ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Rankle : ผี...อาฆาต

    ลำดับตอนที่ #2 : โกรธแค้น ขุ่นเคือง

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 82
      0
      23 เม.ย. 47

    Rankle เป็นบดสวดทำพิธีของวิญญาณ ที่จะต้องการแก้แค้น คนที่เคยทำให้ผีตัวนั้น โกรธแค้น ขุ่นเคืองในตอนที่ยังมีชีวิตอยู่ เมื่อผีตัวนั้นตายจึงสวดบทสวดนี้ และไป “ฆ่า” คนๆนั้นอย่างไม่มีคำว่า “ปรานี”.....

    (บทที่ : 2 โกรธแค้น ขุ่นเคือง)    

       “อาวละอาจารย์ ที่อาจารย์เห็นใครเป็นคนทำร้าย” ผ.อ. ถามอาจารย์ที่พยาบาลเนม

    “คนนี้ครับ” อาจารย์ยังไม่รู้จักชื่อของไวท์จึงชี้หน้าไปยังเธอแทน

    “อ๋อ เข้าใจแล้วเธอเป็นคนทำร้ายคนที่ชื่อ เนม ใช่มั๊ย” ผ.อ. หันหน้าไปทางไวท์

    “ไม่ใช่นะคะ ไวท์ไม่ได้เป็นคนก่อเรื่อง ทั้งหมดนะ เนม ต่างหากที่เป็นคนผิด” บิ้วยืนหยัดพูดความจริงที่ผ.อ.ไม่รู้ แต่ดูเหมือน ผ.อ.จะไม่ฟังเอาเลย

    “หยุด ฉันยังไม่ให้เธอพูดนะ” ผ.อ. เอ็ดบิ้ว จนบิ้วต้องนั่งลงด้วยความกลัว

    หลังจากการสอบสวนความผิดอยู่นาน ผ.อ ก็ลงมติทันทีว่า

    “อาวละ ฉันไล่เธอออก และอย่ากลับมาที่นี้อีก” ผ.อ. พูดอย่างทมึงถึง ด้วยความไม่พอใจเป็นอย่างยิ่ง ที่ไวท์ทำร้ายเนม ทั้งๆที่ความจริงแล้วไวท์ไม่ได้ทำเลย ทำให้ไวท์ถึงกับช็อค น้ำตาซึม และมองหน้าผ.อ. ด้วยความโกรธแค้น ไม่พอใจกับการลงมติเช่นนี้ ซึ่งไวท์คิดว่า มันช่างงี่เง่าซะจริง

    “ทำอย่างนี้ไม่ได้นะคะ ทำไมผ.อ. ถึงไม่ฟังพวกหนูบ้างละ” บิ้วเริ่มสู้แทนไวท์ที่นั่งน้ำตาตก

    “ไวท์ เค้าไม่ผิดนะ ครั้งก่อนก็เหมือนกัน เนมเป็นคนเริ่มก่อน ครั้งนี้ก็ด้วย เค้าปัดรายงานไวท์ตกลงในน้ำ รู้ก็รู้ว่าเนมต้องแกล้งแน่นอน เพราะคนอย่างไวท์ไม่มีทางทำเรื่องแบบนี้แน่นอน” เปิ้ลเถียงทั้งๆที่รู้ว่าไม่มีวันชนะอย่างแน่นอนที่สุด.....

    “หยุดพูดซักที ฉันตัดสินแล้วไปให้พ้น” ผ.อ. พูดคำที่เนมชอบและอยากฟัง

    ไวท์ ลุกขึ้นและหันหลังกลับไปมองเนม

    สายตานั้นบ่งบอกไปด้วยความโกรธแค้น อาฆาต พยาบาท สิ่งเหล่านี้มันจะเป็นสิ่งที่ฝังอยู่ในหัวใจของไวท์ไปชั่วชีวิต ไวท์มองแล้วจึงวิ่งออกไป

    “ไวท์” เพื่อนร่วมชีวิตทั้ง 2 จึงวิ่งตามหลัง หญิงสาวผู้น่าสงสารไป...

