ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Gender Bender Mission ภารกิจให้ฉันกลับมาเป็นผู้หญิง เพิ่มเติมคือสาววายค่ะ!!

    ลำดับตอนที่ #27 : ตอนที่ 07.2

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 86
      0
      11 ธ.ค. 61

    เบนรากันต์ บรรยาย


    สวัสดีครับ ผมชื่อ เบนรากันต์ เกิดพร ชื่อเล่นว่า เบน ผมเป็นนักเรียนที่โรงเรียนวิทยาศรีมาอยู่ห้องเดียวกับพวกชูทร ถ้าถามว่าทำไมรู้จักกับชูทรได้ พวกเราเป็นเพื่อนสมัยเด็ก สนิทกันมากๆเลย แต่ช่วงม.ต้น ไม่ได้เรียนโรงเรียนกับเขา พวกเราเจอกันก็ตอนม.ปลาย


    ผู้อ่านสงสัยอยู่ว่าผมเป็นใคร ผมเป็นนักฆ่ารับจ้าง คุณอ่านไม่ผิดหรอก นักฆ่ารับจ้าง เดิมทีผมไม่อยากทำอาชีพระหว่างเรียนไปด้วย แต่ว่าผมต้องจำใจทำงานอย่างเลี่ยงไม่ได้ กลุ่มก่อการร้ายที่อ่านไปเมื่อตอนที่แล้ว อ่ะนะ ผมทำงานเพื่อช่วยน้องสาว


    น้องสาวของผมป่วยเพราะร่างกายอ่อนแอมาตั้งแต่ยังเด็ก เธออายุ 13 ปีได้ ผมพยาบาลหาเงินเพื่อจ่ายค่ารักษาที่โรงพยาบาล ซึ่งตอนนี้ถูกจับตัวเป็นประกัน ซึ่งผมไม่สามารถขัดขืนได้ ตามจริงผมก็โกรธและเจ็บใจที่ทำอะไรไม่ได้ ถ้าจะชิงน้องสาวคืนมาผมคงทำไปนานแล้วล่ะ...


    แต่ตอนนี้กลับมาเข้าเรื่องดีกว่าครับ


    ตอนนี้ผมนั่งเฝ้าเด็กสาวผมยาวสีดำและเด็กหนุ่มผมขาวที่ถูกมัดเชือกอยู่ นั้นคือเพื่อนของผมเอง แต่ผู้หญิงผมดำคนนี้ผมยังไม่รู้จักดูท่าชูทรจะให้ความสำคัญกับเธออยู่ไม่น้อย ให้ตายสิสองคนนี้เป็นแฟนกันหรือไง


    ผมแอบยิ้มบางเล็กน้อยกับความคิดของตัวเอง


    ใช่ตอนนี้พวกผมอยู่ที่โกดังร้างที่ไม่ได้ใช้งานนาน


    " ...นายชื่อ เบนรากันต์ สินะ " จู่ๆเด็กสาวที่ผมลักพาตัวมาพูดขึ้น ได้สติแล้วเหรอ


    " อืม...เธอคือเด็กใหม่ที่ย้ายโรงเรียนกระทันหันสินะ เอ...รู้สึกว่าชื่อ... " ผมตอบสีหน้านิ่งก่อนทำหน้าครุ่นคิดเพราะผมไม่เคยเข้าเรียนเลยยังจำชื่อไม่ได้เลย


    " เซล่า..." เธอตอบกลับมาเสียงเรียบดูท่าเธอใจเย็นน่าดูแฮะ


    " เซล่าสินะ ว่าเธอน่ะเป็นแฟ- " ผมยิ้มบางเล็กน้อยก่อนผมจะพูดจบเธอก็พูดแทรกทันที


    " ไม่ได้เป็น....นายต้องการอะไรถึงต้องจับฉันมา " เซล่าหรี่ตามองมาที่ผมด้วยสายตาที่แลจะเคือง


    " ผมก็ไม่รู้...เพราะผมโดนจ้างมาหนิ " ผมยกไหล่เบาๆสีหน้านิ่งตอบกลับไปตามจริง ผมก็ไม่รู้รายละเอียดจริงๆ พวกนั้นไม่ได้บอกข้อมูลมาเลย


    ผมก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมพวกเขาต้องการตัวเซล่ากัน ที่ผมทำไปเพื่อน้องสาวของผม


    " นายเนี่ย...ซื่อบื่อกว่าที่คิดอีกนะ..." เซล่าพูดเสียงเรียบสีหน้านิ่ง


    " น่าแปลกนะเนี่ย ที่เธอไม่กลัวอะไรเลย " ผมพูดออกไปด้วยความแปลกใจ


    " แล้วมันใช่เรื่องที่ฉันต้องกลัวด้วยเหรอ แล้วนายพูดมาเพราะสงสารเหรอ? " เธอตอบกลับมาได้เจ็บแสบเชียว

    ยัยนี่ นอกจากจะชอบทำหน้านิ่ง ชอบกวนประสาทเจ้าชาวบ้านด้วยเหรอเนี่ย


    " มันช่วยไม่ได้ ฉันก็ไม่อยากทำอะไรแบบนี้หรอกนะ มันเป็นงาน..." ผมพูดออกไปตามตรงขมวดคิ้วเล็กน้อย


    " งานนายสำคัญมากเหรอถึงได้ทำขนาดนี้น่ะ... " เธอเริ่มยิงคำถามใส่ นี่เธอไม่เกรงกลัวใครจริงๆเลยนะ


    " ใช่...มันเกี่ยวข้องกับครอบครัวชั้นด้วย..." ผมพูดพึมพำออกมาเบาๆ แต่ดูเหมือนเธอจะหูนรกหรือไงถึงได้ยิน


    " เพื่อน้องสาวสินะ...." เธอพูดขึ้นทำให้ผมหันไปมองด้วยความตกใจ


    " ทำไมเธอถึงรู้..."


    เซล่าเหลือบหันมองชูทรที่หมดสติก่อนมามองผม " ก็คนที่หมดสติมันเคยเล่าเรื่องนายให้ฟังน่ะ..."


    ผมก็เบิกตากว้างเล็กน้อย นี่ชูทรยังจำได้เหรอเนี่ย ก่อนจะเดินไปที่ประตูเพื่อรอดข้างนอกห้อง


    " พอเข้าใจล่ะ...ที่นายหายตัวไปในช่วงปิดเทอมแรกได้ล่ะ..." เซล่าพูดขึ้นอย่างเข้าใจบางอย่าง


    " หา? " ผมเผลออุทานเบาๆ


    " นายน่ะฝืนกับความรู้สึกตัวเองอยู่นะ..." เธอพูดเสียงเรียบทำให้ผมคิดไปครู่หนึ่ง


    แล้วผมไม่ได้พูดอะไรไปแล้วออกจากห้องในที่สุด


    เซล่ส (ซีโร่) บรรยาย


    หลังจากที่เบนรากันต์ได้ออกจากห้องไป ตอนนี้ร่างกายของผมยังขยับไม่ได้ดั่งใจนี่น่าจะเกินสามชั่วโมงไปแล้ว แต่ฤทธิ์ของยามันจะอยู่ไปอีกสักพัก คุณสโมคถ้าเรื่องจบเมื่อไหร่ก่อนเถอะ....


    เรื่องนั้นไว้ก่อนเถอะ ตอนนี้ต้องปลุกเจ้าคนที่ติดร่างแหก่อน


    " นี่ตื่นได้ล่ะ..." ผมเถิบตัวให้เจ้าตัวรู้สึกตัวถูกมัดขนาดนี้เต็มทีแค่ดิ้นร้นตัวเองเท่านั้น


    " อืม...ขออีก 5 วันนะ..." เจ้านี่จะหลับกินบ้านกินเมืองหรือไง


    ด้วยความร้อนร้นของผม ฝืนขยับหัวมาเขกหัวชูทรจังๆ


    แปะ! เสียงเขกดังขึ้น!!


    " โอ้ย!! เจ็บนะ! " ชูทรฟื้นขึ้นมาโวยวายทันที


    " ตื่นสักทีนะ...คนหลับบ้านกินเมือง..." ผมพูดเสียงเรียบมองสีหน้านิ่ง


    " เซล่า!..." ชูทรยิ้มขึ้นมาหลังจากเห็นผมและต้องหยุดไปรู้ว่าตัวเองอยู่สถานการณ์ยังไง " ที่นี่มัน..."


    " ดูเหมือนที่นี่จะเป็นโกดังร้างที่ไหนสักแห่งล่ะนะ..."


    " ว่าแต่เธอเป็นอะไรหรือเปล่า ไม่บาดเจ็บอะไรนะ " พอได้สติก็ถามทันทีเลย เอาเถอะไม่แปลกใจอะไร


    " ก่อนห่วงคนอื่นห่วงตัวเองก่อนเถอะ..." ผมตอบกลับย้อนสีหน้านิ่ง


    " ตอบแบบนี้ก็หายห่วงล่ะนะ " ชูทรยิ้มแห้งกลับมา


    " จะยังไงก็ช่างเถอะ ตอนนี้ทำตามที่ฉันสั่งหน่อยจะได้ไหม " ผมพูดตัดจบแล้วเปลี่ยนเรื่องเข้าประเด็น


    " อะไรเหรอ? "


    ถึงไม่ค่อยอยากให้มือสมัครเล่นมาทำก็เถอะ มีแต่ต้องทำอย่างเดียว...


