คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #12 : อชิกับการตรวจสุขภาพ
12
อชิกับการตรวจสุขภาพ
ตลอดช่วงเวลาที่ผ่านไปสามชั่วโมงกว่า อชิแทบไม่รู้สึกเลยว่าตัวเองได้ทำอะไรเป็นชิ้นเป็นอัน
หลังจากที่กุลินพาตัวเธอมาจากอาจารย์เจตน์ ก็ได้แอบพาเธอมาช่วยอ่านทวนเอกสารภายในห้องสมุดโรงเรียนซึ่งอยู่ในช่วงปิดปรับปรุง งานที่กุลินทำไม่มีอะไรมากนอกเสียจากตรวจทานคำผิด บางครั้งก็โยนหนังสือมาให้เธอสามเล่ม พร้อมกับบอกให้ตรวจเนื้อหาที่ผิดพลาดในเอกสารกับหนังสือพวกนี้ ซึ่งบางครั้งกระทั่งเนื้อหาระหว่างหนังสือทั้งเล่มก็ยังมีข้อแตกต่างกัน ซึ่งกุลินก็บอกว่าให้เธอจดไว้
หนังสือในห้องสมุดโรงเรียนของเด็กสาวมีจำนวนหนังสือไม่มาก ดังนั้นหนังสือเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ที่มีอยู่ก็ล้วนแต่ผ่านตาอชิมาแล้วทั้งนั้น งานที่กุลินมอบหมายมาให้เธอจึงจัดว่าเป็นงานน่าเบื่อ
“น่าเบื่อใช่มั้ย” กุลินว่ายิ้มๆ
“ค่ะ”
อชิตอบพร้อมกับส่งยิ้มแก้เก้อไปให้ ซึ่งกุลินก็พยักหน้าให้อย่างเข้าใจ
“งั้นก็ไม่ต้องทำแล้วล่ะ”
“ไม่เป็นไรค่ะ! เมื่อคืนอชินอนน้อยเลยรู้สึกเพลียๆ ”
เด็กสาวพูดเร็วๆ ความรู้สึกผิดเริ่มจู่โจมเข้ามา อชิรู้สึกว่าตัวเองนั้นไม่ได้เรื่องเลย ทั้งที่กุลินระบุตัวมาว่าอยากได้เธอเป็นผู้ช่วยแท้ๆ แต่เพียงแค่งานแรกที่ได้รับ เธอก็บ่นว่าเบื่อเสียแล้ว
“เปล่าๆ เราตั้งใจทำดีแล้วล่ะ แต่พี่ว่าตอนนี้เราควรจะมาคุยกันมากกว่า”
อชิหันมองกุลินอย่างสนอกสนใจ หากแต่หญิงสาวกลับเหม่อมองไปอีกทาง
“ยังไม่ติดต่อมา…ดูเหมือนว่าจะผ่านไปด้วยดี”
สองชั่วโมงที่แล้ว
นักเรียนภายในห้องเรียนรวมทั้งชาลินและธีมาต่างก็จัดเก็บหนังสือลงในกระเป๋าผ้า พร้อมกับเตรียมหยิบหนังสือของวิชาในคาบต่อไปที่จะต้องเรียนออกมา ทว่าเมื่อถึงเวลาที่อาจารย์วิชาดาราศาสตร์จะเข้ามาสอน แทนที่หญิงวัยกลางคนผู้เป็นอาจารย์เจ้าของวิชาจะปรากฏตัวเข้ามาในห้องพร้อมกับน้ำเสียงเฉื่อยเนือย กลับเป็นอาจารย์อธิตที่เข้ามาแทน
“วันนี้จะไม่มีการเรียนการสอน เนื่องจากคนจากสมาคมแพทย์จะเข้ามาตรวจสุขภาพพวกเธอ”
