ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fic One piece] ความต้องการที่ไม่มีใครหยุดยั้งได้

    ลำดับตอนที่ #4 : [::ตอนที่ 3::] สารแต่งงาน มังกร ยาวิเศษ และหญิงสาวลึกลับ

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 1.21K
      14
      14 ต.ค. 55


    ::ตอนที่ 3::
    สารแต่งงาน มังกร ยาวิเศษ และหญิงสาวลึกลับ



     
              ตอนนี้ตะวันละขอบฟ้านานแล้ว ท้องนภาแปลเปลี่ยนเป็นสีแห่งรัตติกาล ทั่วบริเวณทางเข้าเมืองเต็มไปด้วย
    แสงไฟเหมือนหิงห้อยยามราตรี
     
              "ฟังให้ดีนะ พวกนายจะต้องถูกสอบสวนประวัติแล้วก็เหตุผลการเข้าเมืองเป็นรายบุคคล ตรงนี้จำไว้ให้ดี ขอแค่พวกนายพูดความจริงทั้งหมดก็พอ แล้วก็อย่าไปพูดหยาบคายหรือใช้ความรุนแรงกับคนให้สัมภาษณ์ล่ะไม่งั้นถูกจับไปลงโทษหรือไล่ตะเพิดแน่...และที่สำคัญที่สุด ฟังให้ดีนะ ห้ามพูดเรื่องที่จะไปเมืองไร้กฎหมายเด็ดขาด ไม่งั้นได้ถูกสั่งห้ามเข้าเกาะแน่ พวกนายทั้งหมดเข้าใจแล้วใช่มั้ย!"
     
              อุซปพูดซักซ้อมกับเพื่อนๆ อย่างเคร่งเครียดและตั้งใจรวบรัดคำให้สั้นและเข้าใจให้มากที่สุด เพราะเพื่อนของเขาสามคนนี้มีมากกว่าหนึ่งคนที่อาจจะต้องกล่าวให้ฟังอีกรอบ ซึ่งหนึ่งในนั้นเคยฟังใครเกินสิบวิบ้างมั้ย
     
              "ฉันเข้าใจแล้ว แค่พูดเพราะๆ ก็พอสินะ เรื่องนั้นทำได้สบายๆ อยู่แล้ว -_-" โซโล
     
              "แต่ฉันไม่ค่อยไว้ใจนายเรื่องนี้เลย -_-" อุซปหันไปทำหน้าไม่เชื่อใส่โซโล
     
              "เข้าใจแล้ว! แค่บอกว่าจะไปเมืองไร้กฎหมายอะไรนั่นก็พอใช่มั้ยล่ะ!" ลูฟี่
     
              "นี่แกฟังไม่รู้เรื่องเลยนี่หว่า!! บอกว่าห้ามพูดถึงเรื่องนี้!!" อุซปหันไปตะคอกใส่ลูฟี่อีกคน
     
              "อ้าว แล้วถ้าพูดมันจะเป็นยังไงเหรอ" ลูฟี่
     
              "ถ้าพูดทหารของอาณาจักรนี้ก็ไล่แกออกจากเกาะน่ะเซ่!" อุซป
     
              "ถ้าเจ้าพวกนั้นกันไม่ให้เข้าก็ฟันพวกที่มาขวางก็สิ้นเรื่อง -_-" โซโล
     
              "ก็บอกว่าห้ามใช้ความรุนแรง!! นี่พวกแกไม่ฟังกันเลยเรอะ!!" 
     
              "ไม่เห็นเป็นไรนี่ ยังไงพวกเราก็เป็นโจรสลัดกันอยู่แล้ว เป็นคนเลวมันก็ต้องทำตัวให้สมกับเป็นคนเลวสิ" โซโลพูดหน้าตาย
     
              "เออ...จริงด้วย (' ')" ลูฟี่เห็มงามตาม
     
              "จะให้อาณาจักรนี้เกลียดไปเพื่ออะไรหา!! แค่เข้าห้องสอบสัมภาษณ์แป๊บเดียวแค่นี้เรื่องก็จบแล้วเฟ้ย!!!"
     
              อุซปถึงกับกุมขมับและอยากจะบ้าตายกับความซื่อบื้อเกินเยียวยาของเพื่อนตรงหน้าทั้งสองคน พวกเขาคงไม่ได้ไปช่วยนามิแน่ถ้ายังยืนเถียงกันอยู่หน้าท่าเรือนี่น่ะ
     
              "เฮ้ อุซป เหนื่อยรึเปล่า" 
     
              ซันจิกอดอกขณะเอ่ยถามอุซปเมื่อเห็นเขาลงนั่งสลดอย่างสิ้นหวังบนพื้น
     
              "ก็นะ...เฮ้อ~ ซันจิคูง~ มีแต่นายที่ฟังฉันเข้าใจใช่มั้ย T_T"
     
              "เออ เข้าใจสิ แต่อย่าบีบนํ้าตาให้ฉันเห็นได้มั้ยฟะ ถ้าไม่ใช้สุภาพสตรีแล้วฉันอยากอ้วก -_-"
     
              "ซันจิคูงใจร้าย~ T^T" 
     
              "แล้วก็นะ อุซป ฉันยังเรื่องนึงที่ยังข้องใจไม่หาย"
     
              "เรื่องอะไรเหรอ T^T"
     
              "ก็เรื่องที่ทำไมเราจะต้องผ่านเข้าไปในเมืองนี้ทั้งๆ ที่พวกเราแค่แล่นเรืออ้อมไปหลังเกาะก็ไปถึงไอ้ดินแดนไร้กฎหมายอะไรนั่นแล้ว"
     
              คำพูดของซันจิทำให้ทุกคนครุ่นคิด
     
              "นั่นสิ ถ้าเราออกเรือไปตอนนี้มันจะง่ายกว่านะ" โซโล
     
              "เฮ้ย! จริงด้วย! งั้นเราก็ออกเรือไปกันเถอะ!!" 
     
              ลูฟี่ตะโกนลั่นใน แต่อุซปถึงกับถอนใจเฮือกอีกรอบ
     
              "เฮ้อ มันง่ายขนาดนั้นที่ไหนกันเล่า" อุซป
     
              "หมายความว่าไงอุซป?" ซันจิ
     
              อุซปถอนใจอีกรอบ ก่อนจะอธิบาย
     
              "เฮ้อ ฟังนะ ตอนก่อนที่ฉันกับยัยนั่นแล้วก็โรบินจะแยกกันในเมืองน่ะ ยัยนั่นอธิบายเกี่ยวกับกระแสนํ้าของเกาะนี้ให้ฟังคร่าวๆ น่ะสิ ว่ารอบๆ บริเวณเกาะนี้น่ะมีเขาวงกตนํ้าวนขนาดยักษ์อยู่หลายจุดทำให้เรือธรรมดาไม่สามารถแล่นผ่านมันไปได้ แต่มีเพียงบริเวณหน้าของเมืองนี้จุดเดียวเท่านั้นที่คลื่นทะเลยังคงสงบเพราะงั้นพวกเราจึงต้องผ่านเข้าไปในเมืองนี้แล้วก็ถึงบอกให้พวกแกอย่าได้สร้างปัญหาในเกาะที่มีทางเข้าจุดเดียวไงเล่า!"
     
              อุซปเล่าจบถึงกับหอบ
     
              "งี้นี่เอง ถ้างั้นพวกเราก็คงต้องทำตามแผนเดิมสินะ" ซันจิ
     
              "ใช่ ยังไงพวกนายต้องไปเข้าห้องสัมภาษณ์" อุซป
     
              "เป็นอันตกลงกันแล้วสินะ งั้นพวกเราก็แยกย้ายกันไปสอบสัมภาษณ์กันเถอะ" โซโล
     
              "โอเค! ลุยเลยพวกเรา!!" ลูฟี่
     
              ฟุ่บ!
     
