ตอนที่ 22 : คู่รักรอบที่ยี่สิบเอ็ด : ค่าปิดปากราคาแพง
‘เราเป็นแฟนกันไหมเบส’
หลังจากที่กินข้าวเสร็จ ไอ้ชนินก็ถามประโยคนี้ออกมาซึ่งทำให้ผมช็อกกับคำถามนี้นานอยู่พอสมควร มันไม่ใช่ว่าผมจะไม่คิดว่ามันจะขอผมเป็นแฟน แต่ไม่คิดว่าจะมาแบบไม่ทันตั้งตัวแบบนั้น ยอมรับเลยว่า ณ เวลานั้นมันทำผมใจเต้นอยู่พอสมควร
ถ้าหากมันขอผมก่อนหน้านั้นผมคงก้ำกึ่งอยู่ระหว่างยอมรับและปฏิเสธ แต่เพราะมันขอได้ถูกเวลามากโดยเฉพาะหลังจากที่เราจูบกันไปแล้ว เพราะงั้นผมก็เลยไม่รู้จะปฏิเสธทำไมในเมื่อตัวเองจูบกับมันก็รู้สึกดีขนาดนั้น มันต้องมีบ้างแหละที่ผมจะชอบมัน มีอารมณ์กับมัน เพราะยังไงผมก็ไม่ใช่พระอิฐพระปูนเสียหน่อย และผมก็ไม่ได้ถือคติที่ว่าผู้ชายรักได้แค่ผู้หญิงเท่านั้น ถ้าเป็นแบบนั้นผมคงได้ผิดใจกับไอ้ลมน่าดู
เอาจริง ๆ ก็คิดอยู่ว่าตัวเองไม่มีทางมารักกับเพศเดียวกันได้หรอก แต่ก็ดันกลืนน้ำลายตัวเองไปแล้ว ก็ช่างมันเถอะ
“อรุณสวัสดิ์ครับคนสวย”
แต่บางทีเรื่องเมื่อวานนี้ผมอาจจะคิดผิดไปเองก็ได้ ยิ่งมาเห็นหน้าไอ้ชนินที่ฉีกยิ้มกว้างมาแต่ไกลและแต่เช้าก่อนไปเรียนแบบนี้แล้วมันรกหูรกตาฉิบหาย
“วันนี้ซ้อนท้ายพี่คนหล่อไปเรียนไหมครับ”
“คนสวยที่หน้ามึงสิ เป็นส้นตีนอะไรแต่เช้า” ผมว่าด้วยอารมณ์หงุดหงิด เดินผ่านมันมาที่รถมอเตอร์ไซค์ของตัวเองแบบไม่ไยดี
“อันนี้ประโยคทักทายเหรอ” ไอ้ชนินเอ่ยถามผมแต่หน้าตายังคงรอยยิ้มเอาไว้อยู่
“ทำไม”
“ก็ไม่มีอะไร แค่อยากรู้นิดหน่อย” มันว่าพร้อมกับวางมือลงบนหน้าปัดรถนินจาของตัวเองระหว่างที่มันนั่งคร่อมอยู่ ไม่รู้เหมือนกันว่ามันมานั่งรอผมได้นานเท่าไหร่แล้ว
“เห็นคำพูดรุนแรงทุกวัน...บนเตียงนี่จะเท่าไหร่เชียว”
เล่นมุกลามกใส่กูอีกแล้ว
“จับของกูไปคืนก่อนก็น่าจะรู้คำตอบได้แล้วนะ” ผมแสยะยิ้ม หยิบเอาหมวกกันน็อคใส่
“อันนี้ก็ไม่รู้สิ จับไม่ถนัดเท่าไหร่ ขอจับอีกรอบได้ไหม”
ไอ้ชนินไม่ว่าเปล่าแต่ยังทำหน้ากะลิ้มกะเหลี่ย นับวันเริ่มออกลายฉิบหาย แถมยังไม่มีทีท่าจะสลดด้วยนะ
“กวนตีน” ผมด่ามันกลับทำท่าจะสตาร์ทรถหนี แต่ไอ้ชนินก็พูดดักขึ้นมาก่อน
“วันนี้เรียนทั้งวันเหรอ”
“เออ มึงล่ะ” เห็นมันไม่กวนตีนผมต่อ ผมเลยตอบมันกลับไปตรง ๆ
“ถึงเที่ยง...วันนี้ไม่ได้ไปกินข้าวด้วยนะ ไปช่วยที่ร้านจัดของ”
“แล้วแต่มึง”
“ถ้างอแงคิดถึงอยากกินข้าวด้วยก็โทรมานะ” มันยกมือขึ้นมาทำท่าโทรหาแล้วเอาแนบหูตัวเอง ผมมองก่อนจะส่งเสียงในลำคอไปหนึ่งที
“มีวันนั้นด้วยเหรอ”
“อาจจะเป็นวันนี้ก็ได้”
ไอ้ชนินยิ้มให้ผมอีกรอบ เอื้อมมือมาใส่สายรัดหมวกกันน็อคให้ผม ก่อนจะวางมือเข้าที่บ่าของผมแล้วปล่อยทิ้งข้างตัว
“เดี๋ยวทักไปนะ”
“เออ เจอกัน” ผมพยักหน้ารับก่อนจะขยับรถเพื่อไปเรียน
...