    “ขอบพระคุณมากนะคะ” เนมไหว้อย่างสวยงามกับอาจารย์ทั้ง 2 แล้วเธอจึงลุกเดินไป

    “ไวท์ ไวท์” บิ้วและเปิ้ลวิ่งตามไวท์ไปเรื่อยๆ

    ไวท์รีบวิ่งเข้าไปยังห้องเรียนของเธอโดยสภาพแบบนั้น รีบคว้ากระเป๋าจากที่นั่ง และรีบวิ่งออกไป โดยผ่านความสงสัยต่างนานาของเพื่อนๆของเธอ ไวท์รีบวิ่งหนีกลับไป บิ้วและเปิ้ลก็วิ่งเข้าไปเอากระเป๋าและวิ่งตามไป....

    “ปัง” เสียงปิดประตูคอนโดของไวท์ด้วยความเศร้าโศก

    น้ำตามากมายผ่านใบหน้าของไวท์ ผ่านแล้วผ่านอีก ไม่มีหยุด

    “ไวท์ เปิดประตูนะ เปิดประตูสิ”บิ้วและเปิ้ลพยายามเคาะและเปิดประตู เพื่อที่จะหยุดหยั้งการกระทำของเธอ....

    จนกระทั่งในที่สุดไวท์ก็ยอมเปิดประตูให้แต่โดยดี ใบหน้าที่ซีดเซียว ดวงตาสีแดงก่ำที่แสดงให้เห็นว่าร้องไห้ด้วยความเศร้าโศกมามากแค่ไหน การไม่พูดไม่จา ไม่ทำอะไรด้วย แสดงถึงความเศร้าเสียใจ อ้างว้างและหงอยเหงา

    บิ้วพูดอะไรไม่ออก จะพูดอะไรออกไปดี พูดถึงเรื่องการไล่ออกนะหรือก็ยิ่งทำให้ไวท์ร้องห่มร้องไห้ไปอีก พูดถึงอนาคตว่าจะทำอย่างไร ไวท์ก็คงทำใจไม่ได้ หรือจะพูดเรื่องเนม ก็ยิ่งทำให้ไวท์แย่ลงไปอีกดี

    “เอ่อ ชั้นจะไปชงชาเย็นให้นะ” เปิ้ลอาสา

    “หิวหรือเปล่า” เธอหันหลับมา

    “ไม่ ชั้นไม่อยากกินอะไรทั้งนั้น” ในที่สุดไวท์ก็พูดออกมากับเพื่อนจนได้

    “งั้นเหรอ ไปล้างหน้าซะแล้วเราจะไปเดินที่ห้างกันนะไป” เปิ้ลแนะนำ

    ไวท์ นั่งคิดอยู่นานจึงลุกขึ้นเดินไปยังห้องน้ำ บิ้วเห็นก็รู้สึกดีขึ้นมากและเข้ายังห้องครัวตามเปิ้ลไป

    “ดีจัง ขอบใจนะ”

    “ชั้นเองก็ไม่อยากให้ไวท์เสียใจ ก็เลยอยากทำอะไรให้ไวท์รู้สึกดีขึ้นเท่านั้นเอง” เปิ้ลอธิบายด้วยสีหน้าที่ดี

    บิ้วยิ้ม.......

    “พรึ่บ” บิ้วปิดไฟเพื่อออกไปเที่ยวด้านนอกกับเปิ้ลและไวท์เด็กสาวผู้น่าสงสาร

    ไวท์ทำใจได้มากขึ้น แต่ลึกๆแล้วก็ยังคงฝังใจอยู่กับเนม ทำอย่างไรที่จะเป็นการทวงหนี้แค้นคืน ในตอนนั้นไสท์อยากจะเอามีดมากรีดหน้าเนม และสับเนื้อโยนให้จระเข้กินด้วยซ้ำไป......

