ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Love You Forever รักเธอชั่วนิรันดร์{WonYe,HaeRyeo}

    ลำดับตอนที่ #26 : Charpter 25

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 461
      0
      19 ต.ค. 53

    Charpter 25

     

    ซีวอนก้มหน้าลงมองเยซองที่นอนสลบอยู่ในอ้อมกอดของเขาและเอาแต่ละเมอสุขสันต์วันเกิดให้ฮยอกแจอยู่อย่างนั้น เขารู้สึกไม่พอใจมากๆทั้งเรื่องที่ฮยอกแจไม่มาและเรื่องที่คนตัวเล็กเอาแต่พูดถึงชื่อของคนที่เขาเกลียด

    ถึงจะยอมทำดีด้วยแล้วแต่ก็ใช่ว่าเขาจะเลิกเกลียดครอบครัวสองแม่ลูกนั่นเสียเมื่อไหร่ เขาแค่รอดูเท่านั้นว่าที่ทำดีเนี่ยเพราะต้องการเข้ากับเขาจริงๆหรือแค่หลอกพ่อของเขาไปวันๆ

    ฮึก สุขสันต์วันเกิดนะครับ รุ่นพี่

    เยซองยังพูดอยู่อย่างนั้นทำเอาซีวอนที่เดินอยู่ถึงกับขาแข็งขึ้นมาชั่วขณะ ดวงตาจ้องมองใบหน้ายามหลับที่เพิ่งได้เห็นใกล้ๆก็ตอนนี้แหละของเยซองด้วยท่าทีเหม่อลอย อีกแล้ว เขาเริ่มควบคุมร่างกายของเขาไม่อยู่อีกแล้ว ควบคุมไม่อยู่อีกแล้ว

    รุ่นพี่...สุขสันต์วันเกิดนะครับ

    ซีวอนชะงักใบหน้าที่กำลังจะเลื่อนเข้าไปดูใกล้ๆลง ถอยหน้ากลับมาที่เดิมแล้วก้าวขาเดินออกไป เยซองเบียดตัวเองเข้าหาความอบอุ่นอีกครั้งแต่ยังไม่วายละเมอหาฮยอกแจ

    หนักเป็นบ้า

    พูดจบก็วางร่างเล็กๆที่หลับสนิทไปด้วยความเพลียลงบนเตียงตามเดิม เขาแตะเบาๆที่หน้าผากเพื่อวัดอุณหภูมิแต่ดูเหมือนจะไม่ได้เป็นหวัดหรืออะไร

    รุ่นพี่ครับ ผมรักรุ่นพี่นะ

    ขายาวของซีวอนชะงักเมื่อได้ยินคำพูดของเยซอง เขาหันกลับไปมองทางเตียงเหมือนเพิ่งได้ยินคำพูดแทงใจไปเมื่อครู่ เขาก้าวพรวดเดียวเข้าไปหาร่างของเยซองก่อนจะจ้องมองด้วยดวงตาที่วาวโรจน์

    ผมรักรุ่นพี่นะครับ....แต่ตอนนี้ ตอนนี้...

    เสียงละเมอของเยซองขาดห้วงเมื่อซีวอนก้มใบหน้าลงไปประทับริมฝีปาก เยซองที่หลับอยู่ไม่รู้เรื่องอะไรเลยโอนอ่อนตามไปโดยง่าย เขาเผยอริมฝีปากออกทำให้ซีวอนใช้ลิ้นเข้าไปเก็บเกี่ยวความหอมหวานจากอีกคนได้อย่างง่ายดาย มือหนาลูบเบาๆที่กลุ่มผมอีกคน ก่อนจะบดขยี้ริมฝีปากลงไปมากกว่าเดิม

    อื้ม อือ

    เยซองครางออกมาเบาๆก่อนซีวอนจะได้สติแล้วผละใบหน้าออกไป เขาจ้องมองริมฝีปากที่แดงช้ำจากการจูบเมื่อครู่ เขาหอบหายใจเหมือนไปวิ่งมาสิบรอบสนามได้แล้วหันหน้าไปทางอื่น

