ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    นาฬิกาอาถรรพ์

    ลำดับตอนที่ #2 : ปมปัญหา กับ ปริศนาที่เริ่มคลี่คลาย

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 85
      0
      17 ก.ค. 46

                   “ เกด ขิง มาแล้วๆๆๆๆ นี่นี่ เราสองคนซื้อนาฬิกามาฝากพวกเธอด้วย ”  วุ้นเส้นกับเกี๊ยวรีบวิ่งกลับมาหาเพื่อนทั้ง2 เมื่อถึงเวลาเลิก



    เรียน



        “ นี่ นาฬิกาอันนี้เค้าบอกว่า เค้าเอามาขายแค่ 4 เรือนเองนะ สวยป่าว จะได้ใส่เหมือนกันทั้งกลุ่มเลยไง ” เกี๊ยวรีบอวดสรรพคุณ



        “ เออนี่วันนี้นะ เกดเป็นอะไรก็ไม่รู้  หันซ้ายหันขวาอยู่นั่นแหละ เออ แล้วเมื่อกี้เธอจะบอกอะไรเรานะ ตอนก่อนเข้าเรียนน่ะ ” ขิง



    ฟ้องเพื่อนทั้งสองแล้วหันไปถามเกดเรื่องที่สงสัย



        เกดที่กำลังดูนาฬิกาอยู่ นั้นเมื่อเธอลองสังเกตดูหน้าปัดนาฬิกา เธอก็รู้สึกเหมือนมีสายตาคู่หนึ่งจ้องมองเธอกลับมา และทำให้เธอ



    นึกถึงสายตาลึกลับที่เธอรู้สึก



        “ เอ่อ เปล่า เอ่อ เอ่อ ชั้นรู้สึกเหมือนกับว่าถูกมองอยู่น่ะ” เกดรีบบอกเพื่อน พร้อมทั้งเก็บความสงสัยไว้ว่า ตอนที่เธอก้มลงดู



    หน้าปัดนาฬิกาทำไมพอเธอจะพูดเกี่ยวกับสายตาลึกลับคู่นั้น กลับมีบางอย่างทำให้เธอไม่พูด แต่พอเธอละสายตาจากนาฬิกาเรือนนี้เธอจึงพูด



    ออกไปได้



        “ เออ แต่มันก็น่าแปลกนะ นาฬิกาออกจะสวย แต่ไม่มีคนซื้อ ตอนที่เราเดินเข้าไปในร้านเห็นมีผู้หญิงคนนึงท่าทางเค้าอยากได้



    มากเลยนะ แต่คนขายก็ไม่ขาย แต่พอพวกเราเข้าไป เค้าเหมือนรู้เลยว่าเราเดินตามเสียงนาฬิกาเข้าไป เค้าบอกเราว่า อยากขายให้พร้อมกัน



    ทั้ง 4 เรือน  พอเราบอกว่า สวยมากเลย ใส่แล้วไม่อยากถอดเลยเนี่ย เค้ายังพูดแปลกๆอีกนะว่าดีแล้วที่ไม่อยากถอด ถ้าหากจะถอดมันออก



    พร้อมกันทั้ง 4 เรือนต้องมาถอดที่นี่เท่านั้น นึกว่าเราเป็นเด็กหรือไงเนี่ย มาขู่กันอย่างนี้”  เกี๊ยวเล่าอย่างตื่นเต้น



        “ เออ แล้ว เสียงนั่นหายไปยังอ่ะ เกี๊ยว ” วุ้นเส้นถามเกี๊ยวอย่างสงสัย ที่เธอไม่ได้ยินอะไรซักอย่าง



        “ เออ นั่นดิ หายไปตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้ พอออกมาจากร้านก็ไม่ได้ยินเลยนะ” เกี๊ยวตอบอย่าง งงๆ



        “ เกด เกี๊ยว ขิง เราหิวอ่ะ ไปกิน  Dunkin กันเถอะ นะนะ ”วุ้นเส้น ชวนเพื่อนทั้ง 3 คนไปหาอะไรกินกัน  



