ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [SF] D.O.L.L. : WonKyu NC-17

    ลำดับตอนที่ #3 : - 3 -

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 3.66K
      6
      31 มี.ค. 53

    [SF] D.O.L.L.
    Couple : Siwon KyuHyun
    Rate : NC-17
    Genre : Dishonesty
    Status : 03
    Writer : NiTRoGeN14
    Writer's Note : เพราะมันเป็น SF ตอนนึงจึงสั้นแต่มีหลายตอนนะ ฮ่าๆ ตอนแรกกะจะมีแค่สามแต่แก้พล็อตนิดหน่อยเลยยืดอีกนิดคงไม่ว่ากันนะ ฮ่าๆ

    ...

    เพรียวร่างผอมบางถูกกดจมไปในที่นอนนุ่มสีขาวสะอาดตา เรียวขาเล็กทาบไปตามแผ่นหลังกว้างจิกปลายนิ้วลงบนแผ่นหลังเมื่อร่างสูงเร่งจังหวะดูดดึงตรงหว่างขารุนแรงขึ้น เสียงครางต่ำอย่างพอใจของทั้งสองฝ่ายต่างดังสลับสอดแทรกกันเป็นจังหวะท่วงทำนองที่น่าฟัง ยามเมื่อร่างสูงเคลื่อนศีรษะขึ้นเพื่อจูบประทับรอยทั่วร่างเล็ก มือเล็กก็ยกขึ้นเหนี่ยวรั้งคอร่างสูงที่ก้มกดจูบลงมาให้สองร่างได้อยู่ใกล้กันขึ้น ใบหน้าหวานขึ้นสีแดงจัดพลางขยับส่ายไปมาเมื่อร่างสูงหยอกเอินกับยอดอกสีอ่อน ขบกัดด้วยอารมณ์หวามที่ถูกเร่งเร้าด้วยกลิ่นหอมรัญจวนจากร่างบาง ความเสียวซ่านพุ่งขึ้นสูงขึ้นเรื่อยๆจนในที่สุดร่างบางก็ปลดปล่อยออกมาโดยที่ไม่ต้องให้ร่างสูงกระตุ้นเร้าเบื้องล่างเพิ่มเลยสักนิด

    ร่างบอบบางหอบหายใจหนัก แผ่นอกบางกระเพือมขึ้นลงรุนแรงตามแรงหายใจ ซีวอนยกยิ้มพอใจก่อนจะก้มลงจูบหนักๆลงไปที่ซอกคอขาวดูดเม้นจนขึ้นรอยแดงช้ำ

    "เรียกชื่อฉันสิ เรียก...ด้วยเสียงครางหวานๆของเธอ"

    "..ซี..ซี...วอน อ๊ะ! อา... ซีวอน!"

    "เพราะมาก... เพราะมากเลยคยูฮยอน"

    คลื่นราคะซัดโหมเป็นจังหวะที่เร่งเร้ารุนแรงก่อนกลืนหายไปกับร่างบอบบางที่ทนรองรับอารมณ์ปราถนาอย่างไร้เรี่ยวแรงขัดขืน เสียงครางหวานแหลมดังสลับกับเสียงครางต่ำแผ่วในลำคอของร่างสูงก่อเกิดเป็นเสียงดนตรีที่ไพเราะแปลกหู คลื่นรักยังคงโหมซัดรุนแรงไปถึงเช้าพร้อมกับความสุขสมที่ก่อตัวขึ้นราวกับปราสาททราย ตั้งตระหง่านขึ้นมาก่อนจะหายไปเพราะคลื่นทะเลโหม...

    .
    .
    .

