ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Love You Forever รักเธอชั่วนิรันดร์{WonYe,HaeRyeo}

    ลำดับตอนที่ #25 : Charpter 24

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 453
      0
      19 ต.ค. 53

    Charpter 24

     

    หิมะตกหนักกว่าเมื่อวาน ท่ามกลางท้องฟ้าที่มืดมัวแต่ก็ยังมีแสงแดดพอให้สว่างอยู่

    มันจะเหมือนชีวิตของเขาหรือเปล่านะ ที่มีแต่ความมืดมนไม่เหลือแม้แต่แสงสว่าง

    จนได้เจอกับซีวอนที่เหมือนเป็นแสงแดดลำเล็กๆที่ส่องมานำทางในชีวิตของเขา

     

    จะได้เจอ....ซีวอนอีกมั๊ยนะ

     

    เหม่ออยู่ได้ ยังกินไม่เสร็จอีกเหรอ

    เยซองหันไปมองคนถามที่นั่งอ่านหนังสือการ์ตูนอยู่ด้วยรอยยิ้ม หลังจากได้ร้องไห้ความรู้สึกอะไรๆมันก็ดีขึ้นเยอะเลย

    ไม่อยากร้องไห้อีกแล้ว ไม่อยากเสียใจอีกแล้ว

    ไม่อยาก...จากซีวอนไปไหนเลย

    อืม มันไม่ค่อยหิวน่ะ

    ซีวอนปิดหนังสือลงก่อนจะมองมาทางเยซองสีหน้าเบื่อหน่าย เขาต้องบังคับให้เยซองกินอาหารโรงพยาบาลไปถึงไหนเยซองถึงจะยอมกิน

    ทั้งข่มขู่ ทั้งบังคับ ทั้งป้อนให้ แต่เยซองก็ยังไม่ยอมกิน ดื้อเหมือนเด็กๆเลยนะเจ้าตัวเล็กนี่

    จะถึงวันสอบแล้วไม่ใช่เหรอ ซีวอนไม่อ่านหนังสือบ้างเหรอ

    แล้วไง ฉันน่ะเก่งอยู่แล้วไม่เห็นจำเป็นต้องอ่านเลย

    ซีวอนท้าวคางก่อนจะมองใบหน้าของเยซองที่ดูไม่เชื่อ เขาเอื้อมมือไปขยี้เบาๆที่กลุ่มผมจนอีกคนโวยลั่นแต่ก็ไม่ได้ว่าอะไร

    ขอบใจนะซีวอน ขอบใจสำหรับทุกสิ่งเลย

    ยิ้มให้อีกคนเป็นการตอบแทน ซีวอนชะงักแล้วพยักหน้ารับก่อนจะหันไปมองทางอื่น เขาใจสั่นอีกแล้ว ซีวอน...แกเลิกเป็นแบบนี้ได้แล้วนะ

    ถ้าหากว่าฉันต้องตายไปแล้วจริงๆ ซีวอนห้ามร้องไห้นะ

    หืม?

    ก็ฉันไม่อยากเห็นน้ำตาของซีวอนนี่นา ฉันไม่อยากเห็นซีวอนร้องไห้เพราะฉันหรอกนะ ซีวอนไม่ควรจะมาเสียน้ำตาให้คนอย่างฉัน ถูกมั๊ยล่ะ

    ถึงจะฟังดูขมขื่นแต่เยซองก็ยังคงยิ้มเหมือนเดิมที่เจ้าตัวชอบทำประจำ สิ่งที่เขาเกลียดมากที่สุดก็คงจะเป็นน้ำตาของซีวอนนี่แหละ

    ทำไมถึงคิดอย่างนั้นล่ะ

    แทนที่จะตอบกลับกลายมาเป็นคนถามเสียเอง เยซองผงะก่อนจะจ้องมองดวงตาคมที่กำลังมองเขา สายตาของซีวอนอ่านยากและเยซองก็ไม่อยากเข้าใจว่าซีวอนกำลังคิดอะไรอยู่ เขากลัวว่าจะทำให้ตัวเองร้องไห้อีกครั้ง

    ก็เพราะฉันมันเป็นคนขี้โรคไง ซีวอนน่าจะไปเสียน้ำตาให้คนที่ซีวอนรักดีกว่านะ คนอย่างฉัน คนอย่างฉันน่ะ...

