ตอนที่ 19 : Chapter 16
บทที่ 16
ฮเยมินนั่งรอคนที่ตัวเองนัดอยู่ที่ร้านกาแฟหลังมหาวิทยาลัย
หญิงสาวนั่งกุมมือนิ่ง ในหัวพยายามเรียบเรียงคำพูดในหัว เรื่องที่เธอนัดมาวันนี้ต้องทำให้เพื่อนสองคนของเธอไม่พอใจแน่ๆ
แต่ถ้าไม่คุยกัน จองกุกเอาเรื่องที่แบล็คเมล์เธอมาเล่นแน่ๆ
เธอไม่พร้อมให้ใครมารับรู้เรื่องนี้จริงๆ
“รอนานมั้ยอีริน” เสียงหวานแผ่วที่คุ้นเคยดังขึ้นเรียกความสนใจของหญิงสาวที่กำลังนั่งเหม่อทันที ร่างบางหันไปมองตามเสียงเรียก ก็เห็นเพื่อนสนิทในกลุ่มทั้งสองคน
“ไม่หรอก ฉันก็เพิ่งมาได้ไม่นานเหมือนกัน ^^;;”
“แล้วเรียกมามีอะไร” เสียงนิ่งๆ ตามสไตล์ของโซจินถามอย่างสงสัย
“จำได้มั้ย ที่เราคุยกันว่าจะวางแผนเพื่อกันจองกุกออกจากซอกจิน” ให้ตายเถอะ พูดยากชะมัด “ฉันอยากยกเลิกสิ่งที่เราจะทำทั้งหมด”
“ว่าไงนะ” มินฮาถามพร้อมขมวดคิ้ว “หมายความว่ายังไงเหรออีริน หมายถึงให้เราเลิกยุ่งกับเรื่องนี้งั้นเหรอ”
สาวผมสั้นประบ่าเม้มปากแน่นก่อนจะพยักหน้าตอบรับเพื่อน “มันเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดในตอนนี้”
“ส่งเพื่อนรักของเธอให้เด็กร้ายๆ แบบนั้นน่ะเหรอคือดีที่สุดสำหรับเธอ” โซจินถามพร้อมกับมองนิ่งๆ “บอกมา โดนหมอนั่นแบล็คเมล์มาอีกแล้วใช่มั้ย”
“...รู้ได้ไงอ่ะ”
“ก็คนอย่างเธอน่ะหัวดื้อจะตาย แถมยังหวงซอกจินซะขนาดนั้น เรื่องที่ทำให้เธอเปลี่ยนใจได้มันต้องมีความร้ายแรงมากพอๆ กัน”
“ก็ไม่ได้ร้ายแรงขนาดนั้นหรอกน่า” ก็แค่แอบชอบเพื่อนสนิทก็เท่านั้นเอง...
“แสดงว่าถ้าอีรินโดนแบล็คเมล์จริงๆ แปลว่าจองกุกต้องรู้แล้วว่าเราสามคนคิดจะทำอะไร” สาวเรียบร้อยแห่งนิเทศฯ วิเคราะห์ “แล้วเขารู้ได้ยังไง”
สิ้นเสียงหวานแผ่ว ทั้งสามคนก็เงียบลงทันที
นั่นสิ เด็กนั่นรู้ได้ยังไง ในเมื่อเวลาคุยกัน พวกเธอก็คุยกันสามคน อย่างมากก็มีแค่เพื่อนในกลุ่มที่พอจะรู้เรื่องแต่ก็ไม่ได้ละเอียดอะไรมาก
เพื่อนในกลุ่มงั้นเหรอ?
“นี่ คิดเหมือนกันมั้ย” สาวเย็นชาเอ่ยขึ้นเมื่อเห็นสายตาของเพื่อนอีกสองคน “ยัยพวกนั้น...”
“แต่พวกหล่อนก็ไม่ได้สนใจเวลาเราพูดกันนะ” มินฮาว่า “อีกอย่าง ระแวงเพื่อนเราเองมันไม่ดีเลย”
“มันก็ไม่ได้แปลว่ามันเป็นไปไม่ได้” ฮเยมินที่มักจะอารมณ์ดีกลับเอ่ยอย่างเคร่งเครียด “ฉันสังเกตมานานแล้ว กลุ่มเราดูแปลกๆ ไป และฉันก็เชื่อว่าเธอสองคนสังเกตได้”
“...”
“...”
