ตอนที่ 18 : Chapter 15
บทที่ 15
และแล้วเวลาพักหลังสอบกลางภาคก็หมดลง
วันนี้ก็เปิดเรียนตามปกติ
ซอกจินมานั่งอยู่ที่มหาวิทยาลัยแล้ว ร่างเพรียวกำลังนั่งอ่านนิยายที่เพิ่งซื้อมาระหว่างรอเรียนที่ม้าหินอ่อนที่เดิม เพราะวันนี้เขาตื่นเช้ากว่าปกติ แม้จะใช้เวลาเล่นกับกระต่ายน้อยของตัวเองไปนานแล้วแต่เขาก็ยังมาไวทั้งที่เรียนสิบเอ็ดโมงอยู่ดี
เฮ้อ คงเพราะคิดอะไรหลายเรื่องล่ะมั้ง เขาถึงเป็นขนาดนี้
ชีวิตช่วงนี้เจอแต่อะไรวุ่นวายจริงๆ
“อ้าว ซอกจิน” เสียงหวานที่คุ้นเคยทักขึ้น ก่อนที่ร่างบางของเพื่อนสนิทจะเดินมานั่งข้างๆ “มาไวจังเลยวันนี้”
“ตื่นเช้าไปหน่อยน่ะ มีอะไรให้คิดเยอะ” ชายหนุ่มตอบกลับ “เธอล่ะ? มาไวเหมือนกันนะ”
“ฉันก็มาไวเป็นปกติอยู่แล้วป่ะ” ฮเยมินยิ้มทะเล้นตามแบบของเธอ “เป็นไงบ้าง ช่วงหยุดไปไหนมาบ้างคะเพื่อนคนสวย”
“ก็ไม่ได้ไปไหนหรอก นอกจากไปเที่ยวกับแทฮยอง...”
“ฮั่นแน่ แอบไปเดทกันมาเหรอ ไม่เห็นเล่าให้ฟังเลย”
“ก็กะจะโทรไปเล่าให้ฟังนั่นแหละ แต่ตลอดวันหยุดเธอรับสายฉันที่ไหนล่ะ ไลน์ไปก็ไม่ตอบ ฉันก็นึกว่าเธอไปเที่ยวต่างจังหวัดซะอีก”
“อ่อ จริงด้วยสินะ” หญิงสาวตอบแค่นั้น ก่อนจะส่งยิ้มเจื่อนๆ ไปให้เพื่อน “โทษทีนะ ติดธุระนิดหน่อยอ่ะเลยไม่ได้ติดต่อใครเลยนอกจากแก๊งฉันน่ะ”
“ไม่ได้จะว่าอะไรสักหน่อย อย่าทำหน้าแบบนั้นสิ” คนหน้าหวานหัวเราะก่อนจะก้มลงอ่านนิยายต่อตามเดิม
ฮเยมินมองเพื่อนที่ก้มอ่านหนังสือก่อนจะยิ้มออกมาบางเบา ตาคู่สวยฉายแววเศร้าเล็กน้อยก่อนจะหายไปอย่างรวดเร็ว
ขอโทษนะ เพียงแต่เธอต้องใช้เวลาสมานแผลที่จองกุกไปสะกิดมันเท่านั้นเอง
อุตส่าห์กดมันไว้มาตั้งนานแล้วเชียว แต่เพียงแค่ไปโดนนิดหน่อย แผลก็เปิดจนได้
หลายคนอาจจะคิดว่ามันไม่ใช่เรื่องใหญ่นะ แต่ถ้าลองมาเจอเองแล้วจะรู้
จริงอยู่ที่เพื่อนสนิทในกลุ่มก็พัฒนาความสัมพันธ์เป็นคนรักกัน แต่ทั้งฮยอนอากับฮเยมิก็คิดเหมือนกันไง
แต่ในกรณีของเธอกับซอกจินมันต่างกัน...
