คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #37 : HAPPY OKARYU YEAR 2011!
สวัสดีปีใหม่ฮะ อาจจะช้าไปซักนิดแต่ผมก็อยากจะพูดอย่างนั้น ขอโทษที่มาช้าไปหน่อยนะฮะ คือพี่โซลเขาก็เครียดมาตลอดเรื่องนี้ แต่ผมจะไม่พาดพิงนะฮะ (ไรเตอร์ : ดีมากๆ) ก็ฮะ เรื่องของเรื่องด้วยคือผมไม่ว่างไง ตั้งแต่คริสมาสต์จนถึงปีใหม่ผมก็ทำงานนนตลอดเลย T^T
ตอนช่วงเดือนธันวาที่ผ่านมา ผมพูดๆไว้ใช่ม้า ว่าคริสมาสต์แล้วอยากอยู่กับเคย์โตะ…ได้อยู่ฮะ - - แต่อยู่กับครบสิบคนเลยล่ะ แง ทำงานไงฮะ!
เคย์โตะก็ได้แต่ลูบหัวปลอบใจแล้วยิ้มให้ผม ก็ยังดี - - หวังว่าจะได้อยู่ด้วยกันช่วงปีใหม่ แม่กับเจ้าชินก็จับผมโยนขึ้นรถ โดยมีพ่อนั่งสแตนด์บายอยู่ที่คนขับ แล้วน้องสาวผมก็นั่งรออยู่ในรถ มันอะไรกันนักหนา - -
พอจบหยุดยาวแล้วปุ๊บ ก็ซ้อมคอนเสิร์ตฮะ อ๊าก ยุ่งมากกกก ฟ้าช่างเล่นตลก - - อุตส่าห์จะได้ใช้เวลาศักดิ์สิทธิ์? ของคู่รัก (ผมหมายถึง คริสมาสต์ วันสิ้นปี) ซักหน่อยก็ดั๊น มีงานเข้า นี่แหละฮะเรียกว่างานเข้าของจริง - -
(รีดเดอร์ : ริวจังไม่ผิดหรอก จริงๆ โซลมันก็แค่แก้ตัวแหละ) (ไรเตอร์ : โน๊วววววว)
เรื่องมันแล้วก็แล้วไป ปีใหม่ก็เริ่มใหม่ได้ ^^
ตอนนี้ผมกำลังกินข้าวกลางวันอยู่ที่โรงอาหารของบริษัทฮะ วันนี้พวกเรามีซ้อมคอนกัน ฮารุคอนไง อย่าลืมไปดูนะฮะ ^^ (ซื้อพัดของผมด้วยล่ะ~)
แต่ที่แย่คือ ผมนั่งกินข้าวกับไอ้เด็กดื้ออยู่ฮะ - - ซึ่งเป็นอะไรที่เซ็งมาก! ทำไมผมต้องมานั่งเซ็งกินข้าวกับมันด้วยเนี่ย!!!
“อี้ อัง อั้ง อ่น อะไอ อน เอียว อ่ะ (นี่จังนั่งบนอะไรคนเดียวอ่ะ)” ชินซึ่งนั่งอยู่ตรงหน้าผมพูด ในปากเคี้ยวไก่ทอด(ที่แย่งไปจากผม) อยู่เต็มปาก
“เรื่องของนี่จัง กินเข้าไป” ผมตอบเซ็งๆในท่านั่งเท้าคางก่อนจะ…
ป๊าบ!
ตบหัวมันไปหนึ่งทีแล้วกลับไปนั่งเท้าคางอีกครั้ง ให้ตายสิ!