“ฉันว่า เราไว้ใจคนในกลุ่มเราไม่ได้อีกแล้วล่ะ”
ลานกิจกรรมคณะวิทยาศาสตร์
พอบทละครดาวเดือนได้รับคำแนะนำจากเดือนปีสามและแก้ไขเสร็จแล้ว ก็ถึงเวลาซ้อมเสียที
“มาพร้อมกันแล้วเนอะ” เสียงใสของจูฮยอนทักขึ้นเมื่อเห็นว่ารุ่นน้องดาวและเดือนปีหนึ่งมาพร้อมกันแล้ว ก่อนที่เธอจะหันไปหาฮยอนอูที่ถือกระดาษปึกหนาในมือ “เดี๋ยวพี่ฮยอนอูจะแจกบทให้พวกเราเนอะ ลองอ่านกันก่อนนะคะ สงสัยอะไรถามพวกพี่ได้เลย เดี๋ยวรอพี่ซอกจินไปรับพี่ดาซมมาก่อนแล้วเราค่อยซ้อมกัน”
“ครับ/ค่ะ” จองกุกกับเยริมตอบรับก่อนจะรับบทมาจากฮยอนอู รุ่นพี่ทั้งสองปล่อยให้น้องๆ ได้ทำความเข้าใจบทและคุยกันเองเพราะการแสดงที่ดีต้องมาจากที่ทั้งคู่ไว้ใจกัน ซึ่งดูแล้วสองคนนี้ก็ยังไม่สนิทกันขนาดนั้น
แต่ไม่เป็นไรหรอก เมื่อก่อนจูฮยอนเองก็เข้าขั้นกลัวฮยอนอูด้วยซ้ำ เพราะเดือนปีสองนั้นตัวใหญ่แถมยังหน้านิ่งอีกต่างหาก
แต่พอพี่ซอกจินกับพี่ดาซมพยายามให้พวกเขาได้ลองคุยกันก็ทำให้เธอรู้ ว่าหมอนี่ไม่ได้หน้านิ่ง แต่หน้ามึนต่างหาก -0-
“นี่ จองกุก” เสียงหวานของเยริมทักขึ้นเรียกความสนใจของร่างสูงที่ยังไม่ทันอ่านบทละเอียดได้ทันที
“มีอะไรเหรอ”
“นายจีบพี่ซอกจินอยู่ใช่มั้ย”
“ฮะ? ทำไมจู่ๆ...” จองกุกกำลังจะถามกลับ แต่พอเห็นสายตาของเพื่อนร่วมรุ่นก็ทำให้เขาแกล้งเกาหัวอย่างขัดเขิน “ก็ใช่แหละ ทำไมเหรอ”
“ตายจริง แล้วฉันมาแสดงคู่กับนาย พี่เขาจะไม่หึงใช่มั้ย”
“ไม่หรอกน่า พี่จินเขามีเหตุผลอยู่แล้ว เราสองคนก็ยังไม่ได้เป็นอะไรกันด้วย” ตอนนี้ยังไม่ใช่ แต่อีกไม่นานหรอก J “อีกอย่าง พี่จินก็บอกฉันเองว่าพี่เขาเป็นคนแต่งพล็อตเรื่องนี่นา เพราะฉะนั้น พี่จินไม่ว่าอะไรหรอก ^^”
“อ๋อ อย่างนั้นเองน่ะเหรอ” ใบหน้าจิ้มลิ้มพยักหน้ารับ “นี่ ถ้าถามอะไรอย่างหนึ่งจะถือว่าละลาบละล้วงเกินไปหรือเปล่า”
“ว่า?”
“ท่าทางแปลกๆ ของนายกับพี่ซอกจินในวันแรกที่ฉันเจอกับพี่เขา” หญิงสาวทำหน้าครุ่นคิด “วันนั้นฉันกลัวพวกนายทั้งสองคนมากเลยนะ ฉันคิดไปไกลด้วยซ้ำว่าพี่ซอกจินต้องเป็นคนที่ดุมากแน่ๆ เลย”
“ฮ่าๆๆ คิดอะไรอย่างนั้นล่ะ” เสียงทุ้มหัวเราะกลบเกลื่อน เห็นนิ่งๆ ก็จอมจุ้นพอได้เลยแฮะ “ตอนนั้นเราสองคนทะเลาะกันนิดหน่อย แต่ตอนนี้ดีกันแล้วล่ะ”
“อ่อ อย่างนั้นเอง”
พอร่างบางตรงหน้าตอบรับ จองกุกก็ก้มลงอ่านบทในมือของตัวเองอีกครั้ง และตัวหนังสือที่ผ่านตาก็ทำให้คิ้วของร่างสูงขมวดเข้าหากันทันที
เหตุการณ์แบบนี้มัน...
มือหนาลองเปิดบทแบบผ่านๆ ตั้งแต่หน้าแรกจนถึงหน้าสุดท้าย และจากที่ได้อ่านก็เรียกรอยยิ้มมุมปากออกมาทันที
ถึงจะไม่ได้เหมือนเป๊ะก็เถอะ แต่เค้าโครงแบบนี้ มันคือเรื่องสมัยตอนที่เขากับซอกจินคบกันแน่ๆ
ยิ่งตอนจบของเรื่อง ตอนที่พระเอกบอกเลิกนางเอก ประโยคๆ นั้นเหมือนกับที่เขาเคยบอกคนพี่ไม่มีผิดเพี้ยน
เล่นของแรงพอได้เลยนะคิมซอกจิน
