ลำดับตอนที่ #3
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : เผชิญหน้า
    11 นาฬิกา 15 นาที วันต่อมา เกด เกี๊ยว วุ้นเส้น และขิง มาพร้อมกันที่สยาม ก็เพราะนาฬิกาอาถรรพ์ นี้แหละ ทำให้ทั้ง 4 คนมา
ไม่ตรงกัน  เกดและวุ้นเส้น เล่าเรื่องทั้งหมดให้เพื่อนทั้งสองฟัง พร้อมทั้งนัดกันว่า เวลา 11 นาฬิกา 45 นาทีของนาฬิกาคนที่เร็วที่สุด ทั้ง4 คน
จะไปยืนรออยู่ ข้างๆ Dunkin Donut รอให้ นาฬิกา ทั้งสี่เรือนบอกเวลา เที่ยงตรงพร้อมๆกัน แล้วทั้งหมดจะถอดมันออกมาพร้อมกัน
    “ เอาหล่ะ เข้าใจตามนี้แล้วนะ ” เกดถามทุกคนหลังจากเล่าเรื่องทั้งหมด
    “ เกด แล้วถ้ามันเป็นไปตามภาพที่แกเห็น พวกเรา 4 คนถูกขังอยู่ในนาฬิกาอาถรรพ์นั่นจริงๆ      หล่ะ”  ขิงถามอย่างหวั่นใจ    
    “ ไม่รู้สิ หรือ เราจะปล่อยให้มันเป็นอย่างนี้หล่ะ ” เกดย้อนถามเพื่อนๆ เพราะเธอเองก็ไม่รู้เหมือนกัน
    “ เอาเถอะน่า มาถึงนี่แล้ว ให้เราถูกขังอยู่ในนั้นกับพวกแกตลอดไปเราก็ยอม ” เกี๊ยวตอบอย่างมั่นใจ
    “ ใช่ ยังไงเราก็จะไม่ทิ้งกันอยู่แล้ว อย่างน้อยแกก็ไม่ได้อยู่คนเดียวนะ แกยังมีพวกเรา  ” วุ้นเส้นหันไปจับมือขิงเพื่อยืนยันคำพูด
ของเธอ
    “ เกด ขิง วุ้น เร็วเข้า ถ้ามันไปอยู่ตรงเที่ยงเมื่อไหร่ ถอดออกเลยนะ” เกี๊ยวรีบเตือนเพื่อนทั้งสามคน
    “ ติ๊กตอก ติ๊กตอก ติ๊กตอก ”  เสียงเดินของนาฬิกา ผ่านไปช้าๆท่ามกลางความตื่นเต้นของทั้ง สี่สาว
    “ ติ๊ก” เสียงเข็มยาวและเข็มสั้นเคลื่อนไปซ้อนกันพอดีที่เลข12
......................................................................................................................................................................
    “ เกด ขิง วุ้น พวกแกอยู่ไหนกัน ” เกี๊ยวร้องหาเพื่อนๆอย่างตกใจ พร้อมทั้งก้มลงมองที่ข้อมือ นาฬิกาอาถรรพ์หายไปแล้ว ในมือก็
ไม่มี แต่นี่ เธอมาอยู่ที่ไหน  เกี๊ยวมองไปรอบๆ
    “ นาฬิกาทรายนี่ ” เกี๊ยวพูดขึ้นพร้อมกับมองทรายสีขาวรอบๆตัวเธอ และในมือ
    “ นี่เราถูกขังอยู่ในนาฬิกาทรายเหรอเนี่ย ” เกี๊ยวพูดกับตัวเองอย่าง งงๆ
    “ใช่แล้ว พวกเธอถูกขังอยู่ในนาฬิกาทราย ” เสียงหนึ่งดังขึ้น จากภายนอก ถึงแม้จะมีกระจกกั้นแต่เกี๊ยวก็ได้ยินเสียงนั้นได้อย่าง
ชัดเจน และเธอก็จำมันได้แม่นยำ
    “ แก แกที่ขายนาฬิกานี่ ”
    “ ใช่ ความจำเก่งดีนี่”
    “ ทำไม ทำไมชั้นต้องมาอยู่ในนี้ ไหนแกบอกว่าให้มาถอดพร้อมกันที่นี่ไง ” เกี๊ยว ถามอย่างสงสัย ปนโมโห
