คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #19 : Chapter 16
Chapter 16
“แทฮยอนมีอะไรรึเปล่า ?”
หลังทานข้าวเสร็จแทฮยอนก็ลุกออกไปทันที เป็นนิสัยเดิม ๆ แบบที่ทำมาตลอด หลายคนตอนแรกก็ไม่พอใจเท่าไรที่อายุน้อยที่สุดแต่ทำตัวแบบนี้ แต่พออยู่ไปนาน ๆ คนตรงหน้านี่ก็ดูไม่มีพิษสงอะไรเลยปล่อยให้มันเลยตามเลย มินโฮเองที่พอรู้อยู่ว่าแทฮยอนนิสัยยังไงเลยไม่คิดจะพูดอะไรให้มากความ
มินโฮเดินตรงเข้ามาพบแทฮยอนที่กำลังใส่เสื้ออยู่ หลายครั้งที่เห็นแบบนี้ แต่ทุกครั้งเขาก็หยุดใจสั่นไม่ได้สักที ไม่รู้จะพูดออกมาเป็นความรู้สึกยังไงแต่พอเห็นแทฮยอนหันมามองหน้าด้วยสายตากวน ๆ ก็อดคิดไปซะสนิท
“พี่เคยชอบผม ? หรือไง ?”
มินโฮยืนนิ่งเป็นรูปปั้น จะบอกว่าเขาชอบแทฮยอนเขากล้าพูดได้เลยว่ามันไม่ใช่ แต่ถ้าจะให้พูดว่าไม่คิดอะไรเลยก็คงไม่ถูก มันโอเคมากที่ได้อยู่กับแทฮยอน และมันไม่โอเคเลยถ้าหากแทฮยอนบึ้งตึงใส่กัน นี่เป็นเพียงความรู้สึกในตอนนี้ที่เขาไม่คิดจะหาคำตอบเพิ่ม
จนกระทั่งแทฮยอนมาถาม
“ไม่รู้ดิ...” มินโฮถอนหายใจ “ไม่รู้แบบ... ไม่รู้จริง ๆ”
“ถ้าผมจะเล่าอะไรให้พี่ฟังสักอย่างพี่จะเชื่อมั้ย ?”
แทฮยอนกัดปาก เขาชั่งใจมานานแล้วว่าจะพูดมันออกไปดีหรือเปล่า แต่มันคงไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรเพราะฮันบินเองก็รู้ นับประสาอะไรกับมินโฮที่อยู่ทีมเดียวกัน เขาคงไม่คิดมากที่ได้รู้ความสามารถของเขา อาจจะดีใจด้วยซ้ำไปที่ได้มีคนช่วยทำเพลงให้เพราะขึ้น แต่แทฮยอนพูดได้เต็มปากเลยว่า ตอนนี้เขาแคร์ความรู้สึกของมินโฮมากกว่าฮันบินเสียอีก
“เรื่องอะไรเหรอ ?”
“ผมเห็นหมดทุกอย่างแหละ เห็นหมดว่าใครคิดอะไรกับผม... เห็นในที่นี้หมายถึงเห็นจริง ๆ”
“...”
“มันอาจจะดูไม่น่าเชื่อ แต่ฮันบินก็รู้..”
“เนี่ยเหรอที่ทำให้สนิทกับฮันบิน ?”
แทฮยอนจ้องมินโฮตาไม่กระพริบ มินโฮเองก็รู้สึกได้ถึงความแปลกใจปนสงสัยของคนตรงหน้า เขาไม่สนใจหรอกว่าแทฮยอนพูดมามันจะเป็นเรื่องจริงหรือเปล่า เขาเองก็พอรู้ว่าเรื่องเหนือธรรมชาติอะไรมันสามารถเกิดขึ้นได้จริง ไม่ว่าจะนอกเหนือวิทยาศาสตร์หรือนิยามได้ด้วยวิทยาศาสตร์ ตราบใดที่อีกฝ่ายกล้าพูด เขาเองก็กล้าเชื่อ
แต่ที่เขาสนใจคือทำไมแทฮยอนต้องเจาะจงพูดเรื่องนี้ให้ฮันบินฟังทั้งที่เป็นอีกทีม ใช่ อีกทีม มินโฮรู้ดีว่ามิตรภาพมันมีอยู่จริง แต่การแข่งขันมันคือการแข่งขัน เป็นไปไม่ได้ที่ความคิดอยากเอาชนะจะไม่ได้อยู่ในหัวของแต่ละคน ถ้าหากแทฮยอนเชื่อใจฮันบินมากกว่าคนที่รู้จักกันมานานอย่างเขาแล้ว มินโฮก็ไม่รู้จะอยู่ตรงนี้เพื่ออะไร
จะว่าพาลมันก็คงใช่ แต่มินโฮหวงแทฮยอนจริง ๆ
“ผมรู้ว่าพี่คิดอะไรอยู่ ถ้าจะพาลก็พาลผมนี่”
“ไม่ได้โกรธอะไร แค่ไม่เข้าใจเฉย ๆ”
“ผมก็ไม่เข้าใจว่ะ...” แทฮยอนขยี้ผมตัวเอง “ทำไมถึงบอกฮันบินไป”
“ชอบฮันบินรึไง ?”
