ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [FIC]...Sorry... - WonHanKyu (NC-17)

    ลำดับตอนที่ #2 : - 1 -

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 3.45K
      3
      21 ต.ค. 52

    [FIC] Sorry.

    Couple                    : Siwon Hankyung Kyuhyun

    Rate                        : NC-17

    Genre                      : Force&Crafty

    Writer                     : NiTRoGeN14

    Writer's Note         : จุดสิ้นสุดของรักสามเศร้าอยู่ตรงที่ความเจ็บปวดของใครคนใดคนหนึ่งเสมอ

     

    - 1 -

     

    "มักเน่! พี่หมีมาหาแล้ววววว..." คิมยองอุนตะโกนโวกเวกเสียงดังลั่นห้องพักผู้ป่วยมืออวบอูมชูถุงกระดาษแปะแบนด์ร้านเค้กชื่อดังโชว์ให้น้องน้อยที่นั่งดูโทรทัศน์กับพี่ๆคนอื่นๆสนใจ โจคยูฮยอนฉีกยิ้มสวยก่อนจะเอื้อมรับถุงมาถือไว้ มือบางแหวกปากถุงเปิดออกหยิบคัพเค้กช็อคโกแลตแต่งหน้าด้วยครีมสีขาวกับช็อคโกแลตชิพเม็ดโตขึ้นมาดูแล้วยิ้มชอบอกชอบใจก่อนจะหันไปยิ้มขอบคุณแล้วพยักหน้าให้พี่หมีคังตัวโตที่แสนจะใจดีกับมักเน่คนนี้เสมอ

     

    "ชอบล่ะสิ ถ้าอยากจะกินอีกวันหลังก็ส่งเมสเสจมาหาพี่นะ เดี๋ยวพี่จะซื้อมาให้ทานทุกวันเลย จะได้กลับมาเป็นอ้วนสองอีก ผอมลงทุกวันๆแบบนี้คนบางคนแถวนี้มันใจคอไม่ค่อยจะดี ฮ่าๆ" พูดจบก็หันไปยักคิ้วล้อเลียนฮันคยองที่นั่งอยู่ที่โซฟาก่อนจะก้มลงหอมแก้มยุ้ยๆของมักเน่ให้ชื่นใจ "อา...ชื่นใจที่ซู้ดดดด..."

     

    "นี่! ไอ้หมีพอเลยนะ เดี๋ยวก็ห้องแตกอีกรอบหรอก จะเล่นอะไรหัดเกรงใจตัวจริงเขามั้งสิ นั่งหัวโด่เป็นผีจีนเฝ้าฮ่องเต้ไปแล้วนั่น" ปาร์คจองซูเอ็ดเสียงดังแต่ทั้งพี่หมีและมักเน่กลับหัวเราะร่วน หัวหน้าวงตาสวยส่งช้อนให้คยูฮยอนก่อนจะส่ายหัวระอา "ให้มันได้งี้สิไอ้พวกลิง"

     

    "ช่างเถอะพี่จองซู พี่น้องเขารักกัน ไม่สิต้องบอกว่าพ่อลูกคู่นี้เขารักกันม๊ากมากต่างหากล่ะ นี่พี่หมี แล้วเค้กของผมไม่มีเหรอ" อีซองมินว่าขึ้นบ้างก่อนจะเอื้อมมือไปดึงพุงหนาๆของคิมยองอุนอย่างถือสิทธิ์ หมีคังตัวโตยิ้มจนตาเป็นเส้นตรงก่อนจะก้มลงกระซิบที่หูของกระต่ายน้อย

     

    "ไม่มีอ่ะ อยากกินก็ไปซื้อเอาเองดิ" พี่หมีใหญ่ล้อซองมินอย่างอารมณ์ดีก่อนจะกดจูบเบาๆลงบนขมับ "วันนี้ไม่มีแต่พรุ่งนี้มีแน่นอนครับ"

     

    ปาร์คจองซูส่ายหน้ากับกริยาออดอ้อนของคิมยองอุนก่อนจะหันมาหยิบโทรศัพท์โทรตามคนที่บอกว่าจะมาตั้งแต่เมื่อสามชั่วโมงที่แล้วแต่ป่านนี้แล้วก็ยังไม่โผล่หัวมาสักทีอย่างคิมฮีชอล

     

