ตอนที่ 8 : บทที่สาม ขัตติยะกุมาร (3)รีไรท์
ค่ำวันนั้น ทั่วทั้งนครธีบส์ล้วนสว่างไสวไปด้วยแสงจากหมู่ประทีปและคบไฟนับร้อยนับพัน ที่จุดกันทั่วบนถนนทุกเส้นในนคร ประชาชนหลายพันต่างมาร่วมงานเฉลิมฉลองที่จัดขึ้นตามจตุรัสและลานหน้าวิหารของเทพเจ้าต่างๆ โดยเฉพาะที่ลานหน้าวิหารของเทพอมุน
เดิมที เทพอมุน เป็นเทพเจ้าประจำนครธีบส์ ต่อมาเมื่อธีบส์กลายเป็นเมืองหลวงของอาณาจักรอียิปต์ นามของ เทพ อมุน จึงถูกนำไปรวมกับ จอมเทพ รา สุริยเทพและกลายเป็น อมุน-รา โดยชาวอียิปต์ถือว่า เทพอมุนคือ องค์อวตารของจอมเทพรา จากนั้น เทพอมุน ก็กลายเป็นเทพที่เป็นที่เคารพสูงสุดของอียิปต์ และทำให้นักบวชของวิหารเทพอมุนทรงอิทธิพลยิ่งขึ้นเป็นอันมาก
ที่หน้าต่างชั้นบนของพระตำหนักพระมเหสี ค่ำวันนี้ ภายในพระตำหนัก ค่อนข้างเงียบเหงา เนื่องจากองค์ราชินีและเหล่าข้าหลวงไปร่วมงานฉลองชัยชนะที่บริเวณท้องพระโรงและลานด้านหน้ากับเกือบหมด เนเฟอร์ตีตียืนเกาะบนราวระเบียงหินอ่อนพลางทอดสายตาไปยังแสงสว่างจากงานฉลองในเมืองที่อยู่เบื้องล่าง ด้วยความรู้สึกอยากเข้าไปร่วมงานเพื่อเที่ยวชมบรรยากาศบ้าง
“ นายหญิงน้อย เหตุใดจึงออกไปยืนที่ระเบียงเช่นนั้นเล่าเจ้าคะ “ไอริสที่เพิ่งเดินเข้ามาในห้องร้องถามขึ้น เมื่อเห็นผู้เป็นนายยืนอยู่ที่ระเบียงด้านนอก” คืนนี้อากาศหนาวเย็นนัก ออกไปยืนตากลมเช่นนั้น ประเดี๋ยว ก็ได้ป่วยไข้ไปจริงๆหรอก“
เด็กสาวยังคงยืนอยู่ที่เดิมและถามอีกฝ่ายว่า“ที่ท้องพระโรงเป็นอย่างไรบ้าง ไอริส”
“ มีผู้คนมาร่วมงานมากมายเลยเจ้าค่ะ ทั้งยังมีพวกนักเวทมนต์และนักเต้นรำ มาแสดงในงานด้วยเจ้าค่ะ”น้ำเสียงของ นางพี่เลี้ยงฟังน่าตื่นเต้น
นายสาวเอามือเท้าคางพลางเหลือบสายตาขึ้นเบื้องบน” ข้าชักอยากไปร่วมงานฉลองด้วย เสียแล้วสิ”
“ไม่ได้นะเจ้าคะ นายหญิงน้อย”พี่เลี้ยงสาวรีบห้าม”ก็เมื่อบ่ายนี้ นางหญิงน้อยเพิ่งจะกราบทูลพระนางเจ้าไปว่าไม่สบายเข้าร่วมงานไม่ได้ หากแม้นนายหญิงน้อยเข้าไปในยามนี้แล้วถูกพระนางทอดพระเนตรเข้า ไม่แน่ว่าอาจจะโดนลงพระอาญาก็เป็นได้”
“ น่าเบื่อที่สุด ”เด็กสาวพูดขณะที่กวาดสายตามองเข้ามาในห้อง “ นี่หากไม่ใช่เพราะข้าต้องหลบหน้าเจ้าชายนั่นแล้วล่ะก็ ข้าก็คงไม่ต้องมานั่งอุดอู้อยู่ที่นี่เป็นแน่”
กล่าวจบ เนเฟอร์ตีติก็ผละจากระเบียงและเดินเข้ามาข้างใน นางเดินวนไปวนมารอบห้องนั้น ด้วยอาการของผู้ที่กำลังเบื่อหน่ายและไม่มีอะไรจะทำ
ครู่หนึ่ง นางหยุดเดินและทำท่าเหมือนนึกอะไรขึ้นได้
“ ไอริส ข้านึกอะไรออกแล้ว “ เด็กสาวหันมาหาพี่เลี้ยง“ เราแอบเข้าไปเที่ยวในเมืองกันดีกว่า “
ไอริสตาเบิกกว้างด้วยความตกใจ “ ไม่ได้นะเจ้าคะ นายหญิงน้อย ถ้าทำแบบนั้น หากถูกจับได้ เราสองคนจะมีโทษหนักนะเจ้าคะ”
“ ดูเหมือนว่าเจ้าจะกลัวไปเสียทุกอย่างเลยนะ “ เนเฟอร์ตีติพูดด้วยน้ำเสียงประชดประชัน “ ก็แล้วทำไม เราจะต้องให้เขาจับได้ด้วยเล่า “
ไอริสมีท่าทางลังเลใจ “ แต่…นายหญิงน้อย....”