    ...

    คนอย่างฉันน่ะมันไม่มีอะไรดีพอที่จะให้ซีวอนมาเสียน้ำตาให้หรอก แค่ซีวอนมาอยู่ด้วยข้างๆตลอดเวลาแบบนี้....มันก็ดีที่สุดสำหรับฉันแล้ว

    ...โง่ ใครว่าคนอย่างนายไม่คู่ควรกับฉัน

    ...

    ฉันไม่รู้หรอกนะว่านายกำลังคิดบ้าอะไรอยู่ แต่การที่นายมาตัดสินความรู้สึกของคนอื่นเองแบบนี้มันดูไม่ยุติธรรมไปหน่อยมั้ง ฉันไม่เคยคิดว่าใครจะมาคู่ควรกับฉัน ตรงกันข้ามฉันกลับคิดว่าตัวของฉันเองจะคู่ควรกับเขาหรือเปล่า

    ...

    เพราะนายคือแสงอาทิตย์ของฉัน ฉันจึงต้องปกป้องดูแลแสงอาทิตย์ของฉันตลอดไป จนกว่าวันหนึ่งที่แสงมันจะดับลง

    ...

    ขอบคุณสำหรับทุกอย่างงั้นเหรอ ฉันไม่เคยทำอะไรเพื่อนายเลยนะ มีแต่จะสร้างความรำคาญให้ฉันต่างหากต้องเป็นฝ่ายที่ขอบคุณนายในทุกๆเรื่อง ขอบใจนะ เยซอง

    เยซองยิ้มก่อนจะพยักหน้าขึ้นลง เขารู้สึกได้ถึงเจ้าก้อนเนื้อด้านซ้ายที่กำลังเต้นแรงกว่าปกติ อาจจะเพราะความอ่อนโยนเมื่อครู่ที่ซีวอนแสดงออกมาก็เป็นได้

    ขอบคุณนะ ซีวอน

     

     

    ทงเฮจ้องมองท้องฟ้าสีครามที่เพิ่งจะปรากฏได้ไม่นาน เขาถอนหายใจออกมาเบาๆเมื่อได้รู้ข่าวว่าพี่เยซองพี่ชายคนสนิทของเขาต้องนอนที่โรงพยาบาลไม่สามารถออกไปไหนได้

    ถ้าฉันจะบอกว่าฉันรู้ตั้งนานแล้วว่าพี่ของนายเป็นโรคอะไร นายจะว่าฉันมั๊ย

    ทงเฮหัวขวับกลับไปมองคนพูด เรียวอุคยืนพิงขอบประตูไม่ได้มองมาทางเขาแต่กำลังมองไปยังขอบประตูด้านตรงข้าม ทงเฮลุกขึ้นเดินมาหาเรียวอุคด้วยอารมณ์ที่ไม่ดีเท่าไหร่นัก

    นาย นายบอกว่าอะไรนะ

    ฉันรู้มาตั้งแต่แรกแล้วล่ะ ว่าพี่เยซอง...

    แล้วทำไมนายถึงไม่ยอมบอกฉัน!!!ทำไมนายถึงเก็บเป็นความลับมานานขนาดนี้ ทำไมนายไม่ยอมบอกใครเลย

    ทงเฮจับตัวของเรียวอุคเขย่าไปมาแรงๆ คนตัวเล็กไม่ได้ต่อว่าอะไรกลับทำสีหน้านิ่งเหมือนวันแรกที่เขาและทงเฮเจอกัน ดวงตาที่ดูเย็นชาจ้องมองทงเฮที่กำลังร้องไห้ออกมา เขาเบือนหน้าหนีก่อนที่ทงเฮจะหยุดแล้วค่อยๆทรุดตัวลงนั่งกับพื้น

    ทำไมนายถึงไม่ยอมบอกฉัน ทำไมนายถึง... ทำไม

    ทงเฮพูดเสียงสั่น คนในห้องเริ่มหันมามองก่อนจะลุกขึ้นมาเพื่อดูว่าทงเฮคนร่าเริงเป็นอะไร แต่พอเรียวอุคเหลือบตาขึ้นไปมองทุกคนก็หยุดกึกก่อนจะกลับไปนั่งที่เดิม ทงเฮเกาะขาของเขาก่อนจะซบลงแล้วร้องไห้ออกมา

    ...ขอโทษนะที่ไม่ได้บอก ฉันกลัวว่าถ้าพูดไปแล้ว...พี่เยซองจะทำใจไม่ได้ ฉันไม่คิดว่า...

