คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #83 : [SF HANYE]I WILL
Pairing: HANGENG x YESUNG
Author: SaRa_PAO
Rating:PG
Note:ถ้าจะให้ดีฟังเพลงนี้ไปด้วยอ่านไปด้วยจะได้อารมณ์มากขึ้น(ไม่ใช่อันของวาเลนไทน์นะ)
在你的懷中 愛你疼你呼吸都停止燃燒
(ในอ้อมกอดของคุณ ความรัก ความเอาใจใส่ ลมหายใจของคุณมันคงที่)
承載著甜蜜的夢隻想和你 飛翔到永遠
(ซ่อนปีกใต้ความฝันอันแสนหวานนี้แล้วบินไปกับคุณตลอดกาล)
輕輕說愛你 你是我無悔 追隨的方向
(พูดคำว่า ฉันรักคุณ อย่างเบาๆ คุณคือทิศทางที่ฉันกำลังจะไป)
Baby you'll (be) last forever my love
(ที่รัก คุณคือรักอันเป็นนิรันดรของฉัน)
ณ งาน ‘SM TOWN LIVE IN BANGKOK 2009’
เสียงกรี๊ดของเหล่าแฟนคลับไม่ว่าจะของTVXQ,SNSD,SHINEE,ZHANG LI YINและแม้แต่ของพวกเขาเอง
‘SUPER JUNIOR’
“โอ๊ยๆๆๆผมตื่นเต้นจังเลยฮะ”เสียงของเรียวอุคดังขึ้นเบาๆกับทงเฮที่มายืนคร่อมคนตัวเล็กอยู่ข้างหลัง ทั้งคู่กำลังมองเหล่าแฟนคลับของพวกเขาที่กำลังโบกลูกโป่งสี’Sapphire Blue’ให้กับพวกเขาอยู่
“ไม่ต้องตื่นเต้นหรอกน่าเรียวจัง”
อีทึก หัวหน้าวงตาสวยเดินมาหาน้องเกือบเล็กของวงแล้วหยิกแก้มเบาๆจนทงเฮมองค้อนตาขวางใส่
“พี่ฮะ อย่าเล่นแบบนี้สิผมหึงนะ”
ทงเฮพูดออกมาตรงๆทำเอาคนโดนหึงน่าแดงลามไปถึงใบหู
“พี่เยซองครับ”
คนร่างบางเงยหน้าขึ้นไปมองคนเรียกก่อนที่จะยิ้มออกมาบางๆ
“ว่าไง”
“สู้ๆนะฮะ”
เฮนรี่นั่นเองที่เดินมาทักเขา ซึ่งเยซองก็เพียงแค่ยิ้มตอบไปตอนนี้เขาไม่มีอารมณ์จะพูดกับใครทั้งนั้นสายตาเอาแต่จ้องมองไปยังแผ่นหลังแกร่งของคนตัวสูงที่ไม่มาสนใจเขาเลยตั้งแต่มาถึงเมืองไทยนี่
“ทะเลาะกับพี่ฮันหรือไง”
คังอินนั่นเองที่กระซิบข้างหูเขาเบาๆให้ได้ยินเพียงแค่สองคน
“เปล่า”คนร่างบางตอบกลับไปเบาๆก่อนจะลุกขึ้นยืนแล้วเดินออกไป
“เยซองอ่า”
ยังไม่ทันที่เขาจะเดินพ้นประตูมือเรียวของพี่ชายที่เขารักและนับถือที่สุดก็ยื่นมาจับก่อนที่จะดึงเขาให้เข้าไปหา
“มีอะไรหรือครับ พี่ฮีชอล”
เยซองหลุบตาลงต่ำเขาไม่กล้าแม้แต่จะมองใบหน้าของฮีชอลที่ยิ้มอย่างมีความสุข
“เยซองเป็นอะไรไปน่ะหืม?”