    " นายน่ะหยิบมีดสั้นฉันหลังกระโปรงที..." พอผมพูดจบเท่านั้นล่ะ


    " หา!--- " ด้วยที่ชูทรอุทานเสียงหลงมาทันทีผมเลยเอาหัวเขกอีกทีก่อนจะเสียงดังไปมากกว่านี้


    " เบาๆหน่อย...เดี๋ยวก็แย่กว่าเดิมหรอก..." ผมตำหนิเบาสีหน้านิ่ง ก่อนฝืนขยับตัวใกล้ชิดกับชูทรมากที่สุด " เอาเร็วหน่อย..."


    " นี่ฉันต้องจริงๆใช่ไหมเนี่ย....แบบว่า " ชูทรหน้าสีขึ้นด้วยความเขินอาย


    คิดว่าผมดูไม่ออกหรือไงว่าหมอนี่เขินเพราะผมตอนนี้เป็นผู้หญิงเลยประหม่ำอยู่


    ถ้าถามผมว่าอายไหม? มันใช่เวลามาอายไหม?


    " เฮ้อ...จะเสียศักดิ์ศรีกับเอาชีวิตรอด นายจะเลือกอะไร..." ผมถอนหายใจเบาๆก่อนพูดเสียงเรียบ


    " โธ่เว้ย.....อะ..ขอโทษนะ " ชูทรสีหน้าลำบากใจอย่างหนักก่อนยอมแพ้ แล้วเอือมมือสัมผัสที่เสื้อนักเรียนของผม

    มันชวนรู้สึกขนลุกชะมัด...แบบนี้ยิ่งเข้าใจความรู้สึกของยัยโง่เลยว่าตอนที่เราทำแบบนี้มันเป็นยังไง ( เดี๋ยวนะ เคยด้วยเหรอ? )


    ไรท์เตอร์ กลับมาบรรยายอีกครั้ง ถ้าให้พระเอกบรรยายต่อ จะเสียความพระเอกหมด


    มือของชูทรค่อยๆเลื่อนมือจับแผ่นหลังของเด็กสาวอย่างระมัดระวังราวเหมือนอัญมณีล้ำค่าบรรจงอย่างทะนุถทะนอมแล้วเขาสัมผัสถึงด้ามจับของมืดแล้วหยิบออกมาอย่างช้าๆ


    " ทีนี่นายก็ตัดเชือกซะ..." เซล่าสั่งเด็กหนุ่มที่ได้มีดมา


    " ทำไมเธอถึงมีของแบบนี้กัน " ชูทรถามขึ้นด้วยความสงสัย


    " เรื่องนั้นจะยังไงก็ช่างเถอะ...รีบๆแก้เชือกด้วยก่อนที่พวกนั้นจะมาก่อน " เซล่าหลีกเลี่ยงที่ตอบคำถามของชูทร เธอก็ไม่ชอบให้คนนอกมาเกี่ยวข้องด้วย


    แต่ในเมื่อติดร่างแหแบบนี้ต้องใช้งานสถานเดียว ( นี่เธอเห็นผมเป็นเครื่องมือหรือไง?// ชูทร )


    พอชูทรใช้มีดสั้นตัดเชือกได้ ทำให้พวกเขาหลุดจากการขังได้ แต่ของจริงจะเริ่มต่อจากนี้


    " เห! " ชูทรตั้งตัวขยับตัวได้ดั่งใจแล้วหันมามองเด็กสาวพบว่าเธอกำลังจะล้มลง " เซล่าเป็นอะไรหรือเปล่า! " เขาเขย่าตัวเธอเบาๆ


    " ฉันก็แค่ขยับตัวไม่ได้สักพักน่ะ...นายหนีไปก่อนเถอะ-..ดะ เดี๋ยวสิ! " เซล่าพูดขึ้นสีหน้านิ่งมองเขาให้หนีไป ชูทรก็อุ้มเธอขึ้นมา


    " งั้นฉันอุ้มไปนะ อุตสาห์มาตั้งขนาดนี้แล้วจะทิ้งเธอได้ไงกันเล่า " ชูทรพูดขัดขึ้นสีหน้าจริงจังแล้วอุ้มเดินถอยหลัง


    " นี่นายอย่าบอกนะว่า..." เซล่าพูดขึ้นมันคงไม่ใช่อย่างที่เธอคิด


    " เอาล่ะ! " ชูทรวิ่งแล้วกระโดดถีบประตูพังแล้ววิ่งหนีพร้อมอุ้มเด็กสาวไปด้วย


    " เฮ้ย! พวกแกหยุ-- อ๊า..." ผู้ก่อการร้ายที่เห็นชูทรวิ่งมารีบพูดให้พวกเขา แต่ไม่ทันจะพูดจบก็โดนเขาถีบหนีศะก่อนแล้ว


    ระหว่างที่ชูทรวิ่งอยู่นั้นเซล่าที่แอบไม่พอใจที่เขาทำแบบนี้เท่าไหร่แต่ก็ไม่ได้เกลียดอะไร กลับกันเธอวิเคราะห์สมถภาพร่างกายของเขาไปด้วย


    ถ้าฝึกที่ค่ายอบรมล่ะก็นับว่ามีพรสวรรค์ใช้ได้อยู่ เซล่าคิดในใจ


    ชูทรที่วิ่งสุดทางออกของโกดังแล้วหันมองรอบๆหาที่ซ่อนสำหรับเธอไว้ พอเห็นที่ซ่อนดีๆเขาเลยวิ่งไปตรงนั้นแล้วค่อยๆวางเด็กสาวลง


    " เธอรออยู่ตรงนี้นะ " ชูทรพูดขี้นหลังจากปล่อยเธอ


    " นายจะไปไหน? "


    " เดี๋ยวฉันจะเปลี่ยนเบี่ยนความสนใจให้ระหว่างนั้นเธอโทรเรียกตำรวจมาทีนะ " ชูทรสั่งเธอก่อนลุกขึ้น


    " อย่ามาสั่งฉันน่า...อย่าตายซะก่อนล่ะ " ซีโร่ตอบหน้าตาย


    ชูทรก็ยิ้มขึ้นมา " รู้แล้วน่า "


    พูดจบชูทรก็วิ่งออกไป แล้วตอนนี้เหลือเด็กสาวเพียงคนเดียวตามลำพังแล้ว


    เซล่าลองขยับร่างกาย ดูเหมือนว่าฤทธิ์จนหมดแล้ว เธอค่อยๆลุกขึ้นถึงกับแปลกใจ ร่างกายเธอหายแล้วสบายกว่าที่คิด แต่ผลใกล้เคียงยังมีอยู่ซึ่งเธอจำได้ขึ้นใจเลย


    " เอาล่ะ...ขอเอาคืนที่กล้าลักพาฉันมาหน่อยล่ะ "


    ......................................................................................................................


    กลับมาด้านของนัททริดา


    ตอนนี้นัททริดากับเพื่อนสนิทของเธออยู่ที่กังตำรวจที่เจบีสังกัตอยู่ และอาเทียกับอาเชียที่นั่งปากคำอยู่


    นัททริดาที่นั่งอยู่นั้นได้แต่ห่วงสองคนนั้นอยู่ถ้าให้พูดจริงๆแล้ว เป็นห่วงเซล่ามากที่สุดเพราะร่างกายเธอตอนนี้ยิ่งไม่หายดีอยู่ด้วย


    จู่ๆเสียงโทรศัพท์ดังขึ้นเธอรีบดูเบอร์คนโทร ก็เบิกตากว้างรับสายทันที


    " เซล่า! เธอเป็นอะไรหรือเปล่า ตอนนี้อยู่ไหน ไม่โดนทำร้ายอะไรนะ " นัททริดายิงคำถามรั่วๆโดยไม่ยั้งคิดเลย ( ก็นะยัยนี่เป็นแม่พระหนิ//ซีโร่ )


    [ ยิงคำถามมาเป็นชุดๆเชียวนะยัยโง่...] เสียงเด็กสาวที่เธอรู้จักทำให้ในอกโล่งอก ก่อนพูดต่อ


    [ คงเรียกว่าปลอดภัยดีล่ะนะ...อยู่ที่โกดังร้างที่ไหนสักแห่งที่ใกล้ลุ่มแม่น้ำ ตอนนี้เจ้าบ้านั่นก็เปลี่ยนเบี่ยงความสนใจให้น่ะ ]


    " แล้วพวกเราจะรู้ตำแหน่งที่พวกเธอยู่ยังไงเหรอ? "


    [ นี่ยัยโง่...หัดใช้สมองก็บ้างสิ เธออยู่กังตำรวจใช่ไหม ทำไมไม่ให้ทางตำรวจจัดการหาGpsในโทรศัพท์ของฉันได้หนิ...] เซล่าพูดเสียงเรียบติดหงุดหงิดเล็กน้อยแถมมายังว่าเธออ้อมด้วย


    แต่มันก็จริงแฮะ


    [ นี่ถ้าฟังอยู่ก็เร่งมือด้วยแล้วกัน เจบี... ] เธอพูดถึงหญิงสาวตำรวจที่แอบฟังที่สองคนคุยกันตั้งแต่แรก


    " เออๆ รู้แล้วน่า ให้ตายสิใครเป็นหัวหน้าใครลูกน้องกันแน่ฮะ " เจบีที่ยินเสียงอยู่นั้นบ่นพึมพำเบาๆ


    " เออดูเหมือนพวกเขาเริ่มแล้วน่ะ " นัททริดายิ้มแห้งกับท่าทางพวกเขาที่ร้อนร้นค้นหาตัวเขา


    [ งั้นเหรอ...]


