คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #36 : เรื่องราวในร้านขนม
วันนี้เป็นวันแรกหลังการหยุดพักร้อน(หนาว) 10 วันของพวกผมฮะ (แต่เป็นประมาณห้าหกเดือนของพี่ กร๊ากก) เอาล่ะได้เวลาลุยงานกันซักที!
เริ่มต้นกันที่งานชิลๆอย่างการถ่ายนิตยสารฮะ ธีมของวันนี้ก็คือ สบาย~ (ผมคิดว่าเป็นธีมที่เหมาะกับพวกเราซึ่งยังคขี้เกียจกันอยู่มาก?) เสื้อผ้าก็จะแต่งชุดอยู่บ้านกันฮะ เราจะพูดคุยกันถึงเรื่องราวการพักผ่อนสบายๆที่บ้านในฤดูหนาวอย่างนี้
ฤดูหนาวงั้นเหรอ จะว่าไปนี่ก็ใกล้คริสมาสต์แล้วสินะ…
“โย่ว! ริวจัง เปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จแล้วเหรอ” ไดจังทักทายผม…เขามาสายฮะ - -
“ไดจังทำไมวันนี้มาสายจังล่ะ” ผมวางการ์ตูนลงบนโต๊ะ แล้วหันหน้าไปคุยกับเขาแทน
แต่พอไดจังกำลังจะอ้าปากตอบอยู่นั้น…
“เพราะไดจังตื่นสายยังไงล่ะ” ยามะจังที่กำลังทำหน้าบูดก็เปิดประตูตามเข้ามาพอดี
ตัวติดกันเป็นปาท่องโก๋เชียวนะ - - ผมคิด…อ๊ะ ผมรู้นะว่าทุกคนสงสัยกันอยู่น่ะ ว่าคนอื่นหายไปไหนกันหมด เขาก็มากันหมดแล้วล่ะฮะ เพียงแต่ว่าพวกเขาไม่ได้ออกเสียง หรือโผล่หน้าขึ้นมาเท่านั้นเอง แต่จากนี้ไปเขาจะเริ่มพูดกันแล้วล่ะฮะ ไม่ต้องห่วงๆ (ไรเตอร์ : ห่วงไร) (ริวริว : แฟนคลับพี่ๆคนอื่นไง)
“อ้าว ยามะจัง ถึงว่าสิทำไมวันนี้มาสาย ไปปลุกไดจังมาสิท่า” ฮิคารุคุงที่กำลังนั่งเซ็ตผมอยู่หมุนเก้าอี้มาทางไดจังกับยามะจังที่กำลังยืนอยู่แถวๆหน้าประตูห้อง
“ก็ใช่น่ะสิ ครั้งนี้ชั้นล่ะหมดความอดทนจริงๆ” ยามะจังโยนกระเป๋าลงที่โต๊ะข้างๆแล้วทิ้งตัวนั่งลงข้างๆอิโนะจังอย่างแรง
“เฮ้ ใจเย็นๆ ตกใจหมดเลย” อิโนะจังยกมือแนบหน้าอก O.O สงสัยจะตกใจมาก
“อะไรกันยามาดะ ก็บอกแล้วไงว่าเมื่อคืนไม่ได้กินข้าวเย็นอ้ะ” ไดจังแก้ตัว เขาพูดเรื่องอะไรกันอยู่เหรอฮะ - - ตอนนี้ทั้งผมและทุกคนกำลังเง็งกันไปหมดแล้ว
“ไดจังไปกินข้าวเย็นกับชั้นมาไม่ใช่หรอ ชั้นจำได้นะ” เคย์โตะพูดแทรกขึ้นมา ห๊ะ ไปกันตอนไหนหว่า =[]=
“เอ๋ อ้าวหรอลืมไปแล้วอ่ะ” ไดจังมองหน้าเคย์โตะ พร้อมกับทำท่าใช้ความคิด แต่ดูท่าทางแล้วนะ ผมว่าเขาคงนึกไม่ออกล่ะ เพราะหน้าตาเขาบ่งบอกสุดๆเลยว่าว่า ไม่มีเรื่องข้าวเย็นเมื่อวานอยู่ในความทรงจำเลย(แม้แต่นิดเดียว)
“พวกนายพูดเรื่องอะไรกันเนี่ย” …เสียงของคนอื่นๆเริ่มแทรกขึ้นมาเบาๆ แต่ผมยังคงเงียบอยู่เพื่อไม่เป็นการเสียอรรถรส?
