ลำดับตอนที่ #25
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #25 : ข่าวดังพาดหัวนสพ. คัลคัสซ่าบุกมาเฟียแลนด์! ส่งผลชิงช้าสวรรค์ขัดข้อง!(?)
Ch.23
ม้าหมุน ถ้วนหมุน รถไฟเหาะ เฮอริเคน คุ้นหูบ้างไม่คุ้นบ้าง มันเป็นชื่อของเครื่องเล่นขนาดใหญ่ในสวนสนุกแห่งหนึ่งที่ได้ชื่อน่าคิดว่ามาเฟียแลนด์
ท่ามกลางฝูงชน เด็กหนุ่มผมดำกับเด็กสาวผมม่วงเดินจับมือกันอย่างคู่รักหวานแหวว รอยยิ้มอันคมคายกับรอยยิ้มอันอ่อนหวานที่ส่งให้กันทำให้บรรยากาศรอบข้างมีแต่สีชมพูฟูฟ่อง...
กับผีแน่ะ!
ไม่รู้หรอกนะว่าอิมเมจการเดทในสวนสนุกของคนทั่วไปจะเป็นยังไง แต่สำหรับคนอย่างฮิบาริ เคียวยะนั้นมันไม่เข้าอย่างรุนแรงที่สุดในทางช้างเผือก ขนาดที่ว่าประเทศไทยยังวิวัฒนาการระบบการปกครองเป็น ‘นายกฯสองคน’ ซะก่อนจะเป็นไปได้
ผ่านจินตนาการอันสวยงามกลับสู่โลกแห่งความเป็นจริง
ก็จริงอยู่ที่เมฆาหนุ่มยอมตามหมอกสาวที่กำลังตื่นเต้นกับสภาพแวดล้อมที่แปลกใหม่ท่ามกลางแสงอาทิตย์ยามบ่ายไปทุกที่โดยไม่บ่น(มาก) แต่มันก็ต้องมีขีดจำกัดกันบ้าง เพียงแต่...ไม่รู้มันอยู่ตรงไหนเท่านั้นเอง
“เธอยังอยากทำอะไรอีกมั้ย?”
“ก็...” เด็กสาวนึกพลางมองไปรอบๆ เพื่อหาแรงบันดาลใจ แต่ยังไม่ทันจะได้ตอบ เสียงระเบิดก็ดังขึ้น
ตูม!! ตูม!!
เกิดการระเบิดขึ้นที่บริเวณชายหาดซึ่งมีเหล่ามาเฟียนอนอาบแดดหรือไม่ก็เล่นน้ำทะเลกันอยู่ ทำให้มีผู้บาดเจ็บล้มตายกันไม่น้อย
“เรือรบพวกนี้โผล่มาจากไหนกันเนี่ย!?” เสียงร้องตะโกนดังเซ็งแซ่ ทั่วทุกที่มีแต่ความโกลาหล
ทารกสวมหมวกกันน็อคยืนมองเหล่ามาเฟียที่กำลังแตกตื่นจากหัวเรือรบลำใหญ่ด้วยความบันเทิงใจ
“เป็นไงล่ะ [ม่านโปร่งใส] กับ [เรดาร์บาเรียร์] ของคัลคัสซาแฟมิลี่ ต่อให้เป็นเรือรบทั้งกองยังเข้าประชิดได้โดยอีกฝ่ายไม่รู้สึกตัว” อัลโกบาเลโน่เมฆาพูดจบก็ยกมือขวาขึ้นปรับสัญญาณวิทยุที่หมวก
“หน่วยที่หนึ่งรับผิดชอบพื้นที่ชายหาด บุกได้!”
กลุ่มคนจำนวนมากในชุดปฏิบัติการสีดำที่ปิดตั้งแต่หัวจรดเท้าไต่เชือกลงจากลำเรือที่เข้าเทียบชายหาดพร้อมกับเข้ายึดครองพื้นที่บริเวณนั้นอย่างรวดเร็ว
“หน่วยที่สองรับผิดชอบพื้นที่สวนสนุกด้านตะวันออก บุกได้!”
กองกำลังชุดดำอีกกลุ่มพากันกรูเข้าไปในสวนสนุก และปะทะกับเหล่ามาเฟียที่อยู่ในเขตนั้น เสียงปืนและเสียงระเบิดดังขึ้นอย่างต่อเนื่อง
“หน่วยที่สามรับผิดชอบพื้นที่สวนสนุกด้านตะวันตก บุกได้!”
