คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #7 : เจ้านายเย็นชา VS เลขาชั่วคราว (50%)
เจ้านาย เลขานุการ
ตอนที่
4
เจ้านายเย็นชา กับ เลขาชั่วคราว (50%)
เช้าวันจันทร์มธุรสมาถึงที่ทำงานตามเวลาปกติ เธอเป็นคนมาทำงานค่อนข้างเช้า ทั้งออฟฟิศของเธอ และของกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ที่อยู่ติดกันยังคงเงียบไม่มีผู้ใดมาทำงาน ศุพินิจจะไม่เข้าออฟฟิศจนถึงวันจันทร์หน้า เพราะถูกมอบหมายให้ไปประชุมและดูงานที่ประเทศสิงคโปร์เป็นเวลาหนึ่งสัปดาห์
มธุรสเลือกเอกสารที่ปิรัณต้องการออกมาจัดเตรียมไว้อย่างเรียบร้อย ก่อนที่จะหยิบจับงานอื่นขึ้นมาทำอย่างขะมักเขม้นและรอการมาถึงของผู้เป็นเจ้านาย
ผู้ช่วยสาวมองนาฬิกาข้อมือบอกเวลาแปดโมงครึ่งแล้ว แต่ยังไม่มีวี่แววของปิรัณ เธอจึงเดินถือเอกสารไปยังออฟฟิศของเจ้านายผ่านโต๊ะเลขานุการที่ยังว่างเปล่าเช่นกัน จึงถือวิสาสะเดินเลยเข้าไปในห้องของกรรมการผู้อำนวยการใหญ่โดยไม่เคาะ
“คุณเดินเข้าห้องกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ โดยไม่เคาะประตูเสียก่อนอย่างนี้เสมอเหรอ” เสียงเข้มๆเอ่ยถาม พร้อมกับเก้าอี้ทำงานตัวใหญ่ของปิรัณหันมาอย่างช้าๆ มันหยุดนิ่งก็พอดีกับที่หญิงสาวหยุดยืนอยู่ที่หน้าโต๊ะทำงานพอดี มธุรสชาวาบไปทั้งร่าง เมื่อเห็นคนที่นั่งอยู่บนเก้าอี้ทำงานตรงหน้าเธอ หาใช่ปิรัณไม่
“คุณปรวิตต์” เธอเรียกชื่อเขาเบาๆ อย่างนึกไม่ถึงว่าจะเจอเขาในห้องทำงานของเจ้านายของตนเองในเช้าวันนี้ ผู้ช่วยสาวออกอาการอึกอักเล็กน้อย ซึ่งมันเป็นอาการปกติของเธอไปแล้วในยามที่เจอเขา
“คือ...”
“คุณกับคุณพ่อคงจะสนิทสนมกันมากนะ ถึงได้เข้านอกออกในห้องทำงานกันโดยไม่ต้องเคาะประตู หรือไม่ก็ตัดเสื้อร้านหรูให้กัน” ทั้งน้ำเสียงและแววตาของเขาออกแววเยาะหยันถากถาง ทำเอาผู้ช่วยสาวต้องเชิดหน้าสูงอย่างถือตัว
“ที่ดิฉันเข้ามาในห้องทำงานของคุณปิรัณโดยไม่เคาะประตูเสียก่อนก็เพราะ ดิฉันเห็นว่าท่านยังไม่มาทำงาน ดิฉันเอาเอกสารที่ท่านต้องการเข้ามาวางไว้ให้ก่อน ก็ไม่คิดว่าจะเจอคุณที่นี่” มธุรสอธิบายได้อย่างลื่นไหลไม่ติดขัด จนนึกภูมิใจตัวเองที่สามารถควบคุมอาการสั่นไม่ให้มากไปกว่านี้ยามที่ต้องอยู่ต่อหน้าเขา หญิงสาวสูดลมหายใจเข้าปอดอีกเฮือกใหญ่ ก่อนที่จะอธิบายต่อ
