ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fic yaoi hey! say! jump] You mean i love him?

    ลำดับตอนที่ #37 : HAPPY OKARYU YEAR 2011!

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 301
      0
      16 ม.ค. 54



             สวัสดีปีใหม่ฮะ อาจจะช้าไปซักนิดแต่ผมก็อยากจะพูดอย่างนั้น ขอโทษที่มาช้าไปหน่อยนะฮะ คือพี่โซลเขาก็เครียดมาตลอดเรื่องนี้ แต่ผมจะไม่พาดพิงนะฮะ (ไรเตอร์
    : ดีมากๆ) ก็ฮะ เรื่องของเรื่องด้วยคือผมไม่ว่างไง ตั้งแต่คริสมาสต์จนถึงปีใหม่ผมก็ทำงานนนตลอดเลย T^T



            ตอนช่วงเดือนธันวาที่ผ่านมา ผมพูดๆไว้ใช่ม้า ว่าคริสมาสต์แล้วอยากอยู่กับเคย์โตะ
    ได้อยู่ฮะ - - แต่อยู่กับครบสิบคนเลยล่ะ แง ทำงานไงฮะ!



             เคย์โตะก็ได้แต่ลูบหัวปลอบใจแล้วยิ้มให้ผม ก็ยังดี
    - - หวังว่าจะได้อยู่ด้วยกันช่วงปีใหม่ แม่กับเจ้าชินก็จับผมโยนขึ้นรถ โดยมีพ่อนั่งสแตนด์บายอยู่ที่คนขับ แล้วน้องสาวผมก็นั่งรออยู่ในรถ มันอะไรกันนักหนา - -



             พอจบหยุดยาวแล้วปุ๊บ ก็ซ้อมคอนเสิร์ตฮะ อ๊าก ยุ่งมากกกก ฟ้าช่างเล่นตลก
    - - อุตส่าห์จะได้ใช้เวลาศักดิ์สิทธิ์? ของคู่รัก (ผมหมายถึง คริสมาสต์ วันสิ้นปี) ซักหน่อยก็ดั๊น มีงานเข้า นี่แหละฮะเรียกว่างานเข้าของจริง - -


    (รีดเดอร์
    : ริวจังไม่ผิดหรอก จริงๆ โซลมันก็แค่แก้ตัวแหละ) (ไรเตอร์ : โน๊วววววว)



    เรื่องมันแล้วก็แล้วไป ปีใหม่ก็เริ่มใหม่ได้
    ^^



              ตอนนี้ผมกำลังกินข้าวกลางวันอยู่ที่โรงอาหารของบริษัทฮะ วันนี้พวกเรามีซ้อมคอนกัน ฮารุคอนไง อย่าลืมไปดูนะฮะ
    ^^ (ซื้อพัดของผมด้วยล่ะ~)



            แต่ที่แย่คือ ผมนั่งกินข้าวกับไอ้เด็กดื้ออยู่ฮะ
    - - ซึ่งเป็นอะไรที่เซ็งมาก! ทำไมผมต้องมานั่งเซ็งกินข้าวกับมันด้วยเนี่ย!!!



    อี้ อัง อั้ง อ่น อะไอ อน เอียว อ่ะ (นี่จังนั่งบนอะไรคนเดียวอ่ะ) ชินซึ่งนั่งอยู่ตรงหน้าผมพูด ในปากเคี้ยวไก่ทอด(ที่แย่งไปจากผม) อยู่เต็มปาก



    เรื่องของนี่จัง กินเข้าไปผมตอบเซ็งๆในท่านั่งเท้าคางก่อนจะ



     
    ป๊าบ!



    ตบหัวมันไปหนึ่งทีแล้วกลับไปนั่งเท้าคางอีกครั้ง ให้ตายสิ
    !



    แค่กๆ! ตบหัวผมทำไมอ้ะชินยกมือขึ้นกุมหัว



    ก็หมั่นไส้…” ผมตอบนิ่งๆแล้วเมินหน้าไปทางอื่น ผมกินเสร็จแล้วล่ะฮะ คงอยากรู้ล่ะสิว่าทำไมถึงเหลือแค่ผมกับ
    เจ้าชิน เมมเบอร์คนอื่นหายไปไหน เคย์โตะอีก ผมจะเล่าให้ฟังฮะ



    เรื่องมันมีอยู่ว่า


    เฮ้ออ เหนื่อยชะมัด เสียงของไดจังดังขึ้นหลังเพลงสุดท้ายในลิสต์ที่ต้องซ้อมจบ



    ไม่เหนื่อยได้ไง ก็นี่มันรอบที่สองแล้วนี่ยาบุคุงนั่งหมดสภาพลงข้างๆไดจัง



    หิวข้าวแล้วอ่าไดจังบ่นพลางลูบท้อง อ๊ะ ผมตอนนั้นกำลังนั่งเอาผ้าเย็นซับตามตัวอยู่บนโซฟาแถวนั้นกับชี่แล้วก็
    ฮิคารุคุงฮะ ส่วนคนอื่นๆก็กระจายกันอยู่ตามห้องฮะ



