ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    SF 2HJ [SS501]

    ลำดับตอนที่ #19 : SF 2hj : หลงรักคุณหนูเพล์บอย (Part 3)‏ By...Kim ss

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 179
      0
      20 ส.ค. 55

     

    SF 2hj : หลงรักคุณหนูเพล์บอย (Part 3)
     
     ฮยองจุนออกจากห้องหลังจากจัดการกับตัวเองตามคำสั่ง (?) ของฮยอนจุงผู้อาศัยเสร็จแล้ว ฟังดูก็อาจจะแปลกๆอยู่บ้าง แต่ช่างมันก่อนเถอะ! ก็ตอนนี้ต่อมเจริญอาหารของเขาเริ่มทำงานแล้วทั้งๆที่แต่ก่อนก็ไม่ได้สนใจมื้อเช้าเลย เพราะกว่าจะเที่ยวเสร็จส่งสาวแล้วกลับคอนโดก็ปาเข้าไปเที่ยงคืนตีหนึ่ง กว่าจะอาบน้ำเสร็จแล้วเข้านอนก็เกือบตีสอง เวลาตื่นนอนสำหรับเขาก็เลยไม่เร็วไปกว่าสิบเอ็ดโมงหรือเที่ยงวัน เรื่องอาหารเช้าเลยไม่ต้องพูดถึง ทันมื้อเที่ยงก็ดีถมไปแล้ว...
     