    ฮันคยองนั่งกดรีโมทเปลี่ยนช่องไปเรื่อยๆปล่อยใจให้ล่องลอยก่อนจะมาหยุดที่ช่อง SBS ที่พวกเขาเพิ่งไปออกรายการมาไม่นานมานี้ สมาชิกซูเปอร์ จูเนียร์ทุกคนในทีวีต่างหัวเราะกันอย่างอารมณ์ดีขาดก็แต่เพียงมักเน่น้อยของวงที่นอนป่วยอยู่ในโรงพยาบาล โจคยูฮยอนกระโดดลงจากเตียงผู้ป่วยวิ่งไปหาพี่ชายชาวมังกรอ้อนเอาหัวมุดผ่านแขนแกร่งเข้าไปถูศีรษะกับสีข้าง ฮันคยองหันมองอย่างแปลกใจก่อนจะกดยิ้มที่มุมปากแล้วก้มลงจุมพิตเบาๆที่ริมฝีปากแดงอุ่น รสช็อคโกแลตขมปนหวานลอบผ่านออกมาให้เพ้อไปได้ชั่วขณะ ขนาดยังป่วยอยู่แบบนี้ก็ยังอ้อนได้นี่ถ้าหายกลับไปเป็นเหมือนเดิมแล้วเขาชักจะแน่ใจแล้วว่าเจ้าตัวยุ่งต้องอ้อนเขาหนักกว่านี้แน่ๆ

     

    "อิจฉาคนอื่นเขาล่ะสิ" ฮันคยองกระซิบถามเสียงแผ่ว โจคยูฮยอนยิ้มเผล่ก่อนจะพยักหน้ารับช้าๆ นิ้วเรียวยกขึ้นแตะบนหน้าอกด้านซ้ายของชายหนุ่มแผ่นดินใหญ่เบาๆก่อนจะกดลากเป็นตัวอักษรภาษาจีนที่จำได้ขึ้นใจ 'รัก'

     

    "พี่ก็รักเรานะ"

     

    .

    .

    .

     

    'รัก? เฮอะ! ฝันไปรึเปล่า นายจะมาบอกว่านายรักฮันคยองอย่างนั้นสิใช่มั้ย? คิดว่าฉันดูไม่ออกรึไงโจคยูฮยอน ไอ้เรื่องชั่วๆที่นายกับฮันคยองแอบทำกันลับหลังฉันสองคนน่ะอย่านึกว่าฉันรู้ไม่ทันนายนะ ไอ้เด็กใสซื่อที่แสดงให้คนอื่นเห็นที่แท้ก็มีนิสัยชอบมั่วโลกีย์ ไปยั่วกันอีท่าไหนล่ะ ห๊ะ! ฮันคยองถึงได้หลงหัวปักหัวปำ บอกฉันมาซิโจคยูฮยอน...ว่าไง...พูดไม่ออกเหรอ ฉันช่วยสงเคราะห์ให้เอามั้ย?'

     

    'อย่า! ผมเปล่า'

     

    'เปล่า!? เฮอะทุเรศ! ปากบอกว่าเปล่าแต่ที่นายทำนี่มันไปถึงไหนแล้วล่ะ นอนกันไปหรือยัง ได้มันเป็นผัวแล้วหรือยังล่ะ!!! ห๊ะ!!! ตอบฉันมาสิ!'

     

    'พี่ซีวอน! ผมกับพี่ฮันคยองไม่ได้ทำอะไรอย่างที่พี่คิดนะ พี่กำลังเข้าใจผิด'

     

    'เข้าใจผิด? แล้วไอ้ที่ฉันเห็นนายนอนกกกับฮันคยองที่ห้องล่ะ ห๊ะ! จะแก้ตัวว่ายังไง จะบอกว่าฉันตาฝาดอย่างนั้นเหรอ!!'

     

    '...'

     

    'พูดไม่ออกเลยล่ะสิ ทำอะไรอย่าคิดนะว่าไม่มีคนเห็น จำใส่หัวนายไว้ อย่ายุ่งกับฮันคยองอีกไม่งั้นนายเจ็บตัวกว่านี้แน่'

     

    .

    .

    .