    อืม ก็เที่ยงแล้วนี่นาอิโนะจังมองนาฬิกา พวกเราลงไปกินข้าวกันเหอะ



    เห็นด้วย!!!” ทุกคนร้องออกมาพร้อมกันอย่างพร้อมเพรียง รวมทั้งผมด้วยแฮะๆ



               ทุกคนเลยค่อยๆลุกออกไปหยิบของหยิบอะไรกันนิดๆหน่อยๆแล้วลงไปพร้อมกัน ตอนนั้นเอง เคย์โตะก็เดินกลับมาหาผมฮะ



    แฮมทาโร่ กินอะไรกันดีวันนี้



    หือ? ก็อะไรก็ได้นี่ เอาง่ายๆ แล้วก็เยอะๆก็พอมั้งผมทำท่าคิด ไอที่ผมว่ามาก็คงไม่พ้น



    แฮมจังหมายถึงข้าวราดแกงกระหรี่ใช่ม้า~” จู่ๆก็มีเสียงแหลมๆดังขึ้นข้างหู พร้อมกับแรงกดตัวลงมาของใครบ้างคนที่ด้านหลัง ชี่นั่นเอง



    อื้อ คงงั้นมั้งผมหันไปตอบชี่ที่กำลังเอามือมาคล้องคอผมจากด้านหลังอยู่ ถึงปกติเขาจะตัวเบา แต่เวลาเหนื่อยๆเนี่ยผมรู้สึกว่าเขาตัวหนักชะมัด - -



    อย่างนั้นเหรอ ชั้นก็นึกว่าจะกินราเมนซะอีกนะเนี่ยเคย์โตะทำท่าเสียดาย อยากกินล่ะซี่



    นายนี่ไม่ฉลาดเอาซะเลยนะเคย์โตะยูโตะคุงเดินมาเกาะไหล่เคย์โตะพลางทำท่าเท่ห์ ที่ริวไม่กินราเมนก็เพราะว่ามันมีส่วนประกอบของน้ำ และมันก็อาจจะทำให้หกเลอะเสื้อได้ยังไงล่ะ หึ เพราะเสื้อตัวนั้นเป็นตัวโปรดใช่ม้ายูโตะคุงชี้นิ้วมาที่เสื้อของผมอย่างมั่นใจ



    เอ๋ อย่างนั้นเหรอแฮมทาโร่เคย์โตะหันหน้ามาถามผมพร้อมๆกับชี่ เหอะๆ จะเป็นอย่างนั้นไปได้ยังไงกัน



    ก็ใช่น่ะสิ ก็ชั้นเห็นริวใส่เสื้อตัวนี้บ่อยๆนี่นา อะแฮ่มยูโตะคุงเปลี่ยนไปทำท่ากอดอก ไปขุดเอาความมั่นใจมาจากไหนขนาดน้าน



    เปล่าซักหน่อย ก็แค่เสื้อตัวนี้สีมันสวยดีต่างหาก แถมใส่อยู่บ้านก็ได้เที่ยวก็ได้ก็เลยใส่บ่อยเท่านั้นเอง - -”



    โครม
    !!! (เสียงยูโตะคุงเสียการทรงตัว)



    ชั้นก็ว่าอยู่ว่ามันฟังแปลกๆ - -”



    นั่นสิ ยูโตะน่ะเพ้อเจ้อจริงๆไม่น่าหลงไปฟังเลย ชี่ทำหน้าเอือมแล้วเดินไปทางคนอื่นแทน



    อ้าว เฮ้! ชี่ไหงพูดงั้นอ้ะ!” ยูโตะคุงลุกขึ้นแล้วเดินตามชี่ไป อะไรของเขา คิดจะมาก็มา - -



             และก็เหลือผมกับเคย์โตะอีกครั้ง เมื่อพายุพัดผ่านไปอย่างรวดเร็ว (ไรเตอร์
    : เร็วจริงๆสรุปอิโตะมันมาทำไร?)