“ส่วนเรื่องชุดราตรีที่คุณปิรัณสั่งตัดให้ ก็เป็นเรื่องของความกรุณาที่เจ้านายมีให้กับลูกน้อง หรือผู้ใหญ่ที่มีต่อเด็ก เมื่อท่านรู้ว่าดิฉันได้รับเชิญจากคุณชยุทธ์ไปงานแสดงบัลเลย์การกุศล ก็ถือว่าเป็นความเมตตาของท่าน” เธออธิบายได้เสียงดังฟังชัด แต่ก็อดรู้สึกแปลกใจไม่ได้ว่าเขารู้ได้อย่างไร ว่าชุดนั้นมาจากห้องเสื้อสโรชา
ส่วนปรวิตต์ก็รับฟังด้วยใบหน้าที่เรียบเฉย แต่แววตาและรอยยิ้มที่มุมปากออกแววดูหมิ่นดูแคลน จนผู้ช่วยสาวรู้สึกร้อนสลับเดือดดาล จนต้องกำมือแน่นด้วยระงับอารมณ์ที่จะไม่เขวี้ยงแฟ้มที่อยู่ในมือใส่หัวเขา
“เอ้า! ไหนล่ะเอกสารที่ต้องการให้คุณพ่อ” เขาเลิกคิ้วถาม ซึ่งเธอก็วางให้บนโต๊ะ เขาเอื้อมมือมาหยิบ แล้วพลิกดูอย่างคร่าวๆ ก่อนที่จะพูดต่อ “คุณพ่อไม่สบาย ตอนนี้อยู่โรงพยาบาล”
“คุณน้อยเป็นอะไรคะ” มธุรสเผลอตัวถามเสียงแหลมด้วยความตกใจ เมื่อคืนวันเสาร์เธอยังเห็นเจ้านายของตนเป็นปกติดีอยู่เลย ออกอาการรื่นเริงและอารมณ์ดีเสียด้วยซ้ำ
“หมอบอกว่าเป็นไข้หวัดใหญ่ชนิดเฉียบพลันซึ่งกำลังระบาดอยู่ในเวลานี้ บางทีท่านอาจจะได้รับเชื้อจากที่ไหนสักแห่งก็ได้ ประกอบกับคุณพ่อโหมงานหนัก พักผ่อนน้อยอาการเลยทรุดลงอย่างรวดเร็ว หมอสั่งให้ท่านพักอย่างน้อยสองถึงสามสัปดาห์ และช่วงที่คุณพ่อหยุดรักษาตัว ผมจะเข้ามาดูแลงานแทนท่านเอง เพราะพี่พลก็จะไม่อยู่ ต้องไปประชุมที่ญี่ปุ่นสองอาทิตย์”
ข่าวที่ปิรัณไม่สบายจนต้องเข้าโรงพยาบาล และหมอสั่งให้พักผ่อนสองถึงสามสัปดาห์ ทำให้ผู้ช่วยสาวรู้สึกตกใจด้วยความเป็นห่วงอยู่แล้ว แต่ก็ต้องมาตกใจเพิ่มขึ้นไปอีก เมื่อปรวิตต์บอกว่า เขาจะเป็นผู้เข้ามาดูแลงานแทนบิดาเอง เสียงโทรศัพท์บนโต๊ะทำงานของปิรัณดังขัดจังหวะขึ้น ปรวิตต์เอื้อมมือไปรับ
“ครับคุณเยาวริน ได้ครับ แล้วผมจะเรียนคุณพ่อให้” ปรวิตต์พูดอีกสองสามประโยคก่อนที่จะวางสายไป มธุรสรู้ว่าเขาพูดอยู่กับเลขานุการของปิรัณ เพราะได้เอ่ยชื่อของหล่อนขึ้นมาในตอนแรก
