี้...มีเหตุผลบางอย่าง เอ๊ะ!เรียกว่าบางคนจะถูกกว่า บางคนที่ทำให้ผมลังเล บางคนที่ทำให้ผมลืมไปเสียสนิทว่าตัวเองเคยต้องการทุนนี้มากแค่ไหน

     

     

    “นี่ แบคไม่เห็นต้องเอาอนาคตไปขึ้นอยู่กับใครเลยนี่นา ทุนนี้มีกี่คนที่แย่งกัน แบคเองก็รู้ดี ในเมื่อเขาให้โอกาสนี้กับเรา ทำไมต้องลังเล” คยองซูโพล่งขึ้นมาทั้งๆที่ยังเคี้ยวขนมเต็มแก้ม

     

    เทาจึงดีดนิ้วใส่แก้มตุ่ยนั้นดังเป๊าะ จนคนตัวเล็กเบ้หน้าเพราะความเจ็บทันที แต่น่าแปลกที่คยองซูกลับนิ่งไม่ด่าตอบโต้ ทำเพียงแค่อมยิ้มน้อยๆกับตัวเองเท่านั้น

     

    “ฉันพนันได้เลยว่าถ้าชานยอลมันรู้ว่านายได้ทุนนี่ล่ะก็ มันจับนายล่ามโซ่แล้วขังไว้ในบ้าน ชัวร์” แม้จะรู้ว่าสิ่งที่เพื่อนตัวสูงพูดเป็นเพียงแค่การเปรียบเทียบ แต่ผมก็อดคิดมากไม่ได้

     

     

    ความรักกับเรื่องของอนาคต...

     

    บางที...ตอนนี้เราสองคนอาจไม่ต่างกัน ชานยอลไปทำตามความฝันของตัวเอง แล้วถ้ากลับกันล่ะ?

     

    ถ้าเป็นผมที่เลือกรับทุนแล้วบินไปอีกซีกโลกนึงล่ะ...

     

    ระยะทางที่ยิ่งห่างกัน มันไม่ได้ทำให้ความเชื่อใจถูกบั่นทอน สำหรับผม ผมคิดอย่างนั้น...

     

    แต่ระยะทางมันไกลมากจนผมไม่แน่ใจว่าความรักและความคิดถึงมันจะส่งไปถึงคนอีกซีกโลกหนึ่งหรือเปล่า?

     

    หากเราสองคนต้องแยกย้ายกันใช้ชีวิตขึ้นมาจริงๆความสัมพันธ์เช่นวันนี้ มันจะยังคงอยู่เหมือนเดิมไหม?

     

    หรือ...มันจะแตกหักเพราะตัวเราที่ไกลกัน

     

     

    ผมตอบไม่ได้จริงๆ

     

    20%


     

     

    “หมา วันนี้ที่นัดกันตอนเย็นขอยกเลิกนะ พอดีว่าช่วงบ่ายคยองซูจะไปหาแม่ที่บ้านเกิด ฉันเลยจะขับรถไปส่งแล้วก็คงจะอยู่ค้างด้วยอ่ะ ไม่โกรธกันนะ” ความจริงเย็นวันนี้ผมกับเทามีนัดกัน แต่ก็ช่างมันเถอะ ตอนนี้ปล่อยให้เพื่อนได้ทำคะแนนน่าจะดีกว่า J

     

    ผมพยักหน้าแล้วยิ้มให้ ไม่มีเหตุผลที่จะโกรธเทานี่นา

     

     

    แต่เพราะไม่ได้วางแผนเอาไว้ว่าถ้าเพื่อนยกเลิกนัดจะไปที่ไหน? สองเท้าเลยได้แต่เดินเตะฝุ่นแบบไร้จุดหมาย รู้ตัวอีกทีก็พบว่าตัวเองมายืนอยู่ที่มหาวิทยาลัยของชานยอลแล้ว

     

    อะไรกัน!จะมาถึงนี่โดยที่ไม่รู้ตัวเนี่ยนะ?

     

    แบคฮยอนก็ได้แค่คิดในใจเท่านั้น เพราะสุดท้ายพอสองเท้าก้าวมาถึงที่ ใจดวงน้อยมันก็สั่งห้ามไม่ให้หันหลังกลับ

     

    ตอนนี้คนตัวเล็กเลยเอาแต่กระโดดเหยงๆหวังให้พ้นรั้วกำแพงกั้นนี่ แล้วสุดท้ายก็กระโดดสำเร็จ เมื่อสองมือคว้าด้านบนสุดของกำแพงได้ ก่อนจะค่อยๆใช้เท้ายันกำแพงแล้วปีนขึ้นไป

     

    ศอกสองข้างถลอกปอกเปิก แต่เมื่อขึ้นมาพ้นเขตกำแพง วิวบริเวณสนามบอลก็ทำเอาคนตัวเล็กหายเจ็บเป็นปลิดทิ้ง

     

    ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกันว่าประตูทางเข้ามีทำไมไม่ใช้?