การดูหนัง?ให้สนุก? พี่สาว?ผมสอนว่า ให้นั่งเท้าคาง แล้วก็ทำตาแป๋วๆจ้องหน้าจอ (หรือนักแสดง) เอียงคอไปมานิดๆให้พองามจะทำให้หนังสนุกมากยิ่งขึ้น? (รีดเดอร์ : ไอนี่แม่งหลอกเด็ก…ว่าแต่โมเอ้มากริวจัง!) (ไรเตอร์ : แหงแซะ โฮะๆๆ)
Keito part
ขอโทษที่จู่ๆก็ตัดฉาก โยนโพยมาทางผมนะครับ ผมเคย์โตะครับ สวัสดี ไม่เจอกันนานนะครับ (ยิ้มสุภาพบุรุษ) อ้อ ผมขอถือวิสาสะหรือเรียกให้ดูดีว่าโอกาส จะมาประกาศอะไรบางอย่างซักเล็กน้อยอย่างกึ่งเป็นไม่เป็นทางการ? วันที่ 15 เดือนนี้ พวกเรา Hey!Say!JUMP จะออกซิงเกิ้ลใหม่ ฝากด้วยนะครับ (ไรเตอร์ : ใครจ้างแกมาขายของห๊า!) อ้อ แล้วก็ DVD summary และ Calendar ด้วยนะครับ (ไรเตอร์ : ยังอีกๆ)
อ่าผมโดนดุซะแล้ว…ว่าแล้วเลยต้องเข้าเรื่องเพื่อรักษาสิทธิความจงเจริญครับ คุณเห็นอะไรมั๊ย? ดูแฮมทาโร่สิครับ! ผมกำลังนั่งดูยามะจังโกรธไดจังอยู่ดีๆ สายตาผมก็หันไปเจอะกับอะไรบางอย่าง! (ไรเตอร์ : อะไรบางอย่าง??) ก็ดูท่านั่งของแฮมทาโร่สิครับ! น่ารักมากๆเลยล่ะ! โอ้มายก๊อด! ใครสอนให้แฮมทาโร่ทำท่าทางแบบนี้ครับ! (รีดเดอร์ : (เหลือบมองใครบางคน) ) (ไรเตอร์ : กู๊ด! (ยกนิ้ว) )
End keito part (แค่เนี้ย!?)
“เฮ้ยพวกเรา เขาเรียกแล้ว!” ทาคาคิคุงเดินเข้ามาขัดจังหวะพอดี โหย เซ็งเลย =3= แล้วพวกเราก็ไปถ่ายๆๆๆ
คุยๆๆๆกันฮะ ไม่นาน (ไม่นานจริงๆ) งานก็เสร็จ (ห๊ะ!) มีคนกระซิบมาฮะ ว่าขี้เกียจแต่งมาก อยากให้โอคาริวจงเจริญเร็วๆตอนอื่นๆช่างแมร่ง ว่าแต่ แมร่งคืออะไรล่ะฮะ แล้วโอคาริวที่ว่ามันคืออะไรกันเหรอ?