“คุณเยาวรินโทรมาลางานสองสัปดาห์ เธอเป็นไข้หวัดใหญ่ ตอนนี้แอดมิดอยู่โรงพยาบาลเหมือนกัน” ปรวิตต์พูดง่ายๆสั้นๆแค่นั้น มธุรสนึกในใจทั้งเจ้านายและเลขานุการเป็นไข้หวัดใหญ่ด้วยกันทั้งคู่ เป็นไปได้ว่าทั้งสองคนอาจจะเป็นพาหะเชื้อไข้หวัดใหญ่มาติดซึ่งกันและกันก็เป็นได้
“ผมจะขึ้นมาทำงานแทนคุณพ่อตลอดระยะเวลาที่ท่านพักรักษาตัว ส่วนคุณ...พอจะทำหน้าที่เลขานุการอีกตำแหน่งแทนคุณเยาวรินได้ไหม” คำถามนั้นเหมือนสายฟ้าฟาด เขาจ้องมองหน้าเธอเขม็ง
“ผมไม่คิดว่าคุณจะปฏิเสธ” ปรวิตต์พูดต่อด้วยน้ำเสียงเฉียบเย็น
“เอ่อ...ค่ะ ได้ค่ะ” มธุรสอึดอัดขัดเขินกับพิรุธในใจของตัวเองที่แอบมีให้เขา ก็ยิ่งทำให้รู้สึกหนักอึ้งที่เขาจะต้องขึ้นมาทำงานแทนบิดาโดยมีเธอเป็นผู้ช่วย ซ้ำร้ายยังจะต้องทำงานใกล้ชิดกับเขามากยิ่งขึ้นในฐานะเลขานุการชั่วคราวอีกตำแหน่งในออฟฟิศที่มีกันอยู่สองคนเท่านั้น คิดแล้วอยากจะร้องไห้นัก เธอจะต้องสร้างกำแพงหินปิดกั้นความรู้สึกของตัวเองให้มั่นคง อย่าได้ปล่อยใจให้เผลอไผลไปกับความใกล้ชิดและเสน่ห์ มธุรสเตือนตัวเอง
“ดี ถ้าอย่างนั้นผมขอตัวอ่านและสะสางเอกสารที่อยู่บนโต๊ะนี้ก่อน ส่วนคุณช่วยดูให้หน่อยก็แล้วกันว่ามีตารางนัดหมายหรือมีงานสำคัญอะไรบ้างที่จะต้องรีบทำ” ปรวิตต์สั่งด้วยน้ำเสียงเฉียบขาด ก่อนที่จะมุ่งความสนใจทั้งหมดอยู่กับเอกสารบนโต๊ะ
มธุรสเดินออกมาจากห้อง แล้วเริ่มทำงานที่โต๊ะของเยาวรินที่อยู่หน้าห้องกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ เธอตรวจดูตารางนัดหมายของปิรัณ วันนี้ไม่มีนัดหมายอะไรที่สำคัญ แต่เช้าวันพรุ่งนี้ปิรัณมีประชุมเข้าประมูลงานก่อสร้างที่กรมพัฒนาเศษฐกิจตอนเก้านาฬิกา และเที่ยงตรงมีนัดรับประทานอาหารกลางวันกับมิสเตอร์เอ็ดเวิร์ด โจน
เลขานุการชั่วคราวเข้าไปรายงานเจ้านายหนุ่มที่ออกมาดเคร่งขรึมเย็นชาให้ทราบ ก่อนที่จะออกมานั่งทำงานอย่างเงียบๆ สิ่งใดที่จะต้องหยิบจับทำก่อน มธุรสก็ทำได้อย่างรู้งาน เพราะส่วนใหญ่ก็เป็นงานที่สัมพันธ์กับงานผู้ช่วยของเธอทั้งสิ้น
ปรวิตต์เรียกเธอเข้าไปสั่งงานสองครั้ง แล้วให้ตอบอีเมลอีกเกือบสิบฉบับ เขาไม่ได้เก่งเฉพาะ