สิ้นเสียงของอาจารย์อธิต เสียงพูดคุยก็เริ่มดังเซ็งแซ่ขึ้นมาภายในห้องเรียน เนื่องจากกำหนดการณ์ตรวจสุขภาพนั้นค่อนข้างจะตายตัวจนรู้กันเป็นธรรมเนียมว่าจะมีขึ้นในวันสุดท้ายของภาคเรียนของนักเรียนชั้นสิบเอ็ด การที่อาจารย์อธิตอยู่ๆ ก็เข้ามาประกาศเช่นนี้จึงเป็นเรื่องที่สร้างความประหลาดใจอย่างถ้วนหน้า
“ธีมาๆ ปกติเขาตรวจกันหลังสอบไม่ใช่หรือ”
เด็กผู้ชายในห้องคนหนึ่งสะกิดเรียกธีมา
“ไม่รู้สิ”
ธีมาตอบเรียบๆ พลางเก็บหนังสือดาราศาสตร์กลับลงไปในกระเป๋า ชาลินซึ่งนั่งถัดจากไปไม่ไกลเหลือบมองเด็กสาวอย่างประหลาดใจ
“ช่วงนี้ธีมาดูแปลกๆ ไปนะ”
เด็กสาวคนหนึ่งกระซิบคุยกับเด็กผู้ชายที่สะกิดเรียกธีมาเมื่อครู่ ก่อนที่ทุกเสียงภายในห้องจะเงียบลงเมื่ออาจารย์อธิตเริ่มกระแอมไอ
“เราเลื่อนกำหนดการณ์เข้ามากระทันหันเนื่องจากปีนี้มีจำนวนนักเรียนรวมทั้งหมดสิบสามเขตค่อนข้างมากกว่าปีที่แล้ว” อาจารย์อธิตว่าขึ้น หลังจากที่นักเรียนเงียบเสียง
“ธีมา! นำเพื่อนออกไปเข้าแถว”
อาจารย์อธิตหันมาสั่งธีมาซึ่งเป็นหัวหน้าห้อง เด็กสาวพยักหน้าพร้อมกับรับคำสั้นๆ แล้วเดินนำออกไปทางหน้าห้อง ก่อนที่นักเรียนคนอื่นๆ จะลุกเดินตามออกไป
“อาจารย์อธิตคะ”
ธีมาเดินกลับเข้ามาเรียกผู้เป็นอาจารย์ซึ่งกำลังนั่งรอเงียบๆ อย่างสงบนิ่งอยู่ภายในห้อง ขณะที่เพื่อนคนอื่นๆ กำลังยืนแถวอยู่ด้านนอก
“หืม…ว่ายังไง มีอะไรหรือธีมา?” เด็กสาวมีท่าทีอ้ำอึ้ง ผู้เป็นอาจารย์จึงว่าต่อ “ เธอเดินนำเพื่อนไปได้เลย เดี๋ยวครูตามไปดูทีหลัง”
“ค่ะ…คือหนูจะถามเรื่องอชิ”
ธีมาพูดออกมาในที่สุด
“อชิ? ทำไมรึ”
“อชิลาครึ่งวันค่ะ”
“อ๋อ…ไม่ต้องห่วงหรอก เดี๋ยวครูจัดการให้อชิตรวจรอบอื่นแทน”
อาจารย์อธิตขยับยิ้มให้อย่างใจดี
“พวกเธอไปกันได้แล้วล่ะ”
ธีมาค้อมศีรษะให้กับอาจารย์ก่อนจะเดินหันหลังออกไป
“…ที่จริงวันนี้จะมีการตรวจสุขภาพ”
กุลินเริ่มต้นเกริ่นขึ้นมา ก่อนที่จะเงียบนิ่งไปอีกครั้งภายใต้ท่าทีที่ดูเหมือนว่าจะมีเรื่องอึดอัดใจบางอย่าง ซึ่งอชิก็ได้แต่เฝ้ารอจนกว่าหญิงสาวจะว่าต่อ
“ขอโทษนะอชิ…” หญิงสาวเว้นช่วงอย่างลำบากใจ “ที่จริงแล้วที่พี่มาในวันนี้ก็เพื่อขัดขวางไม่ให้เธอเข้ารับการตรวจวันนี้”
เด็กสาวนิ่งอึ้ง เธอใช้เวลาเรียบเรียงเรื่องราวในสมองอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะเร่งถามออกไป
“ทำไมล่ะคะ!”
