ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    We are ...คือ เรารักกัน [Yaoi]

    ลำดับตอนที่ #72 : ตอนที่ 62 ไม่เป็นไร

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 35.91K
      126
      6 ม.ค. 55

















    ตอนที่
    62 ไม่เป็นไร

     








    ตั้งแต่กลับจากกินข้าวผมก็เหมือนคนไม่มีสติเหมือนคนจิตใจไม่อยู่กับตัว ผมเดินเข้ามาในห้องนอนทั้งๆที่ตั้งใจจะไปกินน้ำในครัว บางครั้งภูมิต้องเรียกผมหลายๆครั้งผมถึงจะหันมาสนใจ มันนิ่วหน้าและเริ่มออกอาการน้อยใจ ผมพยายามแล้วพยายามไม่คิดมากแต่ภาพที่รถคันหรูค่อยๆเคลื่อนผ่าน

     





    ภาพที่คุณพ่อขมวดคิ้วมุ่น แววตาใจดีของท่านที่มองมามันสะท้อนความแปลกใจสงสัย ผมไม่รู้ว่าท่านเห็นตอนที่ภูมิจูบผมมั้ย แต่มือภูมิที่โอบเอวผมยังไงก็ต้องเห็น ผมควรจะบอกภูมิดีมั้ย ควรจะเล่าให้มันฟังดีมั้ยแล้วมันจะหาว่าผมวิตกเกินเหตุเป็นพวกกระต่ายตื่นตูมรึเปล่า

     




    เตี้ยมึงเป็นอะไรสีหน้าไม่ดีเลยมึงโกรธอะไรกูรึเปล่าภูมิขยับเข้ามานั่งใกล้ๆพร้อมกับดึงมือผมไปจับ เรากำลังนั่งรับลมอยู่ที่ระเบียงรอเคาน์ดาวน์ต้อนรับปีใหม่ที่จะมาถึงในอีกไม่กี่ชั่วโมงข้างหน้า ผมหันไปสบตากับภูมิสิ่งที่สะท้อนอยู่ในดวงตาสีดำขลับคู่นั้นมีเพียงตัวผม ผมบีบมือภูมิกลับไปและยิ้มให้มันได้เบาใจว่าผมไม่เป็นไร

     




    หึ มึงแอบไปทำอะไรไว้ทำไมกูต้องโกรธมึงด้วยวะผมแกล้งหยอกภูมิเล่นเวลาที่ภูมิมันทำหน้าหงอยๆเห็นแล้วก็ตลกดี

     




    ไม่ได้ทำ ก็มึงเอาแต่นั่งใจลอยพอกูเรียกก็สะดุ้งมึงไม่พูดกูยิ่งคิดมากรู้มั้ยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความห่วงใยของภูมิยังมีไว้เพื่อผมเสมอ ผมยังคงมองเข้าไปในดวงตาคู่นั้นที่ผมคุ้นเคยดี ก่อนที่ผมจะขยับเข้าไปหาภูมิและเป็นฝ่ายกอดมันก่อน



     

    เคยมีคนบอกว่าถ้าเรากอดใครซักคนโดยที่แขนของเราโอบรอบคอคนๆนั้น ก็จะเหมือนว่าเราถูกเขากอดเอาไว้ทั้งตัว และตอนนี้ผมก็อยากให้ภูมิกอดผมไว้ทั้งตัว

     

    ภูมิ



    หื้ม

     


    ตอนที่เราเดินออกมาจากร้านอาหาร ตอนที่เราเล่นกันตอนที่มึงจะหอมแก้มกู กู…..เห็นคุณพ่อของมึงด้วย แค่เอ่ยถึงลมหายใจผมยังติดๆขัดๆ คนที่กอดผมอยู่ก็คงไม่ต่างกันผมรับรู้ว่ามันนิ่งไป แต่ไม่นานภูมิก็เพิ่มแรงกอดให้แน่นยิ่งกว่าเดิม

     



    เรื่องแค่นี้เอง คิดมากทำไม มึงนี่เตี้ยแล้วยังโง่อีกนะภูมิกระซิบบอกชิดใบหูของผม

     



    ภูมิ กูกลัวผมรู้ดีว่าตัวเองไม่ใช่คนที่เข้มแข็งอะไรมากมายนักที่ผ่านมาอาจจะดูเหมือนว่าเราทั้งคู่ไม่ได้กังวลกับเรื่องนี้ว่าถ้าวันนึงครอบครัวเรารู้แล้วเราจะทำยังไง เหมือนเราไม่ได้ใส่ใจแต่จริงๆไม่ใช่เลยครับลึกๆแล้วมันเป็นเหมือนตะกอนเล็กๆที่อยู่ในใจ

     



    ถึงเราจะมีความสุขมากแค่ไหนแต่ถ้าเมื่อไรมีสิ่งมากระทบมันก็จะขุ่นขึ้นมา เมื่อไรที่นึกขึ้นได้ว่าเรายังมีครอบครัวมีพ่อแม่ที่พวกท่านยังไม่รับรู้ความจริง ไอ้ความรู้สึกกลัวที่เราพยายามปิดไว้มันก็จะก่อตัวขึ้นเหมือนอย่างที่ผมเป็นอยู่ตอนนี้

     



    มึงเห็นพ่อก็ไม่ได้หมายความว่าพ่อจะเห็นมึงนี่ หรือต่อให้พ่อเห็นเราจริงมึงก็ไม่ต้องคิดมากนะพีมเพราะไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นกูจะปกป้องมึงเอง ไม่เป็นไรนะ ผมหลุดขำกับคำพูดปลอบใจของภูมิ บางครั้งความคิดแบบเด็กๆคิดอะไรง่ายๆแต่ถ้ามันทำให้เราสบายใจมันก็ดีเหมือนกันนะครับ

     



    หึหึ นั่นสินะยังไงมึงก็ปกป้องกูได้อยู่แล้วผมเลยให้รางวัลไอ้หล่อด้วยการหอมแก้มมันไปหนึ่งที แต่ทำไมมันถึงทำหน้าเหมือนเห็นผีแบบนั้นล่ะ ผมเลยหันไปมองตามสายตาของภูมิแล้วก็เห็น…..

     








    พีม มะ แมง แมง แมงสาบ ไล่มัน ไล่มันออกไปดิ๊เตี้ยยยย!!!!!!” ไอ้ภูมิกระโดดมาหลบข้างหลังผมอย่างรวดเร็วประหนึ่งเป็นนินจากร้ากกกก เมื่อกี้หมาที่ไหนมันบอกว่าจะปกป้องกูฟระ

     

    ถ้าแมงสาบอยู่เฉยๆภูมิมันก็ไม่กลัวนะแต่ถ้ามันบินเมื่อไรล่ะก็ไอ้ภูมิตายเลยครับฮ่าๆ พีมไล่มันไป ชิ่วๆอ๊ากกก มันบินมาแล้วพีมมมม” ผมหัวเราะเสียงดังลั่นห้องมองไอ้หล่อที่วิ่งหนีแมงสาบไปรอบๆระเบียง ขอแค่ยังมีกันยังมีภูมิอยู่ตรงนี้ มีภูมิที่เป็นรอยยิ้มของผมอยู่ข้างๆกันผมก็มีกำลังใจแล้ว

     






     

     

    เช้าแรกของปีพ..2555 ผมกับภูมิรีบตื่นแต่เช้าไปทำบุญที่วัดใกล้ๆเราไปใส่บาตร ปล่อยปลาให้อาหารปลา จากนั้นผมเลยชวนภูมิไปสวัสดีปีใหม่อาปุ้ยกับพวกพี่ๆที่ร้าน แต่ดันลืมไปว่าปีใหม่ร้านปิดพอโทรหาคุณอาสุดที่รักก็ปรากฏว่าไปฉลองกับเพื่อนที่ภูเก็ต เหอๆ ล่องเหนือจรดใต้จริงๆอากู เราสองคนเลยต้องบอกสวัสดีปีใหม่อาปุ้ยผ่านโทรศัพท์อาก็อวยพรเสียงใสกลับมา มีร้องเพลงพรปีใหม่ให้หลานฟังด้วยนะ หึหึ

     