     

    ไอ้การที่แอบมาดูอีกคนซ้อมนี่ แล้วคนที่ว่าก็เป็นแฟน มันน่าแปลกตรงไหน? แต่....เพราะจดหมายตอบรับฉบับนั้น ที่ทำเอาร่างบางไม่กล้าแม้แต่จะมองหน้าชานยอล

     

    แบคฮยอนรู้ว่าชานยอลไม่เห็นด้วยกับทุนนี้ แม้คนตัวสูงจะไม่เคยพูดออกมาก็ตาม เพราะชานยอลกลัวว่า ถ้าวันหนึ่งแบคฮยอนได้ทุนนี้ขึ้นมา นั่นหมายถึง...

     

     

    คนสองคนต้องห่างกัน

     

     

     

    ระยะทางบั่นทอนความรักของคนสองคนมานักต่อนัก...

     

    หรือไม่จริง?

     

    ร่างบางยังคงยึดพื้นที่บริเวณกำแพงในการสอดแนมแฟนตัวเองซ้อมฟุตบอล แล้วก็ได้แต่ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่อยู่เพียงลำพังเมื่อแฟนตัวเองเลี้ยงลูกฟุตบอลได้อย่างคล่องแคล่ว

     

    ยิ่งเมื่อร่างสูงทำประตูได้ คนที่ปีนกำแพงก็แทบจะเก็บอาการดีใจเอาไว้ไม่ไหว J

     

     

     

     

     

    ชานยอลเก่งจริงๆ

     

    พอเวลาผ่านไปได้ 20 นาที แบคฮยอนก็เริ่มรู้สึกตัวว่าวิธีปีนกำแพงนี่มันไม่เวิร์คเอาเสียเลย แต่ตัดสินใจว่าจบเกมส์นี้ตนจะตรงกลับบ้านทันที

     

    ถ้าขืนมีใครมาเห็นว่ากำลังปีนกำแพงแอบส่องชานยอลล่ะก็ รู้ถึงไหนอายถึงนั่น -_-

     

    แต่แล้ว...พระเจ้าก็ไม่เข้าข้างคนที่มีประตูทางเข้าแต่ดันไม่ใช้...

     

    เมื่อเพื่อนร่วมทีมที่แบคฮยอนจำได้ว่าเป็นรุ่นพี่ของชานยอล หันมาทางด้านที่คนตัวเล็กเกาะกำแพงอยู่ แล้วก็หันไปสะกิดชานยอลให้หันมาทางต้นเหตุ

     

    ดวงตาคมโตของชานยอลที่แม้จะเห็นจากระยะไกลๆก็ทำให้คนถูกมองถึงกับแข้งขาอ่อนได้ แข้งขาอ่อนจน...

     

     

    ดอกยางรองเท้าหยุดทำงาน ไถลตกจากกำแพงน่ะสิ...

     

    แล้วก็ล้มก้นกระแทกพื้นในที่สุด ยกแขนสองข้างขึ้นดูก็พอว่าเป็นแผลถลอกรอยยาวแถมเลือดยังไหลออกมาไม่หยุดอีก เจ็บตัวจนได้

     

    อูยยยยยยย

     

    ขุดหลุมแล้วเอาหัวมุดดินแบบนกกระจอกเทศตอนนี้ทันไหม?

     

    พอตั้งสติได้ก็รีบพยุงตัวเองทันที แต่แล้วก็ต้องล้มก้นจ้ำเบ้าอีกครั้งเพราะความเจ็บบริเวณข้อเท้า อย่าซวยซ้ำสิ มันไม่ตลกเลยนะ!!!

     

    คนตัวเล็กได้แต่หงุดหงิดในใจ จนแสดงสีหน้าทั้งเจ็บปวดกับบาดแผลระคนกับสีหน้าหงุดหงิดตัวเองในที ทำไมซุ่มซ่ามไม่รู้จักจบจักสิ้นนะ!

     

    “ลุกไหวไหม? คุณแฟน เอ๊ะ!หรือคุณลิงนะ ปีนกำแพงเกาะแน่นเป็นปลิงเชียว ฮ่าๆๆๆ” แล้วเสียงทุ้มคุ้นหูก็ทำเอาแบคฮยอนอยากจะแตกตัวเป็นโกโก้ครันช์

     

    ร่างบางไม่หันไปตามเสียงเรียก ทั้งยังก้มหน้างุดด้วยความเขินอาย

     

    เขิน...ที่มาหาเขาแบบไม่บอกล่วงหน้า

     

    เขิน...ที่ดันแอบปีนกำแพงมองชานยอลซ้อม

     

    แล้วก็เขิน...กับสรรพนามคุณแฟนที่ร่างสูงใช้

     

    สรุปแล้ว ทุกอย่างที่เป็นปาร์คชานยอลทำให้บยอนแบคฮยอนเขินได้เสมอ J

     

    ชานยอลยืนยิ้มให้กับคนน่ารักเพียงครู่เดียว ก็ย่อตัวลงจับข้อเท้าร่างบางเบาๆเหมือนกลัวว่าถ้ารุนแรงข้อเท้าเล็กนี้จะแตกหัก