    “กลับกันเถอะ ดึกแล้วนะ” เปิ้ลเตือน

    “เดี๋ยวเราต้องไปทำงานแล้วนะ อีก 10 นาที”บิ้วเร่งไวท์

    “ได้ๆ” แล้วทั้ง 3 จึงรีบเดินออกจากตัวห้าง และไวท์ก็เหลือบไปมองเห็นหนังสือเล่มบางๆอยู่เล่มหนึ่ง

    Rankle คือชื่อหนังสือเล่มนั้น ไวท์เห็นจึงหยุดเดินด้วยความสนใจ ไวท์จึงเข้าไปดูทันที

    “ไวท์” ไวท์ไม่สนใจกับคำพูดของคนอื่น เธอรีบหยิบเงินขึ้นมาเพื่อซื้อหนังสือเล่มนั้นทันที

    “เอาละ ไปได้แล้วนะ” แล้วทั้ง 3 จึงรีบวิ่งไป......

    ............

    ทั้ง 3 อ่านข้อความจากจดหมายที่สอดอยู่ใต้ประตูซึ่งเจ้าของจดหมายนั่นไม่ใช่ใครอื่นเลย....

    ถึง ไวท์

       เราเสียใจกับเหตุการ์ณที่เกิดขึ้นนะ นับแต่นี้ของให้เธอเจอแต่เรื่องดีๆนะ เราไม่ได้ตั้งใจกับเรื่องที่เกิดขึ้น เราจะพยายามช่วยให้เธอได้กลับมาเรียนอีกครั้งนะ ไม่ต้องห่วงเราเป็นเพื่อนกันเสมอ

    จาก เนม

    มันช่างเป็นข้อความที่ทุเรศที่สุดเท่าที่เคยเห็นมา บิ้วและเปิ้ล คิดเช่นนั้น

    “ทุเรศ อย่างเนี่ยเค้าไม่เรียกว่าเพื่อนหรอก” บิ้วขึ้นเสียง

    “มันน่าฆ่าจริงๆ คอยดูนะ คอยดูพรุ่งนี้ชั้นจะขยี้มันให้หัวแหลกไปเลย” เปิ้ลกัดฟันด้วยความโกรธ

    แต่ทว่าไวท์กลับเงียบ เธอไม่พูดอะไรเลยเธอทิ้งกระดาษข้อความนั้นลงในถังขยะและเธอก็ไปหยิบหนังสือที่เธอซื้อขึ้นมา

    “เดี๋ยวชั้นมานะ ไม่ต้องตามไปหรอก” ไวท์ก็วิ่งออกไป

    “เดี๋ยวไวท์” เปิ้ลห้ามเธอไม่ทัน

    แต่หารู้ไม่ว่านั่นเป็นคำพูดสุดท้ายที่เปิ้ลและบิ้วจะได้ฟังมันจากปากของไวท์

    เหล่าเมฆหมอกสีดำห้อมล้อมจันทราไว้อย่างบดบัง ดวงดารากลับไม่สว่าง ท้องฟ้าสีดำมืดสนิท สายลมก็ค่อยๆพัดมาหาตัวไวท์ที่กำลังยืนอยู่บนชั้นดาดฟ้าของตึกด้วยน้ำตานองหน้าและรอยยิ้มที่เยือกเย็น.....

    “ฮึๆๆๆ เนม แล้วเธอจะต้องพบกับจุดจบ ฮ่าๆๆๆ” ไวท์หัวเราะออกมาซะดังและบ้าคลั่ง

    “ลาก่อนทุกคน” ทันใดนั้นเองไวท์ก็เอนตัวลงมา ร่างของไวท์ล่วงลงสู่พื้นด้วยแรงโน้มถ่วงอันมหาศาล ในขณะที่ร่วงนั้นเอง.....

    “โอม อาราบาเซะ คะเคอิเซนะระ.....” เธอพยายามสวดบทสวด Rankle จากหน้าหนังสือเล่มบางๆหน้านึง

    “ตึง” ร่างของไวท์ตกลงสู่พื้นขณะเดียวกันนั้นเอง เธอก็สวดบทสวดนั้นเสร็จพอดี และแล้วการล้างแค้นของไวท์จึงเริ่มขึ้น แรงอาฆาตของไวท์จะกลับคืนสู่เนมผู้เป็นคู่อริ แกต้องตายอย่างสยดสยองแน่ เนม.......

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×