    สายๆเราก็ไปบ้านภูมิกันเพราะปีใหม่มันมีนัดทานข้าวกับครอบครัว ตอนแรกผมจะไม่มาเพราะมันเป็นวันครอบครัวก็ควรจะปล่อยพ่อแม่ลูกเขาอยู่ด้วยกัน แต่ภูมิกลัวผมจะเหงาเลยหนีบเอาผมมาด้วย เอ่อ บางทีมึงไม่ต้องคิดเผื่อกูก็ได้นะภูมิกูอยู่ได้เว่ย

     




    และถ้าไม่นับครั้งแรกที่ผมมาบ้านภูมิครั้งนี้จะถือเป็นครั้งที่ผมประหม่ามากที่สุด ก็เมื่อวานเพิ่งเจอคุณพ่อไปสดๆร้อนๆผมยังสงบจิตใจไม่ได้วันนี้ก็ดันมากินข้าวที่บ้านเขาอีก ผมเลยกลัวนั่นกลัวนี่ไปสารพัด ไม่รู้ว่าหัดเป็นคนขี้กลัวแบบนี้ไปตั้งแต่เมื่อไร หรือเพราะผมอ่อนไหวกับทุกอย่างที่ส่อแววว่าจะทำร้ายความสัมพันธ์ของผมกับภูมิ

     



    น้องภูมิน้องพีมมากันแล้วหรอลูก





    แม่สวัสดีปีใหม่ครับผมกับภูมิพูดพร้อมกันเมื่อเห็นคุณแม่เดินลงบันไดมาพอดี ท่านทักทายเราด้วยน้ำเสียงสดใสพร้อมกับรับไหว้ด้วยกับรอยยิ้มสวยใจดีเหมือนอย่างเคย

     



    สวัสดีปีใหม่จ๊ะ มาให้แม่กอดหน่อยเร็วทั้งคู่นั่นแหละ ภูมิหันมายิ้มให้ผมก่อนจะเดินเข้าไปกอดแม่ คุณแม่ก็ทั้งกอดทั้งหอมลูกชายคนเล็กเหมือนภูมิเป็นเด็กสามขวบอย่างทุกที ไม่ว่าจะปีใหม่ปีเก่าแต่ลูกชายของแม่ก็ยังหล่อเหมือนเดิมเลยเนอะคุณลูกชายกับคุณแม่ก็โอบกันไปนั่งโซฟาโดยมีผมทำเนียนๆตามเขาไปนั่งแถวๆนั้นแหละครับ

     




    ของมันแน่อยู่แล้วครับแม่เอ่อ ไม่ค่อยจะหลงตัวเองเลยนะมึง คุณแม่หันมาทำตาโตใส่ผมเหมือนจะบอกผ่านสายตาว่าลูกชายคุณแม่ทำไมหลงตัวเอง

     




    กอดน้องภูมิแล้วต่อไปน้องพีมมาให้แม่กอดต้อนรับปีใหม่หน่อยสิ หืออ??? ผมด้วยเหรอ ผมหันไปมองภูมิว่ากูควรทำยังไงไอ้หล่อมันยิ้มพยักหน้าให้ผมก็เลยเดินเข้าไปกอดคุณแม่ ท่านกอดผมพร้อมอวยพรให้ผมมีความสุขเรียนเก่งๆแล้วก็เป็นเด็กดี อ่า เขินๆว่ะ ยิ่งมีไอ้ภูมินั่งมองแล้วอมยิ้มเหมือนจะแซวมันทำปากพะงาบๆว่า แม่ผัวๆผมยิ่งเขินและอยากเตะปากมันในเวลาเดียวกัน เชี่ยภูมิมึงหุบปากไปแสรดดดดด

     



    ปีใหม่พีมจะไปเที่ยวที่ไหนมั้ยลูก ไปไหว้พระที่มาเก๊ากับแม่มั้ย คุณแม่เอ่ยชวนด้วยรอยยิ้มเหมือนอย่างเคย

     


    โหมาเก๊าเลยหรอครับพีมคงไม่ได้ไปอ่ะแม่ ตอนแรกพีมว่าจะกลับเชียงใหม่แต่มันหยุดไม่กี่วันเลยไม่กลับดีกว่า ว่าแต่ทำไมแม่ไปไหว้พระไกลจังครับ




    พอดีเพื่อนแม่ๆชวนไปเที่ยวด้วยน่ะ ทีแรกแม่ก็ว่าจะไปกับคุณพ่อนั่นแหละแต่อยู่ๆก็เปลี่ยนใจไม่ไปกับแม่เฉยเลย รู้สึกหน้าชาๆยังไงไม่รู้ แต่ผมก็ไม่ได้แสดงอาการอะไรออกไปมึงอย่าคิดมากสิไอ้พีมที่พ่อไม่ไปก็เพราะท่านอาจจะติดธุระคงไม่เกี่ยวกับเรื่องของผมหรอก อื้อ จริงสิแม่ว่าจะถามพีมหลายครั้งแล้วแต่ก็ลืมทุกที บ้านน้องพีมมีร้านกาแฟใช่มั้ยลูก

     




    ครับเป็นร้านของคุณอา

     


    เหรอ เห็นน้องภูมิบอกว่าบรรยากาศดีแม่ว่าจะลองไปอุดหนุนซักครั้ง

     

    แม่อยากไปเหรอครับภูมิรีบถามทันที เก็บอาการหน่อยเหอะมึง

     


    จ๊ะ ไว้ว่างๆเราไปทานกันเนอะแม่โยกหัวภูมิเบาๆ

     


    ได้ครับแม่ ที่ร้านมีเค้กอร่อยๆด้วยนะเดี๋ยวพีมจะแนะนำเมนูเด็ดๆให้ครับ

     

    โอเคเลย แล้วนี่หิวข้าวกันรึยัง น้องภูมิทานข้าวเช้ารึยังลูก เดี๋ยวปวดท้องนะ


    ทานแล้วครับแล้วคุณพ่อล่ะ


    อาบน้ำอยู่จ๊ะ เดี๋ยวคงลงมา


    แล้วโอ๊ตกับฟ่างอ่ะอ่าใช่ ภูมิบอกว่าวันนี้พี่โอ๊ตกลับบ้านด้วยนี่ถึงว่าไอ้ภูมิมันดูอารมณ์ดีเป็นพิเศษที่แท้ก็จะได้เจอพี่ชายคนโตนี่เอง

     



    อยู่บนห้อง เมื่อกี้พี่ฟ่างตะโกนโวยวายอะไรไม่รู้สงสัยโดนพี่โอ๊ตแกล้ง เฮ้อ โตแล้วยังเล่นกันเป็นเด็กๆ น้องภูมิไม่ต้องเลยนะ ยิ้มแบบนั้นจะไปแกล้งอะไรพี่ฟ่างอีกเดี๋ยวก็โดนเค้าตีกลับมาหรอกแม่ดุลูกชายคนเล็กแต่ก็ไม่ได้จริงจังอะไร




    ภูมิเปล่าซะหน่อยแล้วไอ้เบียร์กับพวกคุณลุงล่ะยังไม่มาอีกเหรอแม่


     

    น้องเบียร์จะมาตอนเย็นๆคุณพ่อนัดทานข้าวกับครอบครัวนู้นไว้แล้ว น้องภูมิจะอยู่กับแม่ถึงตอนเย็นได้มั้ยมีธุระรีบไปไหนรึเปล่าลูกแม่มองหน้าเราสองคนสลับไปมาภูมิก็มองผมเหมือนขอความเห็น ก็นะปีใหม่มันเป็นช่วงเวลาที่ต้องอยู่กับครอบครัว ภูมิก็ควรใช้เวลาอยู่กับพ่อกับแม่บ้าง น้องพีมก็อยู่ด้วยกันนะลูกแม่เอ่ยชวนด้วยรอยยิ้มแถมท่านยังพยักหน้าประกอบการชวน

     



    ขอบคุณครับแม่แต่พอดีว่าพีมมีนัดกับคุณย่าไว้แล้วครับคงไม่ได้อยู่ถึงเย็น

     


    อ้าว งั้นเหรอลูก เสียดายจังงั้นเอาไว้ครั้งหน้าก็ได้เนอะ เดี๋ยวแม่ขอตัวไปดูในครัวก่อนนะว่าป้าอรกับพวกเด็กๆเตรียมของไปถึงไหนแล้ว



    “ครับ”