     ...ฮยอนจุงจ้องมองเด็กตัวขาวเจ้าของห้องแทบไม่ละสายตา ฮยองจุนอยู่ในชุดลำลองสบายๆ รูปร่างสูงๆบางๆ หน้าเนียน ผิวขาวใสไปทั้งตัว ตากลมโตแป๋วแหวว ปากบางแดงระเรื่อ ดูยังไงก็เหมาะที่จะเป็นคุณหนูมากกว่าเพล์บอย กลิ่นหอมอ่อนๆจากสบู่อาบน้ำและน้ำหอมมีระดับยังลอยมากระทบโสตของเขาทำให้เช้านี้สดชื่นมากกว่าเดิมอีกหลายเท่า...
     "มองอะไร? ไม่เคยเห็นคนน่ารักรึไง?"
     "ใช่!"
     "..."
     คำตอบรับง่ายๆของฮยอนจุงถึงกับทำให้ฮยองจุนไปไม่เป็นเพราะคาดว่าอย่างน้อยเจ้าตัวก็คงจะไว้ฟอร์มปฏิเสธบ้าง เลยได้แต่เฉไฉกลบเกลื่อน
     "เอ่อ! มีอะไรกินบ้างล่ะ?"
     "อเมริกัน เบรคฟัสต์ ธรรมดาๆ"
     "อะไรนะ?"
     ฮยองจุนได้ยินไม่ถนัด ไม่คิดว่านายเข้มจะพูดภาษาอังกฤษ ได้ยินแค่ฟัดๆ ว่าแต่จะฟัดอะไร? คงไม่ได้หน้ามืดจะฟัดเขาหรอกนะ...อย่านะ! เดี๋ยวเค้ายอมมมมม เฮ้ย!!! ฮยองจุนไม่เข้าใจตัวเองเลยว่าทำไมเพล์บอยอย่างเขาถึงไขว้เขวทุกครั้งที่อยู่ใกล้คนแปลกหน้าคนนี้
     "ก็มีไส้กรอก ไข่ดาว ขนมปังปิ้ง น้ำส้มคั้น กาแฟ..."
     "เดี๋ยวๆ นายไปเอาของพวกนี้มาจากไหน?"
     "ก็จากในตู้เก็บอาหารแห้งในครัว แล้วก็ในตู้เย็นของนายน่ะซิ อย่าบอกนะว่านายไม่รู้ว่าในคอนโดของตัวเองมีอะไรบ้าง"
     "ไม่รู้อ่ะ! ไม่เคยสนใจ ปกติคุณหญิงแม่จะให้คนมาดูแลจัดการให้ อะไรหมดก็ซื้อมาเพิ่ม แต่ส่วนใหญ่จะเน่ามากกว่าหมดเพราะชั้นไม่ได้ทำอะไรกิน"
     ฮยองจุนตอบแบบไม่ใส่ใจพร้อมกับจิบกาแฟ...อร่อยแฮะ! ไข่ดาวก็กำลังดี ไม่สุกไม่ดิบจนเกินไป ขนมปังปิ้งกับมาร์มาเลตก็อร่อย...อร่อยไปหมด ว้าว! ฮยองจุน นายโชคดีจริงๆที่มีศรีภรรยาเก่งแบบนี้ (เพ้อเจ้อแระ!)
     "ว่าแต่นายไปหัดทำอาหารพวกนี้มาจากไหน?"
     "ไม่เห็นจะยากเลย ของพื้นๆ ตอนอยู่เมืองนอกก็ต้องทำกินเอง"
     "อยู่ไหนนะ? บ้านนอก? บ้านนอกเค้ากินของพวกนี้เป็นอาหารเช้ากันเหรอ?"
     สงสัยฮยองจุนจะเที่ยวสถานบันเทิงที่อึกทึกมากไปหน่อย มักจะไม่ค่อยได้ยินประเด็นสำคัญๆอยู่เรื่อยเลย -_-
     "ก็...แหม! สมัยนี้มันก็ต้องพัฒนากันบ้าง รายการอาหารทางทีวีก็มีถมเถไป แหะๆ!"
     ฮยอนจุงลืมตัวเผลอพูดความจริงออกไปจนแทบจะพลิกสถานการณ์ไม่ทัน
     "อ๋อเหรอ? แล้ว...นายไม่กินด้วยกันรึไง?"
     "กินได้เหรอ?"
     "ฮื่อ! ก็กินซิ ใครไปว่าอะไรล่ะ!"
     ฮยอนจุงยิ้มยินดีก่อนจะลงมือจัดการกับอาหารของตัวเอง รู้สึกมีความสุขเหมือนเป็นคู่ฮันนีมูนข้าวใหม่ปลามันยังไงอย่างงั้น (เพ้อเจ้อพอกันเลยแฮะคู่นี้ *^*)
     "เออ! ชั้นยังไม่รู้เลยว่านายเป็นใคร เห็นพูดถึงบ้านนอก (เอาเข้าไปจุนนี่!) นายเพิ่งมาจากบ้านนอกรึไง?"
     "ใช่...ใช่แล้ว กำลังจะไปหาที่พักก็พอดีมาป๊ะกับรถนายซะก่อน จนตอนนี้ยังไม่มีที่อยู่เลย"
     ฮยอนจุงได้ทีเลยรีบรับสมอ้างซะเลย ไม่ต้องคิดให้ยุ่งยาก
     "ตกลงนายโชคร้ายหรือว่าชั้นซวยกันแน่นะ"
     "ก็ต้องเป็นชั้นน่ะซิ จนป่านนี้ยังไม่รู้เลยว่าคืนนี้จะนอนที่ไหน ส่วนคุณหนูอย่างนายน่ะยังไงก็คงไม่เดือดร้อนหรอก"
     ฮยอนจุงทำเสียงเศร้าสร้อยบวกแอ็คติ้งเสริมอีกนิดแค่นี้ฮยองจุนก็อดใจอ่อนไม่ได้
     "เอ่อ! งั้น...ระหว่างที่นายยังไม่หายเจ็บและยังหาที่อยู่ไม่ได้ก็อยู่ที่นี่ไปก่อนก็ได้ แต่ไม่มีห้องนอนให้นะ นายก็นอนที่โซฟาไปก็แล้วกัน แล้วก็ห้ามทำรุ่มร่ามกับชั้นนะ โอเค๊?"
     ฮยองจุนพูดไปก็อายไป นอกจากใจแตกพาผู้ชายเข้าห้องง่ายๆแล้ว ยังชวนให้ค้างอ้างแรมต่ออีก
     "นายพูดจริงๆเหรอ? ชั้นอยู่ต่อได้แน่นะ?"
     ฮยอนจุงดีใจจนเนื้อเต้น (ขนาดนั้น?)
     "ก็ใช่น่ะซิ!"
     "เพื่อเป็นการตอบแทน ชั้นจะช่วยดูแลห้อง แล้วก็...นาย"
     "บ้า! ดูแลแต่ห้องก็พอ ไม่ต้องมายุ่งกับชั้นหรอก" (รู้สึกว่าจะเป็นฟิคที่ใช้คำว่า "บ้า" เยอะมาก! จนขนาดนี้แล้วจุนนี่ยังไม่รู้ตัวเองอีกเหรอว่าควรเป็นเพล์บอยหรืออะไรดี ^\\\^)
     "แต่ชั้นทำได้หลายอย่างนะ ทั้งทำอาหาร งานบ้าน ขับรถก็ได้ อย่างน้อยตอนนายเที่ยวจนเมาชั้นก็พานายกลับบ้านได้นะ แล้วยังดูแลต่อจนถึงในห้องได้อีกด้วย"