จากเรือลำใหญ่ที่เข้าจอดขนาบอีกฝั่งของเกาะ กลุ่มคนชุดดำจำนวนมากเข้าปะทะกับกลุ่มมาเฟียภายในเกาะอีกครั้ง แต่ทางฝั่งตะวันตกนี้มีเอซชมรมมวยกับผู้สืบทอดเพลงดาบนกนางแอ่นอยู่
ฉัวะ! ฉัวะ! เปรี้ยง!
สปอร์ตแมนผู้ผันตัวเองไปเป็นนักดาบเข้าใช้สันดาบฟันศัตรูห้าคนพร้อมกันในคราวเดียว ในขณะที่กัปตันชมรมมวยของโรงเรียนมัธยมต้นที่ญี่ปุ่นใช้หมัดและฟุตเวิร์คล้วนๆ ล้มปืนและระเบิดได้
“แหม ที่นี่ชอบจัดจังเลยนะ อีเวนท์แบบนี้เนี่ย~ ^ ^” ยามาโมโตะเอ่ยหน้าระรื่น
“ยังไงก็น่าตื่นเต้นสุดขั้ว!!” ซาซางาวะ เรียวเฮประกาศด้วยแววตาที่ลุกโชน
“ท่านสคัล! หน่วยที่สามถูกจัดการไปกว่าครึ่งแล้วครับ! ขอกำลังเสริมด้วย!” หนึ่งในทหารชุดดำรายงานผู้บังคับบัญชา
“ว่าไงนะ!” ทารกสวมหมวกกันน็อคถึงกับสะดุ้ง แต่ยังไม่ทันหายตกใจดีข่าวใหม่ก็เข้ามา
“หน่วยสี่ถึงกองบัญชาการ! เรือของเรากับเรือของหน่วยที่ห้าถูกอาวุธหนักถล่มเป็นเศษเล็กเศษน้อยแล้วครับ!”
“ไม่มีทาง! เรือของเราเคลือบด้วยโลหะสะท้อนแรงระเบิด ต่อให้เป็นรถถังยังไม่ระคายผิว แล้วมันเกิดอะไรขึ้นกันแน่!” ทารกสวมหมวกกันน็อคนั่งแทบไม่ติด
ในพื้นที่ฝึกของเกาะแห่งนี้ บริเวณติดทะเล เรือรบสองลำเพิ่งจะกระจุยเป็นเศษเหล็ก ทุกคนต่างเห็นเป็นตาเดียวกันว่าเปลวไฟสีส้มขนาดใหญ่เป่าเรือทั้งลำให้หายไป ในขณะที่เรืออีกลำเกิดระเบิดขึ้นจากภายในพร้อมกับที่เด็กหนุ่มผมเงินหนีออกมา
“เป็นไงล่ะเจ้าพวกคัลคัสซา! กล้ามาแหยมกับวองโกเล่ก็ต้องเจอแบบนี้แหละ!” โกคุเดระยิ้มอย่างสะใจปนโมโห ซึ่งเสียงตะโกนนี้ก็ได้ยินไปถึงหูของสมาชิกคัลคัสซ่าบริเวณใกล้เคียงเข้า ข้อมูลนี้จึงไปถึงเจ้าของแผนการครั้งนี้ในที่สุด
บนเรือรบลำหลักซึ่งเป็นกองบัญชาการในการปฏิบัติการครั้งนี้ อัลโกบาเลโน่เมฆายืนเครียดกับแผนที่ผิดพลาดไปจากที่คิดไว้มาก ยิ่งจุกนมที่คอเปล่งแสงสีม่วงก็ยิ่งน่าหนักใจ เพราะมันหมายถึงว่าอัลโกบาเลโน่ไม่คนใดก็คนหนึ่งได้มาอยู่ที่นี่แล้ว
“หนอย~ เจ้าพวกวองโกเล่ ทำไมต้องมาเอาเวลานี้ด้วยนะ! แต่ถ้ายึดพื้นที่ชายหาดกับสวนสนุกเอาไว้ได้ก็ยังพอมีหวัง!”
ยังไม่ทันที่กุนซือคัลคัสซ่าจะเรียกกำลังใจกลับมาได้ วิทยุสื่อสารสายใหม่ก็เข้ามา
“นี่หน่วยสอง! แนวหน้าเราถูกทำลาย รักษารูปขบวนเอาไว้ไม่อยู่แล้ว! ขอคำสั่งถอยด้วย!”