    ไหนบอกจะไปด้วยกันไงพอแม่เดินออกไปจากห้องรับแขกภูมิก็รีบถามผมซะจนหน้ายุ่ง ภูมิรู้ว่าผมจะไปหาย่าแต่ที่ตกลงกันไว้คือผมจะพามันไปด้วย พอผมเล่นมาเปลี่ยนกำหนดการเองแบบนี้มันคงไม่พอใจ

     



    ก็มึงจะได้ใช้เวลาอยู่กับครอบครัวไง แล้วเอ่อ คือ คืนนี้กูจะค้างบ้านย่านะ



    ค้างด้วยหรอมันแทบจะแดกหัวผมได้แล้วครับ มึงซีเรียสเกินไปป่ะเนี่ย

     

    เออน่าห่างกันคืนเดียวเองหรือถ้ามึงเปลี่ยวก็ปล้ำหมีแก้ขัดไปก่อนนะ ฮ่าๆไอ้ภูมิมันคงทนฟังผมพูดจาหลบหลู่หมีไม่ได้มันเลยเอื้อมมือมาบีบจมูกผมเป็นการลงโทษ แต่ยังไม่ทันที่ผมจะได้แก้แค้นบีบปากมันกลับเสียงตะโกนของไอ้ฟ่างก็ดังมาขัดจังหวะซะก่อน

     


    ไอ้โอ๊ต กลับเข้าป่าไปเลยไป๊ปล่อยยยยยยยยไอ้ฟ่างถูกพี่โอ๊ตกอดล็อคคอหนีบไว้ที่รักแร้ มันพยายามดิ้นหนีเอาชีวิตจนหัวยุ่งหน้ายับต่างจากพี่โอ๊ตที่เดินอมยิ้มมีความสุขลงมาจากบันไดน้องภูมิมาแล้วเหรอ อ้าวพีมก็มาด้วยรอยยิ้มอบอุ่นของพี่ชายขี้แกล้งถูกส่งมาให้ผมกับภูมิ พี่โอ๊ตแม่งอัพความหล่อขึ้นทุกครั้งที่เจอเลยว่ะ

     


    พี่โอ๊ตหวัดดีปีใหม่ครับผมยกมือไหว้แต่ภูมิน่ะเดินเข้าไปกอดแล้ว ไอ้ฟ่างเลยได้ทีมันใช้โอกาสที่พี่โอ๊ตกับภูมิกอดกันตบเข้ากลางหลังพี่โอ๊ตแล้วก็อันเชิญตัวเองออกมาจากการคุกคามของพี่โอ๊ตได้สำเร็จ ฮ่าๆ แต่พี่โอ๊ตก็ไม่ได้ร้องโอยโยโวยวายว่าเจ็บหรืออะไรเลยนะครับ พี่แกแค่ไหวไหล่ไม่สนใจไอ้ฟ่างที่ทำหน้าเหมือนจะสูบวิญญาณพี่ชายตัวเอง




    หวัดดีครับน้องพีม ไม่เจอกันนานยังตัวเท่าเดิมเลยนะอ้าววววววววว ทำไมพี่โอ๊ตพูดจาแมวๆแบบนี้ฟระ หึหึ พี่ล้อเล่นพีมออกจะสูงเนอะ หึ จริงมั้ยข้าวปั้นมา” ไอ้พี่น้องสองคนมันร่วมด้วยช่วยกันหัวเราะก่อนจะกอดคอกันมานั่งที่โซฟาตรงข้ามผมกับฟ่าง





    “จริงครับหึหึ โอ๊ตมาถึงตั้งแต่เมื่อไรแล้วโอ๊ตหยุดงานกี่วัน”




    “พี่มาถึงเมื่อเช้าครับแล้วก็หยุดงานได้ห้าวัน ภูมิพาพี่โอ๊ตเที่ยวหน่อยนะไปอยู่ป่านานจำทางในกรุงเทพไม่ได้แล้ว” พี่โอ๊ตกับภูมิก็สร้างโลกครอบครัวสุขสันต์ใสๆกันไปแต่อีกคนที่นั่งชันเข่าข้างนึงบนโซฟามันแสยะยิ้มแล้วเบะปากมองพี่ชายกับน้องชายคุณกัน โคตรมาเฟียเลยมึงไอ้ฟ่าง




    แล้วเมื่อกี้โอ๊ตกับฟ่างเล่นไรกัน




    สภาพกูดูเหมือนเล่นหรอห๊ะแม่ง ไอ้ฟ่างดึงองุ่นที่จัดไว้บนโต๊ะอย่างสวยงามปาใส่หัวภูมิ หึหึ แม่ง หึหึโคตรจะแม่น




    "โอ๊ยยย โอ๊ตดูดิ ฟ่างทำภูมิ ที่จริงมันต้องน่าสงสารนะครับแต่เชี่ยภูมิเสือกยักคิ้วมันเลยน่าถีบ พี่โอ๊ตก็แค่หัวเราะแล้วมองมาที่ไอ้ฟ่าง




    ฟ่างทำน้องทำไม



    กูพอใจ มีไรมั้ยแล้วฟ่างก็ลุกไปบิดแก้มไอ้ภูมิจนมันร้องลั่นบ้าน ทั้งคุณแม่ ป้าแม่บ้าน คุณลุงคนสวน คนขับรถ ยามก็แห่กันเข้ามาดู

     


    โอ๊ยยยยยยยย แม่ครับบบบฟ่างมันแกล้ง แม่ฟ่างตีภูมิ แม่!!!!!!!!



    อะไรกันลูกเป็นอะไรหื้อ น้องภูมิร้องทำไม” คุณแม่ถามด้วยความตกอกตกใจ ฮ่าๆ


    “พี่ฟ่างมันแกล้ง” ไอ้ภูมิก็รีบฟ้องใหญ่เลยเว้ย


    “โธ่แม่ก็นึกว่าเป็นอะไร ทำไมข้าวฟ่างชอบแกล้งน้องฮึลูก พี่โอ๊ตก็เหมือนกันโตแล้วนะทำไมไม่ห้ามน้อง ไอ้ลูกพวกนี้นิ เฮ้ออ ไม่อายพีมบ้างหรอลูก พอๆเลิกเล่นพี่โอ๊ตขึ้นไปเรียกคุณพ่อแล้วก็หยิบโทรศัพท์บนห้องให้แม่หน่อยไป คุณแม่และทุกคนต่างหันหลังสลายตัวไปทำหน้าที่ตัวเองต่อ ไอ้ฟ่างมันเลยยิ้มมุมปากที่แม่ไม่เข้าข้างภูมิ พอแม่หันหลังแค่นั้นแหละครับเหมือนสามคนนั้นมันรู้ว่าต้องทำอะไร พี่โอ๊ตแม่งใช้ความไวตรงดิ่งมาดีดหน้าผากไอ้ฟ่าง


    โอ๊ย!!!! เจ็บนะโอ๊ต



    วันนี้ใครใหญ่ให้รู้บ้างนะครับน้องข้าวฟ่าง หึหึพูดจบพี่โอ๊ตก็เดินขึ้นข้างบนไปเลย ปล่อยให้ไอ้ฟ่างนั่งสั่นด้วยความแค้นต่อไป


     

    สม หึหึไอ้ภูมิวิ่งตามไปเกาะไหล่พี่โอ๊ต มันหันกลับมาแลบลิ้นใส่ฟ่างที่นั่งทำหน้ายักษ์อยู่ ผมเลยอดหัวเราะไม่ได้ กูโคตรชอบเวลาที่มึงเป็นรองพี่โอ๊ตเลยฟ่าง แล้วมันก็ตวัดสายตากลับมาจ้องหน้าผม

     

    ขำเหี้ยไร ภูมิใจในตัวผัวเบบี๋ของมึงรึไงไอ้เตี้ยเดี๋ยวกูจับทำเมียแก้หงุดหงิดซะหรอก ห่ามันพูดพร้อมกับกอดคอผมซะแน่น ม่ายยยยยยยยยย อย่ามายุ่งกับกู

     

     

    บรรยากาศบนโต๊ะอาหารเป็นเป็นอย่างอบอุ่น พ่อ แม่และลูกๆทุกคนพูดคุยกัน หยอกล้อกันบ้าง เวลาที่พี่น้องสามคนแกล้งกันมันสามารถเรียกรอยยิ้มจากทั้งคุณพ่อคุณแม่ได้เสมอ

     