    " นี่อย่าทำอะไรเสี่ยงๆนะ " เธอพูดด้วยความเป็นห่วงเพราะเซล่ายังไม่หายดีถ้าฝืนสู้ต่อให้เป็นเขาที่เก่งแค่ไหนก็เถอะ


    [ ...ถ้าสถานการณ์ย่ำแย่ ฉันค่อยถอยล่ะน่า...ไว้เจอกันยัยโง่ ] เซล่าพูดจบก็ตัดสาย


    " ดะ เดี๋ยวก่อนสิเซล่า! " นัททริดาพูดสีหน้าตึงเครียดที่เธอพูดไปเขาไม่ได้ฟังเลยแล้วเขาก็ตัดสายดื้อๆเลย


    ตัดสายดื้อๆแบบนี้แสดงว่าเขาจะทำอะไรเสี่ยงๆแน่เลย


    " พี่เจบีค่ะ หาตำแหน่งของเซล่าเจอยังค่ะ "


    กลับมาทางด้านเซล่า


    เซล่าที่พอขยับตัวได้เดินอย่างเหมือนไร้ตัวตนที่ไม่มีใครสัมผัสได้เธอซ่อนตัวและเก็บจิตสังหารได้อย่างไม่มีใครจับได้

    พอเธอได้ยินเสียงฝีเท้าประมาท 2 คนด้านหน้าของเธอ เซล่าเลยหาที่ซ่อน


    แล้วบุคคลสองคนที่เซล่าจับได้ก็เดินมาอย่างช้าๆเหมือนพูดคุยกันอยู่หนึ่งในสองคือเบนรากันต์ด้วย


    " แหม...นายเนี่ยทำงานได้ดีเหมือนเคยเลยนะเบน " ชายหนุ่มวัย 30 พูดขึ้นในชุดสูท


    " ไม่หรอกครับ...ก็แค่งานง่ายๆ " เบนรากันต์ตอบสีหน้านิ่งโดยไม่หันมามองผู้เป็นว่าจ้าง


    " ยังไงนายก็ยังไม่เสร็จงานอยู่ดี ถ้าฉันไม่เห็นกับตา หืม? " ระหว่างที่คุยกันชายหนุ่มก็รู้สึกถึงโทรศัพท์ของตัวเองสั่นเลยรับสาย " มีอะไร?...อะไรนะ! หนีไปได้เหรอก็รีบ--- "


    ๅทันทีที่เขาจะสั่งการ ซีโร่ก็ปล่อยตัวเองที่ซ่อนตัวบนเพดานแล้วใช้เข็มที่เก็บมาได้ปาใส่โทรศัพท์ของผู้ว่าจ้างของเบนรากันต์ไปพร้อมข้อมือของเขา


    " อ๊าก!!!!!! " ชายหนุ่มร้องด้วยความเจ็บปวดปล่อยโทรศัพท์ทันที


    เบนรากันต์หันไปมองทิศทางของเข็มแล้วพบว่าเด็กสาวที่พูดคุยได้ไม่นานนักโดดลงมาอย่างนุ่มนวลด้วยสีหน้านิ่งเหมือนกับเขา


    " นี่เธอหนีออกมาได้เหรอ? " เบนรากันต์เลิกคิ้วเล็กน้อย


    " เรื่องแค่นี้น่ะ...มือสมัครเล่นยังหนีเลยแต่ถ้าโชคไม่ดีคงโดนปิดปากระหว่างหนีล่ะนะ " เซล่าพูดสีหน้านิ่งก่อนยกปืนขึ้นจ่อหน้าสองคน


    " หน่อยนังนี่!!! " ชายหนุ่มที่โดนเข็มปักใส่มือรีบดึงออกแล้วชักปืนออกมา แต่เซล่ายิงใส่กานมือทำให้หลุดมืดไป


    " อย่าดีกว่า...บอกมาใครสั่งให้แกมาตามล่าฉัน " เซล่าเตือนเล็กน้อยด้วยเสียงเย็นชาเรียบนิ่งราวกับน้ำแข็ง ก่อนชายหนุ่มขยับตัว เธอยิงขู่โดยยิงเฉียดหน้าชายหนุ่ม " ถ้าขยับนัดต่อไปจะเป็นที่เข่า..."


    ชายหนุ่มกัดฟันแน่นด้วยความโกรธที่โดนเล่นงานฝ่ายเดียวสองครั้ง " เบน นายจัดการนังนี้ซะ แต่อย่าให้ถึงตายเชียวล่ะ เพราะท่านผู้นั้นต้องการจับเป็นๆ "


    ทันทีที่พูดจบเบนรากันต์ก็พุ่งตัวหาเซล่าด้วยความเร็วที่ไม่ปกติพอรู้ตัวอีกทีมาอยู่ข้างหลังของเด็กสาวแล้ว


    เซล่าก็ก้มตัวยืนปืนจ่อหน้าแต่ถูกมือใหญ่ของเบนรากันต์ปัดทิ้งทำให้ปืนกระเด็นไปนอกโกดัง แล้วเซล่าดีดตัวรักษาระยะห่าง


    ดูท่าจะไม่ง่ายกว่าที่คิดนะเนี่ย....เซล่าคิดในใจ


    " เธอไม่มีอาวุธแล้ว ยอมจำนนซะเถอะ เซล่า..." เบนรากันต์พูดขึ้นเสียงเรียบอย่างรู้ผลเร็วกว่าที่คาด


    " หึ...โทษนะ แต่ชั้นเป็นพวกหัวรั้นน่ะ คงจะยอมง่ายๆครั้งที่สองไม่ได้แล้วล่ะ..." เซล่าหัวเราะในลำคอด้วยสีหน้านิ่งยืนนิ่งไม่เคลื่อนไหว


    " คำพูดกับการกระทำมันขัดแย้งกันนะ " พูดเบนรากันต์ก็พุ่งตัวเข้าหาเซล่าด้วยความเร็วสูงรอบตัวเซล่าทำให้เธอมึนงง


    คิดทำให้สับสนเหรอ...แต่ว่ามันใช้กับชั้นไม่ได้ผลหรอกนะ


    ทันทีที่เซล่าคิดในใจเสร็จหันตัวพร้อมกับที่เบนรากันต์พุ่งตัวจากด้านหลังเธอที่หันมาพอดีทำให้เขาขยับตัวไปไหนไม่ได้เพราะมือเล็กของเด็กสาวได้จับชายเสื้อเชิตของเขาจับไว้อยู่ แล้วจับทุ่มตัวกับพื้นพร้อมทั้งล็อคแขนข้างขวาของเขาไว้


    " ถึงจะเก่งยังไงก็ต้องมีจุดบอดล่ะนะ..." เซล่าพูดด้วยสีหน้านิ่งแทบไม่เสียเหงื่อเลย " แถมนายก็...ใจอ่อน ถ้าไม่ใช่ชั้นนายคงได้เฝ้ายมบานแล้ว "


    " รู้ด้วยเหรอเนี่ย ว่าชั้นใจอ่อน " เบนรากันต์พูดด้วยสีหน้าแปลกใจ


    " ก็นะ สีหน้านายมันฟ้องล่ะนะ..." เซล่าหรี่ตามองเล็กน้อยก่อนหยิบมีดเล็กปาใส่ชายหนุ่มที่ใช้โอกาสหนีโดยไม่ได้มองที่เขาเลย แล้วโดนเฉียดหน้าชายหนุ่มแค่ปลายแก้ม " ส่วนลุง ชั้นมีเรื่องจะคุยเป็นภูเขา...อยู่เฉยๆไป "


    ชายหนุ่มกัดฟันแน่นด้วยความโกรธ เซล่าหาได้สนใจแล้วจ้องมองเด็กหนุ่มที่นั่งคร่อมเขาในสภาพที่เธอล็อคแขนเขาไว้


    " นายคิดจริงๆเหรอ...ว่าทำไปแล้วน้องสาวนายจะดีใจน่ะ " เซล่าเริ่มพูดขึ้นก่อนสีหน้านิ่ง


    เบนรากันต์เริ่มทำเศร้าเล็กน้อยก่อนพูดขึ้น " มันเป็นเรื่องช่วยไม่ได้ ถ้าไม่ทำแบบนี้ชีวิตของน้องสาวชั้นจะเป็นอันตรายได้หนิ "


    " ถูกจับเป็นตัวประกันเหรอ..."


