ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    เล่ห์มธุรส by จำปีดา (ภาคต่อ...ทัณฑ์น้ำผึ้งรวง) ทำมือ...พร้อมส่งแล้วนะคะ

    ลำดับตอนที่ #9 : หนึ่งนิดชิดใกล้ (50%)

    • อัปเดตล่าสุด 11 ก.ย. 62


     


    ตอนที่

    5 

    หนึ่งนิดชิดใกล้ (50%)

                วันรุ่งขึ้นปรวิตต์ไปประชุมกับบุญระภีหัวหน้าฝ่ายกฎหมายที่บริษัทชวัลกร กรุ๊ปทั้งวัน โดยมีมธุรสเป็นผู้ประสานงานอยู่ที่ออฟฟิศ เพราะปรวิตต์โทรศัพท์มาสั่งให้เธอหาเอกสารหรือค้นข้อมูลเพิ่ม แล้วให้ส่งอีเมลกลับไปให้ หญิงสาววิ่งวุ่นในออฟฟิศอยู่คนเดียวเกือบทั้งวันจนถึงเย็น ทำให้งานของกรมพัฒนาเศรษฐกิจล่าช้าไปจากที่เธอวางแผนไว้อย่างช่วยไม่ได้

                ปรวิตต์โทรศัพท์มาสั่งในตอนเย็นว่าวันพรุ่งนี้เขาจะไม่เข้าออฟฟิศ เพราะจะประชุมที่ชวัลกร กรุ๊ปต่ออีกหนึ่งวัน ขอให้เธอสแตนบายอยู่ที่ออฟฟิศ เพื่อประสานเรื่องข้อมูลหรือเอกสารเพิ่มเติมอีก

     

                วันศุกร์รุ่งขึ้นมธุรสสแตนบายอยู่แต่ในออฟฟิศ ปรวิตต์โทรศัพท์เข้ามาขอเอกสารเพิ่มเติมแค่สองครั้ง จากนั้นก็หายเงียบไปทั้งวัน ทำให้เธอมีเวลาที่จะสะสางงานของกรมพัฒนาเศรษฐกิจบ้าง จนได้เวลาเลิกงานแล้วผู้ช่วยสาวก็ยังไม่สามารถปิดงานได้สำเร็จ เธอจึงตัดสินอยู่ทำต่อให้เสร็จ เพราะเจ้านายของเธออาจจะต้องการเอางานทั้งหมดไปตรวจสอบที่บ้านในช่วงวันหยุดเสาร์อาทิตย์  เพื่อที่จะนำเสนอกับกรมพัฒนาเศรษฐกิจในสัปดาห์หน้า ซึ่งเธอก็เดาได้ไม่ผิดเลย

                เฮ้อ! เสร็จเสียที มธุรสถอนหายใจเฮือกใหญ่อย่างโล่งอก มองนาฬิกาบนผนังบอกเวลาสามทุ่มกว่า เธอหมุนเก้าอี้ลูกล้อออกจากโต๊ะทำงาน แล้วยกแขนทั้งสองข้างขึ้นเหนือศีรษะ เหยียดตัวและขาทั้งสองข้างเป็นเส้นตรงบนเก้าอี้ทำงาน ปลายเท้าที่ปราศจากร้องเท้าส้นสูงสองนิ้วจิกอยู่บนพื้นพรม เพื่อขับไล่ความเมื่อยขบ เธอปิดเปลือกตาลงพักสายตาที่เมื่อยล้า เพราะจ้องอยู่กับจอคอมพิวเตอร์อยู่เป็นนานหลายชั่วโมง หญิงสาวรู้สึกผ่อนคลายจึงอยู่ในท่านั้นนานหลายนาที จนไม่ได้ยินเสียงประตูห้องทำงานถูกเปิดเข้ามา

                อะแอ้ม!” เสียงกระแอมเบาๆ ไม่ทำให้เลขาสาวของเขารู้สึกตัว ปรวิตต์เดินเข้าไปใกล้อีก ก็ไม่มีท่าทีว่าเธอจะรู้ตัว

