ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [fic ikon Double B] B L A N K E T S

    ลำดับตอนที่ #2 : BLANKETS Chapter 1: เฟิสมีตติ้งงง

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 706
      1
      4 เม.ย. 58

    BLANKETS

     

       กรุงโซลเมืองหลวงของเกาหลีใต้ในขณะนี้ได้เข้าสู่ช่วงฤดูหนาวแล้วเมืองทั้งเมืองปกคลุมด้วยหิมะสีขาวคนส่วนใหญ่จะใส่เสื้อโค้ทตัวหนาๆหรือเสื้อกันหนาวสามสี่ชั้นเพื่อสร้างความอบอุ่นให้กับตนเอง

     

         ร่างโปร่งเดินฝ่าหิมะที่ตกปรอยๆตอนนี้เขากำลังจะไปโรงเรียนมือทั้งสองข้างสอดเข้าไปไว้ในกระเป๋าเสื้อหนาวของตนเองระหว่างทางฮันบินหันมองไปทางถนนถึงหิมะจะตกแต่แสงแดดจากพระอาทิตย์ที่ตัดผ่านหิมะก้ถือว่าเป็นวิวที่ดีอยู่เหมือนกัน ถือว่าเป็นเช้าที่ดี เขาคิดแบบนั้น

     

    ฮายยกาก้ามึงรีบเข้าโรงเรียนเลยรอนานล้ะหนิ

     

    ฮายยจีมจีมสายนิดเดียวหน่า

     

       ฮันบินหันไปมองนักเรียนชายสองคนที่กำลังแท็กมือกันก่อนจะกอดคอเดินเข้าโรงเรียน บางทีเขาก้คิดว่าอยากจะมีเพื่อนมารอหน้าโรงเรียนเหมือนกัน..............ติดตรงเขาไม่มีเพื่อนนี่อะสิ เมื่อวานน่าจะเป็นวันที่ลูกเพื่อนแม่มาถึงแล้วแต่ก็ไม่เห็นมีใครมาเลย

     

    ฮันบินสะบัดหัวไล่ความคิดเพ้อเจ้อของตัวเองก่อนจะเดินตรงไปยังห้องเรียน ห้องเรียนของเขามีนักเรียนประมาณสามสิบกว่าคนแบ่งเป็นสามแถวเป็นแถวคู่โต๊ะเรียนของเขาอยู่ด้านหลังสุดริมหน้าต่างด้านข้างเขามีโต๊ะว่างอยู่โต๊ะนึงความจริงจะเอาไปเก็บก็ได้แต่เพื่อนให้ความเห็นว่า

     

    เอาไว้เป็นเพื่อนฮันบิน

     

    ดังนั้นเจ้าโต๊ะตัวนี้จึงเป็นเพื่อนของเขาที่โรงเรียนนี้แต่อย่านึกว่าเขาบ้าถึงขนาดที่นั่งคุยกับโต๊ะกับเก้าอี้นะเขาก็แค่ประชด

     

    ร่างโปร่งเดินไปนั่งลงที่โต๊ะของตัวเองก่อนจะรูดซิปเปิดกระเป๋าแล้วหยิบผ้าบางๆขนาดไม่ใหญ่มากแต่ก็พอจะคลุมตัวคนๆนึงได้ขึ้นมาก่อนจะนำมาคลุมตัวเองแล้วเอนตัวฟุบหลับลงบนโต๊ะเขาทำแบบนี้ทุกวันแล้วก็มีคนนินทาเขาทุกวัน

     

    มึงดูๆๆอิก้อนเน่าแม่งมาอีกล้ะ

     

    ผ้าห่มมันนี่เคยซักปะวะเก่าสุดๆเอาเป็นผ้าเช็ดตีนยังดูเหมาะกว่าอีก

     

    มึงขนาดหน้าร้อนยังเอามาห่มอะคิดดู

     

    ประสาท55555555555555555555555

     

    เสียงนินทาที่ดังมาจากโต๊ะด้านหน้าเขาได้ยินมันทุกคำกล้าดียังไงมาว่าผ้าห่มมิกกี้เมาส์ของเขาว่าเป็นผ้าเช็ดตีนฮันบินได้แต่เก็บความโมโหไว้ในใจก่อนจะทำเป็นไม่รู้ไม่เห็น

    จู่ๆเสียงนินทาก็เงียบลงก่อนจะกลับมาเป็นเหมือนเดิม น่าแปลกใจแสดงว่าต้องมีใครสักคนเดินเข้ามาแน่ๆแต่ตอนนี้เขารู้สึกได้ว่ามีคนมานั่งข้างๆฮันบินค่อยๆลุกขึ้นมานั่งก่อนจะหันไปมองคนข้างๆก่อนจะทำหน้างงๆ

     

    ใครอะฮันบินขมวดคิ้วพลางสำรวจคนข้างๆเขาเล็กน้อยแต่ดูเหมือนเจ้าตัวรู้ว่าโดนจ้องตาตี่ๆปรายตามามองฮันบินก่อนจะยักคิ้วเป็นเชิงถามว่ามีอะไรมั้ยแต่ฮันบินกลับไม่ตอบเอาแต่อ้ำๆอึ้งๆ

     

    “…….”