     

    "คยูฮยอน.. คยูฮยอน... คยูฮยอน!!! เป็นอะไรน่ะ" ฮันคยองร้องอย่างตกใจที่จู่ๆร่างบางข้างกายก็เงียบไปเสียเฉยๆ มือหนาเขย่าไหล่บอบบางเบาๆ โจคยูฮยอนสะดุ้งตกใจก่อนจะหันมองหวาดกลัว

     

    "คยูฮยอนเป็นไรน่ะ" จองซูที่สังเกตเห็นพร้อมๆกับฮันคยองเอ่ยขึ้นอย่างตกใจ คิมยองอุนกับอีซองมินที่อยู่ใกล้คนทั้งคู่จึงเดินมาหาในทันที มักเน่ส่ายหน้าอย่างแรงก่อนจะวิ่งกลับขึ้นไปนอนบนเตียง มือบางดึงผ้าห่มผืนหนาคลุมจนปิดหน้าปิดตาจนสมาชิกที่เหลือในห้องต่างส่ายหน้าจนปัญญา ปาร์คจองซูเดินตรงมาหาฮันคยองก่อนจะเอื้อมมือแตะไหล่อย่างเห็นใจ

     

    "ความเจ็บปวดน่ะใช้เวลารักษาไม่เท่ากัน ที่ฉันพูดแบบนี้เข้าใจใช่มั้ย? ฉันอยากจะให้นายอดทน ช่วยอยู่ข้างๆคยูฮยอน คอยดูแลเขาตลอดไป"

     

    "...ฉัน เรื่องนั้นฉันเข้าใจดี"

     

    "นายเข้าใจก็ดีแล้ว ตอนนี้สิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือกำลังใจ" คิมยองอุนเสริมขึ้น ทุกคนต่างพยักหน้าเข้าใจโดยพร้อมเพรียง แต่เสียงเปิดประตูห้องก็ดึงความสนใจไปได้ในทันที คิมฮีชอลที่เดินเข้ามาในห้องทำให้หัวหน้าลูกลิงอย่างปาร์คจองซูยิ้มออกมาได้ไม่ยากแต่เมื่อเห็นคนที่เดินตามหลังมาสีหน้าใจดีที่ปรากฏอยู่เสมอก็แปรเปลี่ยนเป็นโกรธขึ้ง

     

    "จองซู พี่ซึงฮวานมีเรื่องจะคุยด้วย" ฮีชอลเอ่ยขึ้นทันทีพลางรอบมองปฏิกิริยาของทุกคนในห้อง "พี่เค้ารออยู่ที่บริษัท นายไปกับซีวอนนะ ยองอุนเองก็ไปด้วยสิ ฮันคยองด้วยนะ"

     

    "มีอะไรอย่างนั้นเหรอ" ปาร์คจองซูเอ่ยถามอย่างแปลกใจ ฮีชอลไม่พูดอะไรนอกจากส่ายหน้าไปมาแล้วเดินออกไปนอกห้องพร้อมๆกับซีวอน

     

    ทันทีที่ออกมาจากห้องยองอุนก็เอ่ยถามด้วยความแปลกใจ

     

    "เกิดอะไรขึ้นเหรอพี่ฮีชอล"

     

    "เรื่องของมักเน่น่ะ ครูซูมานเขาอยากจะคุยเรื่องนี้กับพวกเรา ฉันก็พยายามแล้วนะแต่ฉันเองก็ทำอะไรไม่ได้ ยองอุนพี่รู้ว่าเราน่ะน่าเชื่อถือเพราะฉะนั้นช่วยพูดให้มักเน่ด้วยนะ"

     

    "มันหมายความว่ายังไงกันฮีชอล คยูฮยอน....ครูซูมานจะทำอะไรกับคยูฮยอน" ฮันคยองเอ่ยขึ้นด้วยความตกใจ ใบหน้าหล่อเต็มไปด้วยความตื่นตระหนก

     

    "เฮอะ! เดือดร้อนแทนกันจริงนะ กะอีแค่เด็กคนหนึ่งจะไปอะไรกับมันหนักหนาฮันคยอง...หรือว่าอาลัยอาวรณ์มันอยู่ล่ะ" ซีวอนเอ่ยขึ้นท่ามกลางความเงียบงันของสมาชิกที่เหลือ ฮันคยองรู้สึกโกรธจนควบคุมตนเองไม่อยู่มือหนากำหมัดแน่นแล้วพุ่งต่อยเข้าใบหน้าของซีวอนทันที

     

    "เพราะฉันรักเขาไงฉันถึงห่วงเขา นายมันแย่ที่สุดซีวอน ที่คยูฮยอนต้องเป็นแบบนี้มันเพราะใครกันล่ะถ้าไม่ใช่เพราะนาย ฉันต่อยนายเจ็บแค่นี้มันยังน้อยไปด้วยซ้ำเมื่อเทียบกับความเจ็บที่คยูฮยอนได้รับ!!!"