    " อีกอย่าง ถ้าไม่ทำงานกับพวกมันก็ไม่ได้ค่ารักษาให้เธอเลย..." เบนรากันต์ทำหน้าเจ็บใจที่ไม่มีทางเลือกที่ช่วยน้องตัวเองได้เลย


    " น้องสาวของนาย ป่วยเหรอ? "


    " ร่างกายเธออ่อนแอตั้งแต่เด็กแล้วน่ะทำให้เธอสุขภาพไม่แข็งแรงด้วย ตอนนี้อาการเธอยิ่งทรุดหนักด้วยแล้ว...โธ่เว้ย! "


    เซล่าเงียบไปแล้วมองไปที่ชายหนุ่มแต่กลับไม่อยู่แล้ว สงสัยหนีไประหว่างที่คุยสิท่า เธอค่อยๆปล่อยแขนของเขาแล้วลุกขึ้นยืน


    " เวลานายเดือดร้อนก็ควรปรึกษาเพื่อน เพราะว่านายคงทำอะไรๆคนเดียวไม่ได้ตลอดหรอก..." เซล่าพูดเสียงเรียบสีหน้านิ่งก่อนแอบเสริมเล็กน้อย " อ้อยังเข้าใจผิด...ชั้นไม่ได้สงสารนาย...แต่แค่คิดว่าถ้าเป็นยัยนั่นคงพูดแบบนี้ล่ะนะ "


    " ยัยนั่นเหรอ.....หรือว่าจะเป็นนัทน่ะ? " เบนรากันต์พูดขึ้นด้วยความงุนงง


    " จะมีใครได้อีกล่ะ...ส่วนต่อจากนี้จะเป็นยังไง นายก็คิดเอาเองล่ะกัน " พูดจบเซล่าก็วิ่งตามชายหนุ่มไปปล่อยให้เด็กหนุ่มตัดสินใจคนเดียว


    " หึ...เป็นคนที่แปลกจริงๆนั้นแหละ เธอเนี่ย " เบนรากันต์หลุดยิ้มหัวเราะเบาๆก่อนลุกขึ้นยืน " งั้นคงต้องเสี่ยงหน่อยล่ะ "


    เซล่าที่วิ่งไล่ตามชายหนุ่มไประหว่างที่ตามอยู่นั้นก็เผลอวิ่งสวนทางกับชูทรที่โผล่มาอีกทางทำให้เธอหยุดชะงัก

    " ไง หายดีแล้วเหรอถึงออกมาซ่ากันฮะ? " ชูทรยิ้มในมุมปากกับคนที่เจอ


    " ชั้นไม่มีเวลามาคุยกับนายตอนนี้...ถ้าอยากคุยก็วิ่งตามมาล่ะกัน..." พูดจบเซล่าก็วิ่งตัดหน้าชูทรไปเพื่อตามชายหนุ่มนั่นต่อ


    " ให้ตายสิฝืนตัวเองจังนะ " ชูทรปรับอารมณ์ไม่ทันเลย ตอนแรกคิดด้วยซ้ำว่าเธอจะบอกว่า ' ให้ออกที่นี่ มันเกะกะ ' กลับมาซะอีก แล้วเขาก็วิ่งตามเธอไป


    พอทั้งสองคนวิ่งตามชายหนุ่มไปถึงห้องที่มืดมาก


    " นี่แน่ใจว่าเธอไม่เป็นไรแน่เหรอร่างกายแบบนั่นน่ะ " ชูทรหันมามองเธอถามหลังจากหยุดวิ่งเข้ามาในห้องมืด


    " ....." เซล่าเงียบไม่พูดอะไร เพราะเบื่อที่คุยกับคนข้างๆเธอก่อนแสงประกายแวบๆ เธอรู้ทันทีเลยว่ามันคืออะไร เลยใช้เท้าถีบใส่หน้าท้องของซีโร่จังๆแบบออมมือ ( นี่เรียกว่าออมมือเหรอ!!//ชูทร )


    " โอ้ย!! " ชูทรร้องด้วยความเจ็บปวดที่ท้องแล้วกระเด็นเล็กน้อย " นี่เธอทำอะไรน่ะ! "


    ทันทีที่ชูทรพูดจบด้านหลังของพวกเขาก็ระเบิดขึ้น


    ตุ้ม!!!! เสียงระเบิดดังขึ้น


    เซล่าที่ยืนนิ่งไม่มีสีหน้าแตกตื่นแม้แต่น้อยแล้วจ้องมองทิศทางที่ยิงมาชายหนุ่มที่ถือปืนบาซูก้าอยู่


    " อ่า~~อ่า~~เล่นแบบนี้กับเด็กมันไม่แรงไปหน่อยเหรอลุง..." เซล่าพูดขึ้นสีหน้านิ่งเสียงเรียบ


    " หึ...ไว้ใจเถอะ ฉันไม่เอาเธอถึงตายหรอก เพราะฉะนั้นอยู่เฉยๆแล้วตามมาซะโดยดี " ชายหนุ่มยิ้มในมุมปาก


    " ถ้าชั้นตอบปฎิเสธล่ะ..."


    ชายหนุ่มก็ยิงบาซูก้าใส่ทำให้เฉียดหน้าของเธอเล็กน้อยแล้วเกิดระเบิดขึ้นอีกรอบ ทำให้เธอหวาดกลัว แต่ใช้กับเธอไม่ได้ผล


    " เธอไม่มีสิทธิ์เลือกหรอกนะ "


    เซล่าก็เกาผมตัวเองเบาๆสีหน้านิ่ง " โทษนะ ชั้นน่ะเกลียดการยึดติดกับการกักขังกับสิ่งที่ไม่ชอบมากที่สุดล่ะนะ " ทันทีที่พูดเซล่าก็หายตัวไปราวไม่มีตัวตนที่ยืนเมื่อครู่นี้


    ชายหนุ่มที่มองอยู่ก็แทบไม่เชื่อสายตาตัวเองมองโดยรอบพอรู้ตัวอีกทีคมมีดก็สัมผัสกับคอของเขาแล้ว


    " อีกอย่าง ลุงก็ไม่มีสิทธิ์ที่มาสั่งหรอกนะ..." เธอพูดเสียงเรียบเย็นฉิบราวกับบริเวณที่ร้อนๆเนื่องจากเกิดเพลิงขึ้นที่โดนลูกกระสุนบาซูก้าใส่ทำให้เกิดไฟไหม้ในโกดังขึ้น กลายเป็นน้ำแข็งในพริบตากับคำพูดของเธอ


    " ตะ ตั้งแต่เมื่อไหร่กัน เมื่อกี้เธอยังอยู่.." ชายหนุ่มตัวสั่นกับการมาของเด็กสาวมาจากด้านหลังแทบไม่รู้ตัวด้วยซ้ำ


    " เอาตอบคำถามมา...ใครเป็นสั่งให้ลากพาชั้นที่อุตสาห์เตรียมอาวุธขนาดนี้คงไม่ใช่เรื่องดีแน่ล่ะ " เซล่าไม่ตอบ

    คำถามของชายหนุ่มแล้วรัดคอโดยมืออีกข้างยังถือมีดที่สัมผัสคอของชายหนุ่ม


    ระหว่างที่เธอกำลังเคินคำตอบมานั้นมีปืนสไนเปอร์เล็งมาที่เธอ ชูทรที่อึ้งอยู่นั้นเห็นปากกระบอกปืนเลยรีบตะโกน

    " เซล่า ระวัง!!! "


    เซล่ารู้สึกตัวทันทีที่ชูทรตะโกนมาเห็นปืนสไนเปอร์เล็งมาที่เธอ แต่ร่างกายตอนนี้เริ่มเกิดอาการชาอีกแล้ว บ้าจริงในเวลาแบบนี้ ด้วยร่างกายที่เริ่มขยับไม่ได้ดั่งใจเธอเผลอเอาชายหนุ่มเอาเป็นโล่


    ปัง!!! เสียงปืนดังขึ้น


    ร่างชายหนุ่มก้มลงไปเซล่าเห็นแล้วกัดฟันเล็กน้อยก่อนปามีดใส่มือปืนที่ยิงมา คนนั้นรู้ตัวเธอรู้ตัวก็รีบหลบทำให้โดนที่ไหล่ขวาแล้ววิ่งหนีไปแล้ว


    เซล่าที่เห็นว่ามือปืนได้หนีไปแล้วก็ยกร่างชายหนุ่มที่นอนกับพื้นพบว่าบริเวณหน้าอกซ้ายถูกยิง คงจะเสียชีวิตทันทีที่โดนหัวใจสินะ


    " เฮ้อ....อะไรๆมันก็ไม่ได้เป็นอย่างที่คิดสินะ...." เซล่าถอนหายใจเบาๆก่อนค้นตัวศพว่ามีอะไรหรือเปล่า


    " นี่เซล่า เป็นอะไรหรือเปล่า! " ชูทรที่อยู่ข้างล่างตะโกนออกมาด้วยความเป็นห่วง


    " ไม่เป็นไรน่า...นายก็รีบๆออกจากที่นี้ได้แล้ว ก่อนจะโดนไฟมันจะลามมาไม่มีทางออกหรอก! " เซล่าตะโกนกลับไปขณะที่ค้นตัวศพอยู่


    " แต่ว่าจะทิ้งเธอได้ไงเล่าเดี๋ยวฉัน..." ชูทรรีบวิ่งขี้นมาหาเซล่าแต่กับมีเศษกระเบื้องหล่นลงมาทำให้ทางขึ้นเลยปิดตายไม่สามารถขึ้น