ไม่เป็นไร ถ้าพี่อยากเล่นกับไฟ ผมก็จะจัดให้
“พี่ซอกจินมาแล้ว” จูฮยอนทักขึ้นเรียกความสนใจของทุกคนทันที หนุ่มสาวที่สวมชุดสุภาพเหมาะกับการมาสถานที่ราชการส่งยิ้มให้กับทั้งสี่คนแล้วเดินเข้ามาหา
“ไปรับพี่ดาซมนานจังเลยนะครับ ผมนึกว่าพี่ซอกจินมัวแต่ทะเลาะกับพี่โบราเสียอีก”
“หมอนี่จะทะเลาะกับรูมเมทฉันทำไมล่ะ” ดาวปีสามหัวเราะ “เลิกแซวฉันกับโบราได้แล้วน่า มันไม่มีอะไรสักหน่อย”
“ไม่มีอะไรจริงๆ เหรอครับ แต่พี่โบราหวงพี่ออกนอกหน้ามากเลยนะ”
“ซอกจิน นายช่วยน้องไปเลยนะ ฉันไม่ยุ่งแล้ว” ว่าจบ ร่างบางก็ทำท่าจะเดินออกไป แต่รุ่นน้องร่างใหญ่ก็เดินเข้าไปจับไหล่ของรุ่นพี่สาวไว้ก่อน
“โหย พี่ดาซม ผมล้อเล่นน่ะครับ ^o^”
“ก็รู้อยู่ว่าไม่ชอบให้ล้อ นายนี่มันจริงๆ เลย”
“เอาบทให้น้องดูหรือยัง” ซอกจินหันความสนใจออกมาจากสองหนุ่มสาวที่เถียงกันอยู่มาหาดาวปีสอง จูฮยอนพยักหน้ารับ
“ค่ะ น้องๆ กำลังอ่านบทกันเลย”
“เป็นไงบ้างครับ พอไหวกันมั้ย” เสียงหวานถามพร้อมกับมองปีหนึ่งทั้งสองคนตรงหน้า แอบตกใจเล็กน้อยกับสายตาคมของจองกุกแต่ก็ยิ้มมุมปากกลบเกลื่อนทัน
แสดงว่าอ่านบทแล้วสินะ
ก็เขาอุตส่าห์ช่วยแก้ไขบทเองเลยนะ โดยเฉพาะฉากบอกเลิกน่ะ J
“หนูคิดว่าไหวนะคะ ดูยากเสียด้วยสิ”
“เอาน่า ลองดู พี่มั่นใจในตัวเธอนะเยริม” เดือนปีสามส่งยิ้มให้รุ่นน้องสาวที่ดูถ่อมตนจนประเมินตัวเองต่ำกว่าความสามารถก่อนจะหันไปหาคนคุ้นเคย “แล้วนายล่ะจองกุก อ่านบทแล้วพอไหวมั้ย”
“...ก็คิดว่าไหวนะครับ” ร่างสูงส่งยิ้มให้รุ่นพี่หน้าหวาน “แต่ถ้าได้พี่ช่วยเทรนนอกรอบก็คงดีเหมือนกัน มันค่อนข้างจะท้าทายนิดหน่อย”
“พี่ก็คิดว่านายจะชอบเสียอีก ดูแล้วสำหรับนายมันก็ไม่ได้ยากเลยนะ” ตากลมมองท่าทางของคนตรงหน้าก่อนจะหลุดหัวเราะเบาๆ “ก็นายเก่งทุกอย่างเลยนี่นา พี่ก็เลยคิดว่านายต้องทำได้ดีแน่ๆ”
“อ่อ อย่างนี้นี่เองนะครับ” รอยยิ้มยังประดับอยู่บนใบหน้าหล่อ “ผมชอบจังที่พี่สนใจจำเรื่องของผมขนาดนี้ ^^”
“จีบกันพอแล้วมั้งครับ” ฮยอนอูที่ง้อดาวปีสามเสร็จตอนไหนก็โผล่เข้ามาขัดกลางวง ทำลายบรรยากาศแปลกๆ ไปได้ทันที “มาลองต่อบทกันได้แล้ว วันนี้พี่ซอกจินกับพี่ดาซมมาช่วยดูด้วย ทำให้เต็มที่กับครั้งแรกนะทั้งคู่ เดี๋ยวพี่กับพี่จูฮยอนจะช่วยบรี๊ฟให้”
“ค่ะ ^^;;/ครับ ^^” ตอบรับเสร็จ ทั้งหมดก็แยกย้ายเข้าที่ของตัวเอง และจองกุกก็ไม่วาย ลอบส่งรอยยิ้มมุมปากมาให้ร่างเพรียวจนรุ่นพี่ขนลุกวาบแล้วเดินไปเตรียมตัวซ้อม
ซอกจินลอบกลืนน้ำลายเล็กน้อย คนอย่างจองกุกมันคงไม่รู้สึกอะไรอยู่แล้วล่ะ ปกติเขาแข็งข้อแค่ไหนก็ไม่เห็นจะสนใจมากมาย
แต่เขารู้ ว่ารุ่นน้องตัวสูงไม่ชอบให้เขาเอาเรื่องส่วนตัวมาพูดในสาธารณะสักเท่าไหร่
นี่เขากำลังหาเรื่องใส่ตัวอยู่หรือเปล่านะ
ช่างเถอะ ไม่เห็นต้องแคร์เลยนี่
จอนจองกุกไม่ได้น่ากลัวขนาดนั้นหรอก...