“นี่มันบ้าอะไรกัน!?!”
ท่ามกลางกระสุนปืนและเสียงระเบิด การปะทะของคัลคัสซ่าและสหพันธมิตรวองโกเล่เป็นไปอย่างดุเดือด แต่สถานการณ์ห้าสิบ-ห้าสิบก็พลิกผลันโดยสิ้นเชิงเมื่อแมกม่าปะทุขึ้นจากใต้พื้นสวนสนุกย่างสดกองทหารชุดดำทั้งเป็น
“เฮ้ย! เปลือกโลกเคลื่อนตัว เกาะจะจมแล้วเหรอ!?” ใครบางคนที่ยังจำวิทยาศาสตร์ม.4ได้ร้องตะโกนออกมา
และท่ามกลางเสาลาวาที่พุ่งขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง ร่างในเสื้อคลุมสีดำเคลื่อนผ่านสนามรบอย่างรวดเร็วพร้อมทั้งทิ้งร่างของกองทหารชุดดำเอาไว้เกลื่อน
“บังอาจรบกวนความสงบสุขของฉัน โทษสถานเดียวคือตาย”
--
เรือรบลำใหญ่เพียงลำเดียวที่เหลืออยู่ล่าถอยกลับไปอย่างรวดเร็ว การจู่โจมไร้ซึ่งผลสำเร็จโดยสิ้นเชิง
“ทำได้ดีมาก สึนะ นายปกป้องสถานที่ของทุกคนเอาไว้ได้” ทารกชุดดำเอ่ยกับเด็กหนุ่มผมฟูผู้กำลังยืนมองเรือที่ล่าถอยกลับไปจากชายหาด
“ใช่แล้วครับ รุ่นที่สิบยังสุดยอดเหมือนเดิมเลย!” เด็กหนุ่มผมเงินคนนี้จะเอ่ยคำชมอีกซักกี่ครั้งก็ไม่ใช่เรื่องแปลก ส่วนผู้ถูกชมก็ได้แต่ยื้มเจื่อนๆ
“เยี่ยมยอดสมเป็นวองโกเล่!” “ใช่เลย! วองโกเล่ช่วยพวกเราเอาไว้อีกแล้ว!”
เหล่ามาเฟียที่รายล้อมเริ่มส่งเสียงเซ็งแซ่ ทำเอาเจ้าตัวทำอะไรไม่ถูก
“ฉลองให้วองโกเล่รุ่นที่สิบหน่อยพวกเรา!”
“วองโกเล่จงเจริญ!!!”
‘นนี่เท่ากับเราเพิ่งจะประกาศตัวเองเป็นบอสวองโกเล่ใช่มั้ยเนี่ย o_o;...’
--
ภายในสวนสนุก เหตุการณ์กลับสู่ปกติอย่างรวดเร็ว คงจะเพราะผู้คนที่นี่ต่างก็ชินกับเหตุการณ์แบบนี้ซึ่งเกิดอยู่เป็นเนืองนิตย์
เด็กหนุ่มผมดำกับเด็กสาวผมม่วงยืนอยู่ที่ศูนย์กลางของสถานที่เกิดเหตุ การปะทะจบลงไปแล้ว แต่เด็กสาวยังตื่นเต้นไม่หาย ผิดกับเด็กหนุ่มที่ยังคงใจเย็นดังเช่นทุกที
“ตัวน่ารำคาญไม่อยู่แล้ว เธอจะไปไหนต่อล่ะ?”