              แต่ไม่ทันที่สองคนงี่เง่าจะก้าวเดินออกไปอุซปก็วิ่งมาขวางหน้าซะก่อน
     
              "เข้าใจนะพวกนาย 'ห้ามพูดหยาบคาย' 'ห้ามใช้ความรุนแรง' และ 'ห้ามพูดเกี่ยวกับเมืองหลังเกาะนี้' เข้าใจแล้วใช่มั้ย" 
     
              อุซปเน้นยํ้าอย่างเต็มที่ แต่ผลตอบสนองของลูฟี่ก็คือแคะขี้มูก ส่วนโซโลที่ยังแสดงใบหน้าเคร่งขรึมกลับต้องกระพริบตาปริบๆ 
     
              'อากัปกิริยาพวกนี้มันอะไรกันเนี่ย!!'
     
              "เข้าใจแล้ว/เข้าใจแล้ว" 
        
              ทั้งสองพูดพร้อมกันอย่างเนือยๆ ก่อนจะเดินแยกย้ายออกไปเข้าห้องสัมภาษณ์ เหลือไว้เพียงอุซปที่ถึงกับอ้าปากค้างพูดอะไรไม่ออก จนถูกซันจิตบที่ไหล่เบาๆ เป็นการปลอบ
     
              "ก็คงได้แต่ต้องภาวนาล่ะนะอุซป ฉันก็ไปก่อนล่ะ" 
     
              ซันจิบอกเป็นครั้งสุดท้ายก่อนจะเดินตรงไปที่ห้องสัมภาษณ์เช่นกัน 

     
     
     
     
     
              ตอนนี้ลูฟี่กำลังนั่งอยู่หน้าผู้ชายหน้าเคร่งผู้ให้สัมภาษณ์ในห้องสีขาวที่ไม่มีอะไรเลยนอกจากโต๊ะกับเก้าอี้ที่
    พวกเขาสองคนนั่ง
     
              "เจ้า ชื่ออะไร" ชายคนนั้นเริ่มถามคำถามแรก
     
              "มังกี้ ดี ลูฟี่ ชายผู้จะเป็นราชาโจรสลัด"
     
              ลูฟี่ถึงกับยิ้มจนเห็นฟัน เมื่อผู้ชายหน้าเคร่งคนให้สัมภาษณ์ตรงหน้านั้นเลิกคิ้วเพราะเขาถามแค่ชื่อ แต่เจ้าเด็กหนุ่มนี่มันกลับเสริม แต่ชายคนนั้นก็ไม่ได้ว่าอะไรก่อนจะจดข้อมูลลงสมุด
     
              "คงไม่ต้องถามถึงอาชีพแล้วสินะ"
     
              "ฮี่ๆๆ ^[---]^" 
     
              "สังกัดโจรสลัดกลุ่มไหนล่ะ?"
     
              "หมวกฟาง"
     
              "ตำแหน่งอะไร"
     
              "กัปตัน"
     
              "มีค่าหัวรึเปล่า"
     
              "อื้อ มีสิ"
     
              "เท่าไหร่"
     
              "ตอนนี้ก็สามร้อยล้านน่ะ ^^"
     
              ปึ๊ก!
     
              ชายผู้กำลังจดบันทึกถึงกับบีบปากกาหัก
     
              "สะ สามร้อยล้าน!! O_o" ชายคนนั้นทวนอย่างตกใจ
     
              "อื้อ สามร้อยล้าน" 
     
              "มะ มาทำอะไรที่เกาะนี้" ชายคนนั้นเริ่มหวาดระแวง
     
              "ช่วยพวกพ้อง" 
     
              "พวกพ้องอะไร!"
     
              "ต้นหนของฉัน"
     
              "ที่ไหน!"
     
              "หลังเกาะน่ะ"
     
              "หลังเกาะ!!!" ชายคนนั้นทำเสียงสูงแล้วยืนขึ้นทันที
     
              "ใช่ เพื่อนของฉันถูกลักพาตัวไปที่หลังเกาะ ฉันก็เลยจะตามไปช่วย" ลูฟี่ยิ้มร่า
     
              "ทหาร!!!" เสียงชายคนนั้นร้องลั่น
     
              "เห พวกนายจะตามไปช่วยเพื่อนฉันด้วยงั้นเหรอ" ลูฟี่ถึงกับยิ้มกว้างพร้อมกับทำตาใสซื่อบริสุทธิ์
     
              "ใครบอกเจ้า" 
     
              ชายคนนั้นพูดเสียงเรียบ ก่อนที่ทหารร่างสูงใหญ่สองนายจะจะเดินดุ่มๆ กันเข้ามาในห้อง ลูฟี่ที่ยังนั่งทำหน้างงไม่รู้เรื่องก็โดนโซ่เหล็กจากไหนไม่รู้ล่ามเข้าที่แขนกับขาอย่างรวดเร็ว
     
              "หวา!! นี่อะไรเนี่ย!" ลูฟี่พยายามขัดขืน
     
              "ปล่อยนะ!!...ทำไมรู้สึก...เพลีย...จัง..."
     
              ลูฟี่พยายามขัดขืนเต็มที่แต่ก็ต้องรู้สึกหมดแรงแขนขนขยับไม่ได้
     
              "โซ่หินไคโรเซกิไงล่ะเจ้าหนู" ชายคนนั้นตอบเฉลย "อย่าคิดว่าจะหรอกข้าเรื่องพยายามจะไปที่เมืองหลังเกาะนี้ได้นะ ข้ารู้ เจ้าพวกโจรสลัดทั้งหลายนั่น เป้าหมายของพวกมันก็มีเพียงอย่างเดียวนั่นก็คือการไปเสพสุขยังดินแดนต้องห้ามนั่นทั้งนั้นแหล่ะ"
     
              ลูฟี่ที่หมดแรงสู้ไม่ได้จึงโดนพวกทหารถูลู่ถูกังออกไปจากห้อง ซึ่งเขาก็ยังไม่เข้าใจว่าทำไมถึงถูกจับ ทั้งๆ ที่เขาแค่พูดว่าจะไปหลังเกาะแต่ไม่ได้พูดถึงดินแดนไร้กฎหมายอะไรนั่นเลยนี่นา
     
     
          
     
     
     
     
              "หมอนั่น เอาจนได้สิ"
     
              เสียงของซันจิดังขึ้นเมื่อเขากับโซโลที่สอมสัมภาษณ์เสร็จกำลังเดินไปหาอุซปที่ยืนรออยู่หน้าเมือง แต่ก็ต้องไปสะดุดเข้ากับเจ้ากัปตันสุดงี่เง่าที่โดนทหารล่ามโซ่แล้วลากออกมา เมื่อโซโลเห็นดังนั้นก็ชักดาบออกมาทำท่าจะพุ่งเข้าไปจัดการกับเจ้าพวกทหารที่บังอาจมาล่ามโซ่กัปตันของตัวเองแต่ก็โดนซันจิรั้งเอาไว้
     
              "ใจเย็นก่อน ถ้าเข้าไปช่วยเดี๋ยวก็โดนแบบเดียวกันพอดี" ซันจิ
     
              "เฮ้!!! พวกนาย!! เกิดอะไรขึ้น!!" เสียงของอุซปตะโกนดังมาแต่ไกล เขารีบวิ่งตรงมาที่โซโลกับซันจิทันทีเพราะเห็นถึงความผิดปกติที่เกิดขึ้น
     
              "เจ้าบ้าลูฟี่มันโดนจับน่ะสิ -_-" ซันจิ
     
              "ว่าไงนะ!!!" อุซปร้องอย่างตกใจ
     
              "นี่อย่าบอกนะว่าโซโลรอดมาได้เพราะปาฏิหารย์เรียกพี่อ่ะ!!" อุซป
     
              "นี่ใช่เวลามาคิดเรื่องนี้รึไงฟะ!!" โซโลหันไปตะคอกอุซป
     
              "เฮ้อ ยังไงก็เข้าไปดูก่อนแล้วกัน" 
     
              ซันจิพูดแล้วเดินนำทั้งสองเข้าไปหาลูฟี่ก็เห็นเจ้าตัวกำลังนอนหงายกับพื้นแขนขาโดนล่ามไว้อย่างแน่นหนา สภาพท่าทางดูไม่มีแรง ที่สำคัญกว่านั้นคือ...
     