เวลาผ่านมาหลายชั่วโมงจนปีสองรู้สึกว่ารุ่นน้องเริ่มล้าแล้ว ก็เลยเลิกซ้อมและแยกย้ายกันกลับ
“แล้วจะให้ฉันไปส่งมั้ยดาซม” ซอกจินถามขึ้นระหว่างที่เดินออกมาพร้อมกับดาวปีสาม หญิงสาวส่ายหน้าพร้อมกับส่งยิ้มให้เพื่อน
“ไม่เป็นไรหรอก เดี๋ยวให้ฮยอนอูไปส่ง หมอนั่นไปทำธุระแถวนั้นพอดี”
“เธอกับฮยอนอูก็ยังไงๆ อยู่นะ คู่กัดจะเปลี่ยนเป็นคู่รักเหรอ ^^”
“นายนี่นะ ติดเชื้อจิ้นคนอื่นไปเรื่อยมาจากน้องหรือไง” ดาซมหัวเราะ “ฉันให้น้องมันชดใช้ที่ล้อฉันกับโบราต่างหาก”
“พี่ดาซม ทางนี้ครับ”
“มาพอดีเลย งั้นฉันไปก่อนนะ” หญิงสาวบอกลาพร้อมกับเดินไปหารุ่นน้องที่คร่อมมอเตอร์ไซด์คันใหญ่อยู่ พอทั้งสองออกไป ซอกจินจึงเดินไปที่รถของตัวเองบ้าง
ถ้าได้เป็นคู่รักกันจริงๆ ก็ดีนะสิ
เขาไม่ได้ขี้ชิปนะ แต่เวลาฮยอนอูกับดาซมเถียงกันมันน่ารักจริงๆ ><
“จะกลับแล้วเหรอครับ พี่จิน”
พระเจ้า จะปล่อยให้เขาอารมณ์ดีเกินหนึ่งนาทีไม่ได้เลยเหรอ - -
คนหน้าหวานถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ก่อนจะหันไปเผชิญหน้ากับคนข้างหลัง “มีอะไรหรือเปล่าจองกุก”
“ก็แค่อยากทักทาย ไม่ได้เหรอครับ” ร่างสูงเดินเข้ามาหาพร้อมกับส่งรอยยิ้มมาให้ ซอกจินค่อยๆ ถอยหลังหนีจนแผ่นหลังแนบกับรถสีดำของตัวเอง จองกุกยกแขนขึ้นมากักตัวรุ่นพี่เอาไว้จนร่างเพรียวเผลอกอดตัวเองเพราะท่าทางคุกคามของอีกคน
“ถะ ถอยออกไปเดี๋ยวนี้นะ”
“ทำไม พี่กลัวผมเหรอ” ไม่ว่าเปล่า มือหนายังไล้ไปตามแก้มนุ่มอีกด้วย “น่าแปลกนะครับ คิมซอกจินคนเก่งหายไปไหนซะแล้วล่ะ”
“...”
“พี่ก็รู้นี่ ว่าผมไม่ชอบให้เอาเรื่องส่วนตัวมาทำแบบนี้”
“ไม่มีใครรู้หรอกน่าว่าเป็นเรื่องของเรา” เสียงหวานเอ่ยพร้อมกับยิ้มมุมปาก “อ้อ หรือว่ากลัวคนอื่นรู้ความเลวของที่นายทำไว้?”
“...เปล่าหรอก ผมก็แค่กลัวว่าคนจะมองพี่เปลี่ยนไปจากเดิม” จองกุกยิ้มร้ายบ้าง “ถ้าคนอื่นรู้เรื่อง พวกเขาก็คงมองว่าเดือนปีสามคณะวิทยาศาสตร์น่ะ ‘ง่าย’ เหมือนกับนางเอกที่พี่แต่ง”
“แล้วง่ายกับแฟนตัวเองมันผิดหรือไงวะ” คำว่า ‘ง่าย’ จากปากของอีกคนทำให้คนถูกกล่าวหาอารมณ์ขึ้นได้ทันที “แต่ฉันก็ยังดีกว่านายนะ ฉันแค่ง่ายกับคนที่ฉันตั้งใจจะให้ แต่นายนี่สิ ขึ้นเตียงกับผู้หญิงมากี่คนแล้วล่ะ ไปตรวจโรคเสียบ้างนะ ฉันเป็นห่วง!”
“หึ ขอบคุณนะครับ แต่พี่ไม่ต้องห่วงหรอก เพราะคนที่ผมมีอะไรด้วยแล้วไม่ป้องกันก็มีแค่พี่คนเดียว” พูดจบ ก็โน้มลงมาใกล้จนปลายจมูกชิดกัน “แต่นักวิทยาศาสตร์ไม่ได้สอนให้เชื่ออะไรง่ายๆ นี่ ลองไปพิสูจน์กับผมมั้ยล่ะ J”
“พิสูจน์บ้าอะไรของนาย แล้วก็ถอยออกไปด้วย” กัดฟันพูดเสียงเฉียบ ก่อนที่มือเรียวจะยกขึ้นมาผลักอกแกร่งแต่ก็โดนมือใหญ่จับกดไว้กับรถด้านหลัง “ปล่อยนะ จอนจองกุก!”
“เก่งนักไม่ใช่เหรอ อยากให้ปล่อยก็ดิ้นให้หลุดสิ”
“ปล่อย มันเจ็บ...”
“เจ็บเหรอ พี่ทำตัวเองนะคิมซอกจิน”
“ปล่อย!!”
“ไอ้จองกุก ปล่อยพี่จินนะเว้ย!” เสียงทุ้มที่สามดังขึ้นก่อนที่ร่างสูงจะโดนดึงออกจากเดือนหน้าหวานทันที แทฮยองดึงคนเป็นพี่ไปด้านหลังของตัวเองก่อนจะหันไปมองรุ่นน้องด้วยแววตาวาวโรจน์ “มึงจะทำอะไรพี่จินวะไอ้เด็กเวร!”
“หึ ตัวเสือกมาอีกแล้วสินะ” จองกุกแค่นหัวเราะ “แล้วไง นี่เรื่องของกูกับพี่จิน มึงมายุ่งอะไร”
“กูบอกแล้วใช่มั้ยว่าอย่ามายุ่งกับพี่จินน่ะ”
“ทำไม ก็เขาเป็นของเล่น...”
พลั่ก!!
ยังไม่ทันจะจบประโยค แทฮยองก็พุ่งไปต่อยหน้าคนอายุน้อยกว่าทันทีโดยซอกจินห้ามไม่ทัน เดือนคนปัจจุบันของวิทยาศาสตร์ล้มลงเพราะไม่ทันได้ตั้งตัว
“กูบอกมึงแล้วว่าห้ามพูดถึงพี่จินแบบนี้อีก” พูดจบก็คว้ามือคนตัวเล็กกว่า “ไปกันเถอะครับพี่จิน”
พลั่ก!!