                มธุรส คราวนี้ได้ผลหญิงสาวสะดุ้งสุดตัวลืมตาขึ้น ก็เห็นเจ้านายหนุ่มยืนชะโงกตัวอยู่เหนือร่างของเธอ จึงรีบลุกพรวดพลาดขึ้นและก้าวถอยหลังไปอย่างอัตโนมัติ ส้นเท้าเหยียบเข้ากับลูกล้อของเก้าอี้ทำงานที่เธอเพิ่งลุกขึ้นมา

                ว้าย!” ร่างบางเลื่อนจะหงายหลัง ดีแต่ที่เจ้านายหนุ่มใช้แขนเกี่ยวเอวกลมไว้ได้ทัน ความใกล้ชิดทำให้เลขาสาวร้อนผ่าววูบวาบไปทั้งร่าง สายตาสบกันในระยะกระชั้นชิดเนิ่นนาน ก่อนที่ทั้งคู่จะรีบดีดตัวออกจากกันเหมือนโดนไฟร้อนๆแนบ

                ขอโทษ ที่ทำให้คุณตกใจ เขาเอ่ยด้วยน้ำเสียงและแววตาเรียบเฉย หลังจากที่นิ่งเงียบกันไปครู่ใหญ่

                เอ่อ...
                นี่มันสามทุ่มแล้ว ทำไมยังไม่กลับบ้าน เจ้านายหนุ่มถามทำลายอาการอึกอักอึดอัดของเธอ

                คือว่า ดิฉันอยู่ทำงานของกรมพัฒนาเศรษฐกิจ พยายามจะทำให้เสร็จ เผื่อที่ว่าคุณอาจจะเอาไปอ่านในช่วงวันหยุดเสาร์อาทิตย์ มธุรสอธิบายได้คล่องขึ้น 

                ถูกของคุณ ปรวิตต์เอามือลูบท้ายทอยอย่างเหนื่อยๆ ผมกะจะเอาไปอ่านช่วงวันหยุดจริงๆ

                ตอนนี้ดิฉันเซฟเข้าไฟล์กลางของคุณน้อยเรียบร้อยแล้วค่ะ แล้วก็ก็อปปี้ให้คุณหนึ่งชุดด้วย หญิงสาวส่งแผ่นดิสก์ที่เพิ่งก๊อปปี้เสร็จให้เขา

                ขอบคุณมาก ปรวิตต์รับไว้แล้วยิ้มที่มุมปากให้กับความรอบคอบของเธอ และขอขอบใจมากสำหรับสองวันนี้ ถ้าไม่ได้คุณคอยหาข้อมูลซับพอร์ท ผมกับคุณบุญระภีคงจะลำบาก เพราะมีรายละเอียดที่จุกจิกและซับซ้อนมากกับชวัลกร กรุ๊ปปรวิตต์เริ่มมีความรู้สึกที่ดีๆ ขึ้นกับผู้ช่วยสาวของบิดาในเรื่องของการทำงาน

                มิได้ค่ะ มันเป็นหน้าที่ของฉันอยู่แล้ว มธุรสรยิ้มกว้าง เป็นครั้งแรกที่เขาพูดกับเธอโดยปราศจากแววตาถากถางรอยยิ้มหยันดูแคลน

                นี่ก็สามทุ่มกว่าแล้ว คุณกลับบ้านไปพักผ่อนเถอะ” 

                แล้วคุณล่ะค่ะ

                อีกสักครู่ก็จะกลับเหมือนกัน ขอบใจอีกครั้งที่คุณอยู่ล่วงเวลาทำงานให้จนเสร็จ ปรวิตต์กล่าวด้วยน้ำเสียงนุ่มนวลขึ้น มธุรสรู้สึกได้ถึงบรรยากาศเป็นมิตรเริ่มที่จะก่อตัวขึ้น ทั้งๆที่ก่อนหน้าบรรยากาศในที่ทำงานอึมครึม มีกระแสของความตึงเครียดไหลวนอย่างไม่ทราบสาเหตุ 

     