ฮีชอลที่เห็นว่าคนตัวบางข้างๆเงียบผิดปกติก็ถามขึ้นมาเบาๆแล้วยกมือขึ้นแตะหน้าผากมนเบาๆ
“ตัวก็ไม่ร้อนนี่”
“เปล่าหรอกครับ ผมไม่ได้เป็นอะไร”
เยซองตอบกลับเสียงเบาแล้วหลบมือของฮีชอลที่กำลังจะยื่นมาแตะหน้าผากอีกครั้ง
“แล้วพี่มีอะไรกับผมหรือเปล่าครับ”
“อ๋อ..เปล่าๆหรอกก็แค่เห็นวันนี้หมาบ้าไม่ยอมพูดเลยรู้สึกแปลกๆไง”
เยซองได้แต่ยิ้มแห้งๆไปให้ก่อนจะแกะมือของฮีชอลออกเบาๆเมื่อเห็นว่ามีใครอีกคนกำลังเดินมาทางเขา
“ผมขอตัวก่อนละกันนะครับ”
เยซองไม่รอให้ฮีชอลอนุญาตเดินออกไปทันที เขาไม่อยากอยู่ดูภาพบาดตาบาดใจระหว่างฮันกยองกับฮีชอล
“เฮ้อ”
เยซองเดินออกมาจากห้องพักของพวกเขาแล้วเดินไปเรื่อยๆมองดูเหล่าทีมงานที่กำลังจัดเตรียมคิวการออกแสดง ทุกคนคงวุ่นวายน่าดู
“พี่เยซองครับ”
เยซองหันไปตามเสียงเรียกพางคิดในใจทำไมวันนี้ถึงมีแต่คนเรียกชื่อของเขากันจัง
“หืม?”
เยซองมองมินโฮที่วิ่งหน้าตั้ง หายใจหอบมาทางเขา
“พี่อ่ะเป็นอะไรไปน่ะฮะ”
“เปล่านี่”
“แต่พี่ไม่ค่อยยิ้มเลย มีอะไรหรือเปล่าฮะ”
เยองเพียงแค่ยิ้มให้มินโฮเหมือนกับเฮนรี่แล้วเดินเลี่ยงไป แต่โดนคนตัวสูงจับข้อมือเอาไว้
“ปล่อยพี่”
“ถ้าพี่ไม่บอกผมก็ไม่ปล่อย พี่โกรธหรือฮะที่ผมกอดพี่”
เยซองเงียบให้เป็นคำตอบแล้วหมุนข้อมือของตนหวังให้มันหลุดออกจากมือหนาของอีกคน แต่ทำยังไงมันก็ไม่มีทางที่จะหลุดได้เลย
“หรือพี่โกรธที่พี่ชางมินกอดพี่ครับ”
“เปล่าฉันไม่ได้เป็นอะไรไม่ได้ยินหรือไง!!!”
ในที่สุดความอดทนของเยซองก็หมดลง เขาสะบัดมือของมินโฮให้หลุดแล้ววิ่งจากไปทันทีเขาไม่อยากให้รุ่นน้องที่ให้ความเคารพเขาต้องมาเห็นน้ำตาแสดงความอ่อนแอของเขาต่อหน้าแบบนี้
“ไอ้คนบ้า”
เยซองมาหยุดยืนอยู่ที่มุมหนึ่งของหน้าห้องพักเหล่าทีมงาน น้ำตาของเขามันไหลลงมาอย่างไม่อาจอดกลั้นได้อีกต่อไปมือเล็กยกขึ้นเช็ดเบาๆใต้ดวงตาไล่ให้น้ำแห่งความเศร้าโศกออกไปจากดวงตาของเขา
“แฮ่กๆผม..ว่าแล้ว แฮ่ก ว่าพี่ต้องร้องไห้”
มินโฮที่วิ่งตามคนตัวเล็กมาพูดเบาๆเอามือเกาะไว้ที่เขาช่วยยึดแล้วหอบหายใจ สายตาเหลือบมองร่างบางที่สะดุ้งเพราะไม่นึกว่าเขาจะตามหาจนเจอ
“มาทำอะไร ฮึก”เสียงสะอื้นเบาๆดังลอดออกมาพร้อมคำพูดของร่างบาง
“มีอะไรก็ระบายออกมาเถอะครับ”
มินโฮเดินเข้ามาหาเยซองก่อนที่จะดึงคนร่างบางเข้ามากอดแล้วลูบกลุ่มผมสีน้ำตาลของคนตัวเล็กเบาๆ เขาว่ากันว่าถ้ามีคนมาปลอบตอนเราร้องไห้มันจะยิ่งร้องกันไปใหญ่ ซึ่งเยซองคิดว่ามันก็คือเรื่องจริงเพราะตอนนี้เขาร้องไห้ออกมาไม่หยุดเมคอัพที่สไตล์ลิสแต่งเอาไว้หลุดออกมาจนเกือบหมดเปรอะเปื้อนเสื้อเจ้าของอ้อมกอด
“ฮึก..ถ้าเขามีคนที่รักอยู่แล้ว ฮึกแล้วจะมาให้ความหวังฉันทำไม ฮือๆ”
“ใครหรือครับ”
“คนบ้า คนนิสัยไม่ดี คน...”