วันนี้ก็ไม่มีอะไรมากตัวผมเองก็เรียนคาบเช้าตามปกติ ส่วนตอนเที่ยงก็ออกไปหาอะไรกินกับไอ้ลม ไอ้กานกับไอ้เจียติดธุระกันเลยไม่ได้มากินด้วย และผมเองก็ไม่ได้สนใจเท่าไหร่ แค่เห็นมันสองคนตอบแชทกลุ่มกันได้ผมก็โล่งใจแล้ว
“เบสเอาน้ำอะไรไหม” ไอ้ลมถามขึ้นในขณะที่มันหยิบเงินออกมาจากกระเป๋า
“น้ำเปล่าพอ”
“งั้นเดี๋ยวกูไปซื้อน้ำปั่นร้านนั้นก่อนนะ”
ผมพยักหน้ารับ มองตามไอ้ลมที่วิ่งหายที่ร้านขายน้ำปั่นในโรงอาหารที่ผมเคยเป็นประเด็นเมื่อนานมาแล้ว คงไม่ต้องให้บอกว่าเป็นประเด็นกับใคร...
ไลน์!
เสียงไลน์ดังขึ้นระหว่างที่ผมกำลังนั่งตักข้าวเข้าปาก ผมเหลือบสายตามองว่าใครเป็นคนส่งมาก่อนจะหยิบโทรศัพท์ของตัวเองขึ้นมาอ่าน
C H A N I N : *ส่งรูปภาพ
C H A N I N : *ส่งรูปภาพ
C H A N I N : เมนูใหม่
C H A N I N : มาลองได้นะ ทำเอง อร่อยมาก
ผมกดเข้าไปดูรูปแรกที่ไอ้ชนินส่งมา มันเป็นรูปสตรอว์เบอร์รี่มูสเค้กที่ถูกถ่ายออกมาได้ดูน่ากินพอสมควร ก่อนจะเลื่อนกดดูรูปที่สองที่เป็นรูปตัวมันเองถ่ายเซลฟี่กับเค้กก่อนเมื่อกี้...
นี่อย่าบอกว่ามันไปทำงานแล้ว
IamdaBestz : กูต้องทำประกันก่อนกินไหม
C H A N I N : ถ้ารักตัวเองทำเผื่อไว้ก็ได้นะ
IamdaBestz : เวร คนขายยังกลัวลูกค้าตายเหรอ
C H A N I N : กลัวอร่อยจนตาย
ผมยกยิ้มมุมปาก เลื่อนนิ้วกดแป้นพิมพ์ด้วยความเร็วในระดับหนึ่ง
IamdaBestz : เวอร์สัด
C H A N I N : เข้ามาที่ร้านสิ เดี๋ยวทำให้กิน
C H A N I N : มีแมวมาใหม่ด้วย หน้าตาเหมือนกันดี
C H A N I N : *ส่งรูปภาพ
มันส่งรูปน้องแมวหน้าตาอารมณ์โมโหนอนมองกล้องไอ้ชนินมาให้ผมดูอีกภาพ นี่มันหาว่าผมเหมือนแมวเหรอวะ
IamdaBestz : ตกลงมึงจะให้กูไปกินเค้กฝีมือมึงหรือจะให้ไปดูแมว เอาสักอย่าง
C H A N I N : เอาทั้งสองอย่าง
ผมเลิกคิ้วข้างหนึ่ง ไม่ได้คิดอะไรมาก กะว่าจะตอบกลับไปอีกแต่ไอ้ชนินก็ส่งข้อความมาขัดก่อน
C H A N I N : แต่จริง ๆ แค่คิดถึง มาหาหน่อย
IamdaBestz : สัด
ผมตอบกลับแล้ววางโทรศัพท์ของตัวเองลงแทบจะทันทีก่อนจะตักข้าวเข้าปากอีกคำ แต่ไอ้ชนินก็ยังไม่ยอมเลิกส่งข้อความมา ผมเลยต้องหยิบขึ้นมาอีกรอบ
C H A N I N : ไม่มาแน่เหรอ
ไม่รู้ผมคิดไปเองหรือเปล่า แต่เหมือนผมรู้สึกได้จากข้อความของไอ้ชนินว่ามันกำลัง...อ้อนผมอยู่ ผมชั่งใจอยู่หน่อยก่อนจะพิมพ์ตอบกลับไป
IamdaBestz : เออ
C H A N I N : เออคือ?