     

    “เมื่อกี้ล้มแรงไหม? เจ็บรึเปล่า? ทีหลังอย่าทำแบบนี้นะ ดูสิ แผลเต็มไปหมดเลย” ชานยอลจับข้อเท้าพิจารณาบาดแผล แล้วก็จับแขนสองข้างพลิกไปมาสำรวจความเสียหาย

     

    “ตอนเห็นนายตกลงไป ตกแทบแย่เลย ดีนะที่ศีรษะไม่กระแทกพื้น เฮ้อ!แบบนี้แหละน้า ชานยอลถึงอยากอยู่ใกล้ๆแบคฮยอนตลอดเวลา J ดูสิ เจ็บตัวให้ต้องทำแผลไม่เว้นเลย”

     

    ร่างสูงพูดด้วยน้ำเสียงเป็นห่วงในประโยคแรก แล้วก็ผ่อนคลายเป็นล้อเล่นในประโยคหลัง แต่สัมผัสแผ่วเบาบริเวณข้อเท้า ร่างรับรู้มันได้ด้วยหัวใจ

     

    ว่ามันช่างอ่อนโยนเหลือเกิน...


     

    40%

     

     

    “ป้ะ เดี๋ยวชานยอลสุดหล่อจะอุ้มแฟนไปส่งบ้านซะหน่อย ขาแพลงแบบนี้ยังไงก็กลับเองไม่ไหว” ชานยอลไม่พูดเปล่าย่อตัวลงแล้วดึงข้อมือแบคฮยอนเป็นเชิงเร่ง

     

    “เร็วสิ จะได้กลับบ้านไปทำแผล ขี่หลังอ่ะขี่หลัง” ชานยอลว่าแล้วก็ตบไหล่ตัวเองปุๆ

     

    แบคฮยอนส่ายหน้าแถมยังรั้นจะกลับเองท่าเดียว ชานยอลก็เข้าใจว่าอีกคนดื้อไม่เชื่อฟัง ทั้งที่ความจริงแล้ว...

     

    เหตุผลก็มีแค่ กลัวชานยอลจะเหนื่อยเปล่าๆเท่านั้นเอง...

     

    แต่เพราะแบคฮยอนกลัวว่าชานยอลจะเข้าใจเจตนาของตนเองผิดไป ร่างบางคว้ากระเป๋าจากไหล่คนตัวสูงก่อนจะหยิบแผ่นสีขาวบางๆออกมาจากกระเป๋า

     

    ไม่ใช่กระดาษเถอะ!!!

     

    เขาเรียกว่าไอแพดเถอะ!!!

     

    “เฮ้ย!ไฮโซอ่ะ เดี๋ยวนี้ใช้ของแบบนี้ บอกมานะ หนุ่มที่ไหนสอยมาให้” ชานยอลกอดอกปั้นสีหน้าเป็นเด็กเอาแต่ใจ จนแบคฮยอนหลุดหัวเราะ

     

    “แหนะ!มีหัวเราะใส่ ตอบมาซะดีๆว่าใครให้มา” แบคฮยอนก้มหน้าก้มตาจิ้มๆไถๆไปบนไอแพดก่อนจะส่งมันให้ชานยอล

     

    คริสซื้อให้

     

    แล้วชื่อเพื่อนตัวดีก็ทำเอาชานยอลถึงกับกระฟัดกระเฟียด คนนึกสนุกอยากจะแกล้งก็เลยเล่นละครต่อทันที

     

    คริสใจดีมากเลยนะชานยอล พาไปเลี้ยงข้าวบ่อยมากเลย พาไปดูหนัง พาไปเที่ยว พาไปซื้อของสารพัดเลย

     

    แล้วข้อความสรรเสริญเยินยอคริสก็ตามมาเป็นพรวน จนชานยอลอดที่จะโมโหไม่ได้ แบคฮยอนชมมันขนาดนี้ อย่าบอกนะว่าหลงคารมเสี่ยวๆมุ้งเตี่ยวๆของมันอ่ะ?

     

    ชานยอลล้วงโทรศัพท์มือถือในกระเป๋ากางเกงออกมา สไลด์ปลดล็อคแล้วไล่หาเบอร์โทรเพื่อนตัวปัญหาคนดังกล่าวทันที

     

    ปลายสายก็ไม่ปล่อยให้รอนาน เสียงรอสายดังเพียงสองครั้งก็มีคนกดรับเหมือนรู้หน้าที่

     

    “ไงมึง มีส้นตีนอะไรไม่ทราบ?” คริสรับสายด้วยน้ำเสียงงัวเงียเหมือนยังไม่ตื่นหรือมันเพิ่งนอนก็ไม่รู้

     

    “มึงแหละมีส้นตีนอะไรกับแฟนกูไม่ทราบ? ฮะ!” ใส่ได้ก็ใส่สิครับ ยั้งทำเพื่อ?