“เพราะว่าอชิมีร่างกายที่แตกต่างไปจากพวกเรา”
กุลินเพียงตอบกลับมาอย่างเรียบง่าย ทว่าเน้นชัด
…ภายในหัวสมองของอชิพลันขาวโพลน
“เรารู้จักอาการหลงผิดใช่ไหม”
เด็กสาวนั่งนิ่งไม่ตอบกลับ กุลินได้แต่ถอดถอนใจ
“ข้อเท็จจริงอย่างหนึ่งที่น้อยคนจะรู้ และถูกห้ามเอาไว้ให้ปิดเรื่องนี้ไว้เป็นความลับ คือตามปกติแล้วในตัวของมนุษย์โลกใหม่ทุกคนล้วนแต่มีอาการหลงผิดแฝงอยู่ทั้งนั้น ตัวพี่เองก็มี รวมถึงพ่อแม่ของเธอด้วย…แต่อาการนั้นจะไม่มีวันเกิดขึ้นกับเธออชิ ซึ่งถ้าหากทางการตรวจพบว่าเธอต่างออกไป เขาจะต้องทำการกักตัวเธอไว้อย่างแน่นอน อย่างเลวร้ายที่สุดอาจต้องกำจัดทิ้ง”
“ทำไมล่ะคะ…ถ้าหากหนูไม่มีอาการนั้นจริง ก็น่าจะเป็นเรื่องดีไม่ใช่หรือคะ”
เด็กสาวเอ่ยออกมาอย่างสับสน ภายในหัวสมองรู้สึกราวกับว่าคำว่า ‘กำจัดทิ้ง’ นั้นก้องกังวานอย่างประหลาด พลันเลือดในกายก็ดูราวกับจะเย็นเยียบขึ้นมา
“ดีต่อเธอ แต่ทางการคงยอมรับไม่ได้หรอก”
“ใครกันคะทางการ พวกผู้คุมกฎใช่มั้ยคะ เขาคือใครกันแน่!”
อชิถามออกมาอย่างอัดอั้น แต่ไหนแต่ไรมาเธอก็ถูกขู่ให้หวาดกลัวในคำว่าผู้คุมกฏ ถูกปลูกฝังให้จำยอมรับในกฏต่างๆ โดยปราศจากเงื่อนไขใดๆ
หากแต่ไม่มีสักครั้ง…ที่เธอจะได้รู้จักตัวตนของผู้คุมกฏ!
“พวกเขาเป็นเหมือนเงาที่ซ่อนอยู่ในความมืด ไม่เคยมีใครพบเห็น ไม่มีใครกล้าถามถึง”
กุลินตอบเสียงเบา เด็กสาวเอนหลังพิงกับพนักเก้าอี้อย่างอ่อนแรง ลมหายใจเข้าออกหนักหน่วงราวกับเพิ่งจะถูกโยนลงน้ำแล้วว่ายขึ้นมาริมฝั่งได้ อชิพยายามตั้งสติอย่างยากลำบาก หากแต่ช่างเป็นเรื่องยากยิ่งนัก ที่เธอจะรับฟังและพยายามทำความเข้าใจทุกอย่างได้อย่างเยือกเย็น
“ดีที่พี่ติดต่ออาจารย์เจตน์ทันการณ์ ถึงได้แยกตัวเธอออกมาก่อนเวลาเข้าเรียน”
“แต่ว่าเพื่อนของหนู…”
เด็กสาวยังคงรู้สึกสับสน เธอไม่รู้ว่าควรจะพูดออกไปยังไงดีว่าวันนี้เธอมาพร้อมกับธีมา ป่านนี้ธีมาจะไม่กังวลแย่หรือที่เธอหายตัวไปนานขนาดนี้ จากที่กุลินบอก เห็นว่าอาจารย์เจตน์ทำเรื่องให้เธอไปแล้วว่าวันนี้เธอได้ลาเรียนครึ่งวัน สรุปแล้วเรื่องมันเป็นยังไงกันแน่
