ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Chavala ชวาลา

    ลำดับตอนที่ #10 : ตะเกียงกับกาลิเลโอ

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 55
      0
      18 เม.ย. 57

    10

    ตะเกียงกับกาลิเลโอ

     

    พวกเราอย่างกับเป็นโจรขโมยเลย

    อชิว่าขณะก้าวเท้าเข้ามาหาคาวานซึ่งกำลังตักน้ำจากถังไม้ขึ้นมาดื่มได้อย่างหน้าตาเฉยๆ ทั้งๆ ที่เจ้าของบ้านทุกคนล้วนแต่อยู่ในสภาพหลับใหลไม่ได้สติ เด็กสาวกวาดตามองไปรอบบ้านของธีมาที่ในยามนี้ดูเงียบเหงาวังเวงอย่างผิดปกติ ก่อนจะตัดสินใจนั่งลงบนชุดเก้าอี้ พร้อมกับที่ขอโทษขอโพยเพื่อนของเธออยู่ในใจที่มาถือวิสาสะใช้เครื่องเรือนในบ้านหลังนี้โดยที่เจ้าของไม่ทันอนุญาต

    ไม่ได้จะเอาอะไรไปสักหน่อย

    คาวานพูดพร้อมกับเดินถือแก้วน้ำมานั่งตรงฝั่งตรงข้าม

    คุณทำยังไงให้ยายธีมาสลบไปอย่างนั้น อีกนานไหมกว่าจะฟื้น

    ไม่ทันที่ชายหนุ่มจะได้นั่งติดเก้าอี้ดี เด็กสาวก็เริ่มต้นยิงคำถามใส่อย่างไม่เกรงใจ มีหลายเรื่องมากมายที่อชิรู้สึกติดใจสงสัย ทั้งยังกระหายอยากได้คำตอบ มากเสียจนเธอรู้สึกได้ถึงหัวใจของตัวเองที่กำลังเต้นรัวอยู่ในขณะนี้

    ยาสลบแบบสเปรย์ เขาตอบพร้อมกับโยนของไปให้อชิเสียจะได้หมดเรื่อง อย่าเผลอฉีดใส่ตัวเองล่ะ ของฉันแรงนะ ทีเดียวจอด

    เด็กสาวที่กำลังตั้งท่าจะสำรวจของเล่นใหม่อย่างสนอกสนใจ ถึงกับแทบจะโยนของในมือทิ้งราวกับต้องของร้อน แต่ถึงอย่างนั้นความสนอกสนใจก็ยังคงเดิมไม่ได้ลดหายไปไหน เพียงแต่รู้จักระมัดระวังมากขึ้น เพราะเห็นท่าว่าคาวานจะพูดจริงไม่ได้ขู่เล่น เธอเองก็ไม่นึกสนุกอยากจะสลบเหมือดหรอก

    อชิตั้งหน้าตั้งตาพิจารนายาสลบแบบสเปรย์อย่างเพลิดเพลินจนกระทั่งนึกถึงความตั้งใจของตัวเองขึ้นมาได้ เธอละสายตาจากของในมือขึ้นมองคาวานอย่างขุ่นเคือง ก่อนจะรีบทำท่าส่งคืนให้

    เก็บไว้สิ ฉันให้

    เด็กสาวตาโต ทำท่าลังเล มือที่ทำท่าจะส่งของกลับคืนให้แก่เจ้าของเริ่มค้างอยู่นานเสียจนกล้ามเนื้อแขนเริ่มล้า สุดท้ายแล้วอชิก็เก็บสเปรย์เข้ากระเป๋ากางเกงของตนอย่างงุนงง ทว่าเบิกบาน