ไม่ทันจะได้ไปไหน จองกุกก็ลุกขึ้นมาจากพื้นแล้วคว้าตัวเดือนปีสองของบริหารไว้ก่อนจะส่งหมัดที่หนักไม่ต่างกันกลับไป และเพียงชั่วพริบตา ทั้งคู่ก็แลกหมัดกันอย่างไม่มีใครยอมใคร
“นี่ หยุดเดี๋ยวนี้นะ!” ซอกจินพยายามจะเข้าไปห้าม แต่ก็หาจังหวะเข้าไปไม่ได้สักที ระหว่างที่กำลังชุลมุนอยู่นั้น ข้อมือเรียวก็ถูกคว้าไว้ด้วยมือบางของใครบางคนเรียกให้ร่างเพรียวหันไปสนใจทันที
“ใคร... ไอ้ยุนกิ”
“ไปเถอะ” เสียงห้าวบอกนิ่งๆ ก่อนจะดึงเพื่อนสนิทไปอีกทาง แต่คนถูกลากก็ขืนตัวไว้
“แล้วสองคนนั้นล่ะ มึงจะปล่อยให้มันต่อยกันอย่างนั้นน่ะเหรอ”
“ไม่หรอก” ยุนกิตอบ ก่อนจะหันไปหาโฮซอกที่กำลังเดินเข้ามาหา “ฝากที พี่เคยห้ามพวกมันจนเหนื่อยแล้ว เอาน้ำสาดเลยก็ได้ จะได้หายบ้า”
โหดจังวะ -0-
“ครับ” ร่างบางตอบแค่นั้น ก่อนจะเดินเข้าไปหาสองหนุ่มเลือดร้อน ยุนกิจึงลากเพื่อนไปอีกทาง
“ส่วนมึงก็กลับเถอะ เดี๋ยวกูไปส่ง เอารถไว้นี่ก่อน พรุ่งนี้ค่อยมาเอา”
ผ่านมาหลายชั่วโมงแล้วตั้งแต่ที่ยุนกิมาส่งเขาที่คอนโด
ซอกจินนั่งมองกระต่ายของตัวเองที่วิ่งไปทั่วห้องก่อนจะถอนหายใจออกมา ถึงแม้จะออกมาจากเหตุการณ์นั้นแล้ว แต่เขาก็ยังรู้สึกไม่สบายใจ
ทั้งสองคนจะเป็นยังไงบ้างนะ?
กว่าโฮซอกจะห้ามได้ก็คงจะเจ็บหนักกันแล้วแน่เลย
แล้วคนข้างห้องเขาจะเป็นยังไงบ้าง...
ตาหวานเผลอมองไปทางห้องของอีกคน ก่อนจะสะบัดหัวไล่ความคิดไร้สาระออกไปทันที
จะไปห่วงคนร้ายๆ แบบหมอนั่นกันทำไมนะ
เจอแบบนั้นไปบ้างก็ดี จะได้ไม่ต้องพูดจาร้ายๆ ใส่คนอื่นอีก
ร่างเพรียวพยายามลบความเป็นห่วงเด็กปีหนึ่งที่ผุดขึ้นมา เขาควรจะเป็นห่วงคนที่ปกป้องเขาอย่างแทฮยองมากกว่าสิ จริงมั้ย
คิดได้อย่างนั้นก็พยายามทำใจให้เย็นลง แต่สักพัก มือเรียวก็ยกขึ้นทึ้งหัวตัวเอง รู้ตัวอีกที ก็มายืนถือกล่องยาอยู่หน้าห้องของร่างสูงแล้ว
แค่ไม่อยากให้เดือนคณะตัวเองมีรอยแผลเป็นหรอกนะ
กริ๊ง!ๆ
นิ้วเรียวยื่นไปกดกริ่งหน้าห้องของอีกคน เพียงชั่วอึดใจ ประตูก็ถูกเปิดออกโดยเจ้าของห้อง ตาคมมองมาที่รุ่นพี่นิ่งๆ ไม่บ่งบอกอารมณ์
โห เยินพอได้นะเนี่ย -0-
“จะมาทำแผลให้น่ะ” แต่ก็ไม่วาย เสียงหวานที่เอ่ยออกไปก็ยังแข็งๆ อยู่ “พี่จำได้ว่านอกจากทายา คนอย่างนายก็ทำแผลไม่เป็น”
“...กำลังจะไปเคาะประตูห้องพี่พอดี” รอยยิ้มมุมปากปรากฏบนใบหน้าหล่อที่มีรอยแตกช้ำ “บริการถึงที่ก็ดี เข้ามาสิครับ”
ซอกจินเดินตามเจ้าของห้องเข้าไปตามคำเชื้อเชิญ ตาหวานกวาดมองไปรอบๆ การตกแต่งห้องที่เน้นโทนสีแดงกับดำทำเอาร่างบางอดไม่ได้ที่จะยิ้มออกมาบางๆ
ยังชอบสีแดงเหมือนเดิมเลยนะ
“พี่นั่งรอตรงนี้ก่อน เดี๋ยวผมไปเอาน้ำมาให้” ว่าเสร็จก็กำลังจะเดินออกไป แต่มือเรียวก็คว้าข้อมือแกร่งไว้ก่อน
“ไม่ต้องหรอก แค่มาทำแผลให้ ไม่ได้มาเป็นแขก”
“อ้าวเหรอ นึกว่าที่มาเพราะอยากอยู่กับผมนานๆ เสียอีก” จองกุกว่าหยอกแต่ก็ยอมนั่งลงตามคำพูดของอีกคน