    นี่ฉัน ทำบ้าอะไรลงไปเนี่ย

    เขาหันไปมองเยซองอีกครั้งก่อนจะเดินไปนอนลงบนโซฟาเพื่อเฝ้าเยซอง

     

     

    ทงเฮไม่กินข้าวเลยตั้งแต่เมื่อวานแถมยังนั่งเหม่อตลอดทั้งวัน เรียนก็ไม่ยอมเรียน ซ้อมเต้นก็ไม่ไป เรียวอุคได้แต่มองด้วยความเป็นห่วงอยู่เงียบๆ บางทีเขาก็อยากเข้าไปถามว่าเป็นอะไรบ้างหรือเปล่า แต่ก็เลือกที่จะดูอยู่เงียบๆปล่อยให้ทงเฮคิดอะไรไปเรื่อยเปื่อย

    ครืด~

    เสียงประตูห้องเปิดขึ้นเหล่านักเรียนในห้องรีบหันกลับมาเตรียมตัวรอครูมาสอน ทงเฮเองก็เช่นกัน เขาก้มหน้าลงไปหยิบหนังสือใต้โต๊ะขึ้นมาวางเตรียมเอาไว้

    ทงเฮ พี่มีเรื่องอยากจะพูดด้วย

    ทงเฮเงยหน้าขึ้นมอง ซองมินจ้องหน้าของทงเฮด้วยดวงตาอ้อนวอนทำให้ทงเฮต้องลุกเดินตามคนตัวอวบออกไป

    เรื่องที่พี่จะพูดด้วยก็คือเรื่องของเยซอง

    ...

    พี่ไม่รู้ว่านายกับเยซองจะสนิทกันมากแค่ไหนนะ แต่พี่แค่อยากถาม ว่าเยซองเขาเป็นโรคนี้มาตั้งแต่เมื่อไหร่

    เท่าที่ผมจำได้ ตั้งแต่ตอนที่พี่เขาเกิดเลยล่ะครับ

    ซองมินพยักหน้ารับทั้งๆที่ไม่อยากจะเชื่อ เยซองไม่รู้เลยเหรอไงว่าตัวเองเป็นโรคหัวใจมาตั้งแต่เกิด

    พี่อยากจะถามแค่นี้แหละ....

    ครับ งั้นผมเข้าไปเรียนก่อนนะ

    ...

    ไปนะครับ

    ...เดี๋ยวก่อนทงเฮ พี่มีเรื่องอยากจะถามอีกอย่าง

    ครับ?

    ตอนนี้...เยซองเขามีใครดูแลอยู่บ้างเหรอเปล่า

    หืม?

    คนดูแลน่ะ ที่ไปดูแลเยซองเลยน่ะ

    ทงเฮทำท่านึกคิดก่อนจะพยักหน้าเหมือนนึกขึ้นได้กะทันหัน เขาหันไปมองซองมินแล้วยิ้มไปให้บางๆ

    เห็นคนที่ชื่อว่าซีวอนมาดูแลอยู่น่ะครับ

    ...อืม

     

     

    ซีวอนลูบหัวเยซองเบาๆขณะที่อีกคนกำลังนอนหลับอยู่ เขาอมยิ้มก่อนจะเริ่มแน่ใจในความรู้สึกของตัวเองมากยิ่งขึ้น เขารู้แล้ว ว่าเขากำลังตกหลุมรักคนตรงหน้านี้

    อย่าเพิ่งจากฉันไปเร็วนักนะ เยซอง

    พูดจบก็ก้มลงจูบเบาๆที่หน้าผากมนเนิ่นนานแล้วผละออกไปนั่งอ่านหนังสือสอบอยู่เงียบๆ อ่านไปก็รู้สึกว่ามันจะไม่เข้าหัวเลย เรื่องเมื่อเช้ายังคงวนเวียนอยู่ในหัวของเขาซ้ำไปมา

    ซีวอน.... ถ้าหากว่าฉันไปจากนายแล้ว นายจะร้องไห้หรือเปล่า

    ...