    “ ก็ใช่ ข้าบอกอย่างนั้น แต่ข้าไม่ได้บอกว่า พวกเจ้าจะปลอดภัยนี่ ” ชายคนขายตอบพร้อมกับรอยยิ้มเลือดเย็น
    “ แล้วสายตาลึกลับ ของแกใช่มั้ย แล้วทำไมต้องเป็นชั้นที่ได้ยินเสียง แล้วทำไมต้องเป็นพวกเราที่แกยอมขายนาฬิกาให้ แล้ว
เพื่อนชั้นอยู่ไหน เมื่อไหร่แกจะปล่อยพวกเราออกไป” เกี๊ยวถามทุกสิ่งที่เธอสงสัย
    “ ใจเย็นๆ ซี้ ใช่แล้วสายตานั้นเป็นของข้า ข้าคอยดูพวกเจ้าตั้งแต่ที่สถาบันกวดวิชา แล้วสายตาของข้าก็มองไม่ผิด ความคิดเจ้า
เล่ามิตรภาพอันหอมหวานและใสบริสุทธิ์ให้ข้าได้รับรู้ ข้าเลยอยากตอบแทนเจ้าโดยการให้เจ้าเป็นคนค้นพบของขวัญชิ้นวิเศษที่ข้าเต็มใจมอบ
ให้ เมื่อใดที่พวกเจ้าทั้ง4คนใส่นาฬิกาทั้ง4 เรือนพร้อมกัน เมื่อใดที่พวกเจ้าทะเลาะกัน มิตรภาพของพวกเจ้าจะค่อยๆหายไป มาหล่อเลี้ยงชีวิต
ข้าทีละน้อย เพื่อนของเจ้าฉลาดดีนี่ รู้แผนการณ์ข้าเร็วดี แต่น่าเสียดาย ความฉลาดความรักของพวกเจ้า ที่เวลาเผยตัวของมันช่างน้อยนิด
เหลือเกิน”
    “ ทำไม แกจะทำอะไรพวกเรา ” เกี๊ยวถามอย่างตกใจในสิ่งที่รับรู้
    “ มองดูทรายรอบๆตัวเจ้าสิ ภายใน 1 ชั่วโมง มันจะค่อยๆเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ทรายจะค่อยๆ ท่วมตัวพวกเจ้า จนมิด ทีนี้คงเดาต่อไปได้
สินะว่าจะเกิดอะไรกับพวกเจ้า”
    “  แก ไอ้คนใจดำ ไอ้คนเลือดเย็น แกคงไม่เคยมีเพื่อนสินะ ถึงต้องมาอาศัยมิตรภาพของคนอื่น เพื่อความอยู่รอดของตัวเอง ”
เกี๊ยว ตอบโต้ไปด้วยความรู้สึก ทั้งโมโห ทั้งตกใจ
    “ใจเย็นๆสิ เวลาที่เหลือ ข้าจะให้พวกเจ้าได้สั่งเสียกันเป็นครั้งสุดท้าย แค่ชั่วโมงเดียวเท่านั้นนะ”
    แล้วรอยยิ้มเลือดเย็นก็ปรากฎบนใบหน้าชายผู้นั้นอีกครั้ง พร้อมกับเสียงดีดนิ้วดัง  “เป๊าะ”  แล้วนาฬิกาทรายทั้ง 4 ก็เลื่อนมาอยู่
ใกล้กัน
    “ เกด ”  “เกี๊ยว ”  “ ขิง ”  “ วุ้น”  ทั้ง4 ทักกันอย่างดีใจเหมือนจากกันไปนับ 10 ปี
    “ เกี๊ยวพวกเราได้ยินหมดแล้วหละ ” เกด ขิง วุ้นเส้น บอกกับเกี๊ยว
    “ ทุกคน เราขอโทษ ถ้าไม่ใช่เพราะเรา พวกเราก็ไม่ต้องมาอยู่ในนี้ ”เกี๊ยวกล่าวอย่างรู้สึกผิด
    “ ไม่ใช่ความผิดเกี๊ยวหรอก เกี๊ยวไม่ผิด เราเชื่อว่า มันเป็นชะตาของพวกเราต่างหาก ที่ให้พวกเรามาเจอกัน แล้วให้พวกเรามีวาระ
สุดท้ายของชีวิตร่วมกันอย่างนี้ ” ขิงปลอบเกี๊ยว
    “ใช่เกี๊ยว อย่างน้อยเราก็ดีใจนะที่ พวกเราได้มาเป็นเพื่อนกัน คงไม่มีใครเข้าใจเราได้ดีเท่าขิง เกด แล้วก็เกี๊ยวหรอก ” วุ้นเส้นที่
เงียบอยู่นานพูดออกมาอย่างยากเย็น