“ไร้สาระ ปากแตกแบบนี้ยังจะพูดมากอีก” เสียงหวานว่าพร้อมกับกลอกตาเล็กน้อย ก่อนจะหันไปเปิดกล่องยาของตัวเอง “ล้างแผลแล้วใช่มั้ย”
“ครับ”
“ล้างบ้าอะไรถึงยังมีคราบเลือดเกาะอยู่แบบนั้นล่ะ” ซอกจินพูดเพราะเพิ่งสังเกตเห็น “นั่งนิ่งๆ นะ จะเช็ดแผลให้ก่อน”
ตาคมมองตามคนหน้าหวานที่เดินไปล้างมือในห้องครัวก่อนจะกลับมานั่งที่เดิม มือเรียวใช้ที่คีบคีบสำลีขึ้นมาหนึ่งก้อน ชุบแอลกอฮอล์แล้วเช็ดรอบๆ แผลของเขาอย่างเบามือ
ร่างสูงนิ่วหน้าเล็กน้อยเพราะความแสบ แต่ตาโตคมก็ยังมองคนตรงหน้า ใบหน้าน่ารักที่ฉายแววจริงจังทำให้จองกุกเผลอยกยิ้มในใจ
นึกถึงเมื่อก่อนตอนเขามีเรื่องกับพวกที่มาจีบของเล่นคนนี้เลย ซอกจินก็มานั่งทำแผลด้วยสีหน้าแบบนี้ทุกครั้ง
ซอกจินทำแผลด้วยความตั้งใจตามประสาคนละเอียดอ่อน จนไม่รู้ตัวเลยว่าทั้งสองคนอยู่ใกล้กันมากแค่ไหน
กว่าจะรู้ตัว ก็คือตอนที่เงยหน้าสบตาคมนั่น
ร่างเพรียวแอบกลืนน้ำลายเล็กน้อย ระยะที่ใกล้จะสัมผัสได้ถึงลมหายใจของกันและกันทำเอาเขาประหม่า ยิ่งดวงตาคมคู่นั้นที่มองไปทั่วใบหน้าของเขาก็ยิ่งทำให้รู้สึกแปลกๆ
“พี่แม่ง...โคตรน่ารักเลยว่ะ”
“...”
“น่าจูบชะมัด”
“...พูดจาน่าเกลียดว่ะ” ถึงปากจะพูดอย่างนั้น แต่ก็ไม่ผละออกมา หนำซ้ำ ยังหลับตาพริ้มรอรับสัมผัสจากจองกุกอีกต่างหาก
แต่ในจังหวะที่ริมฝีปากใกล้กัน เสียงโทรศัพท์ของรุ่นพี่ก็ดังขึ้น
ซอกจินได้สติก่อนจะผละออกมา มือเรียวล้วงโทรศัพท์เครื่องใหญ่สีชมพูของตัวเองออกจากกระเป๋ากางเกง พอเห็นว่าใครโทรมาก็รีบลุกขึ้นไปรับอีกทางทันที
“ว่าไง แทฮยอง”
แต่ห้องที่เงียบมาก ต่อให้จะพูดเบาแค่ไหน อีกคนก็ยังได้ยิน
จองกุกขมวดคิ้วทันทีที่รู้ว่าใครโทรมาหาเดือนปีสาม ก่อนจะหลุดยิ้มมุมปากออกมา
ถ้าฝ่ายนั้นรู้ว่าพี่จินอยู่กับเขา จะเป็นยังไงนะ
“พี่ต่างหากที่ต้องถาม ว่านายเป็นอะไรมากมั้ย... แล้วทำแผลแล้วใช่มั้ย งั้นก็พัก...”
“พี่จิน ถ้าไม่ทำแผลต่อผมจะไปนอนแล้วนะ” เสียงทุ้มแกล้งตะโกนดังๆ จนร่างเพรียวสะดุ้ง ซอกจินหันไปทำตาขวางใส่รุ่นน้องก่อนจะตอบรับกลับมา
“รู้แล้วน่า งั้นแค่นี้ก่อนนะแทฮยอง” ตอบรับในสาย ก็รีบตัดสายแล้วเดินมานั่งที่เดิม “รู้นะว่าทำแบบนี้เพราะอะไรอ่ะ อยากมีเรื่องกันอีกหรือไง”
“ไม่รู้สิ แต่ถ้ามีเรื่องแล้วพี่มาทำแผลให้แบบนี้ตลอดก็ดีนะครับ ^^”
“ไร้สาระ” เสียงหวานตัดอย่างเย็นชา “ทำแผลต่อได้แล้ว พี่จะได้กลับห้องเสียที”
จองกุกยิ้มมุมปาก ถึงจะพูดจาแบบนั้นแต่ซอกจินก็ยังเหมือนเดิมอยู่ดี “ครับผม ^^”
“(พี่จิน ถ้าไม่ทำแผลต่อผมจะไปนอนแล้วนะ)” เสียงทุ้มของศัตรูที่ลอดเข้ามาในสายทำให้แทฮยองเบิกตากว้างด้วยความตกใจ แต่ยังไม่ทันได้พูดอะไร คนหน้าหวานที่เขาโทรหาก็ตัดสายไปก่อน
หมายความว่ายังไง
ทำไมพี่จินของเขาถึงไปอยู่กับไอ้เด็กเวรนั่น
หรือว่า...
ตอนที่ต่อยกับจองกุกอยู่ หางตาเขาเหลือบไปเห็นว่ารุ่นพี่หน้าหวานถูกใครบางคนพาออกไป
มินยุนกิ...