“ไม่ได้ชอบใครทั้งนั้นแหละ ...พอใจที่จะคุยกับใครก็คุย แค่นั้น”
“แล้วพอใจจะคุยกับพี่รึเปล่า ?”
“ไม่พอใจจะเรียกมาคุยแบบนี้มั้ย ?”
ตามสไตล์แทฮยอน ตอบคำถามด้วยคำถาม แต่แค่นั้นก็ทำให้พี่ผิวเข้มยิ้มออกมา แทฮยอนก็ไม่รู้ว่าไอ้บ้าตรงหน้าเขานี่เป็นอะไร ทำไมถึงเป็นคนแปลก ๆ ได้ขนาดนี้ แต่แทฮยอนก็รู้สึกดีที่มีพี่คนนี้คนไปไหนมาไหนด้วยเสมอ ๆ แทฮยอนยิ้มมุมปากกลับไป มองตากันเหมือนรู้ว่าแค่นี้มันก็โอเคแล้วสำหรับทั้งมินโฮและแทฮยอน แค่ไม่ต้องทะเลาะกันหรือเสียความรู้สึกไปมากกว่านี้มันก็โอเคแล้ว
B.I : เจอคนนั้นไวจังเลยนะ คิคิ
“ไอ้เด็กบ้า”
แทฮยอนกัดฟันกรอดพลางสบถอย่างลืมตัว แบบนี้ใช่มั้ยที่เขาเรียกว่าโดนแซว ? แทฮยอนหัวเราะหึก่อนจะพิมพ์ข้อความตอบไปอย่างรวดเร็ว
Taehyun : ไปรู้อะไรมาอีกล่ะ ?
Taehyun : เรื่องมินโฮรึไง
ก็รู้อยู่แล้วว่าเรื่องอะไร แต่ก็ต้องถามไว้ก่อนเดี๋ยวอีกฝ่ายจะหาว่าร้อนตัวไป ไม่รู้ว่าใครปากไวไปเล่าให้เด็ก ๆ ฟัง ถ้ารู้เมื่อไรไม่รอดเงื้อมมือแทฮยอนไปแน่
B.I : ช่าย ก็รู้กันหมดแหละ
B.I : คนนี้โอเคมะ ?
Taehyun : คิดว่าตัวเองเป็นใครฮะ ?
Taehyun : ถามเป็นแม่เลย
B.I : ใจร้าย
แทฮยอนหัวเราะขึ้นก่อนจะพิมพ์ข้อความสุดท้ายไปว่า ‘จะไปซ้อมแล้วนะ’ แล้วมุ่งตรงไปยังหน้ากระจกถึงโทรศัพท์จะสั่นจนแทบจะตกโต๊ะไปแล้วก็เถอะ ไม่สนใจหรอกว่าฮันบินจะถามอะไร ไว้ค่อยเล่าตอนเจอกันดีกว่า แบบนี้เดี๋ยวมีหลักฐานให้เจ้าบ้านี่ไปเมาท์อีก
“หัวเราะอะไร คุยกับฮันบินรึไง ?”
“แล้วจะทำไม ?”
สายตากวนส่งไปให้มินโฮ ถึงเป็นประโยคนิ่ง ๆ แต่น้ำเสียงไม่ได้นิ่งอย่างที่คิด มินโฮหัวเราะขึ้นก่อนที่ทุกคนจะมาประจำพร้อมกันอยู่ในห้องซ้อม
“ช่วงนี้ยิ้มบ่อยนะแทฮยอน ไม่ค่อยทำหน้าบูด” ซึงฮุนมาถึงก็ทักแทฮยอนที่กำลังอมยิ้มอยู่
“ก็ยิ้มตลอดปะ ?”