“ฉันเป็นห่วงบอสกับทุกคน เรากลับไปรวมตัวกันดีกว่านะคะ” โคลมเอ่ยด้วยความกังวล
“ซาวาดะ สึนะโยชิกับฝูงของหมอนั่นเอาตัวรอดได้สบายมากกับเรื่องแค่นี้” ฮิบาริเอ่ยอย่างมั่นใจ
“กก็คงใช่ค่ะ แต่...” ด้วยนิสัยของโคลมแล้ว คงไม่หายเป็นห่วงจนกว่าจะเห็นด้วยตาตัวเอง ฮิบาริจึงตัดสินใจในฉับพลัน
“ถ้าอย่างนั้นก็ไปที่นั่น” เขาชี้ไปที่เครื่องเล่นรูปร่างคล้ายล้อเกวียนที่หมุนตามเข็มนาฬิกาอย่างช้าๆ หรือจะให้เข้าใจง่ายขึ้น มันมีชื่อว่า ‘ชิงช้าสวรรค์’
“จะมองหาอะไรก็ต้องจากที่สูงถึงจะดี”
“งั้นก็ไปกันเถอะค่ะ” โคลมไม่รอช้า วิ่งนำหน้าไปก่อนทันที
เช่นเดิม ด้วยบัตรอภิสิทธิ์และไอสังหารจากประธานคณะกรรมการรักษาระเบียบแห่งโรงเรียนม.ต้น ทั้งคู่ได้ขึ้นโดยไม่ต้องรอคิว
กระเช้าเหล็กสีชมพูที่มีที่นั่งเป็นเบาะสีแดงหรูผิดกับที่สวนสนุกทั่วไปค่อยๆ เคลื่อนสูงขึ้นทีละน้อยในขณะที่เด็กสาวผมม่วงชะโงกหน้ามองหาเด็กหนุ่มผมฟูและผองเพื่อนจากกลุ่มคนนับร้อย
แทนที่จะช่วยโคลมมองหาบอสของเธอ สายตาฮิบาริกลับจับจ้องอยู่แต่ที่เด็กสาวผมม่วงซึ่งกำลังใช้งานตาทั้งสองข้างของเธออย่างสุดประสิทธิภาพ
ถ้านึกดูดีๆ แล้วนี่ก็เป็นครั้งแรกที่เขากับเธอได้อยู่กันสองคนอย่างสงบในระยะที่ค่อนข้างใกล้ชิดกัน ตลอดมาไม่ว่าจะที่โรงเรียนหรือที่บ้าน ก็ต้องมีงานหรือเหตุการณ์อื่นๆ มาดึงความสนใจของทั้งคู่ไป นี่เป็นครั้งแรกที่ไม่มีเรื่องอะไรมารบกวน
แต่สาเหตุจริงๆ ก็คือฮิบาริรู้สึกว่าตัวเองค่อยๆ ถูกดึงเข้าไปหาเด็กสาวผมม่วงผู้ใสซื่อบริสุทธิ์ดังสัตว์โลกตัวน้อยหรือทารกแรกเกิด
ความรู้สึกอันไม่คุ้นเคยที่ปรากฏขึ้นภายในจิตใจของเขานี้ที่เขาไม่รู้จัก คล้ายกับความรู้สึกเวลาที่เขามองนกขนปุยตัวน้อยของเขาแต่ก็ไม่เหมือนซะทีเดียว แต่ที่แน่ๆ คือมันเป็นความรู้สึกที่ทำให้เขารู้สึกอบอุ่น
“เห็นบอสกับคนอื่นๆ แล้วค่ะ!” เด็กสาวโพล่งออกมาเมื่อเธอพบเป้าหมาย ซึ่งแต่ละคนก็ดูจะปลอดภัยสดใสแข็งแรงปลอดโปร่งโล่งสบายปราศจากโรคภัยไข้เจ็บและแผลถลอกฉีกขาดพุพอง ทำให้เธอโล่งใจ
แกร๊ง! กึก!
แต่เสียงนั้นไม่ทำให้เธอสบายใจเลย ดูเหมือนว่าเธอจะตกเป็นเหยื่อของมุขโหลที่ชื่อว่า [ชิงช้าสวรรค์เสีย] เข้าให้เต็มเปา ไม่น่าเชื่อว่าคนเขียนจะกล้าเอามุขล้าหลังแบบนี้มาใช้
(R:ฉันไม่ได้ทำซะหน่อย อย่าปรักปรำกันดิ] DX:แล้วไอ้ไขควงกับแชลงในมือแกมันอะไรกันฟะ?)
