ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [SF] D.O.L.L. : WonKyu NC-17

    ลำดับตอนที่ #4 : - 4 -

    • อัปเดตล่าสุด 31 มี.ค. 53


    [SF] D.O.L.L.
    Couple : Siwon KyuHyun
    Rate : NC-17
    Genre : Dishonesty
    Status : 04
    Writer : NiTRoGeN14
    Writer's Note : ก็ยังไม่จบเสียที ฮ่าๆ

    ...

    ใบหน้าบูดบึ้งของประธานหนุ่มบริษัทฮุนไดที่ชื่อดังของเกาหลีทำเอาคนใช้ทั้งหลายไม่กล้าแม้แต่จะเข้าใกล้ไปรับใช้ เพียงแค่สายตาคมดุตวาดมองก็แข็งเป็นหินไปแล้วทั้งตัว

    แก้วกาแฟราคาแพงตกลงพื้นทันทีที่ซีวอนหยิบหลังสือพิมพ์รายวันขึ้นมาอ่าน เขาคงจะไม่ตกใจเลยถ้าคนที่อยู่ในนั้นไม่ใช่ตุ๊กตาของเขา คยูฮยอน...

    ข่าวหน้าหนึ่งพาดหัวหรา
    'ชองยุนโฮแอบซุกตุ๊กตาตัวน้อยไว้ข้างกาย อยู่กินด้วยกัน'
    แค่นี้ก็ทำซีวอนแทบคลั่ง...

    มือหนากวาดทุกสิ่งทุกอย่างบนโต๊ะลงกับพื้น บรรดาสาวใช้ที่ยืนอยู่รอบข้างต่างก็สะดุ้งหวาบเดินหนีไปกันคนละทาง เพียงไม่นานก็หายหัวกันไปหมดเหลือเพียงเจ้านายเจ้าอารมณ์เพียงคนเดียว

    "หึ... หนีหายไปอยู่กับดาราดังนี่เองถึงสืบหาเท่าไหร่ก็ไม่เจอ ชองยุนโฮงั้นเหรอ...ฉันจะเอาตุ๊กตาของฉันคืน!!!"

    .
    .
    .

    ชองยุนโฮเดินงุ่นง่านอยู่นานแล้ว ร่างสูงเดินไปทางซ้ายทีก็ขยี้หัวตัวเองที เดินวกกลับไปทางขวาทีก็ขยี้หัวตัวเองอีกที คยูฮยอนมองตามแล้วก็ได้แต่ส่ายหัวไม่เข้าใจอยากจะเอ่ยปากถามแต่เสียงโทรศัพท์ก็ดันดังขัดเสียก่อน

    ยุนโฮหันขวับทันที แทบจะกระโจนไปรับโทรศัพท์เสียอย่างนั้นถ้าไม่ติดโซฟาตัวใหญ่ที่ขวางไว้อยู่

    "ฮัลโหล พี่จินโฮ...ผมไม่รู้จริงๆนะครับเขาเขียนกันเอง" น้ำเสียงวิงวอนดังแผ่วๆ คยูฮยอนนั่งฟังตามก็กระพริบตาปริบๆไม่เข้าใจว่าเขาพูดอะไรกัน จะหยิบหนังสือพิมพ์ตัวต้นเหตุที่ทำให้คุณยุนโฮเป็นแบบนี้ไปอ่านก็จนปัญญา เกิดมาก็อ่านออกเขียนได้ก็จริงแต่ดันเป็นภาษาอังกฤษหมดเลยน่ะสิ

    ชองยุนโฮยังคงพูดด้วยน้ำเสียงวิงวอนต่อไปได้สามสี่ประโยคก็วางหูโทรศัพท์ลงก่อนจะหันมาสบสาตากับตุ๊กตาตัวน้อยช้าๆ

    "มีอะไรเหรอฮะ?" ตุ๊กตาหน้าสวยเอียงคอถามเสียงบริสุทธิ์ ชองยุนโฮมองสบกับดวงตาใสแจ๋วที่บริสุทธิ์ไม่แพ้กับใบหน้าและดวงตาก่อนจะถอนหายใจออกมาเบาๆ