    " นายอย่าจุ้นเข้าเรื่องได้ไหม! เดี๋ยวชั้นจะหนีออกไปอีกทางล่ะน่า! " เซล่าตะโกนกลับที่ค้นตัวศพเสร็จแล้วฝืนลุกขึ้นยืนเพราะฤทธิ์มากำเลิ่มอีกแล้ว


    " โทษเว้ย!! " ไฟเริ่มลามทำให้เขาไปหาเธอไมได้แล้ว " เธอรอดออกมานะ!! "


    " หึ...พูดอยู่กับใครฮะ? " เซล่าหลุดยิ้มเบาๆก่อนวิ่งหนีออกจากไป


    เซล่าที่วิ่งอยู่นั้นก็รู้สึกทรมานเหมือนกันแฮะ ทั้งควันและฤทธิ์ทำให้เธอเริ่มทนไม่ได้แล้ว ถึงแม้เธอจะเก่งแค่ไหนก็ย่อมมีขีดจำกัดบ้าง


    " ยะ แย่แล้วสิ..." เซล่าพูดเสียงอ่อนลงแล้วค่อยๆล้มกับพื้น


    ทันใดนั้นเองก็มีคนมารับเธอพอดีแล้วพยุ่งเธอให้ลุกขึ้น


    เซล่าลืมตาด้วยดวงตาที่หนักหน่วงแทบลืมตาไม่ค่อยขึ้นเท่าไหร่แล้วค่อยๆปรับโฟกัสทำให้เห็นว่าใครเป็นคนช่วยเธอ


    " เป็นอะไรไหม? " เบนรากันต์พูดขึ้นด้วยความเป็นห่วง


    " เปล่าหนิ..." เซล่าผลักเบนรากันต์เพื่อที่จะยืนด้วยตัวเองแต่ก็จะล้มอีกครั้งทำให้เขาเกือบรับไม่ทัน


    " ปากแข็งได้อีกนะ เวลายิ่งไม่มีด้วย " เขาพูดไม่ปากเปล่าเขาแบกไว้ด้านหลังเขาแล้ววิ่งหาทางออก


    ระหว่างที่พวกเขาวิ่งใกล้ถึงทางออกไม่ไกลเอือมแต่ถูกปิดไว้โดยกระเบื้องหล่นลงมา


    " โธ่เว้ย! นี่เป็นทางสุดท้ายแล้วด้วย " เบนรากันต์กัดฟันด้วยความเจ็บใจ


    " ทำไมต้องมาช่วยชั้นด้วย? " เซล่าถามขึ้นสีหน้านิ่ง ทั้งๆทีพวกเขาเป็นศัตรูกันแท้ๆแต่เขากลับมาช่วยเธอในสถานการณ์คับขันแบบนี้ ก็อดถามไม่ได้


    " ชั้นก็แค่อยากทำสิ่งที่คิดว่ามันถูกก็เท่านั้น " เบนรากันต์พูดไปก็มองบริเวณโดยรอบหาทางหนีในกองไฟโกดังอย่างร้อนร้น


    " ทรยศกลุ่มที่เป็นเจ้านายเหรอ..."


    " เหตุผลนั้นก็ใช่ อีกอย่างชั้นจะปล่อยคนที่กำลังแย่แบบเธอได้ไงกันเล่า " เบนรากันต์ทำหน้าจริงจัง


    " หึ...นึกว่ามีคนที่เหมือนยัยนั่นคนเดียวซะอีก " เธอหลุดยิ้มบางออกพึมพำเบาๆ


    " อะไรเหรอ? "


    " ช่างมันเถอะ...ก่อนอื่นเลยวางชั้นลงได้ไหม ชั้นมีแผนอยู่ " เซล่าพูดขึ้นเสียงเรียบ


    " ว่ามาสิ " เบนรากันต์ค่อยๆวางลงร่างบางอย่างขัดใจเล็กน้อย


    " นายเห็นหน้าต่างตรงนั้นไหม..." เซล่าชี้หน้าต่างที่มีเศษกระเบื้องบังหลายจุดอยู่มันยากที่ไปกันได้ 2 คน


    " นี่อย่าบอกนะว่าจะให้ชั้นไปคนเดียวน่ะ " เบนรากันต์พูดสิ่งที่ตัวเองไม่อยากจะคิดถึงเลย


    " ถ้าเข้าใจก็รีบไปเถอะ " เซล่าหันหลังแล้วพร้อมจะวิ่งแต่ถูกมือใหญ่จับแขนบางของเธอไว้


    " นี่อย่ามาล้อเล่นจะได้ไหม! ถึงชั้นจะหนีออกไปได้ แล้วเธอจะหาทางออกในเวลาสั้นแบบนี้เนี่ยนะ!! " เบนรากันต์ทำหน้ากังวลใจ จะให้เขาทิ้งเพื่อนแล้วให้ตัวเองมีชีวิตอยู่แบบนั้น เขาไม่มีทางยอมรับมันเด็ดขาดแน่


    " เวลาไม่มีแล้ว ถ้าชั้นฝืนไปกลับนายมีหวังติดแน่ ไม่ชั้นก็นายที่จะตายที่นี้หรือไม่ก็ตายทั้งคู่..." เซล่าสะบัดแขนออกสีหน้านิ่ง " ชั้นไม่เหมือนยัยนั่นกับเจ้าบ้านั่นหรอกนะ..."


    " ถึงจะแบบนั่นก็เถอะ! " เบนรากันต์พูดขัดแบบสุดกำลังยิ่งเวลาไม่มีอยู่ด้วย ทันทีที่พูดจบเศษกระเบื้องขนาดใหญ่ก็หล่นลงมา เซล่าถีบเบนรากันต์ให้ไปทางออกที่เธอเสนอมา


    เบนรากันต์ตั้งตัวได้แล้วรีบวิ่งไปยังเศษกระเบื้องขนาดใหญ่แล้วตะโกน " นี่! เซล่า! เซล่า!! โธ่เว้ย!! รอกันนะเดี๋ยวชั้นมาหาคนมาช่วย อดทนไว้นะ " เขากัดฟันแน่นสุดท้ายเขาก็ต้องทำตามแผนที่เธอบอก และไม่ตัดใจเรื่องที่จะช่วยเธอด้วย


    เขาใช้ความเร็ววิ่งกระโดดพุ่งออกมาจากโกดัง


    เขาลงกับพื้นรับแรงกระแทกจากความสูง ทำให้เข่าทรุดลง


    " เบน!! " ชูทรที่ออกจากโกดังแล้วเห็นเพื่อนสนิทของเขาเลยรีบวิ่งไปหาพร้อมทั้งพวกนัททริดาด้วย


    " นี่ชู นัท ตอนนี้เซล่ายังติดอยู่ข้างในน่ะ ถ้าไม่รีบล่ะก็! " เบนรากันต์พูดความร้อนร้น


    " อะไรนะ!! " ทั้งสองคนอุทานออกมา


    " เซล่า! " นัททริดาพูดขึ้นด้วยความตกใจแล้ววิ่งไปหา


    " หา! " ชูทรกับเบนรากันต์หันไปทางนัททริดาวิ่งไป


    พบว่าเซล่าจมอยู่แม่น้ำ ทันทีทั้งได้เห็นก็รีบลงน้ำช่วยเธอเลย


    หลังจากช่วยเซล่าที่จมน้ำแล้วพาขึ้นบนบก นัททริดาเลยรีบเขย่าตัวโดยไม่ทันคิด


    " เซล่า! เซล่า! " เธอเขย่าตัวเขาที่นอนกับพื้นและรินน้ำตาอย่างไม่หยุด


    " แฮ่กๆ! ให้ตายสิเบามือไม่ได้หรือไงหา? ยัยขี้แย " เซล่าสำลักน้ำเสียงดังก่อนจะยื่นมือสัมผัสกับแก้มของเด็กสาว


    นัททริดายิ้มขึ้นทันที " เซล่า! ดีใจจังเลย!! " พูดจบเธอก็กอดเขาแน่นเลย


    เซล่าที่โดนกอดก็เงียบไปหูของเขาแอบแดงหน่อยๆ ถ้าเป็นตัวเขาเมื่อก่อนคงผลักออกไปแล้ว แต่จะเป็นเมื่อก่อนอะไรก็ช่างเถอะ...


    " ไม่บาดเจ็บตรงไหนใช่ไหม แผลคงไม่ฉีกอีกใช่ไหม? " นัททริดารู้ตัวว่ากอดเขาแน่นไปเลยปล่อยเล็กน้อยเลยถามความเป็นห่วง


    " ไม่เป็นไรน่า..." เซล่ายิ้มบางแล้วเอาคางพิงกับไหล่ขวาของนัททริดา


    " ซะ เซล่า? " เธอพูดขึ้นด้วยความแปลกใจปนเขินอายเล็กน้อย


    " แค่เหนื่อยน่ะ...ขอพักหน่อยนะ " เซล่าพูดเสียงเบาลงด้วบความเหนื่อยล้าก่อนหลับไป


    " ตาบ้า...ชอบทำอะไรไม่ยั้งคิดเลย " นัททริดาพึมพำเบาๆแล้วกอดเขาที่หลับไป


    .................................................................................................................