“แค่กๆ! ตบหัวผมทำไมอ้ะ” ชินยกมือขึ้นกุมหัว
“ก็หมั่นไส้…” ผมตอบนิ่งๆแล้วเมินหน้าไปทางอื่น ผมกินเสร็จแล้วล่ะฮะ คงอยากรู้ล่ะสิว่าทำไมถึงเหลือแค่ผมกับ
เจ้าชิน เมมเบอร์คนอื่นหายไปไหน เคย์โตะอีก ผมจะเล่าให้ฟังฮะ
เรื่องมันมีอยู่ว่า…
“เฮ้ออ เหนื่อยชะมัด” เสียงของไดจังดังขึ้นหลังเพลงสุดท้ายในลิสต์ที่ต้องซ้อมจบ
“ไม่เหนื่อยได้ไง ก็นี่มันรอบที่สองแล้วนี่” ยาบุคุงนั่งหมดสภาพลงข้างๆไดจัง
“หิวข้าวแล้วอ่า” ไดจังบ่นพลางลูบท้อง อ๊ะ ผมตอนนั้นกำลังนั่งเอาผ้าเย็นซับตามตัวอยู่บนโซฟาแถวนั้นกับชี่แล้วก็
ฮิคารุคุงฮะ ส่วนคนอื่นๆก็กระจายกันอยู่ตามห้องฮะ
“อืม ก็เที่ยงแล้วนี่นา” อิโนะจังมองนาฬิกา “พวกเราลงไปกินข้าวกันเหอะ”
“เห็นด้วย!!!” ทุกคนร้องออกมาพร้อมกันอย่างพร้อมเพรียง รวมทั้งผมด้วยแฮะๆ
ทุกคนเลยค่อยๆลุกออกไปหยิบของหยิบอะไรกันนิดๆหน่อยๆแล้วลงไปพร้อมกัน ตอนนั้นเอง เคย์โตะก็เดินกลับมาหาผมฮะ
“แฮมทาโร่ กินอะไรกันดีวันนี้”
“หือ? ก็อะไรก็ได้นี่ เอาง่ายๆ แล้วก็เยอะๆก็พอมั้ง” ผมทำท่าคิด ไอที่ผมว่ามาก็คงไม่พ้น…
“แฮมจังหมายถึงข้าวราดแกงกระหรี่ใช่ม้า~” จู่ๆก็มีเสียงแหลมๆดังขึ้นข้างหู พร้อมกับแรงกดตัวลงมาของใครบ้างคนที่ด้านหลัง ชี่นั่นเอง
“อื้อ คงงั้นมั้ง” ผมหันไปตอบชี่ที่กำลังเอามือมาคล้องคอผมจากด้านหลังอยู่ ถึงปกติเขาจะตัวเบา แต่เวลาเหนื่อยๆเนี่ยผมรู้สึกว่าเขาตัวหนักชะมัด - -
“อย่างนั้นเหรอ ชั้นก็นึกว่าจะกินราเมนซะอีกนะเนี่ย” เคย์โตะทำท่าเสียดาย อยากกินล่ะซี่
“นายนี่ไม่ฉลาดเอาซะเลยนะเคย์โตะ” ยูโตะคุงเดินมาเกาะไหล่เคย์โตะพลางทำท่าเท่ห์ “ที่ริวไม่กินราเมนก็เพราะว่ามันมีส่วนประกอบของน้ำ และมันก็อาจจะทำให้หกเลอะเสื้อได้ยังไงล่ะ หึ เพราะเสื้อตัวนั้นเป็นตัวโปรดใช่ม้า” ยูโตะคุงชี้นิ้วมาที่เสื้อของผมอย่างมั่นใจ
“เอ๋ อย่างนั้นเหรอแฮมทาโร่” เคย์โตะหันหน้ามาถามผมพร้อมๆกับชี่ เหอะๆ จะเป็นอย่างนั้นไปได้ยังไงกัน
“ก็ใช่น่ะสิ ก็ชั้นเห็นริวใส่เสื้อตัวนี้บ่อยๆนี่นา อะแฮ่ม” ยูโตะคุงเปลี่ยนไปทำท่ากอดอก ไปขุดเอาความมั่นใจมาจากไหนขนาดน้าน
“เปล่าซักหน่อย ก็แค่เสื้อตัวนี้สีมันสวยดีต่างหาก แถมใส่อยู่บ้านก็ได้เที่ยวก็ได้ก็เลยใส่บ่อยเท่านั้นเอง - -”
โครม!!! (เสียงยูโตะคุงเสียการทรงตัว)
“ชั้นก็ว่าอยู่ว่ามันฟังแปลกๆ - -”
“นั่นสิ ยูโตะน่ะเพ้อเจ้อจริงๆไม่น่าหลงไปฟังเลย” ชี่ทำหน้าเอือมแล้วเดินไปทางคนอื่นแทน
“อ้าว เฮ้! ชี่ไหงพูดงั้นอ้ะ!” ยูโตะคุงลุกขึ้นแล้วเดินตามชี่ไป อะไรของเขา คิดจะมาก็มา - -
และก็เหลือผมกับเคย์โตะอีกครั้ง เมื่อพายุพัดผ่านไปอย่างรวดเร็ว (ไรเตอร์ : เร็วจริงๆสรุปอิโตะมันมาทำไร?)
