คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #28 : ตอนที่ 07.3 จบ ตอนที่ 07 สิ่งที่ค้างคาในใจ
หลังจากที่พวกนัททริดาเลิกเรียนเสร็จก็พากันกลับบ้านกันไป เหลือแค่นัททริดากับเบนรากันต์ที่จะไปกันที่โรงพยาบาลกัน นัททริดานั้นก็ว่าจะอาบน้ำที่บ้านเตรียมเสื้อผ้าไปเปลี่ยนไป เบนรากันเตรียมไว้ก่อนแล้ว เขาเลยเดินเป็นเพื่อนกับเธอ
ระหว่างที่เดินกลับบ้านของนัททริดานั้นก็เจอมาเรียระหว่างทาง
" อ่าวหนูนัท " มาเรียทักขึ้นด้วยความตกใจเบาๆ
" คุณมาเรียมีอะไรหรือเปล่าค่ะ ถึงมาอยู่ที่กรุงเทพค่ะเนี่ย? " นัททริดาถามด้วยความแปลกใจ
" พอดีเลยจ้ะ พอดีแม่กำลังหาหนูอยู่พอดี เอานี่จ้ะ " มาเรียยิ้มได้โอกาสพอดีเลยยื่นกระเป๋าสำหรับเปลี่ยนเสื้อในวันพรุ่งนี้ของเธอและซีโร่ พร้อมทั้งข้าวกล่องด้วย
" ตอนนี้ที่บ้านของหนูน่ะกำลังขยายบ้านน่ะ หนูนัทก็จะนอนค้างที่โรงพยาบาลใช่ไหมจ้ะ "
" ค่ะ ขยายบ้านเหรอค่ะ!! " นัททริดาพยักหน้าเบาๆก่อนอุทานเสียงดัง
" ใช่จ้ะ ว่าแต่เขาไม่ได้บอกหนูเลยเหรอจ้ะ? " มาเรียยิ้มเอียงคอเล็กน้อย นัททริดาก็ส่ายหน้าเบาๆ
มาเรียก็ถอนหายใจเบาๆกับลูกของตัวเอง" เอาเป็นว่าคอยคุยกันอีกทีน่ะจ้ะ ถ้าไงฝากลูก...ฝากหลานแม่ทีนะ " เธอพูดเกือบความแตกแล้วไง
" ค่ะ " เธอรับข้าวกล่องมาส่วนกระเป๋านั้นเบนรากันต์อาสาช่วยถือให้
หหแล้วจากนั้นมาเรียก็เดินจากไป แล้วนัททริดากับเบนรากันต์เดินกันที่โรงพยาบาลกัน
เซล่าที่กลับมานั่งพูดคุยกับวนิตกันต์ผข้ามเวลาแล้วก็เดินกลับมาที่ห้องของตัวเองเพราะนางพยาบาลเข้ามาเลยออกจากห้อง
เธอที่พึ่งออกจากห้องเห็นนัททริดากับเบนรากันต์ที่ขนของมา ก็รีบถือกระเป๋าจากเบนรากันต์ทันทีแต่ถูกคนที่ถืออยู่นั้นขัดอยู่
" ชั้นถือเองได้..." เซล่าพูดขึ้นสีหน้านิ่ง
" เธอเป็นคนป่วยหนิ? " เบนรากันต์ยกยิ้มในมุมปากกับท่าทางของเซล่า
" แค่นอน 1 ชั่วโมงก็หายแล้วน่า..." เซล่าไม่สนใจอะไรแล้วดึงกระเป๋าแล้วถือแล้วหันมามองเด็กสาวที่ทำหน้ามุ่ยก็หรี่ตาลงเล็กน้อย
" บอกว่า..." นัททริดาที่จะพูดออกมาเซล่าจูงมือเข้าห้องของตัวเองด้วยความรำคาญไปปล่อยให้เบนรากันต์มึนคนเดียว
" การเป็นเพื่อนกับคนแบบนั่นคงเหนื่อยน่าดูล่ะนะ " เบนรากันต์ยิ้มบางแล้วเดินเข้าเยี่ยมน้องสาวตัวเอง
...............................................................................................................................................
พอเซล่าจูงมือนัททริดาเข้าห้องปุบ เขาก็ปล่อยมือแล้วล็อกประตูในห้องไว้แล้วหันมามองเด็กสาวที่ยังทำหน้ามุ่ยอยู่ แล้วบรรยากาศก็เงียบลง...