เธอเคยเห็นคนที่แอบรักเพื่อนแต่อีกฝ่ายไม่ได้คิดเหมือนกัน สุดท้ายพอสารภาพออกไป สองคนนั้นก็กลายเป็นคนที่ไม่รู้จักกัน
เธอไม่อยากเป็นแบบนั้น เธอทำใจไม่ได้แน่ถ้าซอกจินจะเปลี่ยนไปเย็นชาแบบนั้น
ดังนั้น ขอแค่เป็นเพื่อนสนิทที่อยู่ข้างๆ แบบนี้ก็พอ แค่นี้เธอก็พอใจแล้ว
แต่ถ้าต้องการปิดเป็นความลับ แปลว่าหญิงสาวจะต้องเพิกเฉยกับการที่จองกุกกำลังคุกคามเพื่อนสนิทหน้าหวานของตัวเอง ซึ่งเอาจริงๆ แล้วเธออยู่นิ่งๆ แบบนั้นไม่ได้แน่
จะทำยังไงดีนะ
“โอ๊ะ พี่ซอกจิน อยู่นี่นี่เอง” เสียงหวานใสที่คุ้นเคยปลุกให้หญิงสาวตื่นจากความคิด ทั้งสองหันไปมองก็เห็นฮยอนอูกับจูฮยอนวิ่งเข้ามาหาอย่างอารมณ์ดี รุ่นน้องทั้งสองเข้ามาโดยไม่ลืมที่จะโค้งทักทายเพื่อนสาวของเดือนปีสามอีกด้วย
“มีอะไรเหรอ”
“พอดีว่าผมกับจูฮยอนวางไดอะล็อกเสร็จแล้วน่ะครับพี่” เสียงทุ้มว่า ก่อนจะล้วงกระดาษปึกหนึ่งออกมาให้รุ่นพี่หน้าหวาน “พวกผมเห็นว่าพี่เป็นคนร่างพล็อตเรื่อง เลยอยากให้ช่วยดูให้หน่อยน่ะครับ”
“อ๋อ ได้สิ เดี๋ยวเรียนเสร็จแล้วพี่ดูให้นะ”
“ขอบคุณนะคะ พี่ซอกจินใจดีมากเลย ><”
“ไม่ต้องเลยจูฮยอน เพราะยังไงพวกเธอก็ต้องเทรนน้องเอง พี่จะช่วยดูแค่เล็กๆ น้อยๆ นี่แหละ” ซอกจินว่ายิ้มๆ เอาจริงๆ ถ้าน้องมาขอให้ช่วยเขาก็ต้องช่วยอยู่ดี
“ยังไงพี่ซอกจินก็ต้องช่วยเราอยู่ดี ก็พี่รับปากแล้วนี่ครับว่าจะช่วยดูจองกุกอ่ะ ^o^”
“พวกนายนี่มันจริงๆ เลยนะ” เสียงหวานว่าอย่างไม่จริงจัง “ถ้ามีอะไรให้ช่วยก็บอกแล้วกัน ส่วนบทเดี๋ยวพี่จะดูให้ แต่ไม่รับปากว่าจะภายในพรุ่งนี้นะ”
“ได้ค่ะ ขอบคุณนะคะพี่ซอกจิน ><”
“อื้อ รีบไปเรียนเถอะ ตรงนี้ไม่ต้องห่วง เดี๋ยวพี่ดูให้”
“เราสองคนเรียนเสร็จแล้วค่ะ วันนี้พวกหนูมีเรียนคาบเดียว” หญิงสาวว่า “นายไปไหนต่อหรือเปล่าฮยอนอู จะนัดน้องมั้ย ฉันไปสืบตารางปีหนึ่งมาแล้ว ตอนบ่ายน้องว่างทั้งคู่เลย”
“ไม่ต้องหรอก เธอมีนัดไม่ใช่หรือไง” ฮยอนอูว่าพลางส่งสายตากรุ้มกริ่มให้เพื่อนสาว “เดี๋ยวกลับไว หมีน้อยของเธอจะไม่พอใจนะ”