    หลังจากเหตุการณ์นั้น เซล่าก็ถูกส่งตัวไปโรงพยาบาลและหมอบอกว่าแค่นอนพักฟื้น 1 วันเต็มๆ


    " นี่คุณแม่ว่างมากเหรอครับ ถึงเยี่ยมผมถึงนี่น่ะ " เซล่าพูดขึ้นทีเตียงของคนป่วยเท้าคางมองผู้เป็นแม่นั่งเก้าอี้เปลือกแอปเปิ้ลอยู่


    " แหม...ก็ใช่ว่าแม่ไม่ได้มีโอกาสได้เห็นลูกเป็นผู้หญิงแบบนี้หนิจ้ะ " มาเรียยิ้มให้กับลูกชาย เอ้ย ลูกสาวตัวเองที่มองเธอ เพราะใช่ว่าลูกตัวเองจะให้เห็นเป็นผู้หญิงแบบนี้ไม่ค่อยมีบ่อยหรอกนะ " อีกอย่าง คุณพ่อ ชาเกียร์เองก็ทำงานอยู่ ทีฟ่าก็ยังเรียนหนิน่า "


    " ครับๆ " เซล่าตอบแบบขอไปที


    " อ้อ แม่มีเรื่องจะบอกลูกน่ะ "


    เซล่าเลิกคิ้วเล็กน้อยขณะรินน้ำก่อนมาเรียพูดออกมา


    " แม่น่ะได้ตัดสินใจย้ายมาอยู่บ้านกับลูกแล้วนะ " มาเรียยิ้ม


    เซล่าแทบเกือบจะสำลักน้ำ " แฮ่กๆ นี่ล้อเล่นใช่ไหมเนี่ย "


    " จ้ะ ไม่ได้ล้อเล่นจ้ะ " มาเรียยิ้มหวานให้ลูกสาวตัวเอง


    เซล่ายื่นมือเกาผมเบาๆอย่างไม่เข้าใจ " ขอเหตุผลด้วยครับ..."


    " เป็นผู้หญิงก็ต้องพูด ค่ะ สิจ้ะ " มาเรียตอบตำหนิเล็กน้อย เพราะเธออยากให้ลูกตัวเองทำตัวให้เหมือนลูกสาวจริงๆ


    " ขอเหตุผลด้วยค่ะ...." เซล่าพูดขึ้นอย่างขัดใจปนหน้าขึ้นเล็กน้อย


    " จ้ะ " มาเรียยิ้มพอใจกับท่าทางลูกสาวตัวเอง " ก็เพราะว่าต่อไปจากนี้ลูกคงต้องใช้ชีวิตลำบากขึ้น แม่เลยอยากจะช่วยลูกเหมือนเมื่อก่อนน่ะ อีกอย่างปีหน้าทีฟ่าก็ต้องย้ายมาเรียนกับเธออีก แม่เลยย้ายมาอยู่กับลูกก่อนเพื่อเตรียมการไว้ทันไงจ้ะ "


    " หมายความว่าคุณแม่มาเพื่อสอนยัยนั่นด้วยเหรอค่ะ? " เซล่าพูดได้ตรงประเด็นเลย


    " ปิ้งป้อง ถูกต้องจ้ะ เรื่องดูแลการฝึกของหนูนัทน่ะ แม่ฝึกได้ดีแน่จ้ะ " มาเรียยิ้มถือป้ายถูกต้องก่อนเก็บป้ายไป


    " ถ้าเป็นคุณแม่ล่ะก็....ไม่มีปัญหาหรอก แล้วบอกเรื่องนั้นให้ยัยนั่นยังเหรอค่ะ? " เซล่านั่งครุ่นคิด


    " ยังไม่ได้บอกน่ะจ้ะ " มาเรียยิ้มใสซื่อ


    เซล่าคอตกเล็กน้อย " ว่าแล้วเชียว..."


    " น่าๆ ไหนๆแล้วแม่ก็เตรียมการหลายๆอย่างน่ะจ้ะ "


    " เฮ้อ...คงไม่ใช่ว่าคุณแม่ขยายบ้านของยัยนั่นหรอกใช่ไหมค่ะ " เซล่าถอนหายใจเบาแล้วพูดสิ่งที่ไม่อยากจะคิด


    " อ่าวนี่ลูกรู้ได้ไงน่ะ? " มาเรียทำหน้างุนงงว่าลูกสาวของตัวเองรู้ได้ทั้งที่ยังไม่ได้บอกเลย


    " ว่าแล้วเชียว..." เซล่าทำหน้านิ่ง " ผมก็คิดว่าถ้าการที่คุณแม่ย้ายมาอยู่กับพวกผมแล้วไหนจะเตรียมการให้ทีฟ่าและโรลด้วยแล้ว จะคิดยังไงก็ต้องขยายบ้านอยู่ดีนั้นแหละ..."


    " แหม...สมเป็นลูกจริงๆนั้นแหละ " มาเรียยิ้มแห้งกับท่าทางของลูกสาวตัวเองที่รู้ลึกขนาดนี้ นิสัยแบบนี้เนี่ยติดมาจากปู่จริงๆ


    " อ้อ แม่มีจดหมายจากคุณเจบีมาน่ะจ้ะ " มาเรียพูดขึ้นได้ว่ามีคนส่งจดหมายมาให้แล้วยื่นให้ลูกสาวตัวเอง

    เซล่ารับมาแล้วแกะจดหมายแล้วจดหมายที่ส่งมา


    ' ไง ซีโร่ โอ้! ไม่สิ ต้องเซล่าสินะ หึๆๆ พอชั้นได้ข้อมูลจากที่เธอกระเป๋าของคนร้ายมานั้นรู้ได้เยอะอยู่ ไปดูที่ฐานเอานะ ส่วนที่ชั้นส่งจดหมายมาเนี่ย แปลว่าชั้นคงกำลังเดินทางอยู่ เพราะมีภารกิจลับขึ้นผบ.โดยตรงเลยไม่ได้อยู่ที่หน่วยไปสักระยะ ก็เลยแต่งตั้งให้เธอเป็นหัวหน้าหน่วย 0 ไปล่ะกัน ถือซะว่าเป็นคำตอบแทนในความพยายามนะ


    หวังว่าได้เจอกันที่ไหนสักแห่งนะ '


    จาก เจบี มาตเวส >wo


    พอเซล่าอ่านจบก็รู้สึกอยากขอบคุณอยู่ปนหงุดหงิดตรงที่ว่าเธอเป็นหัวหน้าแบบกระทันหัน และอดีตหัวหน้าก็ทำงานภารกิจลับขนาดที่ต้องปิดบังเธอเลย โดยยกงานมาให้เธอทำซะเอง แบบนี้ยกงานให้แล้วหนีเลยนี่นา


    " เฮ้อ...ถ้าเจอเมื่อไหร่จะว่าบ่นให้หูชาเลย " เซล่าพึมพำเบาๆก่อนวางกระดาษจดหมายลงแล้วเท้าคางมองไปทางอื่น


    " ว่าแต่ลูกน่ะ " มาเรียพูดขึ้นด้วยความรู้อยากเห็น


    " หืม?..."


    " ชอบหนูนัทใช่ไหมจ้ะ " มาเรียยิ้มหวาน


    ทันทีที่ฟังจบหูของเซล่าแดงจางๆถึงจางๆแต่ก็แดงอยู่ดี เธอพูดแก้เขิน " พะ พูดอะไรน่ะครับ คุณแม่ "


    " หึๆๆ ไม่ต้องปิดหรอกจ้ะ แม่น่ะรู้ตั้งแต่ทำความรู้จักครั้งแรกแล้วจ้ะ " มาเรียยิ้มหัวเบาๆกับท่าทางของลูกสาวที่นานๆทีได้เห็น การที่เธอเขินนั้นไม่ค่อยมีให้เห็นหรอกนะ


    " ไม่ใช่ครับ ยัยนั่นน่ะ....เป็นแค่..." เซล่าพูดขึ้นอย่างขัดใจ แบบนี้มันไม่สมเป็นเธอเลยจริงๆ แค่โดนแม่ตัวเองไล่ต้อนจนตกหลุมพลาง " จะว่าไงดี...."


    " ถึงแม้ว่าหนูจะพึ่งรู้จักลูกได้ประมาณ ครึ่งปี แต่สายตาที่ลูกจ้องหนูเขาน่ะมันมากกว่านั้นนะ "


    " จริงๆแล้วผมน่ะรู้จักยัยนั่นมาตั้ง 7 ปีก่อนแล้วน่ะ ก็แค่เคยเป็นเพื่อนสมัยเด็กนั้นแหละครับ..." เซล่ายังพยายามตอบไม่ตรงกับใจตัวเองเท่าไหร่ เธอก็ไม่ได้ปฎิเสธว่าไม่ได้ชอบ


    " แล้วตอนนี้ล่ะจ้ะ " มาเรียยังคงพยายามถามให้ถึงที่สุด


    " จะว่าไงดี...." เซล่าเกาผมตัวเองเบาๆ พยายามหาเรื่องที่ไม่ได้คำตอบของตัวเองเลย จู่ๆมาถามแบบนี้เกินคาดหมาย รีบเปลี่ยนเรื่อง " ทำไมคุณแม่ถึงอยากรู้เรื่องนี้ล่ะ..."