มินโฮกอดร่างบางแน่นขึ้น มือที่ของเยซองที่กำเข้าหากันแน่นกอดคนตัวสูงเอาไว้แล้วร้องไห้ออกมาอย่างไม่ปิดบัง
“พี่ร้องออกมาเถอะครับ ผมจะไม่ถามอะไรพี่อีกแล้ว”
เยซองร้องไห้ออกมามากจนมินโฮกลัวว่าคนตัวเล็กจะตาบวมออกไปแสดงคอนเสิร์ตไม่ได้
“เยซอง..นายมันก็แค่คนหลายใจ”
ฮันกยองกำมือเข้าหากันแน่นก่อนที่จะค่อยๆเดินออกจากตรงนั้นไปช้าๆ
ในที่สุดพวกเขาทั้งหมดก็ขึ้นไปแสดงเพลงของพวกเขาโดยเพลงแรกที่พวกเขาต้องร้องคือเพลง’U’
โดยตลอดการแสดงเยซองก็คอยเหลือบมองฮันกยองเป็นระยะๆแต่พอคนตัวสูงมองมาเขาก็หลบตาลงแล้วเต้นต่อไปตามจังหวะของเพลงไม่นานเพลงแรกก็จบลง พวกเขาทั้งหมดเดินลงจากเวทีให้TVXQขึ้นแสดงต่อทันที
“เยซอง”
เยซองรีบเดินลงมาจากเวทีด้วยความเร็วจนเกือบตกบันไดดีที่ได้อีทึกมาจับตัวของเขาเอาไว้
“ขอบคุณฮะ”
เยซองพูดเบาๆแล้วรีบเดินออกไปจากที่นั่นทันทีเพราะฮันกยองและฮีชอลกำลังเดินคุยกันลงมา
“เยซองเป็นอะไร”
ฮันกยองที่พอเดินลงมาเห็นหน้าของร่างบางที่เหลือบมองเขาเพียงเล็กน้อยก่อนที่จะเดินไปถามอีทึก
“ไม่รู้แฮะแต่วันนี้ไม่ค่อยสดชื่นเลย”อีทึกตอบตามที่เขาคิดก่อนที่จะขอตัวเดินตามคังอินไป
“ฮัน..ไปดูน้องหน่อยไป”ฮีชอลพูดเบาๆแล้วสะกิดแขนแกร่งเป็นเชิงบอก
“ไม่ต้องหรอก ไม่จำเป็นสักนิดเพราะเขาคงมีคนดูแลอยู่แล้วและคงจะมากกว่าที่นายคิดด้วยซ้ำ”
ฮันกยองพูดเชิงประชดออกไป
“แล้วนายล่ะหืม?”
“อะไร”
“มีคนดูแลหรือยัง”
“รออยู่น่ะ”
ฮีชอลยิ้มอายจนฮันกยองรู้สึกหมันไส้เลยหยิกแก้มเนียนเข้าให้ก่อนที่จะโดนฮีชอลวิ่งไล่เตะไปทั่วทั้งด้านล่างของเวที
‘นั่นสินะฮะ มันคงไม่จำเป็น’
เยซองค่อยๆเดินออกจากที่ซ่อนแล้วหันหลังวิ่งกลับไปที่ห้องพักของพวก’Shinee’ทันที
“พี่เย...”