    ชั้นก็ยังคิดๆอยู่ว่าแฮมทาโร่ชอบเสื้อตัวนี้เหรอเคย์โตะสำรวจเครื่องแต่งกายผม



    เหอะ เชื่อก็บ้าแล้ว ชั้นไม่ได้ชอบตัวไหนเป็นพิเศษหรอก เฉยๆนะ ใส่ได้หมดแหละผมหยักไหล่



    งั้นเหรอ งั้นสงสัยชั้นคงต้องไปซื้อเสื้อซักตัวให้แฮมทาโร่แล้วล่ะเคย์โตะพูดขณะกำลังก้มลงไปหยิบกระเป๋าสตางค์ที่อยู่บนโซฟา



    เอ๋? ทำไมเหรอ



    ก็เพราะว่ามันจะได้เป็นเสื้อตัวโปรด ตัวสำคัญที่แฮมทาโร่ไม่อยากทำเปื้อนไง ฟอด~” ไอ้เม่น (อีกและ) พูดจบก็ก้มลงมาหอมแก้มผม >///< ไอ้บ้า หลงตัวเอง เอ๊ย ไม่ใช่ นี่มันห้องซ้อมนะ!



    ฮิ้วววว เจ้าเม่นอังกฤษทำอะไรแฮมแฮมน้ะ~!!!” เสียงฮิคารุคุงดังมาจากฝั่งตรงข้าม



    ฮิ้วววววว คาตาเลยน๊า ตามด้วยเสียงต่างๆนาๆของคนที่เหลือ



    >/////<!



    ตะ ตาฝาดน่า!” ผมแก้ตัว ทั้งๆที่ก็รู้ว่าฟังไม่ขึ้น



    ส่วนไอเม่นน่ะเหรอ ยืนยิ้มเกาหัวแกรกๆอยู่ข้างๆผมเนี่ยแหละ บ้า ตัวเองก็เขินแล้วทำทำไมเล่า
    ><



    เหมือนเคย์โตะรู้ว่าผมคิดอะไรอยู่ มันเลยพูดขึ้นมาเบาๆชนิดที่ว่าได้ยินกันแค่สองคนว่า



    ก็แฮมทาโร่น่ารัก ก็เลยอยากหอมก็แค่นั้นแหละ



    O////O!



    ทะลึ่ง!” ผมด่ามันไปรอบนึง แล้วก็เดินไปหาคนอื่น ไอ้นี่นิ ชอบพูดแบบนี้อีกแล้ว ผมมันน่ารักมากเลยหรือยังไงกัน น่ารักมากเหรอหรอฮะ o.o?



    แหม อะไรทะลึ่งหรอแฮมทาโร่~” ยามะจังกระทุ้งด้านขวาผมเบาๆ แล้วทำเสียงเลียนแบบเคย์โตะ ทำเอาผมเขินไปหมดทั้งตัว



    ก็แฮมทาโร่ ตัวหอมนี่นา~” ไดจังประกบด้านซ้ายผมอย่างแนบแน่น? แล้วก็แกล้งทำเสียงแบบเคย์โตะเหมือนกับยามะจัง



    อ๊ากกก ให้ตายสิสองคนนี้เนี่ย
    !!!



    ฮิ้วๆๆๆๆๆๆๆๆ



    พอที
    >//<!!!



    ผมจะไปกินข้าวแล้ว หิว!” ผมรีบตัดบทแล้วเดินหนีออกไปทันที พอปิดประตูห้องผมได้ยินเสียงพวกเขาหัวเราะกันด้วย ไม่ตลกนะ >///< เขินจะตาย คอยดูเหอะ ลงเอยกันหมดเมื่อไหร่ผมจะเอาคืนมั่งคอยดู =3=



             ผมเดินเร็วๆไปยืนรอลิฟต์ที่อยู่ห่างจาก ห้องซ้อมของพวกเราไปนิดหน่อย ไม่นานนักคนอื่นๆก็เดินตามกันออกมา พวกเรายืนรอลิฟต์อยู่นานโขเลย มันเป็นอะไรเนี่ย
    - - ผมว่าผมกดลิฟต์แล้วนะ สงสัยมีคนเรียกไปที่ไกลๆก่อนแหง



            ระหว่างรอพวกเราก็ยืนคุยกันถึงเรื่องต่างๆบางคนก็คิดจะกินอะไรดี บางคนก็พูดเรื่องคอนเสิร์ตครั้งก่อน ส่วนผมก็ยืนจ้องตัวเลขบอกชั้นที่หน้าลิฟต์ต่อไป ตอนนั้นเอง



    ริวทาโร่ มานี่หน่อยสิจู่ๆ แมนนาเจอร์ซังก็เดินออกมาจากห้องๆหนึ่งแล้วเรียกผมเข้าไป



    เอ๊ะ ผมหรอ?” เมมเบอร์ทุกคนหันไปมองแมนนาเจอร์ซังเป็นสายตาเดียวกันสลับกับมองผมที่ยืนชี้นิ้วมาที่ตัวเองอยู่