    ชเวซีวอนเดินเช็ดเส้นผมหนาสีดำสนิทให้แห้งก่อนเดินออกมาจากห้องน้ำ เมื่อร่างสูงยืนอยู่ในห้องนอนสีขาวสะอาดและยังเห็นร่างบอบบางยังคงนอนหลับอยู่บนเตียงกว้างสีขาว รอยยิ้มพึงพอใจก็ปรากฏขึ้นบนใบหน้าหล่อ แม้กาลเวลาจะทำให้ชายหนุ่มมีอายุสูงขึ้นทุกวันๆเรียกร่องรอยแห่งอายุให้แสดงขึ้นบนใบหน้าแต่ก็ไม่ได้บดบังความหล่อเหลาและสง่าราศีของผู้นำตระกูลชเวลงเลยแม้แต่น้อย

    ตุ๊กตาตัวน้อยๆที่เขาคอยเฝ้าทะนุถนอมมานานหลายสิบปี บัดนี้โตขึ้นงดงามสมตามที่คาดหวัง คุ้มค่ากับที่รอคอยและเฝ้าระวังไม่ให้ใครได้เข้ามาพบเจอกับตุ๊กตากระเบื้องเคลือบเลอค่าตัวนี้ นับว่าคุ้มค่าจริงๆเมื่อตอนนี้ตุ๊กตาตัวนี้ตกเป็นของเขาทั้งร่างกายและจิตใจ

    มือหนาแตะอังเข้าที่แก้มใสก่อนที่คิ้วเข้มจะขมวดเข้าหากันเมื่อสัมผัสได้ถึงไอร้อนจากร่างบาง ไม่ใช่ร้อนธรรมดาแต่เป็นร้อนมากๆ ชเวซีวอนคิดหนัก...อาการแบบนี้ร้อยวันพันปีคยูฮยอนไม่เคยเป็นมาก่อน คงเป็นเพราะ...ตุ๊กตาที่เขาเฝ้าทะนุถนอมบอบบางเกินไป เมื่อเขาเข้าสัมผัสด้วยเพลิงอารมณ์ก็ทำให้ร่างบอบบางที่ไม่เคยเจอแม้แต่เชื้อโรคสักตัวเกิดอาการหนักเช่นนี้

    แล้วเขาควรจะทำอย่างไรดี พาคยูฮยอน...ตุ๊กตาที่แสนหวงไปให้คนอื่นได้เห็นอย่างนั้นหรือ ไม่อยากจะทำ...แต่เขาก็ไม่ใช่หมอนี่นา

    ...

    "ตอนนี้หมอให้ยาคนไข้แล้วนะคะ รอดูอาการอีกสักครึ่งวันถ้ายังไม่ดีขึ้นบางทีอาจจะต้องฉีดยาอีกที คุณพ่อไม่ต้องเป็นห่วงนะคะ อีกอย่างคุณตัดสินถูกแล้วล่ะคะที่พาลูกชายมาโรงพยาบาลเพราะอาการของแกค่อนข้างหนักพอควร" แพทย์สาวว่าก่อนจะเดินออกจากห้องพักของคนไข้ออกไป ซีวอนปั้นยิ้มส่งแพทย์สาวเมื่อลับหลังร่างสูงก็รีบถลามาหาร่างบางในทันที มือใหญ่กอบกุมมือเล็กไว้มั่นบีบหนักเบาสลับกันพลางเลื่อนให้ฝ่ามือเล็กทาบทับที่ใบหน้าของตน

    รู้สึกไม่พอใจอย่างมากที่ต้องให้ตุ๊กตาที่เขาหวงนักหวงหนาต้องถูกคนอื่นพบเห็นมากมายอย่างนี้ ตั้งแต่ที่เขาอุ้มร่างของคยูฮยอนออกมาจากห้องนอนหรือกรงที่ขังมานานกว่าสิบห้าปีให้เหล่าคนใช้ในบ้านเห็นหรือแม้กระทั่งระหว่างที่พาตัวมาที่โรงพยาบาล ทั้งผู้หญิงและผู้ชายมากหน้าหลายตาต่างก็มองร่างบอบบางที่เขาหวงด้วยความหลงใหล

    ไม่ชอบใจ...

    .
    .
    .