“มินโฮ”
เยซองไม่ได้พูดอะไรต่อวิ่งเข้าไปกอดมินโฮเต็มแรงก่อนที่จะร้องไห้ออกมา ความเจ็บปวดในใจที่มีมากทำให้เขารู้สึกอ่อนแอและอ่อนแอมากกว่าที่จะต่อสู้ได้อีกต่อไป
“ไปกันเถอะ”
อนยูซึ่งรู้หน้าที่ดีเดินนำหน้าพวกน้องๆที่เหลือออกไปข้างนอก ตอนนี้ในห้องเหลือแต่มินโฮและเยซองเพียงสองคน
เยซองค่อยๆคลายอ้อมกอดของตัวเองออกแล้วเงยหน้าขึ้นสบตาของมินโฮที่มองลงมาเช่นกัน
“พี่ควรจะเล่าให้ผมฟัง...นะครับ”
คำพูดของมินโฮคล้ายออกคำสั่งแต่เยซองรู้ดีว่าถ้าเขายังไม่พร้อมมินโฮก็เต็มใจที่จะไม่ตื๊อต่อ
“พี่แอบรักคนๆหนึ่งอยู่”
“เขาคนนั้นคือพี่ฮันกยองใช่มั๊ยครับ”
เยซองเงยหน้าขึ้นมองมินโฮอย่างตกใจเพราะเรื่องนี้นอกจากเฮนรี่ที่บังเอิญเดินเข้ามาเห็นตอนเขาเขียนลงไดอารี่แล้วก็ไม่มีใครอีกที่รู้ แล้วมินโฮรู้ได้ยังไง
“ฮึก..ทำไมนาย ฮึกฮือ ถึงรู้ได้ล่ะ”
“เพราะสัญชาตญาณล่ะมั้งครับ”
มินโฮพูดเบาๆก่อนที่จะยกมือขึ้นเช็ดน้ำตาของคนตัวเล็กในอ้อมแขนเบาๆ รอยยิ้มอ่อนโยนประดับอยู่บนใบหน้าของมินโฮตลอดเวลาที่เยซองได้อยู่ใกล้เขา
“เล่าต่อเถอะฮะ”
“แต่ฉันรู้ว่ามันไม่มีทางเป็นไปได้ เพราะว่าเขามีคนที่เขารักอยู่แล้ว”
“นั่นก็คือพี่ฮีชอล”
เยซองเงยหน้าขึ้นมองมินโฮอีกครั้งก่อนที่จะก้มหน้าลงแล้วพยักหน้าเบาๆ
“เขาไม่เคยสนใจฉันเลยเขาไม่เคยแม้แต่จะหันมามองหน้าของฉัน”
มินโฮได้แต่ส่งยิ้มอย่างเข้าใจไปให้เยซองอย่างเข้าใจมือหนายกลูบกลุ่มผมนิ่มสีน้ำตาลอ่อนเบาๆ
ปั้ง!!!
“เยซอง!!!!”
เสียงเหมือนประตูโดนถีบกระเด็นทำให้คนทั้งสองสะดุ้งก่อนจะหันหน้าไปมองทางเดียวกันแล้วได้แต่ตาโตด้วยความตกใจ
“เรามีเรื่องต้องคุยกันยาว”
“ปล่อยนะ ปล่อย...”
ฮันกยองเดินไปกระชากตัวของเยซองออกมาจากมินโฮแล้วยกมือข้างหนึ่งปิดปากของร่างบางเอาไว้
“พี่ฮันกยองครับ”
“ไม่เกี่ยวกับนายมันคือเรื่องของเราทั้งคู่ อย่า-มา-ยุ่ง”
ฮันกยองเน้นชัดทุกถ้อยคำ มินโฮได้แต่ชะงักและปล่อยให้ร่างบางโดนลากไปอย่างช่วยอะไรไม่ได้
“ขอให้เคลียอย่างสงบนะครับ”
เขาพูดตามหลังทั้งคู่ไปเบาๆ
“ปล่อยผมนะ”
“ได้ให้ปล่อยนักใช่มั๊ย”
โครม!!
