ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    เล่ห์มธุรส by จำปีดา (ภาคต่อ...ทัณฑ์น้ำผึ้งรวง) ทำมือ...พร้อมส่งแล้วนะคะ

    ลำดับตอนที่ #6 : นางหงส์ Swan lake (100%)

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 1.94K
      19
      7 ก.ย. 62



    ตอนที่ 

    3


    นางหงส์ 

    Swan Lake 

    (100%)

         โรงละครในคืนนี้คับคั่งไปด้วยแขกเหรื่อผู้มีเกียรติในทุกวงการของสังคมเมืองไทยที่มาร่วมงาน ทุกคนล้วนแต่งตัวด้วยความประณีตบรรจงงดงาม โดยเฉพาะสุภาพสตรีจะแต่งองค์ทรงเครื่องประดับเพชรนิลจินดาแพรวพราวระยิบระยับ


         ปรวิตต์มาถึงงานไล่หลังปิรัณและชมัยพรเล็กน้อย เพราะต้องไปรับน้องสาวของภรรยาที่บ้าน ซึ่งขณะนี้จิลดากำลังทักทายพูดคุยอยู่กับเพื่อนๆไฮโซของเธอกันอย่างออกรสชาติ ปรวิตต์จึงหลบความวุ่นวายออกมาเดินเล่นที่สวนหย่อมเล็กๆด้านข้างของโรงละคร เพราะยังเหลือเวลาอีกหนึ่งชั่วโมงกว่าการแสดงจะเริ่มขึ้น

          อุ้ย!” 

              เสียงอุทานด้วยความตกใจพร้อมกับปรวิตต์ปะทะกับร่างของใครคนหนึ่งเข้าอย่างจังที่หัวมุมทางเดิน ชายหนุ่มเข้าประคองร่างนั้นไว้ในอ้อมแขนได้ทัน

          อุ้ยขอโทษค่ะ ฉันรีบร้อนไปหน่อย เสียงหวานๆกล่าวคำขอโทษ หญิงสาวเงยหน้าขึ้นมอง ร่างบางที่กำลังจะเบี่ยงตัวออกจากอ้อมแขนต้องชะงัก เมื่อรู้ว่าตนเองตกอยู่ในอ้อมแขนของใคร 

          คุณ...” ปรวิตต์กล่าวได้เพียงแค่นั้น สายตาประสานกันอย่างเนิ่นนานทั้งคู่ตกอยู่ในวงแขนของกันและกันอย่างใกล้ชิด จนเขาได้กลิ่นหอมกรุ่นจากผิวกายของร่างที่อยู่ในวงแขน ปรวิตต์เริ่มรู้สึกตัวก่อน เขารีบดันร่างอรชรนั้นออกห่างทันที มธุรสทำอะไรไม่ถูกได้แต่ยืนตัวแข็งทื่ออยู่อย่างนั้น

          มธุรส...” นัตน์ตาของปรวิตต์เบิกกว้างและครางชื่อของเธอออกมาได้อย่างถูกต้อง เมื่อเห็นชุดที่หญิงสาวสวมใส่ได้ถนัด เขาจำได้ไม่ผิด ชุดนี้เป็นชุดเดียวกันกับชุดที่อยู่บนตัวหุ่นในห้องเสื้อสโรชา โดยที่เจ้าของห้องเสื้อบอกว่า ชุดราตรีนี้เป็นชุดที่บิดาของเขาสั่งตัดให้กับผู้ช่วยสาวที่ชื่อ...มธุรส 