    "เปล่าหรอก เฮ้อ...ทำไมมันเป็นแบบนี้ เอาเป็นว่า...เราไปกินข้าวเช้ากันต่อเถอะ เดี๋ยวเย็นหมดจะไม่อร่อยนะ" มือหนาจับศีรษะทุยโยกไปมาก่อนจะโอบรอบคอแล้วลากไปที่โต๊ะกินข้าวกลางห้องครัวขนาดกระทัดรัดบนตึกสูง

    ยังไม่ทันที่จะได้ตักข้าวเข้าปากเสียงกริ่งหน้าห้องก็ดังขัดขึ้นเสียก่อน ชองยุนโฮสบกับสายตาที่มองมาที่ตนอย่างอึกอักก่อนจะเอ่ยขอโทษแผ่วเบา

    "คงรำคาญสินะ งั้นนายกินไปก่อนเลยนะไม่ต้องรอเดี๋ยวฉันไปเปิดประตูเอง" พูดจบร่างสูงก็ลุกไปแทบจะทันที

    ตุ๊กตาตัวน้อยยกช้อนขึ้นกัดอย่างไม่เข้าใจ...เกิดอะไรขึ้นกันนะ?


    .
    .
    .


    ทันทีที่ชองยุนโฮเปิดประตูออกแรงโถมเข้าใส่อย่างรุนแรงจากบุคคลที่มาเยือนก็ทำเอาชายหนุ่มรูปร่างสูงใหญ่เซไปด้านหลังแทบจะทันที มือใหญ่ของอาคันตุกะที่มาเยือนกระชากเข้าที่คอเสื้อเชิ้ตราคาแพงอย่างไม่ลังเลพร้อมกับเสียงตวาดใส่อย่างรุนแรง

    "ไอ้บ้า...ใครใช้ให้แกวางโทรศัพท์ไปเฉยๆว่ะ"

    "พะ...พะ พี่แจจิน" ดาราหนุ่มครางเสียงอ่อย ที่แท้พี่ผู้จัดการคนเก่งก็มารอเขาที่คอนโดฯนานแล้วนี่เอง

    "ก็เออน่ะสิ ไหน? ตุ๊กตาของแกน่ะอยู่ที่ไหน?!" ผู้จัดการหนุ่มใหญ่พูดเสียงดังฟังชัด ชัดเสียงจนตุ๊กตาตัวน้อยขวัญอ่อนที่นั่งรอเพื่อนอยู่ในห้องครัวสะดุ้งโยง ก่อนจะวิ่งตุปัดตุเปเข้ามาหาคุณยุนโฮด้วยความหวาดกลัว มือบางยกขึ้นกอดแขนใหญ่ไว้แน่นซบใบหน้าลงกับท่อนแขนหลับตาปี๋

    "อ๋า...อินฮยองกลัวใหญ่แล้ว พี่จินโฮอย่าเสียงดังสิ" ชองยุนโฮยกมือข้างที่วางลูบไหล่ลูบหลังทะนุถนอมเบามือ

    ผู้จัดการหนุ่มใหญ่มองภาพตรงหน้าด้วยความปลง เมื่อกี้บอกว่านักข่าวเขียนกันไปเองแล้วที่เขากำลังเห็นอยู่ตรงหน้านี่มันอะไรกัน (ฟร่ะ)

    .
    .
    .