    บ่ายวันเสาร์ที่โรงพยาบาล

                ก๊อกๆๆ

                เชิญครับ ปิรัณขานเชิญ ขณะนอนดูข่าวทางโทรทัศน์อยู่บนเตียงคนไข้ตามลำพัง

                อ้าว! สวัสดีครับคุณชยุทธ์ คนป่วยบนเตียงกล่าวทักทายผู้ที่เปิดประตูห้องพักคนไข้พิเศษเข้ามา

                สวัสดีครับคุณปิรัณ เป็นอย่างไรบ้างครับ ดีขึ้นหรือยัง ชยุทธ์ยิ้มกว้างเดินเข้ามาในห้องพร้อมกับกระเช้าดอกไม้

               ดีขึ้นมากแล้วครับ วันมะรืนคุณหมอจะให้กลับบ้านได้แล้ว อ้าว! มธุรสก็มาด้วย ปิรัณเพิ่งเห็นผู้ที่เดินตามหลังชยุทธ์เข้ามา

                ครับ เมื่อเช้าผมโทรศัพท์ไปชวนคุณรสมาเยี่ยมคุณ

                สวัสดีค่ะคุณน้อย ดีใจจังค่ะ ที่คุณหมอจะให้คุณน้อยกลับบ้านได้แล้ว มธุรสดีใจที่รู้ว่าอาการของผู้เป็นเจ้านายดีขึ้น

                กลับบ้านได้ ก็ต้องไปพักผ่อนก่อนนะครับ ไม่ใช่ให้กลับไปทำงาน ชยุทธ์พูดเสียงกลั้วหัวเราะเพราะทราบว่าปิรัณนั้นเป็นคนทำงาน แล้วนี่พี่ชเยศกับพี่ศันก็ฝากกระเช้าดอกไม้มาเยี่ยมด้วยครับ และขอโทษที่ไม่ได้มาเยี่ยมด้วยตัวเอง

                โธ่! อย่าได้เกรงใจ แค่ไข้หวัดใหญ่เล็กน้อย ฝากขอบคุณคุณชเยศกับคุณศันด้วยครับ ก็พอดีกับประตูห้องคนไข้ถูกเคาะและเปิดเข้ามา ปรวิตต์กับจารุลักษณ์เดินจูงมือกันเข้ามา ทั้งสองคนชะงักไปเล็กน้อยเมื่อเห็นว่าบิดากำลังมีแขกมาเยี่ยม

                สวัสดีครับคุณปรวิตต์ คุณจารุลักษณ์ ชยุทธ์เป็นผู้กล่าวทักทายก่อน

                สวัสดีครับคุณชยุทธ์ ปรวิตต์เดินเข้ามาสัมผัสมือกับนักธุรกิจเจ้าของโรงแรม แล้วหันมาทักเลขานุการชั่วคราวของตน สวัสดีมธุรส

                คุณ... จารุลักษณ์เรียกมธุรสเสียงแหลม เมื่อเห็นหญิงสาวได้ถนัด คุณจำฉันได้ไหมคะ

                เอ่อ...จำได้ค่ะมธุรสกล่าวด้วยน้ำเสียงอ้อมแอ้ม ทุกคนในห้องเลยหันมาให้ความสนใจกับหญิงสาวทั้งสองคน

                ไม่นึกเลยว่าคุณจะเป็นคนๆเดียวกับคุณมธุรสผู้ช่วยของคุณพ่อ” จารุลักษณ์ตื่นเต้น ก่อนที่จะหันมาทางสามี “ก็วันนั้นไงคะวิตต์ วันที่จอยไปหาวิตต์ที่ทำงาน แล้วเกิดหน้ามืดจะเป็นลม ก็ได้คุณมธุรสนี่แหละค่ะช่วยพยุงพาจอยไปนั่งพัก แล้วยังไปหาน้ำชาร้อนมาให้จิบอีก วันนั้นยังไม่ทันได้ถามชื่อเสียงเรียงนาม คุณมธุรสก็หายตัวไปซะก่อน ไม่นึกเลยว่าจะเป็นคนกันเอง ดีใจจังค่ะที่ได้เจอคุณอีก จารุลักษณ์ตรงเข้าจับไม้จับมือ