    แล้วธีมาจะเป็นอะไรมั้ยคะ คุณช่วยอธิบายเกี่ยวกับอาการหลงผิดให้ฟังหน่อยสิ

    คาวานถอดถอนใจ

    เดาว่าหนังสือในห้องสมุดคงไม่มีเขียนถึง?” ชายหนุ่มกลอกตาอย่างระอา ก่อนจะเปลี่ยนสายตาเฉียบคมมาที่อชิ เป็นโรคที่แฝงอยู่ในระดับดีเอ็นเอ ติดตัวมากับมนุษย์โลกใหม่ทุกคนอย่างไม่มีข้อยกเว้น ทางรัฐบาลทางผู้คุมกฏของเธอพยายามเร่งแก้ไขปัญหานี้อยู่ จึงพยายามปิดเรื่องนี้ไว้ไม่ให้ประชากรแต่ละเขตตื่นตระหนก มิฉะนั้นจะยิ่งกระตุ้นอาการ ผู้ป่วยจะมีอาการหลงผิดจนถึงขั้นก่ออาชญากรรม….สุดท้ายพบจุดจบด้วยการถูกกำจัด

    เด็กสาวตะกละตะกรามซึมซับคำพูดของคาวานเข้าไปราวกับทรายที่ต้องการน้ำ พลันราวกับสมองของเธอได้ถูกเปิดออก เธอรู้สึกเพียงร่างกายที่แข็งชานั่งติดอยู่กับเก้าอี้ ความหวาดกลัวจู่โจมเข้ามาอย่างที่เธอไม่อาจปิดกั้น

    แล้วพี่ชายของธีมา…”

    ก็ยังไม่รู้สิคาวานส่ายหน้า

    แต่พวกเขาไม่ควรปิดบังเรื่องนี้!” อชิเผลอตัวขึ้นเสียงสูง ก่อนที่เธอจะมีท่าทีลังเล “…ไม่ใช่หรือคะ?”

    แววตากลมโตจ้องมองที่บุรุษประหลาดผู้อยู่ตรงหน้าด้วยความรู้สึกอันยากจะอธิบาย ยิ่งในยามที่คาวานจ้องมองมาที่เธอด้วยสายตาอ่อนละมุนยิ่ง

    ถ้าเป็นไปได้ฉันก็อยากจะแก้ไขเรื่องพรรค์นี้ให้สำเร็จ

    ยังไงคะ เปิดโปงเรื่องอาการหลงผิด หรือช่วยเอาโรคร้ายนี้ออกไปจากมนุษย์โลกใหม่

    อีกครั้งที่คาวานถอดถอนหายใจ

    เกรงว่ายากจะทำให้เป็นไปได้ทั้งสองทาง….”

    เงียบกันกันไปครู่หนึ่ง ก่อนที่คาวานจะเริ่มต้นบทสนทนาขึ้นมาอีกครั้ง

    ธีมามีอุปนิสัยอย่างไรบ้าง เธอคาดเดาเอาไว้ยังไงว่าธีมาจะทำอะไรต่อไปกับเรื่องของพี่ชายเขา

    นิสัยของธีมาน่ะหรือ…?” เด็กสาวเอียงคอคิด เธอเป็นคนร่าเริงมาก แล้วก็อัธยาสัยดี ดูเหมือนมีความเป็นผู้นำ และเป็นผู้ใหญ่กว่าคนอื่นๆ ก็จริง แต่เอาจริงๆ แล้วใจร้อน บางครั้งก็ชอบตำหนิคนอื่น แต่ใจจริงแล้วไม่มีเจตนาร้าย ถ้าคนที่ไม่สนิทจะคิดว่าเธอหยิ่ง แล้วก็จริงจังเกินไป

    หลังจากที่เด็กสาวตอบคำถามเสร็จไปข้อหนึ่ง เธอก็เริ่มต้นครุ่นคิดเกี่ยวกับคำถามข้อต่อไปซึ่งเธอไม่เคยนึกถึงอย่างจริงจังมาก่อน คือได้แต่วิตกกังวลว่า ทำยังไงดี? ธีมาจะเป็นอะไรมากไหม? แต่ไม่เคยคาดเดามาก่อนว่าธีมาจะตัดสินใจทำอย่างไรต่อไป อชิเพียงแต่คิดเอาไว้แค่ว่าจะลองถามธีมาดูว่าเธอจะทำยังไงต่อไปเมื่อตื่น