“ไม่ต้องมาแซวเลย” จูฮยอนค้อนเพื่อนทันทีก่อนจะก้มหัวให้สองรุ่นพี่แล้วหันกลับมาที่ชายหนุ่มอีกครั้ง “หนูต้องไปแล้วนะคะพี่ซอกจิน พี่อีริน ^^ ไปละ ปล่อยให้เขารอนานคงไม่ดีหรอกนะใช่มั้ยเพื่อน”
“จ้าาา เอาที่สบายใจเลยแม่คุณ” ฮยอนอูตะโกนตามหลังเพื่อนก่อนจะหันมาหารุ่นพี่บ้าง “งั้นผมไปบ้างนะครับ ขอบคุณพี่ซอกจินอีกครั้งนะครับที่ช่วย”
“เรื่องเล็กน้อยน่า ขอบคุณบ่อยๆ แบบนี้พี่ก็เริ่มรู้สึกแปลกๆ แล้วนะ” รุ่นพี่หน้าหวานหัวเราะ “ไปเถอะ พี่ก็จะขึ้นเรียนแล้วเหมือนกัน”
“ครับผม ^o^”
พอคนอายุน้อยกว่าเดินออกไป ฮเยมินก็รีบมองบทที่เพื่อนสนิทของตัวเองกำลังเปิดอ่านอยู่ทันที
“อะไรอ่ะ 0.0”
“ละครดาวเดือนน่ะ” ซอกจินตอบทั้งที่ยังเปิดบทดูคร่าวๆ “ทั้งสองคนแต่งดีพอได้เลยแฮะ ขนาดฉันพูดไปแค่นิดหน่อยนะเนี่ย”
“นายแต่งพล็อตเองเหรอ”
“อื้อ ไม่ได้ตั้งใจหรอก มันหลุดไปเองน่ะ” เสียงหวานว่าก่อนจะเก็บบทก่อนที่เพื่อนของตัวเองจะเห็น “ขึ้นกันเถอะ จะได้เวลาแล้ว”
ฮเยมินเดินตามเพื่อนสนิทพร้อมกับมองแผ่นหลังของคนที่เดินนำ ถึงแม้เดือนหน้าหวานจะเก็บมันไว้แต่เธอก็พอจะดูออกว่าเรื่องมันเป็นแบบไหน
ถ้าเพื่อนเธอกล้าเอาเรื่องตัวเองมาแต่งแบบนี้แปลว่าต้องพร้อมรับมือกับไอ้เด็กนั่นแน่ๆ
ถ้าจองกุกรู้ว่าบทเป็นแบบนี้ มันจะเป็นยังไงนะ?
“นายไปไหนต่อมั้ยอ่ะ” ฮเยมินถามขึ้นหลังจากที่ทั้งคู่กำลังลงมาจากตึกเรียน เดือนปีสามก้มมองนาฬิกาข้อมือของตัวเองก่อนจะเงยหน้ามาตอบเพื่อน
“เดี๋ยวไปกับยุนกิต่อน่ะ มันให้ไปช่วยเลือกซื้อของฉลองวันครบรอบให้แฟนมัน จะไปด้วยกันมั้ย”
“ไม่อ่ะ ฉันมีนัดกับกลุ่มต่อ อ๊ะ นั่นไง มารอกันพอดีเลย” เธอว่าพร้อมกับชี้ไปที่กลุ่มสาวสวยทั้งเจ็ดคนที่กำลังนั่งคุยกันอย่างสนุกสนาน “งั้นเจอกันพรุ่งนี้นะ”
“อื้อ เจอกัน” เสียงหวานตอบก่อนจะหยิบโทรศัพท์ในกระเป๋ากางเกงออกมา รอจนเพื่อนสาวและกลุ่มของเธอเดินออกไป เขาจึงเดินออกมาบ้าง ตากลมกวาดมองหารถของตัวเองพร้อมกับมือข้างหนึ่งที่เลื่อนหน้าจอหาเบอร์โทรศัพท์ของเพื่อนด้วย
“ฮัลโหล ไอ้กิ จะให้กูไปช่วยเลือกของอยู่ป่ะ”
“(ช่วยดิวะ มึงอยู่ไหนแล้ว กูกำลังจะออกจากบ้าน)”
“กูเพิ่งเรียนเสร็จ กำลังจะออกจากมอ งั้นไปเจอกันที่ห้างเลยเนอะ”
“(โอเคๆ)”