" ก่อนอื่นเลย..." เซล่าเริ่มพูดขึ้นก่อนเลย " เธอน่ะยังไม่ได้อาบน้ำใช่ไหม? " เขาพูดขึ้นเพราะดูจากชุดที่ใส่ยังคงเป็นชุดนักเรียนอยู่เลย
" อะ อืม..." นัททริดาพยักหน้าเบาๆก่อนหยิบผ้าขุนหนูแล้วเสื้อเตรียมไว้ เธอไม่อยากจะเห็นภาพที่เจอตอนที่หยิบเสื้อคราวที่แล้วอีกแน่แล้วเข้าห้องน้ำไป
ตุ้ม ! เสียงระเบิดเบาๆดังขึ้น
ซีโร่กลับมาเป็นร่างผู้ชายตามปกติแล้วเปิดกระเป๋าที่แม่ของเขาเตรียมไว้ มีชุดนักเรียนตอนเป็นผู้หญิงไว้และชุดเปลี่ยนเป็นชุดธรรมดา แล้วเจอสิ่งแปลกปลอมที่คาดไม่ถึงว่าจะมาอยู่ในกระเป๋าของเขา
" นี่คุณแม่คิดบ้าอะไรอยู่เนี่ย... " เขาทำสีหน้าหนักใจขึ้นมาทันทีและคิดไม่ถึงเลยว่าแม่ของเขาทำแบบนี้กับเขาเนี่ย
รีบเก็บเลยน่าจะดีกว่า...เดี๋ยวจะทำยัยนั่นเข้าใจผิดไปกันใหญ่
ทันทีที่คิดเสร็จเขารีบเก็บสิ่งนั้นไวัในกระเป๋ากางเกงชุดธรรมดาที่เตรียมไว้ เห็นทีต้องมีเคลียร์กับแม่ของเขาสักหน่อนล่ะ
หลังจากเก็บสิ่งนั้นเรียบร้อยแล้ว เขาเปิดกระเป๋านักเรียนของนัททริดาแล้วเปิดสมุดวิชาที่เธอจดมา
" งั้นทำการบ้านแก้เพลินแล้วกัน..." พูดจบเขาก็บรรจงทำการบ้านข้ามเวลา
หลังจากเธออาบน้ำเป็นเวลานานจนอาบเสร็จก็เปลี่ยนเสื้อผ้ามาที่เตรียมไว้แล้วออกจากห้องพร้อมที่เช็ดผมหมาดๆ
" ซีโร่ห้องน้ำว่างแล้วนะ " นัททริดาพูดขึ้นอย่างรู้อยู่แล้ว เพราะรู้เวลาแบบนี้เขาน่าจะกลับมาเป็นซีโร่แล้วล่ะ
" เหรอ..." พอเขารู้ว่านัททริดาแต่งตัวเสร็จแล้ว ก็หันมามองเสื้อกล้ามสีขาวบวกกางเกงขาสั้นที่ขาเรียวเรียบ ชวนให้หลงไหลเหมือนกระต่ายล่อแมวดำให้ตกหลุมพลางหรือยังไง
" มีอะไรเหรอ? " เธอถามด้วยความสงสัยที่เขาจ้องนานสองนานทำให้รู้สึกเขินยังไงไม่รู้แฮะ ถูกจ้องแบบนี้
" ไม่มีอะไร..." เขาหันหน้าไปอื่นแล้วหยิบผ้าขุนหนูและวางปากกาลงแล้วเดินเข้าห้องโดยไม่ลืมหยิบเสื้อผ้าไปยกเว้นชิ้นหนึ่ง...
นัททริดางุนงง อะไรของเขากันน่า..ช่างเถอะ เธอหันมามองที่เตียงคนป่วยพบว่ามีสมุดหลายเล่มกองอยู่ ส่วนหนึ่งก็มีของเธอที่ปนอยู่ในนั้นด้วย
เธอนั่งลงกับเตียงแล้วหยิบสมุดเล่มหนึ่งมาดู เป็นวิชาคณิตศาสตร์ จะว่าไปวันนี้ก็มีการบ้านด้วยหนิน่า พอเธอเปิดไปยังหน้าล่าสุดที่จดไว้ พบว่ามีบทเรียนที่เรียนในวันนี้และพอพลิกหน้าต่อไปพบว่าเป็นหน้าที่เป็นการบ้านทำเสร็จเรียบร้อยแล้ว ทั้งที่ยังไม่ได้บอกอะไรเลย แต่ดูเหมือนว่าเขาจะสามารถเรียนรู้ด้วยตัวเองเลย พอลองเปิดวิชาอื่นๆส่วนของวันนี้ของเขาแล้ว ทั้งหมดนั้นทำเสร็จเรียบร้อยแล้ว ร้ายกาจชะมัด นี่แค่อาบน้ำเกือบชั่วโมงหนึ่งจดทำการบ้านทุกวิชาเสร็จแล้ว