    คนเป็นแม่ก็ยิ้มแล้วลูบหัวลูกสาวตัวเอง " นานๆทีที่ลูกทำตัวเหมือนคนปกติบ้างน่ะ คนเป็นแม่ก็อยากจะช่วยเหลือหนิจ้ะ ลูกลองปล่อยใจแล้วแลกเปลี่ยนความคิดกัน มันจะดีต่อลูกเอง "


    " ลองปล่อยใจแล้วแลกเปลี่ยนความคิดเหรอ..." เซล่าพูดขึ้นด้วยแววตาเป็นประกายสีหน้านิ่ง " ผมจะเอาไปเก็บคิดดูก่อนแล้วกัน ผมก็ไม่ได้ตกลงว่าชอบยัยนั่นหรอกนะ "


    " จ้ะๆ " มาเรียยิ้มพอใจ เพราะยังไงลูกสาวของเธอยังปากแข็งอยู่ดีล่ะนะ


    หลังจากนั้นมาเรียก็ขอตัวกลับไปเคลียร์เรื่องขยายบ้านเลยทำให้เซล่าอยู่โรงพยาบาลคนเดียวในช่วงบ่าย


    เนื่องจากเซล่าคนที่ไม่ชอบทำอะไรไม่สูญเปล่า เอาง่ายๆว่าเบื่อไม่มีอะไรทำเลยลุกขึ้นจากเตียง ตอนนี้เธอไม่เป็นไรมากแล้วเลยสามารถเดินได้ตามปกติ ถึงจะมีฤทธิ์ยาชาอยู่บ้าง


    อ้อแน่นอนว่าต้องไม่ลืมยาที่กลายเป็นผู้หญิงแน่ ฝืนไม่พกไปล่ะก็ความแตกในโรงพยาบาลแน่


    เซล่าที่เดินในโรงพยาบาลก็ด้วยความอยากอะไรสักอย่างเธอจึงเดินไปหาพนักงานพยาบาล เพื่อถามว่าน้องสาวของเบนรากันต์อยู่ห้องอะไร เพราะว่าเธอได้ยินมาจากชูทรมาว่าเธอคอยรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลเดียวกับเธอด้วย ไหนๆก็ว่างแล้วเข้าเยี่ยมคงไม่เสียหายอะไร


    พอเธอรู้ที่อยู่ห้องของเด็กคนนั้นแล้ว ก็เดินไปยังห้องที่ว่า


    เธออยู่หน้าห้องเลข 345 ซึ่งเป็นเลขห้องที่เด็กคนนั้นอยู่แต่เนื่องจากความบังเอิญหรืออะไร เพราะห้องของเธออยู่ห้องข้างๆเอง


    เซล่าตัดสินใจเคาะประตูโดยไม่ลังเล


    ก็อกๆๆ เสียงเคาะประตูดังขึ้น


    " เชิญค่ะ " เสียงสาวน้อยพูดขึ้น


    เซล่าเปิดประตูเข้าไปแล้วปิดประตูแล้วมองเตียงคนไข้มีเด็กสาวผมฟ้านัยต์ตาสีแดงอายุราวๆกับทีฟ่าได้


    " มีธุระอะไรกับหนูเหรอค่ะ? " เด็กสาวถามขึ้นด้วยความสงสัย


    " เธอคือน้องสาวของเบนรากันต์ใช่ไหม... " เซล่าถามขึ้นสีหน้านิ่ง


    " รู้จักพี่เบนด้วยเหรอค่ะ? "


    " เป็นเพื่อนร่วมชั้นน่ะ..."


    " งั้นขอแนะนำตัวนะค่ะ หนูชื่อ วนิตกันต์ เกิดพรค่ะ เรียกหนูว่าวนิตก็ได้นะค่ะ " วนิตกันต์ยิ้มไหว้สวัสดีให้เซล่า

    " เซล่า...ลัมเปลูช " เซล่าแนะนำชื่อให้อีกฝ่ายให้รู้จักกัน


    " ลัมเปลูช...นี่พี่เซล่าเป็นคนต่างชาติเหรอค่ะ? " วนิตกันต์ถามด้วยความอยากรู้


    " เป็นลูกครึ่งไทยญี่ปุ่นและอังกฤษน่ะ..คุณแม่เป็นลูกครึ่งไทยและญี่ปุ่นน่ะ..." เซล่าตอบไปความจริงเพราะยังไงมันก็เป็นปกติอยู่แล้ว


    " เห...เป็นลูกครึ่ง 3 ชาติเหรอค่ะ ยอดจังเลยนะค่ะ "


    " มันก็ไม่ได้วิเศษอะไรขนาดนั้นหรอก...ชั้นแค่เหมือนคนปกติล่ะนะ " เซล่าตอบกลับไปถึงแม้ความจริงเธอนั้นไม่ใช่สักทีเดียว


    " งั้นเหรอค่ะ ว่าแต่เป็นพี่เซล่าสินะค่ะ ที่จ่ายค่ารักษาให้หนูน่ะ ขอบคุณมากนะค่ะ " วนิตกันต์ยิ้มไหว้ขอบคุณ


    " ไม่เป็นหรอก...ถ้าน้องสาวชั้นไม่สบายต้องคงทำแบบนี้เหมือนกันนั้นแหละ..."


    " มีน้องสาวด้วยเหรอค่ะ "


    " มีญาติน้องสาวคนหนึ่งอายุราวๆกับเธอได้ล่ะนะ " เซล่ายิ้มบางเล็กน้อย


    " วนิต พี่มาเยี่ยมนะ.." เบนรากันต์เปิดประตูเข้ามาพบว่าเซล่านั่งคุยน้องสาวของเขาอยู่ " อ้าว เซล่าก็ด้วยเหรอ? "


    " นายเถอะ...เวลาแบบนี้ไม่ไปเรียนล่ะ " เซล่าทำหน้านิ่งพูดขึ้นเพราะนี้พึ่งจะบ่ายๆเลยน่าจะอยู่ที่โรงเรียนสิ


    " ก็พอดีอยู่ในคาบพละน่ะ อีกอย่างไม่ใช่ชั้นคนเดียวหรอกนะ " เบนรากันต์ยิ้มบางแล้ววางชอดอกไม้เยี่ยมคนไข้แล้วมีเสียงเปิดประตูดังขึ้น


    " ขออนุญาตินะ ว่าแล้วเชียวเธออยู่นี่จริงๆด้วย " โบรณาเปิดประตูขึ้นเข้าทั้งนัททริดากับชูทรด้วย


    " บอกแล้วไงให้นอนพักผ่อนน่ะ " นัททริดาที่เซล่านั่งเฝ้าคนไข้มองอย่างเหลืออดเดินไปแล้วชายเสื้อข้างของเซล่าแล้วพา(ลาก)กลับไปห้องของตัวเอง


    " แล้วค่อยคุยวันหลังนะ..." เซล่าพูดหน้ตายก่อนนัททริดาจะปิดประตูห้องวนิตกันต์


    เซล่าที่ถูกนัททริดาพา(ลาก)กลับมาที่ห้องของตัวเอง นัททริดาปล่อยหลังจากถึงเตียงของเธอ


    " บอกแล้วใช่ไหมต้องพักผ่อนไว้น่ะ " นัททริดาทำหน้ามุ่ย


    " แค่นี้ไม่ถึงตายหรอกน่า..." เซล่าลุกขึ้นยืนผลักหัวเธอเบาๆแล้วนั่งบนเตียงก่อนสังเกตุกระเป๋าที่โซฟา


    " แล้วกระเป๋านั้น...." เขาชี้ไปที่กระเป๋า


    นัททริดาหันมามองก็รู้เลยตอบ " อ้อ ชั้นจะมานอนเฝ้านายทั้งคืนน่ะ แล้วก็ไหนๆแล้วก็มีการบ้านให้ทำด้วยน่ะ "


    " หึ...ให้สอนคนเฝ้าเหรอ? " เซล่ายกยิ้มเล็กน้อย


    " ก็ใช่สิยะ " นัททริดาเบ้ปากใส่ ก่อนทำกังวลใจ " รู้สึกว่าช่วงนี้นายจะถูกหมายตาตลอดเลยนะ "


    เซล่าก็ทำหน้านิ่ง " ก็เป็นเรื่องปกติล่ะนะ...ช่วงสองสัปดาห์ที่ไม่ได้ติดต่อไปน่ะก็ถูกเจ้าพวกนั้นเล่นงานตั้งแต่ที่โรง

    พยาบาลแล้วล่ะ..."


    " งั้นเหรอ..." นัททริดาทำหน้าซึมเล็กน้อย


    " ...แต่คงจะไม่มีมาโจมตีสักระยะล่ะนะ " พูดจบเซล่าทิ้งนอนกับเตียง


    " แล้วนายรู้ได้ไงล่ะ? " นัททริดาทำหน้างุนงง


    " มันก็แค่ลางสังหรณ์น่ะ..."