    “ อย่างน้อยเราก็ดีใจนะเกดที่เราโดดเรียน เพราะยังไง สุดท้าย เรียนไปก็ไม่ได้ใช้ ” เกี๊ยวยังไม่วายมีอารมณ์แซวเกด
    “ ยังจะมาพูดอีกเกี๊ยว แต่มันก็จริงเนอะ เรียนไปแล้วได้อะไร เนี่ย ” ขิงพูดอย่างหมั่นไส้เกี๊ยวเต็มที่
    “ ดีแล้วหล่ะ การบ้านที่ต้องส่งพรุ่งนี้เราทำไม่ได้ด้วย ไม่เห็นรู้เรื่องเลย ” วุ้นเส้นเห็นด้วย
    “ อะไรกัน เค้าอุตส่าทำจนเสร็จ วุ้นก็ ตัวเองยังไม่ได้ทำก็พูดได้นี่ ไม่น่ารีบทำเลย” ขิงขัดขึ้นอย่างเสียดาย
    แล้วทั้งสี่คนก็พูดคุยกันอย่างสนุกสนาน เป็นครั้งสุดท้าย
    “ เกด มันเริ่มขึ้นมาถึงคอเราแล้วนะ ” เกี๊ยวร้องออกมาอย่างหวาดกลัว
    “ เราก็เหมือนกัน เหลืออีกแค่5นาทีเอง คงมีแค่ปาฏิหาริย์แหละที่จะช่วยพวกเรา” เกดร้องตอบกลับไป
    “ ฮืออออออ เราคิดถึงแม่อ่ะ ” ขิงร้องออกมาอีกคน
    “  ฮือ ฮือ เราก็เหมือนกัน เรา เรา............” วุ้นเส้นกำลังจะพูดออกมาอีกคน แต่แล้ว
    “ โครกกกกก ” ท้องน้อยๆของวุ้นเส้นเริ่มเรียกร้องความสนใจ
    “ เราหิวหรือไงจ๊ะ ยัยวุ้น ”เกี๊ยวกัดวุ้นเส้นกลับไป พร้อมทั้งนึกถึงวันแรกที่พวกเธอเจอกัน
    “ แล้ววันนี้เธอพกขนมปังแบนๆ มาแบ่งชั้นกินรึปล่าวหล่ะ ” วุ้นเส้นก็ไม่ยอมแพ้ยังไม่วายกัดตอบ
    “ เถียงกันอยู่นั่นแหละ ดูสิ เกดเค้าทำการบ้านจนหลับไปแล้วเนี่ย ” ขิงเองก็ขอกัดเกดอีกคน
    “ สาธุ้....... ถ้าลูกช้างได้ออกไป ลูกช้างกับเพื่อนๆ จะรำถวายนะเจ้าค้า” เกดเหลือคนสุดท้าย กัดขิงทางอ้อม
    “ ฮะ ฮะ ฮะ ฮะ ฮะ ” แล้วเสียงหัวเราะของทั้ง สี่คนก็ดังขึ้นเพราะต่างคนต่างขำกันเอง
    “ วันนี้เหมือนวันนั้นเลยเนอะ ” วุ้นเส้นรีบพูดออกมาก่อนที่ทรายจะขึ้นมาถึงปาก
    “ อืมใช่ แต่วันนี้พวกเราคงไม่ได้ออกไปหรอก แล้วขิงก็มาอยู่ในนี้กับพวกเราด้วย  ”  เกี๊ยวพูดขึ้นเศร้าๆ พร้อมกับกินทรายเข้าไป
เต็มปาก
    “ ลาก่อนทุกคน เรารักพวกแกนะ ”  เกดพูดขึ้นเป็นประโยคสุดท้าย
    ทรายในนาฬิกาทรายเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ พร้อมกับน้ำตาของ เกด เกี๊ยว วุ้นเส้น และขิง ที่แข่งกันไหลออกมา กบตา ภาพข้างหน้าที่
พวกเธอมองเห็นเริ่มพร่ามัว ทั้งจากน้ำตา และ จากเม็ดทราย ภาพแรกที่ทั้ง 4 ได้เจอกัน ผุดขึ้นมาในความคิดของ ทั้ง เกด เกี๊ยว ขิง และ วุ้น
เส้น “ ลาก่อนเพื่อนรัก ” ประโยคสุดท้ายที่ทั้ง 4 คนได้สื่อสารกัน ถึงแม้จะไม่สามารถบอกกันจากปาก  หากแต่ พวกเขาสื่อสารกันผ่านทางใจ
ของกันและกัน เป็นครั้งสุดท้าย........