              "แย่แล้ว!! ลูฟี่กลับมาไข้ขึ้นสูงอีกแล้ว!!"  อุซปร้องขณะสำรวจร่างกายของลูฟี่ ตอนนี้เจ้าตัวเริ่มหายใจหอบอีกครั้ง ตัวร้อนเหมือนไฟ เหงื่อออกเป็นพลั่กๆ
     
              "บ้าจริง ช๊อปเปอร์ก็ไม่อยู่ด้วย แล้วเจ้าพวกนี้จะเอาตัวลูฟี่ไปที่ไหนกัน" ซันจิ
     
              "พระราชวังไงล่ะ" 
     
              เสียงของชายคนที่ให้สัมภาษณ์ลูฟี่ดังขึ้น ก่อนที่ชายคนนั้นจะเดินเข้ามายังพวกเขา พวกเขามองชายคนนั้นนิ่งเพระรู้สึกแปลกๆ และไม่ถูกชะตาตั้งแต่แรกเห็น
     
              "...พระราชวัง!?" ซันจิเลิกคิ้ว "นี่พวกนายคิดจะเอาโจรสลัดที่สัมภาษณ์เข้าเมืองไม่ผ่านเข้าพระราชวังเนี่ยนะ" ซันจิ
     
              ชายคนนั้นมองไปที่ซันจิก่อนจะหัวเราะหึๆ แล้วส่ายหน้า
     
              "พวกเจ้าไม่รู้หรอกว่าบทลงโทษที่ยุติธรรมและรุนแรงที่สุดอยู่ที่พระราชวังของอาณาจักรเดทูก้าเมืองแห่งกฎเกณฑ์แห่งนี้ไงล่ะ"
     
              "เดี๋ยวก่อนนะ เจ้านี่สัมภาษณ์เข้าเมืองไม่ผ่านก็จริง แต่ถึงขนาดต้องถูกส่งไปลงโทษเลยงั้นรึ" โซโล
     
              "ใช่ ถ้าแค่สัมภาษณ์ไม่ผ่านอย่างมากก็แค่ถูกสั่งห้ามเข้าเมืองไม่ใช่เรอะ" ซันจิ
     
              ชายคนนั้นหัวเราะขึ้นอีกครั้ง
     
              "พวกเจ้าเป็นเพื่อนกันสินะ น่าเสียดายจริงๆ ที่เพื่อนของพวกเจ้าสัมภาษณ์ไม่ผ่านเพียงเพราะริอาจมาโกหกกับข้าไงล่ะ"
     
              "โกหกงั้นเหรอ!? ลูฟี่โกหกเรื่องอะไรกัน!?" อุซปถามอย่างไม่อยากเชื่อ
     
              "ก็โกหกว่าจะไปช่วยพวกพ้องอะไรสักอย่างที่ไอ้เมืองนอกคอกข้างหลังนี้ไงล่ะ หึ โจรสลัดก็เป็นแบบนี้กันทุกรายนั่นแหล่ะ ชอบโกหก เชื่ออะไรไม่ได้ ปากบอกว่าจะไปช่วยเพื่อนแต่ตัวเองกลับเห็นแก่ตัวไปเสพสุขอยู่คนเดียว เชื่อสิ พอไปถึงเมือง เห็นแค่แสงสีเสียง ร้านค้าบริการต่างๆ ข้างในเมืองเผลอแป๊บเดียวก็สามารถหักหลังและลืมเพื่อนได้แล้ว อย่าได้คิดหลอกข้าเพราะข้าไม่มีทางเชื่อหรอก ข้าจะส่งผู้ชายคนนี้ไปลงโทษขั้นสูงสุด ฮ่าๆๆ
              อา แต่พวกเจ้าอาจโชคดีหน่อยเพราะพวกเจ้าสัมภาษณ์ผ่านไปแล้ว เรื่องมันก็แล้วๆ ไป ข้าจะปล่อยพวกเจ้าไปก็ได้ เชิญไปที่ไหนตามสบาย แต่สำหรับผู้ชายคนนี้ข้าต้องส่งตัวไปให้ทางพระราชวังสำเร็จโทษล่ะนะ เสียใจด้วย โอ๊ะ เป็นกัปตันของพวกเจ้าสินะ น่าเสียดายๆ พวกเจ้าคงต้องหากัปตันคนใหม่เพราะกัปตันคนเก่านี้คงจะไม่กลับมาอีกแล้วล่ะนะ...อา แต่โจรสลัดอย่างพวกเจ้า แค่เรื่องต้องเสียกัปตันคนเก่าไปคงจะไม่เดือดร้อนอะไรเท่าไหร่สินะ แค่เลือกกัปตันจากพวกลูกเรือที่เก่งกาจเป็นอันดับสองก็ถือเป็นอันจบเรื่องแล้วนี่ พวกโจรสลัดนี่มันเรียบง่ายซะจริงๆ ฮ่าๆๆๆๆๆ"
     
              แล้วชายคนนั้นหัวเราะลั่น รวมทั้งพวกทหารรอบๆ ก็พากันหัวเราะผสมโรงด้วย เหมือนพวกเขาคิดว่าเรื่องนี้มันเป็นแค่เรื่องตลกขบขันและเอามาพูดกันเล่นๆ ได้อย่างหน้าตาเฉย
     
              "อ้าว นี่พวกเจ้าไม่ขำกันเหรอเนี่ย รึว่าจะรู้สึกเสียใจกับกัปตันคนเก่า เอ๊ะ รึว่าหนักหนักใจว่าจะหากัปตันคนใหม่ไม่ได้ ไม่เป็นไรๆ ค่อยๆ คิดก็ได้...โอ้ ท่านนักดาบนี่หน่วยกร้านใช้ได้นะ ท่านก็ไปเป็นกัปตันซะเลยสิ หรือจะเป็นท่านคิ้วม้วนท่านก็ดูแข็งแกร่งมากนะ โอ้ แล้วท่านจมูกยาวนี่ล่ะ ดูท่านสมเป็นชายมากทีเดียวถ้าท่านเป็นกัปตันคนต่อไปท่านจะได้สั่งพวกลูกเรือไห้ทำตามทุกอย่างตามที่สั่งได้นะไม่สนใจเหรอ..."
     
              ขณะที่คนพูดเล่นยังคงสาธยายอย่างเล่นๆ ต่อไป พวกเขาทั้งสามนั้นกลับนิ่งสงบ ไม่มีใครเอ่ยคำจาอะไร มีเพียงอากัปกิริยาของพวกเขาที่เริ่มเปลี่ยนไป
     
              โซโลจับดาบแน่นและค่อยๆ ชักออกมาอย่างช้าๆ พร้อมกับปลดปล่อยจิตคุกคาม
     
              อุซปหยิบหนังสติกในกระเป๋าสะพายข้างของตัวเองออกมาและลดแว่นเหนือหัวลงมาตํ่า
     
              ซันจิหยิบม้วนบุหรี่พร้อมกับไฟแช็คขึ้นมาจุดสูบแล้วจะพ่นลมสีขาวออกมาช้าๆ ก่อนจะหันไปยังชายคนนั้นที่ยังไม่หยุดพร่าม
     
              "เฮ้ย แกน่ะ ชื่ออะไร" ซันจิถามเสียงเรียบ
     
              "ข้ารึ" ชายคนนั้นชี้นิ้วเข้าหาตัวเอง "อา จริงสิ ยังไม่ได้บอกชื่อแซ่กับพวกท่านเลยนี่นา ข้านั้นมีนามว่าว๊อดก้า"
     
              "อ้อ ว๊อดก้า" ซันจิทวนก่อนจะแสกเท้าไปที่กลางหน้าของว๊อดก้าเต็มแรงจนกระเด็นไปกระแทกกับผนังจนทะลุไปชั้นต่อชั้นทันที สร้างความโกลาหนและเสียงวีดร้องก็ดังสนั่นไปทั่วทั้งลาน เมื่อว๊อดก้าเลือดทะลักออกทั่วหน้าและสลบเหมือดท่ามกลางเศษกองผนัง
     
              "ท่านผู้คุม!!!" พวกทหารรีบวิ่งพากันวิ่งเข้าไปหา
     
              "ยังไม่พอ..." โซโลพูดขณะชักดาบสามเล่มออกมา "...อุซป คนที่หัวเราะเยาะมีทั้งหมดเท่าไหร่" โซโลคาบดาบเล่มหนึ่งไว้ที่ปาก
     
              "อา...ทั้งหมดที่เห็นนี่แหล่ะ" อุซปตอบพร้อมกับเตรียมยิงหนังสติก
     
              "เฮ้ย!!! พวกเรา!!! จัดการกับสามคนนั้นซะ!!!" 
     