         แล้วเธอผู้นี้ยังเป็นคนเดียวกันกับผู้หญิงที่วิ่งตัดหน้ารถของเขาที่นภศุภ์ คอนสทตรัคชั่นเมื่อหลายวันก่อนด้วย มธุรส สกุลเกศ ผู้ช่วยสาวของบิดา ซึ่งเป็นที่โจษจันกันทั่วทั้งบริษัทว่า เธอใช้ความสาวความสวยเข้าแลกกับตำแหน่งผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ ซึ่งเขาเองก็ไม่เคยเชื่อเรื่องซุบซิบนินทานี้ แต่อะไรๆ มันชักจะเข้าเค้า ทำไมบิดาของเขาจะต้องสั่งตัดชุดราตรีที่ห้องเสื้อชื่อดังราคาแพงให้กับเธอ แล้วยังให้เธอมาร่วมงานการกุศลในคืนนี้ด้วย ซึ่งล้วนแล้วแต่มีบุคคลชั้นแนวหน้าในแวดวงสังคมเมืองไทย ทั้งๆที่เธอเป็นเพียงผู้หญิงธรรมดาๆที่ไม่มีใครในงานนี้รู้จักเธอเสียด้วยซ้ำ 

         ผู้หญิงคนนี้มีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกับบิดาของเขาในลำดับไหน แต่ที่แน่ๆเธอไม่ใช่ผู้ช่วยธรรมดาๆของบิดาอย่างแน่นอน เมื่อนึกถึงตรงนี้แววตาของเขาก็ฉายแววกระด้างเย็นชาออกมาอย่างไม่รู้ตัว  

         ส่วนมธุรสจ้องมองชายหนุ่มตรงหน้าด้วยแววตาออกจะตระหนก คละเคล้าไปด้วยความหวาดหวั่นอย่างไม่ทราบสาเหตุ ทั้งสองหนุ่มสาวต่างจ้องตากันนิ่งงันไปครู่ใหญ่

          พี่วิตต์คะ พี่วิตต์มาอยู่ที่นี่เอง จิลตามหาเสียทั่ว เสียงแหลมหวานเรียกสติของทั้งสองหนุ่มสาวให้กลับคืนมา จิลดาเข้าคล้องแขนพี่เขยอย่างสนิทสนม แต่พอเห็นว่ามีสาวสวยอีกคนยืนอยู่ด้วย เธอก็แสดงสีหน้าสีตาเป็นอริขึ้นมาทันทีมาทำอะไรอยู่ตรงนี้คะ พี่วิตต์รู้จักเธอด้วยหรือคะ น้องภรรยาถามด้วยน้ำเสียงสะบัดๆ แล้วมองหญิงสาวตรงหน้าด้วยหางตา 

          ไม่ครับ ไม่รู้จัก ชายหนุ่มตอบด้วยใบหน้าเรียบเฉย 

          ถ้าอย่างนั้นเราเข้าข้างในกันเถอะค่ะ การแสดงใกล้จะเริ่มขึ้นแล้ว จิลดาฉุดแขนพี่เขยให้ออกเดิน แต่ไม่วายที่จะชายตามองหญิงสาวที่ยังคงยืนนิ่งเป็นหุ่นขี้ผึ้งอีกครั้ง

          คุณมธุรสครับ เสียงร้องเรียกของชยุทธ์ ทำให้ทั้งปรวิตต์และจิลดาาหันกลับมามอง 

          เอ๊ะ! นั่นคุณชยุทธ์นี่ จิลดาทำท่าจะร้องทัก

          เราเข้าข้างในกันเถอะจิล การแสดงจะเริ่มแล้วนะ ปรวิตต์ฉุดน้องภรรยาให้เดินเข้าไปในงาน

          คุณรสทำไมเพิ่งมาครับ ผมมองหาคุณไม่เห็น เลยออกมาดู โอ้! คุณรสครับ...คืนนี้คุณสวยมาก ชยุทธ์ถึงกับตาค้างเมื่อเห็นผู้ช่วยสาวได้ถนัดตา ปกติเขาเห็นเธอในชุดสูททำงานที่เป็นกระโปรงบ้างกางเกงบ้างออกมาดเวิร์คกิ้งวูแมนกระฉับกระเฉง แต่เมื่อเธอสวมชุดราตรีที่เรียบหรูชุดนี้ ก็ยิ่งดูงดงามจับตาในสายตาของเขา 