“ชั้นก็ยังคิดๆอยู่ว่าแฮมทาโร่ชอบเสื้อตัวนี้เหรอ” เคย์โตะสำรวจเครื่องแต่งกายผม
“เหอะ เชื่อก็บ้าแล้ว ชั้นไม่ได้ชอบตัวไหนเป็นพิเศษหรอก เฉยๆนะ ใส่ได้หมดแหละ” ผมหยักไหล่
“งั้นเหรอ งั้นสงสัยชั้นคงต้องไปซื้อเสื้อซักตัวให้แฮมทาโร่แล้วล่ะ” เคย์โตะพูดขณะกำลังก้มลงไปหยิบกระเป๋าสตางค์ที่อยู่บนโซฟา
“เอ๋? ทำไมเหรอ”
“ก็เพราะว่ามันจะได้เป็นเสื้อตัวโปรด ตัวสำคัญที่แฮมทาโร่ไม่อยากทำเปื้อนไง ฟอด~” ไอ้เม่น (อีกและ) พูดจบก็ก้มลงมาหอมแก้มผม >///< ไอ้บ้า หลงตัวเอง เอ๊ย ไม่ใช่ นี่มันห้องซ้อมนะ!
“ฮิ้วววว เจ้าเม่นอังกฤษทำอะไรแฮมแฮมน้ะ~!!!” เสียงฮิคารุคุงดังมาจากฝั่งตรงข้าม
“ฮิ้วววววว คาตาเลยน๊า” ตามด้วยเสียงต่างๆนาๆของคนที่เหลือ
>/////<!
“ตะ ตาฝาดน่า!” ผมแก้ตัว ทั้งๆที่ก็รู้ว่าฟังไม่ขึ้น
ส่วนไอเม่นน่ะเหรอ ยืนยิ้มเกาหัวแกรกๆอยู่ข้างๆผมเนี่ยแหละ บ้า ตัวเองก็เขินแล้วทำทำไมเล่า ><
เหมือนเคย์โตะรู้ว่าผมคิดอะไรอยู่ มันเลยพูดขึ้นมาเบาๆชนิดที่ว่าได้ยินกันแค่สองคนว่า…
“ก็แฮมทาโร่น่ารัก ก็เลยอยากหอมก็แค่นั้นแหละ”
O////O!
“ทะลึ่ง!” ผมด่ามันไปรอบนึง แล้วก็เดินไปหาคนอื่น ไอ้นี่นิ ชอบพูดแบบนี้อีกแล้ว ผมมันน่ารักมากเลยหรือยังไงกัน น่ารักมากเหรอหรอฮะ o.o?
“แหม อะไรทะลึ่งหรอแฮมทาโร่~” ยามะจังกระทุ้งด้านขวาผมเบาๆ แล้วทำเสียงเลียนแบบเคย์โตะ ทำเอาผมเขินไปหมดทั้งตัว
“ก็แฮมทาโร่ ตัวหอมนี่นา~” ไดจังประกบด้านซ้ายผมอย่างแนบแน่น? แล้วก็แกล้งทำเสียงแบบเคย์โตะเหมือนกับยามะจัง
อ๊ากกก ให้ตายสิสองคนนี้เนี่ย!!!
ฮิ้วๆๆๆๆๆๆๆๆ
พอที >//<!!!
“ผมจะไปกินข้าวแล้ว หิว!” ผมรีบตัดบทแล้วเดินหนีออกไปทันที พอปิดประตูห้องผมได้ยินเสียงพวกเขาหัวเราะกันด้วย ไม่ตลกนะ >///< เขินจะตาย คอยดูเหอะ ลงเอยกันหมดเมื่อไหร่ผมจะเอาคืนมั่งคอยดู =3=
ผมเดินเร็วๆไปยืนรอลิฟต์ที่อยู่ห่างจาก ห้องซ้อมของพวกเราไปนิดหน่อย ไม่นานนักคนอื่นๆก็เดินตามกันออกมา พวกเรายืนรอลิฟต์อยู่นานโขเลย มันเป็นอะไรเนี่ย - - ผมว่าผมกดลิฟต์แล้วนะ สงสัยมีคนเรียกไปที่ไกลๆก่อนแหง
ระหว่างรอพวกเราก็ยืนคุยกันถึงเรื่องต่างๆบางคนก็คิดจะกินอะไรดี บางคนก็พูดเรื่องคอนเสิร์ตครั้งก่อน ส่วนผมก็ยืนจ้องตัวเลขบอกชั้นที่หน้าลิฟต์ต่อไป ตอนนั้นเอง…
“ริวทาโร่ มานี่หน่อยสิ” จู่ๆ แมนนาเจอร์ซังก็เดินออกมาจากห้องๆหนึ่งแล้วเรียกผมเข้าไป
“เอ๊ะ ผมหรอ?” เมมเบอร์ทุกคนหันไปมองแมนนาเจอร์ซังเป็นสายตาเดียวกันสลับกับมองผมที่ยืนชี้นิ้วมาที่ตัวเองอยู่
“ใช่ๆ นายนั่นแหละ มานี่หน่อยสิ” เขาเรียกผมอีกครั้งแล้วเดินหายเข้าไปในห้อง จังหวะพอดีกับที่ลิฟต์มาพอดี เฮ้ออ หิวข้าวง่า