    นายรู้มั๊ยว่าพี่เยซองสำคัญกับฉันมากแค่ไหน เขาเป็นพี่ชายเพียงคนเดียวที่เข้าใจฉัน และ และ...

    เสียงของทงเฮขาดห้วง เขาเงยหน้าขึ้นมองคนที่กำลังนั่งลงแล้วโอบกอดเขาเอาไว้ เรียวอุคลูบหลังปลอบใจทงเฮเขาพยายามกลั้นน้ำตาไม่ให้ไหลลงมา

    และเขาก็เป็นคนที่ฉันรักเหมือนพี่ชายจริงๆ ฉันรับไม่ได้หรอกนะถ้าต้องมารู้ว่าอีกไม่นานพี่เยซองก็จะจากฉันไปในที่ไกลๆแบบนั้น ถ้าหากเป็นไปได้ ถ้าหากเป็นไปได้ ฉันก็อยาก ฉันก็อยาก ฮึก...

    ทงเฮกอดเข้าที่ตัวของเรียวอุค ถึงแม้จะทำใจมานานแล้วแต่พอมารู้เรื่องของเยซองที่เขาพยายามปิดกั้นเอาไว้ว่าเป็นเพียงแค่ความฝัน ยิ่งพอเห็นท่าทีของพี่เยซองในวันรุ่งขึ้นว่าไม่เป็นอะไรแล้วก็ยิ่งคิดว่าเป็นแค่ความฝันจริงๆ

    แต่มาในวันนี้ มาในวันนี้ฝันของเขานั้นต้องพังทลายลง อาการของพี่เยซองที่หนักขึ้น อนาคตที่ยังมาไม่ถึง ความหวัง...ที่ดูจะโหดร้ายเกินไป

    ถ้านายบอกฉันเร็วกว่านี้ ถ้าฉันรู้เร็วกว่านี้ บางที บางที...ฉันอาจจะทำใจได้มากกว่านี้

    เรียวอุคตีหน้านิ่งหากแต่น้ำตากลับไหลลงมา เขามือสั่นทำอะไรไม่ถูกได้แต่ลูบหลังอีกคนไปเรื่อยๆ ทงเฮกระชับอ้อมกอดให้แน่นขึ้นอย่างต้องการที่พึ่ง

     

     

    สายลมหนาวพัดผ่านร่างกายไปเบาๆอีกแล้ว ซองมินเกลียดลมแบบนี้ เกลียด...ลมที่เหมือนจะมาปลอบแต่ก็แค่มาเยาะเย้ย เขาอยากได้เพื่อนคนเดิมมาอยู่เคียงข้าง อยากให้เยซองมาอยู่ใกล้ๆเขาอีกครั้ง

    เยซองต้องเข้าโรงพยาบาล อีกนานกว่าจะออกมาได้ ซองมิน...แม่ฝากจดการบ้านให้เขาด้วยนะลูก

    ซองมินทำใจไม่ได้ สิ่งเดียวที่ตอนนี้เขากำลังเผชิญอยู่ ได้แต่คิดว่าเยซองคงไม่เป็นไรแต่ใจกลับไม่คิดอย่างนั้น ได้แต่ภาวนาขอให้เยซองหายดีแต่ใจกลับกลัวว่าเยซองจะเป็นอะไรไป

    ทำไมต้องเป็นเพื่อนของเขาด้วย ทำไมโรคนี้ถึงได้เลือกเพื่อนของเขา

    ยิ่งคิดก็ยิ่งไม่เข้าใจและก็ไม่อยากจะเข้าใจอะไรทั้งนั้น

    เพื่อนคนเดียวของเขาตั้งแต่เด็กๆกำลังจะจากเขาไปเพราะโรคหัวใจ

    ต่อจากนี้เขาจะไม่มีเยซองคนใจดีกับเขาอีกแล้ว ในอนาคตเขาจะต้องอยู่เพียงลำพังท่ามกลางความวุ่นวาย