สัด กะจะถามกูให้จนผมเลยใช่ไหม เออได้!
IamdaBestz : เดี๋ยวเข้าไป
IamdaBestz : พอใจมึงยัง
ข้อความของผมขึ้นว่าถูกอ่านแล้ว ก่อนที่สติ๊กเกอร์รูปกระต่ายร้องไห้ดีใจจะถูกส่งกลับมาพร้อมกับข้อความที่พอผมอ่านเสร็จ ผมก็วางโทรศัพท์ลงเพื่อกินข้าวและไม่สนใจมันอีก เมื่อสิ้นสุดบทสนทนา
C H A N I N : *ส่งสติ๊กเกอร์
C H A N I N : น่ารัก
C H A N I N : ตอนเย็นเจอกันนะ
…
หลังจากที่เลิกเรียนคาบสุดท้ายตอนบ่ายสามโมง ผมก็แวะเข้าไปที่ห้องพักอาจารย์เพื่อส่งงานก่อนจะขับรถต่อมาที่ร้านที่ไอ้ชนินทำงานอยู่ พอจอดรถอยู่หน้าร้านเสร็จผมก็มองเข้าไปในร้านก่อนว่ามีใครอยู่ในนั้นบ้าง ยังดีที่ไม่ค่อยมีคนอยู่เยอะ
“ยินดีต้อนรับค่า...”
ผมเปิดประตูเข้าไปในร้าน เสียงของพี่รหัสไอ้ลมดังลอยมาแต่ไกลจากหน้าเคาน์เตอร์จ่ายเงิน ก่อนที่อีกฝ่ายจะตกใจแทน แล้วตะโกนเรียกชื่อผมออกมาเสียงดัง “น้องเบส!”
และมันก็ดังมากพอที่จะเรียกความสนใจจากไอ้ชนินให้เดินออกมาจากครัวเพื่อมองผม ผมเลื่อนสายตากลับไปสบตากับมันก่อนจะพยักหน้าเล็กน้อย
“ดีพี่”
“ม มาหาชนินอีกแล้วเหรอ” พี่เดือนมองผมสลับกับไอ้ชนิน ดูท่าจะกลัวไม่ยอมหายเรื่องที่ผมจะต่อยกัน
“เปล่า ผมมาลองเมนูใหม่”
“อ๋อ! นั่งเลย ๆ”
ไม่พูดเปล่าแต่ยังผายมือไปทางโต๊ะที่ยังว่างอยู่ให้ผมไปนั่งรอ ผมเองก็ไม่ได้ขัดอะไร เดินไปนั่งลงมองแมวตัวหนึ่งที่นอนจับจองอยู่บนโต๊ะไว้แล้ว พี่เดือนเดินมาอุ้มออกไปก่อนจะหยิบกระดาษขึ้นมาจด
“เอาเมนูใหม่หนึ่งที่นะ”
ผมพยักหน้ารับอีกรอบ พี่เดือนบอกว่าให้ผมรอสักสิบนาทีแล้วยิ้มให้ส่งท้าย จากนั้นก็ลุกขึ้นไปรับออเดอร์ลูกค้าคนอื่นที่กำลังเปิดประตูเข้ามา แต่ผมไม่ได้สนใจเท่าไหร่เพราะหางตาเหลือบไปเห็นไอ้ชนินกำลังอมยิ้มให้ผมอยู่...ชอบใจใหญ่เลยสิสัด
“ยินดีต้อนรับค่า~”
“ตายแล้วน้องลมมมมม”