“ฮ้าว ชั้นกลับก่อนนะ ง่วงแล้วล่ะ” ทาคาคิคุงยกมือขึ้นปิดปาก แล้วสะพายกระเป๋าเดินออกไป อย่างรวดเร็ว
“อ๊ะ ยูยะรอด้วย!” ชี่รีบวิ่งตามออกไป เอ๋ ทำไมต้องกลับด้วยกันด้วยล่ะ บ้านชี่กับทาคาคิคุงมันคนละทางไม่ใช่เหรอ? อืม ช่างเหอะ
“ยาบุคุง เดี๋ยววันนี้ผมจะเข้าบริษัทน่ะ จะเข้าไปด้วยกันมั๊ย” ยูโตะคุงเดินมาชวนยาบุคุงที่กำลังสวมเสื้ออยู่
“อือ เอาสิ แล้วอิโนะจังล่ะ”
“ชั้นจะแวะไปมหาลัยหน่อยน่ะ ไปและๆ” อิโนะจังโบกมือบ๊ายบาย แล้ววิ่งออกไปจากห้อง ถึงว่าสิ เห็นออกไปคุยโทรศัพท์ซะนานเลย จะว่าไปผมไมได้เห็นอิโนะจังในลุคนี้นานแล้วนะ ค่อยยังชั่วหน่อยที่กลับมาโตเกียวแล้ว ไม่เพ้อ
ต่อน่ะ - -
“อ้าว ไปซะแล้ว จะรีบไปไหนนะไอพวกนี้นิ - -” ยาบุคุงพูดแล้วหันไปทางฮิคารุคุงต่อ
“แล้วนายล่ะ…”
ฮิคารุคุงทำท่าชี้นิ้วมาที่ตัวเอง
“ห๊ะ ชั้นเหรอ เอ่อก็…ไงดีอ่ะ ว่าง” ฮิคารุคุงตอบด้วยรอยยิ้มร่าเริงตามฉบับ ว่าแต่ทำไมเขาต้องคิดนานด้วยล่ะ -
- ทั้งๆที่ว่างแท้ๆ
“งั้นก็ไปกับพวกชั้นก็แล้วกัน”
“ไปไหนอ่ะ”
“เข้าบริษัทไง เสร็จแล้วก็ไปบ้านชั้น…ไปป่ะ” ยาบุคุงชวน โอ้! อยากไปจังเลยฮะ! ผมไม่ได้ไปบ้านยาบุคุงนานแล้ว >< อยากไปจังๆ แต่…ตอนนี้เป็นเวลาส่วนตัวฮะ~ ไว้โอกาสหน้าก็แล้วกัน (ไรเตอร์ : เขายังไม่ได้ชวนหนูเลยนะ)
“ไปสิ! งั้นรีบไปกันเหอะ ไปได้แล้วยูโตะ เดี๋ยวบ้านยาบุมันเน่าซะก่อน!” ฮิคารุคุงทำท่าตื่นเต้นหยิบกระเป๋าเป้ใบงาม แล้วดึงมือยูโตะคุงที่กำลังยืนเอ๋อได้ที่ออกไปทันที ตามด้วยยาบุคุง(เจ้าของบ้านและคนชวน)
“อ้าว เฮ้ย! บ้านชั้นจะเน่าได้ไงฟระ!”
เฟี้ยวววววววว
ผมยืนไว้อาลัยให้กับเมมเบอร์คนอื่นๆอยู่หน้าประตูห้อง ทำไมอยู่ๆก็หายกันไปไหนหมดเลยเนี่ย - - (รีดเดอร์ : เออ งงโคตร) (ไรเตอร์ : งงเหมือนกัน) (ริวริว & รีดเดอร์ : อ้าว!!!)
ตอนนี้ในห้องแต่งตัว เหลือแค่ ผม เคย์โตะ ไดจัง แล้วก็ยามะจังฮะ ห้องนี้ช่างจงเจริญและเรียลลิตี้โดยแท้…เอ๊ะ เมื่อกี้ผมพูดอะไรไปนะ?