“เห้ยจริง ๆ แต่ก่อนนี่เห็นหน้ามินโฮไม่ได้ เหมือนจะตาย” ซึงยุนสมทบ
ป้าบ!
แล้วก็ได้รับฝ่ามือพิฆาตจากแทฮยอนไปหนึ่งที
เพลงเริ่มต้นขึ้น ทุกคนประจำที่ วันนี้การซ้อมของเขาเป็นการซ้อมเต้นที่ซึงฮุนบอกว่าพัฒนาท่าใหม่แล้วเรียบร้อย ในทีมมีแทฮยอนที่พอเต้นบีบอยได้เลยเข้าทางถนัดมากกว่าใคร ซึงฮุนไม่ถนัดการออกแบบท่าเต้นที่ต้องเต้นเป็นทีม ผิดกับทางฮันบินที่ประยุกต์ท่าให้เข้ากับแต่ละคน และเชื่อมโยงมันได้ดีมาก ซึงฮุนรู้ดีและกำลังพยายามอยู่
ความเชื่อใจในทีมเอมีน้อยกว่าทีมบีอย่างเห็นได้ชัด ต่างคนต่างที่มาและต่างกันโดยสิ้นเชิง อายุที่มากกว่าทีมบีมันเลยไม่สนิทใจที่จะสร้างความสัมพันธ์กับใครไป เป็นเหมือนจุดด้อยของทีม ไม่ใช่เรื่องแปลกสำหรับคนที่เคยทำอะไรที่เรียกได้ว่า โซโล่ มาโดยตลอด ครั้นจะให้มาทำอะไรร่วมกันไม่ใช่เรื่องง่ายเลย
ท่าเต้นของครั้งนี้ยากกว่าทุก ๆ ครั้ง ทำเอาทุกคนเหนื่อยอ่อนไปหมด และแทฮยอนที่ต้องสไลด์ไปกับพื้นด้วยไหล่ก็ทำมันซ้ำ ๆ จนในที่สุดก็ถึงขีดจำกัดของร่างกายตัวเอง
“โอ๊ะ ! โอ๊ย !!”
เสียงร้องของแทฮยอนดังขึ้นเมื่อการกระแทกพื้นผิดจังหวะทำให้เขารู้สึกเหมือนไหล่จะหลุด ใช่ มันเป็นถึงขนาดนั้นแต่ถ้าเป็นแทฮยอนแล้วถึงไหล่หลุดก็ต้องทำเหมือนรู้สึกแค่แผลถลอกเล็ก ๆ เท่านั้น ไม่รู้จะต้องเข้มแข็งไปถึงเมื่อไร
ทุกอย่างอยู่ในสายตาของมินโฮ แทฮยอนไม่ใช่คนที่เข้มแข็งขนาดนั้น ถึงจะก้มหน้าแต่ก็สังเกตเห็นได้ว่าขอบตาเรียวมันรื้นไปด้วยน้ำตา ทำไมเขาจะไม่รู้ว่าเจ็บแค่ไหน แต่แทฮยอนก็เอาแต่พร่ำบอกว่า ‘ผมไม่เป็นไร’ ‘ผมไหว’ จนซึงฮุนและซึงยุนต้องเอ่ยปากบอกให้ไปพักก่อน ถึงจะยอมไปนั่งหลบมุมห้องซ้อม
ถึงทุกคนจะพยายามประคองแทฮยอน ปลอบแทฮยอนหรืออะไรก็ตาม แต่คนตัวขาวก็เอาแต่พร่ำบอกว่า ‘ไม่เป็นไร’ หรือไม่ก็ ‘พี่ไปซ้อมต่อเถอะ ซ้อมร้องเพลงก็ได้’ เหมือนรู้กันว่าถ้าแทฮยอนพูดแบบนั้น มันหมายความว่าอย่างนั้นจริง ๆ แทฮยอนไม่ใช่คนชอบประชด ทุกคนจึงรับคำของแทฮยอนแล้วไปซ้อมต่อ ผิดกับมินโฮที่ยังไม่ยอมไปไหน
“พี่ก็ด้วย ไปซ้อมเลย”
“ไปได้ไง มีเด็กขี้แยอยู่ตรงนี้”
แทฮยอนหน้าขึ้นสี ไม่รู้ว่าโกรธหรือเขินกับคำพูดของมินโฮ รู้สึกตัวอีกทีมินโฮก็มานั่งอยู่ข้าง ๆ เขาแล้ว มือขาวของแทฮยอนบีบคลึงที่ไหล่อยู่อย่างนั้น ส่วนมือของมินโฮก็โอบลงไปที่ไหล่ลาด ทำเอาแทฮยอนเขินอยู่ไม่น้อยแต่ก็ไม่ได้ห้ามปรามอะไรออกมา
ก็มันช่วยให้รู้สึกดีได้จริง ๆ
“เจ็บแล้วจะทนทำไมกัน...”
