ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Chavala ชวาลา

    ลำดับตอนที่ #11 : ต้นไม้กลายพันธุ์

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 60
      0
      22 เม.ย. 57

    11

    ต้นไม้กลายพันธุ์

     

    เช้าวันใหม่ของอชิเริ่มต้นที่บ้านของธีมา เด็กสาวตื่นขึ้นมาบนฟูกที่เอามาปูข้างที่นอนของเพื่อนสาว เธอยันกายขึ้นมานั่งตรง และหดขาเข้ามาเพื่องอเง่าแล้วกอดไว้หลวมๆ ครุ่นคิดถึงบทสนทนาเมื่อคืนซึ่งยังคงวนเวียนกระทั่งในฝันของเธอ

    หลังจากที่บทสนทนาเกี่ยวกับกาลิเลโอจบลง คาวานขอตัว และเดินออกไปจากบ้าน อชิเดินตามเขาเพื่อออกไปส่ง ก่อนจะเฝ้ามองแผ่นหลังของเขาที่ค่อยๆ หายลับไปในในราตรีกาล

    คาวานเคยบอกว่าเขาคือ ข้อมูล

    ข้อมูลแบบไหนกันจึงให้ความรู้สึกถึงความเป็นมนุษย์เพียงนี้?

    คาวานอาจไม่รู้ตัว แต่เรื่องราวที่เกิดขึ้นเมื่อคืนนั้นได้เปลี่ยนแปลงบางอย่างภายในตัวของเด็กสาวไปอย่างมหาศาล อชิในตอนนี้เหมือนไฟในตะเกียงที่ใกล้จะจุดติด ไส้ตะเกียงแปรเปลี่ยนเป็นสีแดง รอคอยจังหวะที่เหมาะสมก่อนที่ไฟนั้นจะโชติช่วง

    ความเชื่อมั่นในตัวของคาวานที่ก่อตัวขึ้นได้ส่งผลกระทบในด้านลบต่อเด็กสาวในทางหนึ่ง คือความกังวลเกี่ยวกับพ่อของเธอที่ก่อตัวมากขึ้นตามมา

    อชิตัดสินใจอย่างแน่วแน่ในนาทีนั้นว่าเธอไม่อาจนิ่งเฉยอีกต่อไป

    อชิ…?”

    ธีมายันกายขึ้น หันมองเธออย่างง่วงงุน

    กี่โมงแล้ว?”

    ตอนนี้หกโมง เธอนอนต่ออีกหน่อยก็ได้ ฉันอาบน้ำเสร็จแล้วเดี๋ยวมาปลุก

    ถ้าเป็นในยามปกติธีมาคงไม่ว่าง่ายแล้วซุกตัวกลับเข้าไปในผ้าห่มอย่างนี้ หากแต่เพราะเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อคืนส่งผลให้ร่างกายของเธอเพลียจัด บวกจากยาที่เมื่อคืนคาวานฉีดเข้าไปในกระแสเลือดจึงทำให้เด็กสาวต้องการเวลาในการนอนที่มากกว่าปกติ ซึ่งในมุมมองของอชิแล้ว เธอเห็นว่านี่เป็นสัญญาณที่ดี สีหน้าของเพื่อนเธอดูมีเลือดฝาดขึ้นมามาก

    อชิยิ้มอย่างคลายใจ ก่อนจะสลัดผ้าห่มออกจากตัว ลุกขึ้นจัดเก็บฟูก หมอน ผ้าห่มเข้าที่เดิมดังเช่นก่อนที่เธอจะมา จึงเดินลงไปอาบน้ำที่ชั้นล่าง ระหว่างทางผ่านห้องนอนของยายธีมา นึกขึ้นมาได้ว่าคาวานได้อุ้มร่างของยายเข้ามานอนพักในห้องนี้ เด็กสาวครุ่นคิดและหยุดยืนอยู่ที่บริเวณหน้าห้องนั้นอยู่พักหนึ่ง ก่อนจะตัดสินใจเอื้อมคว้าลูกบิดแล้วผลักบานประตูเข้าไป