     

    “อะไรของมึง โดนบอลเตะอัดหน้ามาหรอ? ใครไปยุ่งกับแฟนมึง พูดให้ดีๆนะ” ปลายสายจากที่ตอนแรกรับสายด้วยน้ำเสียงงัวเงีย ก็เริ่มจะจับต้นชนปลายไม่ถูกแล้วเหมือนกัน

     

    “ก็มึงอ่ะ...แม่ง พาแฟนกูไปเที่ยว ซื้อของให้ พาไปกินข้าว ดูหนัง เห็นกูไม่อยู่แล้วมึงจะตีท้ายครัวหรอ?” เพราะร่างสูงที่เอาแต่โมโหจนไม่สังเกตเห็นว่าคนตัวเล็กข้างกายกำลังยกมือขึ้นมาปิดปากกลั้นเสียงหัวเราะ

     

    “บ้านมึงสิ! กูจะเอาเวลาไหนไปทำอย่างที่มึงบอก คนของกูก็มี จะไปยืมของมึงมาทำซาก? อีกอย่างนะไอ้สัส นึกดีๆว่ากูไปเฝ้าจุนมยอนแทบจะทุกวัน” คำถามของอีกฝ่ายทำให้ร่างสูงชะงัก

     

    หันมามองคนตัวเล็กข้างกายก็เข้าใจสถานการณ์ทันที...

     

    “ไอ้ห่านี่ หึงไม่รู้เวล่ำเวลาเลยนะ มึงก็เห็นว่ากูไปขลุกอยู่กับทีมมึงทุกวัน วันละ 24 ชั่วโมง มึงจะให้กูส่งร่างอวตารไปตีหม้อแฟนมึงรึไง? คิดสิเพื่อนครับ คิดสิๆๆ” ด่าเสร็จมันก็วางสายทันทีเลยครับ

     

    โดนสั้นๆแต่ทำไมมันเจ็บจังเลย TT

     

    “แกล้งกันใช่ไหม?” พอวางสายจากเพื่อนสนิทก็หันมาเอาเรื่องกับคนข้างกายทันที ร่างบางพยักหน้าพร้อมทั้งยิ้มหวานให้แบบไม่เดือดร้อน

     

    “ตกลงใครซื้อไอ้กระดานชนวนนี่ให้?” ชานยอลเข้าโหมดดาร์กทันที เล่นเอาคนตัวเล็กถึงกับหดคอสำนึกผิด โดยไม่รู้ว่าอีกฝ่ายแค่ตีหน้าดุแกล้งเอาคืนก็เท่านั้น

     

    ม๊าครับผมแบคฮยอนจิ้มๆไปที่ไอแพดอีกครั้งแล้วก็ชูข้อความที่พิมพ์ให้ผมดู

     

    “แล้วไปนะ ว่าแต่? ม๊าซื้อให้เนื่องในโอกาสอะไรครับ?” ชานยอลก้มตัวลงไปผูกเชือกรองเท้าให้ผมเมื่อเห็นว่ามันหลุดอยู่ข้างหนึ่ง

     

     

    ผมได้แต่มองตามร่างสูงที่ตั้งหน้าตั้งตาผูกเชือกรองเท้าให้อย่างประณีต จะบอกยังไงว่าม๊าซื้อให้เพราะสอบชิงทุนไปเรียนต่อที่อังกฤษได้...

     

    จะบอกเขายังไง?

     

     

     

    ม๊าบอกว่าซื้อให้เนื่องในโอกาสที่แบคฮยอนเกิดมาหน้าตาน่ารักไง J คนตัวเล็กพิมพ์ข้อความในไอแพดแล้วก็ส่งให้ชานยอลดู

     

    พอคนตัวสูงเห็นข้อความก็เบะปากยี้ๆเพื่อหยอกคนตัวเล็กให้เดือดเล่นๆ “น่ารักหรอ? อ้วนขนาดนี้เนี่ยนะ?”

     

    พอได้ยินคำว่าอ้วนออกจากปาก มือเรียวก็ไวกว่าความคิดฟาดป๊าบลงกลางหลัง แถมตีศอกเข้าหน้าท้องแกร่งแบบไม่กลัวแฟนตัวเองจุกซักนิด

     

    “โอ๊ยย!แกล้งนิดแกล้งหน่อยเองนะ ทำไมมือหนักแบบนี้ล่ะ?” ชานยอลเอามือกุมท้องแล้วบิดไปมา มือหนักใช่เล่นเลยนะเนี่ย!