    "สรุปว่าเด็กนี่หนีออกจากบ้านมา นายไปเจอตอนที่กำลังจะแข็งตายอยู่ในสวนสาธารณะก็เลยพามาอยู่ด้วยงั้นสิ" ผู้จัดการสรุปเสียงเรียบ ชองยุนโฮมองตาผู้จัดการหน้าดุก่อนจะพยักหน้ารับช้าๆ มือข้างหนึ่งยังคงกอบกุมมือเล็กไว้ไม่ห่าง

    "โธ่เว้ย แค่ฉันไปดูศิลปินอื่นที่ต่างประเทศแป๊ปเดียวทำไมนายถึงดูแลตัวเองไม่ได้อย่างนี้นะ นี่นายสามสิบแล้วนะ เลยวัยบรรลุนิติภาวะมานานแล้วนะเว้ย"

    "แล้วพี่จะให้ผมทิ้งเขาไว้อย่างนั้นเหรอ"

    "มันก็ไม่ใช่อย่างนั้น แต่นายควรพาเขากลับไปหาผู้ปกครองสิ" พอสิ้นเสียงของผู้จัดการชองยุนโฮก็ตีหน้าบู้ปากยื่นทำตัวเมื่อเด็กงอแงเมื่อไม่ได้ดั่งใจก่อนจะจีบปากจีบคอพูด

    "ก็อินฮยองไม่อยากกลับบ้านนี่นา จริงมั้ย?" ท้ายประโยคหันไปขอคำยืนยันจากเจ้าตัว ตุ๊กตาตัวน้อยก็ไม่ทำให้ผิดหวัง พยักหน้าหงึกหงักเห็นด้วยทุกประการ

    ชเวจินโฮส่ายหัวปลงตกอีกครั้ง ทำไมมันถึงได้ดื้ออย่างนี้นะ

    ...

    ชเวซีวอนยืนนิ่งอยู่ตรงหน้าป้ายหลุมศพมานานแล้ว สายลมหนาวพัดแรงเสียจนผ้าพันคอสีดำเข้มผืนยาวปลิวไปตามแรงลม เขาสนใจจะจับมันไว้ไม่ให้ปลิวน่ารำคาญก็คงจะดี แต่นี่เขากลับยังคงยืนนิ่งอยู่อย่างนั้น นิ่งงันเสียจนน่ากลัว สักพักหิมะสีขาวๆก็ปลิวตกลงมาครอบคลุมไปทั่วอาณัติบริเวณ เย็นเยียบแต่ไม่เหยียบล้ำถึงหัวใจ อะไรจะเย็นแค่ไหนก็เย็นไปแต่หัวใจของเขาเท่านั้นที่จะไม่ยอมให้หนาวจนกลายเป็นน้ำแข็ง

    เมื่อก่อน...พ่อและแม่คือสิ่งที่ทำให้หัวใจของเขาอบอุ่น
    เมื่อมีความรัก...พี่สาวของเขาคือรักครั้งแรกที่บริสุทธิ์ในสายตาอยู่เสมอ
    ครั้นอกหักความเจ็บปวดก็รุนแรงเสียจนทนทานไม่ไหว สวมหน้ากากปกปิดความอ่อนแอและบกพร่องของจิตใจ
    และเมื่อพระเจ้าประทานของขวัญที่สุดแสนวิเศษมาให้
    เขาตั้งใจที่จะรักษาสิ่งนั้นไว้กับตัว

    แต่เมื่อตุ๊กตาตัวน้อยหนีหายไป...จิตใจก็แทบแตกสลายลงอีกครั้ง
    เขาควรจะทำอย่างไรให้ตุ๊กตาตัวนั้น สิ่งที่เขารักสิ่งเดียวและสุดท้ายบนโลกนี้จะไม่หนีหายไป

    เขาควรทำอย่างไร...

    "คุณพ่อครับคุณแม่ครับ ผมขอโทษครับที่ทำตามสัญญาไม่ได้ ครั้งนั้นผมทำให้พี่คยูรีต้องฆ่าตัวตาย ครั้งนี้ผมก็ยังทำให้คยูฮยอนหนีหายไปอีก ผมขอโทษครับ... ...พี่คยูรีครับ ผมรักคยูฮยอนจริงๆ ผมเข้าใจแล้วว่าสิ่งที่พี่พูดวันนั้นมันหมายความว่ายังไง ผมขอโทษนะครับ สิ่งเดียวที่ผมจะพอไถ่โทษได้...ผมจะพาคยูฮยอนกลับมา"

    ...