“โอ๊ย!!”
เยซองร้องออกมาด้วยความเจ็บปวดที่ข้อมือและแขนขวาของตัวเอง ใบหน้าหวานเงยขึ้นสบสายตาเย็นชาที่ฮันกยองส่งมาให้
“พี่เป็นบ้าอะไรของพี่น่ะ”
“อยากรู้นักใช่มั๊ย”
ฮันกยองค่อยๆก้าวเข้ามาหาเยซองช้าๆโดยไม่ลืมล็อคกลอนประตูห้องของทีมงานที่ตอนนี้คงวุ่นอยู่กับการจัดคิว
“พี่จะทำอะไร”
“หึๆ”
ฮันกยองหัวเราะเจ้าเล่ห์ก่อนจะเดินเข้ามาหาร่างบางช้าๆ เยซองได้แต่ขยับถอยหนีห่างแต่เพราะมีเก้าอี้ล้มอยู่ด้านหลังเพราะแรงกระแทกของเขาที่โดนฮันกยองผลักมาทำให้หมดทางหนี
“ปล่อยผมไปเถอะฮะ”
“ปล่อยงั้นเหรอ”
“ฮึก ปล่อยผมเถอะนะฮะ ฮือ”
เยซองร้องไห้ออกมาเขาพยายามถอยหนีให้ห่างออกจากฮันกยองให้มากที่สุดแต่ตอนนี้ฮันกยองเดินมาถึงตัวของเขาแล้ว
“ให้หนียังไงก็ไม่พ้นแล้ว”
ฮันกยองพูดเสียงดังก่อนที่จะกระชากขาของร่างบางให้เข้ามาหาเขาแล้วนั่งคร่อมลงไปบนตัวของร่างบางทันที
“ไม่ อย่าทำผม”
เยซองร้องไห้ออกมามากกว่าเดิม มือเล็กยกขึ้นปัดป่ายไปทั่ว
“ผม...”
ฮันกยองจับมือเล็กเอาไว้ก่อนที่จะก้มหน้าลงมาใกล้แล้วประกบริมฝีปากลงไปบนริมฝีปากเรียวสวยอวบอิ่ม เยซองที่ไม่ได้ตั้งตัวก็ตาโตด้วยความตกใจมือเล็กพยายามดิ้นให้หลุดจากการจับกุมแต่ยิ่งดิ้นฮันกยองกับยิ่งบีบมากขึ้นจนเขาเจ็บไปหมด เรียวลิ้นร้อนตะหวัดเข้ามาเกี่ยวกับลิ้นของเขา
จากรสจูบที่ร้อนแรงค่อยๆกลายเป็นสัมผัสที่อ่อนโยนและมันทำให้เขากำลังจะละลายมือมันดูไร้เรี่ยวแรงไปหมดมือที่เคยกำเข้าหากันค่อยๆคลายออกมา
ฮันกยองค่อยๆปล่อยมือของร่างบางออกแล้วกดตัวของร่างบางให้แนบลงไปบนพื้นห้อง
“อื้ม”
เยซองครางประท้วงออกมาเบาๆในลำคอ มือเล็กยกขึ้นทุบไปที่แผงอกกว้างก่อนที่ฮันกยองจะค่อยๆถอนริมฝีปากออกมา
“หยุดเถอะฮะ ได้โปรด”
เยซองร้องขอออกมาเมื่อฮันกยองกำลังจะก้มหน้าลงมาสูดดมความหอมที่ซอกคอของเขา
“ทำไมล่ะ”
“ผม..ผมไม่อยากให้อะไรมันเลยเถิดไปมากกว่านี้”
“เพราะอะไรล่ะ”
“ผมไม่อยากเห็นพี่ฮีชอลเจ็บปวด”
“...”