“ให้เรารอมั๊ยริวทาโร่” ยาบุคุงถามผม
“ไม่ต้องอ่ะฮะ กินกันไปก่อนเลย เดี๋ยวผมตามลงไปนะ”
“อือ เร็วๆนะ” ทุกคนบอกแล้วก้าวเข้าไปในลิฟต์ เคย์โตะยังคงหยุดนิ่งอยู่กับพี่ ผมเลยพยักหน้าให้เขาบอกให้เขาลงไปพร้อมๆกับทุกคน และประตูลิฟต์ก็ปิดลงอย่างช้าๆ
เฮ้ออออ ซวยชะมัด โดนด่ารึเปล่าเนี่ย - -
“ขออนุญาตครับ อ้าว ชิน” พอเปิดประตูเข้ามาก็เห็นเจ้าชินนั่งอยู่ตรงหน้าแมนนาเจอร์ซัง
“นี่จังเข้ามาช้าจัง” ชินหันมาหาผม
“นายมาทำไรน่ะ” ผมถามตกใจนิดๆแล้วนั่งลงข้างๆมัน
“ก็ถูกเรียกมาเหมือนกันแหละ” งั้นเหรอ แล้วชินเกี่ยวอะไรล่ะ ชินไม่ใช่ JUMP ซักหน่อย
“เอ่อ มีอะไรหรอฮะ เรียกเราสองคนมาน่ะ” พอผมไม่พบคำตอบจากน้องชาย ก็เลยต้องหันไปถามคนเรียกแทน
“อ๋อไม่มีไรหรอกก็คือจะให้….” แล้วแมนนาเจอร์ก็ชี้แจงเหตุผลฮะ เล่นเอานานโขเลยทีเดียว - - เกือบชั่วโมงได้
แง้ พอก่อนที่แมนนาเจอร์ซังจะพูดจบเล็กน้อยผมก็ได้ยินเสียงโวกเวกที่หน้าห้อง คาดว่าเมมเบอร์คนอื่นๆจะกินกัน
จนเสร็จแล้ว - -
.
.
.
“อื้ม เข้าใจแล้วนะ งั้นไปกินข้าวได้ โทษทีที่รั้งตัวไว้นาน” ในที่สุดก็ได้ฤกษ์จบซักที เฮ้อ อะไรนักหนา - - หิวโว้ยยยย
“นี่จังผมหิวแล้ว” เออ เหมือนกันแหละ - -
“ก็กำลังจะลงไปนี่ไงเล่า”
“นี่จังจะไปกินกับผมใช่มั๊ย *o*” ชินถามตาแป๋ว น่ารักตายแหละ จะหาคนเลี้ยงน่ะสิ - -
“ไม่เอา…!!!” ทั้งๆที่ผมแจ้งความจำนงออกไปขนาดนั้นแท้ๆ
“น่าๆ ริวทาโร่ ก็พาน้องไปกินสิ ยังไงคนอื่นๆก็ขึ้นมากันหมดแล้วไม่ใช่หรอ ไปกินกับชินนี่แหละดีแล้ว” แมนนาเจอร์ซังพูดกับผมแถมยังใช้สายตาปรามๆอีก - - อ๊ากกก ซวยชะมัด!
“ครับๆ ไปได้แล้วตัวยุ่ง หิวแล้ว!” ผมพูดจบก็เดินฟืดฟัดเดินออกจากห้องไปเลย
“รอด้วยสิ~~” โอ้ยยยยยย แง ไม่ได้อยู่กับเคย์โตะอีกแล้วอ่า T^T
จบการย้อนความ…
นั่นแหละฮะ คือเหตุการณ์ทั้งหมดที่ผมต้องมานั่งเลี้ยงน้องบ้าอยู่อย่างนี้เนี่ย เอ๊ะ จะถามว่าทำไมไม่มีใครซื้อข้าวขึ้นมาให้เลยอย่างนั้นเหรอ? ผมบอกเค้าเองแหละฮะ อีกอย่างถ้าทุกคนกินเสร็จแล้ว แล้วผมจะให้ผมไปนั่งกินข้าวในขณะที่คนอื่นซ้อมกันอยู่ผมคงกินไม่ลง - -
เซ็งชะมัด~
“นี่จังกำลังคิดว่า เซ็งชะมัดต้องมาเลี้ยงผมใช่มะ” ชินพูด
ผมหันหน้าไปมองมันอย่างตกใจนิดๆ รู้ได้ไงวะ
“รู้ได้ไงอ่ะ”
“หน้ามันฟ้อง อีกอย่างพี่น้องกันนิสัยมันก็เหมือนๆกันแหละน่า - -” เออจริงด้วย เอ๊ะ มันก็นิสัยเหมือนผมหรอ ไม่ยักรู้แฮะ
“งั้นหรอ รู้ก็ดี รีบๆกินแล้วก็ไปทำงานไป๊” ผมโบกมือไล่มัน
“ครับๆๆๆ หงุดหงิดล่ะซี้ไม่ได้อยู่กับพี่เคย์โตะอ่ะ”
ป๊าบ!