     

    พอเงยหน้ามองก็เห็นคนตัวเล็กแลบลิ้นปลิ้นตาใส่ อดไม่ได้ต้องเอื้อมมือไปดึงแก้มยุ้ยๆสองข้างนั้นเล่นไปมาด้วยความหมั่นเขี้ยว

     

    “คิดถึงมากนะ ได้เห็นหน้าแค่นี้ไม่กี่นาทีก็มีกำลังใจแล้วล่ะ” หยอกกันเล่นอยู่ดีๆคนตัวสูงก็เข้าโหมดหวานเสียอย่างนั้น

     

    เล่นเอาแบคฮยอนถึงกับเขินแก้มแดงลามไปหู ห้ามปากไม่ให้ยิ้มไปกับคำพูดเรียบๆแต่ชวนให้หัวใจพองโตของชานยอล

     

    60%

     

     

    3 วันแล้วที่แบคฮยอนเทียวไปหาชานยอลที่ค่ายเก็บตัว ก็เดิมๆอ่ะ ปีนกำแพงดูชานยอลซ้อม วันแรกก็เหมือนครั้งที่แล้วตกจากกำแพงก้มจ้ำเบ้า

     

    แต่พอเข้าวันที่สองเริ่มชำนาญ พอรู้ตัวว่าเริ่มเกาะไม่ไหวก็ทรงตัวแล้วชิงกระโดดลงก่อนที่จะไหลลงไป

     

    สามวันที่แอบมาหาชานยอลเงียบๆ ชานยอลไม่รู้ว่าสามวันมานี้แบคฮยอนมาแอบดูตนเองซ้อม แล้วก็เป็นสามวันที่แบคฮยอนเอาแต่ครุ่นคิดเรื่องทุนที่ตัวเองได้รับ

     

     

    ไม่กล้าบอกชานยอล...

     

     

    อีกหนึ่งเดือนกว่าชานยอลจะเสร็จจากการเก็บตัว แต่ถึงจะครบกำหนดสองเดือนชานยอลก็ยังคงต้องฝึกซ้อมเพื่อเข้ารับการคัดตัวเข้าทีมชาติอยู่ดี ยิ่งทางมหาวิทยาลัยที่อังกฤษเร่งมาเท่าไร ร่างบางก็ยิ่งกดดัน ประสาทกิน

     

     

    จะบอกยังไงให้ชานยอลเข้าใจ


    ถ้ารักกันจริงก็ต้องรอได้ใช่ไหม?

     

    ใช่...

     

    ถ้ารักกันจริงก็ต้องรอได้ แต่...

     

     

    ถ้าคิดถึงมากๆจะทำยังไงดีล่ะ?

     

     

    “ไอ้หมา นี่อะไร?” เทาเดินวนไปมา ค้นข้าวของเหมือนเด็กหาของเล่นซักชิ้น แล้วก็เจอเข้ากับซองจดหมายที่มีตราประทับของมหาวิทยาลัยที่อังกฤษ

     

    “กำหนดวันเดินทางแล้ว อาทิตย์หน้างั้นหรอ? อีกห้าวันเองนะเว้ย!” เพื่อนตัวสูงโวยวายทันทีที่ได้เห็นกำหนดวันเดินทางไปเรียนต่อของเพื่อนตัวเล็ก ทำเอาคยองซูที่คุ้ยขนมจากถุงซูเปอร์มาเกตอยู่ต้องเงยหน้าขึ้นมา

     

    “ไวชิบ! แบบนี้บอกไอ้หูกางมันยัง มันไม่ยอมแน่นอน” คยองซูพูดทิ้งท้ายแล้วก็หันไปสนใจห่อขนมของตัวเองต่อ โดยไม่สนสายตาเอือมระอาของเทาซักนิด

     

    ก็ไม่รู้จะบอกยังไงนี่นา ตั้งใจว่าใกล้วันคอยบอกแล้วก็ชิ่งไปเลยไง แบคฮยอนเลือกใช้วิธีเขียนใส่สมุดแทน

     

    เพราะเพื่อนตัวสูงเคยให้เหตุผลว่าเก็บไอ้ไอแพดไปใช้กับคนอื่นเถอะ เพราะสำหรับเทาแล้วการที่เพื่อนตัวเล็กใช้สมุดกับปากกามันดูเหมาะมากกว่าเยอะ

     

    “พูดงี้ได้ไง ไม่คิดถึงใจมันบ้างหรอ? ทิ้งมันไปดื้อๆ ให้มันรู้คนสุดท้ายก็ว่าแย่แล้วนะ นี่ยังจะชิ่งแอบหนีมันไปอีก เกินไปมั้งไอ้หมา ให้เวลาสิบวิ คิดใหม่” เทาดุรัวใส่เป็นชุดแล้วยกมือสองข้างขึ้นมาลดนิ้วนับถอยหลังเรื่อยๆ

     

    ก็ไม่รู้จะทำยังไงนี่นา ถ้าบอกตรงๆชานยอลก็อาจจะไม่ยอมให้ไป เพื่อนตัวสูงส่ายหน้าอีกครั้ง

     

    “ถามตัวเองดูให้ดี ว่าทุกวันนี้ที่ไม่อยากไปเนี่ย เพราะตัวนายเองหรือเปล่าแบคฮยอน เพราะนายไม่อยากไปจากมันเองหรือเปล่า?” คำพูดของเพื่อนตัวสูงหยุดความคิด ณ ช่วงเวลานั้นทั้งหมด

     

    ใช่

     

    ผมไม่อยากไปไหนไกลจากชานยอล

     

    แต่อีกเหตุผลหนึ่ง ผมอยากมีการศึกษาที่ดีกว่าเดิม

     

    ในอนาคตจะคอยแต่งอมืองอเท้ารับความช่วยเหลือจากคนอื่นอย่างนั้นหรอ? ผมอยากมีหน้าที่การงานเป็นของตัวเอง ไม่อยากให้ตัวเองต้องอยู่กับคำว่าภาระ

     

    ก็แค่นั้น...