     ฮยองจุนเริ่มคิดตามที่ฮยอนจุงปูทางไว้ อะไรๆก็ดูดีหรอก ยกเว้นประโยคสุดท้าย แต่ก่อนที่จะตกลงปลงใจก็นึกอะไรบางอย่างได้
     "เออ! แล้วรถมอเตอร์ไซด์ของนายล่ะ? จะไม่ไปเอาเหรอ? ดูเหมือนจะเป็นฮาร์เล่ย์ เดวิดสัน ด้วยนี่นา"
     "แค่กๆ!"
     ฮยอนจุงสำลักกาแฟแทบจะทันทีที่ได้ยิน ต้องเป็นฝีมือเจ้าพวกลูกน้องตัวดีแน่ๆ ให้หามอเตอร์ไซด์ก็เล่นซะรุ่นแพงเลย เรื่องเว่อร์ไม่มีใครเกิน นี่ถ้าให้หารถซักคันจะไม่หารถสายพานลำเลียงหุ้มเกราะมาให้เลยรึไงนะ?!!!
     "ไม่ใช่หรอก! มันมืดน่ะ นายคงมองไม่ชัด แค่มอเตอร์ไซด์เก่าๆเท่านั้นเอง"
     "เหรอ?" ฮยองจุนไม่อยากเชื่อว่าสายตาระดับเขาแล้วจะมองผิด "แล้วนายไม่คิดจะไปเอามารึไง?"
     "เอ่อ! ช่างมันเถอะ ถึงเอามาก็ไม่มีเงินซ่อม แล้วมันก็เก่าแล้วด้วย ซ่อมไปก็ไม่คุ้ม"
     "แล้วนายจะเอารถที่ไหนใช้ล่ะ?"
     "ตอนนี้อยู่บ้านนายก็คงยังไม่มีความจำเป็นต้องใช้ ถ้าจะไปธุระที่ไหนก็ไปรถประจำทางก็ได้"
     "ชั้นมีรถสองคันอยู่ที่คอนโด ถ้ามีธุระต้องใช้รถชั้นให้นายยืมไปใช้ได้"
     "ขอบใจนะ" ฮยอนจุงยิ่งเอ็นดูเด็กตัวขาวที่มองโลกในแง่ดีมากขึ้นไปอีก "ว่าแต่นายไว้ใจคนง่ายๆแบบนี้เสมอเลยเหรอ? นายไม่กลัวว่าชั้นจะเชิดรถหายไปเลยรึไง?"
     "ที่ผ่านมาชั้นก็ไม่เคยให้ใครยืมนะ แล้วถ้านายจะพารถชั้นหายเข้ากลีบเมฆก็เรื่องของนาย ชั้นขอให้คุณหญิงแม่ซื้อให้ใหม่ก็ได้"
     ฮยองจุนพูดอย่างเห็นเป็นเรื่องง่าย
     "แสดงว่าชั้นเป็นคนแรกที่นายให้ยืมรถ"
     "ใช่"
     "แสดงว่านายไม่รังเกียจที่ชั้นอยู่ด้วย"
     "อื้มมมม"
     "แสดงว่านายไว้ใจชั้น"
     "เปล่า! แต่ยังไม่เคยมีใครเคยขอยืมต่างหาก!!"
     "แค่กๆ!!"
     ฮยอนจุงสำลักกาแฟเป็นรอบที่สอง ในขณะที่ฮยองจุนกัดขนมปังมองด้วยแววตาสนุกที่ได้เอาคืนบ้าง ฮยอนจุงเลยรู้ตัวว่ากำลังถูกแกล้ง เขาจ้องหน้าฮยองจุนไม่วางตาด้วยสายตาที่หยาดเยิ้มวิบวับ ก่อนที่จะค่อยๆลุกขึ้นจากเก้าอี้แล้วชะโงกหน้าข้ามโต๊ะจากฝั่งที่นั่งของตัวเอง... ใบหน้าคมคายค่อยๆเคลื่อนเข้าหาดวงหน้าหวานใสปานตุ๊กตากระเบื้องเคลือบทีละนิด...ทีละนิด..ใกล้เข้าไป...ใกล้เข้าไป ตามองจ้องไปที่ดวงตากลมสวย ส่วนฮยองจุนก็ได้แต่อึ้งเลยนั่งนิ่งตะลึงอยู่ท่าไหนก็ท่านั้น ขนมปังที่กัดไปแล้วยังอยู่ในปากไม่ได้เคี้ยวส่วนที่เหลือก็ถือค้างอยู่ในมือ ทั้งๆที่ควรจะหลบแต่ฮยองจุนกลับเหมือนถูกตรึงไว้ด้วยดวงตาคู่นั้น [นายจะทำอะไรน่ะ?] ใบหน้ารูปสลักยังคงเคลื่อนเข้ามาไม่หยุด [เอาแล้ววุ้ย!] ฮยองจุนไม่กล้ามองต่อไปเลยหลับตาพริ้มรอคอยสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้น...และแล้วในที่สุด...ในที่สุด ก็...[แป่วววว!]
     "ดูซิ! ทานเลอะเทอะเป็นเด็กไปได้"
     เสียงทุ้มนุ่มที่บ่งบอกความเอ็นดูถูกส่งมาพร้อมกับมืออบอุ่นที่บรรจงเช็ดปลายจมูกของฮยองจุนที่เปื้อนแยมผิวส้มอย่างเบามือ ฮยองจุนค่อยๆลืมตาขึ้นมอง และสิ่งที่ได้เห็นเป็นสิ่งแรกก็คือใบหน้าหล่อเหลาที่โน้มลงมาอยู่ห่างจากหน้าของเขาไม่ถึงคืบ ทันทีที่ลืมตาขึ้นก็ได้สบประสานกับตาคมคู่นั้นอีกครั้ง ทั้งคู่ต่างเผลอมองกันอยู่เป็นนาน ฮยอนจุงเลื่อนมือจากปลายจมูกของคุณหนูหน้าตุ๊กตาลงมาที่ปากบางจิ้มลิ้มและค่อยๆไล้อย่างเบามือเหมือนคนไม่รู้สึกตัวราวกับถูกสะกดด้วยดวงตาสวยใสคู่นั้นเช่นกัน
     "อะ...เอ่อ! ตรงนี้ก็...เปื้อนเหรอ?"
     ฮยองจุนเป็นฝ่ายพูดขึ้นก่อนแก้ขวยเขิน หารู้ไม่ว่าปากบางๆที่ขยับขึ้นลงเวลาพูดทำให้อีกฝ่ายรู้สึกวูบวาบทุกทีที่ปากนุ่มนั้นได้สัมผัสกับมือของเขา
     "ชะ...ใช่ เปื้อนนิดหน่อย"
     "ไม่เป็นไร ชั้นชะ...เช็ดเองได้"
     แล้วฮยองจุนก็พยายามหยิบกระดาษเช็ดปากเพื่อมาจัดการความเรียบร้อยของตัวเอง แปลกจริงเชียวแค่กระดาษเช็ดปากแค่นี้ทำไมหนักเหมือนกระดาษ A4 ทั้งรีมเลย หยิบผิดหยิบถูกหยิบหล่นอยู่นั่นแหละ ฮยอนจุงจึงเอื้อมมืออีกข้างมากันไว้
     "ไม่ต้องหรอก จะเสร็จแล้ว"
     "เหรอ?" [เร็วๆซิ! ชั้นจะขาดใจตายอยู่แล้วนะ นายเป็นอะไรของนายนะ ฮยองจุน?!!!]
     "แป๊บนึงนะ" [อยากอยู่อย่างนี้นานๆจังเลย]
     ต่างคนต่างคิดกันไปคนละเรื่องเดียวกัน...
     