พอผู้เป็นเพื่อนตอบรับ ซอกจินก็กดวางสาย มือบางเก็บโทรศัพท์ใส่กระเป๋ากางเกงเหมือนเดิมก่อนจะกดรีโมทกุญแจรถเพื่อปลดล็อก
แต่ร่างเพรียวก็ไม่ได้เดินไปถึงรถอย่างที่ตั้งใจจะทำ
แขนเรียวถูกกระชากกลับไปอย่างรวดเร็วจนตกใจ เมื่อหันไปเขาก็พบกับหญิงสาวสามคนที่พอจะจำได้ว่าเป็นเพื่อนร่วมรุ่นแต่คนละสาขา
ว่าแต่ มีเรื่องอะไรเหรอ ทำไมต้องกระชากกันแรงขนาดนี้ด้วย -0-
“เอ่อ พวกเธอมีอะไรหรือเปล่า”
“คิดว่าหน้าสวยแล้วจะทำอะไรก็ได้งั้นเหรอ”
พูดอะไรของมันวะ -0-
“พูดอะไรของเธอน่ะ”
“ยังมาทำหน้าซื่ออีกนะ” หญิงสาวผมสั้นประบ่ามองเหยียดใส่ชายหนุ่มหน้าสวยก่อนจะเดินไปรอบๆ ตัวของเขา “ตอนน้องแทฮยองพวกฉันก็สุดทนแล้วนะ ตอนนี้ยังมาน้องจองกุกอีก เห็นนิ่งๆ แบบนี้ก็ร้ายไม่เบาเลยนี่”
“อย่างนี้เขาเรียกว่าแรดเงียบไงล่ะ”
โอเค เขาพอจะเดาออกละว่าโดนหาเรื่องเพราะอะไร
“ฉันว่าพวกเธอเข้าใจผิดอยู่หลายเรื่องนะ” ซอกจินถอนหายใจ “ไว้ไปสืบเรื่องมาให้ถูกต้องก่อนนะค่อยมาหาเรื่องกัน”
ร่างเพรียวทำท่าจะเดินกลับไปที่รถอีกครั้ง แต่ก็ถูกคว้าตัวให้หันไปอีกครั้งก่อนที่มือเรียวของหญิงสาวที่เงียบมาตั้งแต่ต้นยังเข้ามาบีบที่สันกรามของเดือนปีสามอย่างแรงจนเขานิ่วหน้าด้วยความเจ็บ
ผู้หญิงบ้าอะไรแรงเยอะชะมัด
แต่ถึงกระนั้นซอกจินก็ยังไม่สะบัดออก เพราะไม่อยากได้ชื่อว่าทำร้ายผู้หญิง (ทั้งที่ถ้าสะบัดจริงๆ จะหลุดหรือเปล่าก็ไม่รู้ แรงเยอะขนาดนี้ -0-)
“แกไม่มีสิทธิเดินหนีถ้าพวกฉันยังพูดไม่จบ” หญิงสาวกัดฟันพูดเสียงเย็น “คนอย่างแกมันมีอะไรน่าสนใจนะ ทั้งที่เป็นผู้ชายแท้ๆ”
“อยากรู้หรือไง” หนุ่มหน้าหวานเหยียดยิ้ม ร้ายมาก็ร้ายกลับ ไม่โกง “ไปถามผู้ชายของเธอซะสิ จะได้รู้ ถามฉันก็ไม่ได้คำตอบหรอก”
“แกจะบอกว่าทั้งแทฮยองกับจองกุกไปหลงแกเองหรือยังไง”
“ไม่รู้สิ เพราะฉันก็ไม่เคยไปบังคับให้สองคนนั้นมาสนใจ” ตาคู่สวยส่งแววเย้ยหยันกลับไป “แทนที่จะมาหาเรื่องฉัน ไปหาทางให้สองคนนั้นสนใจพวกเธอดีกว่ามั้ย ทำร้ายฉันไปก็มีแต่จะทำให้แทฮยองโกรธเปล่าๆ”
ไม่ได้หลงตัวเองหรอกนะ แต่คนที่ตามจีบเขาต้องไม่พอใจแน่ถ้าเขาโดนหาเรื่องแบบนี้ J