ไม่ตรงกัน  เกดและวุ้นเส้น เล่าเรื่องทั้งหมดให้เพื่อนทั้งสองฟัง พร้อมทั้งนัดกันว่า เวลา 11 นาฬิกา 45 นาทีของนาฬิกาคนที่เร็วที่สุด ทั้ง4 คน
จะไปยืนรออยู่ ข้างๆ Dunkin Donut รอให้ นาฬิกา ทั้งสี่เรือนบอกเวลา เที่ยงตรงพร้อมๆกัน แล้วทั้งหมดจะถอดมันออกมาพร้อมกัน
    “ เอาหล่ะ เข้าใจตามนี้แล้วนะ ” เกดถามทุกคนหลังจากเล่าเรื่องทั้งหมด
    “ เกด แล้วถ้ามันเป็นไปตามภาพที่แกเห็น พวกเรา 4 คนถูกขังอยู่ในนาฬิกาอาถรรพ์นั่นจริงๆ      หล่ะ”  ขิงถามอย่างหวั่นใจ    
    “ ไม่รู้สิ หรือ เราจะปล่อยให้มันเป็นอย่างนี้หล่ะ ” เกดย้อนถามเพื่อนๆ เพราะเธอเองก็ไม่รู้เหมือนกัน
    “ เอาเถอะน่า มาถึงนี่แล้ว ให้เราถูกขังอยู่ในนั้นกับพวกแกตลอดไปเราก็ยอม ” เกี๊ยวตอบอย่างมั่นใจ
    “ ใช่ ยังไงเราก็จะไม่ทิ้งกันอยู่แล้ว อย่างน้อยแกก็ไม่ได้อยู่คนเดียวนะ แกยังมีพวกเรา  ” วุ้นเส้นหันไปจับมือขิงเพื่อยืนยันคำพูด
ของเธอ
    “ เกด ขิง วุ้น เร็วเข้า ถ้ามันไปอยู่ตรงเที่ยงเมื่อไหร่ ถอดออกเลยนะ” เกี๊ยวรีบเตือนเพื่อนทั้งสามคน
    “ ติ๊กตอก ติ๊กตอก ติ๊กตอก ”  เสียงเดินของนาฬิกา ผ่านไปช้าๆท่ามกลางความตื่นเต้นของทั้ง สี่สาว
    “ ติ๊ก” เสียงเข็มยาวและเข็มสั้นเคลื่อนไปซ้อนกันพอดีที่เลข12
......................................................................................................................................................................
    “ เกด ขิง วุ้น พวกแกอยู่ไหนกัน ” เกี๊ยวร้องหาเพื่อนๆอย่างตกใจ พร้อมทั้งก้มลงมองที่ข้อมือ นาฬิกาอาถรรพ์หายไปแล้ว ในมือก็
ไม่มี แต่นี่ เธอมาอยู่ที่ไหน  เกี๊ยวมองไปรอบๆ
    “ นาฬิกาทรายนี่ ” เกี๊ยวพูดขึ้นพร้อมกับมองทรายสีขาวรอบๆตัวเธอ และในมือ
    “ นี่เราถูกขังอยู่ในนาฬิกาทรายเหรอเนี่ย ” เกี๊ยวพูดกับตัวเองอย่าง งงๆ
    “ใช่แล้ว พวกเธอถูกขังอยู่ในนาฬิกาทราย ” เสียงหนึ่งดังขึ้น จากภายนอก ถึงแม้จะมีกระจกกั้นแต่เกี๊ยวก็ได้ยินเสียงนั้นได้อย่าง
ชัดเจน และเธอก็จำมันได้แม่นยำ
    “ แก แกที่ขายนาฬิกานี่ ”
    “ ใช่ ความจำเก่งดีนี่”
    “ ทำไม ทำไมชั้นต้องมาอยู่ในนี้ ไหนแกบอกว่าให้มาถอดพร้อมกันที่นี่ไง ” เกี๊ยว ถามอย่างสงสัย ปนโมโห
    “ ก็ใช่ ข้าบอกอย่างนั้น แต่ข้าไม่ได้บอกว่า พวกเจ้าจะปลอดภัยนี่ ” ชายคนขายตอบพร้อมกับรอยยิ้มเลือดเย็น