     ...หลังจากที่ยื้อจนถึงที่สุดแล้วฮยอนจุงก็จำต้องละมืออกมาจากปากของเด็กน้อยและถอยกลับมานั่งลงที่เก้าอี้ของตัวเองด้วยความเสียดาย...
     "นายควรจะทานอาหารเช้าทุกวันนะเพราะมันเป็นมื้อสำคัญ"
     หลังจากทานไปได้อีกซักระยะฮยอนจุงก็เริ่มทำการเลคเชอร์เพื่อให้เด็กน้อยของเขา (?) ใช้ชีวิตอย่างมีคุณภาพ
     "ก็มันตื่นไม่เคยทันซักทีนี่นา"
     "นายก็อย่าเที่ยวดึกทุกคืนซิ"
     "ได้ไง? หนุ่มโสดเพล์บอยอย่างชั้นไม่เที่ยวก็เสียชื่อแย่น่ะซิ!"
     [ฮึฮึ! เมื่อกี๊ยังเขินจนหน้าแดงอยู่เลย ตอนนี้ทำมาเป็นเพล์บอย] ฮยอนจุงอดค่อนขอดในใจไม่ได้
     "แล้วนายจะไปไหนล่ะนั่น?"
     ฮยอนจุงถามเมื่อเห็นคู่สนทนาทำท่าจะลุกออกจากโต๊ะ
     "อ่านหนังสือพิมพ์"
     "ไหน? ไม่เห็นมีซักฉบับ"
     "ก็อ่านในเน็ตไง เดี๋ยวนี้เค้าก็อ่านกันแบบนี้แหละ นายนี่เชยจริงๆ!"
     "นี่ก็เหมือนกัน นายควรจะใช้เทคโนโลยี่ให้เหมาะสมนะ อย่างเช่นใช้หาข้อมูลที่จำเป็น จะติดตามข่าวสารก็หัดอ่านหนังสือพิมพ์จริงๆซะบ้าง ไม่ใช่จ้องแต่หน้าจอคอมพิวเตอร์แล้วทำทุกอย่าง ทั้งเล่นเกมส์ คุยกับเพื่อน หรือแม้กระทั่งจะอ่านข่าวยังต้องอ่านหน้าจอเลย ระวังจะสายตาเสียนะ ยิ่งโทรศัพท์สมาร์ทโฟนด้วยแล้วยิ่งหนักเข้าไปใหญ่ ตัวหนังสือเล็กนิดเดียว" (เอ่อ! ไรเตอร์รู้สึกเหมือนจะถูกลากเข้าไปเกี่ยวด้วยยังไงไม่รู้แฮะ =_=)
     ฮยองจุนอ้าปากหวอจนแมลงวันแทบจะเข้าไปไข่ได้ทีเดียว ก็แค่จะไปอ่านหนังสือพิมพ์นิดเดียวพ่อคุณเทศนาซะกัณฑ์ใหญ่เลย ตกลงนี่เขาหนีคุณหญิงแม่มาปะเจ้าคุณพ่อหรือไงนะ...
     