ให้ตายสิ หมอนี่จะเก่งไปไหนเนี่ยนี่ขนาดยังป่วยอยู่น่ะเนี่ย นัททริดาคิดในใจ แล้วพลิกหน้าถัดแล้วแล้วเศษกระดาษคั่นไว้ในสมุดวิชาภูมิศาสตร์ เธอหยิบขึ้นมาอ่าน
' หัดทำเองบ้างสิ ยัยโง่ '
" นี่ตาบ้านั่นรู้อยู่แล้วเหรอเนี่ยว่า ชั้นหยิบขึ้นมาดูเนี่ย " น้ททริดาเบ้ปากใส่ที่เขาแอบเขียนไว้ล่วงหน้า เพราะยังไงเธอต้องเปิดอ่านเนี่ย หมอนี่จะร้ายกาจไปไหนเนี่ย
แค่ขอจดก่อนแล้วกัน พอคิดเสร็จเธอหยิบสมุดของตัวเองจดการบ้านไปโดยไม่คิดเรื่องที่เขาต่อว่า
" ไม่ได้บอกหรือไง...ว่าหัดทำเองบ้าง ยัยโง่ " เขากระซิบใกล้สีหน้ายิ้มเจ้าเล่ห์ก่อนเป่าต้นคอเบาๆจนทำให้เธอตกใจ
" ว้าย!! นะ นี่นายจะทำ.." นัททริดาสะดุ้งทันทีและหันมองเขาทั้งหน้าแดงแล้วกลืนคำพูดไปเพราะสิ่งที่คาดไม่ถึงว่าเธอจะเจอแบบนี้อีก
" หืม? " เขาตีหน้านิ่งกวนประสาทเช็ดผมตัวเบาๆ
ตอนนี้เขาอยู่ในสภาพใส่กางเกงยีนต์สีดำแต่ท่อนบนนั่นเห็นซิกแพ็ดกล้ามเนื้อเป็นมัด ผมที่ยังไม่แห้งดีทำให้หยดน้ำซึมไปถึงร่างกายทำให้ชวนน่าหลงไหลไปซบแท้
" ยะ ยะ ยังมีหน้าตีไม่รู้เรื่องอีก " นัททริดาพูดกระติกกระตักหน้าแดงก่ำไม่กล้าสบตากับเขาโดยตรง
ซีโร่ที่เห็นอาการของเธอตรงหนัาก็แอบกลั้นหัวเราะอยู่ในใจสุดกำลังเลย คนอะไรน่าแกล้งเป็นบ้า
" ก็ผมของฉัน ยังไม่แห้ง...หรือว่าเธออยากเช็ดให้? " เขาพูดลองเชื้อเชิญให้เด็กสาวในสีหน้านิ่ง
นัททริดาถึงกับหน้าแดงจวนจะเป็นพระอาทิตย์อยู่แล้วเนี่ย
" มะ ไม่เอายะ! " เธอปฏิเสธทันควัน " นายไปใส่เสื้อผ้าเลยนะ! "
เด็กหนุ่มยกไหล่เบาเช็ดผมหมาดๆแล้วแล้วใส่เสื้อสีดำ และมัดเป็นหัวจุกแล้วห่อผ้าคลุมไว้
เขาก็เดินหยิบแว่นที่ใกล้เตียงมาใส่แล้วหยิบสมุดของนัททริดามาดู
" รู้สึกจะจดเหลือแค่คณิตล่ะสิ " เขาพูดขึ้นยกยิ้มในมุมปาก
" ก็คณิตศาสตร์มันวิธีทำเยอะหนิน่า เลยทำวิชาที่ทำเร็วเสร็จก่อนไง " นัททริดาเบ้ปากเล็กน้อย
แล้วเธอก็นึกอะไรบางอย่างดีๆออก
" นี่ ถ้าไหนๆแล้วนายช่วยสอนคณิตหน่อยสิ " นัททริดายิ้มแววตาเป็นประกาย
ดูยังไงก็เล็งนี้แต่แรกแบบนี้อยู่แล้วสินะ ยัยนี่ ซีโร่คิดในใจ
" ก็ไม่มีอะไรทำ..." พูดจบเขาก็นั่งที่เตียงแล้วดันตัวโตะคนไข้ใหัติดกับขอบเตียงเพื่อให้นัททริดาได้วางสมุดเขียนได้สะดวกแล้วโบกมือเรียกเธอ " เถิบมาหน่อยจะสอนได้ถนัด หรือไม่ก็นั่งเตียงกับชั้นก็ได้..."