    เด็กสาวไม่ได้ย่างกรายเข้าไปในห้องมากกว่านั้น เธอเพียงเฝ้ามองยายของเพื่อนเธอที่กำลังนอนหลับสบาย บริเวณหน้าอกขยับขึ้นลงตามจังหวะการหายใจอย่างสม่ำเสมอ ก่อนจะละจากไป แล้วปิดประตูห้องนั้นอย่างเบามือที่สุด

    ค่ำคืนอันยาวนานเพิ่งจะผ่านพ้นไปอีกคืน

     

    ราวกับช่วงเวลาอันยาวนานเพิ่งจะผ่านพ้นไป ทั้งที่ทุกอย่างเกิดขึ้นภายในเวลาแค่ไม่กี่วัน

    อชิแหงนมองบริเวณปลายสุดของประตูรั้วโรงเรียน ก่อนจะกระชับกระเป๋าสะพาย แล้วก้าวเข้าไปในเขตโรงเรียนพร้อมกับธีมาเพื่อนของเธอ

    ตลอดช่วงเวลาในการเดินทางมาโรงเรียน อชิไม่ได้พูดคุยกับธีมาเกี่ยวกับเรื่องที่เกิดขึ้นแม้แต่คำเดียว ธีมาต้องการเวลา

    เธอเองก็เช่นกัน

    ...ทว่าเวลาไม่เคยรอใคร

    เด็กสาวทั้งสองก้าวเข้ามาในโรงเรียนพร้อมกับอาการตกตะลึง สายตาของทั้งคู่หยุดนิ่งอยู่ที่จุดๆ หนึ่ง เฉกเช่นเดียวกับเด็กนักเรียนคนอื่นอีกหลายคน เบื้องหน้าของอชิในตอนนี้คือต้นไม้ขนาดสูงใหญ่ต้นหนึ่ง ครั้งหนึ่งลำต้นของมันเคยแข็งแกร่ง เปลือกไม้เป็นสีน้ำตาลอ่อนอย่างที่เธอชอบ ใบของมันเคยเป็นสีเขียวขจี ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาอชิเคยเดินผ่านต้นไม้ต้นนี้ไปไม่รู้กี่ครั้งต่อกี่ครั้ง หากแต่เธอไม่เคยจินตนาการถึงมันในสภาพนี้มาก่อน

    จากใบไม้ที่เคยเบียดเสียดแตกใบจนเต็มต้น กลับร่วงโรยเหลือเพียงไม่กี่หย่อม ซีดจางจนเกือบเป็นสีเหลือง ซ้ำยังมีวงม่วงช้ำ ปรากฏขึ้นหลายจุดตามใบ และดูคล้ายจะแผ่วงกว้างขึ้นในอีกไม่นาน  ลำต้นที่เคยปกติสมบูรณ์ตามความทรงจำของเด็กสาว ยามนี้กลับดูเปื่อยยุ่ยราวกับบวมน้ำ เปลือกไม้ช้ำม่วงๆ แดงๆ บางบริเวณนูนขึ้นมาเป็นตุ่มน้ำ คล้ายกับแผลผุพองยามกลัดหนอง

    อชิยืนมือชาอยู่ตรงนั้นไม่ไปไหน กระทั่งธีมาต้องดึงสติเธอด้วยการลากตัวออกไปจากตรงนั้น เช่นเดียวกับคนอื่นที่ทำได้เพียงแค่มองอย่างตกตะลึงช่วงเวลาหนึ่ง ก่อนจะรีบละจากไปอย่างรวดเร็ว

    ไม่ใช่เรื่องของเรา

    ธีมากระซิบเตือน

    แต่…!”