ตอนนี้ทั้งห้องไม่มีใครคุยอะไรกันเลยฮะ เคย์โตะก็มัวแต่นั่งคุ้ยของในกระเป๋าอยู่ฮะ - - แต่สีหน้าเขาดูจริงจังมากผมเลยไม่ขัด ไว้ให้เขาหาของเจอก่อนค่อยชวนกลับบ้านละกัน~ ส่วนไดยามะ เอ๊ย ไดจังกับยามะจังฮะ ยามะจังยังคงนั่งแผ่รังสีอำมหิตอยู่ข้างๆเคย์โตะ (ที่ชินแล้ว) อยู่เงียบๆ กับไดจังที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามสองคนนั้นอยู่ฮะ แน่นอนว่าสายตาของไดจังกำลังมองไปที่ยามะจังอย่างเกรงๆ คงกำลังหาโอกาสคืนดีอยู่มั้ง…
ผมก็ลุ้นฮะ…(ไรเตอร์ : เกี่ยวไร ชิ้วๆ ไดยามะเรียลลิตี้!) น่ารำคาญเสียงนกเสียงกาจริงๆ - -* ผมเลยเดินไปนั่งให้กำลังใจข้างๆไดจังฮะ แล้วผมก็เสือก เอ๊ย สอบถามรายละเอียดฮะ
(หมายเหตุ จากนี้ไปคือการกระซิบ อิ๊บ อิ๊บ)
“เกิดอะไรขึ้นหรอไดจัง”
“ชั้นก็ไม่รู้อ่ะ ก็วันนี้ยามะจังไปปลุกชั้นที่บ้านแล้วไม่รู้ยังไง พอตื่นขึ้นมาได้ซักที? ก็เป็นงี้แล้วอ่ะ” ไดจังตอบผมทำหน้าเครียด
“ไดจังเผลอไปเตะ หรือ ต่อยยามะจังตอนที่ยังไม่ตื่นรึเปล่า - -” เป็นไปได้สูงนะ ได้ข่าวว่าคนขี้เซามักจะชอบทำร้ายคนปลุก
ไดจังทำหน้าเบ้
“ไม่ใช่หรอกน่า…”
“ก็ไม่แน่นะฮะ แล้วเรื่องข้าวเย็นล่ะ?” แอบไปกินกับเคย์โตะมาสองคนเหรอ =3= เห็นว่าเป็นไดจังนะ…
“อันนั้นชั้นก็นึกไม่ออกจริงๆอ่ะ แบบคลับคล้ายคลับคลานะ - -” ไดจังกุมขมับอีกครั้ง
“- - งั้นผมก็ช่วยอะไรไม่ได้แล้วล่ะ” เฮ้อ ว่าจะช่วย? ซักหน่อย แต่ขนาดเจ้าตัวยังไม่รู้ คนนอกอย่างผมคงจนปัญญา เอางี้ พี่โซลช่วยหน่อยสิ (ไรเตอร์ : โอเช) ทำไมรับปากง่ายจัง - - (ไรเตอร์ : =3=)
เสี้ยวนาทีระทึกขวัญ! การเจรจาที่ต้องบันทึกลงบนหน้าประวัติศาสตร์!!! (พาดหัวข่าว นสพ.โซลจงเจริญ)
“เรียวจังๆ” สะกิด (รีดเดอร์ : ตัวอะไรสะกิด)
“ว่า…”
“จะโกรธจะงอนกันก็ไปที่อื่นไป๊ โอคาริวเขาจะจงเจริญ เกะกะ - -”
“ห๊ะ เออ จริงดิ งั้นไปข้างนอกก็ได้” ว่าง่าย ดีมาก หลังจากการเจรจาจบลง ยามะจังก็สะพายกระเป๋าแล้วเดินออกไปจากห้องทันที และ อย่างรวดเร็ว~
“ยามะจัง รอด้วย!!!” ตามด้วยไดจัง
อ่านต่อหน้า 9
“=[]=;” สีหน้าของผม
“=[]=;?” สีหน้าของเคย์โตะ
พี่โซลไปพูดไรเขาถึงออกไปทันทีแบบนั้นอ้ะ! (ไรเตอร์ : ฟามลับจ้า จุ๊ๆ =3= อุฮี่~) หัวเราะน่าเกลียดแบบนี้มีไรแหงมๆ - -
“เขาไปไหนกันน่ะแฮมทาโร่” จู่ๆเคย์โตะก็ได้ฤกษ์งามยามดี เบิกตามาคุยกับผม
“กลับบ้านมั้ง”
“แล้วเราจะกลับกันบ้างรึยังล่ะ ^^” โห กว่าแกจะรู้สึกตัวนะไอ้เม่น ว่าถึงเวลาจะต้องกลับได้แล้ว - -
“อือ…แต่ไปหาขนมกินก่อนไม่ได้เหรอ” ด้วยความเห็นแก่กินผมเลยลุกไปนั่งข้างๆเคย์โตะ แล้วเอาแก้มถูแขนเขาเป็นการอ้อน หึหึ ของฟรี $o$!