เธอก็ลุกขึ้นแล้วนั่งเตียงข้างกับเขาเพราะให้เขาสอนในสภาพระดับเดียวกันมันจะสะดวกกว่า
หลังจากครูสอนสุดโหดก็ได้ร่ายเรียนสุดโหดกับนักเรียนใสซื่อจอมซุ่มซ่าม ที่อยากโวยวายให้ดังลั้นติดที่ว่าอยู่ในโรงพยาบาลล่ะนะ
" พัก 10 นาที " คำพูดสวรรค์ส่งโปรดมายังเด็กสาวที่สภาพตอนนี้เรียกว่าอยากจะหลับมากเลย
" เฮ้อ....พักสักที " นัททริดาที่เขียนเสร็จปล่อยตัวนอนกับเตียงด้วยความเหนื่อยล้า ใครจะไปคิดว่าเขาติวขนาดย่อมๆ ที่เขาคิดโจทย์เองให้เธอทำ บอกสรตบนยยยตามตรงว่า ทำถูกบ้างไม่ถูกบ้าง ส่วนมากเลยต้องแก้วิธีคิดด้วย เลยทำข้อหนึ่งก็ปาดไปครึ่งชั่วโมง
" แค่นี้ก็เหนื่อยแล้วเหรอ? " ซีโร่ดันแว่นเล็กน้อยแล้วเหลือบมองเด็กสาวที่นอนอยู่บนเตียงสีหน้านิ่ง
" ก็ใครจะไปคิดว่ามันยากขนาดนี้หนิ! " เธอลุกขี้นนั่งเบ้ปากใส่ก่อนลุกขึ้นยืนเพื่อหยิบขวดน้ำในความกระหายแห้ง
" ฮ่า~~~ " พอดื่มเสร็จเธอร้องมาด้วยความสดชื่นแล้วยื่นขวดน้ำที่ยังมีน้ำเหลืออยู่ให้เขา " เอาน้ำ "
เขาก็รับมาอย่างว่าง่ายสอนง่ายแล้วดื่มน้ำจดหมดขวดแล้วเขาก็ปิดฝาแล้ววางไว้ตรงใกล้เตียง
จะว่าไปแล้วมุมมองในตอนนี้เรียกได้ว่ามันไม่เหมือนซีโร่ที่เธอรู้จักเลยแฮะ ทรงผมที่มัดจุกเพื่อให้เส้นผมไม่เสียทรงและใส่แว่นตาเพื่อดูมีบารมีลุคแบบสไตย์ผู้ใหญ่เลบ ถึงแม้ว่าผู้ชายปล่อยผมยาวแบบนี้ไม่ค่อยให้เห็นบ่อยนัก
" หืม?..." เขาที่ถูกจ้องเธออยู่เลยทำหน้านิ่งก่อนถามขึ้น " มีอะไร? "
" ปะ เปล่าหรอก ชั้นก็แค่แปลกใจน่ะ " นัททริดาพูดแก้เขิน " ว่าทำไมนายต้องใส่แว่นด้วยน่ะ "
" อ้อ...ปกติแล้วชั้นเป็นคนดึกประจำอยู่แล้วเพราะทำงานต่างนาๆในภารกิจเลยทำให้สายตาชั้นก็ผิดปกติเล็กน้อยในเวลาตอนกลางคืน จนหมอบอกว่าแค่เสียสายตา และถูกสั่งให้ใส่แว่นในยามดึก ชั้นจะใส่เฉพาะตอนกลางดึกระหว่างทำงานเท่านั้น " เขาอธิบายกลับมาเป็นขั้นเป็นตอนอย่างสีหน้านิ่ง
" กันดีกว่าแก้สินะ " นัททริดาหลุดยิ้มออกมาโดยไม่รู้ตัว
" ก็ใช่..." เขาถอนแว่นออกมาแล้วดึงกิ๊บติดหัวจุกออกทำให้เขาปล่อยผมออกมาตามคาแร็กเตอร์ของเขาเหมือนเคย
" ยัยโง่ ชั้นมีเรื่องให้เธอได้รู้ก่อน..." ซีโร่พูดเสียงเรียบมาดนิ่ง
" อะไรเหรอ? " เธอนั่งเก้าอี้ใกล้เตียงคนป่วย
" หลังจากงานวันแต่งของครูเอมิกาแล้ว ชั้นต้องหยุดเรียนชั่วคราว "
" ทำไมกันล่ะ? " นัททริดาถามอย่างอึนมึน
" เพราะองค์กรที่ชั้นอยู่นั้น ทำงานร่วมตัวนัดประชุมสำคัญระดับหัวหน้าของแต่ละประเทศมาร่วมตัวกัน ตอนนี้ชั้นเป็นหัวหน้าเลยต้องเข้าร่วมด้วยน่ะ " ซีโร่พูดไปเก็บสมุดเรียนของเขาในกระเป๋าไปด้วย