    เด็กสาวจ้องมองสายตาที่เครียดขึงของธีมา ก่อนจะหุบปากลงสนิท แล้วเดินตามแรงจูงไปอย่างเงียบๆ

    อชิ

    เสียงหนึ่งเรียกขึ้น เด็กสาวหันไปมองตามเสียง เห็นชายในวัยใกล้กลางคนกำลังทอดมองตรงมาที่เธอ เจ้าของผมยาวระต้นคอ และหยักศกเล็กน้อยอันเป็นเอกลักษณ์ทำให้เธอนึกชื่อขึ้นมาได้ในทันที

    อาจารย์เจตน์? สวัสดีค่ะ

    เด็กสาวเอ่ยทักก่อนจะค้อมศีรษะลงเพื่อทำความเคารพ ธีมาเองก็ทำเช่นเดียวกัน

    อชิ ฉันไปก่อนแล้วกันนะ

    ธีมากระซิบบอกเด็กสาว ก่อนจะหันไปยิ้มสุภาพให้อาจารย์เจตน์แล้วค้อมศีรษะลงอีกครั้งตามมารยาทแทนคำบอกลา อาจารย์เจตน์เพียงพยักหน้ารับนิ่งๆ ก่อนจะหันกลับมาให้ความสนใจที่อชิอีกครั้ง

    มีเวลาอีกพอสมควรก่อนจะเริ่มเรียน เธอสะดวกคุยกับครูตอนนี้ไหม

    อ๋อได้ค่ะ

    ทานข้าวมาหรือยัง

    อาจารย์เจตน์ถามเสียงเรียบ หากแต่อชิเห็นความใส่ใจอยู่ในนั้น

    ยังเลยค่ะ

    เด็กสาวนิ่งคิดอยู่พักหนึ่งก่อนจะตอบพร้อมส่ายหน้า เธอเพิ่งจะนึกขึ้นมาได้ว่าทั้งเธอและธีมาต่างก็พร้อมใจกันลืมเรื่องข้าวเช้าไปเสียสนิท

    ซึ่งนั่นไม่ใช่เรื่องปกติเลย

    ถ้าอย่างนั้นไปนั่งรอที่ห้องสี่กอก่อน เดี๋ยวครูตามไป

    อชิทำท่าจะขยับตัวเตรียมเดินจากไป หากแต่อาจารย์เจตน์กลับเสริมขึ้นมาอีก

    จริงสิให้เดินอ้อมตึกไปนะ ไปทางที่เลี่ยงคนหน่อย

     

    เด็กสาวเอนหลังพิงพนักเก้าอี้ ก่อนจะปล่อยร่างกายให้เป็นอิสระตามแรงโน้มถ่วง เธอแหงนหน้าขึ้นมองเพดาน แล้วสูดอากาศบริสุทธิ์ภายในห้องสี่กอเข้าไป นี่เป็นครั้งแรกที่อชิได้ซึมซับบรรยากาศภายในห้องนี้อย่างเต็มที่ ซึ่งดูเหมือนว่าเธอเพิ่งจะได้ค้นพบสถานที่โปรดอีกที่หนึ่งภายในโรงเรียน

    รอนานไหม

    อาจารย์เจตน์เดินเข้ามาพร้อมกับกล่องข้าวสองกล่องภายในมือ ประตูห้องถูกเปิดทิ้งไว้ตามเดิม

    อ๋อไม่ค่ะ

    เด็กสาวว่าพร้อมกับรีบเด้งตัวกลับมานั่งเรียบร้อย รู้สึกขัดเขินที่เมื่อครู่เผลอหลุดอาการตามสบายจนเกินควร

    รับไปสิ เราจะกินไปคุยไปสบายๆ แล้วกัน

    อชิพยักหน้า พร้อมกับรับกล่องข้าวมาแล้วเปิดออก ภายในนั้นมีข้าวผัดอย่างง่ายๆ บรรจุอยู่ เด็กสาวตั้งท่าลังเลขณะกำช้อนเอาไว้ในมือ เหลือบมองผู้เป็นอาจารย์ซึ่งนั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามกำลังเริ่มต้นรับประทานอาหารด้วยท่าทางเป็นธรรมชาติราวกับว่านี่เป็นเรื่องปกติธรรมดา ภาพนั้นทำให้เด็กสาวคลายความเกร็งลงไปบ้าง จึงเริ่มตักข้าวเข้าปากบ้าง