“ปากดีนักหรอ” หล่อนว่าพร้อมกับบีบสันกรามของเดือนปีสามคณะตัวเองแรงขึ้น “ช่วยดูจำนวนด้วยนะว่าพวกฉันมีสามคน”
“จะหมาหมู่ก็บอก แก้ปัญหาได้โคตรมัธยมเลย” ซอกจินก็ยังไม่กลัวพวกหล่อนแต่อย่างใด “แล้วไง แต่ฉันเป็นผู้ชาย แรงฉันเยอะกว่าพวกเธออยู่แล้ว”
“เอาความมั่นใจมาจากไหน แค่นี้แกยังไม่มีปัญญาสะบัดออกเลยคิมซอกจิน” เธอว่าพร้อมกับยิ้มมุมปากก่อนจะหันไปหาเพื่อนอีกสองคนของตัวเอง “เฮ้ย ล็อกมันไว้ ฉันล่ะอยากรู้จริงๆ ว่าถ้าหน้าสวยๆ ของมันเสียโฉม จะเป็นยังไง”
หญิงสาวสะบัดใบหน้าของร่างเพรียวจนหน้าหัน ก่อนที่อีกสองคนจะเข้ามาทำท่าเหมือนจะจับแขนทั้งสองข้างของซอกจินเอาไว้
แต่ไม่ทันจะได้ทำอะไร เสียงของใครบางคนก็ชะงักการกระทำของทุกคนได้ทันที
“คิดจะทำอะไร ‘คนของผม’ เหรอครับ พี่สาว ^^” จองกุกเดินเข้ามาพร้อมรอยยิ้ม แต่ตาไม่ได้ยิ้มไปด้วย “ว่าไงครับ คิดจะทำอะไรพี่จินของผมเหรอครับ”
ทั้งสามคนถอยออกจากซอกจินทันทีเมื่อเห็นท่าทางที่ดูน่ากลัวซึ่งแตกต่างจากที่พวกเธอเห็นรุ่นน้องคนนี้ในคราบเด็กหนุ่มใสซื่ออยู่ตลอด เป็นจังหวะให้ร่างสูงเดินเข้ามาบังตัวรุ่นพี่หน้าหวาน
“เอ่อ คือ...”
“คิดจะแตะต้องคนของผม มันไม่ง่ายหรอกนะครับ” พูดจบ ก็คว้าข้อมือเรียวของรุ่นพี่หน้าหวานไว้ “อย่าให้ผมเห็นว่าพี่มายุ่งกับพี่จินอีก ไม่งั้นอย่าหาว่าผมไม่เตือน”
“คนอย่างมันมีอะไรดีงั้นเหรอ” หญิงสาวถามอย่างเกรี้ยวกราดในขณะที่จองกุกกำลังจะพาซอกจินออกไป “มันเป็นผู้ชายนะ ถึงหน้าจะสวยก็เถอะ แต่มันเป็นผู้ชาย...”
“แล้วไงหรอครับ” เสียงทุ้มขัดขึ้นทำให้หญิงสาวเงียบลงทันที “ผู้ชายแล้วไงครับ ยังไงพี่เขาก็เป็นคนของผม”
“...”
“อ้อ แล้วที่พี่ถามผมเมื่อกี้ว่าคนคนนี้มีดีอะไร ผมก็จะตอบให้”
“...”
“ตรงที่เขาคือคิมซอกจินยังไงล่ะครับ J”
พอจองกุกช่วยเขาออกมา ก็ไม่มีใครพูดอะไรออกมา
มีแค่ตอนออกมาคือจองกุกโทรไปบอกใครสักคนให้เอามอเตอร์ไซด์ของเขาไปเก็บให้ด้วย เพราะร่างสูงเป็นคนขับรถให้เขาแล้ว และพอถึงคอนโด คนหน้าหล่อก็ทำแค่ลงจากรถและเปิดประตูให้คนหน้าหวาน จากนั้นก็เดินนำขึ้นห้อง
ตาหวานได้แต่มองแผ่นหลังกว้างตรงหน้าด้วยความไม่เข้าใจ
ทำแบบนี้ทำไม...