    ทว่าคาวานผู้ต้องการคำตอบ กลับถามอีกคำถามขึ้นมาขัด

    แล้วเธอล่ะ เป็นคนยังไง

    ก็ธรรมดาๆ  เข้ากับคนง่าย

    คำตอบแบบนี้ฉันไม่ต้องถามจากเธอก็ได้มั้ง เอาคำตอบแบบที่เธอเห็นตัวเองจากข้างในสิ

    น้ำเสียงที่ราบเรียบอันแฝงไปด้วยคำตำหนิของบุรุษตรงหน้ามีผลกระทบต่ออชิอย่างประหลาด เด็กสาวรู้สึกราวกับถูกทำให้งงงันด้วยคำพูดที่คล้ายจะเรียบง่าย หากแต่เธอไม่เคยเจอใครที่บอกให้เธอมองตัวเองในส่วนที่อยู่ลึกลงไปเลยแม้แต่ครั้งเดียว

    เห็นตัวเองจากข้างใน…”

    เด็กสาวพึมพำราวกับละเมอ

    ตัวตนของเธอที่อยู่ลึกลงไป

    อชิรู้สึกขลาดเขลาที่จะสบสายตากับคาวานที่มองตรงมาอย่างเฉียบคม หากแต่ดวงตาคู่นั้นก็ดูราวกับมีพลังอำนาจบางอย่างตรึงเธอเอาไว้ให้ไม่อาจละสายตาไปได้ แม้ว่าด้วยสายตาคู่นั้นจะขุดค้นภายในของเธออยู่ก็ตาม

    เด็กสาวตกอยู่ในสภาวะที่ต้องอึดอัดใจอยู่นานก่อนที่ทุกอย่างจะถูกปลดปล่อยออกมาอย่างที่ตัวเธอเองยังต้องตกใจ

    ฉันอยากรู้ มีแต่เรื่องที่ฉันอยากรู้เต็มไปหมด ฉันอยากถาม อยากแสดงความรู้สึก อยากได้อิสระ ฉันไม่อยากเป็นเด็กดีที่ได้แต่หวาดกลัวว่าตัวเองจะแตกต่างจากคนอื่น ฉันเกลียดคำตอบที่บอกว่า เพราะว่ามันเป็นกฎ ฉันถึงต้องทำ บางครั้งฉันก็เกลียดความสงบที่ฉันมองเห็นด้วยตา แต่ผิดกับความรู้สึกที่ฉันไม่สามารถพูดออกไปได้ว่ามันน่ากลัวแค่ไหน

    ฉันฉันคิดว่าตัวเองอยากรู้อยากเห็นจนผิดปกติ มีความสงสัยมากเกินไป ฉันเกลียดในสิ่งที่ทุกคนบอกว่าดี บอกว่าถูกต้องอย่างกฎ ฉันเกลียดทุกอย่างที่ห้ามไม่ให้ฉันตั้งคำถาม

    อชิยกมือขึ้นมาแตะริมฝีปากของตัวเองอย่างตกตะลึง

    เธอพูดมันออกไปแล้ว

    ขอโทษคงไม่ใช่คำตอบที่ถูกต้อง คุณไม่ได้ถามว่าฉันเกลียดอะไรเด็กสาวกระซิบแผ่ว หลุบตาลงต่ำ

    เป็นคำตอบที่ดีมากสำหรับฉันชวาลา

    อชิสบตากับคาวานอีกครั้ง เห็นสายตาที่อีกฝ่ายทอดมองมาอย่างอ่อนโยน เปี่ยมไปด้วยความเอ็นดูอย่างเหลือล้นอย่างที่เธอไม่เคยได้เห็นใครอื่นนอกเสียจากพ่อของเธอที่เคยมองมาด้วยสายตาเช่นเดียวกันนี้ ยามที่เธอเคยให้คำมั่นว่าจะโตขึ้นมาเป็นผู้ใหญ่ที่ไม่หลงลืมความอ่อนโยนตลอดไป