“พี่กับพี่ฮีชอลรักกันแล้วทำไมผมจะต้องไปแทนที่พี่เขาด้วย”
“นายพูดบ้าอะไรของนายเนี่ยฮะ?”
“ถ้าพี่ไม่รักผมอย่างที่ผมรักพี่ ก็อย่าให้ความหวังกันแบบนี้สิครับ”
เยซองระบายออกมา ริมฝีปากที่ผ่านการจูบมาหมาดๆสั่นระริกรวมไปถึงตัวของร่างบางด้วย
ฮันกยองอึ้งไปในตอนแรกก่อนที่จะยิ้มออกมาบางๆกับคำบอกรักของร่างบางที่ออกแนวน้อยใจปนมาด้วย
“นี่นาย...ฮ่าๆๆบ้าจริงๆ”
ฮันกยองหัวเราะออกมาเบาๆก่อนจะช้อนหลังร่างบางขึ้นมาแล้วมอบอ้อมกอดที่แสนอบอุ่นให้
“พี่ฮึก หัวเราะอะไร”
“หัวเราะนายไงล่ะ ไอ้ซาลาเปาจอมบื้อ”
“พี่ฮึก อย่ามาว่าฮึกฮือ ผมนะ”
เยซองค้อนฮันกยองเข้าให้ฮันกยองได้แต่อมยิ้มแล้วปล่อยร่างบางออกจากอ้อมแขนของตน
“พี่ก็รู้สึกแบบเดียวกับนายนั่นแหละ”
“...”
“พี่ก็รักนายไง ไอ้ซาลาเปาจอมบื้อ”
เยซองมองฮันกยองอย่างไม่เชื่อในคำพูดเท่าไหร่นัก แต่เขาก็ยิ้มออกมาบางๆแล้วหลบหน้าหนีสันจมูกโด่งที่กำลังจะประทับลงมาบนแก้มป่องๆของเขา
“อย่าทำแบบนี้สิครับ”
“ไม่คิดจะให้พี่หอกหน่อยเหรอ”
“อย่ามาทำเรื่องน่าอายแบบนี้นะ”
เยซองพูดเบาๆแล้วนึกไปถึงเรื่องเมื่อกี้ที่เขาและฮันกยองเพิ่งจะจูบกันไปหมาดๆ
“เรื่องน่าอาย?”
“...”
“ทีกับพี่อ่ะนายเห็นเป็นเรื่องน่าอายแล้วกับคนอื่นๆล่ะ นายไม่อายหรือไง”
“อะไรของพี่เนี่ย”ฮันกยองปล่อยตัวของเยซองออกแล้วลุกขึ้นยืนก่อนจะเดินออกไปจากห้องทิ้งให้คนตัวเล็กนอนนิ่งอยู่บนพื้น
“พี่ฮันฮะ”เยซองที่วิ่งตามหลังร่างสูงมาเรียกร่างสูงเบาๆก่อนที่จะไปเดินข้างๆแล้วจับมือร่างสูงขึ้นมากุมไว้
“พี่โกรธผมจริงๆน่ะเหรอ”
“มันไม่น่าโกรธเหรอ”
“แต่ผมกับพี่เราไม่ได้เป็นอะไรกันนี่”
คำพูดของเยซองทำเอาฮันกยองสะอึกคนตัวสูงหยุดเดินแล้วหันกลับมามองร่างบางตาขวาง
“งั้นเหรอ”
“พะ..พี่ฮันครับ”
“งั้น..เยซองครับ เป็นแฟนกับพี่นะ”
คำขอที่รวดเร็วเกินไปจนเยซองตั้งตัวไม่ทัน แต่พอสติกลับมาจนครบเขาก็ยิ้มออกมา แก้มป่องๆขึ้นสีแดงระเรื่อจนมันน่าจะเอาสันจมูกกระแทกลงไปแรงๆสักทีสองที