    ใช่ๆ นายนั่นแหละ มานี่หน่อยสิเขาเรียกผมอีกครั้งแล้วเดินหายเข้าไปในห้อง จังหวะพอดีกับที่ลิฟต์มาพอดี เฮ้ออ หิวข้าวง่า



    ให้เรารอมั๊ยริวทาโร่ ยาบุคุงถามผม



    ไม่ต้องอ่ะฮะ กินกันไปก่อนเลย เดี๋ยวผมตามลงไปนะ



    อือ เร็วๆนะทุกคนบอกแล้วก้าวเข้าไปในลิฟต์ เคย์โตะยังคงหยุดนิ่งอยู่กับพี่ ผมเลยพยักหน้าให้เขาบอกให้เขาลงไปพร้อมๆกับทุกคน และประตูลิฟต์ก็ปิดลงอย่างช้าๆ



    เฮ้ออออ ซวยชะมัด โดนด่ารึเปล่าเนี่ย
     - -



    ขออนุญาตครับ อ้าว ชิน พอเปิดประตูเข้ามาก็เห็นเจ้าชินนั่งอยู่ตรงหน้าแมนนาเจอร์ซัง



    นี่จังเข้ามาช้าจังชินหันมาหาผม



    นายมาทำไรน่ะผมถามตกใจนิดๆแล้วนั่งลงข้างๆมัน



    ก็ถูกเรียกมาเหมือนกันแหละงั้นเหรอ แล้วชินเกี่ยวอะไรล่ะ ชินไม่ใช่ JUMP ซักหน่อย



    เอ่อ มีอะไรหรอฮะ เรียกเราสองคนมาน่ะพอผมไม่พบคำตอบจากน้องชาย ก็เลยต้องหันไปถามคนเรียกแทน



    อ๋อไม่มีไรหรอกก็คือจะให้….” แล้วแมนนาเจอร์ก็ชี้แจงเหตุผลฮะ เล่นเอานานโขเลยทีเดียว - - เกือบชั่วโมงได้
    แง้ พอก่อนที่แมนนาเจอร์ซังจะพูดจบเล็กน้อยผมก็ได้ยินเสียงโวกเวกที่หน้าห้อง คาดว่าเมมเบอร์คนอื่นๆจะกินกัน
    จนเสร็จแล้ว
    - - 


    .

    .

    .



    อื้ม เข้าใจแล้วนะ งั้นไปกินข้าวได้ โทษทีที่รั้งตัวไว้นานในที่สุดก็ได้ฤกษ์จบซักที เฮ้อ อะไรนักหนา - - หิวโว้ยยยย



    นี่จังผมหิวแล้วเออ เหมือนกันแหละ - -



    ก็กำลังจะลงไปนี่ไงเล่า



    นี่จังจะไปกินกับผมใช่มั๊ย *o*” ชินถามตาแป๋ว น่ารักตายแหละ จะหาคนเลี้ยงน่ะสิ - -



    ไม่เอา…!!!” ทั้งๆที่ผมแจ้งความจำนงออกไปขนาดนั้นแท้ๆ



    น่าๆ ริวทาโร่ ก็พาน้องไปกินสิ ยังไงคนอื่นๆก็ขึ้นมากันหมดแล้วไม่ใช่หรอ ไปกินกับชินนี่แหละดีแล้วแมนนาเจอร์ซังพูดกับผมแถมยังใช้สายตาปรามๆอีก - - อ๊ากกก ซวยชะมัด!



    ครับๆ ไปได้แล้วตัวยุ่ง หิวแล้ว!” ผมพูดจบก็เดินฟืดฟัดเดินออกจากห้องไปเลย

    รอด้วยสิ~~” โอ้ยยยยยย แง ไม่ได้อยู่กับเคย์โตะอีกแล้วอ่า T^T



    จบการย้อนความ



           นั่นแหละฮะ คือเหตุการณ์ทั้งหมดที่ผมต้องมานั่งเลี้ยงน้องบ้าอยู่อย่างนี้เนี่ย เอ๊ะ จะถามว่าทำไมไม่มีใครซื้อข้าวขึ้นมาให้เลยอย่างนั้นเหรอ
    ? ผมบอกเค้าเองแหละฮะ อีกอย่างถ้าทุกคนกินเสร็จแล้ว แล้วผมจะให้ผมไปนั่งกินข้าวในขณะที่คนอื่นซ้อมกันอยู่ผมคงกินไม่ลง  - -



    เซ็งชะมัด
    ~



    นี่จังกำลังคิดว่า เซ็งชะมัดต้องมาเลี้ยงผมใช่มะชินพูด



    ผมหันหน้าไปมองมันอย่างตกใจนิดๆ รู้ได้ไงวะ



    รู้ได้ไงอ่ะ



    หน้ามันฟ้อง อีกอย่างพี่น้องกันนิสัยมันก็เหมือนๆกันแหละน่า - -” เออจริงด้วย เอ๊ะ มันก็นิสัยเหมือนผมหรอ ไม่ยักรู้แฮะ



    งั้นหรอ รู้ก็ดี รีบๆกินแล้วก็ไปทำงานไป๊ผมโบกมือไล่มัน



    ครับๆๆๆ หงุดหงิดล่ะซี้ไม่ได้อยู่กับพี่เคย์โตะอ่ะ



    ป๊าบ
    !