        “ กลิ่นกาแฟนี่ห้อมหอม เนอะ เฮ้ย เกี๊ยว ดูนี่สิ ทำไมนาฬิกามันหยุดเดินหล่ะ เมื่อกี้ยังดีๆอยู่เลย ไปอยู่ตอนเที่ยงเฉยเลย ” ขิงที่



    กำลังเคลิ้มไปกับกลิ่นกาแฟของร้านDunkin Donut ทักอย่างสงสัยเมื่อเห็นทั้งเข็มยาวและเข็มสั้นของนาฬิกาไปซ้อนกันอยู่ที่เลข 12



        “ เฮ้ย ของเราก็เหมือนกัน ดูดิ หยุดเดินเฉยเลย ” วุ้นเส้นเริ่มงงบ้าง



        “ ของเราสองคนก็เป็น ” เกี๊ยวกับเกด พูดขึ้นพร้อมกัน แล้วทั้งคู่ก็งงว่า รู้ได้อย่างไรว่า ของอีกฝ่ายก็หยุดเดินเหมือนกัน     



        “ งั้นตั้งเวลาใหม่นะ ตอนนี้ 6 โมงตรงพอดีเลย  ” วุ้นเส้นพูดขึ้นแก้ปัญหา



        “ เออแล้วร้านนาฬิกานั้นอยู่ไหนหล่ะ อยากเห็นจัง พาไปดูหน่อยสิ” ขิงถามเกี๊ยว



    แล้วทั้ง4 คนก็เดินไปหาร้านนั้น แต่ หายังไงก็ไม่เจอ ทำให้ทั้งเกี๊ยวและวุ้นเส้นงงมากว่าเมื่อกี้พวกเธอเดินเข้าไปในร้านนั้นได้ยังไง  



        “ นี่ๆ กลับกันเหอะ ทุ่มนึงแล้วนะ ” ขิงพูดพร้อมกับชูนาฬิกาเตือนเวลาเพื่อนๆ



        “ ของเรายังไม่ทุ่มเลยนะ อีกตั้ง 5 นาที ” วุ้นเส้นท้วง



        “ ก็พอๆกันแหละน่า ”  ขิงยังคงคุยอยู่กับวุ้นเส้น ในขณะที่ เกดและเกี๊ยวยกนาฬิกาขึ้นมาเทียบกันก็พบว่า ของเกด เป็น 6โมง 50



    นาที ของเกี๊ยวเป็น 6โมง 45 นาที ทั้งคู่จึงหันมามองหน้ากันอย่าง งงๆ



        “ กลับกันเหอะ แล้วเจอกันพรุ่งนี้แล้วกัน บ๊ายบาย” แล้วสี่สาวก็แยกย้ายกันกลับบ้าน



    เมื่อกลับมาถึงบ้านเกี๊ยวก็มานั่งคิดถึงเรื่องของวันนี้อย่างงงๆ ตั้งแต่เรื่องเสียงนาฬิกา เรื่องร้านที่หาไม่เจอ จนถึงเรื่องเวลาที่ห่างกันคนละ 5 นาที



    ทั้งๆที่ พึ่งตั้งเวลาพร้อมๆกัน ขณะเดียวกันที่บ้านเกด เกดก็กำลังคิดถึงเรื่องนี้อยู่พอดี



        “ เกี๊ยว เกี๊ยว ตื่นได้แล้ว 7 โมง แล้ว ”  เกี๊ยวลุกขึ้นตื่นอย่างงัวเงีย ด้วยเสียงปลุกของแม่



        “ หา 7โมงแล้วเหรอ ตายแล้ว สายแล้ว สายแล้ว” เกี๊ยวรีบแต่งตัวออกจากบ้านไป โดยลืมนาฬิกาทิ้งไว้ที่บ้าน



    ที่โรงเรียน เมื่อ เกี๊ยวมาถึง เกดก็รีบวิ่งหน้าตาตื่นเข้ามาหาเกี๊ยว



        “ ทำไมพึ่งมาเอาป่านนี้น่ะ สายแล้วรู้มั้ย ” เกดเริ่มบ่น



        “ โธ่ อย่าพึ่งบ่นดิ ก็แค่ ............   อ้าว ลืมนาฬิกานี่นา”  เกี๊ยว ยกข้อมือขึ้นมาพึ่งเห็นว่า ตัวเองลืมใส่นาฬิกามา