    โจคยูฮยอนกระพริบตาปริบปรับแสงสว่างที่ลอดแยงเข้ามาในม่านตาอย่างยากลำบาก ความสว่างจ้าของแสงไฟราคาถูกทำให้ใช้เวลานานพอควรกว่าที่จะปรับสายตาได้ เมื่อดวงตากลมโตคู่สวยเบิกกว้างเต็มตาก็ปรากฏความตื่นตระหนกขึ้นทันที สถานที่แปลกตาทำให้แปลกใจและอดที่จะหวาดระแวงไม่ได้ ร่างบางขยับลุกขึ้นนั่งอย่างยากลำบากก่อนจะมองสำรวจไปรอบๆห้องอีกครั้ง ห้องนอนสีขาวสะอาดกระจ่างตาอบอวลไปด้วยกลิ่นหอมของดอกลาเวนเดอร์บัดนี้กลับกลายเป็นห้องสีขาวมนเต็มไปด้วยกลิ่นบางสิ่งบางอย่างที่ไม่เคยได้สูดดม กลิ่นสะอาดจนน่าขนลุก หน้าต่างบานกว้างกลับกลายเป็นหน้าต่างบานเลื่อนปิดทับด้วยผ้าม่านลายดอกฟอร์เก็ตมีน็อทผืนหนา ทุกสิ่งทุกอย่างแปลกตาทำให้เกิดความสงสัย

    ที่นี่มันที่ไหนกัน?

    "อ้าวตื่นแล้วเหรอค่ะ" เสียงทักทายอ่อนหวานแต่กลับทำให้ร่างบางที่อยู่บนเตียงเกิดอาการหวาดผวา คยูฮยอนยกผ้าห่มขึ้นคลุมกาย สายตาลอบมองบคคลที่เข้ามาใหม่อย่างไม่ไว้วางใจ คนอื่น...ที่เขาไม่เคยพบกำลังปรากฏอยู่ตรงหน้า คนอื่นเป็นๆที่ไม่ใช่เพียงรูปภาพอย่างที่คุณพ่อเคยให้เขาดู

    คนอื่น...

    "คุณหนูหลับไปนานมากเลยนะคะ โชคดีแล้วล่ะค่ะที่ฟื้นขึ้นมาคุณพ่อของคุณหนูเป็นห่วงคุณหนูมากเลยนะคะ"

    คยูฮยอนนึกทบทวนคำพูดของคุณหมอ คุณพ่อเป็นห่วงเขา แค่คิด...หัวใจดวงน้อยๆก็พลันเต็มตื้นไปด้วยความยินดี ก่อนจะดิ่งวูบลงด้วยเสียงกระท้อนที่คอยตอกย้ำอยู่ในหัวว่า...เขาคือตุ๊กตา ตุ๊กตาที่มีชีวิตของคุณพ่อ

    .
    .
    .

    อากาศข้างนอกเย็นจัดแต่ร่างบางก็ไม่ปริปากบ่นแม้จะหนาวจนกัดริมฝีปากตนเองจนได้รสเลือด พื้นคอนกรีตขรุขระเย็นเยียบก็ไม่ทำให้ความพยายามที่จะหยุดเดินน้อยลงไปกลับยิ่งรีบเร่งฝีเท้าให้สาวก้าวให้ยาวขึ้น ไม่รู้ว่าตัดสินใจถูกหรือผิดที่ทำแบบนี้ แต่เพราะความอยากรู้มันมีมากกว่าจึงผลักดันให้คยูฮยอนไขว่คว้าหาอิสรภาพมาจนได้

    เสียงรถรามากมายที่วิ่งด้วยความเร็วบนท้องถนนเป็นสิ่งแปลกใหม่และน่าตื่นตาตื่นใจ ผู้คนมากมายที่ยืนรายล้อมรอบก็ดูน่าสน หิมะที่เริ่มโปรยปรายลงมายังพื้นโลกเดือนกุมภาพันธ์ก็กลายเป็นสิ่งสวยงามที่เคยนึกอยากจะจับสัมผัสดูสักครั้งก็ได้แตะต้อง โลกใบเดิมแต่มุมมองใหม่ๆทำให้คยูฮยอนลืมความทรมานทางร่างกายไปเสียสนิท ลืมแม้กระทั่งระวังตัว...