     

    "แล้วพี่คิดว่าผมไม่เจ็บอย่างนั้นเหรอ พี่ไม่คิดบ้างเหรอว่าผมก็มีหัวใจ ตลอดเวลาที่คบกันมาพี่ไม่เคยรักผมเลยใช่รึเปล่า!? เพราะเป็นอย่างนั้นใช่มั้ยพี่กับมันถึงได้รวมหัวกันทำให้ผมเจ็บขนาดนี้ หัวใจผมเจ็บปวดพี่รับรู้บ้างหรือเปล่า?" ชเวซีวอนตะโกนออกมาทั้งน้ำตามือหนาเช็ดคราบเลือดที่จมูกออกก่อนจะสะบัดหน้าเดินหนีออกไปจากวง ปาร์คจองซูมองตามไล่หลังไปแล้วก็ได้แต่ส่ายหน้า ปัญหาที่เกิดขึ้นหาทางออกไม่เจอเลยแม้แต่ทางเดียว ทุกหนทุกแห่งมีแต่ทางตัน จนปัญญาที่จะแก้ไข

     

    "ตามซีวอนไปเถอะ เดี๋ยวที่นี่ฉันจะช่วยดูแลมักเน่กับซองมินให้ จองซูขอร้องล่ะนะช่วยมักเน่ให้ได้นะ" ฮีชอลว่าเมื่อแผ่นหลังของซีวอนลับหายไปตรงมุมทางเดิน ฮันคยองสะบัดหัวฟึดฟัดไม่ชอบใจแต่ก็เดินตามซีวอนออกไปก่อนที่ยองอุนและจองซูจะเดินตามไปติดๆ เมื่อสมาชิกทุกคนไปหมดแล้วคิมฮีชอลก็กลับเขาห้องพักผู้ป่วยอย่างเชื่องซึม

     

    ...

     

    "ที่ฉันเรียกมาคุยนี่ฉันคิดว่าทุกคนก็น่าจะรู้อยู่แล้วนะ งั้นฉันก็ไม่ขออ้อมค้อมจะพูดตรงๆเลยก็แล้วกัน ฉันจะให้คยูฮยอนออกจากซูเปอร์ จูเนียร์"

     

    "มะ...หมายความว่ายังไงกันครับครูซูมาน ทำไมถึงจะให้มักเน่ออกจากวงล่ะครับ" ลีดเดอร์ของวงอย่างจองซูเอ่ยขึ้นอย่างตกใจ แม้จะพอรับรู้คร่าวๆมาก่อนหน้านี้แต่นึกไม่ถึงว่าจะถูกนำมาพูดใส่ตรงๆแบบนี้

     

    "ไม่ได้นะครับซูเปอร์ จูเนียร์ต้องมีสิบสามคน จะให้ใครออกไปไม่ได้ทั้งนั้น" ยองอุนแย้งขึ้นมาในทันที ร่างหนาผุดลุกขึ้นยืนต่อหน้าท่านประธานของบริษัทอย่างเท่าเทียม อีซูมานจ้องตากลับก่อนจะถอนหายใจ

     

    "มีสิบสามคน? งั้นก็หาใครมาแทนซะสิแค่นี้ก็ครบสิบสามคนแล้ว"

     

    "ครูครับ พูดแบบนี้มันเกินไปนะครับ" จองซูเองก็เป็นเดือดเป็นร้อนขึ้นมาทันทีเมื่อได้ยินครูพูดแบบนี้ ประโยคแบบนี้มันเลือดเย็นเกินไป

     

    "ไม่ล่ะ! คยูฮยอนต้องออกจากวง นายเคยเห็นนักร้องที่ไหนพูดไม่ได้บ้างมั้ยล่ะ คยูฮยอนพูดไม่ได้แล้ว นั่นก็คือเขาไม่สามารถร้องเพลงได้อีกแล้ว ต่อให้เขาเสียงดีแค่ไหนแต่ถ้าเขาไม่ร้องออกมามันก็ไม่มีความหมาย นักร้องที่ร้องเพลงไม่ได้ก็ไม่สมควรที่จะเป็นนักร้องอีกต่อไป มันผิดตรงไหนกันล่ะ"

     