    อร่อยไหม

    มากค่ะ

    เด็กสาวหลุดปากตอบ เป็นเพราะว่ามันอร่อยจริงๆ เธอเลยไม่ทันคิด

    ดีจริงที่เธอชอบ ลูกสาวครูก็ชอบรสชาติอย่างนี้

    ใบหน้าของอาจารย์เจตน์ดูอ่อนละมุน และลดความกระด้างลงในยามที่เอ่ยถึงลูกสาว อชิไม่เคยเห็นอาจารย์ผู้คร่ำเคร่งคนนี้มีสีหน้าเช่นนี้มาก่อน  อชิมั่นใจอย่างยิ่งว่าอาจารย์จะต้องรักลูกสาวมากๆ อย่างแน่นอนสีหน้าของอาจารย์เจตน์ในยามนี้เป็นสีหน้าแบบเดียวที่อชิคุ้นเคยยามได้อยู่กับพ่อของเธอ

    ดูเหมือนคุณกุลินจะมาช้าหน่อย เมื่อครู่ครูเลยไปขอคาบแรกให้เธอเรียบร้อยแล้ว แต่ถ้ามีปัญหาเรื่องตามไม่ทันครูจะรับผิดชอบสอนให้แทน

    ไม่เป็นไรค่ะ เดี๋ยวหนูให้เพื่อนช่วยสอนก็ได้เด็กสาวรีบปฏิเสธเพราะเกรงใจ แล้วคุณกุลินนี่ใครหรือคะ

    ศิษย์เก่าน่ะ จบไปหลายปีแล้ว ตอนนี้ทำงานอยู่ เขาติดต่อผ่านครูมาว่าสนใจอยากได้เธอเป็นผู้ช่วย

    เขารู้จักหนูหรือคะ?”

    สังคมเราแคบ คงมีคนแนะนำเธอไปให้อีกทีอาจารย์เจตน์เงียบนิ่งไป ก่อนจะเปรยขึ้นมาใหม่ อีกเดี๋ยวเธอก็ขึ้นชั้นสิบสองแล้วสิ เวลาผ่านไปเร็วกว่าที่คิดนะเรียนกับอาจารย์นาราเป็นอย่างไรบ้าง?”

    ยังไม่ได้เรียนอะไรกันเลยค่ะ พี่เอ้อ อาจารย์นาราดูเหมือนช่วงนี้จะค่อนข้างยุ่ง

    อืม…” อาจารย์เจตน์พยักหน้าช้าๆ

    อชิ เธอได้คุยกับธีมาเรื่องเรียนต่อบ้างหรือเปล่า

                “คะ?” เด็กสาวไหวตัวเล็กน้อย หวนถึงเรื่องเมื่อคืนขึ้นมา ก็ได้คุยอยู่บ้างค่ะ มีอะไรหรือเปล่าคะ

                “ดูเหมือนว่าเพื่อนก็เธอยื่นเรื่องขอรับการทดสอบบุคลิคภาพอีกครั้ง เรื่องนี้เขาได้มาปรึกษาเธอไหม

                “ไม่ค่ะ!”