        “ เอาเหอะ เรื่องใหญ่แล้ว วุ้นกับขิง ทะเลาะกันแต่เช้าเลย ” เกดรีบบอกข่าวใหญ่ให้เกี๊ยวฟัง เพราะเป็นที่รู้กันดีว่าพวกเธอทั้ง 4



    คน ไม่เคยทะเลาะกันเลย ตลอด 5 ปี  ที่คบกันมา



        “ แล้วทะเลาะกันเรื่องอะไร ” เกี๊ยวถาม



        “ ไม่รู้สิ พูดไปพูดมาก็หาสาเหตุไม่เจอ  ไม่มีใครพูดอะไรมากไปกว่านี้เลย ”  เกดซึ่งก็ไม่ได้รู้อะไรมากไปกว่านี้บอก



    วันนี้ตลอดทั้งช่วงเช้า ทั้ง วุ้นเส้นและขิง ต่างก็ไม่มีใครคุยกันเลย ทำให้เกด และเกี๊ยวซึ่งนั่งเรียนอยู่ข้างๆ กัน หันมามองหน้ากัน



    อย่างหนักใจ



        “ กริ๊งงงงงงงงงงงงงง ”  



        “ เฮ้อ หิวจะตายอยู่ละ กว่าจะถึงออดพักเที่ยง ” เกดบ่นพร้อมทั้ง มองนาฬิกาเพื่อความแน่ใจ



        “ อ้าว เกดไม่ได้ใส่นาฬิกาใหม่เหรอ ขิงกับวุ้นยังใส่เลย”  เกี๊ยวทักอย่างแปลกใจ



        “ คือ ว่า เรารู้สึกแปลกๆน่ะ วันนี้เลย ยังไม่ใส่ ” เกดบอกเกี๊ยวด้วยสีหน้าหนักใจ



                    “ แล้ววันนี้เราจะกินข้าวกันยังไงเนี่ย วุ้น กับขิง ทะเลาะกันอยู่เนี่ย ” เกี๊ยวถามเกดอย่างหนักใจ   ไม่แพ้กัน

        

                    “ เกด เกี๊ยว พวกเราหิวแล้วนะ ไปกันได้ยัง ” วุ้นเส้นกับขิง เดินออกมาตามเกด และเกี๊ยว

        

                    เกดและเกี๊ยวหันมามองหน้ากันอย่างแปลกใจ ที่ทั้งสองคนกลับมาดีกันแล้ว  

        

                    “ วุ้น ตอนเที่ยงครึ่งเตือนเราให้ไปส่งการบ้านเลขด้วยนะ ” ขิงพูดกับวุ้นระหว่างที่ทั้ง 4 คน กำลังกินข้าวกันอย่างเอร็ดอร่อย

        

                    “ นี่มันก็อีกแค่ 5 นาที เองนะ ” วุ้นเส้นก้มลงดูนาฬิกาก่อนเตือนขิง

        

                    “ เออ ใช่ อีกแค่ 5 นาทีเองนี่ อิ่มพอดีเลย งั้นไปส่งงานก่อนนะเดี๋ยวไม่ทัน ” ขิงก้มดูนาฬิกาของตัวเอง

        

                    “ ขิง ไปด้วยดิ      เกด เกี๊ยว เจอกันที่ห้องนะ  ”  วุ้นเส้นพูดก่อนวิ่งตามขิงออกไป

        

    เกด ซึ่งนั่งฟังการสนทนาของวุ้นเส้นและขิงอยู่ตลอด เริ่มรู้สึกถึงอะไรบางอย่าง แต่ก็เก็บข้อสงสัยเอาไว้

        

        “ กริ๊งงงงงงงงงงงงงงงงงง ”



        “นี่มันบ่ายโมงแล้วนะ ทำไม ขิงกับวุ้นยังไม่มาอีก ” เกดหันไปถามวุ้นอย่างไม่สบายใจ



        “ นั่นไง มาแล้ว   อ้าว เป็นอะไรน่ะ ทำไมทำหน้าอย่างนั้นหล่ะ ขิง ”  เกี๊ยวบอกเกด แต่ประโยคหลังเธอหันไปคุยกับขิง ที่เดินหน้า