              พวกทหารและผู้คุมกรูกันเข้ามารอบทิศในเวลาอันรวดเร็วและพุ่งตรงดิ่งพร้อมกับดาบตรงมายังพวกเขา
     
              "มาแล้วสินะ เอาล่ะ..." โซโล
     
              ชิ้ง!!
     
              โซโลใช้ดาบตัดโซ่ที่ล่ามลูฟี่จนขาดเป็นท่อนๆ ตอนนี้ลูฟี่ยังคงหลับไม่ได้สติ
     
              "อย่าให้เจ้าพวกนี้มาถึงกัปตันเราได้นะ" โซโล
     
              "ไม่บอกก็รู้เฟ้ย" ซันจิ
     
              "แค่จัดการให้หมดก็พอสินะ" อุซป
     
              "จัดการจับสามคนนั้นไว้!!!"
     
              พวกทหารร้องลั่น ในขณะที่โซโล ซันจิ และอุซปยืนเกาะกลุ่มหันหลังให้กันเตรียมพร้อมรับมือ
     
              "วิชาสามดาบ พรร้อยแปดประการ!!!"
     
              "ลูกเตะพายุหมุน!!!"
     
              "กระสุนวิหคเพลิง!!!"
     
              ชิ้ง!!! ฉว๊ะ!!! ตูมมมมมม!!!
     
              "อ๊ากกกกกกกกกกก!!!"
     
              เหล่าทหารพากันส่งเสียงร้องและล้มลงกันถ้วนหน้า
     
              "บังอาจมาหัวเราะกัปตันของพวกเรา!!!" โซโล
     
              "หัวเราะเยาะพวกพ้องของพวกเรา!!!" ซันจิ
     
              "และหัวเราะเยาะเกียติภูมิโจรสลัดของพวกเรา!!!" อุซป
     
              "ย้ากกกกกกกกกกกกกก!!!" ทั้งหมดส่งเสียงร้อง


     
     
              
     
              หลังจากนั้น เมื่อเวลาผ่านไปเพียงไม่ถึงนาที
     
              "เฮ้อ สุดท้ายพวกเราก็ทำจนได้ T^T" อุซปลงไปนั่งถอนใจเป็นรอบที่เท่าไหร่แล้วไม่รู้ รอบรอบกายเขาเต็มไปด้วยทหารและผู้คุมนอนกองกันไปทั่วลานกว้าง
     
              "ทำไปแล้วมันก็ช่วยไม่ได้น่าอุซป"

              ซันจิพูดก่อนจะพ่นควันบุหรี่ด้วยอารมณ์สบายๆ แล้วเสียงเนือยๆ เรียบของโซโลก็ดังตามมา
     
              "ฉันก็บอกแล้วว่าให้ทำตั้งแต่แรก -_-" โซโล
     
              "เงียบไปเลยนะแก!!! >O<" อุซปหันไปตวาดใส่
     
              "เอ้อ เราต้องพาหมอนี่กลับเรือแล้วล่ะนะ -_-" ซันจิหันไปทางลูฟี่ที่ยังหลับไม่ได้สติ
     
              "สภาพร่างกายของหมอนี่ตอนนี้คงไปกับพวกเราไม่ได้แล้ว" โซโล
     
              "หมอนี่อุตส่าห์ฝืนตัวเองขนาดนั้นเพื่อที่จะได้ไปช่วยยัยนั่นแท้ๆ" อุซปทำเสียงอ่อยพลางก้มมองดูกัปตันของตัวเองด้วยความเป็นห่วง 
     
              "ตอนนี้พวกเราก็เสียเวลาไปมากแล้วนะ เฮ้ อุซป นายช่วยพาลูฟี่กลับไปที่เรือที แล้วเดี๋ยวพวกฉันจะตามไปช่วยเธอก่อน แล้วนายค่อยตามมาทีหลังเข้าใจมั้ย"
     
              ซันจิหันไปพูดกับอุซป อุซปฟังจบก็พยักหน้าก่อนจะอุ้มลูฟี่ขึ้นหลัง
     
              "ซันนี่ก็อยู่ห่างจากที่นี่ไกลมากด้วย ถ้ามีหมออยู่แถวนี้ก็ดีน่ะสิ" อุซปพึมพัม
     
              "ดึกขนาดนี้แล้วคงไม่มีหมอที่ไหนมาเดินเพ่นพ่านแถวนี้หรอกน่า อย่าว่าแต่หมอเลย คนในเมืองก็ไม่เห็นมีมาเดินสักคน เมืองนี้มันจะเด็กดีทำตามกฎเข้านอนเร็วอะไรนักหนาเนี่ย -_-" ซันจิบ่น
     
              "เอ่อ...ขอโทษนะคะ"
     
              "ว๊ากกกกก!!!" 
     
              ทั้งหมดร้องลั่นด้วยความตกใจ เมื่ออยู่ๆ ก็มีหญิงสาวคนหนึ่งโผล่ออกมาจากไหนไม่รู้มาอยู่ตรงหน้าพวกเขาโดยไม่ทันรู้ตัว
     
              "ธะ เธอเป็นใครเนี่ย มาอยู่ตรงนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่กัน!!" โซโล
     
              "ผี!! ผีหลอกกกกกกก!!!!" อุซปยังไม่หยุดร้อง
     
              "ผีบ้าอะไรกันฟะ!! น่ารักขนาดนี้!!" 
     
              ซันจิหันเอาขาไปทุบหัวอุซป ก่อนจะกลับมาที่หญิงสาวแล้วทำตาหวานเยิ้มให้ หญิงสาวคนที่อยู่ตรงหน้านี้เป็นคนที่สวยมาก เธอมีผมสีเพลิงยาวสลวยถึงกลางหลังช่างตัดกับนัยน์ตาสีเขียวมรกตที่ดูใสซื่อคู่นั้นเหลือเกิน
     
              "สวัสดีครับคุณสุภาพสตรีสาวผู้น่ารัก มีเรื่องเดือดร้อนอะไรให้สุภาพบุรุษนักรักอย่างผมช่วยงั้นหรือ โปรดบอกมาได้เลยครับผม ^^" 
     
              ซันจิเริ่มพูดจาหว่านล้อมพร้อมกับหยิบดอกกุหลาบดกนึงที่ไม่รู้ว่าไปเอามาจากไหนยื่นส่งให้ด้วยท่ากึ่งยืนกึ่งนั่ง หญิงสาวคนนั้นก็รับไปด้วยรอยยิ้มหวาน ซึ่งมันทำให้ซันจิถึงกับเพ้อฝันทันที
     
              "คือ...ฉันแค่อยากจะบอกว่า..." หญิงสาว
     
              "อยากบอกว่าตกหลุมรักผมงั้นเหรอ!!!" ซันจิ
     
              "เค้ายังไม่ได้พูดเลยเว้ย -_-" 
     
              อุซปหันไปค้อนใส่ซันจิ
     
              "เอ่อ...ฉันแค่อยากจะบอกว่า ฉันสามารถช่วยเพื่อนของคุณได้ค่ะ" 
     
              หญิงสาวชี้ไปยังลูฟี่ที่หลับไม่ได้สติอยู่บนหลังอุซป ทำให้พวกเขาทั้งสามหันไปยังหญิงสาวเป็นจุดเดียวทันที
     
              "หมายความว่าไงที่ว่าช่วยได้" โซโล
     
              หญิงสาวยิ้มออกมาอีกครั้งก่อนจะล้วงมือไปหยิบถุงเล็กๆ บางอย่างจากกระเป๋าสะพายข้างของตัวเองขึ้นมา แล้วเธอจึงล้วงอะไรบางอย่างออกมาจากถุงเล็กนั้นซึ่งมีลักษณะเป็นก้อนกลมๆ สีทองสดใส
     
              "นี่เป็นยาแก้โรคป่วยทุกชนิดที่กินแล้วสามารถยื้อเวลาการรักษาให้สั้นลงได้ค่ะ ถ้าให้เพื่อนของคุณกินตอนนี้อาการไข้ของเขาจะหายภายในพริบตาค่ะ"
     
              ทั้งสามจ้องไปยังเม็ดเล็กๆ นั้นอย่างไม่อยากเชื่อ 
     
              "ฮ้า! ถ้าอย่างงั้นลูฟี่ก็จะได้หายป่วยแล้วไปช่วยยัยนั่นพร้อมกับพวกเราได้น่ะสิ!!" อุซปร้องลั่นอย่างดีใจ
     
              "โอ้ เลดี้ของผม! คุณช่างเป็นคนที่จิตใจงดงามอะไรอย่างนี้! ผมชักจะหลงรักคุณเข้าให้แล้ว!!" ซันจิเริ่มทำตาเป็นรูปหัวใจพร้อมกับหมุนเป็นพายุ
     
              หญิงสาวคนนั้นมองแล้วก็ยิ้มก่อนจะหัวเราะเบาๆ
     
              "ดีล่ะ! งั้นเราก็เอายานี่ให้ลูฟี่กินกันเถอะ!!" 
     