    ร่างบอบบางเดินเท้าไปเรื่อยๆอย่างไร้จุดหมาย ความคิดที่แค่อยากจะหนีจากกรงขังที่ได้ชื่อว่าเป็นพ่อและเจ้าของทำให้ตัดสินใจหนีออกมา แม้จะไม่รู้ว่าเมื่อออกมาจากบ้านตุ๊กตาหลังนั้นแล้วนั้นแล้วตุ๊กตาตัวนี้จะมีชีวิตต่อไปเช่นไร

    นาฬิกากลางสวนสาธารณที่เงียบสงัดบ่งบอกเวลาเที่ยงคืนเศษ คยูฮยอนตัดสินใจทรุดตัวนั่งลงบนม้านั่งไม้ที่เต็มไปด้วยหิมะ โลกภายนอกตื่นตาตื่นใจก็จริงแต่ความจริงทางร่างกายก็กลับมาตอกย้ำว่าตอนนี้อากาศหนาวเกินกว่าที่จะอยู่ข้างนอกได้ ริมฝีปากที่เคยแดงฉ่ำกลับแตกแห้งซีดขาว แก้มใสไร้สีเลือด กายสั่นระริกหนาวไปทั้งตัว มือบางยกขึ้นกอดอกบรรเทาหนาวให้ตนเองแน่น...แต่ก็ยังหนาวอยู่ดี

    .
    .
    .

    แสงแดดส่องแยงตาจนทำให้ร่างบางทนที่จะหลับตาต่อไปไม่ไหวจำฝืนลืมเปลือกตาอันหนักอึ้งขึ้น ก่อนพบสถานที่ที่แปลกใหม่อีกครั้ง เพดานห้องสีส้มอ่อน...ที่นี่ที่ไหนกันอีกล่ะ?

    "ตื่นแล้วงั้นเหรอ ไข้ลดลงแล้วเสียด้วยสิ" บุรุษนิรนามโผล่มาจากไหนก็ไม่ทันสังเกต แต่คยูฮยอนรู้เพียงว่าจู่ๆก็โผล่เข้ามาทักทายเขาด้วยน้ำเสียงสดใสก่อนจะปราดเข้ามาชิด ยื่นใบหน้าหล่อเหลาเข้ามาใกล้แล้วแตะหลังมืออันอบอุ่นลงบนหน้าผากของเขาด้วยความทะนุถนอม

    คยูฮยอนนิ่งเงียบ...ตกใจเกินกว่าจะพูดอะไรออกไปได้ ทำได้แต่เพียงเงียบเท่านั้น ชายนิรนามส่งยิ้มอบอุ่นมาให้ ทำให้หัวใจดวงน้อยๆที่หวาดกลัวสิ่งรอบข้างพอใจชื้นขึ้นมาได้บ้าง

    "คิดยังไงกันถึงใส่เสื้อผ้าบางๆอย่างนั้นไปนอนกลางหิมะ โชคดีนะที่ฉันไปเจอพอดีไม่งั้นเธอแข็งตายไปแล้ว " หนุ่มนิรนามว่าน้ำเสียงติดตลก ตุ๊กตากระเบื้องเคลือบอดฉงนสงสัยไม่ได้ อารมณ์หลายหลากของผู้ชายคนนี้กำลังทำให้เขาสงสัย...

    "คุณ...คุณกำลังอารมณ์ดี?" พูดจบก็รีบยกมือปิดปากตัวเองทันที เผลอปล่อยให้ความสงสัยควบคุมร่างกายเสียงแล้ว

    "อา...ก็ใช่น่ะสิ ฉันกำลังอารมณ์ดีที่นายปลอดภัย เอาเป็นว่านอนพักไปก่อนนะเดี๋ยวฉันยกอาหารเช้ามาให้เสร็จแล้วจะได้ทานยาต่อ" บุรุษนิรนามว่าอย่างนั้นก่อนจะเดินออกจากห้องไปอีกครั้ง คยูฮยอนเหลียวมองทุกสิ่งรอบกายห้องสีส้มอ่อนให้ความรู้สึกแปลกประหลาดในหัวใจ ความรู้สึกอุ่นร้อนแปลกๆที่เกิดขึ้นจากส่วนลึกของจิตใจไม่เคยพบไม่เคยเจอ

    ต่าง...
    ต่างไปจากความรู้สึกอบอุ่นที่ได้รับจากคุณพ่อ อ้อมกอดของคุณพ่ออุ่นจนร้อนรุ่ม ปราถนาอยากจะได้อีกครั้งแล้วครั้งเล่าหากแต่ความอุ่นร้อนจากคนๆนี้... อยากจะเก็บไว้นานๆ

    .
    .
    .