     

    ก็ได้ ฉันจะบอกชานยอลเอง นายพูดซะฉันดูแย่ไปเลยนะ ไปไกลๆเลย เพื่อนตัวเล็กออกแรงดันเพื่อนตัวสูงด้วยอารมณ์ขัดใจ

     

    เทานี่มัน...รู้ทันแม้กระทั่งความรู้สึกนึกคิด

     

    น่ากลัว!!!

     

     

     

     

    วันนี้แบคฮยอนขอให้ชานยอลมากินข้าวเย็นกับที่บ้าน เพราะวันนี้แม่ชานยอลกับพี่ชานมีจะเข้าครัวทำอาหารชุดใหญ่ เลี้ยงลูกชายที่วันๆได้กินแต่ผักแต่หญ้า

     

    “แบคฮยอน ดูอกไก่ในเตาอบให้พี่ที ตอนนี้สุกหรือยัง?” พี่ชานมีตะโกนออกมาจากห้องนอนของลูกชายเพราะเรียกเท่าไรลูกชายตัวดีก็ไม่มีทีท่าว่าจะตื่น

     

    คนตัวเล็กเดินไปก้มๆเงยๆดูหน้าเตาอบ มองเห็นสีของเนื้ออกไก่เปลี่ยนเป็นสีทองสวยงามน่ารับประทานก็ปิดเตาอบแล้วเดินหาถุงมือกันความร้อน

     

    ร่างบางสวมถุงมือที่ใหญ่กว่าขนาดมือตัวเองก่อนจะหัวเราะคิกคักอยู่คนเดียวเพราะมันดูเทอะทะ ใช้มือที่อยู่ภายใต้ถุงมือกันความร้อนจับไปที่ราวหน้าเตาอบ

     

    ก่อนจะค่อยๆเปิดเตาอบออกช้าๆแล้วความร้อนสูงก็ตีเข้าหน้าจนต้องหันหน้าหนี แต่เพราะกลิ่นหอมของเครื่องเทศทำให้แบคฮยอนต้องกลืนน้ำลายลงคอด้วยความอยาก

     

    คนตัวเล็กจัดแจงวางถาดอกไก่ลงกับเคาเตอร์ในครัวแล้ววางทิ้งไว้ให้มันร้อนพอดี ก่อนจะถอดถุงมือแล้วเดินมาที่ห้องนั่งเล่นของบ้าน

     

    แต่ก็พบกับชานยอลที่ยืนนิ่ง แขนสองข้างทิ้งลงข้างตัวในมือถือกระดาษหนึ่งแผ่น กระดาษที่แบคฮยอนจำได้ดีเพราะหยิบมาอ่านวันหนึ่งไม่ต่ำกว่าสิบรอบ

     

    จดหมายแจ้งวันเดินทาง...

     

    “นี่อะไร?” ชานยอลหันมาเห็นแบคฮยอนยืนนิ่งก็เอ่ยปากถามทันที

     

    คนตัวเล็กจับน้ำเสียงของชานยอลได้ก็ยิ่งหวั่นใจ น้ำเสียงเย็นชา เคร่งขรึมที่เดาอารมณ์ไม่ได้ด้วยซ้ำว่าอยู่ในอารมณ์โกรธ หรือโมโห หรือผิดหวัง

     

    คนตัวสูงเห็นคนเป็นแฟนเงียบไปไม่ยอมตอบก็เดินเข้าไปประชิดตัวส่งกระดาษแผ่นนั้นให้แล้วถามด้วยน้ำเสียงเรียบด้วยคำถามเดิม

     

    “ฉันถามว่านี่มันอะไร? จดหมายแจ้งวันเดินทาง อังกฤษงั้นหรอ? จะบอกกันเมื่อไรแบคฮยอน จะบอกฉันเมื่อไร?” ชานยอลปากระดาษเจ้าปัญหาใส่แบคฮยอนแล้วก็เดินตึงตังขึ้นไปชั้นสองทันที

     

    สมาชิกในบ้านที่ได้ยินเสียงเอะอะโวยวายก็รีบวิ่งออกมาดูเหตุการณ์ เห็นน้องชายระเบิดอารมณ์ใส่แบคฮยอนที่ยืนนิ่งก้มหน้าจนคางชิดอกแล้วก็ได้แต่หวั่นใจ

     

    เรื่องของคนสองคน จะให้ใครไปก้าวก่ายก็มีแต่จะยิ่งยุ่งยากเข้าไปอีก...