“อ้อนใหญ่เลยนะ โอเคๆ งั้นแวะร้านใกล้ๆบ้านแฮมทาโร่ดีมั๊ย?”
“เย้! รักเคย์โตะที่สุดเลย!” ว่าแล้วก็หอมแก้มเขาหนึ่งที แบร่ :P เห็นฤทธิ์แฮมทาโร่รึยังล่ะ
เคย์โตะยิ้มแล้วยกมือแตะแก้มตัวเอง ดีใจล่ะสิท่า >< แต่ผมอาจจะคิดผิดว่า ฤทธิ์เม่น หรือ ฤทธิ์แฮมทาโร่ที่มันแรงกว่ากัน
จุ๊บ~
“ถ้าจะอ้อนก็ต้องแบบนี้สิ” ไอ้เม่น (อีกและ) ยิ้มที่มุมปาก
>x< ไอ้เม่นตาตี่มันจุ๊บปากผมอ้ะ!
ผมตีแขนมันไปหนึ่งที
“ไอ้เม่นทะลึ่ง! ไปได้แล้ว!”
ผมที่ยัดของใส่กระเป๋าให้หมด แต่ก็แอบยิ้มล่ะนะ~
ณ คาเฟ่ต์แห่งหนึ่งในเมืองใหญ่
“กินอะไรดี~” ผมนั่งเปิดเมนู โอ้โห น่ากินไปหมดเลย กินอันไหนดี~
“แฮมทาโร่ชั้นอยากกินกาแฟเย็นอ่ะ”
“ก็กินไปดิ หนาวจะตายยังจะกินอีก”
“ในนี้มันอุ่นนี่ ชั้นสั่งนะ”
เคย์โตะโผล่หน้าขึ้นมาจากเมนูแล้วพูดกับผม ถามเหอะ มันจะกินไรก็กินไปสิ มาบอกผมทำไม - -
“อยากกินก็สั่งสิ ตังค์นายนี่” ถูก ไม่ใช่ตังค์ผมฮะ ^^
“งั้นเอากาแฟเย็นแก้วนึง แล้วก็เค้กส้มที่นึงนะครับ” เค้กส้มเหรอ ว้า~ ผมก็อยากกินอันนั้นเหมือนกันนะเนี่ย แต่เอาอันอื่นก็ได้ ไว้ค่อยแย่งมันกิน อิอิ
สุดท้ายผ่านไปประมาณ 2 นาที ผมก็สั่งสำเร็จ ก็คือ นมเย็น (ไหนว่าหนาว) กับ บราวนี่ ฮะ ร้านนี้เขาจะเสิร์ฟเป็นเค้กอุ่นๆอร่อยมากเลยล่ะ~~
.
.
.
.
.
หลังจากที่พวกเรากินเค้กกันเสร็จแล้ว (ห๊ะ!) รายการต่อไปก็คือน้ำ~
“อื้มมม เค้กอุ่นๆกับนมเย็นๆเนี่ย อร่อยที่สุดเลย ><” อร๊อยอร่อยอ่ะฮะ >< ถ้ากินเค้กอุ่น น้ำก็อุ่นมันเลี่ยนอ่ะ มันต้องสลับกันๆ (สูตรใครวะ) นมนี่ก็อร่อยมากเลยไม่หวานมาก ไม่เย็นเจี๊ยบด้วย
“อร่อยมั๊ยแฮมทาโร่” เคย์โตะเรียกผม
“สุดๆ แล้วเคย์โตะล่ะ”
“อร่อย ^^”
ผมนั่งดูดน้ำไปเรื่อยๆก็นั่งมองหน้าเคย์โตะไปด้วยเหมือนกัน แต่เขาไม่รู้สึกตัวหรอก (มั้ง) เพราะว่าเขานั่งเขี่ยเศษเค้กที่เหลือเล่นอยู่ไงล่ะ ไปๆมาๆผมก็นึกอะไรดีๆขึ้นมาได้
ที่แจกันดอกไม้เล็กๆบนโต๊ะ มันถูกแช่อยู่ในน้ำสีแดงฮะ ผมก็เลยคิดอะไรได้ขึ้นมา ผมใช้นิ้วแตะที่น้ำสีแดงแล้วก็เขียนอะไรบางอย่างลงบนโต๊ะ
เคย์โตะรู้สึกตัว ก็เลยก้มลงมาดูที่ๆผมเขียน
‘นั่งกินเค้กกับแฟนแล้วอร่อยจัง~’