    วันเวลาผ่านไปนานเท่าไหร่แล้วนะ?
    คำถามนี้กลับมาอีกครั้งพร้อมๆกับความคิดถึงเจ้าของอย่างสุดหัวใจ
    สิ่งที่ตุ๊กตาตัวหนึ่งจะทำได้มีเพียงเฝ้ารออยู่อย่างนี้น่ะเหรอ?
    รอให้เจ้าของมาตามหาและพากลับบ้าน กลับไปมีความสุขอยู่ด้วยกันอีกครั้ง
    อย่างนั้นใช่ไหม?


    แรงกอดจากด้านหลังทำเอาตุ๊กตาตัวน้อยสะดุดโหยงก่อนแปรเปลี่ยนเป็นความขัดเขินเมื่อเจ้าของอ้อมกอดอบอุ่นก้มใบหน้าหล่อแนบกับแก้มใส

    "นั่งคิดอะไรอยู่...คิดถึงฉันอยู่หรือเปล่า"

    "คุณยุนโฮ...กลับมาแล้วเหรอครับ" สิ้นเสียงหวานจุมพิตเบาๆที่แก้มก็ได้มาเป็นของขวัญที่พูดจาถูกใจ ดาราหนุ่มหัวเราะร่วนชอบอกชอบใจ

    "อื๊ม...ว่าแต่คิดถึงใครอยู่ ทำไมไม่ตอบล่ะ"

    สิ่งหนึ่งที่ตุ๊กตาตัวน้อยไร้เดียงสาได้เรียนรู้อีกอย่างจากโลกภายนอกก็คือการโกหก ตุ๊กตาตัวน้อยรู้จักการโกหกก็เพราะอาชีพของเจ้าของคนปัจจุบันที่ต้องปั้นหน้าเข้าหาดัดจริตอารมณ์เข้าใส่กัน เพราะฉะนั้นเพื่อให้เป็นที่ถูกใจและได้รับความรัก คำตอบที่ถูกประมวลผลและคัดสรรออกไปจึงเป็นคำโกหกอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

    "คิดถึงคุณยุนโฮอยู่ครับ"

    ฟอด... เสียงปลายจมูกสูดดมกลิ่นหอมดังขึ้นอีกครั้งเมื่อได้คำตอบถูกใจ

    "ปากหวานอย่างนี้...น่ารักจริงๆ" พูดจบก็ดึงร่างบางให้หันหน้าเข้าหาก่อนจะกดจูบลงไปที่ริมฝีปากแดงจัด แผ่วเบาแต่คอยย้ำชัดอย่างต่อเนื่อง ฟันขาวงับเข้าที่ริมฝีปากล่างให้ตุ๊กตาตัวน้อยเผยอปากออก ให้เขาได้เข้าไปลิ้มรสความหอมหวานจากตุ๊กตาตัวน้อย ได้ชิม ได้กลืน ได้กิน จนพออกพอใจ...

    เสียงครางอือดังสลับเสียงเปียกแฉะของน้ำลาย มือหนารั้งท้ายทอยของตุ๊กตาให้แนบชิดเงยหน้าขึ้นรับจูบของเขาให้มากกว่านี้

    ความชำนิชำนาญกาลของผู้อาวุโสกว่าชักพาให้ตุ๊กตาไร้เดียงสาหาทางออกของคลื่นอามรณ์ไม่เจอ...