    ผมรู้แล้วว่าภูมิเป็นเหมือนจุดศูนย์กลางความสุขของทุกคนในครอบครัว ถึงฟ่างมันจะชอบเล่นแรงๆหรือแกล้งภูมิบ่อยๆแต่ทุกครั้งมันจะมีรอยยิ้มเล็กๆรอยยิ้มเอ็นดูคอยหยิบยื่นให้ภูมิ


     

    ผมดีใจนะที่เห็นภูมิมีรอยยิ้ม แต่ตอนนี้ผมเริ่มรู้สึกไม่แน่ใจและได้แต่ถามตัวเองว่ากูมานั่งทำอะไรวะ มานั่งฟังเขาคุยกันในเรื่องที่เราไม่รู้หรือมานั่งยิ้มนั่งหัวเราะเป็นส่วนเกิน

     

    ผมไม่เคยอึดอัดที่จะทานข้าวกับครอบครัวที่น่ารักอย่างครอบครัวภูมิ กับข้าวทุกอย่างอร่อยแต่ผมกลับรู้สึกว่ากลืนไม่ค่อยลง ตอนที่คุณพ่อลงมาท่านยังยิ้มให้ผมเหมือนเคยแต่จนถึงตอนนี้ท่านยังไม่ได้พูดกับผมเลยซักคำ



    บอกตรงๆนะครับว่าผมรู้สึกชาไปทั้งหน้าอยากจะกลับบ้านซะตอนนี้ถ้าไม่มือของภูมิที่แอบจับมือผมไว้ใต้โต๊ะ

     





    น้องภูมิ อยู่คอนโดนานๆไม่เบื่อหรออยากกลับมาอยู่บ้านมั้ยอยู่ๆพ่อก็พูดขึ้นมาทำให้ทุกคนหันไปมองท่าน

    อยู่คอนโดก็สะดวกดีแล้วครับภูมิตอบมันสบตากับพ่อตรงๆจนพ่อพยักหน้า ผมเห็นไอ้ฟ่างหันไปมองพี่โอ๊ตก่อนที่ทั้งสองคนจะหันมามองหน้าผมแต่ผมกลับรู้สึกว่าข้าวในจานมันน่ามองกว่า

    งั้นเหรอ


    ครับ



    เดี๋ยวกินข้าวเสร็จ ตามพ่อไปห้องหนังสือด้วยนะ




    ครับพ่อภูมิรับคำเสียงเบาราวกระซิบ พอพูดจบคุณพ่อก็เดินออกไปจากโต๊ะอาหาร คุณแม่เองก็ขมวดคิ้วและบ่นพึมพำว่าคุณพ่อเป็นอะไรทำไมทำตัวแปลกๆ พี่โอ๊ตมองตามคุณพ่อก่อนจะหันมายิ้มและขยี้หัวน้องชายคนเล็กที่นั่งทำหน้าจ๋อยอยู่



    ส่วนฟ่างมันก็เอาแต่มองผมเหมือนอยากถามอะไร ผมสบตามันได้แค่เสี้ยววินาทีก็หลบก้มหน้ามองข้าวในจานอีกครั้ง ก่อนจะรู้สึกเหมือนมีอะไรมาโดนเท้า พอเงยหน้าก็เห็นว่าภูมิกำลังส่งยิ้มมาให้พร้อมกับยื่นเท้ามาสะกิดขาผมใต้โต๊ะ ผมก็พยายามส่งยิ้มกลับไปให้มันสบายใจทั้งที่ความจริงแล้วตอนนี้ผมแทบไม่มีแรงจะถือช้อนเลยด้วยซ้ำ

     

     

     

     

     




    ……………………………..







     

    หลังจากทานข้าวกับที่บ้านของภูมิเสร็จผมก็ขอตัวกลับ ก่อนกลับพี่โอ๊ตเป็นคนเดินมาส่งผมเพราะภูมิยังคุยธุระกับพ่ออยู่ในห้องหนังสือ พี่โอ๊ตบอกว่าถ้าว่างๆให้ไปเที่ยวที่ห้วยขาแข้งบ้างพี่โอ๊ตจะพาเดินป่า แล้วบอกว่าไม่ต้องคิดมากเรื่องพ่อ เอ๊ะ นี่พี่ดูออกหรอครับหรือหน้าผมมันฟ้องหว่า จริงๆพี่โอ๊ตเป็นผู้ชายที่อบอุ่นมากนะครับ ใจดีแค่อาจจะติดที่ขี้แกล้งไปหน่อยแต่พี่เขาก็เป็นผู้ใหญ่ที่น่าเคารพมากคนนึง ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมภูมิถึงติดพี่ขนาดนี้

     



    ตลอดทางที่ผมขับรถมาบ้านย่า เรื่องที่พ่อเรียกภูมิไปคุยด้วยมันยังคงตามมาเกาะจิตใจให้ผมกังวล ผมอยากรู้ว่าพ่อกับภูมิคุยกันเรื่องอะไร ผมบอกตัวเองว่าไม่ให้คิดมากผมพยายามสลัดมันออกจากหัวแต่ก็ไม่เป็นผล เฮ้ออออ นี่ก็เพิ่งปีใหม่แท้ๆแทนที่จะมีแต่เรื่องดีๆมีแต่ความสุขกลับมีเรื่องมาให้คิดซะแล้ว

     



    ผมบีบแตรรถอยู่หน้าบ้านย่าสองสามครั้งป้ายิ้มแม่บ้านก็เดินแกมวิ่งมาเปิดประตู ผมขับรถเข้าไปจอดพอผมลงจากรถป้ายิ้มก็รีบวิ่งมากอด

     

    คุณพีม หายหน้าหายตาไปตั้งนานนึกว่าลืมบ้านนี้ซะแล้วป้ายิ้มแกจับไม้จับมือผมแถมรีบพูดรัวเร็วจนผมต้องหัวเราะ ผมจะพยายามไม่คิดมากอย่างน้อยตอนนี้ผมก็ควรยิ้มให้ทุกคนสบายใจ

     



    ลืมได้ไงครับนี่พีมก็คิดถึงป้ายิ้มมากจนต้องรีบขับรถมาหานะเนี่ยอ่อ เกือบลืมสวัสดีปีใหม่ป้ายิ้มนะครับ พีมมีของขวัญมาให้ด้วยนะผมเปิดเอากระเช้าของฝากที่อยู่ท้ายรถมาให้ป้ายิ้ม ป้าแกบอกขอบอกขอบใจและอวยพรให้ผมใหญ่เลย



     

    แล้วคุณย่าอยู่ไหนหรอครับ


     

    คุณท่านอยู่ที่สวนดอกไม้ค่ะ คุณพีมเข้าไปหาคุณย่าก่อนเดี๋ยวป้าจะให้ดาวมันยกน้ำเย็นๆไปให้นะคะแล้ววันนี้คุณพีมอยากทานอะไรเป็นพิเศษมั้ย

     

    แล้วแต่ป้าจะจัดมาเลย อ่อฝากบอกพี่ดาวด้วยนะครับว่าพีมมีของมาฝากเหมือนกันงั้นพีมขอไปหาย่าก่อนนะ ผมแยกกับป้ายิ้มเพื่อมาหาคุณย่าที่สวนดอกไม้ บ้านหลังนี้เกือบเป็นป่าพอๆกับบ้านอาปุ้ยนั่นแหละครับ เผลอๆอาจจะหนักกว่าด้วยซ้ำ

     


    คนข้างนอกมองเข้ามาคงมีสงสัยบ้างแหละว่านี่บ้านหรืออุทยานแห่งชาติ หึหึ มีแม้กระทั่งลำธารเล็กๆลำธารท่ามกลางต้นปีบต้นปาล์มและต้นไม้ใหญ่อีกหลายสิบต้น แล้วย่าก็จะมีที่ประจำของแกครับ เป็นศาลาสีขาวที่อยู่กลางป่ากลางสวนดอกไม้นั่นแหละ ผมเห็นไกลๆว่าย่ากำลังนั่งทำอะไรซักอย่างแลดูเหมือนจะเป็นการถักไหมพรมล่ะมั้ง ผมเลยค่อยๆย่องเดินเข้าไปให้เบาที่สุดและ

     



    จ๊ะเอ๋!!!!!