เคย์โตะอ่านแล้วก็มองหน้าผม ผมเขินเล็กๆฮะ แต่ถ้าผมเขินมากกว่านี้ผมก็คงไม่เขียนมันออกไปหรอก - - แล้วเคย์โตะก็เล่นบ้างฮะ เขาเอานิ้วไปจิ้มน้ำสีแดง แล้วก็ก้มลงเขียนต่อข้างๆผม
‘เพราะว่าเค้กอร่อยหรือว่าเพราะมากับแฟนน้า~~’ ไอนี่นิ ><
‘ไม่รู้สิ แต่อาจจะเป็นเพราะว่ามีเม่นติงต๊อง ลามก มาเลี้ยงก็ได้’
‘แล้วไหนล่ะ เม่นตัวนั้นน่ะ เห็นมีแต่สุดหล่อพาแฮมทาโร่มากินเค้กก็เท่านั้นแหละ’
‘ไหนอ่ะ สุดหล่อ’ แหวะ ชมตัวเอง แต่ก็หล่อนะ ///
‘เป็นหนูตัวเล็กไม่พอ ตายังไม่ดีอีก’
‘แกว่าไงนะไอ้เม่น!’ มันกวนตรีนผมอีกแล้ว!
‘ใครเม่น? แล้วหนูตัวนั้นก็นั่งคุยกับสุดหล่อคนนี้อยู่ไง ^^’
‘- - งั้นหรอ อ้อ อีกอย่างชั้นไม่ได้ตัวเล็กด้วย!’
‘ยอมรับแล้วสิว่าเป็นหนูอ่ะ’
‘จิ๊’ เสียท่ามันจนได้ - -
คิก ฮะๆ แหน่ะ ยังจะหัวเราะอีก =3= เม่นบ้าไม่คุยด้วยแล้ว! ผมดันแจกันใส่น้ำสีแดงอันเล็กออกห่างแล้วเช็ดมือ(นิ้ว) ด้วยผ้ากันเปื้อนที่ทางร้านเตรียมไว้ให้ คือ ผมกะจะเลิกคุยกับมันแล้ว
ทั้งๆที่ผมคิดอย่างนั้น แต่เคย์โตะก็ยังไม่หยุด เขากลับก้มหน้าเขียนอะไรต่อไปอีกฮะ
‘เป็นหนูตัวเล็ก เป็นแฮมทาโร่ที่น่ารักของเม่นตัวนี้ยังไงล่ะ’
อ่ะ เอ่อ >///<
ผมอดยิ้มแล้วก็เขินไม่ได้ ทำไมนะ พอผมตัดสินใจจะโกรธเขาทีไร เขาก็มักจะพูดแบบนี้ทุกทีเลย รู้มั๊ยว่าผมใจอ่อนนะ…
ผมหยิบแจกันเข้ามาใกล้ๆอีกครั้ง เอานิ้วแตะน้ำแล้วเริ่มเขียนต่อ
‘ก็เพราะอยู่กับเม่นนั่นแหละ ก็เลยทำตัวน่ารักไง’
‘ทำไมล่ะ’ เคย์โตะยิ้ม
‘ก็เพราะว่าแฮมทาโร่รักเม่นที่สุดไง ก็เลยทำตัวน่ารักๆ เม่นจะได้รักแฮมทาโร่มากๆยังไงล่ะ’ ตอนที่ผมเขียนประโยค
นี้นิ้วผมถึงกับสั่นนิดๆเลย อายจัง ///
‘ถึงไม่ทำตัวน่ารัก เม่นก็รักแฮมทาโร่มากๆมากที่สุดอยู่แล้วล่ะ’
‘ถึงไม่ทำตัวน่ารัก…ก็ไม่เป็นไรเหรอ’
‘อืม เพราะแฮมทาโร่น่ารักสำหรับชั้นเสมอแหละ’ พอเขียนเสร็จเคย์โตะก็เงยหน้ามายิ้มให้ผม ทำผมอายจนแทบจะหมดโต๊ะหนี >< ที่เขียนตอบกันไปมาเมื่อกี้ มันเป็นเรื่องที่ผมไม่กล้าพูดต่อหน้าเขาฮะ แต่พอได้มาลองเขียนกันแบบนี้แล้ว มันก็รู้สึกดีไปอีกแบบนะ แต่ก็ยังเขินอยู่ดี ><
แต่ที่เคย์โตะเขียนมาแต่ละอันน่ะ ผมดีใจมากเลยนะ…
“มันเขินน่ะ…” ทั้งๆที่ผมกำลังจะเปิดปากพูดกับเคย์โตะ เรื่องเมื่อกี้ แต่แล้วเรื่องไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น
.