    นัททริดาทำหน้าไม่เชื่อสุดๆ อย่างเขาเนี่ยนะตอบกลับมาว่า แค่ลางสังหรณ์นับครั้งนี่เป็นครั้งแรกที่เขาพูดแบบไม่คิดเลย


    " อะไร...ทำหน้าเหมือนแมวตกจากฟ้าหรือไง? " เซล่าหันมองเด็กสาวที่ทำหน้าอึ้งอยู่


    " ปะ เปล่าหรอก...ก็แค่คิดว่า นายพูดอะไรแบบนี้เป็นด้วยน่ะ เกินคาดแฮะ " นัททริดาได้สติมาแล้วเกาแก้มเบาๆ


    " นั้นสินะ...แล้วไม่กลับไปที่โรงเรียนเหรอ? หมดคาบพละแล้วนะ " เซล่าเท้าคางมองนัททริดาสีหน้านิ่ง


    นัททริดาดูนาฬิกาข้อมือพบว่าตอนนี้หมดคาบเรียนพละแล้วหนิน่าเลย ทำหน้าแตกตื่นลุกขึ้นทันที


    " แย่ล่ะ! หมดคาบแล้ว งั้นเจอกันตอนเย็นนะ! " นัททริดายิ้มโบกลาเซล่าแล้ววิ่งออกจากห้องและเรียกเพื่อนๆของเธอให้กลับไปเรียนต่อ


    " หึ...ให้ตายสิ ถึงงี้ไงถึงเป็นแค่ยัยโง่ " เซล่ายิ้มบางออกมากลับท่าทางของเด็กสาวที่ร้อนร้นออกไป


    ........................................................................................................................................



    ช่วง พิเศษ


    ก็ไหนๆแล้วไม่ได้เจอกันนานๆกันจริงๆ ถึงแม้จะเลยวันสงกรานต์ไปแล้วขอเล่นหน่อยแล้วกันนะ


    วันสงกรานต์อยากทำอะไรเหรอ?


    ชูทร : อืม........คงอยากเที่ยวกับทุกๆคนละมั้ง//ยิ้มเขิน

    ซีโร่ : เหรอ ง่ายดีหน่อ?

    โบรณา : ชั้นอยากกินขนมข้ามปีจ้า!!!!//ยกมือพร้อมทั้งที่กินขนมติดปากอยู่

    ซีโร่ : ไปกินให้หมดก่อนเถอะ

    โรล : หนูก็ไม่ว่างด้วยสิ เป็นไอดอลก็ไม่ค่อยได้พักเลยนะค่ะ งั้นก็ขอให้ผู้อ่านทุกท่านขอให้โชคดีกับการเรียนภาคเรียนที่จะมาถึงนะค่ะ//ยิ้มให้กำลังใจ

    ซีโร่ : เหมือนส่งเสริมให้พวกเขาเกลียดเธอหรือเปล่าเนี่ย.....//หลุดยิ้มบางเล็กน้อย

    ไอรณา : วันสงกรานต์เหรอ........อืม ชั้นก็ต้องเฝ้าคนหรือสุนัขดีล่ะนะ//ยิ้มแก้เขิน

    แฟงค์ : ว่าใครเป็นหมาหา!!!! ส่วนของชั้นน่ะ ขอแค่อยากซัดหน้าแกก็พอแล้ว

    ซีโร่ : ........นั่งลงเดี๋ยวนี้//พูดจบแฟงค์ก็ล้มลงกับพื้นอย่างแรง

    ทีฟ่า : วันสงกรานต์เหรอค่ะ? ก็คงอยากเที่ยวทะเลกันเป็นครอบครัวน่ะค่ะ//ยิ้มร่าเริง

    ซีโร่ : ไว้วันวางๆจะไปนะ//ยิ้มบางให้กับน้องสาว

    ชาเกียร์ : สำหรับพี่แล้วล่ะนะ อ๊าก!!!!!!// ยังไม่ทันได้พูดก็ถูกสมุดฟัดเข้าหัวจังๆ

    ซีโร่ : โอเค ต่อไปครับ...//ตบมือเบาๆหลังจากเก็บสมุด

    อาเรลูย่า & มาเรีย : พวกแม่ก็ไม่มีอะไรหรอก ขอให้ทุกคนสุขภาพแข็งแรงดีนะ และขอให้ลูกจีบหนูนัทให้เร็วๆด้วยน่า//มาเรียยิ้มแซว

    ซีโร่ : ขอเก็บไปคิดครับ คุณแม่....//ไม่กล้าหันมามองเหล่าบิดามารดาเพราะความเขิน

    อาเทีย & อาเรีย : ก็สำหรับพวกพี่ก็ไม่มีอะไรหรอกนะ แค่อยากจะสู้กันทุกทีทุกแห่งล่ะจ้ะ โดยเฉพาะนายนะ ซีโร่//อาเรียยิ้มกำหมัดและอาเทียยิ้มใสซื่อไม่ทำอะไร


    ซีโร่ : ถึงตอนนี้คิวงานแน่นไม่ว่างพอที่จะสู้กับ คุณหรอกนะ//หรี่ตามองสีหน้านิ่ง

    เจบี : วันสงกรานต์เหรอ?.....เอ คงอยากกินเหล้าเยอะๆล่ะมั้ง นายสนไหม?

    ซีโร่ : ยังไม่บรรลุมิติภาวะเลยนะ อีกอย่างต่อให้ถึงแล้วผมก็ไม่คิดจะดื่มหรอกนะ....

    เบนรากันต์ : ก็อยากเที่ยวทะเลน่ะ เห็นว่าวนิตอยากไปเที่ยวทะเลด้วยน่ะ//ยิ้มบาง

    ซีโร่ : ถ้าหายดีสักวันพามาเที๋ยวสิ....ต่อไป ยัยโง่//หันไปมองรายสุดท้าย

    นัททริดา : เอ๋? ชั้นเหรอ? //ทำหน้างุนงง

    ซีโร่ : ก็จะใครอีกล่ะ?//ทำหน้านิ่ง

    นัททริดา : เออ....คือ....//ทำหน้าครุ่นคิด

    ซีโร่ : อย่าบอกนะว่าไม่ได้คิดมาหา?//หรี่ตามองยัยโง่ที่ครุ่นคิด

    นัททริดา : ก็ใครจะไปคิดว่านายจะทำรายการช่วงพิเศษด้วยนี่นา อีกอย่างนายก็เป็นคนแต่งเรื่องนี้นะ!!!

    ซีโร่ : ก็ขึ้นกับอารมณ์ว่าจะทำไม ต้องมีเตรียมการล่วงหน้าไว้สิ เพราะงี้เธอถึงเป็นยัยโง่ไง..//ยิ้มในมุมปาก

    นัททริดา : โธ่!....ไม่เถียงนายแล้ว//หันไปทางอื่น

    ซีโร่ : แล้วสรุปว่าเธออยากทำอะไรในวันสงกรานต์ล่ะ?

    นัททริดา : อืม........อยากไปเที๋ยวกับนายล่ะมั้ง

    ซีโร่ : กับชั้นเนี่ยนะ ไปเที่ยวไหน?//ขมวดคิ้วเล็กน้อย

    นัททริดา : ก็นายเที่ยวหลายประเทศนี่นา ชั้นก็อยากเที่ยวรอบโลกดูบ้างน่ะ//ยิ้มหวานโดยไม่รู้ตัว

    ซีโร่ : เหรอ.....แต่คงไว้หลังจากเรียนม.ปลายจบล่ะนะ//พยักหน้าเบาๆแล้วหันหน้าไปทางอื่น

    นัททริดา : แล้วนายล่ะ วันสงกรานต์นายอยากทำอะไรน่ะเหรอ?//เดินเข้าใกล้ถามอย่างใกล้ชิด

    ซีโร่ : ก็ไม่มีอะไรหรอก งานเยอะจะตายไป....//หรี่ตามองไปทางอื่นไม่กล้าสบตาอีกฝ่าย

    นัททริดา : จริงๆเหรอ?

    ซีโร่ : นี่เธอ คิดจะกินชั้นในช่วงสงกรานต์แทนหรือไงหา//แสยะยิ้มเจ้าเล่ห์

    นัททริดา : คะ ใครจะกินนายกันเล่า//หน้าแดงด้วยความเขินอาย

    ซีโร่ : อยากรู้ใช่ว่าไหมว่าชั้นอยากทำอะไรในช่วงสงกรานต์น่ะ...//ยื่นหน้าเข้าใกล้ยัยโง่แล้วเชิงคางขึ้น

    นัททริดา : มะ ไม่อยากรู้แล้วล่ะ///หน้าแดงจนเป็นมะเขือเทศแล้ว

    ซีโร่ : หึๆๆๆๆ สำหรับชั้นแล้วน่ะ มีเธออยู่ไม่มีวันเบื่อเลยล่ะนะ เพราะฉะนั้น.........//พรายกระซิบยัยโง่เบาๆ

    นัททริดา : ตะ ตะ ตะ ตะ ตาบ้า!!!!!!!!!!!!!!!!//ทำหน้าเหว้อทันทีที่ฟังจบ

    ซีโร่ : เอาล่ะ ตอนหน้าคงเป็นตอนจบ ของตอนที่ 07 ล่ะนะ แอบมีเซอร์วิทด้วยนะคงได้สนุกแน่ล่ะ หึๆๆๆๆๆๆๆ//ยิ้มหัวเราะ


    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×