    ว๊าย ตาเถร เจ้าพีมย่าตกใจหมดลูกย่าวางเข็มที่อยู่ในมือ หันมาฟาดที่แขนผมก่อนจะยกมือขึ้นทาบหน้าอก หึหึบาปแน่กู


     

    คนสวยขวัญอ่อนหรอครับผมก้มลงกอดผู้หญิงผิวขาวตัวท้วมๆที่ผมรักมาก




    ก็ตกใจสิลูก มาไม่ให้ซุ่มให้เสียงถ้าย่าหัวใจวายนะจะมาหลอกพีมคนแรกย่ามองค้อนผมทั้งที่ปากกำลังยิ้ม

     


    โอ๋ๆ เค้าล้อเล่นนะตัวเอง หึหึ สวัสดีปีใหม่ครับย่า ผมคุกเข่าลงนั่งบนพื้นก่อนจะกราบลงบนตักย่าท่านลูบหัวผมและกอดผมไว้เช่นกัน

     


    สวัสดีปีใหม่จ๊ะพ่อหลานตัวดี ขอให้พีมมีความสุขมากๆ ไม่เจ็บไม่ไข้ขอให้พีมพบเจอแต่สิ่งที่ดีๆตลอดทั้งปีนะลูก ผมซุกหน้าลงกับพุงนิ่มๆของย่า คนแก่ไม่ได้ฉีดน้ำหอมแต่ทำไมตัวหอมจัง เป็นกลิ่นหอมที่ผมรู้สึกว่ามันทำให้ผมสบายใจและอบอุ่นอย่างบอกไม่ถูก


    ขอบคุณครับ

     

    แล้วนี่มัวไปติดสาวที่ไหน ไม่มาหาย่าบ้างถ้าไม่ปีใหม่ฉันคงไม่ได้เห็นหน้าหลานใช่มั้ยเนี่ย มีงอนๆ ฮ่าๆ


    โห่ติดสาวอะไรไม่มีเหอะ อีกอย่างเดือนที่แล้วพีมก็เพิ่งมาหาย่านะ ผมลุกขึ้นไปนั่งบนเก้าอี้อีกตัวแล้วเกี่ยวด้ายไหมพรมมาพันมือเล่น

     


    อ่อ ที่มากับพ่อหนุ่มคนนั้นที่หล่อๆใช่มั้ย แล้วนี่ไม่ชวนมาด้วยเหรอ พามาแค่ครั้งเดียวยังอุตส่าห์จำได้อีกนะครับคุณย่า คือเมื่อเดือนที่แล้วผมพาภูมิมากราบย่าน่ะและดูท่าว่าจะเอ็นดูกันมากอยู่เห็นได้จากการชมไอ้ภูมิว่าหล่ออ่ะครับแต่ทีหลานตัวเองนี่ไม่เคยหรอก



    มันก็มีพ่อมีแม่นะย่าก็ต้องอยู่กับครอบครัวเขาสิคร้าบบบบ




    อ๋ออแล้วไอ้ปุ้ยล่ะ มันไปแว๊ดๆที่ไหนทำไมไม่มากับพีม



    อาปุ้ยไปฉลองปีใหม่ที่ภูเก็ตกับเพื่อน อาทิ้งพีมอ่ะย่าฟ้องๆ คึคึ เมื่อโอกาสมาเราจักต้องรีบฉวยไว้ ผมต้องรีบทำคะแนนครับ

     




    ไอ้นี่มันชีพจรลงเท้าจริงๆ เมื่อคืนยังโทรมาบ่นกับย่าอยู่เลยว่าเซ็งลูกศิษย์ปีใหม่มันจะไม่ออกไปไหน แล้วนี่อะไรยังไม่ทันจะข้ามวันก็ดันไปโผล่ที่ภูเก็ตซะแล้วย่าส่ายหน้าเอือมระอาในตัวลูกสาว เหอๆ





    ฮ่าๆๆ จริงย่าพีมเห็นด้วยแล้วนี่ย่าอยู่บ้านคนเดียวหรอครับ ลุงกับป้าไปไหนอ่ะ



     

    ไปงานปีใหม่กับพวกพนักงานที่บริษัทน่ะ ตารัฐกับแม่นุชยังถามถึงพีมอยู่เลยว่าไม่ค่อยมาหา ป้านุชเป็นป้าสะใภ้ของผมครับเป็นเมียลุงรัฐซึ่งเป็นพี่ชายของพ่อผม ไอ้โฟโต้ที่ไอ้ภูมิเคยโทรไปด่าก็เป็นลูกลุงรัฐนี่แหละ ย่ามีลูกสี่คนเป็นลูกชายสามลูกสาวหนึ่ง คือลุงรัฐ พ่อ อาปุ้ย ส่วนน้องสาวอีกคนเสียไปตอนเด็กๆ แต่ก็ได้น้องสาวคนใหม่มาแทนในเวลาต่อมาซึ่งก็คืออาปุ้ยนั่นเอง ฮ่าๆแล้วไอ้โฟล่ะย่า

     


    ยังไม่ตื่นเลยเมื่อคืนน้องไปฉลองกับเพื่อนมา ย่าบอกว่าถ้ากินเหล้าก็ไม่ต้องกลับให้ค้างบ้านเพื่อนน้องก็ไม่ฟังบอกว่าจะกลับมานอนกับย่า พีมขึ้นไปหาน้องสิจะได้ไปปลุกให้มากินข้าวพร้อมกัน เอ้อย่าก็ลืมถามพีมกินอะไรมารึยังย่าเงยหน้ามาถามผม

     



    เรียบร้อยแล้วครับ

     



    แล้วพ่อตำรวจใหญ่แห่งเมืองเหนือล่ะเป็นไง มันคิดจะมาหาแม่มันบ้างมั้ย

     


    ปีใหม่พ่อโคตรยุ่งอ่ะย่า เดี๋ยวพีมว่าจะโทรไปแกล้งแต่คืนนี้ขออาศัยนอนบ้านซักคืนนะครับ



    หึ ย่าคิดค่าเช่านะแหนะๆมีแอบเหล่มองผมลอดแว่นด้วยนะ


     

    โห่ แค่นี้ก็รวยแล้วม้างงงง ย่าคิดเงินกับพีมเลยย่าส่ายหน้ามองผมด้วยรอยยิ้มท่านก็ถักไปชวนผมคุยไปเรื่องสัพเพเหระ การนั่งดูย่าถักไอ้ผ้าพันคอนี่มันก็เพลินดีนะครับ เพลินซะจนหัวผมกลับไปคิดถึงแต่ภูมิ ป่านนี้มันทำอะไรอยู่นะ จะคุยกับพ่อเสร็จรึยัง ทำไมมันไม่โทรมา แล้วคืนนี้มันจะนอนที่ไหน จะคิดถึงผมบ้างรึเปล่า

     




    พีมมีอะไรจะเล่าให้ย่าฟังมั้ยคนแก่ชอบฟังเรื่องของลูกหลานนะยาหยุดมือที่ถักผ้าพันคอก่อนจะเงยหน้าถามผมด้วยรอยยิ้มใจดี รอยยิ้มที่ผมคุ้นเคยมาตั้งแต่เด็กจนวันนี้รอยยิ้มของย่าก็ไม่เปลี่ยนไปเลย ยังเป็นคุณย่าที่น่ารักและใจดีเสมอ ผมเกยคางกับโต๊ะกลมๆสีขาวพร้อมกับส่งยิ้มกลับไปให้ย่า

     



    ย่าอยากฟังเรื่องอะไรล่ะแต่พีมไม่ค่อยมีเรื่องอะไรน่าสนใจหรอกนะ

     




    ก็เรื่องที่พีมคิดอยู่ตอนนี้ไงผมเลิกคิ้วมองย่าและพยายามหัวเราะกลบเกลื่อนทั้งที่ผมค่อนข้างแปลกใจที่เห็นว่าย่ามองผมด้วยสายตาที่เหมือนเข้าใจความรู้สึกของผม มือที่เหี่ยวย่นตามกาลเวลาของคนที่ผ่านร้อนผ่านหนาวมาเกือบเจ็ดสิบปีมือนิ่มๆอ่อนโยนข้างนั้นเอื้อมมาลูบหัวผมเบาๆ

     



    หึหึ อะไรอ่ะย่า อย่ามองพีมแบบนั้นสิพีมสบายดีแต่การโกหกไม่ดีเลยว่ะ ผมไม่ชอบความรู้สึกแบบนี้เลย แต่ย่าก็ไม่ได้ว่าอะไรนอกจากลูบหัวผมเหมือนเดิม