งานวิศวกรภาคสนามเท่านั้น แต่งานบริหารเขาก็ทำได้อย่างดีเยี่ยมและมีประสิทธิภาพเช่นกัน เพราะประสบการณ์ทำงานในตะวันออกกลางสามปี ทำให้เขารู้จักงานบริหารที่นั่งอยู่กับโต๊ะในออฟฟิศ รวมทั้งเป็นวิศวกรภาคสนามที่ต้องออกตรวจงานอยู่ตามไซด์งาน
เวลาเที่ยงสิบห้านาทีปรวิตต์ออกมาจากห้องทำงาน และสั่งว่าเขาจะไปรับประทานอาหารกลางวันกับปณพลที่แคนทีน เมื่อเจ้านายหนุ่มมาดเย็นชาออกจากออฟฟิศไป มธุรสถึงได้ผ่อนลมหายใจยาวอย่างโล่งอก เพราะเธอรู้สึกเกร็งอยู่ตลอดช่วงเช้า
มธุรสไม่นึกหิว แต่ถึงเวลาก็ควรจะหาอะไรรองท้องไว้บ้าง เธอจึงตัดสินใจไปทานก๋วยเตี๋ยวเป็ดร้านที่อยู่ไม่ไกลจากบริษัท ผู้ช่วยสาวเดินไปอย่างไม่เร่งรีบเพราะอยากจะไปให้ถึงหลังเที่ยงครึ่ง เพื่อเลี่ยงจากพนักงานออฟฟิศใกล้ๆ ทั้งหลายที่แห่กันลงไปรับประทานอาหารกลางวันเช่นกัน
หลังเสร็จจากรับประทานอาหารกลางวัน มธุรสกลับเข้าออฟฟิศเห็นประตูห้องทำงานของปิรัณปิดเงียบ แสดงว่าเจ้านายหนุ่มของเธอกลับมาแล้ว เพราะตอนที่เขาออกไป เขาเปิดประตูทิ้งไว้
มธุรสเข้าประจำที่พร้อมที่จะทำงานต่อ ขณะที่กำลังตอบอีเมลอยู่เพลินๆ ประตูห้องทำงานชั้นในก็ถูกเปิดออกมา ปณพลเดินคู่ออกมากับปรวิตต์
“ช่วงนี้คุณมธุรสคงจะต้องเหนื่อยหน่อยนะครับ เพราะต้องควบถึงสองตำแหน่ง” ปณพลเอ่ยขึ้นก่อน และยิ้มให้ ซึ่งมธุรสรู้สึกได้ถึงความอบอุ่นเป็นมิตร เธอกับปณพลทำงานประสานกันหลายครั้ง แต่ก็มิได้สนิทสนมกัน เธอรู้ว่าเขาเป็นผู้บริหารที่มีความสามารถฝีมือเก่งฉกาจ และเป็นตัวเก็งที่จะรับตำแหน่งกรรมการผู้อำนวยการใหญ่คนต่อไปของนภศุภ์ คอนสตรัคชั่น
“นายก็เหมือนกันนะวิตต์ มีอะไรให้พี่ช่วยก็บอกได้” เขาตบไหล่ญาติผู้น้องเบาๆอย่างสนิทสนม
“ขอบคุณครับพี่พล คงมีหลายเรื่องที่ผมจะต้องรบกวนปรึกษา ก่อนที่พี่พลจะออกเดินทางไปญี่ปุ่น”ปรวิตต์ยิ้มให้กับญาติผู้พี่ จนมธุรสเผลอมองตาโต เพราะไม่เคยเห็นเขายิ้มได้แจ่มใสขนาดนี้ เธอได้ยินมานานแล้วว่าพี่น้องตระกูลนภศุภ์นั้นรักใคร่กลมเกลียวมีความเข้มแข็งสามัคคีกันมาก ยากที่บริษัทคู่แข่ง หรือผู้ไม่ประสงค์ดีจะยุยงให้เกิดความร้าวฉานหรือแตกแยกได้
“คุณมธุรส เดี๋ยวคุณตามผมเข้ามาดูสัญญาของสุวรรณาลัย รามาด้า ที่มัลดีฟส์นี้หน่อย” ปรวิตต์เดินกลับมาสั่งเธอ หลังจากที่เดินไปส่งญาติผู้พี่ที่หน้าประตู