              อุซปร้องก่อนจะปล่อยลูฟี่ให้นอนลงกับพื้น
     
              "เดี๋ยวก่อนนะ" 
     
              อยู่ๆ โซโลก็พูดขัดขึ้นมาพร้อมกับจ้องไปยังหญิงสาวคนนั้นเขม็ง
     
              "จะแน่ใจได้ยังไงว่าเธอไม่ได้เอายาพิษมาให้เพื่อนเรากิน" โซโลเอ่ยเสียงขรึม
     
              "หา!! ยาพิษ!!" อุซปร้องอย่างตกใจ
     
              "แกอย่าพูดว่าร้ายเลดี้อย่างนี้สิเฟ้ย!!" ซันจิหันไปตวาดใส่โซโล
     
              "เงียบไปเลยเจ้ากุ๊ก พวกเราจะไว้ใจเธอได้ยังไงทั้งๆ ที่พวกเรายังไม่เคยเห็นหน้าและรู้จักกันแม้กระทั่งชื่อ"
     
              โซโลพูดเสียงเรียบ หญิงสาวได้ยินดังนั้นก็เผยรอยยิ้มก่อนจะพูดออกมา
     
              "ขอโทษนะคะที่ลืมแนะนำตัวไป ฉันมีชื่อว่าเลดี้ เป็นหมอประจำอาณาจักรนี้ ยินดีที่ได้รู้จักค่ะ ^^"
     
              "ชื่อเลดี้ด้วย!! น่าร้ากกกกก!!" ซันจิ
     
              "เฮ้ยๆ บอกเป็นหมอของอาณาจักรนี้ แต่ทำไมเธอถึงมาป้วนเปี้ยนอยู่ที่นี่ตอนที่คนในเมืองเค้าเข้านอนกันหมดแล้วไม่ทราบ"
     
              "นี่แก!! อย่าพูดสอบสวนเหมือนเลดี้จังเป็นคนร้ายเซ่!!" ซันจิ
     
              "แล้วทำไมถึงอยากช่วย มีจุดประสงค์อะไรกันแน่ เธอน่าจะเห็นตอนพวกเราจัดการกับทหารของอาณาจักรนี้จนเกลื่อน แต่ท่าทางกลับดูไม่กลัวอะไรพวกเราเลย แถมยังโผล่ออกมาโดยที่พวกเราไม่ทันรู้สึกตัวอีก เธอเป็นใครกันแน่ แล้วยังบอกว่าจะช่วยรักษาเพื่อนของพวกเราให้ มันไม่มีเหตุผลอะไรเลยที่จะต้องมาช่วย ฉันว่าเธอรีบบอกเป้าหมายของเธอมาซะดีๆ ดีกว่าก่อนที่ฉันจะเริ่มระแวงเธอไปมากกว่านี้แล้วอาจเห็นเป็นศัตรูจนอยากฟันทิ้งก็เป็นได้"
     
              โซโลพูดขู่ก่อนค่อยๆ ชักดาบออกมา
     
              "ว้ากกก!! ทนไม่ไหวแล้ว!! ไอ้เจ้าหัวถั่วเขียว!! มาให้พ่อเตะซะดีๆ !!!" ซันจิ
     
              "ใจเย็นๆ ซันจิ!!" อุซป
     
              อุซปเข้าไปรั้งตัวของซันจิที่กำลังอารมณ์ร้อนไว้ไม่ให้พุ่งเข้าไปหาโซโล
     
              "ค่ะ ฉันรู้ว่าพวกคุณคงไม่ไว้ใจ" เลดี้
     
              "เลดี้จัง" ซันจิ
     
              "ฉันจะบอกความจริงเดี๋ยวนี้ ที่จริงฉันไม่ได้เป็นหมอของอาณาจักรนี้หรอกค่ะ แต่ฉันเป็นหมอของอีกอาณาจักรนึงที่อยู่หลังอาณาจักรนี้ต่างหากล่ะคะ"
     
              "ดินแดนไร้กฎหมายนั่นงั้นเหรอ!!" อุซป
     
              "ใช่แล้ว แล้วความจริงฉันก็เป็นพวกเดียวกับคนที่ลักพาตัวพวกพ้องของคุณไปนั่นแหล่ะค่ะ" เลดี้เอ่ยเสียงเรียบ
     
              "ว่าไงนะ!!!" ทุกคน
     
              "ไม่จริงใช่มั้ยเลดี้จัง!!" ซันจิแทบอยากร้องไห้
     
              "ศัตรูๆๆๆๆ!!" อุซปร้อง
     
              "เฮ้ๆ นี่เธอพูดให้เราระแวงเพิ่มขึ้นไม่ใช่รึไง แล้วถึงขนาดบอกเรื่องนี้กับพวกเราที่กำลังจะไปถล่มพวกของเธอเนี่ยนะ =_=" โซโล
     
              "คิกๆๆ" เลดี้
     
              "หัวเราะอะไร -_-" โซโล
     
              "ก็พวกคุณพูดจาตลกนี่นา จะไปถล่มพวกเรางั้นหรือคะ ฉันว่ามันไม่ง่ายขนาดนั้นหรอกค่ะ คิกๆ"
     
              "ว่าไงนะ -_-" โซโล
     
              "ที่จริงฉันไม่ได้รับอนุญาติให้เปิดเผยตัวตน แต่ถึงฉันบอกเรื่องนี้กับพวกคุณก็ยังมีค่าเท่าเดิมอยู่ดี เชื่อสิคะ ที่ฉันมาที่นี่เพราะมีหน้าที่มาจับตาดูพวกคุณว่าจะไปถึงที่นั่นได้โดยสวัสดิภาพรึเปล่า แต่พวกคุณก็ดันมาติดอยู่ที่ด่านทางเข้าเมืองซะแล้ว ตอนแรกก็คิดว่าพวกคุณจะยอมถูกคุมตัวไปเสียอีก แต่พวกคุณกลับจัดการพวกทหารฝีมือดีที่นี่ได้ภายในพริบตา ฝีมือพวกคุณนี่สุดยอดมาก ฉันล่ะชอบพวกคุณตรงนี้จริงๆ ^^"
     
              เลดี้เริ่มหัวเราะเบาๆ 
     
              "แล้วพอฉันเห็นว่ากัปตันของคุณกำลังแย่ ก็เลยคิดว่าถ้างานนี้ตัวกัปตันไม่ได้ไปด้วยเกมก็คงจะไม่สนุก ฉันก็เลยจะช่วยนี่ไงคะ ^^"
     
              เลดี้ยิ้มหวาน
     
              "เกม!? นี่พวกเธอคิดว่ามันเป็นเกมรึไงที่ลักพาตัวพวกพ้องของเราไปแบบนี้!" อุซปเริ่มขึ้นเสียง
     
              "พวกคุณจะคิดยังไงก็ช่าง แต่ฉันก็ชอบพวกคุณพอตัว เพราะงั้นฉันจะบอกเรื่องความลับสำคัญให้เรื่องนึงค่ะ"

              เลดี้พูดก่อนจะหยุดวรรคครู่นึงแล้วเริ่มยิ้มอย่างมีเลศนัย

              "นั่นก็คือ พวกพ้องของคุณถูกลักพาตัวเพื่อนำไปเป็นเครื่องบรรณาการหรืิอเจ้าสาวของบอสของพวกเราค่ะ"
     
              "ว่าไงน๊า!!!" ทุกคนร้องขึ้นพร้อมกันอย่างตกใจ
     
              "คิก เวลานี้ก่อนแต่งฉันก็ไม่รู้หรอกนะคะว่าเธอจะโดนทำอะไรบ้างในฐานะว่าที่เจ้าสาวน่ะ บอสของฉันยิ่งเป็นคนใจร้อนและอารมณ์ของเขาชอบคุกรุ่นอยู่ด้วย เอ...เธออาจจะโดนทำอะไรที่น่าอายอย่างโดนเลิกเสื้อขึ้น ตามด้วยเลิกกระโปรง แล้วก็โดนจูบทั่วตัวร่างกายตั้งแต่หัวจรดล่างจนเธอต้องร้องเสียงครางอย่าง..."
     