ก็ไม่ได้แคร์กันอยู่แล้วไม่ใช่เหรอ มาช่วยเขาทำไม
“เปิดประตูสิพี่” เสียงทุ้มปลุกให้ร่างเพรียวตื่นจากความคิด จองกุกมองนิ่งๆ มาที่รุ่นพี่เรียกให้ซอกจินขนลุกเพราะไม่ชิน “จะได้เข้าไปกัน”
“เอ่อ นายจะเข้าไปทำไม”
“หล่อนบีบแรงจนมันขึ้นรอยช้ำ” ไม่ว่าเปล่า นิ้วยาวยังเลื่อนขึ้นมาแตะที่ข้างแก้มนุ่มจนคนเป็นพี่สะดุ้ง “พี่ต้องทายา เดี๋ยวผมจะทาให้”
“ไม่ต้องหรอก แค่ช้ำเอง เดี๋ยวพี่จัดการ...”
“ไม่ต้องพูดมากหรอกน่า” จองกุกฉวยคีย์การ์ดจากมือเรียวก่อนจะเปิดห้องแล้วลากคนพี่เข้าไป จากนั้นก็กดไหล่บางให้นั่งลงบนโซฟา “รออยู่ตรงนี้นะ เดี๋ยวผมไปหยิบยามาทาให้”
ซอกจินมองตามคนที่เดินไปมาในห้องของเขาราวกับเป็นห้องของตัวเอง ก่อนที่ร่างสูงจะเดินมาพร้อมกับกล่องปฐมพยาบาล
จำได้ทุกอย่างจริงๆ สินะ
หลังจากเลิกกับรุ่นน้องคนนี้ เขาก็ไม่เคยจัดห้องใหม่เลย
เพราะเคยเฝ้ารอให้คนคนนี้กลับมาหา เลยไม่อยากจะเปลี่ยนแปลงอะไร
“ถ้าผมทำแรงไปก็บอกนะ” เสียงทุ้มว่า ก่อนที่จองกุกจะค่อยๆ ทายาบนแก้มใสอย่างแผ่วเบา ท่าทางของร่างสูงทำให้ร่างเพรียวไม่ชิน
ตกลงว่าหมอนี่มันจะเอายังไงกับเขากันแน่
บทจะร้ายก็ร้ายเหลือเกิน ร้ายจนเขาเสียน้ำตาให้ แต่บทจะดีก็ดีใจหาย
และพาให้ใจเต้นแรงได้ตลอดเวลา
พอทายาเสร็จ ใบหน้าหล่อก็เคลื่อนเข้ามาใกล้ ปากหยักเป่าที่รอยช้ำเบาๆ ก่อนจะเคลื่อนออกไปแล้วส่งยิ้มให้
“เสร็จแล้ว ^^”
“...นายต้องการอะไรกันแน่” ตาหวานสบตาคมที่อยู่ตรงหน้าอย่างเคลือบแคลง “มาช่วยพี่ทำไม”
“...”
“มาทำดีแบบนี้ให้กันทำไม”
“...”
“อยากทำร้ายพี่ไม่ใช่เหรอ ก็ร้ายให้สุดสิ มาทำครึ่งๆ กลางๆ แบบนี้ กะจะไม่ให้รับมือได้เลยเหรอ”
“...จริงๆ คำถามพวกนี้พี่น่าจะหาคำตอบได้อยู่แล้ว” คนเป็นน้องหัวเราะเบาๆ ก่อนจะไล้มือหนาไปตามกรอบหน้าสวยอย่างแผ่วเบา “เพราะพี่เป็นของของผมไง”
“...”
“ผมจะทำอะไรกับพี่ก็ได้ เพราะพี่เป็นคนของผม”
“...”
“แต่ผมจะไม่ยอมให้ใครมาทำร้ายพี่เด็ดขาด ของเล่นของผม ผมแตะต้องได้คนเดียว”
“...”