    “ แล้วสายตาลึกลับ ของแกใช่มั้ย แล้วทำไมต้องเป็นชั้นที่ได้ยินเสียง แล้วทำไมต้องเป็นพวกเราที่แกยอมขายนาฬิกาให้ แล้ว
เพื่อนชั้นอยู่ไหน เมื่อไหร่แกจะปล่อยพวกเราออกไป” เกี๊ยวถามทุกสิ่งที่เธอสงสัย
    “ ใจเย็นๆ ซี้ ใช่แล้วสายตานั้นเป็นของข้า ข้าคอยดูพวกเจ้าตั้งแต่ที่สถาบันกวดวิชา แล้วสายตาของข้าก็มองไม่ผิด ความคิดเจ้า
เล่ามิตรภาพอันหอมหวานและใสบริสุทธิ์ให้ข้าได้รับรู้ ข้าเลยอยากตอบแทนเจ้าโดยการให้เจ้าเป็นคนค้นพบของขวัญชิ้นวิเศษที่ข้าเต็มใจมอบ
ให้ เมื่อใดที่พวกเจ้าทั้ง4คนใส่นาฬิกาทั้ง4 เรือนพร้อมกัน เมื่อใดที่พวกเจ้าทะเลาะกัน มิตรภาพของพวกเจ้าจะค่อยๆหายไป มาหล่อเลี้ยงชีวิต
ข้าทีละน้อย เพื่อนของเจ้าฉลาดดีนี่ รู้แผนการณ์ข้าเร็วดี แต่น่าเสียดาย ความฉลาดความรักของพวกเจ้า ที่เวลาเผยตัวของมันช่างน้อยนิด
เหลือเกิน”
    “ ทำไม แกจะทำอะไรพวกเรา ” เกี๊ยวถามอย่างตกใจในสิ่งที่รับรู้
    “ มองดูทรายรอบๆตัวเจ้าสิ ภายใน 1 ชั่วโมง มันจะค่อยๆเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ทรายจะค่อยๆ ท่วมตัวพวกเจ้า จนมิด ทีนี้คงเดาต่อไปได้
สินะว่าจะเกิดอะไรกับพวกเจ้า”
    “  แก ไอ้คนใจดำ ไอ้คนเลือดเย็น แกคงไม่เคยมีเพื่อนสินะ ถึงต้องมาอาศัยมิตรภาพของคนอื่น เพื่อความอยู่รอดของตัวเอง ”
เกี๊ยว ตอบโต้ไปด้วยความรู้สึก ทั้งโมโห ทั้งตกใจ
    “ใจเย็นๆสิ เวลาที่เหลือ ข้าจะให้พวกเจ้าได้สั่งเสียกันเป็นครั้งสุดท้าย แค่ชั่วโมงเดียวเท่านั้นนะ”
    แล้วรอยยิ้มเลือดเย็นก็ปรากฎบนใบหน้าชายผู้นั้นอีกครั้ง พร้อมกับเสียงดีดนิ้วดัง  “เป๊าะ”  แล้วนาฬิกาทรายทั้ง 4 ก็เลื่อนมาอยู่
ใกล้กัน
    “ เกด ”  “เกี๊ยว ”  “ ขิง ”  “ วุ้น”  ทั้ง4 ทักกันอย่างดีใจเหมือนจากกันไปนับ 10 ปี
    “ เกี๊ยวพวกเราได้ยินหมดแล้วหละ ” เกด ขิง วุ้นเส้น บอกกับเกี๊ยว
    “ ทุกคน เราขอโทษ ถ้าไม่ใช่เพราะเรา พวกเราก็ไม่ต้องมาอยู่ในนี้ ”เกี๊ยวกล่าวอย่างรู้สึกผิด
    “ ไม่ใช่ความผิดเกี๊ยวหรอก เกี๊ยวไม่ผิด เราเชื่อว่า มันเป็นชะตาของพวกเราต่างหาก ที่ให้พวกเรามาเจอกัน แล้วให้พวกเรามีวาระ
สุดท้ายของชีวิตร่วมกันอย่างนี้ ” ขิงปลอบเกี๊ยว
    “ใช่เกี๊ยว อย่างน้อยเราก็ดีใจนะที่ พวกเราได้มาเป็นเพื่อนกัน คงไม่มีใครเข้าใจเราได้ดีเท่าขิง เกด แล้วก็เกี๊ยวหรอก ” วุ้นเส้นที่
เงียบอยู่นานพูดออกมาอย่างยากเย็น
    “ อย่างน้อยเราก็ดีใจนะเกดที่เราโดดเรียน เพราะยังไง สุดท้าย เรียนไปก็ไม่ได้ใช้ ” เกี๊ยวยังไม่วายมีอารมณ์แซวเกด