    อีกซักรอบไอ้น้องตัวดี เสียงดังเขารู้กันหมด
    >///<



    โอ๊ย! เอาอีกแล้วอ้ะชินยกมือขึ้นกุมหัว ที่ผมตบหัวมันเป็นรอบที่ล้านได้แล้วมั้งเนี่ย



    อย่าพูดเสียงดังสิ แล้วก็ไม่ต้องทำเป็นรู้ดีเลย กินหมดแล้วใช่มั๊ยจะไปไหนก็ไปไป๊



    ไปก็ได้~ ไปและ วันนี้ผมนอนบ้านเพื่อนนะ บาย



    เออดี ไม่ต้องเจอกันซักคืน จะได้สบายหูสบายตาซักที
    - -



              หลังจากที่ชินไปแล้ว ผมก็แวะเข้าห้องน้ำนิดๆหน่อยๆแล้วเดินกลับห้อง ในห้องน้ำผมได้ยินพวก
    Jr. ยืนคุยกันอยู่ในห้องน้ำ เจ้าพวกนั้นเห็นผมก็ทักทายเล็กน้อยก่อนจะหันกลับไปคุยกันต่อ



    ผมก็จัดการธุระตัวเองไป แต่หูก็ฟังไปด้วย (ผมเปล่านะ ก็ห้องน้ำเล็กนิดเดียวไม่ได้ยินได้ไง)



    นี่คริสมาสต์นะ ชั้นไปเดทกับแฟนที่ด้วยล่ะ บรรยากาศโคตรดีเลยอ่ะ



    โหยย ดีนะนายเนี่ย แหม แต่ชั้นก็ไม่น้อยหน้านะเว่ยย



    ต้องชั้นสิ งี้นะ…”



    โหยจริงดิ้!!!”



             เจ้าพวกนั้นเล่านิยายน้ำเน่าวันคริสมาสต์ของตัวเองอย่างสนุกสนานและไม่แคร์สื่อ ดีนะเป็นในบริษัท แถมยังเป็นช่วงเวลาที่ไม่ค่อยมีใครใช้ห้องน้ำโรงอาหารอีก และที่สำคัญนะ ผมอิจฉาจนแทบจะอยู่ทนฟังไม่ได้เลยล่ะ
    T^T!!!



    ผมรีบเดินไปล้างมือ แล้วก็ชิ่งหนีออกมาจากห้องน้ำ และคำสุดท้ายที่ผมได้ยินก่อนจะพ้นธรณีประตู



    จูบกับแฟนวันนั้น รู้สึกดีจริงๆ



              อ๊ากกกกก จูบ
    !!!! ผมไม่ได้จูบกับเคย์โตะมาตั้งนานแล้วอ้า T///T! นานจริงๆนะ แบบก็มีแค่จุ๊บนิดๆไม่ก็หอมแก้มเท่านั้นเอง แต่จูบน่ะตั้งแต่กลับจากฮาวายก็ไม่มีอีกเลยล่ะมั้ง เดือนนึงแล้วนะ



              ผมก็โวยวายเสียใจอยู่กับตัวเองแค่ชั้นล่างเท่านั้นแหละ แต่พอขึ้นลิฟต์เข้ามาได้ ผมก็เริ่มสงบลง
    ? ผมก้มหน้านิ่งเม้มริมฝีปากแน่น ผมใช้นิ้วลูบริมฝีปากของตัวเองเบาๆ ผมคิดถึงความอ่อนโยนจากริมฝีปากของเคย์โตะจังเลย



               จู่ๆก็รู้สึกเศร้าขึ้นมากะทันหัน นี่ผมคลั่งจูบรึไงนะ
    ? ไม่ใช่ๆ >< ก็แบบ เป็นเรื่องธรรมดาไม่ใช่เหรอฮะ ที่เราอยากจะจูบกับคนที่เรารักอ่ะ



    ติ๊ง



                เสียงลิฟต์ดังเตือนสติผมเมื่อลิฟต์เดินทางขึ้นมาส่งจนถึงหมายเลขชั้นที่ผมกดเอาไว้ ผมเดินออกมาสู่ทางเดิน ผมเดินเงียบๆ ทบทวนเรื่องราวต่างๆที่ผ่านมาตลอดปีที่แล้ว