    คยูฮยอนไม่เคยออกจากนอกห้องตุ๊กตามาก่อนจึงไม่รู้จักสื่อต่างๆนอกจากหนังสือ โทรทัศน์ วิทยุ เครื่องเล่น iPod กลายเป็นเพื่อนใหม่ของคยูฮยอนไปโดยปริยาย ยามที่ชองยุนโฮ นักแสดงชื่อดังของเอเชียออกไปทำงาน บางครั้งหากคยูฮยอนเกิดอารมณ์เหงา ตุ๊กตาตัวน้อยก็จะดึงชายเสื้อของนักแสดงหนุ่มไว้ก้มหน้าก้มตาบ่นงุบงิบอยู่ในลำคอ เพื่อนใหม่ผู้แสนดีก็จะยิ้มรับรู้เข้าใจก่อนจะยกมือหนาขึ้นขยี้ผมเส้นเล็กนุ่มดำขลับอย่างพอใจ และวันนั้นคยูฮยอนก็จะได้ออกไปท่องเที่ยวในโลกกว้าง พบเจอผู้คนต่างๆมากมาย มีทั้งผู้ชายที่มีนิสัยเหมือนผู้หญิง หรือแม้กระทั่งผู้หญิงที่เป็นผู้ชาย

    คยูฮยอนไม่เคยนับวันคืนหรอกว่าเขาอยู่กับคุณยุนโฮมานานแค่ไหนแล้ว คยูฮยอนเลิกนับวันเวลาตั้งแต่จำความได้ ไม่ว่าเมื่อไหร่ เวลาจะผ่านไปนานแค่ไหน คยูฮยอนก็ยังคงอยู่ในห้องตุ๊กตาห้องนั้นเหมือนเดิม แม้ว่าตอนนี้คยูฮยอนจะไม่ได้อยู่ที่ห้องตุ๊กตาห้องนั้นแล้ว คยูฮยอนมาอยู่ในห้องสีส้มอบอุ่นที่มีหลายหน้าตาบนตึกสูงแต่คยูฮยอนก็ไม่อยากจะนับวันเวลา

    ถ้าหาก...ตุ๊กตาตัวนี้นั่งนับวันเวลา ตุ๊กตามีหัวใจตัวนี้ก็จะเหงา...

    เหงา...เพราะคิดถึงเจ้าของ

    "อินฮยอง(ตุ๊กตา)...อยู่ไหนน่ะ มาดูนี่สิฉันซื้ออะไรมาให้นายด้วยนะ" เสียงทุ้มต่ำกังวานดังลอยมาเข้าหูของตุ๊กตาตัวจ้อย คยูฮยอนรีบหลุดจากภวังค์วิ่งตรงไปหาในทันที

    "มี...มีอะไรเหรอฮะ"

    "ฉันซื้อเจ้านี่มาฝากนาย ฉันคิดว่ามันเหมาะกะนายดีน่ะเลยซื้อมาฝาก...แต่นาย...ไม่ได้เจาะหูนี่นา" ชองยุนโฮว่าไปยิ้มไปอย่างอารมณ์ดี มือหนาหยิบยกต่างหูคู่เล็กขึ้นมาโชว์จี้ไม้กางเขนเล็กๆข้างละคู่ห้อยสะท้อนแสงแวววาว

    "ต่างหูเหรอฮะ?"