“เข้าใจใช่มั้ยครับ”
“...นายมันเห็นแก่ตัวที่สุดเลย”
“น้อมรับคำชมครับ ^^”
“คิดว่าทำอย่างนี้แล้วพี่จะกลับไปรักนายเหรอ”
“แต่อย่างน้อยพี่ก็ไม่ได้หนีผมไปไหนนี่ครับ” พูดจบก็เปลี่ยนมาประคองใบหน้าหวานไว้พร้อมกับขยับเข้าไปจนชิดริมฝีปากอิ่ม “และผมเชื่อ ว่าพี่ไม่มีทางหนีผมไปด้วย”
ร่างเพรียวหลับตาลงรับสัมผัสที่ประทับลงมาอย่างแผ่วเบา ก่อนรู้สึกได้ว่าริมฝีปากหยักค่อยๆ ขบเม้มปากอิ่มของเขาอย่างช้าๆ มันช่างอ่อนหวาน นุ่มนวล และละมุนจนทำให้ซอกจินอ่อนระทวย จุมพิตที่อ่อนโยนอย่างไม่เคยได้รับทำให้สติของคนพี่เริ่มเลือนลาง
แต่เขาก็ไม่ลืมคำพูดที่จองกุกบอกก่อนหน้านี้
เฮ้อ เป็นความรู้สึกที่ย้อนแย้งและขมขื่นเสียจริง
“หึ เป็นแบบนี้สินะ” เสียงหวานของร่างบางที่แอบมองอยู่แค่นหัวเราะออกมา ภาพของจองกุกที่ลากซอกจินออกไปทำให้เธอได้คำตอบ
ถึงจองกุกจะรักใครไม่เป็น แต่เดือนปีสามคนนี้ต้อง ‘สำคัญ’ กับเด็กนั่นมากแน่ๆ
ไม่เสียแรงที่ไปปลุกปั่นให้ยัยสามคนนั้นลุกฮือขึ้นมาแบบนี้
มือเรียวมัดรวบผมสีชมพูหม่นของตัวเอง ก่อนจะเดินออกมาจากตรงนั้น แต่ร่างบอบบางของเธอก็ถูกใครบางคนคว้าไว้แล้วกดไหล่ไว้กับผนังอย่างรวดเร็ว
“ใคร... อ้าว เธอเองเหรอ ตกใจหมดเลย”
“เธอคิดจะทำอะไร” หญิงสาวผู้มาใหม่ถามเสียงเย็น “คิดอะไรถึงทำแบบนี้”
“เธอรู้เหรอว่าฉันจะทำอะไร”
“อย่ามาเล่นลิ้น” นัยน์ตาดุมองหน้าคนตัวเล็กกว่าอย่างดุเดือด “ตอนเธอไปยุ่งกับจีมินฉันก็ไม่อยากจะยุ่งนะ คิดว่ามันคงไม่มีอะไร หมอนั่นมันดีกว่าน้องตัวเองเยอะ แต่พอเห็นตอนนี้ ฉันก็พอจะรู้แล้วว่าเธอเข้าหาจีมินทำไม”
“...”
“เลิกยุ่งกับหมอนั่นสักทีได้มั้ย ฉันไม่รู้หรอกนะว่าเธอจะทำอะไร แต่ก็พอจะรู้ว่ามันไม่ใช่เรื่องดีแน่ๆ”
“...”