ฉับพลันตัวผมสะดุ้งตกใจรีบหันหน้าไปทางประตูที่มีคนรู้จักเดินเข้ามาด้วยใบหน้ายิ้มแย้มกับร่างเตี้ย ๆ แถมมันยังไม่ทันสังเกตเห็นผมด้วย ก่อนเลิกคาบผมถามมันไปก่อนหน้านั้นแล้วว่ามันจะไปไหนหรือเปล่า แต่มันก็บอกผมไว้แค่ว่าพี่มังกรจะมารับ ผมเลยไม่ได้คิดไว้ว่าวันนี้พี่มังกรจะพามันมาร้านด้วย
“สวัสดีครับพี่เดือน”
“วันนี้มากับใครคะ”
“พี่มังกรครับ...หืม” มันตอบกลับตรงกับจังหวะที่มันหันมาเจอผม ส่วนพี่มังกรก็เปิดประตูเข้ามาเจอหน้าผมพอดิบพอดี โชคร้ายผมหลบสายตาไม่ทัน ไอ้ลมถึงกับตะโกนพูดชื่อผมดังลั่น
“ไอ้เบส!”
เซ็งฉิบหาย
“นั่งด้วยกันเลยไหมคะ”
พี่เดือนถามขึ้นมาเพราะคิดว่าคนกันเองน่าจะอยากนั่งด้วยกัน แต่ตอนนี้ผมไม่อยากคุยกับไอ้ลมเลย ไม่รู้ว่ามันรู้สาเหตุที่ผมมาร้านนี้ไหม
“...เอางั้นก็ได้” แต่พี่มังกรเป็นคนพูดขึ้นมาเอง ผมก็ไม่อยากขัดลุงรหัสตัวเองเท่าไหร่ อีกอย่างผมไม่ได้เห็นหน้ามาตั้งแต่ขึ้นปีสองแล้ว
“ถ้างั้นเพิ่มสตรอว์เบอร์รี่มูสเค้กอีกหนึ่งที่นะคะ” พี่เดือนว่าแค่นั้นก่อนจะหมุนตัวเดินเข้าไปในครัว
“มากับใครอ่ะ” ไอ้ลมถามพลางมองซ้ายมองขวาหาคนที่ผมพามา
“คนเดียว”
ผมขยับตัวให้มันมานั่งอยู่ข้าง ๆ ส่วนพี่มังกรนั่งอยู่ตรงข้าม ก่อนที่ไอ้ลมจะถามผมกลับมาด้วยใบหน้าใสซื่อ “ปกติมึงเข้าร้านแบบนี้ด้วยเหรอ”
“มาคนเดียว ตำรวจไม่จับกูก็มา มันจะทำไม”
“ก็สงสัยอ่า ปกติไม่มึงพาผู้หญิงมา ก็มาหาผู้หญิงที่ร้านอ่ะ แต่ร้านพี่เดือนถ้าผู้หญิงก็มีแค่พี่เดือนคนเดียว...”
“...ได้แล้วครับ”
เสียงหนึ่งพูดแทรกขึ้นมาพร้อมกับจานเมนูใหม่วางตั้งอยู่ตรงหน้าผม หน้าตาก็ดูดีในแบบของขนมหวานนั่นแหละ แต่ที่ดึงดูดความสนใจได้มากกว่านั้นก็คงจะเป็นคนที่เดินมาเสิร์ฟให้ผม...ไอ้ชนิน
“ไอ้เบส มึงก็ลองเมนูใหม่ด้วยเหรอ” ไอ้ลมว่าตาโต...เห็นกูแดกขนมหวาน ๆ เป็นไม่ได้เลยเหรอ
“เออ”
“อ้าว ชนิน!”