     

    เอ่อ....” 

     

    บ็อบบี้

     

    ห่ะ?

     

    อยู่ๆคนด้านข้างเขาก็โพล่งออกมาว่าบ็อบบี้?หรือมันจะเป็นคำทักทายประจำถิ่นนั้นๆของคนข้างเขาหรองั้นเขาก็ควรจะทักกลับใช่มั้ย

     

    และแล้วก็.............

     

    บ็อบบี้เช่นกันนะครับ   ฮันบินพูดด้วยน้ำเสียงเป็นมิตรที่สุดแถมยังส่งยิ้มหวานไปให้ด้วยเพื่อความน่าเชื่อถือคำนี้แหละแปลว่าทักทายแน่ๆเลย

     

    บ็อบบี้มองฮันบินอย่างเหลือเชื่อไอหน้าเอ๋อนี้คิดว่าชื่อเขาเป็นคำทักทายอะนะ?คนอะไรมันจะโง่ได้ขนาดนี้อีกวะเนี่ยยบ็อบบี้เขยิบตัวหันหน้าเขาหาฮันบินก่อนจะดีดหน้าผากใส่ไปทีนึง

     

    ป้อก

     

    โอ้ย ฮันบินเอามือมาถูๆกับหน้าผากตัวเองก่อนจะทำหน้างอใส่ไอตาตี่ที่ทำหน้าเหมือนจะขำแต่ไม่ขำ

     

    มาบ็อบบี้เช่นกันอะไรล่ะกูชื่อบ็อบบี้  หน้าเขาคงเป็นลักษณะ -__- นี้แน่ๆอยากจะด่าไอควายก็กลัวไม่เข้าใจคิดไปนู้นไปนี้อีก

     

    น่าอาย.....

     

    ฮันบินหน้าขึ้นสีเล็กน้อยเขาแทบอยากจะมุดตัวลงผ้าห่มแล้วหนีไปไกลๆคนข้างหน้าจะได้ยินที่เขาพูดเมื่อกี้มั้ยเขาจะต้องโดนล้อตายมั้ยเขาทำอะไรลงไปเนี่ยยย ยิ่งคิดฮันบินก็ยิ่งจิตตกจนถึงกับเอาผ้าห่มมาคลุมหัวก่อนจะรีบฟุบหลับลงไปกับโต๊ะทันที

     

    ลุกขึ้นมาเหอะกูไม่ล้อมึงหรอก      คนอะไรทั้งโง่ทั้งทำตัวประหลาดๆถ้าไม่ติดว่ามันน่ารักเขากระโดดถีบติดกำแพงไปแล้ว

     

    “…….”

     

    ถ้ามึงไม่โผล่หัวขึ้นมากูจะล้อมึง”   บ็อบบี้ทำเสียงดุให้รู้ว่าเขาไม่ได้พูดเล่น

     

    แล้วมันก็ได้ผลฮันบินลุกขึ้นมานั่งก่อนจะหันหน้าไปทางบ็อบบี้ทั้งๆที่ผ้าห่มยังคลุมหัวอยู่แถมยังดึงผ้าห่มมาปิดหน้าอีก

     

     “เอาผ้าเน่ามึงออกจากหัวด้วย

     

    ฮันบินดึงผ้าห่มออกก่อนจะทำปากบึนใส่แสดงความไม่พอใจข้อหาว่าผ้าห่มลายมิกกี้เมาส์ของเขา

     

    เดี๋ยวงับปากเลยหนิ.....

     

    หือ?

     

    ป่าว” 

     

    บ็อบบี้โบกมือปัดๆให้ช่างมันไปเขาอยากจะตีปากตัวเองจริงๆดันเผลอพูดออกมาซะงั้นบ็อบบี้ถอนหายใจยาวก่อนที่สติเขาจะแตกก็ปากไอโง่นี่มันน่างับจริงๆน่าบีบน่าจูบ หยุด หยุดความคิดมึงเดี๋ยวนี้บ็อบบี้ หยุด

     

     

    “……”

     

    “…….”