     ..."ไม่อ่านแล้วก็ได้! ไปนอนดีกว่า"
     ฮยองจุนลุกขึ้นแล้วเดินเลยโต๊ะที่วางคอมพิวเตอร์เข้าไปในห้องนอนเพราะไม่อยากฟังคนบ่น ด้วยความเผลอตัวเลยลืมปิดประตูห้อง ส่วนฮยอนจุงก็เผลอใจตามเข้าไปสั่งสอนต่อ
     "จะรีบนอนไปไหน?!! นายเพิ่งจะตื่นนะ"
     "ก็มันยังง่วงอยู่นี่นา ฮ้าววววว"
     ฮยองจุนพูดไปหาวไปพร้อมกับกระโจนขึ้นเตียงแล้วม้วนตัวเข้าไปซุกอยู่ในผ้าห่มอย่างไม่อยากจะรับรู้รับฟัง ฮยอนจุงยังตามขึ้นมาบนเตียงแล้วเอนตัวลงกึ่งนั่งกึ่งนอนข้างๆม้วนฮยองจุน (?)
     "นายใช้ชีวิตแบบไม่ถูกต้องเลยนะ เที่ยวทุกคืน นอนดึก ตื่นสาย อาหารเช้าไม่ทาน ถ้าว่างก็จมอยู่กับคอมพิวเตอร์ วันๆได้ออกกำลังบ้างรึเปล่าก็ไม่รู้"
     "งื๊อออออ ไม่อยากฟังแล้ว"
     ฮยองจุนโผล่หน้าขาวๆออกมาจากผ้าห่มแล้วเอามือปิดหูทำท่าเหมือนเด็กดื้อไม่ยอมรับฟัง ฮยอนจุงอยากจะจูบแก้มใสๆนั้นนักถ้าไม่ติดว่าคุณป้าไว้ใจแล้วล่ะก็...นายไม่รอดแน่
     "อ่ะ! ยอมให้นอนได้อีกพักนึง ตื่นแล้วนายช่วยพาชั้นออกไปซื้อเสื้อผ้าหน่อยได้มั้ย?"
     ฮยอนจุงถามพลางลูบผ้าห่มบริเวณที่คิดว่าเป็นหลังของฮยองจุนไปมาด้วยความเอ็นดู
     "หึ! ไม่เอา ชั้นง่วง! นายไปเองซิ"
     "จะไปยังไงล่ะ?"
     "เอารถชั้นไปซิ กุญแจอยู่ตรงที่วางโคมไฟน่ะ"
     "ออกไปแล้วชั้นจะเข้าห้องยังไงล่ะ? ดูท่านายจะนอนยาวเลย กดกริ่งก็คงไม่ได้ยินหรอก"
     "ก็เอาคีย์การ์ดไปด้วยซิ อยู่ในลิ้นชักตู้ตรงนู้น"ฮยองจุนหลับตาพูดพร้อมกับพยักเพยิดหน้าไปทางตู้เล็กๆที่ตั้งอยู่อีกฝั่งหนึ่งของหัวเตียง ฮยนจุงเห็นแล้วอยากจะจูบปลุกเจ้าหญิงนิทรานัก ช่างไม่รู้อะไรบ้างเลยว่าท่าทางแบบนี้มันยากที่จะห้ามใจจริงๆ "อ้อ! ฮ้าวววว มีเงินรึเปล่า? กระเป๋าสตางค์วางอยู่ตรงที่วางทีวี นายไปหยิบเอาเองนะ"
     ฮยองจุนบอกออกไปแล้วก็รู้สึกภูมิใจเหมือนตัวเองเป็นป๋ายังไงก็ไม่รู้ เลยได้แต่นอนหลับตาพริ้มยิ้มกริ่ม ฮยอนจุงอดใจไม่ไหวต้องลูบผมนุ่มๆของคนขี้เซาเบาๆไปมาด้วยความเอ็นดูปนห่วงใย
     "ฮยองจุน"
     "หืมมมม"
     ฮยองจุนหลับตาขานรับเสียงทุ้มที่เรียกชื่อเขาเดาว่าอยู่ไม่ห่างจากหูของเขานัก
     "นายอย่าไว้ใจคนอื่นอย่างนี้นอกจากพี่นะ มันอันตราย รู้มั้ย?"
     "อื้มมมมม"
     "พี่เป็นห่วงมากนะ"
     "อะไรนะ?"
     ฮยองจุนได้ยินไม่ถนัดแต่ก็ยังไม่ยอมลืมตาขึ้นมาถาม
     "ไม่ได้ยิน? งั้นเดี๋ยวพี่กลับมาตอบ อ้อ! แล้วจะทำขนมให้ทาน เป็นแพนเค้กราดน้ำผึ้งแล้วกันง่ายหน่อย"
     ง่ายตรงไหน? ฮยองจุนอดคิดในใจไม่ได้ แต่พอพูดถึงขนมแล้วก็อดแลบลิ้นเลียริมฝีปากบางด้วยความอยากทานไม่ได้ ก็ของหวานกับฮยองจุนน่ะเป็นของคู่กันจนแทบจะกลายเป็นโลโก้ไปแล้ว คนๆนี้เป็นใครทำไมถึงรู้ใจเขาซะจริง ฮยอนจุงเห็นท่าทางแบบนั้นแล้วก็อดใจไม่ไหวตอนนี้ต่อให้เอาช้างมาฉุดก็คงไม่อยู่แล้ว เลยหอมแก้มใสซะฟอดใหญ่ คิดอย่างเข้าข้างตัวเองว่าแค่นี้คุณป้าคงไม่ว่าอะไรหรอก ก่อนจะรีบหยิบกุญแจรถและคีย์การ์ดแล้วออกจากห้องไปอย่างรวดเร็ว ทิ้งให้ฮยองจุนที่เมื่อครู่ยังแอ็คป๋านอนหลับตาหน้าแดงอยู่คนเดียว...
     