    คิดอะไรอยู่ หน้าเครียดเชียว

    เสียงทักทำเอาซองมินต้องยกมือขึ้นปาดน้ำตาออกไป เขาหันไปมองก่อนจะแกลังทำหน้าบึ้งกลบเกลื่อนความรู้สึก

    กำลังคิดถึงเยซองอยู่น่ะ

    เอ้อ จะว่าไปก็ไม่ค่อยเห็นเลยนะเดี๋ยวนี้ เจ้าเด็กนั่นน่ะ

    อย่าเรียกเยซองว่าเจ้าเด็กนั่นนะ

    ซองมินตวาดใส่ทำเอาฮยอกแจสะดุ้ง เขาพยักหน้ารับก่อนจะจ้องมองคนตัวเล็กที่มีน้ำตาปริ่มออกมา ซองมินหันหน้าไปทางอื่นก่อนจะลุกขึ้นพอดีกับที่เสียงโทรศัพท์ของฮยอกแจดังขึ้น

    ครับ

    (ผมเยซองนะครับ)

    เสียงปลายสายทำให้ฮยอกแจไม่อยากจะคุยต่อ ในใจของเขารู้สึกกังวลขึ้นมาเล็กๆ แต่เขาก็ทำนิ่งพยายามข่มใจแล้วตอบออกไป

    อื้ม มีอะไรเหรอ

    (พรุ่งนี้มาเจอผมหน่อยตอนสายๆได้มั๊ย ที่สวนสาธารณะแถวๆโรงเรียน)

    เอ๋? ฉัน..ฉันไม่ว่า..

    (ได้มั๊ยครับ)

    น้ำเสียงของเยซองมันฟังดูเว้าวอนจนเขาทำอะไรไม่ถูก ใจหนึ่งก็อยากปฏิเสธไปแต่อีกใจหนึ่งกลับรู้สึกสงสาร ก่อนจะเหลือบมองซองมินที่มองมาทางเขา

    อื้ม พี่ไปก็ได้

    พูดจบก็รีบวางสายกลัวว่าซองมินจะเอะใจไปมากกว่านี้ รู้สึกว่าตั้งแต่เขาได้ไปออกเดทกับซองมินวันนั้นเขาก็เริ่มจะเกรงใจเวลารับโทรศัพท์ตอนที่มีซองมินอยู่ด้วยทุกที

    ผมขอตัวก่อนนะครับ

    ฮยอกแจทำท่าจะรั้งซองมินเอาไว้แต่อีกคนกลับเดินจากไปไม่หันมามองเขาเลยสักนิด

     

     

    วันนี้เป็นวันที่เยซองนัดฮยอกแจเอาไว้ เขาใส่เสื้อยืดคอกลมสีชมพูอ่อน กางเกงสบายๆขายาวสีขาวครีมและมีเสื้อโค้ตตัวยาวสีชมพูดเข้มเล็กน้อยสวมทับ ดูแล้วเยซองเหมือนเป็นผู้หญิงเสียจริง ยิ่งมีผ้าพันคอสีชมพูเข้มสลับขาวนั่นอยู่บนลำคอระหงส์ด้วยแล้ว ยิ่งดูคล้ายเข้าไปใหญ่

    ฉันไปแล้วนะ ซีวอน

    ซีวอนพยักหน้ารับด้วยอารมณ์ไม่พอใจ ทั้งๆที่รู้ว่าฮยอกแจมันไม่มีทางหันกลับมามองตัวเองแต่ก็ยังเลือกที่จะไปเจอมันให้เจ็บปวดใจเล่น และก็เพราะมันนั่นแหละที่ทำให้เจ้าตัวเคยเจ็บปานตายมาแล้ว ไม่เข้าใจจริงๆว่ากำลังคิดอะไรอยู่ พอเยซองเดินออกไปได้ไม่นาน เขาก็เดินตามไปเงียบๆทำตามสัญชาตญาณเก่าเวลาจะสะกดรอยตามใคร

    เยซองมาหยุดยืนอยู่ที่หน้าสวนสาธารณะ อากาศเริ่มหนาวขึ้นเรื่อยๆจนเขาต้องยกมือขึ้นลูบเบาๆที่ต้นแขน กอดกระชับถุงของขวัญในมือเอาไว้แน่น

     

    เขารู้... ว่าวันนี้เป็นวันเกิดของฮยอกแจ

    เขารู้... ว่าวันนี้เป็นวันที่ฮยอกแจมีความสุขที่สุด

     