                มีอะไรเกิดขึ้นมากมายเลยนะฮะ ตั้งแต่ที่ผมเริ่มสนิทกับเคย์โตะ จนเราสองคนเกิดความรู้สึกอะไรบางอย่างขึ้นมาพร้อมๆกัน ไม่สิ ต้องผมฝ่ายเดียวมากกว่า เพราะเคย์โตะบอกว่าแอบชอบผมมาตั้งนานแล้ว
    มาถึงตรงนี้ผมก็ยิ้มออกมา



              ต่อมาก็คือ เราสองคนไปเที่ยวสวนสนุกกันครั้งแรก มันไม่ใช่เดทนะฮะ แค่นัดเที่ยวกันเฉย ตอนนั้นเองผมก็เริ่มรู้สึกว่ามีอะไรบางอย่างเปลี่ยนไป จากนั้นไม่นานผมก็เริ่มคิดมาก ฮะๆ ตอนนั้นผมขำตัวเองจัง ถึงขั้นต้องให้ชี่ช่วยเลย และสุดท้ายก็ต้องขอบคุณชี่ เพราะทำให้ผมรู้ใจตัวเอง



               ในที่สุดผมก็ตัดสินใจสารภาพรัก และเราก็ได้เป็นแฟนกัน
    /// ผมจำได้ว่าวันนั้นมีความสุขมาก ถัดมาก็เป็นจูบแรก อา ตอนนั้นผมพูดอะไรออกไปบ้างนะ >///<



               ท้ายที่สุดที่ฮาวาย เรามีความทรงจำครั้งแรกด้วยกันที่นั่น ผมไม่นึกจริงๆว่ามันจะเกิดขึ้น ทั้งๆที่เราพึ่งคบกันได้แท้ๆ แถมก่อนหน้านั้นเราก็ทะเลาะกันรุนแรงอีก ไม่นึกเลยจริงๆว่ามันจะจบลงแบบนั้น
    /// แถมยังมีครั้งที่สองด้วยนะ >////< แต่ก็นั่นแหละทุกความรู้สึก ทุกความทรงจำนั่นเป็นเพราะว่าผมรักเคย์โตะยังไงล่ะ



    ตอนนี้ผมมาถึงหน้าห้องซ้อมแล้ว ผมคิดอะไรบางอย่างไว้ในใจแล้วเปิดประตูเข้าไป

    .

    .

    .


    อ้าว แฮมทาโร่กลับมาแล้วหรอคนแรกที่เดินเข้ามาหาคือเคย์โตะ ดูเหมือนว่าเขากำลังซ้อมกีต้าร์อยู่นะ



    อื้ม พาชินไปกินข้าวด้วยน่ะ เลยช้าหน่อย



               คนอื่นที่กำลังทำท่าเดินเข้ามาหาผมด้วยความเป็นห่วงที่ผมหายไปนานก็หยุดชะงักหลังฟังคำตอบผม แล้วก็แยกย้ายกันกลับไปซ้อมของตัวเองต่อ



    อ๋อ งั้นก็นั่งพักก่อนก็ได้ อย่าพึ่งซ้อมเลย เดี๋ยวจุกนะเคย์โตะยิ้มให้ผม ผมชอบรอยยิ้มนี้จัง



    อืออออผมหลับตา ซักแป๊บนึงก็รู้สึกถึงสัมผัสอันอบอุ่นบนหัวผม ดูเหมือนว่าเคย์โตะกำลังลูบหัวผมอยู่นะ



    แฮมทาโร่เป็นอะไรไปเนี่ยน้ำเสียงเคย์โตะดูเหมือนขำนิดๆ ก่อนที่ผมจะรู้สึกถึงโซฟาด้านข้างยุบตัว เคย์โตะคง
    นั่งลงข้างๆผม



    ไม่ได้เป็นอะไร แค่อยากเคย์โตะอยู่ใกล้ๆก็แค่นั้นเอง ผมลืมตาขึ้นมามองหน้าเคย์โตะ เขามองผมแบบตกใจด้วยแหละ



    อะ เอ๋? พูดอะไรน่ะ ก็อยู่ใกล้ๆแล้วนี่ไงเคย์โตะเริ่มเขิน ^///^



    ก็อยากใกล้อีกนี่…” ผมทำเสียงอ้อนแล้วกระเถิบเข้าไปเบียดเค้า เขาเลิกลั่กใหญ่



    มะ ไม่เอาน่าแฮมทาโร่ คนอื่นก็อยู่นะอะไรของเค้า ปกติหน้าด้านจะตายไป



    แต่คนอื่นก็เพื่อนกันหมดไม่ใช่หรอผมก้มหน้า



    อ่ะ เอ่อ มันก็ใช่อ่ะ แล้วแฮมทาโร่จะทำอะไรเหรอเคย์โตะถามผมเอาล่ะนะ ผมว่าไม่จำเป็นต้องอายคนอื่นๆหรอก ใช่มั๊ยฮะ (ไรเตอร์ : ใช่แล้วริวริว อายทำไม เดี๋ยวคนอื่นมันอิจฉาก็ทำตามเองแหละ=..=)