ถึงขั้นเอาเพื่อนตัวเองไปส่งให้จองกุกถึงที่เลยเหรอ
มือหนากำแน่นด้วยโทสะ ไวกว่าความคิด แทฮยองก็หยิบกุญแจรถแล้วเดินออกจากบ้านของตัวเองทันที
ได้เห็นดีกันแน่ พี่ยุนกิ
ใช้เวลาเพียงไม่นาน ดูเหมือนการจราจรจะเป็นใจให้แทฮยองมาถึงคอนโดของยุนกิอย่างรวดเร็ว
มือหนากดลิฟต์ที่เลขชั้นที่ยุนกิอยู่ทันที รอจนประตูลิฟต์เปิด ขายาวก็ก้าวออกมาแล้วเดินไปที่ห้องของรุ่นพี่ตัวขาวทันที
ก๊อกๆๆ
“ใครครับ... อ้าว แทฮยอง” รอเพียงชั่วครู่ ห้องก็ถูกเปิดออกพร้อมกับเสียงห้าวที่เอ่ยทัก ยิ่งเห็นหน้ามึนๆ ของร่างเล็กก็ยิ่งทำให้โทสะของเขาพุ่งสูงขึ้น มือใหญ่คว้าที่ไหล่แคบแล้วผลักเข้าไปห้องพร้อมกับกดลงบนผนังอย่างแรงจนยุนกินิ่วหน้า
“โอ๊ย! ไอ้เชี่ยแทฮยอง ทำบ้าอะไรของมึง!”
“ผมต่างหากที่ต้องถามว่าพี่ทำอะไร!”
“กู? กลับมากูก็นอนเลย ไม่ได้ไปทำห่าอะไรให้ใครเลย” ร่างเล็กขมวดคิ้วอย่างสงสัยจริงๆ แต่ร่างสูงกลับมองว่ามันเสแสร้ง
“ไม่ได้ทำ แล้วพี่จินที่พี่พาออกไปไปอยู่กับไอ้เชี่ยจองกุกได้ยังไง!”
“ฮะ!!” ยิ่งได้ยินแบบนั้น คิ้วเรียวก็ยิ่งขมวดเข้าหากัน “กูไม่รู้เรื่อง กูก็ไปส่งไอ้จินที่คอนโดมัน มันจะไปอยู่ด้วยกันได้ยังไง”
“พี่ไม่รู้แล้วผมจะรู้ได้ยังไงล่ะ” แทฮยองแค่นหัวเราะ “จริงสิ พี่ก็พร้อมจะจับพี่จินส่งให้ไอ้เด็กนั่นมาตั้งนานแล้วนี่”
“มึงยังไม่เลิกเข้าใจผิดอีกเหรอวะ” ร่างขาวถอนหายใจ ก่อนจะปัดมือรุ่นน้องออกเต็มแรง “งั้นกูก็ไม่มีอะไรจะพูด ออกไปได้แล้ว”
“พี่ไม่มีสิทธิหนีผมถ้าเรายังเคลียร์กันไม่จบ” เสียงทุ้มเอ่ยอย่างเกรี้ยวกราดพร้อมกับคว้าร่างเล็กให้หันกลับมา มือแกร่งบีบคางเรียวแน่นจนยุนกินิ่วหน้า
“ปล่อยนะ! กูเจ็บ!!”
“เจ็บก็เล่าออกมาสิว่าพี่จินไปอยู่กับไอ้เวรนั่นได้ยังไง”
“กูก็บอกไปแล้วว่ากูไม่รู้! คาดคั้นให้ตายกูก็ไม่รู้ อีกอย่าง กูไม่ได้เข้าข้างไอ้จองกุก กูไม่จำเป็นต้องส่งเพื่อน... อื้อ!!” ยังไม่ทันทีที่จะพูดจบ ริมฝีปากของร่างสูงก็เข้ามาดูดกลืนคำพูดของเขาเพราะได้คำตอบไม่ตรงใจ ยุนกิเบิกตากว้างอย่างตกใจ ก่อนจะทุบไหล่กว้างอย่างแรงเพื่อให้ปล่อยเขาแต่ก็ไม่มีประโยชน์แต่อย่างใด
แทฮยองเผลอขาดสติไปชั่วขณะ จากที่ตั้งใจจะสั่งสอนอีกคนที่เข้ามายุ่งกับเรื่องของเขาแต่รสหวานที่ได้รับก็มอมเมาสติเขาไปได้ทันที รู้ตัวอีกทีก็ตอนที่มือเล็กนั่นทุบแรงขึ้น ร่างสูงจึงส่งสัมผัสที่ไม่น่าจดจำกลับไปก่อนจะค่อยๆ ผละออกมาช้าๆ
และเป็นจังหวะที่ประตูก็ถูกเปิดออก!
ทั้งสองหันไปมองพร้อมกัน ก่อนที่ยุนกิจะเบิกตากว้างด้วยความตกใจในขณะที่รุ่นน้องกลับยกยิ้มมุมปาก
เพราะคนที่เข้ามาก็คือแฟนของคนตัวเล็กนี่ไง
“พวกมึง...” นัมจุนที่เห็นท่าทางแปลกๆ ครางในลำคอ แต่พอหันไปเห็นยุนกิที่ทำหน้าเหมือนจะร้องไห้ ร่างสูงก็หันไปเล่นงานรุ่นน้องทันที “ไอ้แทฮยอง มึงทำอะไรแฟนกู!”