    อาหารมากมายที่ทำเอาไว้รอต้อนรับแต่กลับไม่มีใครซักคนที่แตะต้อง บรรยากาศอึมครึมที่เกิดขึ้นตั้งแต่ชานยอลรู้เรื่องที่แบคฮยอนจะไปเรียนต่อที่อังกฤษยังคงวนเวียนอยู่ภายในบ้าน

     

    ชานยอลเก็บตัวเงียบอยู่ในห้องไม่ว่าแบคฮยอนจะเคาะประตูเท่าไรก็ไม่มีทีท่าว่าคนข้างในจะสนใจออกมาเปิด แบคฮยอนเคาะจนปวดนิ้วแต่มันคงเทียบไม่ได้กับหัวใจ

     

    ร่างบางไม่รู้ว่าควรโกรธตัวเองหรือโกรธชานยอลที่โมโหเรื่องไม่เป็นเรื่องดี แต่สุดท้ายแล้วคำตอบที่ได้ก็เพราะว่ารักคำเดียว

     

    ชานยอลโกรธก็เพราะคนรักของตัวเองไม่บอกเรื่องสำคัญ

     

    ชานยอลโกรธก็เพราะคนรักกำลังจะไปอยู่อีกซีกโลก

     

    ชานยอลโกรธ...เพราะตัวเองกำลังทำตัวงี่เง่ายื้ออีกคนไว้ด้วยความเห็นแก่ตัว

     

    ชานยอลโกรธก็เพราะรักแบคฮยอนมาก...

     

    แบคฮยอนกลัวว่าชานยอลจะหิวมากก็เลยเดินถือถาดอาหารขึ้นมาชั้นสอง เคาะประตูห้องเรียกก็เข้าอีหรอบเดิม ชานยอลไม่สนใจด้วยซ้ำแม้ว่าจะเคาะอยู่นานแค่ไหน

     

    สุดท้ายแบคฮยอนตัดสินใจวางถาดลงหน้าห้องชานยอลแล้วนั่งปักหลักรออยู่ตรงนั้น ให้มันรู้ไปสิว่าจะไม่ออกจากห้องเลย ยังไงคืนนี้ชานยอลก็ต้องกลับไปนอนที่ค่าย

     

    เวลาผ่านไปสามชั่วโมง ร่างบางนั่งหลับพิงประตูห้องอยู่นานเพราะรอจนร่างสูงที่อยู่อีกด้านของประตูจะยอมใจอ่อนฟังอะไรบ้าง แค่ซักนิดก็ยังดี

     

    ชานยอลเปิดประตูอย่างรวดเร็วทำให้แบคฮยอนที่นอนหลับพิงประตูแทบจะหงายหลังหัวฟาดพื้น ถ้าไม่ติดว่าชานยอลไวกว่าใช้มือรองศีรษะแบคฮยอนเอาไว้

     

    เลยกลายเป็นมือชานยอลเองนั่นแหละที่กระแทกลงกับพื้น...

     

    แบคฮยอนเห็นดังนั้นก็ตื่นเต็มตา จับมือร่างสูงขึ้นมาพลิกดูหน้าหลังว่าฟกช้ำตรงไหนหรือเปล่า? คนตัวสูงชักมือกลับทันทีแต่มีหรือที่แบคฮยอนจะปล่อยง่ายๆ

     

    บอกแล้วไง...ต่อให้ไล่ก็ไม่ไปหรอก J

     

    “มานั่งพิงประตูทำไม?” น้ำเสียงราบเรียบแต่แฝงความอ่อนโยนในทีทำให้แบคฮยอนน้ำตาไหล รู้สึกผิดไม่น้อยที่เก็บเรื่องสำคัญแบบนี้เอาไว้ให้ชานยอลรู้ทีหลัง

     

    “เฮ้ย!อย่าร้องไห้สิ ขอโทษๆๆๆ ชานยอลไม่โกรธแบคฮยอนแล้วนะ ไม่โกรธแล้ว” ร่างสูงพอเห็นคนตัวเล็กปากเบะเป่าปี่ก็ทำอะไรไม่ถูกไปพักใหญ่ สุดท้ายก็รั้งหัวทุยเข้ามากอดไว้แนบอก

     

    หากแบคฮยอนสังเกตใบหน้าชานยอลซักนิด ไอ้ขอบตาแดงๆที่ปรากฏอยู่บนใบหน้าคมคายนั่นก็บ่งบอกได้แล้วว่าไอ้ที่หายเข้าไปในห้องนานสองนานน่ะ

     

    นอนร้องไห้เสียใจเหมือนกันนั่นแหละ J

     

    “อย่าร้องนะ ความจริงแบคฮยอนไปไม่นานเลยเนอะ แป๊บเดียวก็กลับมาแล้วนี่นา” ชานยอลที่ใช้น้ำเสียงอ่อนโยนก็ยิ่งทำให้แบคฮยอนเสียใจ

     

    สู้ให้ร่างสูงตะโกนด่าโวยวายยังสบายใจกว่ามาทำอ่อนโยนแบบนี้เลย...