“กเกิดอะไรขึ้นคะ!?” เธอลนลานถามคนเพียงคนเดียวที่อยู่ร่วมกระเช้าเดียวกับเธอ ซึ่งก็เป็นที่แน่นอนว่าเขาไม่ใช่วิศวกรจะได้ตอบคำถามเธอได้
“ก็แค่ความบกพร่องของพวกสัตว์กินพืชที่รับผิดชอบเจ้าสิ่งนี้เท่านั้นแหละ รอไปซักพักมันก็กลับเป็นปกติ” ฮิบาริเอ่ยอย่างใจเย็น แต่แฝงไปด้วยความหงุดหงิดที่ต้องมานั่งปล่อยเวลาให้ผ่านไปโดยเปล่าประโยชน์
“ค่ะ” โคลมเชื่อตามนั้น
‘ซักพัก’ ผ่านไป เป็น ‘ซักพัก’ ที่มีค่าเท่ากับสามชั่วโมง ดวงอาทิตย์ใกล้จะเสร็จสิ้นภารกิจในวันนี้ เหลืออีกแค่ครึ่งดวงเท่านั้น ไม่น่าเชื่ออีกว่าช่างในสวนสนุกอันดับหนึ่งอย่างมาเฟียแลนด์จะใช้เวลานานถึงขนาดนี้
(R:นั่นดิเนาะ ทำไมหว่า?] DX:...จะไม่ถามนะว่าที่ช๊อตไฟฟ้าในมือแกใช้ทำอะไร...)
ท่ามกลางอากาศที่เย็นลงเรื่อยๆ เด็กสาวได้แต่ลูบต้นแขนด้วยความหนาว เพราะชุดที่เธอใส่มาวันนี้มันปกปิดร่างกายเธอไม่มิดชิดเหมือนเสื้อเชิ้ตขาวและเสื้อคลุมดำของคนที่นั่งตรงหน้าเธอ ผู้ซึ่งจนบัดนี้ที่เห็นเธอแสดงอาการหนาวซะชัดแจ้งก็ยังไม่มีแม้แต่ความคิดที่จะให้เธอยืมเสื้อเหมือนพระเอกหนังไทยละครหลังข่าวเลยซักนิด
“หนาวเหรอ?” แต่เขาก็ยังมีใจจะถาม ซึ่งเด็กสาวผู้มีนิสัยเกรงใจจนเกินเหตุก็ได้แต่พยักหน้าตอบ
“มาทางนี้” ฮิบาริออกปากเรียกผู้ที่นั่งหนาวอยู่ฝั่งตรงกันข้าม ผู้ถูกเรียกลุกขึ้นอย่างงงๆ แต่ก็เดินเข้าไปใกล้อีกฝ่ายแต่โดยดี ไม่ได้คิดว่าเขาจะทำอะไร
เมื่อเด็กสาวเดินเข้ามาในระยะช่วงแขน เด็กหนุ่มก็เอื้อมมือออกไปจับแขนของเธอและดึงเข้าหาตัว
เมฆาหนุ่มดึงตัวหมอกสาวให้นั่งลงบนตักของเขาก่อนจะถอดเสื้อคลุมออกจากตัวและคลุมมันให้กับเธอ สองแขนโอบกอดเธอไว้หลวมๆ
โคลมรู้สึกถึงความอบอุ่นจากทั้งจากเสื้อที่คลุมตัวเธอเอาไว้และจากเด็กหนุ่มที่กอดเธอเอาไว้ แก้มของเธอเปล่งสีแดงระเรื่อด้วยความเขินอาย ในขณะที่เด็กหนุ่มคงสีหน้านิ่งเฉยเอาไว้ แต่แววตาของเขาอ่อนโยนไม่แข็งกร้าวเหมือนตัวตนเก่าที่ทุกคนรู้จัก น่าเสียดายที่เธอหันหลังให้จึงมองไม่เห็นดวงตาคู่นั้น
ใจของเด็กสาวสงบลง ความคิดและความกังวลทั้งหมดเหมือนจะละลายหายไป และไม่นาน เธอก็ผล็อยหลับไปในอ้อมกอดอันอบอุ่น
ฮิบาริกอดเด็กสาวมาตั้งแต่ดวงอาทิตย์ยังไม่ลับขอบฟ้าจนบัดนี้ดาวเต็มฟ้า แต่เขาก็ไม่รู้สึกรำคาญแม้แต่น้อย เวลาที่เขาได้อยู่ใกล้ชิดกับเธอมันทำให้ใจของเขาสงบอย่างที่ไม่มีใครทำได้
‘โคลม โดคุโร่ ทำไมเธอถึงทำให้ฉันรู้สึกแบบนี้’