    งอเข้ามาในห้องพร้อมกับวุ้นเส้น



                    “ ก็ดูวุ้นสิบอกว่าบ่ายโมงตรงให้เตือนให้เตือน ก็ไม่ยอมเตือนเลยมาตั้ง5 นาที แถมเดินก็ช้า คนจะรีบมาเข้าเรียน ”  ขิงกล่าวอย่าง



    หงุดหงิด



        “ อะไรกันหล่ะ ก็นาฬิกาชั้นมันบ่ายโมงตรงพอดีนี่  แล้วใครมาว่าชั้นเดินช้า ก็ขิงนั่นแหละ เดินเร็ว ไม่รอเราเลย ” วุ้นตอบด้วยน้ำ



    เสียงที่หงุดหงิดไม่แพ้กัน



        เกดนั่งฟังทั้งคู่เถียงกัน อย่างงงๆ เพราะทั้ง เธอและเกี๊ยว ก็เห็นว่าทั้ง 2 คนเดินเข้ามาพร้อมๆกัน



        หลังจากนั้น ตลอดทั้งคาบบ่าย ทั้งขิงและวุ้นก็ไม่คุยกันอีกเลย



        เมื่อถึงบ้าน เกดมานั่งคิดรวมรวบเหตุการณ์ทั้งหมด เธอเริ่มจะรู้สาเหตุเรื่องแปลกๆ ในวันนี้แล้ว ด้วยความอยากรู้ เธอจึงตั้งใจว่า



    พรุ่งนี้จะลองใส่มันดูให้รู้เรื่อง

        

        วันรุ่งขึ้น เกดใส่นาฬิกาเรือนใหม่ไปโรงเรียน ซึ่งทั้งเกี๊ยว วุ้นเส้น และ ขิงก็ใส่ไปเหมือนกัน วันนี้ เกดรู้สึกว่า วุ้นเส้นและขิง ทำ



    อะไรก็รวดเร็วไปเสียหมดแถมยังมาบ่นว่าเธอชักช้า แต่เกี๊ยวที่ปกติเป็นคนทำอะไรเร็วจนซุ่มซ่าม กลับทำอะไรช้ากว่าเธอ ไปซะทุกอย่าง เช้า



    นี้ เกี๊ยวกับวุ้นเส้นทะเลาะกัน ในขณะที่ เกี๊ยว  และ ขิงก็ทะเลาะกันเหมือนกัน





        “ กริ๊งงงงงงงงงงง” ออดพักเที่ยงดังขึ้น พร้อมกับความดีใจของเกด



        “ เกี๊ยว วุ้น ขิง ไปกินข้าวกัน ” เกดชวนเพื่อนทั้ง 3อย่างหวั่นๆ เพราะ ทั้ง 4 คนกำลังทะเลาะกันอยู่



        “ ไปดิหิวจะตายอยู่แล้ว เกี๊ยว วันนั้นแกบอกเราว่าห้ามกินร้านไหนนะ ” ขิงหันไปถามเกี๊ยว โดยไม่มีท่าทางโกรธกันเหลืออยู่เลย



        เกดมองทั้งคู่ที่เดินไปด้วยกัน และเริ่มจะรู้อะไรบางอย่าง



        “ กริ๊งงงงงงงงงงงงงงง ”  ออดเข้าคาบบ่ายดังขึ้นเตือนสี่สาวให้เข้าห้องเรียน



        “ ขิง เกี๊ยว วุ้น กี่โมงแล้ว ” เกด ถามเพื่อนทั้ง3 คนพร้อมๆกันเพื่อคลายความสงสัยที่เธอคิดอยู่



        “ บ่ายโมง ”    “ บ่ายโมง 10 นาที  ”  “ บ่ายโมง 15นาที ”  เกี๊ยว  วุ้นเส้น และขิง ตอบพร้อมกันแต่กลับไม่ตรงกันเลย  