" นายเนี่ยงานเยอะน่าดูเลยนะ " นัททริดาพูดออกมาด้วยความเห็นใจ ยังไม่ทันที่จะได้พักไม่นานก็ไปไหนมาไหนอีกแล้ว นี่เขาเป็นแบบนี้แค่ไหนแล้วเนี่ย
" ชินแล้วน่ะ...คราวนี้เธอต้องกับชั้นด้วย " พูดจบเขาก็วางกระเป๋าลงใต้เตียงคนป่วย
" หา! " นัททริดาอุทานออกมาด้วยความตกใจ
" จะตกใจทำไม...เธอน่ะเป็นลูกน้องชั้นนะ อีกอย่างเธอยังไม่ได้เป็นสมาชิกแบบทางการด้วย เลยต้องมากับชั้นเพื่อแสดงตัวตนให้องค์กรรู้ซะก่อน " ซีโร่พูดมองนัททริดาที่ทำสีหน้าตกใจแล้วอธิบายเหตุผล
" แล้วจะต้องทำไงบ้าง? "
" ก็แค่ปลอมตัวเล็กน้อยก็คงได้ ส่วนรายละเอียดวันที่ไปจะบอกให้วันนั่น " ซีโร่พูดพร้อมเก็บโต๊ะคนป่วยไว้ข้างๆแล้วก้มตัวนอนมองเธอสีหน้านิ่ง
" ปลอมตัวเนี่ยอย่าบอกนะว่า ชั้นต้องกินแปลงเพศเหมือนนายหรือเปล่าเนี่ย? " นัททริดาด้วยความกังวลที่ว่าเธอต้องเปลี่ยนเพศเหมือนกับเขาด้วย
ทันทีที่พูดจบเขาก็หัวเราะในลำคอแววตาอารมณ์ติดขันสีหน้านิ่ง " ก็อยากให้ลองดูเหมือนกันล่ะนะ..."
" อ้าวไม่ใช่เหรอ? " เธอถึงกับเหว้อเลย
" เธอแค่ปลอมตัวเหมือนที่เขาปลอมตัวกันนั้นแหละ " เขาพูดยกยิ้มในมุมปาก
" คอยยังชั่ว " เธอถอนหายใจอย่างโล่งอก
" กลัวเปลี่ยนเป็นผู้ชายขนาดนั้นเหรอ? "
" ถามมาได้นะ ชั้นเป็นผู้หญิงนะ " นัททริดาเบ้ปากใส่ ก็เธอไม่ใช่เขาสักหน่อยที่จะเป็นผู้ชายหรือผู้หญิงก็ได้
" ถ้าเธอกลายเป็นผู้ชายจริง ชั้นคงต้องจับตาดูอย่างใกล้ชิดอย่างเดียวล่ะนะ ยิ่งซุ่มซามอย่างเธอด้วยแล้วล่ะนะ " เขาพูดสีหน้านิ่งเอาหัวสัมผัสกับหมอนเตียงของคนป่วย
" มันจะคงไม่มีวันนั้นหรอกยะ! " เธอจิกตาใส่
" ใครจะรู้ล่ะ?...ก็แค่สันนิษฐานออกมาเฉยๆ ไม่แน่เธอจะเผลอกินยานั้นเขาจริงๆก็ได้ " เขาพูดพร้อมยกไหล่เบาๆ
" เฮ้อ...ชั้นไม่เถียงนายแล้ว " เธอพ่นลมหายใจแล้วลุกขึ้นยืนไปนั่งที่โซฟา
" ไม่นอนเตียงเหรอ? " เขาพูดเชื้อเชิญให้ติดฉนวนให้หน้าของเธออีกครั้ง
" จะบ้าเหรอ! " เธอร้องหน้าแดงจนทำให้เขาอยากแกล้งกระต่ายตัวนี้เหลือเกิน
" ก็ในห้องเปิดแอร์แรงหนิน่า และชั้นคิดว่าเธอคงนอนไม่สภาพตัวแน่ เผลอๆเธอจะเป็นหวัดก็ได้ " เขาพูดเสียงเรียบติดกวนประสาท
" ยะ ยุ่งน่า " เธอหันหน้าหนีแล้วหยิบหมอนและผ้าห่มมาคลุมแล้วนอน
นัททริดาก้มตัวนอนยังไม่ได้หลับก็ได้ยินเสียงเด็กหนุ่มผมยาวหัวเราะเบาๆ แอบเหลือบมองค้อนใส่ก่อนที่เข้าสู่นิทราไปที่สุด
..................................................