“พี่ฮั....”เยซองไม่ทันจะห้ามฮันกยองก็ก้มลงมาเก็บความหอมหวานจากปากของร่างบางอีกครั้ง รสสัมผัสที่ได้รับไม่ได้แตกต่างไปจากเหตุการณ์เมื่อครู่เลยสักนิดเดียวเพียงแต่คราวนี้มันเพิ่มความร้อนแรงเข้ามาด้วย
“อื้ม~”เยซองครางออกมาเบาๆเมื่อตัวของเขากำลังจะหมดลมหายใจลง
ฮันกยองค่อยๆถอนริมฝีปากออกมาแล้วยิ้มกระหย่องอย่างได้ชัย
“พี่บ้า คนหื่น”เยซองพูดแค่นี้ก็เดินออกไปทันทีทิ้งให้ฮันกยองยืนมองตามแผ่นหลังของร่างบางไปแล้วได้แต่ขำออกมาเบาๆ
‘น่ารักจริงๆ’
ตลอดงานที่เหลือฮันกยองและเยซองมักจะเหลือบมองกันตลอดการแสดงไม่ว่าจะเป็นเพลงTwins,A man in loveหรือDon’ don ทั้งคู่มักจะส่งสายตาและยิ้มให้กันตลอดเวลาจนคนในวงต่างงงไปตามๆกัน
“นี่พี่เขาสองคนมีอะไรกันหรือเปล่า”
ทันทีที่เข้ามาในห้องพักคยูฮยอนก็เปิดโอกาสถามในทันที ซึ่งทุกคนก็ได้แต่สายหน้าช้า ๆ
“พี่ฮีชอล พี่ต้องรู้เรื่องอะไรแน่ๆเลย”
ฮีชอลส่ายหน้าไปมาเร็วๆแล้วหันไปมองทางฮันกยองที่กำลังเดินเข้ามากับเยซอง
“พวกนาย..มาช่วยอธิบายเรื่องราวทั้งหมดที”
ฮันกยองมองเยซองเล็กน้อยก่อนที่จะยิ้มแป้นออกมาหน้าบานจนคนอื่นๆอิจฉา
“ผมกับเยซองเราเป็นแฟนกันแล้วครับ”
แค่ประโยคเดียวทำเอาคนอื่นๆอึ้งไปตามๆกัน สมาชิกที่เหลือต่างมองหน้ากันไปมา
“ตั้งแต่ตอนไหนเนี่ย”
“เมื่อไม่นานมานี้เองครับ”
ทุกคนพร้อมใจมองหน้ากันไปมาอีกครั้ง ซึ่งฮันกยองไม่สนใจลากคนตัวเล็กที่หลบเข้าไปแอบอยู่ข้างหลังเขาแล้วเดินไปนั่งลงบนโซฟาใน แขนแกร่งถือโอกาสโอบไหล่เล็กให้พิงลงมาบนบ่าของตน
“พี่ฮันครับเมื่อกี้เราดูภาพที่พี่กอดกับพี่ฮีด้วยล่ะครับ พวกพี่หวานกันจริงๆเลยนะครับ”
คังอินพูดออกมาแล้วเดินมาเปิดโน้ตบุ๊คของมักเน่น้อยแล้วเข้าเว็บที่พวกเขาเพิ่งกดปิดไปให้มันเปิดขึ้นมาใหม่ เพียงแค่ฮันกยองเห็นภาพก็ต้องรีบเอามือปิดตาของเยซองทันทีแต่จะรู้มั๊ยว่าคนตัวเล็กน่ะเห็นหมดแล้ว
“พี่ฮันครับ”
เยซองพูดเสียงเบาเมองหน้าของฮันกยองที่หัวเราะแหะๆมาให้ก่อนที่จะเดินไปเปลี่ยนเสื้อเพื่อเตรียมขึ้นไปร้องเพลงในช่วงต่อไป
ฮันกยองได้แต่มองคังอินเคืองๆตาขวางใส่แล้วรีบวิ่งตามร่างบางไป แต่พอไปถึงร่างบางก็ไม่สนใจเอาแต่แต่งตัวไปเรื่อยๆและไม่ยอมฟังเขาเลยสักนิด