     

     

    “นี่ แต่ไปแล้วอย่าลืมกันนะ ติดต่อมาหาบ่อยๆบ้างล่ะ กินข้าวให้ตรงเวลา อากาศมันเย็นก็ใส่เสื้อผ้าอุ่นๆเข้าไว้ กินแต่อาหารดีๆนะอย่าให้รู้ว่ากินแต่บะหมี่เชียว” ร่างสูงโอบคนตัวเล็กเอาไว้แน่น ซึมซับสัมผัสทุกอย่างเอาไว้

     

    แม้จะรู้ว่าไม่ได้จากกันตลอดไปแต่มันก็อดใจหายไม่ได้อยู่ดี แม้จะรู้ว่าแบคฮยอนดูแลตัวเองได้แต่ก็ยังอดห่วงไม่ได้

     

    ไม่รู้ว่าไปอยู่ที่นั่นจะมีเพื่อนดีๆหรือเปล่า? ขออย่าให้แบคฮยอนเจอคนนิสัยไม่ดีเลยนะ แค่ชีวิตที่ผ่านๆมามันก็แย่พอแล้ว อย่าให้แบคฮยอนต้องเจออะไรร้ายแรงอีกเลย

     

    คนตัวเล็กกอดชานยอลเอาไว้แน่น ซบหน้าร้องไห้กับอกแกร่งจนเสื้อเชิ้ตของชานยอลเปียกเป็นวงใหญ่ ชานยอลลูบศีรษะแผ่วเบาเพื่อปลอบประโลม

     

     

    “อนาคตจะเป็นยังไงเรากำหนดมันไม่ได้ ตราบใดที่ชานยอลยังรักแบคฮยอน แล้วแบคฮยอนก็ยังรักชานยอล ก็พอแล้วเนอะ J” ร่างสูงพูดแล้วก็กระชับกอดแน่น

     

    ก่อนจะเชยคางร่างบางที่แก้มแดงสองข้างเปรอะไปด้วยคราบน้ำตา ใช้นิ้วเรียวยาวไล้ไปตามใบหน้าเพื่อเช็ดน้ำตา แต่มันกลับยิ่งทำให้ทำนบน้ำตาของร่างบางแตก

     

    “นี่ ร้องไห้เป็นเด็กๆไปได้ แบคฮยอนร้องไห้แบบนี้ ฉันก็ยิ่งห่วงมากกว่าเดิมสิ” ชานยอลหัวเราะแล้วบีบจมูกเล็กเล่นๆ

     

    คำที่แบคฮยอนอยากจะพูดให้ชานยอลฟังมากที่สุดในตอนนี้คงเป็นคำว่า “รัก”

     

    อยากให้ชานยอลได้ยินมันจะปากของเขาเอง อยากให้ชานยอลได้ยินคำนั้นด้วยเสียงของเขา ไม่ใช่ผ่านวิธีสื่อสารต่างๆเช่นที่ผ่านมา

     

    แต่มันก็ช่างยากลำบากเหลือเกิน...

     

    สิ่งที่พอแทนความรักทั้งหมดได้เสมอมาคือ การกระทำ

     

    ที่ไม่ว่าจะเป็นวันนี้หรือวันข้างหน้ามันก็จะยังเป็นตัวแทนความรักของแบคฮยอนตลอดไป

     

    ร่างบางกดริมฝีปากเล็กลงกับริมฝีปากหนา ส่งผ่านความรักด้วยภาษากาย หวังว่าร่างสูงจะรับรู้มันด้วยหัวใจและความรักทั้งหมดที่มีให้แก่กัน

     

     

     

    แม้คำว่ารักจะสำคัญ...แต่จะมีประโยชน์อันใด หากพร่ำคำว่ารักแต่ไร้ซึ่งการกระทำ

     

    บางครั้ง...การกระทำก็มีค่ายิ่งกว่าคำพูดทั้งหมด



     

    100%

     

     

     

    ขอโทษที่หายไปเลยนะคะ ช่วงนี้สอบแล้ว
    เครียดเล็กน้อย+อารมณ์ฟิคมันไม่มาเลยอ่ะ
    ยอมรับผิดแต่โดยดี

    แล้วที่เคยบอกว่าจะมาอัพเสาร์-อาทิตย์
    ต้องขอโทษที่ผิดสัญญา
    แล้วครั้งนี้ก็มาแบบไม่เต็มด้วย ช่วงนี้เครียดจนตันไปหน่อย
    ขอโทษรีดเดอร์ทุกคนที่ตั้งตารอจริงๆนะ

     

    ยังเปิดให้จองจนถึงสิ้นเดือนนะคะ ใครที่รัก #ฟิคเงียบ ก็มาสั่งกันนะ

    อย่าลืมว่ามีตอนพิเศษ 4 ตอนเชียว

     

    จองฟิค CLICK ดูรายละเอียดเลยค่ะ




     
     
     
    :)  Shalunla
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×