ซีโร่ บรรยาย
ผมที่แอบหัวเราะเบาๆเพราะจากท่าทางของเธอทำให้ผมหยุดขำไม่ได้เลย คนอะไรน่าแกล้งชะมัด
ผมหยุดหัวแล้วยื่นตัวมองเธอเพื่อเช็ดว่า เธอหลับไปแล้วหรือเปล่า ผลเป็นตามคาดหลับปุ๋ยเลยแฮะ ไวจริงๆยัยนี่
แบบนี้จะเรียกว่าเหมือนกับยัยนั่นจริงๆนั้นแหละ ท่าทางซื่อบื่อกว่าเยียวยา แถมใจอ่อนแม่พระ เรียกว่าติดมาจากพี่สาวตัวเองมาเต็มๆเลยก็ได้ ทั้งๆที่ลบความทรงจำไปแล้วแท้ๆ ( ? )
เรื่องนั้นก็ช่างมันก่อนเถอะ...เพราะยังไงก็เป็นที่แกัไขอะไรไม่ได้แล้ว
ผมตัดสินใจเลยหยิบโน๊ตบุ๊กมาเปิดทำงานในฐานะหัวหน้า
ระหว่างที่ผมทำงานอยู่นั้นก็เสียงเรียกในโปรแกรมสไก ( Skype ) ผมก็คลิกเปิดดูว่าใครโทรหาผมเลยรู้เลยว่าใคร
ผมหยิบไมค์หูขนาดเล็กแบบไร้สายแล้วเสียบโน๊ตบุ๊กแล้วคลิกรับสายแล้วมีจอหน้าคนโทรหาผม
" ยังไม่นอนอีกเหรอ ดึกป่านี้แล้ว " ผมพูดเสียงเรียบแล้วทำงานต่อ
[ แหมแค่นี้น่ารุ่นพี่ เข้มงวดชะมัด ] โรลบ่นโวยวาย
" แล้วมีธุระอะไร? " ผมทำหน้านิ่งไม่สนใจอะไร
[ ก็มาแสดงความยินดีทั้งออกจากโรงพยาบาลและได้เป็นหัวหน้านะค่ะ รุ่นพี่ ] โรลยิ้มแสดงความยินดีให้กับผม
นึกว่าอะไรสักอีก เอาเถอะ
" อืม..." ผมตอบกลับไปสีหน้านิ่งๆไปทำให้เธอทำหน้ามุ่ยทันทีเลย
[ ไม่ได้ดีใจเหรอค่ะ? ]
" ก็ดีใจ แต่เธอไม่เห็นหนิ? " ผมตอบกลับไปอย่างกวนประสาทเล็กน้อย
[ ค่ะๆ ] โรลทำหน้าเบื่อหน่ายทันที
" อ้อ เรื่องรองหัวหน้าหน่วยน่ะ ชั้นคิดว่าให้ลูกิ กลับมาเป็นรองหัวหน้าน่ะ รวมถึงเธอด้วย " ผมพูดออกไปสีหน้านิ่ง
[ อะไรนะค่ะ!!!! ] เธอตะโกนออกมาด้วยความตกใจ จวนทำหูผมเกือบแตกแล้ว
" ก็ยัยนั่นมีฝืมือดีและวางกลยุทธิ์ไร้ที่ติ เธอก็น่าจะรู้หนิ " ผมหลับตาพูดไปทำงานไป
[ เรื่องนั้น หนูก็เข้าใจอยู่หรอกนะค่ะ ] โรลทำสีหน้าหนักใจ
" ชั้นได้สั่งไปรอที่นั่นล่วงหน้าแล้วน่ะ วางใจได้ "
[ นี่ให้ยัยนั่นเข้ามาร่วมด้วยเหรอค่ะ? ]
" ก็ใช่...ไม่รู้ว่าเจ้าตัวมาที่นี้ตอนไหนล่ะนะ " ผมพูดอย่างเหนื่อยใจเล็กน้อย เพราะคนที่ลูกิ บอกเลยนะว่าพยศสุดๆเกินคนอื่นจะรับไว้ แต่ผมหยุดได้ล่ะนะ
[ พูดแบบนี้แสดงว่ารุ่นพี่บอกที่อยู่ไปเหรอค่ะ? ] โรลขมวดคิ้วจนกันแล้ว
" เปล่าหรอก ระดับยัยนั่นแล้ว นานไม่นานก็รู้อยู่ดี ว่าชั้นอยู่ไหน " ผมหยุดพิมพ์ไปเพราะทำงานเสร็จล่ะ แล้วเท้าคางมองจอคอมพิวเตอร์
[ จะว่าไปแล้วพี่ลูกิ อยู่ไหนเหรอค่ะ? ]
" ไม่รู้สิ ตอนที่ติดต่อเห็นว่ากำลังทำภารกิจอยู่น่ะ " ผมพูดไปตามจริง เพราะตอนที่ผมติดต่อไปเจ้ากำลังยุ่งกับงานอยู่เลยไม่สะดวกเท่าไหร่ ไหนจะเสียงที่แอบสั่นเล็กน้อย ที่ชวนให้หงุดหงิดยังไงก็ไม่รู้ ( เดาเอาเองนะว่า คืออะไร? // ไรท์ )
[ เหรอค่ะ แล้วที่บอกเจอตัวอยู่ดี มันหมายความว่าไง? ]