อีกซักรอบไอ้น้องตัวดี เสียงดังเขารู้กันหมด >///<
“โอ๊ย! เอาอีกแล้วอ้ะ” ชินยกมือขึ้นกุมหัว ที่ผมตบหัวมันเป็นรอบที่ล้านได้แล้วมั้งเนี่ย
“อย่าพูดเสียงดังสิ แล้วก็ไม่ต้องทำเป็นรู้ดีเลย กินหมดแล้วใช่มั๊ยจะไปไหนก็ไปไป๊”
“ไปก็ได้~ ไปและ วันนี้ผมนอนบ้านเพื่อนนะ บาย”
เออดี ไม่ต้องเจอกันซักคืน จะได้สบายหูสบายตาซักที - -
หลังจากที่ชินไปแล้ว ผมก็แวะเข้าห้องน้ำนิดๆหน่อยๆแล้วเดินกลับห้อง ในห้องน้ำผมได้ยินพวก Jr. ยืนคุยกันอยู่ในห้องน้ำ เจ้าพวกนั้นเห็นผมก็ทักทายเล็กน้อยก่อนจะหันกลับไปคุยกันต่อ
ผมก็จัดการธุระตัวเองไป แต่หูก็ฟังไปด้วย (ผมเปล่านะ ก็ห้องน้ำเล็กนิดเดียวไม่ได้ยินได้ไง)
“นี่คริสมาสต์นะ ชั้นไปเดทกับแฟนที่…ด้วยล่ะ บรรยากาศโคตรดีเลยอ่ะ”
“โหยย ดีนะนายเนี่ย แหม แต่ชั้นก็ไม่น้อยหน้านะเว่ยย”
“ต้องชั้นสิ งี้นะ…”
“โหยจริงดิ้!!!”
เจ้าพวกนั้นเล่านิยายน้ำเน่าวันคริสมาสต์ของตัวเองอย่างสนุกสนานและไม่แคร์สื่อ ดีนะเป็นในบริษัท แถมยังเป็นช่วงเวลาที่ไม่ค่อยมีใครใช้ห้องน้ำโรงอาหารอีก และที่สำคัญนะ ผมอิจฉาจนแทบจะอยู่ทนฟังไม่ได้เลยล่ะ T^T!!!
ผมรีบเดินไปล้างมือ แล้วก็ชิ่งหนีออกมาจากห้องน้ำ และคำสุดท้ายที่ผมได้ยินก่อนจะพ้นธรณีประตู
‘จูบกับแฟนวันนั้น รู้สึกดีจริงๆ’
อ๊ากกกกก จูบ!!!! ผมไม่ได้จูบกับเคย์โตะมาตั้งนานแล้วอ้า T///T! นานจริงๆนะ แบบก็มีแค่จุ๊บนิดๆไม่ก็หอมแก้มเท่านั้นเอง แต่จูบน่ะ…ตั้งแต่กลับจากฮาวายก็ไม่มีอีกเลยล่ะมั้ง เดือนนึงแล้วนะ…
ผมก็โวยวายเสียใจอยู่กับตัวเองแค่ชั้นล่างเท่านั้นแหละ แต่พอขึ้นลิฟต์เข้ามาได้ ผมก็เริ่มสงบลง? ผมก้มหน้านิ่งเม้มริมฝีปากแน่น ผมใช้นิ้วลูบริมฝีปากของตัวเองเบาๆ ผมคิดถึงความอ่อนโยนจากริมฝีปากของเคย์โตะจังเลย…
จู่ๆก็รู้สึกเศร้าขึ้นมากะทันหัน นี่ผมคลั่งจูบรึไงนะ? ไม่ใช่ๆ >< ก็แบบ เป็นเรื่องธรรมดาไม่ใช่เหรอฮะ ที่เราอยากจะจูบกับคนที่เรารักอ่ะ
ติ๊ง
เสียงลิฟต์ดังเตือนสติผมเมื่อลิฟต์เดินทางขึ้นมาส่งจนถึงหมายเลขชั้นที่ผมกดเอาไว้ ผมเดินออกมาสู่ทางเดิน ผมเดินเงียบๆ ทบทวนเรื่องราวต่างๆที่ผ่านมาตลอดปีที่แล้ว
มีอะไรเกิดขึ้นมากมายเลยนะฮะ ตั้งแต่ที่ผมเริ่มสนิทกับเคย์โตะ จนเราสองคนเกิดความรู้สึกอะไรบางอย่างขึ้นมาพร้อมๆกัน ไม่สิ ต้องผมฝ่ายเดียวมากกว่า เพราะเคย์โตะบอกว่าแอบชอบผมมาตั้งนานแล้ว…มาถึงตรงนี้ผมก็ยิ้มออกมา