    วันเวลาอาจจะทำให้หลานของย่าโตขึ้น ความคิด ความเป็นผู้ใหญ่ก็อาจจะมากขึ้นแต่มีสิ่งหนึ่งที่พีมยังเหมือนเดิม คือพีมโกหกไม่เก่ง สายตามี่คุณย่ามองผมเหมือนท่านรู้ความคิดของผมจนทะลุปรุโปร่ง คงเหมือนเวลาที่เราคุยเล่นกับเด็กความคิดของเด็กคงไม่ยากที่จะคาดเดา

     



    ผมหลบตาเสไปมองผีเสื้อตัวนึงที่เกาะอยู่บนดอกแก้ว ของที่คู่กันเวลาอยู่ด้วยกันแล้วมันดูสวยดีแต่จะมีซักกี่คนที่คิดตรงกับผม ในเมื่อดอกไม้ไม่จำเป็นต้องคู่กับผีเสื้อ พวกเขาอาจจะคิดว่าดอกไม้ต้องคู่กับแจกันก็ได้

     

     

    ย่า…… ย่าเคยเสียใจมั้ยที่อาปุ้ย เอ่อ ที่อาปุ้ยเป็นแบบนี้ผมไม่รู้ว่าทำไมถึงถามออกไปแบบนั้น ไม่กล้าแม้แต่จะเงยหน้าขึ้นมองคุณย่า

     


    แบบนี้ที่พีมว่าคือแบบไหนลูก

     




    ก็ที่อาปุ้ยไม่แต่งงานไม่มีสะใภ้ไม่มีหลานให้ย่า ย่าเคยเสียใจมั้ยครับ เคยคิดว่าอาปุ้ยทำผิดรึเปล่าสิ่งที่พีมเป็นจะทำให้ย่าเสียใจมั้ย

     



    ทำไมต้องเสียใจด้วยล่ะ คำตอบของย่าทำให้กล้าเงยหน้าไปมองสบตากับท่าน ย่ายังคงยิ้มอยู่มือข้างนั้นก็ยังวางบนหัวของผมเช่นเดิม ปุ้ยมันไม่ได้ทำร้ายใครนิลูก ย่าก็ไม่เห็นจะมีใครเดือนร้อนที่มันกรี๊ดกร๊าดบ้าผู้ชายไปวันๆ ถามว่าเสียใจมั้ย ย่าไม่เสียใจหรอกไม่ว่าลูกของย่าจะเป็นอะไรเขาก็คือลูก ย่าภูมิใจด้วยซ้ำที่ปุ้ยมันมีหน้าที่การงานที่มั่นคงเป็นถึงอาจารย์ให้ความรู้คนอื่นๆ”





     

    ……………………


     

    …..พีม



     

    ครับ



    ที่ผ่านมาพีมเป็นเด็กดีของพ่อแม่ เป็นหลานที่น่ารักของย่าของอาปุ้ย พวกเราทุกคนรักพีมนะลูก ไม่ว่าพีมจะเป็นยังไงก็ขอให้เป็นคนดีก็พอนะลูกนะ

     



    ครับย่าผมลงไปกอดย่าความรู้สึกตื้นตันใจที่มันเอ่อขึ้นมาจนแน่นอกผมแอบเช็ดน้ำตากับเสื้อเนื้อนิ่มของย่า ขอบคุณครับ

     



    ผมไม่ได้หวังว่าคนทั้งโลกจะเข้าใจความรักของผม ไม่ได้ต้องการให้ใครมายอมรับเรื่องของผมกับภูมิ ขอแค่คนในครอบครัวเข้าใจ ผมขอแค่นี้จริงๆ

     


    ในวันข้างหน้าผมไม่รู้ว่าเราจะต้องเจอกับอะไรอีกบ้าง ไม่รู้ว่าความรักของผมกับภูมิจะเป็นยังไงต่อไป เราจะประคับประคองมันไปได้ไกลซักแค่ไหนจะต้องเจออุปสรรคอะไร แต่วันนี้ขอแค่มีครอบครัวมีภูมิเดินอยู่ข้างๆผมก็พร้อมจะฝ่าฟันทุกอย่างไปพร้อมมัน แค่มีภูมิอยู่ผมก็ไม่เป็นไรแล้ว

     

     




    หลังจากคุยกับย่าผมก็ขึ้นไปหาไอ้โฟโต้ มันกำลังแต่งตัวเหมือนจะออกไปข้างนอกผมเลยเดินเข้าไปตบหัวมันเป็นการทักทาย

     


    เฮ้ยพี่พีมมาได้ไงวะ ไม่เห็นโทรมาบอกเลย โฟนึกว่าพี่จำทางมาบ้านนี้ไม่ได้แล้ว ไอ้โฟโต้ตาลีตาเหลือกมันรีบวิ่งเข้ามากอดผมแล้วลากไปนั่งที่เตียง

     

    หึหึ เว่อร์แล้วๆ แล้วนี่จะออกไปไหนวะแต่งตัวซะหล่อเชียว ไอ้โฟโต้มันก็ไม่ได้หล่ออะไรมากหรอก แค่ขาว แค่ตี๋ๆ แค่จมูกมันโด่ง แค่มันมีเขี้ยวแค่ปากมันบางๆ เออแค่นั้นแหละ แล้วเด็กห่าไรแม่งสูงจังวะได้ข่าวว่ากูกับมึงสปีชีส์เดียวกันแต่ทำไมมันต่างกันเยี่ยงนี้ห๊ะ

     


    นัดกินข้าวกับเด็กน่ะพี่ โห่พี่พีมน่าจะบอกก่อนถ้ารู้ว่าพี่พีมจะมานะโฟไม่นัดใครหรอก อยู่เล่นเกมส์กับพี่พีมดีกว่า ว่าแต่พี่หล่อขึ้นป่ะวะมันจับตัวผมบิดซ้ายบิดขวาแล้วยื่นหน้ามาสำรวจซะจนแทบขึ้นมาขี่คอ ไอ้โฟมันติดผมมาตั้งแต่สมัยเด็กๆแล้ว อาจเป็นเพราะเราสองคนต่างก็เป็นลูกคนเดียวอีกอย่างทั้งตระกูลก็มีกันอยู่แค่นี้เลยทำให้สนิทกันเหมือนพี่น้องแท้ๆมากกว่าลูกพี่ลูกน้อง

     


     

    ความจริงเป็นสิ่งไม่ตายว่ะน้องรัก ฮ่าๆ

     

    อ่ะนะคนเรา นี่ถ้าไม่ใช่พี่ชาย โฟยื่นกระจกให้ส่องนะเนี่ย




    กวนตีนๆ ว่าแต่มึงเหอะย่าเล่าให้กูฟังว่ามึงหักอกสาวเป็นว่าเล่นเลยเหรอวะ

     


    หึหึย่าอ่ะโม้ โฟก็เรื่อยๆ แต่ก็เริ่มรำคาญแล้วว่ะแม่งเอาแต่ใจชิบหาย เพื่อนมันเลยแนะนำให้คบผู้ชาย พี่พีมมีเพื่อนหล่อๆมั้ยฮ่าๆไอ้นี่นิเดี๋ยวผีผลักเหมือนไอ้คิวมีเมียผู้ชายจริงๆหรอก ผมผลักไอ้เด็กตัวสูงที่หัวเราะอวดเหล็กจัดฟันสีฟ้าหน้าระรื่นจนมันหงายหลัง

     

    หึอยากลองของหรอมึงแต่กูเตือนไว้ก่อนนะว่า one way ticket

     

    อะไรวะพี่ไอ้โฟมันนั่งทำหน้างงๆ

     

    ตั๋วเที่ยวเดียวไง ถ้ามึงได้เดินทางนี้กลับไม่ได้นะน้องชาย

     



    หึ รู้ดีเว้ย ประสบการณ์ตรงป่ะเนี้ยแล้ววันนี้พี่พีมค้างป่ะ

     


    ค้าง

     

    เยสสส มีเพื่อนเล่นเกมส์แล้วเดี๋ยวโฟจะรีบไปรีบกลับ คราวนี้มันกระโดดกอดคอผมเหมือนเป็นเพื่อนเล่นมันเลย

     

    มัวแต่เล่นเกมส์คิดเรื่องเอนท์ฯได้แล้วรู้มั้ยอยู่ม.5แล้วนะ แล้วอยากเข้าคณะอะไรคิดรึยังไอ้โฟมันเรียนโรงเรียนเดียวกับที่พวกไอ้ภูมิจบมาน่ะครับ