จนป่านนี้แล้ว การซ่อมแซมก็ไม่มีทีท่าว่าจะเสร็จสิ้น จึงได้มีการใช้รถดับเพลิงยกบันไดเข้าย้ายผู้ที่ติดอยู่บนกระเช้าให้กลับลงมาก่อน และฮิบาริก็รู้ได้เมื่อประตูกระเช้าเปิดออกว่าถึงตาของพวกเขาแล้ว
ถึงแม้ในใจลึกๆ จะอยากอยู่อย่างนี้ต่อไปอีกซักพัก แต่เขาก็รู้จักว่าอะไรเป็นอะไร
ฮิบาริช้อนตัวเด็กสาวผมม่วงขึ้นอย่างระมัดระวังไม่ให้เธอตื่น ก่อนจะก้าวลงไปบนบันไดช่วยเหลือที่รถดับเพลิงส่งขึ้นมา
--
ที่อีกฟากของเกาะมาเฟียแลนด์ ท่ามกลางหุบเขาที่ปกคลุมด้วยความมืด เงาเล็กๆ เงาหนึ่งลุกขึ้นจากพื้น
“ตื่นอีกทีก็มืดเลยเรอะ วันนี้พักผ่อนได้เต็มที่ดีจริงๆ”
อีกเงาที่รูปร่างสูงกว่าลุกขึ้นตาม แต่ไม่พูดอะไร
“พื้นที่แถบนี้ดูเยินขึ้น เกิดอะไรขึ้นกันแน่นะ?” เจ้าของเสียงอันเล็กแหลมหยุดคิดไปพักหนึ่งก่อนจะตัดสินใจ
“พรุ่งนี้คงต้องเข้าไปดูในสวนสนุกซะหน่อยแล้ว รู้สึกเหมือนจะได้เจอเพื่อนเก่าด้วยล่ะเว้ยเฮ้ย” ทารกในชุดทหารพูดเมื่อเห็นจุกนมที่คอเปล่งแสง
--
R:”ยาวอีกแล้วแฮะตอนนี้”
DX:”ฉันว่าแกเลิกพูดเรื่องความยาวเถอะ พูดเรื่องมีสาระกว่านี้หน่อยดีกว่า”
R:”โอเค จากบรรทัดสุดท้ายทุกคนก็คงจะรู้กันแล้วว่า [56] ได้ปรากฏกายออกมาแล้ว นั่นเป็นเพราะคนเขียนได้วางบทบาทในเรื่องให้เป็นที่เรียบร้อยแล้วนั่นเอง ถึงจะได้เป็นแค่ตัวประกอบที่ออกเป็นช่วงก็เถอะ”
DX:”แกเน้นคำไม่เข้าท่า ระวังบ้านโดนบึ้มนะเฟ้ย”
R:”ไม่เป็นไร เดี๋ยวสร้างใหม่ก็ได้ รวย”
DX:”รวยอะไร?”
R:”รวยเงินนี่แหละ แต่รวยในจินตนาการ”
M:”คุฟุฟุ ถึงจะแค่ในจินตนาการ แต่ผมก็จะตามรังควานคุณให้เสียสติไปเลย”
R:”นายนี่ท่าจะเป็นเอามาก เป็นเจ้ากรรมนายเวรฉันแต่ชาติปางไหน บทนายฉันวางไว้ตั้งแต่สมัยแพะยังมีขาหลังเป็นครีบหางนู่น แต่มันอยู่ตอนท้ายๆ เท่านั้นเอง ไม่อยากเป็นรึไง ‘บอสใหญ่’ น่ะ หา?”
M:”โดยส่วนตัว ผมชอบปรากฏตรงนู้นตรงนี้อย่างสม่ำเสมอมากกว่านะครับ”
R:”งั้นโอเค เพิ่มไปอีกบท ‘สัปปะรดริมทาง’ ดูไม่ค่อยเป็นธรรมชาติ แต่ก็มากที่สุดเท่าที่จะให้ได้แล้ว”
M:”ไม่เอาแล้วครับ ขอกลับไปอยู่อย่างเดิมดีกว่า เดี๋ยวพอจบเรื่องของ [เดมอน สเปด] แล้วผมก็จะได้เป็นอิสระ”
R:”อ้อ ไอ้ภาคนั้นน่ะเรอะ เดี๋ยวใส่ๆ ไม่ต้องห่วงนะทุกคน ถ้าอยากให้พวก [เอนมะ] หรือ [อเดลไฮด์] ออกล่ะก็...คงต้องยกไปฟิคหน้า(ถ้ามีนะ) ฟิคนี้ตามการ์ตูนไม่ทันแล้ว”
--
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น