ต่อมาก็คือ เราสองคนไปเที่ยวสวนสนุกกันครั้งแรก มันไม่ใช่เดทนะฮะ แค่นัดเที่ยวกันเฉย ตอนนั้นเองผมก็เริ่มรู้สึกว่ามีอะไรบางอย่างเปลี่ยนไป จากนั้นไม่นานผมก็เริ่มคิดมาก ฮะๆ ตอนนั้นผมขำตัวเองจัง ถึงขั้นต้องให้ชี่ช่วยเลย และสุดท้ายก็ต้องขอบคุณชี่ เพราะทำให้ผมรู้ใจตัวเอง
ในที่สุดผมก็ตัดสินใจสารภาพรัก และเราก็ได้เป็นแฟนกัน /// ผมจำได้ว่าวันนั้นมีความสุขมาก ถัดมาก็เป็นจูบแรก อา ตอนนั้นผมพูดอะไรออกไปบ้างนะ >///<
ท้ายที่สุดที่ฮาวาย เรามีความทรงจำครั้งแรกด้วยกันที่นั่น ผมไม่นึกจริงๆว่ามันจะเกิดขึ้น ทั้งๆที่เราพึ่งคบกันได้แท้ๆ แถมก่อนหน้านั้นเราก็ทะเลาะกันรุนแรงอีก ไม่นึกเลยจริงๆว่ามันจะจบลงแบบนั้น /// แถมยังมีครั้งที่สองด้วยนะ >////< แต่ก็นั่นแหละทุกความรู้สึก ทุกความทรงจำนั่นเป็นเพราะว่าผมรักเคย์โตะยังไงล่ะ…
ตอนนี้ผมมาถึงหน้าห้องซ้อมแล้ว ผมคิดอะไรบางอย่างไว้ในใจแล้วเปิดประตูเข้าไป
.
.
.
“อ้าว แฮมทาโร่กลับมาแล้วหรอ” คนแรกที่เดินเข้ามาหาคือเคย์โตะ ดูเหมือนว่าเขากำลังซ้อมกีต้าร์อยู่นะ
“อื้ม พาชินไปกินข้าวด้วยน่ะ เลยช้าหน่อย”
คนอื่นที่กำลังทำท่าเดินเข้ามาหาผมด้วยความเป็นห่วงที่ผมหายไปนานก็หยุดชะงักหลังฟังคำตอบผม แล้วก็แยกย้ายกันกลับไปซ้อมของตัวเองต่อ
“อ๋อ งั้นก็นั่งพักก่อนก็ได้ อย่าพึ่งซ้อมเลย เดี๋ยวจุกนะ” เคย์โตะยิ้มให้ผม ผมชอบรอยยิ้มนี้จัง…
“อืออออ” ผมหลับตา ซักแป๊บนึงก็รู้สึกถึงสัมผัสอันอบอุ่นบนหัวผม ดูเหมือนว่าเคย์โตะกำลังลูบหัวผมอยู่นะ
“แฮมทาโร่เป็นอะไรไปเนี่ย” น้ำเสียงเคย์โตะดูเหมือนขำนิดๆ ก่อนที่ผมจะรู้สึกถึงโซฟาด้านข้างยุบตัว เคย์โตะคง
นั่งลงข้างๆผม
“ไม่ได้เป็นอะไร แค่อยาก…เคย์โตะอยู่ใกล้ๆก็แค่นั้นเอง” ผมลืมตาขึ้นมามองหน้าเคย์โตะ เขามองผมแบบตกใจด้วยแหละ
“อะ เอ๋? พูดอะไรน่ะ ก็อยู่ใกล้ๆแล้วนี่ไง” เคย์โตะเริ่มเขิน ^///^
“ก็อยากใกล้อีกนี่…” ผมทำเสียงอ้อนแล้วกระเถิบเข้าไปเบียดเค้า เขาเลิกลั่กใหญ่
“มะ ไม่เอาน่าแฮมทาโร่ คนอื่นก็อยู่นะ” อะไรของเค้า ปกติหน้าด้านจะตายไป
“แต่คนอื่นก็เพื่อนกันหมดไม่ใช่หรอ” ผมก้มหน้า
“อ่ะ เอ่อ มันก็ใช่อ่ะ แล้วแฮมทาโร่จะทำอะไรเหรอ” เคย์โตะถามผม…เอาล่ะนะ ผมว่าไม่จำเป็นต้องอายคนอื่นๆหรอก ใช่มั๊ยฮะ (ไรเตอร์ : ใช่แล้วริวริว อายทำไม เดี๋ยวคนอื่นมันอิจฉาก็ทำตามเองแหละ=..=)
หลังจากผมได้คำแนะนำจากพี่โซลแล้ว (รีดเดอร์ : แน่ใจหรอว่าคำแนะนำ) ผมก็ไม่ค่อยแน่ใจอ่ะฮะ แต่ผมจะทำตามใจตัวเองแล้ว
“เคย์โตะ…ชั้นขออะไรอย่างนึงได้มั๊ย” ผมสบตาเค้า เคย์โตะหยุดมองตาผมนิ่งราวกับไม่อาจละสายตาไปจากผมได้