“วันนี้เธอยังไม่เจอใครนอกจากธีมาใช่ไหม งั้นก็ไม่เป็นไรหรอก ตอนที่เธอเข้ามาในโรงเรียนทุกคนมัวแต่สนใจต้นไม้นั่นจึงไม่มีเวลามาใส่ใจเธอ ส่วนตัวธีมานั้นอาจารย์เจตน์ก็ได้ส่งข้อความไปบอกก่อนแล้วว่าให้เงียบๆ ไว้เพื่อความปลอดภัยของเธอ”
กุลินเหลือบมองอชิซึ่งยังตกอยู่ในอาการงุนงง ก่อนที่จะย้ำชัดขึ้นมาใหม่
“สรุปคือ ขณะนี้ทุกคนเข้าใจว่าอชิยังไม่มาที่นี่”
เด็กสาวเม้มริมฝีปากแน่น สายตาหลุบลงต่ำอย่างครุ่นคิด ก่อนที่เธอจะเงยหน้าขึ้นสบตากับกุลิน
“อชิขอคุยกับแม่ได้ไหมคะ”
“ได้สิ ถ้าอชิตกลงกับคุณแม่ได้เรียบร้อย เราจะได้สบายใจกันทั้งสองฝ่าย”
กุลินยิ้ม เป็นรอยยิ้มอย่างที่ทำให้ใครก็ตามที่ได้มองแล้วรู้สึกสบายใจขึ้นมา ทว่า…ภายในใจของหญิงสาวกลับซ่อนความกังวลเอาไว้ เพราะถ้าหากอชิสามารถติดต่อกับแม่ของตัวเองได้อย่างง่ายดายในขณะนี้
…เธอให้อชิคุยกับแม่เสียตั้งแต่แรก จะไม่ง่ายกว่าฟังความจากคนแปลกหน้าเช่นเธอหรือ?
…เธอแตกต่างจากคนอื่น…
ความคิดนี้ก้องดังอยู่ในหัวสมองของอชิซ้ำไปซ้ำมาเสียจนเธอรู้สึกคล้ายจะอาเจียน สิ่งที่เธอเพิ่งจะได้รู้มามันมากเกินไป เธอต้องการเวลา เด็กสาวพยายามคิดตามคำพูดของกุลินทุกอย่าง พยายามทำความเข้าใจและหาข้อผิดพลาดในนั้น
หากแต่ลึกๆ ลงไปข้างในแล้ว อชิอาจเชื่อคำพูดของกุลินไปเรียบร้อย
แต่ไหนแต่ไรมาอชิเป็นเด็กช่างคิด ชอบที่จะตั้งคำถามกับสิ่งที่ได้รับรู้มา ในขณะที่คนอื่นนั้นเคยชินกับการเก็บข้อมูลภายในห้องเรียน หรือสิ่งที่เชื่อถือได้อย่างหนังสือเข้าไปในสมองได้ทันที ถึงกระนั้นอชิก็ยังคงมีนิสัยที่ชอบ ‘ใช้ความรู้สึกในการเลือก’ ดังนั้นแล้ว แม้ว่าจะมีบางคนบอกว่าเธอหัวดี หากแต่อชิกลับรู้สึกว่าตัวเองมีข้อผิดพลาดอยู่เสมอๆ ที่บางครั้งใช้ความรู้สึกในการตัดสินใจมากกว่าเหตุผล
อชิมีความรู้สึกเคารพเชื่อถือในตัวอาจารย์เจตน์ และเธอมีความประทับใจที่ดีต่อกุลิน
หากเธอคิดว่ากุลินแต่งเรื่องมาหลอกเธอ อาจารย์เจตน์ที่ให้ความร่วมมือ ปล่อยเธอมากับกุลินก็คงหลอกเธอเช่นกัน
แล้วถ้าอาจารย์เจตน์ไม่รู้ว่ากุลินจะทำอย่างนี้ล่ะ?