    กับอีกครั้งหนึ่งทว่าเลือนลางในความทรงจำ

    คุณล่ะคะอชิหลุดปากถามออกไป คุณเป็นยังไง

    ฉันไม่อยากพูดเด็กสาวขมวดคิ้วทันที คาวานจ้องมองเธอด้วยใบหน้าเรียบนิ่ง ก่อนจะขยายความซื่อๆ อายที่จะพูด เข้าใจไหม

    จะมีวันที่คุณอยากพูดไหม

    อาจจะ

    เด็กสาวพยักหน้า เธอพอใจกับคำตอบแค่นี้แหละ สำหรับคาวานเท่านี้ก็ถือว่าใช้ได้แล้ว อชิคิดอย่างนี้

    ฉันจะบอกอะไรให้ คาวานเอ่ย เรียกความสนใจของเด็กสาวเพิ่มมาอีก ความอยากรู้ไม่ใช่สิ่งที่ผิดเลยอชิ มนุษย์ควรที่จะตั้งคำถามกับสิ่งต่างๆ เพราะความไม่ยอมอยู่กับที่คือสิ่งที่ทำให้โลกเคลื่อนไปข้างหน้า

    อชิเพียงนิ่งฟังอย่างสงบ หัวใจเต้นแรง รู้สึกได้ถึงปลายประสาทที่กำลังเปิดรับ และบางอย่างที่อยู่ในหัวของเธอซึ่งกำลังวิ่งวุ่นทำงานเพื่อผูกโยงอย่างเต็มที่

    นักวิทยาศาสตร์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดคนหนึ่งของโลกเก่าจ้องมองการแกว่งของตะเกียงแขวนแล้วก็เริ่มต้นตั้งคำถามเกี่ยวกับมัน และเพราะการตั้งคำถามของเขาในครั้งนั้น แพทย์ในยุคที่ยากจะหานาฬิกาจึงสามารถวัดชีพจรของคนไข้ได้ด้วยลูกตุ้มที่เขาประดิษฐ์ขึ้นเพื่อใช้วัดชีพจร

    เธอเห็นทุกสิ่งที่เธอมีในตอนนี้ไหม เกิดจากความอยากรู้อยากเห็นของคนสมัยก่อนทั้งนั้น แค่เราต้องรู้จักใช้มันอย่างถูกที่ถูกทาง

    คาวานยกแก้วน้ำขึ้นจิบ สายตาเหลือบมองดวงตากลมโตของอชิ

    เขาคือใครกันคะ

    เด็กสาวไม่แม้กระทั่งรู้สึกตัวยามที่คำถามนั้นหลุดออกไปจากริมฝีปาก เธอรับรู้ได้เพียงหัวใจของตัวเองที่กำลังเต้นเป็นจังหวะแรง

    ชื่อกาลิเลโอ กาลิเลอิ

    คาวานตอบเสียงเรียบ เด็กสาวมีสีหน้าพิลึก

    ชื่อยาวจัง

    งั้นก็ช่างกาลิเลอิ สนแค่กาลิเลโอ

    อชิผงะเบาๆ นึกในใจว่าทำเช่นนั้นได้ด้วยหรือ? เห็นทีว่าวิธีการพูดของคาวานจะมีปัญหาจริงๆ ล่ะมั้ง

    มนุษย์เรามากปัญหาก็จริงอชิ แต่ก็เพราะว่ามากปัญหา จึงมากคำตอบ อชิ...ฉันไม่รู้ว่าเธอถูกยัดอะไรใส่หัวไปบ้างตลอดเวลาที่ผ่านมานี้ แต่เธอจะสูญเสียอิสระในการตั้งคำถามของเธอไปไม่ได้ แล้วถ้าใครพยายามจะช่วงชิงมันไปจากเธอ เราก็ควรจะช่วยกันเขี่ยมันทิ้ง