                เด็กสาวปฏิเสธทันควันอย่างลืมตัว สีหน้าตื่นตระหนกอย่างรุนแรงของอชิทำให้ผู้เป็นอาจารย์รู้สึกได้ถึงความผิดปกติบางอย่าง จึงตัดสินใจที่จะรีบเปลี่ยนเรื่อง และตั้งใจจะเก็บเรื่องนี้นำไปครุ่นคิดในภายหลัง

                แล้ว…”

                อชิขยับปากเตรียมจะพูด ขณะเดียวกันในใจก็ยังลังเล ซึ่งในระหว่างที่เธอมัวแต่สับสนอยู่นั้น ผู้เป็นอาจารย์ก็รีบชิงเปลี่ยนเรื่องเสียก่อน

                เห็นต้นไม้หน้าโรงเรียนไหมอชิ

                เด็กสาวเพียงพยักหน้ารับอย่างอึดอัดใจที่ไม่ได้มีโอกาสถามเรื่องของธีมาต่อ และได้แต่เก็บความกังวลเอาไว้ในใจอีกครั้ง สักพักเมื่อเด็กสาวเริ่มจัดการความสับสนวุ่นวายภายในตนเองได้ เธอก็กลับมาให้ความสนใจในคำพูดของอาจารย์อีกครั้ง

                ต้นไม้นั่นติดโรค ดังนั้นเมื่อเธอมาโรงเรียนอีกครั้งในวันพรุ่งนี้ เธอก็จะพบว่ามันหายไปอชิแหงนหน้าขึ้นสบตาผู้เป็นอาจารย์ด้วยความรู้สึกประหลาดใจ ขณะที่อีกฝ่ายมองตอบกลับมาอย่างเคร่งเครียด  เมื่อใดก็ตามที่เกิดความผิดปกติขึ้นในสังคมโลกใหม่ สิ่งนั้นจะต้องถูกลบทิ้งไปอย่างรวดเร็ว

                “…ก่อนที่ความผิดปกตินั้นจะขยายเป็นวงกว้าง

                อชิรู้สึกราวกับว่าความหวาดกลัวได้ช่วงชิงลมหายใจของเธอไป

                หมายความว่ายังไง? อะไรกันคือสิ่งที่อาจารย์เจตน์ต้องการจะสื่อถึง?

    ธีมาพ่อ!

    เด็กทุกคนในโรงเรียนนี้เป็นลูกศิษย์ของครูอาจารย์เจตย์เปรยเสียงเบา หากแต่แววตาหนักแน่น “…ไม่ใช่ต้นไม้ที่จะถอนทิ้งกันง่ายๆ

    อชิ ครูรู้นะว่าเธอรู้อะไรมากเกินที่เด็กทั่วไปจะรู้ ครูจะเตือนตรงๆ ตอนนี้ เพราะโอกาสที่ครูจะได้คุยกับเธอแบบนี้คงมีไม่มาก ไม่แน่ว่าพอเธอขึ้นชั้นสิบสอง ครูอาจจะย้ายไปที่อื่นแล้วมีผู้ใหญ่ที่คอยจับตาเธออยู่มากนะอชิ เธอต้องระวังตัวเอาไว้ให้มาก ไม่ใช่ทุกคนจะเป็นคนดีอย่างที่เธอคุ้นเคย บางครั้งคนที่เธอเห็นว่าดีอาจหักหลังเธอได้อย่างไม่คาดถึง

    ครูอยากให้เธอระวัง…”

    ขณะที่เจตน์กำลังลังเลที่จะเอ่ยชื่อ พลันเสียงฝีเท้าที่ขยับใกล้เข้ามาก็ชัดเจนขึ้นพร้อมกับร่างของหญิงสาวที่ปรากฏตัวขึ้นบริเวณหน้าห้องที่ไม่ได้ปิดประตูไว้

    อชิซึ่งกำลังกลั้นหายใจระหว่างรอฟัง ถึงกับสะดุ้งและเร่งหันร่างไปมอง  หญิงสาวผู้มาใหม่ยืนนิ่งค้างอยู่พักหนึ่งด้วยรู้สึกได้ว่าตนกำลังมาขัดจังหวะสำคัญบางอย่าง ก่อนที่เธอจะตัดสินใจเคาะประตูที่เปิดอ้าอยู่แล้วแก้เขิน แล้วเอ่ยขึ้นมาอย่างประดักประเดิด

    เอ่อมาขัดจังหวะอะไรหรือเปล่าคะ?”