              "อย่าน๊า!!! ไม่เอ๊า TTT[  ]TTT!!!/จะสาธยายทำไมกันฟะ!!!/หยุดพูดได้แล้ว!!! >[ ]<" ทั้งหมดแทบจะตะโกนออกมาพร้อมกันเพราะยัยเลดี้มันเล่นพูดซะเกือบเห็นภาพ
     
              "หวา!!! อย่าทำอะไรยัยนั่นนะ!!!"
     
              ทั้งสามคนเงียบลงไปทันทีเมื่อมีอีกเสียงหนึ่งตะโกนขึ้นมาร่วมด้วย เป็นเสียงที่เงียบไปนานและฟังดูคุ้นหูมาก พอนึกออกได้ว่าเป็นใครก็ถึงกับเบิกตากว้างแล้วรีบหันขวับกลับมายังที่ๆ เจ้าคนป่วยกำลังนอนอยู่อย่างรวดเร็ว
     
              "ลูฟี่!!!" ทั้งสาม
     
              "แฮกๆ...ยะ ยัยนั่นจะแต่งงานงั้นเหรอ แฮก! ใครอนุญาติไม่ทราบ!!!" 
     
              เขาตะโกนลั่นด้วยความโกรธ
     
              "ทำไมหมอนี่มันอึดนักนะ -_-^" ซันจิ
     
              "ช่างเถอะ ยังไงกัปตันก็ตื่นแล้วล่ะน่า" โซโล
     
              "ฮะๆๆ ลูฟี่ฟื้นแล้ว!!" 
     
              อุซปร้องแล้วรีบวิ่งเข้ามาดูลูฟี่ ก่อนจะช่วยพยุงตัวเขาให้ลุกขึ้นนั่ง
     
              "น่าตกใจจริงๆ เลยนะคะ ไข้ขึ้นสูงขนาดนั้นความจริงน่าจะช๊อคไปแล้ว แต่นี่กลับฟื้นขึ้นมาตะโกนได้แบบนี้ O_o" 
     
              เลดี้ถึงกับทำสีหน้าแปลกใจ
     
              "อ่า มันเป็นเรื่องปกติของกัปตันเราน่ะครับเลดี้จัง ^^" ซันจิแก้ต่างให้
     
              "คนแบบนี้ช่างมีพลังใจเหลือล้นจริงๆ สามารถข้ามขีดจำกัดของอาการป่วยได้ ช่างน่าศึกษาจริงๆ นี่น่าจะเป็นยารักษาทางใจที่ดีได้"
     
              "เอ่อ เลดี้จังครับ ไม่ต้องพูดเวอร์ถึงขนาดนั้นก็ได้ ^^,,"
     
              "แฮก รีบไปช่วย แฮก ยัยนั่นกันได้แล้ว!!" 
     
              ลูฟี่ตะโกนขึ้นมาครั้งก่อนจะลุกขึ้นยืนอย่างรวดเร็ว แต่ก็ทำท่าจะล้มลงไปอีกจนอุซปต้องรีบช่วยพยุง
     
              "นี่นาย ยังไม่หายดีจริงๆ ด้วยสินะ -_-" โซโล
     
              "ฉัน...แฮก หายแล้ว!!" ลูฟี่
     
              "หายแล้วจะเพลียอีกได้ไงฟะ!!" ซันจิ
     
              "นี่พวกเราจะทำยังไง หรือจะพาลูฟี่กลับไปที่เรือซันนี่ก่อนดีล่ะ" อุซป
     
              "ฉันไม่กลับซันนี่! ฉันจะไปช่วยพวกพ้อง!!" ลูฟี่
     
              "อย่าดื้อไปหน่อยเลยน่า ลูฟี่!! ก็เห็นๆ กันอยู่ว่านายแทบจะเดินไม่ได้อยู่แล้ว อยากจะไปเป็นตัวถ่วงนักรึไง!!" ซันจิ
     
              "ว่าไงนะ!!" ลูฟี่หันไปเขม็งใส่ซันจิ
     
              "ถ้าอยากไปก็ลองล้มฉันให้ได้ก่อนเซ่! สภาพของนายตอนนี้สู้ยังไงก็ไม่มีทางชนะฉันหรอก!!"
     
              "ลูฟี่!!" 
     
              อุซปเรียกชื่อลูฟี่เมื่อเจ้าตัวผลักอุซปที่ช่วยพยุงเอาไว้ให้ห่างออกไป ตอนนี้เขายืนโดยไม่มีใครช่วยพยุงและตั้งท่าเตรียมพร้อมจะสู้กับซันจิ
     
              "ดะ เดี๋ยวก่อนสิ พวกนายอย่าสู้กันเลยนะ" อุซปร้องห้าม
     
              "ห้ามไปก็ไม่มีประโยชน์หรอกอุซป" เสียงของโซโลดังขึ้น "ตอนนี้เราทำได้แต่ยืนดูอยู่เฉยๆ เอาไว้จะดีกว่า"
     
              อุซปมองโซโลที่ยืนกอดอกทำหน้าเคร่งขรึมมองไปที่ลูฟี่กับซันจิที่เข้าไปประจัญหน้าเตรียมพร้อมจะสู้กัน ตอนนี้สิ่งที่สามารถเตือนสติของลูฟี่ได้ก็มีแต่การต้องใช้กำลังเท่านั้น และต้องเป็นกำลังของเพื่อนของเขาเองด้วย
     
              "แฮก...หมัดปืน!!.. ยางยืดดดดด!!!"
     
              ลูฟี่เริ่มใช้ท่าหมัดปืนกลยิงรัวเข้าไปหาซึ่งซันจิเตรียมพร้อมรับมืออยู่ก่อนแล้ว
     
              "นี่น่ะเหรอหมัดปืนของแก ตอนนี้มันก็เป็นได้แค่ปืนกระจอกเท่านั้นเองแหล่ะน่า!! ลูกเตะ!!!"
     
              ซันจิกระโดดขึ้นไปเหนือลูฟี่อย่างรวดเร็วแล้วใช้ท่าเตะส้นเข้าแสกกลางศรีษะของลูฟี่เต็มแรง
     
              พลั่ก!!! ตูมมม!!!
     
              หัวของเขาทิ่มลงไปกับพื้นอิฐ จนอิฐสีเทาแกร่งนั้นแตกกระจายเป็นวงกว้าง
     
              "ลูฟี่!!!" อุซปร้องลั่นก่อนจะรีบวิ่งเข้าไปดู
     
              ซันจิกลับลงถึงพื้นแล้วหันกลับมามองแวบนึง ก่อนจะหยิบม้วนบุหรีขึ้นมาจุดสูบ ก่อนจะพ่นลมสีเทาออกมาเบาๆ
     
              "อะไรกัน!! แค่ลูกเตะลูกเดียวของซันจิก็ทำให้หมอนี่สลบไปเลยงั้นเหรอ!!" 
     