    ร่างสูงใหญ่ขึ้นคร่อมทับร่างบอบบางทั้งกายและใจ ฝ่ามือหนาลากเลื้อยเข้าใต้สาบเสื้อเชิ้ตตัวหนา ถลกขึ้นเปิดผิวขาวเนียนมือ ปลดกระดุมที่ปิดบังความกระจ่างสวยราวอัญมณีของผิวเนื้อออกเสียหมดสิ้น ตุ๊กตาไร้เดียงสาหน้าแดงซ่าน เขินอาย...ก็ไม่เคยเปิดผิวเนื้อให้ใครเห็นนอกจากคุณพ่อนี่นา

    ริมฝีปากร้อนจัดทาบทับตรงไหน หัวใจก็ยิ่งเต้นแรง...ขึ้นสีแดงไปทั่วที่ถูกประทับตรา นิ้วเรียวของร่างสูงเลื่อนขึ้นแตะริมฝีปากน่าจุมพิตของตุ๊กตาหน้าสวย ดุนดันให้ตุ๊กตาตัวน้อยจูบไล่ไล้แทนริมฝีปากร้อนที่กำลังทำหน้าที่ตีตราจองแสดงความเป็นเจ้าของอย่างชัดเจน

    นิ้วเล็กเกาะแผ่นหลังกว้างไว้แน่นยามที่นักแสดงชื่อดังขึ้นคร่อมทับทั้งร่าง อึดอัดแน่นแต่น่าแปลกที่ยังหายใจออก ร้อนวูบวาบที่หน้า ไม่ใช่ว่าไม่เคย แต่เพราะคนๆนี้ไม่ใช่คุณพ่อ

    ไม่ใช่คุณพ่อเจ้าของที่แท้จริงของตัวนี้...
    แค่คิดน้ำตาก็ไหล เผลอสะอื้นออกมาจนได้

    ชองยุนโฮเงยใบหน้าขึ้นจากหน้าท้องราบ จ้องมองใบหน้าสวยสดของตุ๊กตาที่กำลังร้องไห้ปริ่มจะขาดใจ

    "ฉันขอโทษ..."

    "คุณพ่อ...คุณพ่อ... ผมเป็นของคุณพ่อ... ฮือๆ คุณพ่อ... คุณพ่อ..." ตุ๊กตาตัวน้อยยังคงร้องไห้พร่ำหาบิดาอย่างน่าเวทนา มือหนาแตะเข้าที่แก้มใสปาดเช็ดน้ำตาให้อย่างอ่อนโยน แม้จะตกใจกับสิ่งที่เพิ่งได้ยินแต่ตอนนี้สิ่งที่เขาสนมีเพียงน้ำตาใสๆจากตุ๊กตาหน้าสวยตัวนี้เท่านั้น

    "ขอโทษ...ขอโทษ...." เสียงพร่ำขอโทษดังสลับกับเสียงเรียกร้องหาพ่อของเด็กหนุ่ม ชองยุนโฮควรสำนึกได้เสียทีว่าสิ่งที่อยู่ตรงหน้านี้คือเด็กหนุ่มคนหนึ่งไม่ใช่ตุ๊กตาอย่างที่เจ้าตัวพร่ำบอก เด็กหนุ่มคนหนึ่งที่หนีออกจากบ้านเพราะถูกพ่อแท้ๆข่มขืน

    .
    .
    .

    ไม่รู้ว่าตั้งแต่เมื่อไหร่ที่เสียงเรียกหาพ่อหายไป เสียงสะอื้นหยุดลง เสียงขอโทษจางหาย กลับกลายเป็นเสียงลมหายใจที่ดังสม่ำเสมอแทน สองร่างนอนโอบกอดซึ่งกันและกันด้วยความเหงา เหงาจากส่วนลึกของใจจริงๆ

    ...

    2BCon


    อา...เอาเป็นว่าเรื่องนี้ตอนหน้าก็จะจบแล้วนะคะ
    เกินที่คิดไว้เยอะเลย...หึหึ
    SF จะกลายเป็น FIC ไปแล้ว ฮ่าๆ
    แต่ตอนหน้าจบแน่ๆ ไม่มีต่อแน่ะเพราะแต่งจบแล้ว หึหึ
    รอต่อไปแล้วกัน แต่รู้ว่ามีอยู่สองคนล่ะที่ไม่ต้องรอ กรี๊ด...!!
    wonnabwithkyu/72.gif

    รักคนอ่านและเม้นต์ (ก็อยากบอกอ่ะไม่ไรป่ะ) กรี๊ดๆ
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×