               หลังจากผมได้คำแนะนำจากพี่โซลแล้ว (รีดเดอร์
    : แน่ใจหรอว่าคำแนะนำ) ผมก็ไม่ค่อยแน่ใจอ่ะฮะ แต่ผมจะทำตามใจตัวเองแล้ว



    เคย์โตะชั้นขออะไรอย่างนึงได้มั๊ยผมสบตาเค้า เคย์โตะหยุดมองตาผมนิ่งราวกับไม่อาจละสายตาไปจากผมได้



    ได้สิ…” เขาตอบเสียงอ่อนโยน



    จูบชั้นหน่อยนะ ผมพูดกับเขาเสียงอ้อน ราวกับจะขอร้องเขา ผมอายนะเนี่ยที่พูดอย่างนี้ หน้าคงแดงด้วยเพราะผมรู้สึกร้อนๆ นี่คงเป็นครั้งที่สองที่ผมขอเขาตรงๆ เคย์โตะดูมีสีหน้าตกใจนิดหน่อย บางทีเขาคงไม่ยอม
    หรอก
    ผมคิด



              แต่กลับกัน เคย์โตะค่อยๆโน้มหน้าลงมาหาผม แล้วแนบริมฝีปากลงเบาๆ ใจผมเต้นรัวเหมือนจูบครั้งแรก เคย์โตะขยับริมฝีปากเบาๆหนึ่งครั้งราวกับกำลังจะบอกให้ผมหลับตา ผมทำตาม



               ลมหายใจอุ่นๆ รดลงบนใบหน้าของผม ผมขยับตัวให้อยู่ในท่าที่ถนัดขึ้น ในขณะที่เคย์โตะใช้มือของเขาลูบไปหน้าของผมเบาๆ



               เสียงของอะไรบางอย่างหล่นลงพื้น ผมคิดว่าน่าจะเป็นของเล่นที่ผมเห็นยามะจังกำลังถืออยู่ตอนที่ผมเปิดประตูเข้ามาในห้อง เขาคงตกใจที่เห็นผมกล้าจูบกับเคย์โตะในห้องขนาดนี้ คนอื่นๆก็คงเหมือนกัน



               ภายในห้องเงียบมากราวกับตกอยู่ในความฝัน ผมรู้สึกตัวล่องลอยเมื่อเคย์โตะสอดลิ้นนิ่มเข้ามา ความทรงจำต่างๆในปีที่แล้วไหลผ่านมา ราวกับเคย์โตะจะส่งผ่านความรู้สึกของเขาออกมาให้ผม ความรู้สึกโหยหาในตอนแรก ทำให้ผมเป็นฝ่ายเร่งจังหวะของมัน มือที่ปล่อยทิ้งข้างลำตัวถูกยกขึ้นมาคล้องรอบคอตามสัญชาตญาณและจังหวะที่พาไป



              มือของเคย์โตะที่ตอนแลกลูบหน้าผมอยู่จนจั๊กกะจี้ เริ่มเคลื่อนไปที่ท้ายทอยของผมแล้วประคองมันเชิดขึ้นมาให้แนบแน่นไปกับริมฝีปากของเราที่ประกบกันอยู่ให้มากขึ้น



                ความรู้สึกต่างๆส่งผ่านให้กันจนล้นออกมา ผมเผลอครางอยู่ในลำคอจนเกิดเสียง ภายในห้องยังคงดูเงียบราวไม่มีใครหายใจ จนผมคิดว่าอื่นอาจจะได้ยินเสียงนี้



                เราจูบกันนานและร้อนแรง แต่น่าแปลกที่ผมไม่อยากหยุดทั้งๆที่ผมเหนื่อยแทบขาดใจ เคย์โตะเองก็ดูเหมือนจะไม่อยากผละออกจากผมเหมือนกันผมรู้สึกได้
    จากจูบนี้



               แต่ไม่กี่อึดใจ เราสองคนก็ค่อยๆพละออกจากกันอย่างพร้อมใจ ผมหอบแฮ่ก พลางยกแขนขึ้นมาเช็ดบริเวณรอบปากอย่างอายๆ หน้าของผมยังคงร้อนและแดงอยู่ ไม่ต่างกับริมฝีปากของตัวเองที่ผมเห็นสะท้อนในกระจก