                อ้าว! นี่เคยเจอกันมาก่อนแล้วเหรอปิรัณแทรกขึ้นมา 

                ค่ะคุณพ่อ ไม่นึกเลยว่าคุณพ่อจะมีผู้ช่วยที่สวยและน่ารักอย่างนี้ จารุลักษณ์หันไปพูดกับคุณพ่อของสามี ทำให้มธุรสออกอาการเงอะงะเคอะเขินมากยิ่งขึ้นไปอีก

                ผมเห็นด้วยกับคุณจอยครับ และออกจะอิจฉาคุณปิรัณอยู่นิดๆที่มีผู้ช่วยทั้งทำงานเก่งและสวยอีกต่างหาก ความเห็นด้วยของชยุทธ์ ทำให้มธุรสยิ่งทำหน้าไม่ถูก รีบเบือนหน้าหนีแต่ก็ต้องประสานสายตากับปรวิตต์เข้าโดยบังเอิญ เธอเห็นรอยยิ้มขรึมๆที่มุมปากของเขาแล้ว รู้สึกขุ่นเคืองขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก 

                คุณชยุทธ์ครับ เห็นปรวิตต์บอกว่าสัญญารีสอร์ต ที่มัลดีฟส์คงจะเซ็นกันได้ในเร็วๆนี้ปิรัณเปลี่ยนเรื่อง เมื่อเห็นว่าผู้ช่วยสาวรุ่นลูกอายม้วนหน้าแดงที่ได้รับคำชมซึ่งๆหน้า  ด้วยความเป็นผู้ใหญ่ที่ผ่านร้อนผ่านหนาวมามากกว่า ก็พอจะดูออกว่าชยุทธ์นั้นรู้สึกอย่างไรกับผู้ช่วยของตน เรื่องที่นภศุภ์ฯได้งานรีสอร์ตที่มัลดีฟส์ มธุรสก็เป็นส่วนสำคัญอยู่มากนอกเหนือจากข้อสัญญาทางธุรกิจที่สุวรรณาลัย รามาด้าพอใจ

                ครับด้วยความยินดี เดือนหน้าผมจะบินไปประชุมที่มัลดีฟส์ ผมอยากให้คุณรสไปด้วยชยุทธ์เริ่มเกริ่นกับเจ้านายของเธอ และหันหน้ามามองหญิงสาวที่ตัวเองสนใจอย่างมีความหมาย พ่อหม้ายหนุ่มหวังว่าจะได้มีโอกาสใกล้ชิดกับมธุรสมากขึ้นโดยใช้งานที่มัลดีฟส์เป็นข้ออ้าง

     

                หลังจากที่ชยุทธ์หย่าร้างกับภรรยาสาวชาวอิตาเลี่ยน เขาก็ทุ่มเทให้กับงานแต่เพียงอย่างเดียว และไม่ได้เกี่ยวข้องกับผู้หญิงคนใดอีก ทั้งที่มีหญิงสาวมากมายเข้ามาแสดงตัวทำความรู้จัก แต่นักธุรกิจหนุ่มใหญ่ก็หาได้ให้ความสนใจหญิงใดเป็นพิเศษไม่ เพราะรู้สึกเบื่อและชาชินกับความสวยที่ฉาบฉวยไม่จริงจัง จนกระทั่งเขาได้พบกับมธุรสผู้ช่วยสาวของกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ของนภศุภ์ คอนสตรัคชั่น  

                มธุรสเป็นคนสวยสะดุดตา ชยุทธ์สนใจเธอทันทีที่ได้เจอกันครั้งแรก ต่อมาเมื่อได้พบปะพูดคุยกันเรื่องงานอยู่หลายครั้ง จึงรู้ว่าหญิงสาวเป็นคนที่จริงใจไร้จริตมารยาและมีความตั้งใจในการทำงาน เธอไม่เคยแสดงความสนใจเขาเกินกว่าธุรกิจที่ได้รับมอบหมายให้ประสานงาน ซึ่งแตกต่างไปจากผู้หญิงทั่วๆไปที่ไล่ล่าเขาอย่างหมาล่าเนื้อ แต่ในทางกลับกันชยุทธ์ต่างหากที่พยายามไล่ล่าหัวใจของผู้ช่วยสาวคนนี้อยู่