‘ได้เยซอง ได้ ถ้านายจะเล่นอย่างนี้พี่ก็จะเอาคืนนายให้มากกว่าเดิมหลายเท่าเลย’
ฮันกยองยิ้มชั่วร้าย(มากๆ)ก่อนที่จะเดินทิ้งร่างบางไป
เยซองหันไปมองเพียงเล็กน้อยก็ต้องมาสนใจอีทึกที่เดินมานัดคิวกับเขา
ไม่นานพวกเขาก็ขึ้นไปแสดงอีกครั้งด้วยเพลง’Happiness’คนอื่นๆค่อยๆทยอยเดินขึ้นเวทีไปแล้วโดยมีเสียงอีทึกนำไปเป็นคนแรกและตามไปด้วยคนอื่นๆ
“เยซองนานงอนพี่เหรอ”
“เปล่า”
เยซองจะเดินขึ้นไปบนเวทีอีกครั้งแต่โดนฮันกยองลากลงมาแล้วกระซิบที่ข้างหูเบาๆ
“งอนอะไร หรือว่างอนที่นายไม่เคยมีภาพแบบนี้กับพี่”
“ไอ้ภาพแบบนี้น่ะหมายถึงอะไร”
“หึๆ เดี๋ยวก็รู้”
ฮันกยองเดินขึ้นไปพร้อมเยซองไปสมทบกับพวกคนอื่นๆแล้วเพลงเริ่มทำนองไปเรื่อยๆจนถึงช่วงพักเบรกในเพลง ฮันกยองยิ้มเมื่อเห็นร่างบางเดินไปสมทบกับคนอื่นๆเขาค่อยๆย่องไปทางด้านหลังและเข้าไปยืนอยู่ตรงร่างบาง
‘เยซอง นายเสร็จฉันแน่’
เยซองร้องเพลงในท่อนของตัวเองพอร้องจบปุ๊บเขาก็รู่สึกเหมือนมีอะไรมาเลื้อยอยู่ตรงไหล่ก่อนที่จะหันไปมองแต่ยังไม่ทันได้หันไปฮันกยองก็ก้มลงมาจุ๊บที่แก้มเขาเสียก่อน
เยซองไม่รู้จะทำยังไงได้แต่ยิ้มเขินๆและหันไปมองต้นทางเมื่อเห็นว่าเป็นใครก็ต้องหน้าแดงมากขึ้นกว่าเดิม
‘พี่ฮันบ้า’
เยซองหันไปมองอีกครั้งก็เจอฮีชอลที่กำลังจะก้มลงมาจูบฮันกยองแต่เขาก็เอานิ้วกันไว้ก่อน ฮีชอลจึงได้แต่ยิ้มฮันกยองก็เช่นกัน
‘ต่อไปนี่ที่จะแสดงความรักต่อนายให้ทุกคนได้รู้ เยซอง’
THE END
12/02/2553
คุยกันหน่อย
เฮ้อ..มาต่อให้ก่อนจะไปนอน ขอบคุณที่ตามอ่านมาตลอดนะครับ
นี่ก็จะครบร้อยตอนแล้วเนอะอยู่กันมานานเหมือนกันนี่เนาะ
ดีใจไม่ตกภาษาไทยกับพระพุทธฯ เฮ้อ..รอเลข ตกแน่ๆเลยเรา
ยังไงก็เดี๋ยวเจอกันวันที่18นะจ๊ะขอกวาไปเที่ยวหลังสอบวันหนึ่งนะ
ขอบคุณคร้าบ
มาดู'ฮันเย่'กันดีกว่าเนอะๆๆ
ที่ป๋าจุ๊บแก้มเย่ภาคการ์ตูน
พี่เย่ทำอะไรป๋าอ่ะ=[]=!
ดูสายตาทั้งคู่สิ
แสดงออกถึงความฮัก(โฮะๆๆๆ)
คู่นี้หายากมากๆเรื่องภาพ เฮ้อ..ไปเก็บมาฝากจ้า
ความคิดเห็น