“หากเจ้ากลัวมากนัก ก็จงอยู่เสียที่นี่ ส่วนข้าจะไปคนเดียว โดยไม่ต้องมีเจ้าก็ได้”เนเฟอร์ตีตี พูดด้วยน้ำเสียงหงุดหงิดพร้อมกับทำท่าจะเดินออกไปจากห้องจริงๆ
“โธ่ นายหญิงน้อย “ ไอริสครวญ “ อย่าทำแบบนี้สิเจ้าคะ ท่านก็รู้ว่าข้าจะปล่อยให้ท่านออกไปข้างนอกแต่เพียงลำพังได้อย่างไร”
อีกฝ่ายหยุดเท้า “ถ้าเช่นนั้น เจ้าก็จงออกไปกับข้าสิ”
นางพี่เลี้ยงมีท่าทีลำบากใจ ก่อนจะถอนหายใจเบาๆ “แล้วพวกเราจะออกไปกันได้อย่างไรเล่าเจ้าคะ ในเมื่อมีทหารยามออกมากมายเช่นนี้ “
เด็กสาวยิ้มเล็กน้อย “ เมื่อครู่เจ้าบอกกับข้าว่า ผู้คนส่วนใหญ่ ในวังไปรวมกันอยู่ยังท้องพระโรงและลานด้านหน้าเกือบหมดแล้ว มิใช่หรือ”
“ใช่ เจ้าค่ะ “ ไอริสตอบงงๆ
“ นอกจากนี้ เมื่อวันก่อน เจ้ายังเคยเล่าให้ข้าฟังว่า ตรงกำแพงด้านหลังของพระราชอุทยานหลวง มีช่องประตูเล็กซึ่งเคยถูกใช้เป็นทางเข้าออกด้วยใช่หรือไม่” เด็กสาวฟื้นความจำ
“เจ้าค่ะ “ ไอริสรับคำด้วยความงุนงงอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนที่ดวงตาทั้งคู่จะเบิกกว้างด้วยความตกใจเมื่อเดาความคิดของผู้เป็นนายออก
“นายหญิงน้อย อย่าบอกนะเจ้าคะ ว่าจะ....”
เนเฟอร์ตีตียิ้มอีกครั้ง เป็นรอยยิ้ม ที่แฝงด้วยเล่ห์เลี่ยมและแววซุกซน
***********************
งานเลี้ยงฉลองในท้องพระโรงเต็มไปด้วยผู้คนมากมาย แสงประทีบคบไฟสว่างไสวราวกับเวลากลางวัน องค์ฟาโรห์อเมนโฮเทปประทับบนบัลลังก์คู่กับองค์ราชินีไทยี ทอดพระเนตรการแสดงของเหล่านักเวทย์ นักกายกรรมและตลกหลวงกับเหล่านางรำที่ลานกว้างของท้องพระโรง ร่วมกับเหล่าข้าราชบริพาร ด้วยความสำราญพระราชหฤทัย
ท่ามกลางความรื่นเริงและเสียงสรวลเสต่างๆนั้น เจ้าชายอเมนโฮเทป ผู้ทรงเป็นองค์รัชทายาท ได้ทรงเกิดความรู้สึกเบื่อหน่ายขึ้นมา ดังนั้นเมื่อทรงเห็นว่าพระบิดาและพระมารดากำลังทรงเพลิดเพลินกับการแสดง เจ้าชายจึงทรงแอบเร้นกายหลบจากความวุ่นวายในงานนั้น และกลับไปยังพระตำหนักเพื่อเปลี่ยนเครื่องทรงเป็นแบบสามัญตามที่ทรงโปรด ก่อนจะเสด็จออกมาสู่เขตอุทยานด้านนอก
เจ้าชายหนุ่มเสด็จพระราชดำเนินช้าๆไปตามทางเดินในพระราชอุทยาน และเมื่อทรงพ้นจากรัศมีแสงไฟจากท้องพระโรงและเสียงสรวลเฮฮาไว้ที่เบื้องหลัง เจ้าชายหนุ่มก็สัมผัสถึงความเงียบสงบของบรรยากาศแห่งยามราตรี ชั่วขณะที่พระองค์ทรงย่างพระบาทไปเรื่อยๆนั้น สายพระเนตรก็มองไปรอบๆอย่างช้าๆ
ทว่าขณะที่เจ้าชายหนุ่มมาถึงยังบริเวณด้านหลังของพระราชอุทยาน พระองค์ก็ทรงเห็นร่างสองร่างกำลังก้มตัวหลบซ่อนอยู่หลังพุ่มไม้ และค่อยๆแฝงกายไปยังแนวกำแพงด้านหลัง เจ้าชายหนุ่มทรงกุมพระแสงดาบสั้นที่อยู่ข้างเอว ก่อนจะทรงค่อยๆย่องเข้าไปใกล้ร่างทั้งสองก่อนจะทรงตวาดขึ้น
“หยุดนะ!”