“สวัสดีครับลม สวัสดีครับ...” ชนินมันยกมือไหว้พี่มังกรเป็นการตบท้าย
“สวัสดีชนิน ไม่ได้เจอกันนานเลย” ไอ้ลมว่าใบหน้ายิ้มแย้มสดใสเหมือนเรื่องที่ไอ้ชนินโผล่เข้ามาทำตัวติดผมเป็นตังเมนั่นเป็นแค่ภาพลวงตา แต่เชื่อเถอะ เดี๋ยวถ้ามันจำได้ผมว่างานนี้ได้ซักถามกันยาว
“นั่นสิ สบายดีไหม”
“สบายดี แล้วชนินล่ะ...โอ๊ะ!”
ไอ้ลมเบิกตากว้าง อ้าปากค้าง สายตาสลับมองทั้งผมกับไอ้ชนินไปมา เพราะไอ้ชนินดันยกมือขึ้นมาเขี่ยเอาอะไรสักอย่างบนแก้มผมเบา ๆ...
“ขนตาร่วงน่ะ”
...สัด
“ก็ดีครับ กินให้อร่อยนะครับ” มันยิ้มก่อนจะหันกลับไปตอบแล้วลุกขึ้นยืนหนีหายไปทำงานของตัวเองต่อโดยปล่อยระเบิดทิ้งไว้ให้ผม ซึ่งไอ้ลมช็อคตาตั้งนำไปก่อนแล้ว
“กูว่าแล้ว ไอ้เบสมึง-!”
สกิลขี้เสือกไอ้ลมเปิดขึ้นมาทันที และผมก็เปิดนิสัยเสียของตัวเองคือการนั่งเมินคำถามมันไปเกือบยี่สิบนาที ในขณะที่มือของตัวเองก็สาละวนพิมพ์ข้อความไปหาใครบางคน...
IamdaBestz : หลังเลิกงานมึงเจอกู
C H A N I N : ?
...
ผมทนฟังไอ้ลมถามคำถามล้านแปดจนกินเสร็จก็รีบจ่ายเงินแล้วรีบบึ่งออกมารอไอ้ชนินที่ห้องของตัวเองเกือบสองชั่วโมง จนผ่านไปจะสามชั่วโมงไอ้ตัวการก็เลิกงานเรียบร้อยแล้วเคาะเรียกผมให้มายืนคุยกับมันอยู่หน้าห้อง ก่อนที่มันจะถามคำถามอย่างกับคนไม่ได้ทำอะไรผิด
“มีอะไรเหรอ”
“มึงทำตัวรุ่มร่ามใส่กูทำเพื่อ” ผมกอดอกถามมัน
“เมื่อไหร่”
“ที่ร้าน”
“ขนตาร่วงก็แค่เช็ดให้ ไม่ได้?” มันเลิกคิ้วถามผม
“อย่างน้อยก็ไม่ใช่ต่อหน้าไอ้ลม พี่รหัสกูด้วย”
“แปลว่าทำที่ไหนก็ได้ที่ไม่มีสองคนนี้อยู่?”
ผมเดินเข้าไปใกล้มัน ไอ้ชนินก็เดินถอยหลังจนหลังชนเข้ากับประตูห้องของตัวเอง ก่อนที่ผมจะยกมือข้างหนึ่งเท้าเข้าที่ประตูส่วนอีกข้างก็เท้าสะเอว มองหน้ามันอย่างหาเรื่อง แต่ไอ้ชนินยกยิ้มมุมปากเหมือนคนพอใจ
“ดันจนติดประตูห้องขนาดนี้ มีความหมายอะไรหรือเปล่า”
“มึงเงียบสักวันกูก็ไม่ได้หาว่ามึงเป็นใบ้นะ”
ผมถลึงตามองมันอย่างหาเรื่องมองไอ้ชนินที่ยังคงยิ้ม แต่ฉับพลันเนคไทนักศึกษาของผมก็ถูกมือคนตรงหน้าดึงจนใบหน้าของผมเกือบชิดเข้ากับใบหน้าของมัน
“หาอะไรมาปิดปากสิ...” มันว่าเสียงกระซิบ “อาจจะเงียบให้ก็ได้”
มันพูดออกมา...ผมแค่นยิ้มหัวเราะ
“จะตายเอากูไม่รู้ด้วยนะ”
ผมกระชากคอเสื้อมันขึ้นมา โน้มหน้าเข้าไปหาแล้วประกบปาก บดเบียดริมฝีปากของตัวเองอย่างแรงโดยที่คนตรงหน้าไม่มีทีท่าปฏิเสธ ซ้ำยังตอบรับผมยกมือประคองช่วงเอวผมเอาไว้ จากนั้นมันก็เป็นไปตามอารมณ์ของผมสองคน
ไม่แปลกที่มันจะเกิดขึ้นอีกรอบแถมยังไม่ใช่ช่วงที่กำลังเมา ก็ในเมื่อมันมีครั้งแรกก็ต้องมีครั้งที่สองและครั้งที่สามตามมาอยู่ดี...