    "แต่คยูฮยอนก็แค่ป่วย อีกไม่นานเขาก็จะหาย เขาจะต้องกลับมาร้องเพลงได้อีกครั้ง ให้โอกาสเขาเถอะนะครับครู ผมขอร้องล่ะครับ" ฮันคยองทรุดตัวคุกเข่าลงต่อหน้าอีซูมาน แต่ผลที่ได้กลับมาก็คือความว่างเปล่า

     

    "แล้วจะต้องรอไปอีกนานเท่าไหร่ล่ะฮันคยอง นี่ก็ผ่านมาเป็นเดือนๆแล้วแต่เขาก็ยังไม่พูด จิตแพทย์เองก็ได้แต่รักษาไปเรื่อยๆ เราก็ต้องรอเขาอย่างนั้นเหรอ รอโดยที่ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่เขาจะกลับมาพูดได้อีกครั้งอย่างนั้นเหรอ? ไม่ได้หรอกฮันคยอง พวกนายยังต้องก้าวต่อไป บริษัทเราไม่มีที่ให้กับคนที่ไร้ความสามารถหรอกนะ อีกอย่างทางผู้ปกครองของคยูฮยอนก็อยากจะให้ตัวลูกชายเขาออกจากวงอยู่แล้วตั้งแต่เกิดอุบัติเหตุรถคว่ำครั้งนั้น ฉันคิดว่าสิ่งที่ฉันตัดสินใจนั้นถูกต้องที่สุดแล้ว หรือพวกเธอคิดว่ายังไงกัน"

     

    "แต่..."

     

    "ไม่ต้องพูดแล้วปาร์คจองซู เรื่องนี้ฉันไม่ได้ตัดสินใจคนเดียวหรอกนะ คยูฮยอนเองก็เป็นคนเสนอเรื่องนี้มาให้ฉันพิจารณาเหมือนกัน เขาจะไม่อยู่กับเราอีกต่อไปแล้ว"

     

    "คยูฮยอนเสนอมาเองอย่างนั้นเหรอ?" ฮันคยองร้องครางอย่างแปลกใจทุกคนในที่นั้นก็มีอาการไม่ต่างกันเท่าไหร่

     

    "ก็อย่างที่พวกเธอได้ยิน เขาตัดสินใจที่จะออกจากซูเปอร์ จูเนียร์เอง แล้วฉันก็มีอีกเรื่องที่จะบอกพวกเธอเหมือนกัน"

     

    "เรื่องอะไรอีกล่ะครับ" คิมยองอุนผู้ที่ตั้งตัวได้ก่อนใครเอ่ยขึ้นมา อีซูมานสบตากับลูกศิษย์ตัวใหญ่แล้วเสหลบไปอีกทาง

     

    "ซีวอนก็จะออกจากวงเหมือนกัน" สิ้นเสียงอีซูมาน ทั้งปาร์คจองซู คิมยองอุน และฮันคยอง ต่างมองตรงไปที่ซีวอนที่นั่งเงียบมานานด้วยความแปลกใจ

     

    "ก็อย่างที่พวกพี่ๆได้ยิน ผมจะออกจากวงพร้อมกับคยูฮยอน แต่บอกไว้ก่อนนะว่าที่ผมทำแบบนี้ไม่ได้เพราะจะรับผิดชอบเรื่องของคยูฮยอน แต่ผมจะออกจากวงไปเพื่อกลับไปสืบทอดงานต่อเท่านั้นแหละ" สีหน้าไม่ยี่หระต่อสิ่งรอบข้างทำให้ฮันคยองรู้สึกโกรธจนปวดหนึบไปทั้งร่าง มือหนากำแน่นอย่างสะกดกลั้นอารมณ์ รอยแผลช้ำเขียวบนใบหน้าของซีวอนคอยเตือนให้ฮันคยองต้องยับยั้งช่างใจไม่วู่วามทำอะไรออกไปต่อหน้าครู

     

    "ซีวอนจะออกจากวงเพื่อไปศึกษาต่อและสืบสานกิจการของครอบครัว ไม่ช้าไม่เร็วเขาก็ต้องไปอยู่อยู่แล้วแต่ทั้งฉันและเขาเห็นพ้องต้องกันว่าออกไปพร้อมๆกับคยูฮยอนเลยจะดีที่สุด"

     

    "เรื่องมันก็แค่นี้ ไม่มีอะไรอีกแล้วใช่มั้ยครับท่านประธาน ถ้าอย่างนั้นผมขอตัว" พูดจบก็ลุกเดินออกไปจากห้องทันที ฮันคยองได้แต่มองตามหลังซีวอนไปด้วยความเจ็บใจ คนที่ก่อเรื่องทั้งหมดเป็นซีวอนเองแท้ๆแต่กลับไม่รู้สึกสำนึกผิดอะไรแถมยังมาลอยหน้าลอยตาแสดงท่าทียิ่งใหญ่ค้ำหัวสมาชิกคนอื่นอีก แค่ออกจากวงไปมันยังน้อยไปสำหรับความผิดที่ซีวอนก่อขึ้น เขาจะไม่ยอมให้ซีวอนได้อยู่อย่างมีความสุขแน่ๆ ขอสาบาน!!