          ขอบ...ขอบคุณค่ะ ผู้ช่วยสาวหน้าแดง เมื่อเห็นสายตาของนักธุรกิจหนุ่มใหญ่เจ้าของโรงแรมรถติดมากค่ะคุณชยุทธ์ ขอโทษด้วยที่มาช้า

          มิได้ครับ ประตูโรงละครยังไม่เปิดเลย ชยุทธ์หันไปมองทางด้านหลัง เห็นแขกเหรื่อผู้มาร่วมงานกำลังทยอยเข้ามาเรื่อยๆ ก่อนที่จะหันกลับมามองหญิงสาวด้วยนัตน์ตาเป็นประกายผมว่าคืนนี้คงจะมีหนุ่มๆหลายคนแอบอิจฉาผมที่ได้มีโอกาสควงคู่กับคุณผู้หญิงที่สวยที่สุดคนหนึ่งในงาน สายตาชื่นชมเปิดเผยพยายามสื่อให้ฝ่ายหญิงได้รู้ถึงความนัย  

          เอ่อ...รสว่า เราเข้าไปข้างในกันไหมคะ มธุรสหน้าแดงมากยิ่งขึ้น แล้วรีบชวนหนุ่มใหญ่เป็นการตัดบท

      

         แขกเหรื่อในงานมีทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ มธุรสนั้นไม่รู้จักใครเลยนอกจากชยุทธ์ ซึ่งเขาก็ดูแลเทคแคร์เธอเป็นอย่างดีในฐานะที่เขาเป็นคนชวนเธอมาด้วย ซึ่งหญิงสาวก็ลดความเก้อเขินไปได้มาก มธุรสพยายามที่จะมองหาปิรัณกับชมัยพรแต่ก็ไม่พบ  

          แต่ก็มีสายตาเข้มคมที่ลอบมองเธออย่างพินิจพิเคราะห์โดยที่หญิงสาวไม่รู้ตัว ปรวิตต์ยอมรับกับตัวเองว่า หญิงสาวที่เขากำลังแอบลอบมองอยู่นี้เป็นผู้หญิงที่มีหน้าตาสวยสะดุดตารูปร่างอรชรได้สัดส่วนเปล่งปลั่งด้วยวัยสาว ยิ่งได้สวมชุดราตรีหรูเนื้อผ้าบางพลิ้วจับเกาะทั้งเรือนร่าง ยิ่งทำให้เธอดูงดงามไปทุกอริยาบถที่เยื้องย่าง


         มธุรสรู้สึกเหมือนกำลังถูกจับจ้องจึงหันไปมอง แต่ก็หาได้พบสายตาปริศนาคู่นั้นไม่ เธอมองไปรอบๆก็ไม่พบคนรู้จัก แต่ทว่ามีสายตาหลายคู่ที่มองมาอย่างสนใจใคร่รู้ว่าเธอเป็นใคร ถึงได้มากับนักธุรกิจหนุ่มเจ้าของโรงแรมชื่อดังที่กำลังเป็นพ่อหม้ายเนื้อหอมอยู่ในเวลานี้ จนกระทั่งประตูโรงละครเปิดทั้งชยุทธ์กับเธอและแขกเหรื่อผู้มีเกียรติทั้งหลายจึงเริ่มทยอยเข้าด้านใน

                           

         การแสดงบัลเลต์แบ่งออกเป็นสองช่วงๆละประมาณหนึ่งชั่วโมงสิบห้านาที แล้วจะมีเบรกพักครึ่งให้ผู้ชมได้ออกมาดื่มค็อกเทลและทำธุระส่วนตัวประมาณยี่สิบนาที 

         และช่วงพักครึ่งนี้เองชยุทธ์กับมธุรสถึงได้มีโอกาสพบกับปิรัณและชมัยพร ที่ยืนพักผ่อนอิริยาบถดื่มค็อกเทลพูดคุยกันอยู่เป็นกลุ่มใหญ่ 