              อุซปร้องอย่างไม่อยากเชื่อ โซโลหันมองอุซป ก่อนจะอธิบาย
     
              "ไม่แปลกหรอก เพราะร่างกายของหมอนี่มันสภาพยํ่าแย่ถึงขีดสุดแล้วไงล่ะ" โซโล
     
              "เฮ้ย อุซป พาหมอนี่กลับซันนี่ไปซะ" ซันจิที่สูบบุหรี่พลางหันหลังให้พูดบอกอุซป
     
              อุซปฟังแล้วก็ถึงกับถอนใจก่อนจะพยักหน้า แล้วเขาจึงอุ้มลูฟี่ขึ้นหลังอีกครั้งเตรียมพร้อมจะเดินออกไป แต่พอก้าวขาไปได้เพียงก้าวเดียวก็มีเสียงกระแอมดังขึ้น เมื่อหันไปมองยังต้นเสียงก็พบว่าเลดี้นั่นเองที่เป็นคนทำเสียงกระแอม
     
              "ฉันอุติส่าห์บอกพวกคุณไปแล้วนะว่าฉันมียารักษาเขาน่ะ --" เลดี้
     
              ทั้งหมดเงียบไป ก่อนที่อุซปจะร้องดังขึ้น
     
              "จริงด้วยสิ!! ลืมไปเลย ถ้าเราใช้ยานั่นลูฟี่ก็สามารถไปกับเราได้ไงล่ะ!!" อุซป
     
              "แต่ฉันยังไม่ไว้ใจ -_-" โซโล
     
              "นี่ ขอโทษนะคุณหัวเขียว --" เลดี้
     
              "ฉันชื่อโซโล -*-" โซโล
     
              "นี่ฉันอุตส่าห์แสดงตัวตนแล้วก็บอกความจริงถึงขนาดนี้ยังไม่ไว้ใจกันอีกเหรอ ฉันอยากช่วยกัปตันของคุณจริงๆ นะ" เลดี้
     
              "ใครขอมิสะ...อุ๊บ!!" 
     
              อุซปยกมือขึ้นปิดปากของโซโลไว้
     
              "ตกลง เราขอใช้ยานั่น" อุซป
     
              "ว่าไงนะ!!" โซโล
     
              "คิดดูดีๆ สิโซโล เค้าอุตส่าห์อยากช่วยทั้งที โอกาสแบบนี้มันไม่ได้หามาง่ายๆ นะ แถมลูฟี่ก็อยากไปช่วยยัยนั่นด้วย กัปตันอยากไป เราก็ต้องทำให้ไปให้ได้ นายคิดว่างั้นมั้ยซันจิ!!"
     
              อุซปหันไปตะโกนเรียกซันจิที่ยังยืนเก๊กสูบบุหรี่อยู่ภายใต้แสงจันทร์ที่กำลังเต็มดวง
     
              "ว่าไงล่ะซันจิ!!" อุซปเรียกซํ้า
     
              "หมอนั่นไม่ยอมหรอกมั้ง -_-" โซโล
     
              "เป็นไปไม่ได้น่า...อย่างซันจิถ้าเป็นความช่วยเหลือจากสาวน้อยก็ต้อง..." อุซป
     
              "คุณซันจิคะ ฉันอยากจะช่วยกัปตันของคุณจริงๆ นะคะ" เลดี้
     
              "คร้าบบบบบบบบ!!! ยินดีรับความช่วยเหลืออย่างเต็มที่เลยค้าบบบบบ!!!" 
     
              ซันจิตอบรับอย่างว่าแล้วเข้าไปกระโดดโลดเต้นรอบๆ ตัวของเลดี้ทันที
     
              "หมอนี่ทำเป็นเมินฉันเรอะ -**-" อุซป
     
              เลดี้ค่อยๆ หยิบยาเม็ดกลมๆ สีทองสว่างนั่นขึ้นมาอีกครั้งก่อนจะยื่นมันใส่ลงบนมือของซันจิที่กำลังหน้าแดงพลางทำสีหน้าประหลาดพร้อมกับดวงตาเป็นรูปหัวใจ
     
              "อุซป! รับไป!" 
     
              ซันจิตะโกนเรียกอุซปก่อนจะโยนเม็ดยาสีทองนั่นให้กับอุซปเป็นคนรับ
     
              หมับ!
     
              "ได้แล้ว!" อุซป
     
              อุซปค่อยๆ พยุงตัวลูฟี่ขึ้นมาก่อนจะเอาเม็ดยานั้นใส่เข้าไปในปากของลูฟี่ แล้วหยิบขวดนํ้าจากกระเป๋าสะพายข้างออกมาแล้วค่อยๆ เทใส่เข้าไปในปากเช่นกัน รอจนกระทั่งเม็ดยานั่นไหลลงคอ
     
              "ลูฟี่กินเข้าไปแล้ว!" อุซป
     
              "อั่ก! แค่กๆ!!" 
     
              เสียงของลูฟี่ไอดังขึ้น สักพักจึงหยุดลง ตัวลูฟี่ที่ร้อนเป็นไฟค่อยๆ เริ่มเย็นลงทีละนิด เหงื่อไหลตามตัวที่อุซปเช็ดแล้วเช็ดอีกตอนนี้หยุดไหลแล้ว สภาพของเขาตอนนี้ดูดีขึ้นทันตาและดูเหมือนจะอยู่ในอาการหลับตามปกติเพราะได้ยินเสียงกรนออกมาเบาๆ 
     
              "คร่อกกก ฟี้~" ลูฟี่
     
              "มันได้ผล!" อุซป
     
              "ยานี้จะมีฤทธิ์ทำให้หลับไปสักพักหลังจากไข้ลดลงแล้วนะคะ แต่พอคุณกัปตันฟื้นขึ้นมาเมื่อไหร่จะแข็งแรงทันตาเห็นค่ะ ^^" 
     
              เลดี้อธิบาย
     
              "ขอบคุณเลดี้จังมากนะครับที่ช่วยเจ้ากัปตันงี่เง่าของพวกเรา ^^" ซันจิ
     
              "เลดี้ ขอบคุณมากเลยนะ!" อุซป
     
              "ไม่เป็นไรค่ะ ^^" 
     
              เลดี้ก็หันมายิ้มให้เช่นกัน แต่พอเธอหันไปทางโซโลที่ยังยืนหยิ่งไม่พูดคบค้าสมาคมมกับใครก็ถึงยิ้มเล็กๆ 
     
              "จะไม่ขอบคุณหน่อยเหรอคะคุณหัวเขียว" เลดี้
     
              "ฉันชื่อโซโล -*-" โซโล
     
              "นี่ฉันอุตส่าห์ช่วยกัปตันของคุณนะ" เลดี้
     
              "..." โซโล
     
              "เฮ้ โซโล พูดขอบคุณเค้าหน่อยเถอะน่าถึงจะเป็นศัตรูกันก็เถอะ" อุซป
     
              "ใช่ แกควรจะพูดทั้งขอบคุณแล้วก็ขอโทษด้วยเลยเจ้าหัวถั่วเขียว --" ซันจิ
     
              "แล้วทำไมฉันต้องพูดขอโทษยัยนี่ด้วย!" โซโล
     
              "ก็แกเป็นคนไปพูดสบประมาทคุณเลดี้ผู้น่ารักตั้งเยอะนี่ พูดออกมาซะ" ซันจิ
     
              "เห็นด้วยๆ (_ _)" อุซปพยักหน้า
     
              "พวกแก...!" โซโล
     
              "พูดเลยๆๆ" ทั้งสองเริ่มเชียร์
     
              โซโลถึงกับกัดฟันกรอดกับเจ้าพวกเพื่อนตรงหน้าที่ไม่ได้ช่วยอะไรเลย ก่อนจะหันกลับมายังเลดี้ที่ยืนยิ้มอย่างชอบใจรอให้เขาพูดสองคำนั้น
     
              "...ขอบคุณ" โซโลหันหน้าไปางอื่น
     
              "อีกคำล่ะคะ ^^" 
     
              เลดี้เลิกคิ้วส่งให้ ซึ่งมันทำให้โซโลเริ่มรู้สึกหงุดหงิด
     
              "...โอเค ขอโทษก็ขอโทษ -_-" 
     
              ในที่สุดโซโลก็พูดจนได้ เขามองไปยังเลดี้ก็เห็นเธอยืนยิ้มอย่างผู้ชนะ
     
              "ฮิ้ววววววว เลดี้ชนะ ฮ่าๆๆๆๆๆ" 
     