     **************
     ฮยอนจุงออกไปได้ไม่นานก็รีบกลับทันทีที่ได้ของที่ต้องการครบแล้วเพราะความเป็นห่วงเด็กขี้เซา หลังจากวางข้าวของที่ซื้อมาให้เป็นที่เป็นทางเรียบร้อยแล้ว เขาก็เข้าไปดูเด็กน้อยตัวขาวที่ตอนนี้ได้อยู่ในความดูแลของเขาไปโดยปริยายแล้ว และก็พบว่ายังคงนอนหลับไม่รู้นอนคู้ไม่เห็น...
     
     ...ทันทีที่เปิดประตูห้องนอนเข้าไปฮยอนจุงก็อดยิ้มอย่างเอ็นดูไม่ได้ หนอนตัวขาวยังคงนอนหลับปุ๋ยขดตัวจนกลมอยู่ในผ้าห่ม อย่างนี้จะไม่ให้เขาห่วงได้ยังไง ใสซื่อไร้เดียงสาไว้ใจคนง่ายซะขนาดนี้ ดีนะที่เพื่อนๆของฮยองจุนเป็นเพียงลูกคนมีเงินและรักที่จะเที่ยวสนุกไปวันๆเท่านั้น ไม่ใช่พวกชั่วช้าสามานย์อะไร เท่าที่เขารับหน้าที่ติดตามดูแลฮยองจุนก็ยังไม่เคยเห็นสิ่งผิดปกติในลักษณะเพื่อนสนิทคิดไม่ซื่อเลย แต่ก่อนหน้านั้นที่เขาไม่รู้ไม่เห็นเขาก็ไม่แน่ใจว่าจะมีอะไรเกิดขึ้นกับฮยองจุนมาบ้าง แต่ไม่ว่าจะเป็นอย่างไรเขาก็รับได้เพราะตอนนี้ยิ่งแน่ชัดกับใจตัวเองแล้วว่าเขารักฮยองจุนจนถอนตัวไม่ขึ้น...ฮยอนจุงปิดประตูอย่างเบามือยังพอมีเวลาตอนที่เขาลงมือทำขนม ปล่อยให้เด็กน้อยของเขานอนไปก่อนซักพัก...
     