          สวัสดีครับคุณปิรัณ คุณชมัยพร ชยุทธ์เป็นฝ่ายเดินเข้าไปทัก

          อ้าว! คุณชยุทธ์ มธุรส ปิรัณตรงเข้าจับมือคู่ค้าคนสำคัญทางธุรกิจ แล้วส่งยิ้มให้ผู้ช่วยสาว 

         มธุรสทำความเคารพผู้เป็นเจ้านายและภรรยาอย่างอ่อนน้อม ชมัยพรรับไหว้อย่างเสียไม่ได้ และไม่วายเหน็บแนม 

          ไม่ยักรู้ว่า คนระดับพนักงานจะมางานสังคมอย่างนี้ด้วย” ชมัยพรพูด แล้วเชิดหน้าไปทางอื่น มธุรสหน้าเสียไปเล็กน้อย หญิงสาวพอจะทราบโดยสัญชาตญาณว่าภรรยาของผู้เป็นเจ้านายไม่ค่อยจะชอบเธอนัก ทั้งนี้เธอก็สงบเสงี่ยมเจียมตัวให้ความอ่อนน้อมทุกครั้ง 

         แต่แล้วผู้ช่วยสาวก็ต้องชะงักไปเล็กน้อย เมื่อเห็นร่างสูงในชุดสูทสีดำที่ยืนถัดไปจากชมัยพรนอกเหนือจากปณพลและอรสุดา เขาที่ทำให้เธอรู้สึกร้อนๆหนาวๆจนแทบสั่นและหัวใจเต้นแรงไม่เป็นจังหวะ นั่น คือรองผู้อำนวยการฝ่ายวิศวกรรมคนใหม่ที่กำลังจ้องมองเธอเขม็งอยู่ก่อนแล้ว

          แล้วนี่คุณชเยศกับคุณศัสนีย์ไม่ได้มาด้วยเหรอครับ ปิรัณถามชยุทธ์ถึงพี่ชายและพี่สะใภ้

          พี่ชเยศกับพี่ศันไปพักผ่อนที่มัลดีฟส์ครับ แล้วถือโอกาสดูโลเกชั่นไปด้วยในตัว ชยุทธ์เว้นจังหวะนิดหนึ่งก่อนที่จะพูดต่อผมคิดว่าเราน่าจะลงนามทำสัญญากันได้ในเร็วๆนี้นะครับ

          ดีครับ ต้องขอขอบคุณทางสุวรรณาลัย รามาด้า ที่ให้ความไว้วางใจเลือกนภศุภ์ คอนสตรัคชั่น เป็นผู้ก่อสร้างรีสอร์ตที่มัลดีฟส์ในครั้งนี้ด้วย

          เรื่องนี้ต้องยกความดีความชอบให้กับคุณรสครับ ชยุทธ์ตอบแล้วส่งสายตาอ่อนนุ่มมาทางผู้ช่วยสาว

          เอ่อ...” มธุรสอึกอักหน้าแดง เมื่อทุกสายตาหันมามองเธอเป็นตาเดียว แต่หญิงสาวก็ต้องชาวาบไปทั้งตัวอีกครั้ง เมื่อได้สบสายคมเข้มของรองผู้อำนวยการหนุ่มฝ่ายวิศวกรรม

          งานนี้ต้องขอขอบใจมธุรสจริงๆ ปิรัณหัวเราะเบาๆอย่างอารมณ์ดี และกล่าวชมผู้ช่วยสาวนัตน์ตาเป็นประกายล้อเลียนมธุรสคืนนี้หนูสวยมากนะ

          ขอบคุณค่ะคุณน้อย มธุรสกระดากอาย เมื่อถูกเจ้านายล้อซึ่งๆหน้า และต่อหน้าใครๆอีกหลายคน 

          เอ๊ะ!วิตต์ รู้จักมธุรสหรือยัง ปิรัณถามบุตรชาย ก่อนที่จะหันมามองผู้ช่วยสาวคนสวยด้วยสายตาเอ็นดู