    ฉันว่ามันเป็นตลกร้ายเอามากๆ ที่ต้องเห็นคนคลุ้มคลั่งเพราะรู้สึกผิดที่อยากเห็นหอเอนปิซ่า

    คาวานพึมพัม อชิซึ่งกำลังซาบซึ้งในคำพูดของชายหนุ่มถึงกับเบิกตาโต เธอไม่ค่อยเข้าใจในประโยคท้ายๆ ที่คาวานพึมพัมออกมาหรอก เธอเคยได้อ่านเกี่ยวกับเรื่องหอเอนปิซ่าผ่านตามาบ้าง แต่มันก็ฟังดูพิลึก และบ้าบอคอแตกจริงๆ นั่นล่ะ กับการที่มีคนคุ้มคลั่งเพียงเพราะอยากเห็นอะไรบางอย่าง 

    เล่าเรื่องกาลิเลโอต่อหน่อยสิคะ

    อชิกระตุ้น เมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายเงียบหายไปนาน

    เล่ายากอยู่นะ…”

    ชายหนุ่มมีท่าทียุ่งยากใจ ไม่ใช่เพราะเขาไม่อยากเล่าให้อชิฟัง เขาอยากจะให้เธอได้รู้อะไรที่มากกว่านี้มากๆ เพียงแต่ว่าจากการให้การศึกษาของมนุษย์โลกใหม่ที่ค่อนข้างจะแตกต่างจากเมื่อก่อนเยอะ ทำให้เด็กสาวขาดพื้นฐานอยู่มาก จริงอยู่ที่อชิค่อนข้างจะรู้เยอะกว่าเด็กในวัยเดียวกัน ถึงกระนั้นเขาก็ยังรู้สึกถึงปัญหาในการอธิบายอยู่ดี

    รู้จักนักปรัชญาที่ชื่ออริสโตเติลมั้ย มนุษย์สมัยก่อน...ก่อนฉันเป็นพันปีอีกน่ะ เชื่อตามอริสโตเติลว่าโลกเป็นศูนย์กลางของจักรวาล

    แต่นั่นไม่จริง อชิแย้งขึ้น คิ้วขมวดยุ่ง

    ใช่ ที่เธอเถียงมาได้ว่ามันไม่จริงก็เพราะนักวิทยาศาสตร์ที่พยายามสรุปหาความจริงมาจนถึงรุ่นเธอนั่นแหละ ความรู้ไม่ได้ลอยขึ้นมาเฉยๆ หรอกนะ ดังนั้นมันจึงเป็นการทุเรศมากๆ ถ้าหากเธอจะดูแคลนคนสมัยก่อน เธอถูกป้อนข้อมูลมามากมาย แต่ไม่เคยสงสัยถึงที่มาที่ไปของข้อมูลนั้นเลยหรือ?”

    ฉัน…”

    อชิรู้สึก...จุก เธอถึงกับพูดอะไรไม่ออก หากแต่คาวานไม่ได้มีเจตนาตำหนิแต่อย่างใด เขาเพียงแต่ต้องการให้อชิรู้สึกตัวถึงเรื่องสำคัญบางอย่างก็เท่านั้น ด้วยเหตุนั้นสายตาที่ชายหนุ่มทอดมองเด็กสาวในยามนี้จึงมีแต่ความเอ็นดู

    ฟังต่อก่อนแล้วกันมีอยู่ช่วงหนึ่งที่กาลิเลโอเป็นอาจารย์คณิตศาสตตร์ที่มหาวิทยาลัยปิซ่า เขาทำการทดลองอยู่หลายครั้ง ครั้งที่ฉันจำได้คือเขาทดลองทิ้งวัตถุที่มีน้ำหนักต่างกันลงมาจากหอเอนปิซ่า มันตกถึงพื้นพร้อมกัน แต่เพื่อนนักวิทยาศาสตร์ดันไม่เชื่อสิ่งที่เห็นอยู่ตำตา เพราะว่ามันผิดจากตำราที่อริสโตเติลเขียนไว้