.
.
“ยามะจัง! เค้าว่าเค้กร้านนี่อร๊อยอร่อยล่ะ!”จู่ๆ ไดจังก็โผล่มาจากไหนก็ไม่รู้ แล้วก็เดินมานั่งลงที่ข้างๆเคย์โตะฮะ! ทำเอาเคย์โตะและผมสะดุ้ง หมดบรรยากาศกันทันที!
“ดะ ไดจัง มาได้ไงเนี่ย!” เคย์โตะ ร้องถามคนที่กำลังนั่งเปิดเมนูอารมณ์ดีอยู่ ผมอึ้ง แต่เอ๊ะ เมื่อกี้เขาเรียกยามะจังด้วยไม่ใช่เหรอ
“ไดจัง! เมนูแนะนำวันนี้ เป็นวานิลาเค้ก กับ ชามะนาวล่ะ!” ไม่ทันจะสิ้นเสียงในใจผม ยามะจังก็โผล่ออกมา แล้วก็นั่งลงข้างๆผมทันที
“เอ๋ จริงดิ้! สั่งเลยๆ!”
“คุณครับ สั่งเค้กหน่อย!!!”
และทั้งสองคนนั่งคุยกันอย่างออกรสขณะที่พนักงานก็คอยจดเมนูตามที่ทั้งสองคนสั่ง ผมกับเคย์โตะที่นั่งอยู่ก่อนกับบรรยากาศหวานๆ ก็อึ้งตาค้างกันอย่างไม่ได้นัดหมาย
มาจากไหนเนี่ย! แล้วดีกันตั้งแต่เมื่อไหร่อ่ะ!
“นี่ ทั้งสองคน ทำไมจู่ก็…” ยังไม่ทันที่จะถามจบ(อีกแล้ว)ก็มีเสียงดังมาจากทางหน้าประตูร้าน (อย่างไม่แคร์สายตาผู้ใด)
“โอ้ นั่นไง! โชคดีจังมีคนจองโต๊ะให้แล้ว~” ฮิคารุคุงพร้อมด้วยคณะท่านขุน (ยาบุคุงและยูโตะคุง) ก็ปรากฏกายขึ้น ซ้ำยังไม่พอ ชี้นิ้วมาทางโต๊ะผมแล้วร้องซะลั่นร้าน
“จริงด้วย แหมๆๆ ที่นั่งดีด้วยนะเนี่ย” ยาบุคุงวิจารณ์ นั่น! แทนที่จะห้ามให้ฮิคารุคุงเสียงดัง
“ยามะจางง ไดจางงง” ยูโตะคุงโบกมือเรียกคู่หูตัวเตี้ยข้างๆผมกับเคย์โตะ
“ยู้ฮู~ ลากเก้าอี้มาๆๆๆ” ยามะจังเรียก
แน่นอนว่า ทั้ง 3 คนที่มาใหม่ก็พร้อมใจกันเดินดุ่มๆเข้ามาพร้อมกับลากเก้าอี้ใกล้ๆติดไม้ติดมือมาด้วย แล้วนั่งลงทันที
“อะ พะ พวกนาย” เคย์โตะเริ่มอึ้งกว่าเดิม? ผมก็ด้วย แต่ดูเหมือนจะไม่มีใครสนใจเราสองคนเลย
และโต๊ะเราก็เริ่มเสียงดังขึ้นไปอีก ไม่ต้องสงสัยเลยว่าจะมีคนมองมั๊ย มีแน่นอนฮะ - - ในร้านมีคนเยอะพอสมควรถึงจะไม่แน่นเอี๊ยดก็เหอะ แต่ก็หนาตาอยู่มาก อีกอย่างไอดอลตั้ง เจ็ด คน แถมยังวงเดียวกันมานั่งคุยเสียงดังกันอยู่ในร้านแบบนี้ไม่มองก็แปลกแล้ว (อันที่จริงโดนมองตั้งแต่อยู่กับเคย์โตะแล้วล่ะ)
แต่ผมสังหรณ์ใจไม่ดีว่ามันจะไม่หยุดอยู่เพียงแค่นี้…เพราะวงเรามี 10 คน!