    อาจารย์เจตน์ถอนหายใจ

    ไม่หรอก คุณมาได้ถูกจังหวะพอดี เจตน์เหลือบมองเด็กสาวที่หันกลับมามองที่ตนอย่างฉงน ก่อนที่จะเริ่มแนะนำตัวแทนหญิงสาวผู้มาใหม่ อชิ นี่คุณกุลิน

    สวัสดีจ้ะอชิ

    หญิงสาวเอ่ยทักทายอชิพร้อมกับส่งรอยยิ้มกว้างมาให้ เด็กสาวรู้สึกถูกชะตากับกุลินทันทีที่ได้เห็นรอยยิ้มนั้น ทั้งที่ก่อนหน้านั้นเธอรู้สึกว่ากุลินช่างดูเป็นหญิงสาวธรรมดาเสียเหลือเกิน

    สวัสดีค่ะ

    อชิค้อมศีรษะลงพร้อมกับยิ้มตอบ

    แล้วเทวาหายไปไหนล่ะเนี่ยกุลินพึมพำพร้อมกับขมวดคิ้วนิดๆ

    เทวามาด้วยหรือ?”

    เจตน์ถามขึ้น เมื่อเห็นว่ากุลินเริ่มชะเง้อมองไปทางด้านนอกประตู

    ค่ะ เห็นว่าเขามีเรื่องอยากจะปรึกษากับอาจารย์อ้าว มาพอดี

    หญิงสาวว่าพร้อมกับหันไปมองทางเทวาซึ่งปรากฏตัวขึ้นมาอย่างเงียบๆ ก่อนจะก้าวเข้ามาในห้องพร้อมกับเอ่ยทักทายอาจารย์เจตน์

    สวัสดีครับอาจารย์

    อชิหันไปมอง

    ไงครับอชิ

    เด็กสาวผงะกับคำทักทายอย่างสนิทสนมของเทวา เธอเหลือบมองอาจารย์เจตน์ซึ่งเลิกคิ้วมองเธอสลับกับเทวาอย่างประหลาดใจแล้วก็รู้สึกเหมือนร่างกายของเธอหดเล็กลงไปถูกที ก่อนที่เธอจะตั้งสติขึ้นมาได้แล้วค้อมศีรษะลงพร้อมกับกล่าวสวัสดีชายหนุ่มโดยที่ไม่สบตาเลยสักครั้ง

    สวัสดีค่ะอาจารย์เทวา

    อชิรู้สึกได้ถึงสายตาเฉียบคมของอีกฝ่ายที่จ้องตรงมา และดูเหมือนว่ากุลินก็กำลังมองมาที่เธอเช่นกัน

    อชิเรามากับพี่เลยแล้วกัน เดี๋ยวไปคุยกันข้างนอกดีกว่า กุลินเอ่ยขึ้นเมื่อเห็นว่าเด็กสาวดูมีอาการแปลกๆ ขอตัวก่อนนะคะอาจารย์เจตน์

    น้ำเสียงของหญิงสาวจากที่เดิมฟังดูให้ความรู้สึกสนิทสนมกลับเรียบนิ่งและสุภาพขึ้นเมื่อเปลี่ยนไปพูดกับอาจารย์เจตน์

    อชิค้อมศรีษะให้กับอาจารย์ทั้งสอง เหลือบไปมองเฉพาะทางเทวาอีกครั้ง ก่อนจะก้าวตามกุลินออกไป