    ถึงนายจะบอกว่าไม่ร้องหรอก แต่ฉันก็รู้นะว่านายน่ะต้องร้องอย่างแน่นอน

    ...อย่ามาตัดสินคนอื่นเองแบบนี้สิ

    ฉันไม่ได้ตัดสินเองนะ เพียงแต่ว่าฉันรู้น่ะ รู้ออกมาจากใจเลยว่าซีวอนน่ะ...

    ‘…’

    ใจดีกับฉันมากแค่ไหน^ ^’

    รอยยิ้มของเยซองยังติดอยู่ที่สายตาไม่อาจจะลบออกไปได้ ซีวอนถอนหายใจก่อนจะปิดหนังสือลงแล้วจ้องมองร่างเล็กที่หลับปุ๋ย

    มันอาจจะจริงที่นายพูดก็ได้นะเยซอง ฉันน่ะ...ใจดีกับนายมากเสียจนฉันเองยังตกใจเลย ขอบคุณจริงๆนะที่มาสร้างรอยยิ้มและชีวิตใหม่ให้ฉัน

    เขายิ้มอีกครั้งก่อนจะสะบัดหน้าไปมาสองรอบแล้วเปิดหนังสือเรียนอ่านต่อ เอาล่ะ...ซีวอนสู้ๆ

     

     

    เดี๋ยวก่อนซองมิน ซองมิน

    ซองมินชะงักขาหยุดหันไปมองฮยอกแจที่เรียกเขาตั้งแต่เดินลงบันไดมาจากตัวอาคารจนจะถึงหน้าประตูโรงเรียนอยู่แล้ว

    พี่อธิบายได้นะที่ไปเที่ยวกับนายแล้วปล่อยให้เยซองรออยู่อย่างนั้น

    ไม่ต้องอธิบายให้ผมฟังหรอกครับ ไปอธิบายให้เยซองฟังเถอะ

    ซองมิน พี่อธิบายได้จริงๆนะ ฟังก่อนสิ ซองมิน

    Thruuuuu Thruuuuuuuuu~~

    ฮยอกแจล้วงเอาโทรศัพท์ออกมจากกระเป๋าสะพายแล้วกดรับโดยไม่ดูว่าใครเป็นคนโทรเข้ามา

    ใครครับ

    (....)

    ใครครับ

    (...ผมเยซองเองนะฮะ)

    เยซอง?

    ทันทีที่ซองมินได้ยินชื่อของเพื่อนตัวเองก็หยุดเดินแล้วหันมามองฮยอกแจ คนโดนมองเหมือนจะรู้ตัวเลยทำหน้าเหมือนอยากจะตายก่อนจะหันไปพูดกับเยซองต่อ

    มีอะ…”

    (สุขสันต์วันเกิดย้อนหลังนะครับ ขอให้พี่มีความสุขมากๆ ได้เจอคนดีๆที่จะอยู่กับพี่และรักพี่ไปตลอด ขอให้พี่และคนๆนั้นมีความสุขมากๆนะครับ)

    ...

    (ผมขอบคุณสำหรับทุกสิ่งที่ผ่านมานะครับ พี่ช่วยเป็นกำลังใจให้ผมในการตรวจแต่ละครั้งได้ดีเยี่ยมเลยล่ะ ฮ่าๆ)

    ฮยอกแจจับได้ถึงน้ำเสียงที่สั่นของปลายสาย เขาเหลือบสายตามองซองมินที่จ้องมองเขาด้วยความรู้สึกผิด อาจจะต่อเยซองที่กำลังป่วยอยู่ในตอนนี้ล่ะมั้ง