          ยังครับ ปรวิตต์ตอบเสียงเข้มตีหน้าเคร่งขรึม จนหญิงสาวรู้สึกเกรงๆ แกมหมั่นไส้ไปในคราวเดียวกัน   

          ถ้าอย่างนั้นพ่อจะแนะนำให้รู้จักอย่างเป็นทางการเสียเลย วิตต์ นี่มธุรส สกุลเกศ ผู้ช่วยคนเก่งของพ่ออีกคน มธุรสนี่ปรวิตต์ลูกชายคนโตของฉันที่เคยพูดถึงอยู่บ่อยๆ 

          สวัสดีค่ะ มธุรสพนมมือทำความเคารพเขาในฐานะผู้บังคับบัญชาอีกคน อีกทั้งยังอาวุโสกว่า 

          สวัสดีครับ ยินดีที่ได้รู้จัก ปรวิตต์กลับยื่นมือขวาให้อย่างหน้าตาเฉย ทำให้ผู้ช่วยสาวต้องส่งมือขวาออกไปจับหวังว่าเราจะร่วมงานกันได้ดี รองผู้อำนวยการหนุ่มกล่าวพร้อมกับบีบมือบางนั้นอย่างแรง ดวงตายาวรีจ้องมองหน้าหวานๆของเธอเขม็ง เหมือนกำลังพยายามค้นหาอะไรบางอย่าง 

          ค่ะ มธุรสตอบสั้นๆ และอดที่จะสั่นไหววูบวาบไม่ได้ 

          ดีแล้วรู้จักกันไว้ซะ อีกหน่อยคงจะต้องร่วมงานกัน ปิรัณกล่าวเสริม


          การแสดงช่วงที่สองใกล้จะเริ่มแล้ว จิลว่าพวกเราเข้าไปข้างในกันเถอะค่ะ จิลดาที่เพิ่งเดินกลับมาจากการทักทายเพื่อนฝูงส่งเสียงใสๆเชิญชวนทุกคน เมื่อเห็นประตูโรงละครเปิดขึ้นพร้อมสำหรับการแสดงในช่วงต่อไป แต่เมื่อจิลดาเห็นสาวในชุดสีครีม ก็จำได้ทันทีว่าเป็นหญิงสาวคนเดียวกันกับคนที่อยู่กับปรวิตต์เมื่อตอนหัวค่ำ แล้วรู้สึกไม่สบอารมณ์ขึ้นมาทันที และยิ่งเธอผู้นั้นกำลังได้รับความสนใจจากคนรอบข้าง


         การแสดงบัลเลต์การกุศลในคืนนี้กว่าจะเสร็จสิ้นก็เกือบสี่ทุ่ม แขกเหรื่อทยอยกันกลับ กลุ่มของปิรัณเดินออกมาเกือบจะเป็นกลุ่มสุดท้าย และมาเจอชยุทธ์กับมธุรสที่เพิ่งจะออกมาเหมือนกัน

          จะไปไหนกันต่อหรือเปล่าครับคุณชยุทธ์ ปิรัณเอ่ยถาม                               

          ชวนแล้วครับ แต่คุณรสเธอไม่ไป นักธุรกิจหนุ่มใหญ่ตอบเสียงอ่อยๆ

          ถ้าอย่างนั้นผมฝากคุณชยุทธ์ไปส่งผู้ช่วยของผมให้ถึงบ้านด้วยนะครับ ปิรัณพูดเสียงเข้ม ถึงแม้ชยุทธ์จะเป็นสุภาพบุรุษไม่เคยมีชื่อเสียงเสียหายเรื่องผู้หญิง แต่มธุรสก็เป็นหญิงสาวที่มีรูปร่างหน้าตาดี เป็นที่พึงใจของชายหนุ่มหลายๆ คน โดยเฉพาะตัวชยุทธ์เองก็ดูจะติดใจเธออยู่ไม่น้อย มันก็สมควรเป็นหน้าที่ของเขาที่จะดูแลให้ความเอาใจใส่ เพราะมธุรสก็เปรียบเสมือนลูกหลานผู้หญิงของเขาคนหนึ่งเหมือนกัน