     

    ...

     

    สองสัปดาห์ต่อมา ทางบริษัท SM Entertainment ก็ได้จัดงานแถลงข่าวการแยกตัวออกจากวง Super Junior ของสองสมาชิกอย่าง ชเวซีวอน และ โจคยูฮยอน ขึ้นที่โรงแรมในเครือของตระกูลชเว ท่ามกลางความเสียใจของเหล่าแฟนคลับนับหมื่นที่มารวมตัวกันอยู่หน้าโรงแรม

     

    โจคยูฮยอนยืนส่องกระจกอยู่ในห้องน้ำ มือบางดึงปรับเนคไทสีแดงเข้มให้ตรงก่อนจะปัดแป้งที่ติดเป็นรอยด่างตรงแก้มให้เนียน เมื่อเสียงสต๊าฟฟ์เรียกมาจากนอกห้องร่างบางก็เดินตรงออกไปทันที ชเวซีวอนยืนรออยู่ข้างพี่สต๊าฟฟ์ด้วยท่าทีนิ่งเฉย ฉวยโอกาสตอนร่างบางเผลอใช้มือหนาคว้ามือบางเข้ากอบกุมก่อนจะลากคยูฮยอนให้เดินตามไป

     

    ซีวอนพาคยูฮยอนขึ้นลิฟต์ไปยังชั้นบนสุดของโรงแรมก่อนจะพาเข้าห้องพักที่ถูกเปิดเตรียมไว้ ทันทีที่ถูกดึงเข้ามาในห้องชเวซีวอนก็ผลักคยูฮยอนลงบนเตียงทันที ร่างหนาขึ้นทาบทับกันไม่ให้ร่างบางหนี คยูฮยอนได้แต่ทำสีหน้ากลืนไม่เข้าคายไม่ออกเบือนหนีเมื่อซีวอนยื่นหน้าเข้ามาใกล้

     

    "จะหนีทำไม ฉันพาขึ้นมาถึงนี่แล้วเพิ่งจะคิดหนีเหรอ ทำไมไม่ร้องให้คนช่วยก่อนหน้านั้นล่ะ"

     

    คยูฮยอนส่ายหน้าไปมาแต่ซีวอนกลับอมยิ้มเจ้าเล่ห์เท้าศอกทั้งสองข้างลงข้างศีรษะของร่างบางไม่ให้ทิ้งน้ำหนักทั้งตัวลงไป "ฉันก็ลืมไปว่านายไม่ยอมพูด เมื่อไหร่นายจะพูดออกมาล่ะ ฮันคยองกำลังเศร้านะเพราะนายไม่ยอมพูดสักที"

     

    ร่างบางจ้องกลับสายตาของร่างสูงที่ส่งกลับมาด้วยความรู้สึกมากมายที่อัดแน่นอยู่ข้างใน แม้จะพูดออกมาไม่ได้แต่ก็อยากจะสื่อสารความรู้สึกต่างๆออกมาให้ร่างสูงได้รับรู้

     

    "สงสารเหรอ สงสารฉันทำไมล่ะ" น้ำตาที่คลออยู่รอบดวงตาของซีวอนทำให้คยูฮยอนร้องไห้ออกมาอีกจนได้ "จะร้องไห้ให้ฉันทำไม ฉันทำนายเจ็บนะ อย่าร้องไห้สิ ให้ฉันร้องไห้คนเดียวก็พอ" สิ้นเสียงซีวอนก็ก้มลงจูบคยูฮยอนที่อยู่ใต้ร่างกลั้นเสียงสะอื้นที่จุกรวมที่ลำคอ ปล่อยให้มีเพียงน้ำตาเท่านั้นที่เคลื่อนไหวไหลรดแก้มนวลให้เปียกเปื้อน

     

    .

    .

    .

     

    2BCon

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×