    มีอะไรอีกมั๊ย

    (...ลาก่อนครับ)

    ตู๊ดๆ

    ฮยอกแจกดตัดสายหลังจากที่เยซองวางไปแล้ว ซองมินมีน้ำตาไหลลงมาก่อนจะหันหน้าหนีก้าวเดินอีกครั้งแต่คราวนี้กลับโดนฮยอกแจจับแขนเอาไว้ได้ทัน

    มันไม่ดีต่อเยซองเลยนะครับ

    มันจะไม่ดีตรงไหน ทำอย่างที่เราเป็นสิ นายรู้สึกต่อพี่ยังไงก็แสดงออกมาอย่างนั้น อย่าเอาเรื่องคนจะตายมาเกี่ยว...เพี๊ยะ!!!”

    ฮยอกแจหน้าหันไปตามแรงตบ เขาเบิกตาโตหันมามองซองมินที่น้ำตาไหลลงมาอย่างห้ามไม่อยู่ ก่อนจะเลื่อนสายตาลงไปมองมือของซองมินที่กำเข้าหากันแน่น

    ผมไม่เคยคิดเลยนะครับว่าพี่จะเป็นคนอย่างนี้ เยซองไม่ใช่คนที่กำลังจะตายนะครับ เขาไม่ใช่คนจะตายแต่เขาเป็นเพื่อนของผม เพื่อนที่ดีที่สุดของผม!!!!”

    พูดจบก็วิ่งจากไปทิ้งให้คนตัวสูงรู้สึกผิดกับคำพูดของตัวเองอยู่คนเดียว

     

     

    ตู๊ดๆๆๆ

    หลังจากวางสายแล้ว เยซองก็ยิ้มทั้งน้ำตามองโทรศัพท์ในมือก่อนจะหันไปวางลงข้างๆแล้วส่งยิ้มกว้างไปให้ซีวอนที่มองเขาอยู่

    ฉันไม่ร้องไห้หรอกนะ ซีวอน

    ถึงจะพูดอย่างนั้นแต่น้ำตาก็ไหลลงมาอยู่ดี เยซองค่อยๆคลี่ยิ้มออกมา ซีวอนจ้องมองใบหน้าของอีกคนด้วยความนิ่งเฉยแต่ในใจกลับรู้สึกร้อนรุ่มเป็นห่วงใจแทบขาด

    ฮึก...ฉันจะไม่ร้องอีกต่อไปแล้วนะ ฮือ

    เยซองก้มหน้าลงไปหลับตาแน่นพยายามบังคับความรู้สึกของตัวเองไม่ให้ร้องไห้ แต่ยิ่งห้ามกลับยิ่งร้องมากกว่าเดิม

    ฮึก ฮือ

    ...นายเคยคิดบ้างมั๊ย ว่าทำไมมนุษย์ถึงต้องเกิดมาอีกครั้ง

    ...

    ฉันเคยคิดนะว่าทำไมเราถึงต้องเกิดมาอีกครั้ง ตอนนี้ฉันพบคำตอบแล้วล่ะ

    ...

    มนุษย์ทุกคนเกิดมา...ก็เพราะต้องมาเจอใครสักคน ใครสักคนที่เกิดมาเหมือนกันเพื่อเรา

    ...

    มือหนาเอื้อมไปลูบกลุ่มผมอีกคนเบาๆ ดวงตาที่แสนอ่อนโยนจ้องมองเยซองที่ตาแดงเพราะการร้องไห้เมื่อครู่ รอยยิ้มผุดขึ้นมาก่อนมันจะกว้างขึ้น เยซองชายสายตามองซีวอนแวบหนึ่งก่อนจะก้มลงไปมองผ้าห่มที่อยู่บนหน้าขาของตัวเอง

    ...งั้นก็เป็นเหมือนเราสองน่ะสิ เกิดมา...เพื่อกันและกัน

    ....

    ....