ทั้งสองร่างนั้นหยุดชะงักด้วยความตระหนกตกใจ พร้อมกันนั้น เจ้าชายหนุ่มก็ทรงได้ยินเสียงคล้ายกับเสียงอุทานของสตรีดังมาจากหนึ่งในสองร่างนั้น
“พวกเจ้า เป็นผู้ใด จงบอกมา “ เจ้าชายหนุ่มตรัสถามพระเสียงเข้ม
“เอ่อ.. พวกข้าเป็นพนักงานห้องเครื่อง กำลังจะกลับไปนำอาหารมาเพิ่ม” ร่างหนึ่งตอบด้วยเสียงสั่นนิดๆ
ขณะที่ทั้งคู่ยังคลุมผ้าจนมองไม่เห็นใบหน้า
“แล้วเหตุใด ต้องมาทำลับๆล่อๆอยู่แถวนี้ด้วย “ เจ้าชายทรงคาดคั้น
“เมื่อครู่ ข้าทำของตก จึงก้มลงมองหา “ เสียงที่สองซึ่งใสราวระฆังแก้ว ดังมาจากอีกคนหนึ่ง” ข้าได้ตอบในสิ่งที่ท่านต้องการรู้ไปจนหมดแล้ว ครานี้ พวกข้าไปได้หรือยัง”เสียงที่ตอบนั้นปราศจากซึ่งความกลัวผิดจากอีกคน ความมีอำนาจที่แฝงอยู่ในน้ำเสียงอันไพเราะนั้นฟังดูเข้มแข็งจนเจ้าชายหนุ่มอดรู้สึกประทับใจไม่ได้
“ยัง “เจ้าชายหนุ่มตรัสยิ้มๆ” ก่อนไป พวกเจ้าต้องเปิดผ้าคลุมหน้าให้ข้าดูก่อน “
ทั้งคู่เงียบไปชั่วขณะหนึ่ง ก่อนที่เจ้าของน้ำเสียงอันไพเราะจะตอบกลับมาว่า “ ไม่ได้หรอก ธรรมเนียมของท้องถิ่นเดิมของข้านั้น สตรีจะไม่เปิดหน้าให้ชายใดได้เห็นนอกบ้าน”
“เช่นนั้นหรือ” เจ้าชายหนุ่มทรงเลิกพระขนง
ทว่าก่อนที่พระองค์จะได้ตรัสอันใดต่อไปอีก สตรีทั้งสองก็อาศัยจังหวะที่เจ้าชายหนุ่มไม่ทันระวังพระองค์ รีบวิ่งหนีไปทันที
“เดี๋ยวก่อนสิ อย่าเพิ่งไป“ เจ้าชายหนุ่มทรงร้องเรียกพร้อมกับรีบพุ่งตัวตามทั้งคู่ไปและคว้าเอาชายผ้าคลุมศรีษะของสตรีที่อยู่ข้างหลัง ติดพระหัตถ์มาได้ เจ้าของผ้าคลุมนั้นหันมามองชั่วขณะหนึ่ง ดวงหน้านั้นงดงดงามไม่แพ้ดวงจันทร์ที่ส่องสว่างอยู่บนท้องฟ้า เจ้าชายหนุ่มทรงตกตะลึงอยู่ชั่วขณะ ทำให้ทั้งสองรีบอาศัยจังหวะนั้นเร้นกายหลบไปอย่างรวดเร็ว ทิ้งให้เจ้าชายหนุ่มยืนนิ่งพร้อมกับผ้าคลุมศรีษะที่อยู่ในพระหัตถ์
***************
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

พรมลิขิตจริงๆ
แต่เนเฟอร์ตีตินอกจากจะสวย ฉลาด แล้วยังซนด้วยชอบจังเลยผู้หญิงแบบนี้
เหมือนเจาชายจะตกหลุมรักแรกพบ
นะเนี้ย
ว่าเข้าไปนั่น