        “ แล้วนาฬิกาเธอหล่ะเกด ไปไหน ”  เกี๊ยว ถามอย่างสงสัย



        “ อ๋อ พอดีลืมอยู่ในกระเป๋าน่ะ ” เกดโกหกไป ทั้งๆที่ เธอตั้งใจถอดมันออกมาเอง



         ในช่วงบ่ายนี้เอง ก็มีเรื่องให้ เกี๊ยว วุ้นเส้น และ ขิง ทะเลาะกันอีก พอเกด ที่กำลังจะเอาสมุดเคมีที่เรียนเมื่อตอนเช้าไปส่ง ก็เจอ



    ลายมือตัวเองที่เขียนเอาไว้ในตอนเช้าว่า



        “ 7.00 – 11.59 เราทะเลาะกับวุ้น เกี๊ยวทะเลาะกับขิง วันนี้วุ้นกับขิงทำอะไรเร่งไปหมด ส่วนเกี๊ยวทำอะไรก็เฉื่อยไปหมด  ” เกดงง



    มากกับสิ่งที่ตัวเธอเองจดไว้ในสมุด เธอจำไม่ได้เลยว่าเมื่อเช้าเธอทะเลาะกับวุ้นเส้น หรือเพื่อนๆจะทำอะไรผิดปกติไป



        พอเกดหันไปสังเกตดู ก็พบว่าเพื่อนทั้ง สามคนก็ทำอะไรตามปกติ ไม่เห็นเร่งไป หรือเฉื่อยกว่าปกติเลย เกดก้มลงมอง นาฬิกาใน



    กระเป๋า เธอเริ่มจะรู้อะไรบางอย่างแล้ว เกดมองหน้าปัดนาฬิกาอย่างผู้ชนะ เธอรู้แล้ว เธอจะบอกเพื่อนอีก3 คนไม่ให้ใส่มันอีก แล้วพรุ่งนี้



    เหตุการณ์จะกลับไปเหมือนปกติ



        แต่แล้วก็มีภาพหนึ่งปรากฎขึ้น เป็นภาพนาฬิกาทั้ง4 เรือนถูกถอดทิ้งเอาไว้ ข้างๆ มีนาฬิกาทรายสีขาวบริสุทธิ์ 4 เรือน แต่ภายใน



    นั้นเป็นใบหน้าของพวกเธอทั้ง 4 คน มันไม่ใช่นาฬิกาธรรมดานี่ พวกเธอถูกขังอยู่ในนาฬิกานี้ต่างหาก



        “นาฬิกาเรือนนี้ไม่ธรรมดาจริงๆ” เกดคิดในใจพร้อมทั้งหนักใจว่าเธอจะทำยังไงต่อไปดี



        เย็นวันนั้น เกด โทรไปหาวุ้นเส้น บอกให้วุ้นเส้นถอดนาฬิกาเรือนนั้นออก พร้อมทั้งเล่าเรื่องทั้งหมดให้วุ้นเส้นฟัง

          

    “ฟังนะวุ้น  เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น 2 วันมานี้ เกิดจากนาฬิกาพวกนั้น โดยคนที่ใส่อย่างพวกเรา จะไม่มีทางรู้ตัวเลย  นาฬิกามันจะบังคับให้เวลา



    ของพวกเราเดินไม่ตรงกัน นาฬิกาของขิง แก  เรา แล้วก็ เกี๊ยว จะเดินห่างกัน 5 นาที ในความรู้สึกของแก จะรู้สึกว่าขิงทำอะไรเร็วไปหมด ก็



    เพราะ ณ จุดเวลาเดียวกัน แกกับขิง จะอยู่คนละเวลากัน เหมือนกันอยู่คนละโลกกันน่ะ แกอยู่ในโลกของแก ขิงจะอยู่ในโลกของ 5นาที



    ข้างหน้า เราจะอยู่ในโลกของ 5 นาทีที่แล้ว เกี๊ยวจะอยู่ในโลกของ 10 นาทีที่แล้ว  ตอนนั้นแกจะรู้สึกว่าเราเดินช้ากว่าแก ขิงจะเดินเร็วกว่าแก



    แต่จริงๆแล้ว พวกเราก็เดินเร็วพอๆกันนั่นแหละ ไอ้นาฬิกาพวกนี้ทำให้พวกเราทะเลาะกัน แต่พอ ตอนเที่ยงตรง ทุกอย่างจะเป็นปกติ แล้วจะ