     


    ที่จริงก็อยากเข้าวิศวะอินเตอร์มอพี่พีมอ่ะ แต่พ่ออยากให้ไปต่อเมืองนอกโฟโคตรเซ็งเลยพี่ไปคุยกับพ่อให้หน่อยดิไอ้โฟรีบอ้อนวอนผม หน้าตามันดูเซ็งเหมือนที่พูดแต่ขอโทษนะน้องรักกูคงช่วยอะไรมึงไม่ได้

     



    เหอๆ ไม่เอาอ่ะ ลุงรัฐดุเกินดุกว่าพ่อผมอีกครับใครจะกล้า ผมก็นอนคุยเล่นกับไอ้โฟซักพักมันก็ออกไปหาเพื่อน ผมเลยลงมาอยู่กับย่าช่วยย่าปั้นบัวลอยแล้วก็ไปก่อกวนป้ายิ้มกับพี่ดาวที่ทำกับข้าวอยู่ในครัวจนถูกย่าตะเพิดออกมา ฮ่าๆ พอกินข้าวเย็นเสร็จผมก็เข้าไปนอนเล่นที่ห้องย่า

     



    นาฬิกาบอกเวลาสองทุ่มกว่าๆย่าก็เริ่มง่วงผมบอกราตรีสวัสดิ์หอมแก้มย่าแล้วก็กลับมาห้องตัวเอง ผมก็มีห้องตัวเองในบ้านหลังนี้เหมือนกันน๊า

     


    พอผมเข้าไปอาบน้ำไอ้ภูมิก็โทรมาพอดี ฮึ่มมม ตอนที่กูยังไม่อาบทำไมมึงไม่โทรมาวะ ผมเลยต้องรีบอาบรีบออกมารับเพราะถ้าผมไม่รับมันก็จะโทรอยู่แบบนี้โทรจนกว่าจะรับ เป็นร้อยสองร้อยมิสคอลก็เคยมีมาแล้วนะครับ เหอๆ ไม่บ้าจริงทำแบบภูมินทร์ไม่ได้นะเนี่ย

     





    (ทำไมไม่รับโทรศัพท์) เอาแล้วไงกูเสียงมันโหดมาเลยครับพี่น้องงงง

     


    อาบน้ำอยู่ เพิ่งออกจากห้องน้ำเลยเนี่ยเสื้อผ้ากูก็ยังไม่ได้ใส่



    (แล้วทำอะไรอยู่) ก็เพิ่งบอกไปหยกๆว่าเพิ่งอาบน้ำเสร็จ

     

    กำลังจะแต่งตัว มึงรอแปบนะกูใส่เสื้อผ้าก่อน

     


    (โป๊อยู่เหรอ หึหึ) หืออออ น้ำเสียงมึงมันเปลี่ยนเร็วไปมั้ย กูขอร้องมึงช่วยเลือกเวลาหื่นบ้างเห๊อออไอ้หล่อ

    สัส ทะลึ่งแระผมทิ้งโทรศัพท์ลงบนที่นอนแล้วก็รีบใส่เสื้อผ้าก่อนจะปิดไฟแล้วก็กระโดดขึ้นเตียงคลุมโปงแล้วก็นอนคุยกับภูมิ ^_^



     

    ผมคุยกับภูมิเสร็จก็เกือบเที่ยงคืน ก่อนจะวางผมได้ยินเสียงพี่โอ๊ตเรียกมันไปกินนมนอน หึหึ แม่งโคตรสปอยโคตรเอาใจน้องเลยว่ะ แถมยังได้ยินไอ้ฟ่างตะโกนโวยวายด้วยว่าถ้าคืนนี้มันไม่ได้นอนตรงกลางมันจะเผาบ้านเผารถทิ้ง เหอๆ กับพี่กับน้องมึงก็ไม่เว้นนะฟ่าง พอวางสายจากภูมิเสร็จผมก็ปิดไฟนอนแต่พอหัวถึงหมอนเสียงเรียกเข้าก็ดังอีกครั้ง ผมคว้ามือถือมาดูว่าใครแม่งสาระแนโทรมาดึกขนาดนี้ไม่รู้รึไงว่ากูจะหลับจะนอนแต่พอเห็นชื่อคนที่โทรเข้ามา……

     

     




    ไอ้คลื่น หึหึ โทรมาให้กูกวนตีนก่อนนอนรึไงมึง

     

     

     

    ฮาโหลววววววววว มีส้นเตียนไรผมทักทายมันแบบผู้ดีเหมือนทุกครั้ง กร้ากกก




    (หึหึ รับโทรศัพท์เพราะเนอะ มึงนอนรึยังกูโทรมากวนรึเปล่า) ทำไมเสียงไอ้คลื่นฟังดูสดใสกว่าปกติวะหรือว่ามันถูกหวยแล้วจะโทรมาแบ่งเงินให้ผม กรั่กๆ


     

    กูปิดไฟแล้วกำลังจะหลับแล้วมึงก็คิดเอาแล้วกันว่ากวนหรือไม่กวน หึหึขอแกล้งมันหน่อยเถอะ ผมโผล่หัวออกจากผ้าห่มก่อนจะขยับลุกขึ้นนั่งพิงหัวเตียง

     


    (หึ จะรีบนอนไปไหนนอนเร็วเดี๋ยวขาสั้นนะ)

     


    เชี่ยคลื่น กูวางเลยสัส

     




    (ฮ่าๆๆล้อเล่นครับ)

     





    …………………..” ผมก็เลยเงียบเพื่อแกล้งไอ้คลื่น คอยดูๆเดี๋ยวมันจะคิดว่าผมโกรธ



     

    (………………….)

     



    …………………

     

    (เฮ้ยพีมอย่าเงียบดิวะ กูล้อเล่น มึงโกรธจริงป่ะเนี่ยพีม พีมกูขอโทษ)มันรีบพูดรัวๆเลยครับน้ำเสียงแม่งโคตรรู้สึกผิดจริงๆ โอยยยยเชี่ยคลื่นมึงเชื่อคนง่ายไปมั้ยฮ่าๆ

     





    “กร้ากกกกกกกก หลอกควายสบายใจจังหลอกกี่ครั้งก็ยังเป็นควาย”




    (เชี่ยพีม เออกูโง่เองที่แคร์มึงมากเลยเชื่อมึงง่าย)


     

    “อ่ะแหนะๆมีงอนนะครับมีงอนแต่กูไม่ง้อหรอกเว้ย ยังไงมึงก็ผิดที่ว่ากูเข้าใจ๊”






    (โอเคๆกูผิดตลอดแหละ ผิดตั้งแต่ร….)

     

    …………………..



    (………………….)

     



    แต่ครั้งนี้ความเงียบที่เกิดขึ้นมันเกิดโดยที่เราไม่ได้ตั้งใจ






     

    “เอ่อ คลื่นมึงโทรมาดึกๆตกลงมีไรป่ะวะ นิ่วในถุงน้ำดีแตกหรือ…….









     

    (วันนี้วันเกิดกู)







    และก็เป็นผมเองที่เป็นฝ่ายเงียบ ผมแทบจะตบหัวตัวเองแรงๆให้สมกับความบื้อที่ดันลืมวันเกิดไอ้คลื่น

     

     

    “เอ่อ กู….ไม่รู้ เฮ้ยขอโทษนะเว้ย กู…..