    “ ยังจะมาพูดอีกเกี๊ยว แต่มันก็จริงเนอะ เรียนไปแล้วได้อะไร เนี่ย ” ขิงพูดอย่างหมั่นไส้เกี๊ยวเต็มที่
    “ ดีแล้วหล่ะ การบ้านที่ต้องส่งพรุ่งนี้เราทำไม่ได้ด้วย ไม่เห็นรู้เรื่องเลย ” วุ้นเส้นเห็นด้วย
    “ อะไรกัน เค้าอุตส่าทำจนเสร็จ วุ้นก็ ตัวเองยังไม่ได้ทำก็พูดได้นี่ ไม่น่ารีบทำเลย” ขิงขัดขึ้นอย่างเสียดาย
    แล้วทั้งสี่คนก็พูดคุยกันอย่างสนุกสนาน เป็นครั้งสุดท้าย
    “ เกด มันเริ่มขึ้นมาถึงคอเราแล้วนะ ” เกี๊ยวร้องออกมาอย่างหวาดกลัว
    “ เราก็เหมือนกัน เหลืออีกแค่5นาทีเอง คงมีแค่ปาฏิหาริย์แหละที่จะช่วยพวกเรา” เกดร้องตอบกลับไป
    “ ฮืออออออ เราคิดถึงแม่อ่ะ ” ขิงร้องออกมาอีกคน
    “  ฮือ ฮือ เราก็เหมือนกัน เรา เรา............” วุ้นเส้นกำลังจะพูดออกมาอีกคน แต่แล้ว
    “ โครกกกกก ” ท้องน้อยๆของวุ้นเส้นเริ่มเรียกร้องความสนใจ
    “ เราหิวหรือไงจ๊ะ ยัยวุ้น ”เกี๊ยวกัดวุ้นเส้นกลับไป พร้อมทั้งนึกถึงวันแรกที่พวกเธอเจอกัน
    “ แล้ววันนี้เธอพกขนมปังแบนๆ มาแบ่งชั้นกินรึปล่าวหล่ะ ” วุ้นเส้นก็ไม่ยอมแพ้ยังไม่วายกัดตอบ
    “ เถียงกันอยู่นั่นแหละ ดูสิ เกดเค้าทำการบ้านจนหลับไปแล้วเนี่ย ” ขิงเองก็ขอกัดเกดอีกคน
    “ สาธุ้....... ถ้าลูกช้างได้ออกไป ลูกช้างกับเพื่อนๆ จะรำถวายนะเจ้าค้า” เกดเหลือคนสุดท้าย กัดขิงทางอ้อม
    “ ฮะ ฮะ ฮะ ฮะ ฮะ ” แล้วเสียงหัวเราะของทั้ง สี่คนก็ดังขึ้นเพราะต่างคนต่างขำกันเอง
    “ วันนี้เหมือนวันนั้นเลยเนอะ ” วุ้นเส้นรีบพูดออกมาก่อนที่ทรายจะขึ้นมาถึงปาก
    “ อืมใช่ แต่วันนี้พวกเราคงไม่ได้ออกไปหรอก แล้วขิงก็มาอยู่ในนี้กับพวกเราด้วย  ”  เกี๊ยวพูดขึ้นเศร้าๆ พร้อมกับกินทรายเข้าไป
เต็มปาก
    “ ลาก่อนทุกคน เรารักพวกแกนะ ”  เกดพูดขึ้นเป็นประโยคสุดท้าย
    ทรายในนาฬิกาทรายเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ พร้อมกับน้ำตาของ เกด เกี๊ยว วุ้นเส้น และขิง ที่แข่งกันไหลออกมา กบตา ภาพข้างหน้าที่
พวกเธอมองเห็นเริ่มพร่ามัว ทั้งจากน้ำตา และ จากเม็ดทราย ภาพแรกที่ทั้ง 4 ได้เจอกัน ผุดขึ้นมาในความคิดของ ทั้ง เกด เกี๊ยว ขิง และ วุ้น
เส้น “ ลาก่อนเพื่อนรัก ” ประโยคสุดท้ายที่ทั้ง 4 คนได้สื่อสารกัน ถึงแม้จะไม่สามารถบอกกันจากปาก  หากแต่ พวกเขาสื่อสารกันผ่านทางใจ
ของกันและกัน เป็นครั้งสุดท้าย........
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น