               เคย์โตะนั่งหอบนิ่งๆอยู่ข้างๆผม ก่อนที่เขาจะยิ้มออกมานิดๆอย่างอ่อนโยนตามแบบฉบับของเขา ผมยิ้มตอบจากนั้นผมจึงค่อยเริ่มรู้สึกว่า บรรยากาศภายในห้องเริ่มเดินอีกครั้ง



    พะ พวกนายเสียงอันสั่นเครือของยาบุคุงดังขึ้น



    ทำอะไรกันเนี่ยยย ไม่เกรงใจกันเลยรึไง >///<” ฮิคารุคุงใช้คำพูดเหมือนจะดุแต่ไม่ใช่



    แหมมมม ร้อนแรงกันจริงจริงเลยน้า ชี่แซวผมโดยมีทาคาคิคุงยืนค้างอยู่ข้างๆ



    ยามะจัง! ชั้นลืมหายใจไปเลยอ่ะ!”



    ชั้นก็เหมือนไดจังแหละ! ร้อนนชะมัดเลย~!”



    เคย์โตะ นายมันเจ๋งว่ะ!” ยูโตะคุงยืนยกนิ้วให้ เคย์โตะเกาหัวเขินใหญ่



    ความร้อนแรงที่เผลาผลาญจิตวิญญาณของหนุ่มสาว~ อืมมม อย่างนี้สินะส่วนอิโนะจัง เขาพูดอะไรฮะ
    >///<
    แต่ช่างมันเหอะ



               ให้ตายสิ ผมทำอย่างนี้ต่อหน้าทุกคนไปได้ยังไงกันนะ
    >////< แต่ช่วยไม่ได้นี่ ก็มันทำไปแล้วนี่นา~~ (ไรเตอร์ : Good job! (ยกนิ้ว เลือดกำเดาไหลพรวดๆ) )



    ผมหันไปหาเคย์โตะอีกครั้ง เคย์โตะสบตาผมเขินๆแล้วพูดว่า



    อันที่จริงชั้นก็ว่าขอแฮมทาโร่อยู่เลยล่ะ…”



    >/////<
    เราใจตรงกันหรอเนี่ยยย รักเคย์โตะที่สุดเลย~



    อื้ม!”



               และการซ้อมวันนั้นก็จบลงอย่างร้อนแรงฮะ
    ^^ ในที่สุดความรู้สึกต่างๆที่คาใจก็ถูกกำจัดไปด้วยจูบของคนที่ผมรัก เอาล่ะ ปีนี้เรามาสานความรักของเรากันต่อไปนะเม่น~

    --------------------------------------------------------------------------------------------


    HAPPY OKARYU YEAR!!!
     โฮะๆๆ ปีนี้ปีโอคาริวทองล่ะ สำนักข่าวโซลจงเจริญ ฟันธง!

    สวัสดีปีใหม่อีกครั้งนะจ๊า โซลมาอัพช้ามากอ่ะ =3= สำนึกผิด ฮ่าๆ (แน่ใจ๊?) ว่าจะแต่งคริสมาสต์ก็ไม่ได้แต่ง ปีใหม่ก็ไม่ แงๆ T^T ผิดไปแล้ว~ ปีนี้เรามาเริ่มกันใหม่น้า เอาล่ะพี่น้องชาวโอคาริวทั้งหลาย มาร่วมกันทำให้ปีแห่งโอคาริวนี้ จงเจริญยิ่งๆขึ้นไปเถิด สาธุ! วะฮ่าฮ่าๆ!!!!


    ประกาศนะจ๊ะ

    The special case ไดยามะเรียลลิตี้!! อัพไปแล้วนะจ๊ะ ฝากเข้าไปด้วยน้าhttp://writer.dek-d.com/zaol-chan/writer/view.php?id=664147

    Love tasty in dormitory ~รักวุ่นๆฉบับเด็กหอ~ ที่แต่งกับวีนัสก็อัพแล้วน้า >3<(นานมากก)

    http://writer.dek-d.com/zaol-chan/writer/view.php?id=620276

     
                สุดท้ายนี้ ไดอารี่ของยามะจัง จะทำเป็นเล่มแล้ว ใครอยากได้ก็เข้าไปสั่งจองกันได้ในหน้าฟิคไดอารี่ของยามะจังนะจ๊า (ช่วยกันทำมาหากิน?) โซลไม่ได้ส่วนแบ่งหรอกนะ ฮ่าๆๆๆ ถ้าใครไม่มีลิ้งค์หรือไม่เคยอ่านสามารถเข้าไปเอาลิ้งค์ที่แบรนเนอร์ ใน ฟิค เด็กหอได้นะจ๊า~

     

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×