“ก็เปล่านี่ครับ” คนผิวเข้มยังลอยหน้าลอยตา “แค่แวะมา ‘ทักทาย’ พี่ยุนกิก็เท่านั้นเอง ใช่มั้ยครับ”
“...”
“งั้นผมไปก่อนนะครับ” มือหนาถือวิสาสะลูบผมของยุนกิอย่างแผ่วเบาก่อนจะเดินออกไป นัมจุนมองตามหลังอีกคนอย่างงงๆ ก่อนจะหันกลับมาหาแฟนตัวเอง
“มีอะไรเหรอยุนกิ”
“ไม่รู้...” เสียงห้าวตอบรับแผ่วเบา ก่อนจะทรุดลงเพราะแรงกดดันเมื่อครู่จนแฟนหนุ่มต้องรีบเข้ามาประคองด้วยความตกใจ น้ำตาที่ไหลออกมาช้าๆ จากคนที่ร้องไห้ยากมากยิ่งทำให้นัมจุนตกใจยิ่งกว่าเดิม
“เป็นอะไร ยุนกิ”
“ไม่รู้ ฮึก กูไม่รู้” เสียงห้าวสะอึกสะอื้นอย่างน่าสงสาร “นัมจุน กูขอโทษ ฮึก กูขอโทษนะ”
“ไม่เป็นไรนะมึง” ว่าพร้อมกับแขนแกร่งที่โอบคนตัวเล็กเข้าหา น้ำเสียงอ่อนโยนเอื้อนเอ่ยออกมาพร้อมกันมือแกร่งที่ลูบหัวคนที่ซบบนอกอย่างปลอบโยน “มึงไม่ได้ทำอะไรสักหน่อย ขอโทษกูทำไม”
“ฮึก กูขอโทษ”
“ไม่เอา ไม่ร้องแล้วนะครับคนเก่ง” ร่างสูงกดจูบที่ขมับของคนตัวขาวเบาๆ พร้อมกับเอ่ยปลอบทั้งที่ในใจมีแต่ข้อสงสัย
แทฮยองกับยุนกิทะเลาะอะไรกันนะ
ถามยุนกิเองคงไม่ได้คำตอบแน่ๆ กับแทฮยองเขาก็เริ่มเกลียดมันแล้วที่ทำให้คนตัวเล็กของเขาร้องไห้หนักขนาดนี้
อ้อ นึกออกแล้ว
คนใกล้ชิดกับทั้งคู่อย่างจองโฮซอกต้องรู้เรื่องแน่ๆ
--------------------------------------------------------------------
เหลือแค่ม่อนโฮปนะคะที่ยังไม่รุนแรง (และเราหวังด้วยว่าอารมณ์เราจะไม่พาให้เขารุนแรง 55555) สวัสดีค่ะ จะไม่พูดมากเพราะต้องรีบนอนแล้ว เรามีภารกิจนิดหน่อยต้องไปทำ เข้าเรื่องเลยแล้วกัน ยังไม่มีคู่ไหนมีความสัมพันธ์อันดีงามต่อกันเลย 5555 นี่พยายามฟังเพลงดราม่ากล่อมอารมณ์แต่ก็ไม่ค่อยได้ประโยชน์ เพราะปกติก็ชอบฟังเพลงเศร้าอยู่แล้ว 555555 ถ้าเกิดแต่งไม่ดีต้องขออภัยด้วยนะคะ เอาเป็นว่า ตอนหน้าจะเป็นอย่างไรนั้น ต้องติดตามนะคะ ^^
ปล. เป็นกำลังใจให้คนสะดุดธรณีประตูด้วยนะคะ (พี่ก้ามองแรง -0-) โอ๊ย ตายๆๆ พ่อคุณ ทำยังไงให้เจ็บตัวเนี่ย
ปล. ช่วงนี้เรือกุกจินแล่นดีจังเลยนะคะ -w-
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

ซอกจิน ไม่ต้องไปทำแผลให้เลย คนแบบนี้ร้ายกาจจะตายไป
แล้วทำไมแทฮยองถึงได้ติดเชื้อจอนจองกุกไปด้วยเนี่ยยย โอยย สงสารยุงเกะ แล้วนี่นัมจุนจะไปถามจากฮปอีก โนววว มีความพันกันยุ่งเหยิงเลยคร่ะ
นังแททะเลาะกับอิกุกมากไปค่ะ เชื้อซึมผ่านหมัดมาได้ (สาบานว่าไรท์เรียนไบโอ 55555)
เราจะไม่ทำให้มันวุ่นวายกว่านี้ค่ะ ถ้าเป็นไปได้ (ขีดเส้นใต้คำว่าเป็นไปได้ห้าพันเส้น 5555555)
แกรโกรธพี่เขาแต่ก็ไปรังแกกันแบบนี้ไม่ได้นะยะ โอ้ย
จองกุกก็ยังคงความผีได้เสมอต้นเสมอปลาย เริ่มปลงกับเด็กนี่แล้ว ; 7 ;
ม่อนโฮปนี่ขอเบาๆหน่อยนะคะ 55555
ชอบตรงคงความผีอ่ะ 5555 อย่าเพิ่งปลงกับน้องเลย จริงๆ น้องเป็นคนน่ารัก (ใครจะเชื่อแกวะ -0-)
ม่อนโฮปจะไม่รุนแรงนะคะ ถ้าเป็นไปได้ 555555
เมอร์รี่คริสต์มาสต์นะคะไรท์ :)
โอ๊ะ เมอร์รี่คริสต์มาสย้อนหลังค่ะ ^^ เราก็ลืมไปเลยว่าวันที่เราอัพคือวันคริสต์มาส 55555