    ที่กุลินส่งข้อความมาหาผม คุณช่วยอธิบายทีว่านี่มันเกิดอะไรขึ้น

    เจตน์ถามขึ้นทันที หลังจากที่เหลือเพียงแต่เขาและเทวาภายในห้อง

    “…ทั้งที่เวลานี้คุณควรจะไปอยู่กับทางนั้นมากกว่า

    การตรวจจะเริ่มขึ้นในวันนี้ ชายหนุ่มเข้าเรื่องโดยไม่รีรอ นี่เป็นเรื่องเร่งด่วนอย่างยิ่งที่เขาจำเป็นจะต้องรีบหาทางรับมือผมต้องให้เธอไปจากที่นี่ก่อน

    อะไรนะ?!” เจตน์อุทานเสียงดัง ใบหน้าซีดทันตา ปกติพวกเขาจะตรวจหลังเสร็จสิ้นการสอบไม่ใช่หรือ นี่อีกอาทิตย์กว่าการสอบถึงจะเริ่มขึ้น เกิดอะไรขึ้น?”

    ดูเหมือนว่าผู้มีอาการหลงผิดจะมีจำนวนเพิ่มขึ้นอย่างผิดปกติในช่วงนี้ พวกเขาจึงเลื่อนการตรวจเข้ามาอย่างกระทันหัน ทั้งยังปิดเรื่องนี้เป็นความลับอีกด้วย

    นี่มันชักจะมากเกินไปแล้ว…”

    ชายผู้มากวัยกว่ารำพึง ใบหน้ายังคงซีดเซียว เลือดในกายเย็นเยียบเมื่อนึกถึงสภาพที่จะเกิดขึ้นในวันพรุ่ง

    การจำกัดจะยังไม่เริ่มในทันทีหรอกครับ พวกเขาเพียงแต่จะจับตามองอย่างใกล้ชิดมากขึ้น

    แล้วเด็กคนนั้นล่ะ?”

    ผมจะพยายามให้ดีที่สุด…”

    สิ้นเสียงของเทวา ทุกอย่างภายในห้องเหลือเพียงแต่ความเงียบงัน

     

    เมื่อครู่นี้อึดอัดใจอะไรหรือเปล่า

    กุลินถามขึ้นมาทำลายความเงียบ เธอเข้าใจเด็กสาวว่าคงจะยังไม่คุ้นเคยกับเธอดีนัก จึงพยายามเป็นฝ่ายชวนคุยก่อนเพื่อสร้างความสนิทสนม

    เปล่าค่ะ

    เด็กสาวส่ายหน้า เธอเองก็ไม่รู้จะอธิบายยังไงดี

    มีแต่ผู้ใหญ่ล่ะเนอะ เวลาพี่อยู่คนเดียวท่ามกลางผู้ใหญ่เยอะๆ ก็ตัวลีบเหมือนกัน

    อชิเบิกตาโตอย่างแปลกใจขณะหันมองไปที่กุลิน ใช่อย่างที่หญิงสาวว่าเธอรู้สึกอย่างนั้นจริงๆ ภายในห้องเล็กๆ นั้นอชิรู้สึกเหมือนเธอเป็นเด็กตัวเล็กๆ อยู่คนเดียวทั้งๆ ที่เธอสูงกว่ากุลินซึ่งเป็นผู้หญิงร่างเล็กด้วยซ้ำ อาจจะเป็นเพราะภายในห้องนั้นมีทั้งอาจารย์เจตน์และอาจารย์เทวา ซึ่งทั้งสองคนก็ล้วนแต่ร่างสูง และให้บรรยากาศเคร่งขึงทั้งคู่

    ตลกเทวา หมอนั่นตีสนิทใครไม่เก่งมาแน่ไหนแต่ไรแล้ว

    กุลินยิ้มขำ ก่อนจะหันมายิ้มให้กับอชิอย่างใจดี

    อยู่กับพี่ให้สบายๆ แล้วกันนะ พี่ไม่ชอบอะไรจุกจิก

    ค่ะ

    เด็กสาวยิ้มจนตาหยี รู้สึกดีใจที่กุลินเป็นคนพาเธออกมา น่าแปลกที่อยู่ดีๆ เธอก็นึกถึงนาราขึ้นมา อดเปรียบเทียบไม่ได้ว่าทั้งๆ ที่นารานั้นก็ดูเป็นกันเอง และพยายามชวนเธอคุยอย่างสนิทสนมเช่นเดียวกับกุลิน แต่เธอกลับรู้สึกสบายใจและไม่เกร็งเมื่ออยู่กับกุลินที่เพิ่งเจอมากกว่า อีกทั้งยามไม่ยิ้มก็ดูนิ่งๆ เฉยๆ ดูไม่ออกเลยด้วยซ้ำว่าอัธยาสัยดี