     

    ฮันบิน...”   ก็เขาเห็นว่าเขายังไม่ได้บอกชื่อกับบ็อบบี้เลยจะให้รู้จักชื่ออยู่ฝ่ายเดียวมันก็ดูไม่ดี

     

    คำทักทายประจำชาติมึงหรอ?

     

    ไหนบอกว่าไม่ล้อไง!” 

     

     ฮันบินโกรธหน้าดำหน้าแดงทั้งอายทั้งโมโหหน้าก็เจ๊กยังจะมากวนเขาอีกฮ่วย!!

     

    หน่าๆกูล้อเล่นหน่า

     

    ก็ได้

    .

    .

    .

    .

    .

    .

    .

    .

    .

    .

     

    พอถึงเวลาเลิกเรียนนักเรียนในห้องทยอยกันเก็บของกลับบ้านบ้างก็ออกไปเที่ยวปาร์ตี้กันต่อแต่สำหรับฮันบินคือ  กลับบ้าน  ส่วนบ็อบบี้ก็กำลังเก็บของเหมือนกันแต่ดูเหมือนจะเสร็จก่อนฮันบินเพราะมีอะไรยัดได้ก็ยัดๆไปให้หมด

    กลับล้ะนะ”  

     

     ฮันบินเงยหน้าก่อนจะโบกมือบ๊ายบายให้บ็อบบี้แค่แปบเดียวก่อนจะมาง่วนอยู่กับการยัดผ้าห่มลงกระเป๋า จะให้เขาถือกลับบ้านก็ใช่เรื่องพะรุงพะรังจะตายเพราะวันนี้เวรเขาต้องเอาขยะไปทิ้งอีกถึงบ้านกับโรงเรียนเขาจะใกล้กันก็เถอะ

     

    เดี๋ยวกูถือให้ ยังไงก็กลับด้วยกัน

     

    ฮันบินชะงักมือที่กำลังยัดผ้าห่มอยู่ก่อนจะเงยหน้ามองร่างสูงที่ยืนยิ้มฟันเหยินอยู่ข้างๆโต๊ะ หมายความว่าไงที่บอกว่ากลับด้วยกัน?

     

    กูเนี่ยแหละคนที่มาอยู่เป็นเพื่อน

     

    ฮันบินทำหน้าตะลึงก่อนมองบ็อบบี้ตั้งแต่หัวจรดเท้าโดยรวมแล้วเพื่อนคนนี้หุ่นดีก็มีสเน่ห์กลิ่นตัวหอมแบบผู้ชายแมนๆเอาเป็นว่าอยู่ด้วยกันได้ไม่สกปรกก็พอ ว่าแต่กระเป๋าเดินทางล่ะ?หรือบ็อบบี้โกหก

     

    กระเป๋านายล่ะ?

     

    โยนไว้ในบ้านเมื่อเช้า

     

    อ๋อ แล้วทำไมไม่บอกตั้งแต่เมื่อเช้าล่ะครับ

     

    ก็ไม่แน่ใจแต่โทรถามแม่มา กลับเหอะเอาผ้าเน่ามึงมา

     

    บ็อบบี้แบมือขอผ้าห่มจากฮันบินแบบรีบๆเขาอยากกลับไปดูทีวีวันนี้มีถ่ายทอดสดแข่งบาสด้วยฮันบินก็ยอมให้แต่ก็ส่งค้อนไปให้บ็อบบี้ไปก่อนหนึ่งทีเรียกผ้าห่มเขาว่าผ้าเน่าได้ยังไง

     

    ป่ะ รีบกลับจะไปดูบาส เสื้อหนาวมึงอะ?

     

    โดนขโมยตอนกลางวันอะ”   ฮันบินตอบเสียงนิ่งๆไม่สะทกสะท้านเท่าไหร่แค่เสื้อเองแต่ถ้าขโมยผ้าห่มมิกกี้เมาส์ดิหลู่เรื่อง

     

    เดี๋ยวตอนกลับบ้านมึงก็หนาวตายพอดีอะ

     

    ถึงปากจะด่าแต่บ็อบบี้ก็ถอดเสื้อหนาวของตัวเองก่อนจะโยนให้ฮันบินแล้วตัวเองก็เอาผ้าห่มมิกกี้เมาส์ของฮันบินมาคลุมตัวเองแทน

     

    ขอบใจ

    รีบเดินมาเหอะหน่า กูอายนะ

     

    ฮ่าๆ

     

    ฮันบินหัวเราะเบาๆก่อนจะเดินตามหลังบ็อบบี้ไปมีบ็อบบี้เขาก็คงไม่ค่อยเหงาแล้วล่ะ

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     #ฟิคผ้าห่มฮันบิน

     

     CR.SHL
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×