    เป็นแค่ 1 ชั่วโมงเท่านั้น พอบ่ายโมง ทุกอย่างจะกลับมาเหมือนตอนเช้า”



        “ เหรอ นี่เราไม่รู้เรื่องอะไรเลยเหรอไง ” วุ้นเส้นตอบอย่างตกใจ



        “ แล้วแกจำได้มั้ยว่าวันที่แก 2 คน ซื้อนาฬิกาพวกนี้มา อยู่ดีดี มันก็กลายเป็น เที่ยงทุกคนเลย ทั้งๆที่ ก่อนหน้านั้นมันตั้งเวลามา



    แล้ว แล้วยังมีเรื่องสายตาลึกลับที่เรารู้สึกอีก พอมองหน้าปัดนาฬิกาทีไรก็รู้สึกอย่างงี้ทุกทีเลย แล้ววันนี้นะ พอเรากำลังคิดว่า ถ้าพวกเราทุกคน



    ไม่ใส่มันอีกมันก็จะจบ เราก็เห็น...............”  เกดเล่าสิ่งที่เธอเห็นและสงสัยให้วุ้นเส้นฟัง



        “ เฮ้ย เราพอจะนึกอะไรออกแล้ว วันนั้นตอนกินไอติม เกี๊ยวมันนั่งคิดถึงเรื่องที่พวกเราพึ่งเจอกันตอนม.1 พอออกมาจากร้าน



    เกี๊ยวก็ได้ยินเสียงนาฬิกา ทั้งๆที่เราไม่ได้ยิน เฮ้ยใช่แล้วๆๆ จำได้แล้ว ตอนนั้นเรายืนอยู่หน้า Dunkin ได้กลิ่นกาแฟ แล้วเกี๊ยวก็ลากเราเข้าไป



    ร้านนาฬิกาข้างๆ แสดงว่าร้านนั้นต้องอยู่ข้างๆ Dunkin แน่ๆ  แล้วตอนนั้นเจ้าของร้านบอกเกี๊ยวว่า ถ้าหากจะถอดมันออกพร้อมกันทั้ง 4 เรือน



    ต้องมาถอดที่นี่เท่านั้น แล้วตอนที่นาฬิกากลายเป็นตอนเที่ยง ตอนนั้นขิงทักที่ Dunkin ว่ามันกลายเป็นเที่ยง ตอนที่พวกเรา 4 คนเดินผ่านหน้า



    ร้าน แต่เราก็ไม่เข้าใจอยู่ดีว่าทำไมต้องเป็นเกี๊ยวที่ได้ยินเสียงนาฬิกาแค่คนเดียว ”  วุ้นเส้นค่อยๆ คลี่คลายปมออกมาทีละน้อย



        “ น่าจะเพราะว่า เกี๊ยวเป็นคนคิดถึงอดีต ก็เหมือนกับ เกี๊ยวเป็นคนย้อนเวลากลับไปเมื่อ5ปีที่แล้วมั้ง”  เกดตอบอย่างไม่แน่ใจ  



        “ แล้วเราจะทำยังไงต่อไปดี ” วุ้นเส้นสงสัย



        “ ถอดนาฬิกาพร้อมกัน ที่ร้านไง ” วุ้นเส้นและเกด พูดออกมาพร้อมกัน



        “ ดีเลย พรุ่งนี้หยุด งั้น11 โมง เราไปเจอกันที่สยามนะ บอกเกี๊ยวกับขิงด้วย อย่าลืมเอานาฬิกาไปหล่ะ เราค่อยใส่ตอนใกล้



    เที่ยง  ” เกดบอกวุ้นเส้น



        “ แล้ว 2 คนนั้นหล่ะ ” วุ้นเส้นถามอย่างสงสัย



        “ คงต้องปล่อยให้เค้าใส่ไปก่อนแหละ แต่ถ้าพวกเราใส่ไปด้วย คงได้ทะเลาะกันก่อนจะได้แก้ อาถรรพ์ นาฬิกาแน่ๆ” เกดตอบไป



    อย่างไม่แน่ใจนัก

    ...................................................................................................................................................................................





    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×