    ที่กาลิเลโอทำนี่เรื่องใหญ่ในสมัยนั้นเลยนะ สุดท้ายเขาก็โดนขับออกจากมหาลัยเพราะการทดลองต่างๆ ของเขามันไปพิสูจน์ในสิ่งที่ต่างจากความเชื่อก่อนหน้า

    โหมีเรื่องอย่างนี้ด้วยเหรอคะ

    ฟังดูแปลกหรือ? แต่ฉันว่ามันคุ้นๆ กับเรื่องของเธออยู่นะ

    อีกครั้งที่วาจาร้ายกาจของคาวานทำให้อชิเงียบไป ชายหนุ่มลอบยิ้มที่มุมปากก่อนจะเล่าต่อ

    อันนี้เด็ดสุด จำที่ฉันเพิ่งพูดไปได้มั้ยว่าอริสโตเติลบอกว่าโลกคือศูนย์กลางของจักรวาล แต่หลังจากที่กาลิเลโอสร้างกล้องโทรทรรศน์ขึ้นมาได้ เขาก็พบว่าโลกหมุนรอบตัวเองและดวงอาทิตย์เช่นเดียวกับดาวเคราะห์อื่นๆ แล้วก็พยายามบอกเรื่องนี้กับคนอื่น แต่โดนศัตรูเอาเรื่องไปฟ้องศาล สุดท้ายเขาเลยยอมเชื่อฟังศาลและอยู่ไปเงียบๆ สิบหกปี

    ...เป็นฉันคงจุกอกตาย คาวานเสริม

    เขาเป็นคนค้นพบเรื่องทั้งหมดนั้นขึ้นมาเองเลยหรือคะเด็กสาวรู้สึกทึ่ง

    กาลิเลโอก็ไม่ได้คิดขึ้นมาเองทั้งหมดหรอก บางครั้งเขาก็คิดและทดลองต่อยอดจากความคิดของนักคิดคนอื่น แต่พอดีพวกเขาไม่ดังในยุคนั้นเท่าอริสโตเติล คนเลยไม่สนใจ

    คาวานตอบพลางหัวเราะในลำคอ ก่อนที่ใบหน้าและแววตาจะกลับมาเรียบนิ่ง แล้วเริ่มต้นเล่าบทสรุปให้แก่เด็กสาว

    เงียบได้สิบหกปีเขาก็ตีพิมพ์หนังสือขึ้นมาเล่มหนึ่ง และต้องกลายเป็นนักโทษถูกคุมขังเพราะหนังสือเล่มนั้นถึงเขาจะอยู่ในสภาพของนักโทษ แต่เขายังคงพยายามเสี่ยงชีวิตเขียนหนังสืออีกเล่มขึ้นมาก่อนสิ้นลม ก่อนจะตายไปทั้งที่ยังไม่ได้รับการยอมรับ

    คาวานยกแก้วน้ำขึ้นมาจิบอีกครั้ง เขาเล่าเรื่องทั้งหมดนี้ด้วยน้ำเสียงราบเรียบเพราะชินชากับเรื่องเหล่านี้ หากแต่เด็กสาวเพิ่งเคยได้สัมผัสถึงความโหดร้ายกลับรู้สึกสะเทือนอยู่ในอก อชิได้แต่นิ่งเงียบอยู่อย่างนั้น คำพูดของคาวานล้วนแต่วนเวียนซ้ำไปมาในหัวสมอง

    กาลิเลโอเคยบอกว่า...วิทยาศาสตร์มีแต่จะรุดหน้าไปนิรันด์กาล

     คาวานเอ่ยเสียงเบา ก้อนหินก้อนเล็กๆ ในมือของเขานั้นกำลังถูกโยนลงไปที่สระน้ำภายในตัวของอชิ

    “…ฉันอยากจะรักษามันไว้

    ก้อนหินก้อนนั้นตกลงสู่ก้นสระ

    ...จารึกความปราถนานี้ลงไปในหัวใจของเด็กสาวเช่นเดียวกัน


    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×