" เฮ้อ...ว่าไปแล้วเธอพึ่งจะประจำการในหน่วยเมื่อ 2 ปีก่อน เลยไม่รู้ก็ไม่แปลกหรอก ถึงช่วงนี้เจ้าตัวไม่ค่อยกลับมาฐานสักเท่าไหร่ เพราะทำภารกิจต่อเนื่อง ทำเสร็จแล้วก็ต้องทำภารกิจอื่นต่อไปไม่มีพัก..." ผมพูดไปทำให้นึกเรื่องที่ไม่อยากนึกมาจนได้สิน่า
[ ดูน่าเห็นใจน่ะเนี่ย...] โรลยิ้มแห้งเป็นเธอคงเป็นลมระหว่างงานแน่
" กลับกันเลยต่างหาก...สำหรับเจ้าตัวน่ะมีความสุขไม่มีท่าทีว่าจะเหนื่อยด้วยซ้ำ " ผมพูดอย่างเหนื่อยใจแต่ไม่แสดงอะไรออกไป
" เอาเป็นว่า...พรุ่งนี้คงต้องอยู่บ้านเธอไปสักพักล่ะนะ " ผมเปลี่ยนเรื่องไม่ให้บรรยากาศบทสนทนามันไม่ให้อึดอัดเกินไป
[ อ้อ บ้านพี่นัทกำลังขยายอยู่สินะ หนูยินดีต้อนรับค่ะ ] โรลยิ้มอ่อนโยน
" รู้จากคุณอาเทียสินะ " ผมพูดไปเพราะผมไม่ได้บอกเรื่องนั้นไปแท้ๆ ผมพอเดาได้อยู่ล่ะนะ เพราะเขาค้างบ้านอาเรียที่เป็นเพื่อนสนิทล่ะนะ
เพราะเนื่องจากบ้านของยัยโง่นั้นกำลังขยายบ้านเลย ต้องใช้เวลาอยู่สมควรกว่าจะเสร็จก็ประชุมร่วมตัวในองค์กรเสร็จพอดีล่ะนะ ผมกับยัยโง่เลยต้องอยู่บ้านโรลไปก่อน ถึงเป็นไอดอลก็เป็นลูกน้องผมล่ะนะ
[ ใช่แล้วค่ะ จริงๆหนูก็อยากไปเยี่ยมอยู่หรอก ] โรลเท้าคางพูดอย่างฉุดนิดๆ
" เธอเป็นไอดอลนะ จะมาเยี่ยมชั้นได้ไงเล่า..." ผมพูดเสียงเรียบ สถานะในสังคมเบื้องหน้าผมกับเธอน่ะคนละระดับ เธอเป็นไอดอล ผมเป็นชุมชนธรรมดา แม้จะปิดในหลายๆเรื่องอยู่ล่ะนะ ผมคอยเล่าให้นักอ่านในสักวันหนึ่งแล้วกัน
[ ค่ะๆ รู้แล้วค่ะ อ้อเรื่องงานแต่งของครูโรงเรียนหนูไปแน่นอนค่ะ ถ้าราตรีสวัสดิ์ นะค่ะ ] โรลทำหน้าเซ็งๆก่อนยิ้มบอกลา
" อืม ราตรีสวัสดิ์..." ผมยิ้มบางเล็กน้อยแล้ววางสายในสไกเรียบร้อย
ผมก็เก็บโน๊ตบุ๊กพร้อมปิดไฟในห้องทำให้มืดลงแต่ด้วยว่าวันนี้พระจันทร์ขึ้นเต็มดวงทำให้เห็นภายในห้องได้อยู่
ผมลุกขึ้นยืนแล้วเดินไปยังโซฟาที่เธอหลับอยู่แล้วก้มตัวมองเธออย่างสีหน้านิ่ง
จริงๆแล้วที่ผมทำแบบนี้ก็ใช่ว่าอยากให้เธอฝึกมาเป็นคนในองค์กร เพราะผมเคยรับปากกับคนสำคัญที่ผมไม่มีวันลืมเลย...ถึงตอนนี้ยังไม่ใช่เวลาที่บอก เพราะมันเกี่ยวข้องกับเธอโดยตรงด้วย ทั้งเหตุผลที่เธอจำไม่ได้ และสถานะในอดีตของเธอด้วย
" ความดื้อรั้นเนี่ย....ติดมาจากเธอจริงๆ " ผมพูดลอยๆออกมาแล้วยื่นมือเขียผมเพื่อเห็นใบหน้าชัดๆ
ใบหน้าขาวเรียวเรียบน่าจับต้อง ใบหน้าไร้เดียงสา ทำให้ผมรู้สึกผ่อนคลายลงมาบ้างโดยไม่รู้ตัว ผมไม่เข้าใจความรู้สึกที่เคยเกิดขึ้นในครั้งอดีตกล้บมาอีกครั้ง
ผมหยุดชะงักลงด้วยความลืมตัว ใบหน้าของผมตอนนี้ใกล้ใบหน้าของเธอมาก ห่างกันไม่กี่เซน กลิ่นอายของเธอทำให้เลือดผมเดือดพุ่ง ใบหน้าของผมตอนนี้ถึงจะไม่อยากยอมรับ แต่แดงจางๆ ผมดีดตัวออกมาเพราะ ฝืนระยะแบบนั่นมีหวังอันตรายแน่
สงสัยผมคงต้องไม่อยู่กับเธอบ้างล่ะ แต่คงยากเพราะเป็นงานด้วย จะให้หยุดงานกับเรื่องงี่เง่าอย่างไม่เห็นหน้ายัยนี่มันใช่เรื่องหรือไง!!!