    "ช่ายยยย... นี่ไง...." พูดจบก็ยื่นหูข้างซ้ายของตัวเองให้อีกฝ่ายดู "เหมือนกับของฉันเลยใช่มั้ยล่ะ ฉันเห็นมันสวยดีก็เลยอยากให้นายใส่บ้าง แต่ถ้านายไม่อยากเจาะหู...นายเก็บมันไว้เฉยๆก็ได้นะ" ใบหน้าหล่อหม่นแสงลงเมื่อเห็นสีหน้าอิหลักอิเหลื่อใจของอีกฝ่าย คยูฮยอนกังวล...กลัวที่ร่างกายจะถูกเจาะ จะเจ็บรึเปล่านะ? เลือดจะไหลรึเปล่า...? แต่พอเห็นแววตาเศร้าสร้อยของอีกฝ่าย มือเล็กบอบบางก็เอื้อมแตะที่่บ่าหนา เขย่งปลายเท้าขึ้นเล็กน้อยซบใบหน้าหวานลงกับไหล่ลาดอีกด้าน

    "ผมจะใส่มัน คุณยุนโฮช่วยใส่ให้ผมด้วยนะฮะ" ใบหน้าหวานใสเรื่อสี น้ำเสียงอ้อมแอ้มขลาดเขินทำเอาพ่อนักแสดงหัวเราะร่วน

    "โอเค ฉันจะใส่ให้นายเอง"

    ...

    ตุ๊กตาตัวน้อยมองกระจกตรงหน้าอย่างประหม่า ความจริงมันก็ไม่มีอะไรน่ากลัวหรอก แต่..ไม้กางเขนสี่คู่ที่ห้องอยู่บนติ่งหูเขาทั้งสองข้างน่ะสิ มันดูแปลก...แปลกประหลาดไปจากเดิมเยอะทีเดียว จะหนักรึเปล่า..ก็มีบ้าง รำคาญเหรอ...ก็ไม่ใช่ แต่มันดูสวย สวยเกินไปน่ะสิ

    "ดูสินายสวยขึ้นตั้งเยอะแน่ะ สมกับชื่อตุ๊กตาจริงๆ นายเหมือนตุ๊กตากระเบื้องเคลือบมากเลย" ชองยุนโฮที่นั่งมองร่างบางส่องกระจกอยู่เอ่ยขึ้น รอยยิ้มกว้างพึงพอใจทำให้คยูฮยอนตัดสินใจไม่พูดอะไรออกไป ถ้าเพื่อนของเขาชอบ...เขาก็จะตามใจใส่มันไว้ก็แล้วกัน

    "ตุ๊กตา...ก็ผมเป็นตุ๊กตาอยู่แล้วนี่ครับ ผมน่ะเป็นตุ๊กตาของคุณพ่อ แม้ตอนนี้ผมจะผละจากคุณพ่อมาแต่ผมก็ยังเป็นตุ๊กตาอยู่ดี" น้ำเสียงนิ่งๆไม่บ่งบอกอารมณ์คนพูดทำเอายุนโฮอยากจะเอามือเขกหัวตัวเองสักที ทั้งๆที่ตอนนั้นสัญญากับตัวเองไว้แล้วในใจว่าจะไม่ทำให้อินฮยองนึกถึงเรื่องราวเลวร้ายในอดีตอีก แต่เขาก็เผลอปากผล่อยพูดออกไปอีกจนได้ เพราะความสวย งดงาม ที่เหมือนกับตุ๊กตาของอินฮยองตัวนี้นั้นเอง เหมือนจนน่ากลัวและหลงใหลไปพร้อมๆกัน

    "ฉันขอโทษอินฮยอง..." เสียงทุ้มเศร้าสร้อยดังขึ้นพร้อมๆกับอ้อมกอดอบอุ่นจากด้านหลัง คยูฮยอนสบสายตากับตัวเองในกระจกก่อนจะเลยไปถึงชายหนุ่มที่ยืนซ้อนอยู่ด้านหลัง

    ร่างบางปล่อยตัวและปล่อยหัวใจให้พิงพักกับอ้อมกอดอบอุ่น มั่นคง และแข็งแรง อย่างน้อย...คุณยุนโฮก็เป็นคนดีและไว้ใจได้ เพียงนี้ก็ยอมให้ร่างสูงใหญ่ปกป้องโดยไม่คิดระแวง

    ...

    2BCon

    อา...ตอนจบๆเมื่อไหร่จะแต่งจบนะเรื่องนี้ ฮ่าๆ

    wonnabwithkyu/85.gif
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×