    พี่กุลินเป็นเพื่อนกับอาจารย์เทวาหรือคะ

    จริงๆ แล้วเป็นรุ่นน้อง แต่ก็เป็นเพื่อนนั่นล่ะกุลินอธิบาย ก่อนจะหันมามองอชิด้วยสีหน้าสนอกสนใจ อชิรู้จักเทวาด้วยเหรอ

    แค่เคยเจอตอนแนะแนวเรื่องเรียนต่อน่ะค่ะ เขาเป็นหนึ่งในอาจารย์ที่มาสัมภาษณ์ด้วย

    อชิตอบ กุลินเงียบไปครู่หนึ่ง

    สัมภาษณ์หรือแค่มาจดบันทึก

    คราวนี้กลับเป็นฝ่ายอชิที่ต้องนิ่งคิด จะว่าไปเธอเองก็จำรายละเอียดไม่ค่อยได้เสียด้วย จำได้ว่าตอนนั้นเธอรู้สึกแค่อยากให้การแนะแนวในครั้งนั้นจบลงเสียที ไม่ว่าเมื่อไหร่อชิก็ไม่ชอบการอยู่ท่ามกลางผู้ใหญ่เยอะๆ สักที

    ไม่เห็นถามอะไรนะคะ เห็นจดอะไรอย่างเดียว

    อืม ตามหน้าที่เขาล่ะกุลินพยักหน้าให้กับตัวเอง จริงๆ แล้วเทวาเป็นคนแนะนำเราให้กับพี่

    อาจารย์เทวาน่ะหรือ…? เด็กสาวรู้สึกประหลาดใจ ว่าไปแล้วคราวก่อนที่เทวาให้เธอยืมหนังสือมานั้นก็เป็นเรื่องแปลกเช่นกัน

    พี่กุลินคะ งานอะไรเหรอคะที่จะให้ช่วย

    เอาจริงๆ เลยนะ พี่ก็ยังไม่แน่ใจกุลินหัวเราะ แต่รับรองว่าอชิได้อะไรกลับไปแน่ๆ

    อ่อ…”

    เด็กสาวยิ้มค้าง

    ยังไม่ได้จะให้ช่วยตอนนี้หรอก เอาตอนที่อชิว่างดีกว่าเพียงแต่วันนี้เราขอตัวอชิวันหนึ่งแล้วกัน ส่วนเรื่องเรียนถ้ากลัวตามไม่ทันก็ให้เราสอนให้ก็ได้นะ

    อชิรู้สึกคุ้น กับประโยคท้ายของหญิงสาว มันฟังดูคล้ายราวกับว่าเพิ่งจะได้ยินมาจากใครเมื่อไม่นาน

    เดี๋ยวต้องไปขอโทษอาจารย์เจตน์ด้วยสิกุลินว่าเบาๆ เพราะจัดตารางเวลาตัวเองไม่ดี เลยพลอยทำให้อาจารย์รวนไปด้วย

    เด็กสาวมองกุลินอย่างสงสัย ทว่าหญิงสาวเพียงแค่ถอนหายใจ และไม่ตอบอะไร

    นอกจากต้นไม้คงมีอีกมากที่เราจะต้องสูญเสียไปในวันนี้

    เสียงของกุลินแผ่วเบา

    ตรงข้ามกับบางอย่างที่ถ่วงหนักภายในใจ

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×