    เขาอยากอยู่ให้ของขวัญฮยอกแจเป็นครั้งสุดท้ายก่อนที่จะไม่มีโอกาสอีกแล้ว เยซองก้มลงมองถุงในมือตัวเองนิ่ง รอยยิ้มเล็กๆผุดขึ้นที่ริมฝีปากก่อนเขาจะก้มหน้าลงไปจูบเบาๆที่ปากถุง

     

    เวลาเดินไปเรื่อยๆไม่มีวันหยุด สายน้ำเองก็ไหลไปตามทางที่มันควรจะไป ชีวิตของคนเราก็เช่นกัน ค่อยๆไหล ค่อยๆเดินไปตามวิถีแห่งกลไกธรรมชาติ

    ฮ้า~!”

    เยซองพ่นลมหายใจใส่มือตัวเองก่อนจะกระโดดอยู่กับที่เบาๆ ความหนาวเย็นเพิ่มขึ้นจากเดิมเพราะตอนนี้เป็นเวลาเย็นมากแล้ว เย็นมากแล้ว...แต่ฮยอกแจก็ยังไม่มา

    เขามองไปยังทางเข้าของสวนสาธารณะด้วยสายตาเว้าวอน ก่อนจะถูมือไปมาให้มันอุ่น กอดตัวเองก็แล้วแต่ก็ยังไม่หายหนาว ทำยังไงดีเขาถึงจะทนต่อความหนาวเย็นนี้ได้

    หิมะตกหนักกว่าเดิมคล้ายว่าจะมีพายุหิมะในอีกไม่นาน เยซองทรุดตัวลงนั่งกับพื้นก่อนจ้องมองไปยังทางเข้าสวนสาธารณะอีกครั้ง

    ฮึก อือ

    เขาครางออกมาเบาๆเมื่อความหนาวทำให้ปากสั่นไปหมด เขากอดตัวเองให้แน่นขึ้นโดยมีของขวัญของฮยอกแจอยู่ในอ้อมกอด เขาเป็นห่วงของขวัญของฮยอกแจเหลือเกิน กลัวว่าของขวัญจะเป็นอะไรไปก่อนถึงมือของฮยอกแจ

    เยซองยกนาฬิกาข้อมือขึ้นมาดูก่อนจะพบว่ามันดึกแล้ว เขาควรจะกลับไปนอนที่โรงพยาบาลได้แล้ว แต่เขาก็ยังไม่สามารถกลับได้

     

    ถ้าหากว่า

    ถ้าหากว่า

    ถ้าหากว่า...พี่ฮยอกแจมาตอนที่เขากลับไปพอดีแล้วจะทำยังไงล่ะ

     

    ไม่ได้หรอกนะเยซอง ทนอีกหน่อยเถอะ ทนอีกนิดเถอะนะร่างกายของฉัน

     

    เดี๋ยวรุ่นพี่ก็มาแล้ว เดี๋ยวรุ่นพี่ก็มา

    อีกนิดเดียวเท่านั้นเอง ร่างกายของฉัน...

    ได้โปรดเถอะ....

    ได้โปรด...

     

    รออีกนิดเถอะนะ

     

     

     

     

    ตุ้บ!!!

    ร่างของเยซองล่วงลงไปนอนกับพื้น ดวงตาเรียวยังไม่ปิดเข้าหากัน ความหนาวทำให้เขาแข็งจนขยับไม่ได้

    ตึกๆ

    ก่อนสติจะดับวูบลงไปทั้งหมดเขาก็ได้ยินเสียงฝีเท้าคนก่อนจะเห็นร่างสูงๆของใครบางคนที่เดินเข้ามาหาเขา

    รุ่นพี่ครับ...สุขสันต์วันเกิดนะครับ

     

    - - - - - - - - >

    โอกันมั๊ยกับตอนนื้ เศร้าไปมั๊ยหว่า? คงไม่หรอกเนอะ แหะๆ

    ปวดตาสุดยอดอ่ะค่ะ นึกว่าจะแต่งต่อไม่ได้เสียแล้ว แย่จังY-Y

    เจ็บตาอ่า...เมื่อวานดูบันทึกน้ำตาหนึ่งลิตรแล้วร้องไห้อีกแล้วYOY

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×