กริ๊ง กริ๊ง เสียงเปิดประตูหน้าร้านดังขึ้นทำผมใจหายแว๊บ
“โย่! อยู่กันพร้อมหน้าเลย” ทาคาคิคุง!
“อ้าว ทุกคน โหๆๆ กินกันอิ่มแล้วรึยังเนี่ย” ชี่โผล่หน้าออกมากจากด้านหลังของทาคาคิคุง นั่นไงเล่า - -
“ฮะๆ ยังๆ พึ่งสั่งเอง ลากเก้าอี้มาๆ” ไดจังทำหน้าที่กวักมือเรียก และ เพื่อนร่วมโต๊ะของเราก็เพิ่มมาอีกสองคน เหลืออีก หนึ่งคนฮะ - -
หลังจากก้นถึงเก้าอี้ปุ๊บปากก็ทำงานทันที จ้อกันไม่หยุดหน้าตาเฉย!
“พวกพี่โผล่มาจากไหนกันเนี่ย!” ผมพยายามจะขอเป็นเสียงเล็กๆมีบทบาทบนโต๊ะบ้างแต่เหมือนทุกคนจะแกล้งทำเป็นไม่ได้ยินผม! หรือว่าผมคิดไปเองนะ - - เอาเป็นว่าไม่มีใครตอบผมเลย
กริ๊ง กริ๊ง เสียงประตูร้านดังขึ้นอีกครั้ง และแล้ว…สมาชิกก็ครบ!
“งาย ทุกคน! แหมๆ อยากกินเค้กอุ่นๆจัง ข้างนอกเนี่ย หน๊าวหนาว” อิโนะจังเดินกอดหนังสือเข้ามาที่โต๊ะ โดยมียูโตะคุงลากเก้าอี้มาเตรียมเอาไว้ให้
และแล้ว ปาร์ตี้น้ำชา? ยามบ่าย ก็เริ่มขึ้นอย่างไม่คิดจะแคร์สื่อใดๆทั้งสิ้น ของพวกเรา เหล่า Hey!Say!JUMP…
.
.
.
.
.
โอคาริว : ตกลงพวกนายมาจากไหนกันเนี่ย!!!!
To be con…
สวัสดีมีชัย! ไม่ได้อัพนานถึง หนึ่งเดือนเต็มพอดีเป๊ะ T^T ขอโทษน้า!!! พอดีว่าช่วงสองสามอาทิตย์ที่ผ่านมาไปประกวดจัดสวนที่ สวนหลวง ร.9 แบบขุดเจาะ กลางแดด ดำเมี่ยม =[]= แบบล้าเจียนตายมากเลยไม่ได้เล่นหรือแต่งฟิคเลย พอจัดเสร็จ พักผ่อนซักอาทิตย์ก็มาแต่งนี่แหละ เย๊ >< ขอโทษจริงๆเน๊ออ
ส่วนตอนนี้ก็ไม่มีอะไรมาก (จริงๆ) หว๊านหวาน >< แต่ก็แอบ งง แนวๆว่า ตามใจตัวเองมากค่ะ โฮะๆๆๆ เรื่อง The special cases ก็จะอัพเร็วๆนี้ ฝากด้วยนะจ๊า ^^
ความคิดเห็น