                ปรวิตต์หัวเราะในลำคอเบาๆ และมองชยุทธ์ด้วยแววตาที่รู้ทัน ก่อนที่จะมองมธุรสด้วยสายตาเย็นชาดูแคลนอย่างที่ผู้ช่วยสาวไม่เข้าใจ

                และถ้ารีสอร์ตที่มัลดีฟส์เสร็จเรียบร้อย หวังว่าทุกคนจะให้เกียรติไปเยี่ยมเยียนนะครับ

                ด้วยความยินดีเลยค่ะ จอยอยากไปมานานแล้ว เคยเห็นแต่ในหนังสารคดีกับหนังสือท่องเที่ยวสวยมาก แล้วเราไปกันนะคะวิตต์ประโยคหลังจารุลักษณ์หันมาทำตาหวานใส่สามี

                ครับ ปรวิตต์รับคำและยิ้มอย่างอบอุ่นให้กับภรรยาสาว สายตาที่ทอดมองแสดงความรักใคร่ มธุรสบอกตัวเองไม่ถูกว่า อิจฉาหรือเปล่า

                วันนี้ผมกับคุณรสเห็นจะต้องขอตัวกลับก่อน หวังว่าคุณปิรัณจะหายในเร็ววันนี้นะครับ

                ขอบคุณมากครับคุณชยุทธ์ที่มาเยี่ยมผมในวันนี้ ปิรัณกล่าวขอบคุณ แล้วหันมาพูดกับผู้ช่วยสาว มธุรสขอบใจมาก ช่วงนี้คงจะเหนื่อยหน่อยนะ ไหนจะต้องทำหน้าที่เลขาแทนเยาวรินอีก แต่ศุพินิจก็จะกลับมาทำงานในวันจันทร์นี้แล้วใช่ไหม ปิรัณกล่าวกับผู้ช่วย

                แววตาของผู้อาวุโสทอประกายอ่อนโยนจนปรวิตต์รู้สึกสะกิดใจเหลือเกิน เขาเฝ้ามองปฏิกิริยาของทั้งบิดาและผู้ช่วยสาวอยู่เกือบตลอดเวลา มันน่าจะมีอะไรที่มากกว่าความเป็นเจ้านายกับลูกน้อง ซึ่งปรวิตต์ก็เข้าใจได้ไม่ผิดหรอก แต่เขาไม่ทราบถึงสาเหตุที่แท้จริงเท่านั้นเอง ว่าเพราะเหตุใดปิรัณจึงให้ความเอ็นดูมธุรสเกินกว่าพนักงานตำแหน่งผู้ช่วย

     

                คุณมธุรสคะ หวังว่าเราจะได้เจอกันอีกนะคะ

                ค่ะคุณจารุลักษณ์ สองสาวยิ้มให้กันอย่างเป็นมิตร

                ผมกลับก่อนครับ ชยุทธ์กล่าวกับปรวิตต์ที่เดินมาส่งที่หน้าประตูห้องพักคนไข้

                ขอบคุณมากครับคุณชยุทธ์ ทั้งสองหนุ่มประสานมือกัน ก่อนที่ปรวิตต์จะหันมาพยักหน้าให้ผู้ช่วยสาว เธอพึมพำบอกลา แล้วรีบเดินนำหน้าชยุทธ์ออกไป

                                                                  จบตอนค่ะ

    เขยิบเข้าไปอีกนิดนะจ๊ะ ชิดๆ เข้าไปอีกหน่อย

    แล้วจะยังไงต่อล่ะนี่คุณวิตต์ขา

    จำปีสปอยให้นิสสสนึงก็ได้...

    คู่กันแล้ว มันก็ไม่แคล้วคลาดกันไปได้ค่า อิอิ

    พรุ่งนี้เจอกกัน หนึ่งนิดชิดใกล้ ครบร้อย ค่ะ

    เล่ห์มธุรสโฉมใหม่ พร้อมตอนพิเศษสุดๆ สุดๆ 

    สั่งจองเข้ามาได้แล้วค่ะ ขอบคุณมากๆ ค่

       



    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×