              อุซปหันไปหัวเราะกับซันจิสองคน
     
              "เลดี้จังทั้งเก่งแล้วก็น่ารักที่สุดเลยคร้าบบบ~" ซันจิ
     
              "สุดท้ายนายก็ใจอ่อนนะโซโล วะฮ่าๆๆๆ ^O^" อุซปหัวเราะชอบใจ
     
              "หัวเราะมากนักเดี๋ยวพ่อก็ฟันไอ้จมูกยาวๆ นั่นกุดหรอก -_-" โซโล
     
              "ไม่หัวเราะแล้วจ้า~ T^T"
     
              เลดี้มองพวกเขาทั้งสาม ก่อนจะก้มไปมองยังกัปตันของพวกเขาก็เผยรอยยิ้มน้อยๆ
     
              "พวกคุณนี่เป็นกลุ่มที่คลื้นเคลงกันดีจังนะคะ" เลดี้
     
              "ฮ่าๆๆ ไม่ใช่แค่พวกที่อยู่ตรงนี้นะ อีกห้าคนที่เหลือจะทำให้บรรยากาศคลื้นเคลงกว่านี้อีก นั่นก็เพราะว่ามีท่านอุซปคนนี้อยู่ไงล่ะ ท่านอุซปเป็นผู้มอบรอยยิ้มให้ทุกคนเสมอล่ะ ฮ่าๆๆๆๆๆๆ"
     
              อุซปเริ่มโม้ตามฉบับ
     
              "ว่างๆ ไปเที่ยวที่เรือของเราบ้างนะคร้าบเลดี้จัง~" ซันจิ
     
              "คิดจะชวนศัตรูขึ้นเรือตัวเองเนี่ยนะ -_-" โซโล
     
              "ใครบอกว่าเลดี้จังเป็นศัตรู! ผู้หญิงทุกคนบนโลกไม่ไช่ศัตรูของฉันหรอกเฟ้ย!!" ซันจิ
     
              "เฮ้อ ไอ้กุ๊กโรคจิต -_-" โซโล
     
              "ว่าไงนะ!!" ซันจิ
     
              "คิกๆ พวกคุณนี่ตลกกันจริงๆ นั่นแหล่ะ" เลดี้หัวเราะ "ฉันชอบพวกคุณนะ รวมทั้งคุณกัปตันคนนั้นด้วย แต่เราก็ยังต้องเป็นศัตรูกัน น่าเสียดายจริงๆ"
     
              เลดี้กล่าวจบก่อนจะดีดนิ้วดังเปาะหนึ่ง ทันใดนั้นเองก็เกิดลมพัดกรรโชกแรงที่มาพร้อมกับเสียงคำรามอันน่าสะพรึงกลัวและเงาดำทะมึนขนาดใหญ่ที่หล่นลงมาจากฟากฟ้า
     
              "ว้ากกกกก!!! นั่น! นั่นมัน...!!! O0O"
     
              อุซปร้องลั่นเมื่อมังกรสีแดงเพลิงตัวใหญ่มันบินร่อนมาลงกับพื้นข้างหลังของเลดี้ ตัวของมันใหญ่พอๆ กับห้องสัมภาษณ์ที่พวกเขาเพิ่งเข้าไป ปีกของมันเมื่อสยายออกยาวเกือบสิบเมตร กรงเล็บแหลมคมสีดำขลับของมันขูดจิกอยู่กับพื้น นัยน์ตาดุกล้าสีเพลิงสีเดียวกับสีผมของเลดี้ผู้เป็นเจ้านายของมัน
     
              "ยินดีที่ได้รู้จัก เด็กคนนี้ชื่อเพิร์ลค่ะ ^^" 
     
              เลดี้แนะนำพลางหันไปยังมังกรตัวนั้น ซึ่งพวกเขาทั้งสามได้แต่ยืนอึ้งกิมกี่ ส่วนคนที่ดูจะช็อคมากที่สุดก็หนีไม่พ้นอุซปที่ยืนขาสั่นพั่บๆ อ้าปากค้างอยู่ข้างหลังของโซโล
     
              "เฮ้ย อุซป ไหนแกเคยเห็นไอ้มังกรพวกนี้แล้วไง สั่นอยู่ได้ -_-" ซันจิ
     
              "กะๆๆ ก็ตัวที่เห็นบนถนนในเมือง มะ มันไม่ใหญ่แล้วก็หน้าดุขนาดนี้นี่นา!" อุซป
     
              "จะใหญ่ยังไงมันก็ต้องมีจุดอ่อนกันบ้างล่ะ หึๆ" โซโลทำท่าทางชอบใจ
     
              เลดี้ทำสัญลักษณ์มือบางอย่าง ทำให้เจ้ามังกรตัวนั้นนอนลง เมื่อมังกรตัวนั้นนอนลงเรียบร้อย เลดี้จึงปีนขึ้นไปขี่บนหลังของมัน
     
              "ฉันต้องไปแล้ว ทางจะไปยังดินแดนไร้กฎหมายนั้นต้องทะลุผ่านป่าที่อยู่หลังเมืองนี้ถึงจะเข้าไปได้ซึ่งในนั้นก็มีแต่สัตว์ร้ายที่อันตรายพอตัว คนที่ไม่มีฝีมือมากพอเข้าไปแล้วก็ตายเปล่าๆ พวกฉันที่มีมังกรขี่ช่วยย่นเวลาแล้วก็ไม่ต้องทะลุผ่านป่าถือเป็นโชคดีของพวกฉันสินะคะ คิกๆ ^^"
     
              "คิดจะพูดกวนกันรึไง -_-" โซโล
     
              "ระ เรื่องจริงเหรอ ทะ ที่มีสัตว์ประหลาดในป่าน่ะ!" อุซป
     
              "ต่อให้ถูกสัตว์ร้ายกลืนลงท้องผมก็หาทางออกมาและตามไปหาเลดี้จังให้ได้คร้าบ~" ซันจิ
     
              เลดี้หัวเราะคิกคัก ก่อนจะก้มลงแล้วออกคำสั่งกับเจ้ามังกร
     
              "เพิร์ล ไปกันเถอะ"
     
              สิ้นเสียงออกคำสั่ง เจ้ามังกรชื่อเพิร์ลก็สยายปีกออกอีกครั้ง แล้วจึงค่อยๆ กระพือมีละนิด แค่เพียงสะบัดเดียวก็สามารถสร้องลมแรงๆ ได้สบาย
     
              "อ๊ะ ลืมบอกพวกคุณเรื่องนึง..." 
     
              เลดี้ตะโกนลงมาหาพวกเขา 
     
              "จากที่นี่ถ้าหากวิ่งไปจะถึงเมืองภายในเวลาสองชั่วโมง และจำไว้นะคะว่าสี่ทุ่มของคืนนี้งานแต่งงานของเพื่อนคุณกับบอสของดิฉันจะเริ่มทันที มาให้ทันแล้วกันนะคะ บาย~"
     
              พูดส่งท้ายจบก็เกิดลมกรรโชกแรงขึ้นมาอีกครั้ง ก่อนที่มังกรตัวนั้นจะพาเลดี้ทะยานสู่เบื้องบน ปล่อยให้สามคนข้างล่างมัวแต่ยืนอึ้ง

              แล้วคนสติดีที่สุดก็เริ่มถอนหายใจ

              "เฮ้อ ชักจะยุ่งยากอีกแล้วสินะ" โซโลเริ่มเกาหัว
     
              "ตอนนี้เวลาเท่าไหร่แล้ว!!" ซันจิหันไปถามอุซป
     
              "ปะ เเป๊บนึงๆ" อุซปล้วงหานาฬิกา
     
              "สมันนี้เค้าแต่งงานกันแบบสายฟ้าแลบจัง -_-" โซโล
     
              "เจอแล้ว!!" อุซปก้มมองดูนาฬิกา "สะ สองทุ่มตรง!!! O0O"
     
              "ว่าไงนะ!!! O0O" ซันจิอุทานดังลั่น
     
              "อีกสองชัวโมงอย่างงั้นเหรอ!!!" อุซปและซันจิ
     
              "คร่อกกกกก!~" เสียงกรนปิดท้ายของลูฟี่
     
             
     
     
     
              
     
     
              
     
                  
     
              

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×