“ได้สิ…” เขาตอบเสียงอ่อนโยน
“จูบ…ชั้นหน่อยนะ” ผมพูดกับเขาเสียงอ้อน ราวกับจะขอร้องเขา ผมอายนะเนี่ยที่พูดอย่างนี้ หน้าคงแดงด้วยเพราะผมรู้สึกร้อนๆ นี่คงเป็นครั้งที่สองที่ผมขอเขาตรงๆ เคย์โตะดูมีสีหน้าตกใจนิดหน่อย บางทีเขาคงไม่ยอม
หรอก…ผมคิด
แต่กลับกัน เคย์โตะค่อยๆโน้มหน้าลงมาหาผม แล้วแนบริมฝีปากลงเบาๆ ใจผมเต้นรัวเหมือนจูบครั้งแรก เคย์โตะขยับริมฝีปากเบาๆหนึ่งครั้งราวกับกำลังจะบอกให้ผมหลับตา ผมทำตาม…
ลมหายใจอุ่นๆ รดลงบนใบหน้าของผม ผมขยับตัวให้อยู่ในท่าที่ถนัดขึ้น ในขณะที่เคย์โตะใช้มือของเขาลูบไปหน้าของผมเบาๆ
เสียงของอะไรบางอย่างหล่นลงพื้น ผมคิดว่าน่าจะเป็นของเล่นที่ผมเห็นยามะจังกำลังถืออยู่ตอนที่ผมเปิดประตูเข้ามาในห้อง เขาคงตกใจที่เห็นผมกล้าจูบกับเคย์โตะในห้องขนาดนี้ คนอื่นๆก็คงเหมือนกัน…
ภายในห้องเงียบมากราวกับตกอยู่ในความฝัน ผมรู้สึกตัวล่องลอยเมื่อเคย์โตะสอดลิ้นนิ่มเข้ามา ความทรงจำต่างๆในปีที่แล้วไหลผ่านมา ราวกับเคย์โตะจะส่งผ่านความรู้สึกของเขาออกมาให้ผม ความรู้สึกโหยหาในตอนแรก ทำให้ผมเป็นฝ่ายเร่งจังหวะของมัน มือที่ปล่อยทิ้งข้างลำตัวถูกยกขึ้นมาคล้องรอบคอตามสัญชาตญาณและจังหวะที่พาไป
มือของเคย์โตะที่ตอนแลกลูบหน้าผมอยู่จนจั๊กกะจี้ เริ่มเคลื่อนไปที่ท้ายทอยของผมแล้วประคองมันเชิดขึ้นมาให้แนบแน่นไปกับริมฝีปากของเราที่ประกบกันอยู่ให้มากขึ้น
ความรู้สึกต่างๆส่งผ่านให้กันจนล้นออกมา ผมเผลอครางอยู่ในลำคอจนเกิดเสียง ภายในห้องยังคงดูเงียบราวไม่มีใครหายใจ จนผมคิดว่าอื่นอาจจะได้ยินเสียงนี้
เราจูบกันนานและร้อนแรง แต่น่าแปลกที่ผมไม่อยากหยุดทั้งๆที่ผมเหนื่อยแทบขาดใจ เคย์โตะเองก็ดูเหมือนจะไม่อยากผละออกจากผมเหมือนกันผมรู้สึกได้…จากจูบนี้
แต่ไม่กี่อึดใจ เราสองคนก็ค่อยๆพละออกจากกันอย่างพร้อมใจ ผมหอบแฮ่ก พลางยกแขนขึ้นมาเช็ดบริเวณรอบปากอย่างอายๆ หน้าของผมยังคงร้อนและแดงอยู่ ไม่ต่างกับริมฝีปากของตัวเองที่ผมเห็นสะท้อนในกระจก
เคย์โตะนั่งหอบนิ่งๆอยู่ข้างๆผม ก่อนที่เขาจะยิ้มออกมานิดๆอย่างอ่อนโยนตามแบบฉบับของเขา ผมยิ้มตอบจากนั้นผมจึงค่อยเริ่มรู้สึกว่า บรรยากาศภายในห้องเริ่มเดินอีกครั้ง
“พะ พวกนาย” เสียงอันสั่นเครือของยาบุคุงดังขึ้น
“ทำอะไรกันเนี่ยยย ไม่เกรงใจกันเลยรึไง >///<” ฮิคารุคุงใช้คำพูดเหมือนจะดุแต่ไม่ใช่
“แหมมมม ร้อนแรงกันจริงจริงเลยน้า” ชี่แซวผมโดยมีทาคาคิคุงยืนค้างอยู่ข้างๆ
“ยามะจัง! ชั้นลืมหายใจไปเลยอ่ะ!”