     

    (หึหึ ไม่เป็นไร กูอุตส่าห์โทรมาให้มึงอวยพรเป็นคนสุดท้าย เท่มั้ยเจ้าของวันเกิดโทรมาหาเชียวนะ) เสียงของคลื่นยังคงฟังดูอ่อนโยนเสมอทั้งที่มันควรจะด่าจะโกรธเพื่อนแย่ๆอย่างผมด้วยซ้ำที่ลืมวันเกิดของมัน

     

    “คลื่นกูขอโทษจริงๆนะกู….. แม่งเป็นใครก็ต้องเสียความรู้สึกใช่มั้ยครับ ถูกเพื่อนลืมวันเกิดแล้วยิ่งคลื่นที่มันเป็นเพื่อนกรณีพิเศษของผมมันจะรู้สึกแย่แค่ไหน อีกไม่กี่นาทีก็จะเป็นวันใหม่แล้ว

     

    (เฮ้ยพีมอย่าเงียบดิ ก็บอกแล้วไงว่าไม่เป็นไรกูไม่ได้โกรธ ไม่โกรธมึงจริงๆนะพีม อย่าคิดมากดิวะมาอวยพรให้กูดีกว่า โทรนอกเครือข่ายมันแพง)

     



    “หึ ไอ้บ้า เออๆ ก็ขอให้มึงมีความสุขมากๆ เจอแต่สิ่งที่ดีๆแต่เกรดเอทุกวิชา สุขสันต์วันเกิดนะครับคุณคลื่น เดี๋ยวของขวัญจะตามไปที่หลังเน้อแฮปปี้เบิร์ดเดย์ว่ะมึง” ได้ยินเสียงมันบอกว่าครับๆสาธุๆแล้วก็หัวเราะ หึหึ ขอให้มึงมีรอยยิ้มมีเสียงหัวเราะแบบนี้ทุกวันนะเพื่อน





    (ขอบคุณนะ พีม)





    “อืม แล้วไม่ได้ไปฉลองที่ไหนหรอ”




    (อ๋อ กูนัดกับเพื่อนไว้แต่คงอีกซักพัก มึงไปด้วยกันมั้ยเดี๋ยวไปรับ หึหึ)





    “ก็อยากไปนะแต่กูกลัวจะโดนทัณฑ์บนว่ะฮ่าๆ ไว้เดี๋ยวกูพามึงไปเลี้ยงนมปั่นนอกรอบนะ”




    (โอเคเซเยสเลย สัญญาแล้วนะ)





    “คร้าบบบบบบ”




    (พีม)



    “หืม”






    (วันเกิดกู กูขออะไรหน่อยได้มั้ย) ผมเงียบทันทีเพราะไม่รู้ว่าคลื่นจะขออะไรและไม่แน่ใจว่าจะให้สิ่งที่คลื่นขอได้หรือเปล่า แต่วันนี้คือวันสำคัญของมัน อีกอย่างคลื่นก็ไม่เคยขออะไรเกินกว่าที่ผมจะให้ได้ เพราะงั้นผมจะให้มัน

     


    “ขอไรวะ”



     

    (ขอให้กูได้บอกรักมึงได้มั้ย) แม่งโคตรจุกน้ำเสียงสั่นๆของมันผมเป็นคนฟังยังรู้สึกใจหาย

     



    “อืม ได้สิ” ผมเอ่ยปากอนุญาต แต่นานหลายนาทีปลายสายก็ยังเงียบผมได้ยินเพียงเสียงสูดลมหายใจของคลื่นเหมือนมันกำลังพยายามรวบรวมความกล้าอยู่

     




    (ที่ผ่านมาหลายๆอย่างที่กูทำอาจจะทำให้มึงอึดอัดใจ กูขอโทษนะกูไม่รู้ว่าทำไมเพราะอะไรถึงตัดใจจากมึงไม่ได้ซักทีแต่สิ่งที่กูรู้และอยากให้มึงรู้คือกูรักมึงนะพีม รักมาก คลื่นรักพีมนะ)

     




    “อื้ม ขอบคุณนะ มึง……เจ็บมากมั้ย” ผมกำโทรศัพท์แน่น ผมสงสารคลื่นแต่ผมก็รักมันไม่ได้





    (ก็พอทนแต่แม่งมีความสุขว่ะ ของขวัญวันเกิดปีนี้มีค่าที่สุดแล้ว ขอบคุณนะพีม)





    เฮ้ย ขอบคุณอะไรกันวะ กู…..ไม่ได้ทำอะไรให้มึงเลยนะ มีแต่มึงที่ทำเพื่อกูมาตลอด ถ้ากูรักมึงได้กูก็อยากรักมึงนะคลื่น ผมไม่เคยรำคาญไม่เคยอึดอัดกับสิ่งที่คลื่นมีให้เพราะผมรู้ว่าความรู้สึกมันบังคับมันห้ามกันไม่ได้ แต่กูก็รักมึงเกินเพื่อนไม่ได้จริงๆ





    (อยากฟังเพลงมั้ย เดือนหน้าคณะกูมีคอนเสิร์ตกูจะขึ้นร้องเพลงมึงอย่าลืมไปดูล่ะ) เสียงสดใสของคลื่นที่ผมชอบเริ่มกลับมาอีกครั้ง






    ฮื่อออไม่เอา กูไม่อยากให้หูกูติดเสนียด ฮ่าๆ




    (หึ งั้นมึงก็ช่วยฟังแล้วก็คอมเม้นให้กูด้วยนะ จะได้เอากลับไปซ้อมใหม่)





    เอาดิๆ ผมได้ยินเสียงกุกกักๆอยู่ซักพัก คลื่นก็บอกว่าเดี๋ยวจะเปิดโฟน จากนั้นผมก็ได้ยินเสียงอินโทรกีต้าร์โปร่งและตามมาด้วยเสียงทุ้มๆน่าฟังของคลื่น



















     

     

    หัวใจมันมีไว้รัก และฉันเลือกจะรักเธอคนเดียว
    ไม่ได้แคร์ ไม่ได้หวัง ว่าเธอจะเหลียวมองหรือเปล่า ไม่ได้สนใจ

     

    หัวใจมันมีไว้ใช้ และฉันเป็นเจ้าของมันคนเดียว
    อยากให้มันไปกับใคร คนไหนก็ไม่เกี่ยว ที่ต้องการอย่างเดียวคือ รักเธอ




    แม้ใครต่อใคร บอกว่าฉันทำอะไร บ้าบอ รอเธอไปก็เสียเวลา
    ขอพูดอีกทีว่า หัวใจที่มี เลือกเธอคนนี้ ตั้งแต่สบตา



    อาจจะเป็นรักโง่โง่ ในสายตาเธอก็ตาม แต่ฉันแค่ขอ ได้ทำตามหัวใจ
    เป็นรักโง่โง่ งมงายแค่ไหน แต่ฉันไม่เสียดาย ไม่เสียใจ ที่ทำอะไรเพื่อเธอ



    น้ำตาจะรินและไหล เหนื่อยล้ามาแค่ไหนไม่มีทาง
    เปลี่ยนให้ใจที่มันรัก ที่ยอมเธอทุกอย่าง เพราะฉันฟังอย่างเดียวคือหัวใจ



    แม้ใครต่อใคร บอกว่าฉันทำอะไร บ้าบอ รอเธอไปก็เสียเวลา
    ขอพูดอีกทีว่า หัวใจที่มี เลือกเธอคนนี้ ตั้งแต่สบตา



    อาจจะเป็นรักโง่โง่ ในสายตาเธอก็ตาม แต่ฉันแค่ขอ ได้ทำตามหัวใจ
    เป็นรักโง่โง่ งมงายแค่ไหน แต่ฉันไม่เสียดาย ไม่เสียใจ ที่ทำอะไรเพื่อเธอ




    แหละฉันไม่เสียดาย ไม่เสียใจ ที่ฉันได้รักเธอ

     





    (เป็นไงพอฟังได้มั้ย)

     



    “ก็ดี กูว่าน่าจะเปลี่ยนชื่อเพลงเป็น รักดีๆ มากกว่านะ”

     

     

     










     

     

    TBC >>>>>>>>>>>




    …………………………




    -         สั้นเนอะอิอิ ที่จริงมันต้องยาวกว่านี้แต่กลัวคนอ่านจะรอนานเลยเอามาแค่นี้ก่อนเพราะช่วงนี้เวลาสำคัญกว่าทองค่ะ(ได้ข่าวว่าออนเอ็มทั้งวัน) ฮ่าๆๆ สั้นไปนิดคงไม่ว่ากันนะคะ


    -         แล้วก็เอาใจแม่ยกคุณคลื่น อรั้งงงงงงง HBD ย้อนหลังนะคะพ่อยอดชาย ย้อนมาไกลมากฮ่าๆตั้งแต่วันที่ 1 แหนะแต่มาช้าดีกว่าไม่มาเนอะก็ขออวยพรให้มีความสุขมากๆหล่อๆรวยๆเป็นหนุ่มในฝันของสาวๆและเป็นเพื่อนที่ดีของน้องพีมไปนานๆนะคะ ปล นายแก่กว่าน้องภูมิปีนึงเลยอ่ะคลื่น

    กร้ากกกกกกกกกกกก

     

     

     

     

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×