‘จริงสิ…ให้เดินอ้อมตึกไปนะ ไปทางที่เลี่ยงคนหน่อย’
…นึกถึงคำพูดของอาจารย์เจตน์ตอนนั้นแล้วมันก็มีความสอดคล้องกับสิ่งที่กุลินพูดทุกอย่าง แต่เอาเถอะ ถามใครสักคนให้แน่ใจดีกว่า…เด็กสาวคิด
แท้จริงแล้วในตอนแรกอชิไม่ได้คิดจะติดต่อกับแม่อย่างที่อ้างไป แรกที่เดียวเธอคิดถึงคาวาน น่าแปลกที่เธอกลับรู้สึกเชื่อมั่นในตัวเขาถึงเพียงนี้ภายในเวลาไม่กี่วัน ส่วนที่เธอบอกกุลินไปว่าจะขอเวลาคุยกับแม่นั้นก็เป็นเพียงแค่ข้ออ้างในการหาเวลามาคุยกับคาวาน
แต่เนื่องจากมันเป็นข้ออ้างที่สมเหตุสมผลควรจะทำเสียยิ่งกว่าความตั้งใจจริง ดังนั้นตอนนี้อชิจึงตัดสินใจส่งข้อความไปปรึกษากับผู้เป็นแม่ก่อน
…ติดต่อไม่ได้…
เด็กสาวนิ่งงัน เธอพยายามส่งข้อความ ทว่านัลกลับบอกว่าข้อความนั้นไม่สามารถส่งถึง ความเป็นกังวลเริ่มก่อตัวขึ้นมาเงียบๆ หากแต่เธอยังคงพยายามมองโลกในแง่ดี บางครั้งแม่ของเธอก็ปิดสัญญาณ ซึ่งโดยปกติแล้วเขาไม่ทำกันหรอก แต่บางที่แม่ของเธอก็จำเป็นต้องทำด้วยหน้าที่การงาน…อชิพยายามปลอบใจตัวเอง
ถ้าอย่างนั้นก็คาวาน อชิเม้มริมฝีปากอีกครั้ง ก่อนจะเร่งลงมือพิมพ์ข้อความ
‘จริงหรือเปล่าที่ฉันไม่มีอาการหลงผิด’
อชิรอคอยคำตอบอยู่ครู่หนึ่ง ทว่าคาวานยังไม่ตอบกลับมา เธอจึงส่งข้อความเพิ่มไปอีก
‘มีคนบอกมาว่าร่างกายฉันแตกต่างจากคนอื่น วันนี้จะมีคนมาตรวจสุขภาพนักเรียน เพราะเหตุนี้เธอเลยพยายามกันตัวฉันออกมา ฉันควรจะทำยังไงคะ เธอคนนั้นชื่อกุลิน รู้จักกับอาจารย์เจตน์ที่สอนอยู่โรงเรียน ’
‘ทำตามพวกเขา’
คาวานตอบกลับมาเพียงสั้นๆ
ทว่าคำพูดเพียงไม่กี่คำ…กลับยืนยันทุกอย่างที่ตัวเธอไม่อยากจะเชื่อ!
เด็กสาวหลังตาลง พร้อมกับบีบข้อมือของตัวเองบริเวณที่นัลถูกฝังอยู่เพื่อเรียกสติอีกครั้ง…สูดลมหายใจเข้าออกลึกๆ ...เข้า…ออก…เข้า…และออก
อชิลืมตาขึ้นพร้อมกับสติที่แจ่มชัด
“พี่กุลินคะ”
เด็กสาวเอ่ยเรียกพร้อมกับพาร่างกลับไปนั่งใกล้กุลินที่กำลังเฝ้ารอคำตอบจากเธออยู่
“อชิจะทำตามที่พี่บอก แต่อชิยังมีอีกหลายเรื่องที่ต้องถาม…ช่วยตอบด้วยได้มั้ยคะ”
“ถ้าพี่ตอบได้”
กุลินรับคำง่ายๆ หากแต่จริงใจ
“ถ้าอย่างนั้นเราจะซ่อนตัวอยู่ที่นี่กันเหรอคะ”
“ไม่ เราจะไปจากที่นี่กัน”
ความคิดเห็น