“ชั้นก็เหมือนไดจังแหละ! ร้อนนชะมัดเลย~!”
“เคย์โตะ นายมันเจ๋งว่ะ!” ยูโตะคุงยืนยกนิ้วให้ เคย์โตะเกาหัวเขินใหญ่
“ความร้อนแรงที่เผลาผลาญจิตวิญญาณของหนุ่มสาว~ อืมมม อย่างนี้สินะ” ส่วนอิโนะจัง เขาพูดอะไรฮะ
>///< แต่ช่างมันเหอะ
ให้ตายสิ ผมทำอย่างนี้ต่อหน้าทุกคนไปได้ยังไงกันนะ >////< แต่ช่วยไม่ได้นี่ ก็มันทำไปแล้วนี่นา~~ (ไรเตอร์ : Good job! (ยกนิ้ว เลือดกำเดาไหลพรวดๆ) )
ผมหันไปหาเคย์โตะอีกครั้ง เคย์โตะสบตาผมเขินๆแล้วพูดว่า…
“อันที่จริงชั้นก็ว่าขอแฮมทาโร่อยู่เลยล่ะ…”
>/////< เราใจตรงกันหรอเนี่ยยย รักเคย์โตะที่สุดเลย~
“อื้ม!”
และการซ้อมวันนั้นก็จบลงอย่างร้อนแรงฮะ ^^ ในที่สุดความรู้สึกต่างๆที่คาใจก็ถูกกำจัดไปด้วยจูบของคนที่ผมรัก เอาล่ะ ปีนี้เรามาสานความรักของเรากันต่อไปนะ…เม่น~
--------------------------------------------------------------------------------------------
HAPPY OKARYU YEAR!!! โฮะๆๆ ปีนี้ปีโอคาริวทองล่ะ สำนักข่าวโซลจงเจริญ ฟันธง!
สวัสดีปีใหม่อีกครั้งนะจ๊า โซลมาอัพช้ามากอ่ะ =3= สำนึกผิด ฮ่าๆ (แน่ใจ๊?) ว่าจะแต่งคริสมาสต์ก็ไม่ได้แต่ง ปีใหม่ก็ไม่ แงๆ T^T ผิดไปแล้ว~ ปีนี้เรามาเริ่มกันใหม่น้า เอาล่ะพี่น้องชาวโอคาริวทั้งหลาย มาร่วมกันทำให้ปีแห่งโอคาริวนี้ จงเจริญยิ่งๆขึ้นไปเถิด สาธุ! วะฮ่าฮ่าๆ!!!!
ประกาศนะจ๊ะ
The special case ไดยามะเรียลลิตี้!! อัพไปแล้วนะจ๊ะ ฝากเข้าไปด้วยน้าhttp://writer.dek-d.com/zaol-chan/writer/view.php?id=664147
Love tasty in dormitory ~รักวุ่นๆฉบับเด็กหอ~ ที่แต่งกับวีนัสก็อัพแล้วน้า >3<(นานมากก)
http://writer.dek-d.com/zaol-chan/writer/view.php?id=620276
สุดท้ายนี้ ไดอารี่ของยามะจัง จะทำเป็นเล่มแล้ว ใครอยากได้ก็เข้าไปสั่งจองกันได้ในหน้าฟิคไดอารี่ของยามะจังนะจ๊า (ช่วยกันทำมาหากิน?) โซลไม่ได้ส่วนแบ่งหรอกนะ ฮ่าๆๆๆ ถ้าใครไม่มีลิ้งค์หรือไม่เคยอ่านสามารถเข้าไปเอาลิ้งค์ที่แบรนเนอร์ ใน ฟิค เด็กหอได้นะจ๊า~
ความคิดเห็น