         แต่คำพูดและการแสดงออกของปิรัณที่มีต่อผู้ช่วยสาว ทำให้ภรรยาและบุตรชายคนโตที่ยืนอยู่ด้วย ที่นั้น คิดไปต่างๆนาๆ

          รสขับรถมาเองค่ะคุณน้อย มธุรสรีบแย้ง

          อ้าว! ถ้าอย่างนั้นก็รีบกลับบ้านและขับรถดีๆด้วย เป็นสาวเป็นนางขับรถกลางค่ำกลางคืนต้องระมัดระวัง อย่าจอดรถหรือลงจากรถเป็นอันขาดไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น เดี๋ยวนี้ข่าวภัยของผู้หญิงขับรถคนเดียวตอนกลางคืนมีอยู่บ่อยๆ ปิรัณกำชับกำชาด้วยความเป็นห่วงจริงๆอ้อ!มธุรส เช้าวันจันทร์ช่วยเตรียมเอกสารของกรมพัฒน์ฯให้ด้วยล่ะ

          ได้ค่ะ คุณน้อย มธุรสรับเสียงแข็งขัน

          ขอบใจมาก ปิรัณยิ้มและมองเธอด้วยสายตาอย่างอ่อนโยนแกมเอ็นดู ทำเอาชมัยพรที่ยืนอยู่ด้วยหน้าเริ่มตึงขึ้นมาเรื่อยๆ นัตน์ตาเป็นประกายด้วยความไม่พอใจ ซึ่งปรวิตต์ที่ยืนอยู่ใกล้ๆสังเกตเห็น และรับรู้ถึงกระแสความไม่พอใจของผู้เป็นมารดา 

          วิตต์เดี๋ยวลูกไปส่งหนูจิลที่บ้านให้เรียบร้อยด้วยล่ะ น้องเป็นสาวเป็นนางปล่อยให้กลับเองกลางค่ำกลางคืนจะไม่ปลอดภัย ชมัยพรพูดกระทบกระเทียบ ก่อนที่จะเดินหน้าตึงๆจากไป

                    

          ผู้หญิงคนนั้นเป็นใครกันคะพี่วิตต์ จิลดาถามพี่เขยขณะอยู่ในรถด้วยกัน เธออยากจะถามชมัยพรตั้งแต่อยู่ในงาน แต่ไม่มีจังหวะ

          คนไหน ปรวิตต์ถามเสียงเรียบๆทำเป็นไม่รู้ สายตาของเขามองไปตามถนนข้างหน้า

          ก็คนที่ใส่ชุดสีครีมๆ ที่คุณลุงน้อยหยุดคุยด้วยไงค่ะ 

          มธุรส ผู้ช่วยของคุณพ่อ

          อะไรกัน! ผู้ช่วยของคุณลุง พนักงานธรรมดาๆนี่นะ จะแต่งชุดหรูขนาดนั้นเชียว ชุดนั้นทั้งสวยทั้งแพง ไม่อยากจะเชื่อเลย แถมคุณเธอยังทำท่าเชิดๆ หยิ่งผยองยังไงชอบกล บอกตรงๆจิลรู้สึกไม่ค่อยถูกชะตาด้วยเลย จิลดาไม่เคยชอบผู้หญิงคนไหนที่เด่นเกินเธอ แต่คำพูดของเธอทำให้ปรวิตต์ต้องคิดตาม 

         เพราะคนระดับผู้ช่วยธรรมดาๆที่ไหนจะแต่งตัวได้อย่างสวยหรูประณีตบรรจงเหมือนนางแบบหลุดมาจากนิตยสารยังไงยังนั้น ถ้าปิรัณไม่เป็นสปอนเซอร์ให้