    อืม คงงั้นมั้ง

    ซีวอนดึงตัวของเยซองเข้ามากอดฝังหน้าลงไปบนไหล่เล็กที่เริ่มสั่นอีกครั้งก่อนเสียงร้องไห้จะดังขึ้นมาจากคนตัวเล็ก เขากระชับอ้อมกอดให้แน่นขึ้นเป็นและกอบโกยความอบอุ่นนี้เอาไว้ให้นานเท่านานก่อนที่มันจะไม่มีเวลาอีกแล้ว

     

     

    คุณหมอคะ คนไข้หัวใจเต้นอ่อนแรงมากค่ะ

    เสียงของพยาบาลและเสียงคนวิ่งไปมาดังอยู่ในหัวสมองของซีวอนที่ยืนมองคนบนเตียงที่หลับสนิทหรือต้องพูดว่าสลบไปตั้งแต่เมื่อวานแล้วด้วยสายตานิ่งเฉยซึ่งมันตรงข้ามกับความรู้สึกภายในใจ ได้แต่ยืนมองและดูท่าว่าจะเป็นตัวเกะกะให้กับเจ้าหน้าที่ทั้งหลาย สายตาเลื่อนไปมองคุณคิมที่กอดภรรยาเอาไว้แล้วลูบไหล่ไปมาปลอบใจ คุณนายคิมร้องไห้ตัวสั่นคลอนเพราะความหวาดกลัวต่างๆนานา เขาหันกลับมามองเยซองที่นอนอยู่บนเตียงและตัวเด้งขึ้นเมื่อถูกปั๊มหัวใจ

    พาเข้าห้องฉุกเฉิน ด่วน

    นางพยาบาลสองคนพยักหน้าแล้วรีบเดินออกไปโดยมีบุรุษพยาบาลเข็นเตียงที่มีร่างของเยซองตามออกไป คุณนายคิมทรุดตัวลงกับพื้นก่อนจะพยุงตัวเองขึ้นแล้ววิ่งตามเตียงคนไข้โดยมีคุณคิมวิ่งโอบไหล่ตามไปด้วย

    ซีวอนยืนนิ่งภายใต้ความเงียบที่มืดมิดของห้องพักฟื้นที่กลับมาสงบอีกครั้ง เขายังจับใจความของเรื่องไม่ได้

    เยซองเป็นอะไร ?

    เยซองกำลังจะจากเขาไปใช่มั๊ย ?

    เขา...ควรทำไงดี ?

    เยซอง...อย่าเป็นอะไรไปนะ

    ซีวอนมองตามเส้นทางของเตียงที่เข็นออกไปนานแล้วก่อนจะวิ่งออกไปจากห้องและโรงพยาบาล

    เยซอง ได้โปรด อย่าเพิ่งเป็นอะไรไปเลยนะ

     

    - - - - - - - - >

    หวังว่าจะไม่เศร้าเกินไป เพื่อให้ได้อารมณ์กวาเลยดูหนังเศร้าๆแล้วมาแต่งต่อ

    มันได้ผลนะ ทำให้หัวแล่นและเข้าใจความรู้สึกของตัวละครมากขึ้น ไม่เบื่อใช่มั๊ย

    ที่คู่อื่นๆหายไปเลย อยากจะบอกว่าเรื่องนี้ที่จริงเน้นไปที่วอนเย่ อาจจะมีคู่อื่นแซมๆมาบ้าง

    แต่เน้นวอนเย่จริงๆ ต้องไปแต่งต่อก่อนที่อารมณ์จะหาย(ฮา)
    อารมณ์ค้างอ่ะ อยากแต่งเศร้าๆอีกสักเรื่อง(ฮา)แต่ตอนจบนี้ขอให้ทุกคนทำใจ
    เพราะกวาแต่งไปแล้วT^T อ่ะๆมีตอนพิเศษให้ก็ได้
    ปล.แต่ตอนจบนี่ก็สุดยอดเหมือนกันนะ*O*V

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×