เสียงหอบกระเส่าดังออกมาเล็กน้อยไม่ได้ดังมากพอ ๆ กับสติของผมที่ครองไว้ได้อยู่ เพราะกลัวว่าจะมีใครขึ้นมาเจอผมกับมัน ถึงแม้ว่านาน ๆ จะมีคนแปลกหน้าเดินขึ้นมาก็เถอะ ก่อนที่ไอ้ชนินจะดูดดึงริมฝีปากของผมเล็กน้อยแล้วผละออก ยกมือขึ้นมาแกะกระดุมเสื้อเม็ดที่สองของผมออก แล้วเลื่อนใบหน้าซุกเข้าที่ซอกคอก่อนจะดูดเม้มมันอย่างแรง
ผมผลักมันออกเล็กน้อย ยกมือขึ้นจับตรงช่วงคอที่มันทำ
“นี่มึงทำรอยที่คอกู” ผมหรี่ตามองมัน
“แค่แสดงความเป็นเจ้าของ” มันหัวเราะ ติดกระดุมที่คอเสื้อให้เหมือนเดิม ผมผละจากตัวมันเดินเข้ามาในห้องของตัวเองเพื่อเข้าไปที่ห้องน้ำ กระชากคอเสื้อลงเพื่อมองรอยที่กำลังขึ้นเป็นสีแดง
“ไม่มีใครเห็นหรอก เห็นกันแค่สองคน”
ไอ้ชนินไม่รู้ว่ามันเดินตามผมเข้ามาตั้งแต่เมื่อไหร่ เพราะมันกำลังยืนเอามือล้วงกระเป๋ามองผมอยู่หน้าห้องน้ำ
“มึงนี่มัน...”
ผมหันไปเค้นเสียงใส่มัน นึกอยากจะด่าแต่ก็หมดอารมณ์ สุดท้ายผมก็ต้องขยับคอเสื้อขึ้นมาปิดรอยดี ๆ ทำตัวเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น “กูเตือนมึงแล้วนะ”
“รู้แล้ว ไม่ได้หูหนวก”
“รู้แล้วก็ออกไปจากห้องกูได้แล้ว เดินตามเข้ามาทำเพื่อ”
“เป็นห่วง กลัวจะร้องไห้เพราะแค่ทำรอยไว้เฉย ๆ” มันว่าในขณะที่ก้าวเท้าเดินออกไปจากห้องของผม ผมเดินตามมาเพื่อที่จะปิดประตู
แต่ในระหว่างที่กำลังจะเอื้อมมือดึงลูกบิด ไอ้ชนินก็หันกลับมาจับไหล่ผมเอาไว้ แล้วโน้มหน้ามาประชิดจรดริมฝีปากเข้าที่แก้มซ้ายผมแรง ๆ หนึ่งที
ฟอด
ผมเลื่อนสายตามองมัน
“ถือว่าเป็นค่าปิดปาก ไม่ทำต่อหน้าก็ได้”
“แต่ลับหลังไม่แน่นะ”
ไอ้ชนินยิ้มพราว หมุนตัวเดินหนีกลับเข้าห้องของตัวเองไป
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

#เบสชนิน อ่ะทำไม!!!!
ชนินดูเหมือนนายเอกกว่าที่เบสเป๋นนายเอกอีก555
#ชนินเบส
อ่านกี่รอบก็ ชนินเบส ดีที่สุดดด555555555 โพนี้แน่นอน คอนเฟิม!!!!
ความคิดเรา.ชนินเป็นรุก
เบสเป็นรับ...ปากจัดๆห้าวๆแบบเบสเสร็จประเภทอ่อนหวานนิ่มนวลของชนินแน่นนอน..เชื่อสิ
ใครแปลได้แปลให้หน่อยค่ะ งง คืออะไร