“จำตัวเองตอนนั้นไม่ได้ใช่มั้ย ว่าสภาพทุเรศแค่ไหนน่ะ”
“ก็เพราะจำได้ดีไง ถึงต้องทำแบบนี้” คนผมชมพูว่าก่อนจะปัดมือของคนตรงหน้าทิ้ง “ไม่ต้องเสียเวลามาเตือนฉันหรอก เอาเวลาไปดูคนของเธอเถอะ”
หญิงสาวตัวสูงกว่ามองเพื่อนสาวที่เดินออกไปก่อนจะถอนหายใจออกมาอย่างเหนื่อยหน่าย
ทั้งที่เธอพยายามปกป้องยัยนี่แท้ๆ
“ถ้าเธอไม่เกี่ยวข้องกับ ‘คนสำคัญ’ ของฉัน ฉันจะไม่สนใจเธอเลย”
--------------------------------------------------------------------
พาจองกุกมาเรียกคะแนนค่ะ 55555 สวัสดีค่ะทุกคน มาเจอกันอีกแล้ว ช่วงนี้ไรท์รู้สึกดีเพราะไรท์สอบเสร็จแล้วววววว >o< ช่วงนี้ก็นอนอลังการเพราะช่วงสอบไม่ค่อยได้นอน 5555 เข้าเนื้อเรื่องกันดีกว่าเนอะ เราพาจองกุกมาเรียกคะแนนจากทุกคนค่ะ (เรียกได้มั้ยเนี่ย 555555) ตากระต่ายนี่เดาใจยากเสียจริงนะคะ จะเอายังไงกับคุณพี่ล่ะเนี่ย 5555 แอบมีสาวของจีมินโผล่มาเล็กน้อย มีคนเดาถูกนะว่านางเกี่ยวข้องกับตากุก อยากรู้กันมั้ยว่านางคือใคร เราใบ้ให้ๆ นางเคยโผล่หน้ามาก่อนหน้านี้บ้างแล้วค่ะ ไปคิดกันเอาเองนะว่าใคร 555555 ตอนนี้ไรท์คงต้องไปแล้ว ไว้เจอกันตอนหน้านะคะ อ่านแล้วส่งฟีดแบคให้ไรท์บ้างนะ ทุกการตอบรับของทุกคนคือกำลังใจของไรท์ค่ะ ><
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

เข้าใจจอนจองกุกนะว่า ซอกจิน ใครก็ห้ามทำร้าย เค้าทำได้คนเดียว เอาจริงๆ เราไม่รู้อ่ะว่าจองกุกนี่รู้ตัวเองอยู่รึป่าว ถ้าที่ทำไปคือยังไม่รู้ใจตัวเองนี่ก็ยังพอให้อภัยได้นะ แบบก็ภาวนาให้รู้ใจตัวเองเร็วๆ แต่ถ้าที่ทำอยู่นี่รู้ใจตัวเองดีอยู่ คือแบบรู้อ่ะ ก็นะ 5555
สู้ๆค่ะไรท์
อ่านไปเราก็เริ่มงงละ เอ๊ะ ยังไง 55555555 ก็ไม่รู้ว่าจกุกนี่ยังไงนะ เดากันต่อไปปปป
ขอบคุณสำหรับกำลังใจนะคะ ^^
เดากันต่อไปนะคะ ^o^
แล้วสองสาวนั่งคือใครรรรรรร ต้องเป็นคนที่เป็นแฟนจีมินกับคนที่เป็นคู่หมั้นแน่ๆ เอ๊ะ หรือไม่ใช่ งงกับตัวเอง555555555
เอาเป็นว่ารออ่านต่อดีกว่า มาต่อไวๆนะคะไรต์ เป็นกำลังใจให้ ไฟท์ติ้ง!!!!!
เดาสองสาวกันต่อไปนะคะ อีกไม่นานก็รู้แล้ว ><
จะรีบมาต่อนะคะ ขอบคุณสำหรับกำลังใจนะ ^o^
พอคิดว่านายจะทำอะไรต่อไปแล้วมันเชื่อใจไม่เต็มร้อยอะนายยยยยยยยย /เขย่าเด็กกุก
สาวสองนางนั่นดูมีอะไร... แม่นางผมชมพูคนนั้นเคยออกมาแล้วเหรอคะฟฟฟ หรือว่าสาวที่กระชากตัว 555 /เหมือนจะเห็นแว้บๆจำได้ว่าตอนนึงมีแก๊งสาวๆออกมาเยอะมั่ก
งานนี้ก้ยังสงสารพี่จินคนงามของเราอยู่ดี ฮือ
ปล.ยินดีด้วยกับการสอบเสร็จนะคะ! นี่เปิดเทอมแล้วค่ะ แง T_T
แม่สาวทั้งสองคนก็เคยโผล่มาทั้งคู่แหละค่ะ แต่โผล่แบบผ่านไปผ่านมา (คนหรือผี 5555555)
แต่ยังไงก็อย่างที่ว่าแหละค่ะ แม่จินคนงามก็น่าสงสารที่สุด T^T
ปล. สู้ๆ กับเปิดเทอมนะคะ เราเพิ่งได้ปิด แต่ก็ไม่ถึงเดือนหรอก 555555