ผมที่กุมขมับคิดเรื่องไม่เป็นเรื่องระหว่างงานแบบนี้ แต่จะให้นอนมันก็หลับไม่ลงเพราะกับความรู้สึกของตัวเองที่ในใจสั่งว่า ' ทำเถอะ ' กับ ' ไม่ต้องทำหรอก '
ผมไม่เคยเป็นแบบนี้มาก่อนเลย ให้ตายสิ ผมขยี้ผมเคร่งเครียดกับเรื่องนี้เนี่ยนะ
" เฮ้อ...นี่เราเป็นไรไปเนี่ย " ผมพึมพำเบาๆแล้วหันมองเธอที่หลับตรงโซฟาอยู่แล้วขยับหน้าของตัวเองใกล้หน้าของเธอ
ผมค่อยๆเอาริมฝีปากสัมผัสกับริมฝีปากของเธอ ราวกับหยุดเวลาไปชั่วขณะหัวใจที่เต้นไม่เป็นจังหวะ รสชาติหวานที่ติดมาก็ชวนให้อยากดื่มต่อ
แต่ผมก็ถอนเบาๆเพราะไม่ให้เธอได้เห็นใบหน้าของผมตอนนี้ ผมเห็นดวงตาของเธอค่อยๆลืมตาผมดีดตัวไปนอนด้วยความรวดเร็วแล้วห่มผ้าห่มราวไม่มีอะไรเกิดขึ้น
" อืม...? " เสียงของเธอร้องในลำคอด้วยความงัวเงีย
ผมเงียบไปแต่หัวใจของผมกลับเต้นไม่เป็นจังหวะเอาซะเลย แล้วทำไมผมต้องตื่นเต้นด้วยเนี่ย
ผมเสียงเงียบไปก็หันมามองทางเธอพบว่าหลับไปแล้ว
ผมยื่นมือมาสัมผัสกับริมฝีปากเบาๆ ถึงแม้จะช่วงเวลาสั้นๆ แต่มันเป็นความรู้สึกที่ไม่เคยทำมานานแล้ว มันทำให้ผมแปลกตรงที่พอทำสิ่งที่กลั่นเป็นเวลาชั่วครู่ราวยกอิฐเป็นภูเขาถูกยกออกมาทำให้โล่งอกจนน่าแปลกใจกับตัวเอง
แต่การที่ลักหลับเธอแบบนี้ดูขี้โกงไปหน่อยก็เถอะ...
แต่มันก็ก็ไม่ได้เลวร้ายอะไร แต่กลับรู้สึกดีด้วยซ้ำ
.............ถ้าทำนานกว่านั้นจะเป็นยังไงนะ?
จบ ตอนที่ 07 สิ่งที่ค้างคาในใจ
ไม่ได้เจอกันนานนะผู้อ่านทั้งหลาย แอบดองงานไปนานแสนนาน 555 โอเคถือว่าตอนนี้เป็นพิเศษหน่อย นี่ถือเป็นจูบแรกของยัยโง่เลยก็ได้ แต่เธอนั้นขี้เซาคงไม่รู้เรื่องอะไร ทำให้ดูสนุกไปอีกแบบ และตอนหน้าได้เจอตัวละครที่เรียกได้ว่า มาเป็นนิวเคลียร์เลยก็ได้ เรียกว่าตัวรำคาญสำหรับพระเอกก็ได้ รู้สึกว่าจะฮาเร็มรั่วๆเลยแฮะ 555555
ตอนหน้าซีโร่เป็นเซล่าทั้งตอนนะ อ้อและมีเจ้าตัวปัญหาด้วยนะ ใบ้เล็กน้อยว่าเป็นหมา? เมื่อตอนที่แล้ว ? โอเคสปอยแค่นี้แล้วเจอกันตอนต่อไปนะ ซาโยนาระ
ความคิดเห็น