     หลังจากทำขนมตามที่ได้หลอกล่อเจ้าของห้องไว้เสร็จแล้ว รวมทั้งเช็ดเนื้อเช็ดตัวทำความสะอาดตัวเองเป็นที่เรียบร้อย ก็ได้เวลาที่ฮยอนจุงจะเข้าไปปลุกคนขี้เซาแล้ว
     "ฮยองจุนอา ตื่นได้แล้วครับ พี่กลับมาแล้ว ทำขนมเสร็จแล้วด้วย"
     ฮยอนจุงก้มลงเรียกฮยองจุนเบาๆ จมูกโด่งคลอเคลียอยู่ที่แก้มนวลเนียน มันละมุนละไมจนคนปลุกไม่อยากจะละจมูกออกมาเลย ส่วนคนที่หลับอยู่นั้นถึงอยากจะนอนต่อก็คงจะไม่ได้แล้ว จำต้องค่อยๆหรี่ตาขึ้นทีละน้อย เพราะลมหายใจที่เป่ารดอยู่ข้างหูมันชวนให้สยิวกิ้วอย่างบอกไม่ถูกเลยต้องแกล้งถามเพื่อกลบเกลื่อนความอาย
     "กลับมาแล้วเหรอ?"
     ฮยองจุนถามไปพร้อมกับความพยายามที่จะแงะตัวเองออกจากม้วนผ้าห่มแต่จนแล้วจนรอดก็ไม่สำเร็จ สุดท้ายก็ต้องยอมแพ้ยื่นมือขาวๆออกมาให้ฮยอนจุงช่วยฉุด แต่ด้วยความที่ผ้าห่มม้วนอย่างแน่นหนาพาให้ฮยอนจุงเสียหลักล้มลงไปทับฮยองจุนแทน ทั้งสองคนต่างดิ้นขลุกขลักกันไปมา คนหนึ่งดิ้นจะออกจากวงล้อมของผ้าห่มและอ้อมกอดในขณะที่อีกคนดิ้นเพื่อที่จะฉกฉวยโอกาสกอดเด็กน้อยที่ตอนนี้เขาได้รับรู้แล้วว่านอกจากผิวจะขาวแล้ว...ยังนุ่มนิ่มอีกด้วย...0_0
     
    >>>>>>>>>> TBC

     เป็นตอนที่ใช้เวลาแต่งหลายวันเลย ไม่ค่อยมีเวลาเพราะงานยุ่งน่ะจ้ะ แต่อย่างที่บอก...อดคิดถึงคู่นี้ไม่ได้ ^^



    Love *-*} Shiny Sky Blue Star Me
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×