          แหม...ถึงแล้วเร็วจัง จิลไม่ทันรู้ตัวเลย พี่วิตต์จะเข้าไปดื่มอะไรในบ้านสักหน่อยไหมคะ น้องสาวของภรรยาพยายามเหนี่ยวรั้ง เมื่อรถมาจอดสนิทอยู่หน้าบ้าน

          อย่าดีกว่าครับ นี่มันก็ดึกมากแล้ว

          เอ่อ...ก็ได้ค่ะ แล้วเจอกันใหม่นะคะ 

          ครับ สวัสดี ปรวิตต์ตัดบท จิลดาลงจากรถอย่างเสียไม่ได้รู้สึกผิดหวัง ก็ได้แต่มองรถที่เคลื่อนตัวออกไปด้วยสายตาที่มากมายความรู้สึก

                   

         สายๆของวันอาทิตย์อากาศดีท้องฟ้าแจ่มใส ปิรัณชวนลูกชายคนโตไปออกรอบ

    ตีกอล์ฟ ขณะที่ออกตีถึงหลุมแปด ปรวิตต์สังเกตเห็นว่าบิดามีอาการจามฟุตฟิตอยู่หลายครั้ง หน้าตาแดงๆและเหนื่อยเร็วมากกว่าปกติ เพราะเท่าที่ผ่านมาบิดาของเขาแข็งแรงสามารถตีถึงหลุมที่สิบแปดได้อย่างสบายๆ

          ผมว่าคุณพ่อดูเหนื่อยๆ เพลียๆ อย่างไรชอบกลนะครับ ปรวิตต์ทัก

          นั่นน่ะสิ พ่อรู้สึกเพลียจังและออกจะมึนๆหัว

          ผมว่าเราเลิกกันก่อนเถอะครับ

          ดีเหมือนกัน ปิรัณเห็นด้วย เพราะตอนนี้เขารู้สึกหนักหัวและมึนศีรษะมากขึ้น

     

         ปรวิตต์ตัดสินใจเลี้ยวรถเข้าโรงพยาบาลแทนที่จะขับกลับบ้านตามที่ตั้งใจไว้แต่แรก เพราะเห็นว่าบิดานั้นมีอาการทรุดลงอย่างรวดเร็ว พอแพทย์ตรวจดูอาการก็แอดมิดตัวไว้ทันที และแจ้งให้ทราบว่าปิรัณนั้นเป็นไข้หวัดใหญ่ชนิดเฉียบพลัน ซึ่งไข้หวัดชนิดนี้กำลังระบาดอยู่ อาการไม่น่าเป็นห่วง แต่คนป่วยจะมีอาการปวดศีรษะไอจามแห้งๆและมีไข้ขึ้นสูงในระยะแรกๆ คุณหมอจะขอให้คนป่วยนอนพักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลสักหนึ่งสัปดาห์ และหลังจากนั้นก็จะให้กลับไปพักผ่อนที่บ้านอีกสักหนึ่งถึงสองสัปดาห์ รอให้สุขภาพแข็งแรงดีก่อน แล้วจึงจะกลับไปทำงานหรือปฏิบัติภารกิจตามปกติ

                                                    จบตอนค่ะ

    ในที่สุดนางหงส์ของเรา ก็เจอกับเจ้าชาย (ผู้เคร่งขรึม) สักที

    แต่พรุ่งนี้จะพบกับตอนใหม่ เจ้านายเย็นชา กับ เลขาชั่วคราว

    มาดูกันว่าเลขาคนสวย จะละลายความเย็นชาของเจ้านายผู้เคร่งขรึมได้แค่ไหน คริ คริ ต้องติดตามค่ะ

    สำหรับ เล่ห์มธุรส เรื่องนี้ สามารถสั่งจองเข้ามาได้แล้วนะคะ

    หนังสือพร้อมส่งต้นเดือนตุลาคม 2562 นี้ค่ะ

    พร้อมๆ กับงานสัปดาห์หนังสือเลยค่ะ ขอบคุณนะคะ

        



    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×