“ค่ะ” มธุรสคว้าสมุดประจำตัวและเดินตามร่างสูงสมาร์ตของเจ้านายหนุ่มเข้าไป และนั่งลงบนเก้าอี้ด้านหน้าโต๊ะทำงานตัวใหญ่ เมื่อเขาพยักหน้าเป็นเชิงอนุญาต
“คุณคงทราบแล้วว่าสุวรรณาลัย ขอเพิ่มห้องพักแบบบีชโฮเทลอีกสิบสองห้อง และคลับเฮ้าทขนาดกลางอีกหนึ่งแห่ง”
“ค่ะ”
“ผมและคณะวิศวกรมีความเห็นตรงกันว่า จะต้องขยายเวลาก่อสร้างเพิ่มไปจากสัญญาเดิมอีกเจ็ดสิบห้าวัน แต่ถ้าก่อสร้างเสร็จก่อนกำหนดก็ถือเป็นเครดิตของเรา ส่วนเรื่องราคาก็ขอให้แก้เป็นตัวเลขนี้ คุณแก้ไขเงื่อนไขตรงนี้ทั้งหมดและเพิ่มเติมอันนี้เข้าไปด้วย” มธุรสชะโงกตัวไปข้างหน้า เพื่อดูรายละเอียดที่เขาวงกลมด้วยปากกาสีดำบนเอกสารและบอกคำแก้ เธอจดคำบอกของเขาอย่างขะมักเขม้น
“แล้วคุณส่งกลับมาให้ผมอ่านอีกครั้ง ก่อนที่จะส่งต่อไปให้ฝ่ายกฏหมายและสัญญาตรวจสอบความเรียบร้อยอีกที การเซ็นสัญญาจะมีขึ้นในเร็วๆนี้”
“ได้ค่ะ” เลขานุการสาวชั่วคราวรับคำขณะที่มือยังจดยิกๆ โดยที่ไม่ได้เงยหน้าขึ้นมอง
“คุณแต่งตัวเซ็กซี่ทำงานอย่างนี้ทุกวันเหรอ”
“ค้า!” มธุรสออกเสียงสูง...ไม่เข้าใจคำถาม พร้อมกับเงยหน้าขึ้นมองหน้าเขา ก็เห็นสายตาของเขากำลังมองมาที่หน้าอกของเธอ ทำให้เธอก้มลงมองที่หน้าอกของตัวเองบ้าง ก็เห็นกระดุมเสื้อเชิ้ตสองเม็ดบนหลุดออกจากรังดุม เผยให้เห็นร่องอกขาวเนื้อนวลอวบอิ่ม
“อุ๊ย!” เลขานุการชั่วคราวตกใจรีบจับคอเสื้อ เธอร้อนวูบหน้าแดง เพราะการที่เธอชะโงกตัวไปข้างหน้า และเอี้ยวตัวหน่อยๆ ประกอบกับเสื้อเชิ้ตที่ฟิตใส่พอดีตัว ทำให้กระดุมปริออกจากรังดุม
มธุรสรีบทรงตัวขึ้นและกลัดกระดุมให้เรียบร้อยด้วยมือที่สั่นน้อยๆ ปรวิตต์นั่งมองอากัปกิริยาของเลขานุการสาวชั่วคราวของเขาอย่างเงียบๆ
To be continue…
นอกจากจะเย็นชาแล้ว วาจาช่างเฉือดเฉือนใช้ได้เลยนะคะคุณปรวิตตตตตตตต์
แล้วคุณเลขาคนสวยจะไม่สั่นได้ยังไง ฮิฮิ
ต้องติดตามตอน เจ้านายเย็นชา กับ เลขาชั่วคราว ต่อให้วันพรุ่งนี้นะคะ
ฝากนิยาย ‘เล่ห์มธุรส” ด้วยนะคะ สั่งจองเข้ามาได้แล้วค่ะ
พร้อมส่งต้นเดือนตุลาคม นี้ พร้อมๆ กับงานสัปดาห์หนังสือค่ะ
ความคิดเห็น