“...”
“อ่อนแอบ้างก็ได้...”
“เจ็บว่ะพี่...” มือขาวปาดน้ำตา “ผมโคตรเหนื่อยเลย...”
“...”
“มันจะเป็นแบบนี้ไปอีกนานไหม...”
“..อะไร ?”
“...เมื่อไรจะได้เดบิวต์”
ไม่ต้องพูดอะไรต่อ มินโฮก็โอบร่างบางเข้ามาไว้ในอ้อมแขน เด็กเทรนทุกคนย่อมเข้าใจความรู้สึกนี้อยู่แล้ว มันเหมือนมีความฝัน แต่ไม่รู้ว่าที่ตั้งของความฝันอยู่ที่ใด ไม่รู้ว่าจะต้องต่อสู้ไปอีกนานแค่ไหนถึงจะเรียกได้ว่าประสบความสำเร็จ ถึงจะได้เดบิวต์ แต่จะเรียกว่าประสบความสำเร็จก็ยังไม่ได้อยู่ดี มินโฮเข้าใจเรื่องนี้ดี เขาเคยเจอเรื่องเจ็บปวดพวกนี้มาแล้ว และจะไม่ทำให้มันเกิดขึ้นอีกครั้ง
“โคตรเหนื่อยเลย เหนื่อยมาก...” แทฮยอนพูดอู้อี้
“...”
“ผมอยู่กับใครไม่ได้ผมเลยต้องออกมาจากโรงเรียน เมื่อไรผมจะมีที่ยืนสักที เมื่อไรกัน...”
“...แทฮยอน” มินโฮกระซิบเบา ๆ
แทฮยอนเงยหน้าขึ้นมองคนที่เรียกชื่อ คนที่เขาไม่เคยคิดด้วยซ้ำว่าจะต้องมาร้องไห้ให้เห็น
“อยู่ตรงนี้ไง อยู่กับพี่...”
“พี่แทฮยอนเป็นไงบ้างอะ ?”
เสียงโหวกเหวกดังลั่นห้องเมื่อทีมบีเข้ามาหาแทฮยอนที่ไหล่เจ็บ ทำเอาพี่ ๆ ปวดหัวกันไปหมด แต่แทฮยอนก็ยิ้มหวานให้ทุกคนบอกไม่เป็นไร ๆ ตลอดเวลา
“พี่แทฮยอนนี่นางฟ้าตลอด โหย ชอบ” เป็นบ็อบบี้ที่อวยไม่เลิก
“จีวอนนี่ถามจริง ชอบพี่แทฮยอนรึไงวะ” ยุนฮยองปราม
“ไม่รู้ดิวะ แต่ดูดิพี่แทฮยอนโคตรน่ารักอะ ถ้าผมยาวนี่จีบ บอกเลย เสียดาย”
พอจีวอนพูดอะไรสยิว ๆ มา แทฮยอนก็ถึงกับกุมขมับก่อนจะโบกมือปัด ๆ ไล่ตัวกวนและมักเน่ไลน์ที่คอยเอาแต่ถามว่าไปเที่ยวกับมินโฮมาเป็นยังไงบ้าง ซึ่งนั่นไม่ใช่ประเด็นที่ทุกคนมาเยี่ยมเขาเลย
ฮันบินลงมานั่งยอง ๆ อยู่กับพื้นที่แทฮยอนนั่งอยู่ มองด้วยสายตากวนเล็กน้อย จนแทฮยอนต้องส่ายหัวเบา ๆ ฮันบินยิ้มมุมปากก่อนจะถามอาการซึ่งแทฮยอนเข้าใจอยู่แล้วว่ามันคือการถามพอเป็นพิธีแค่นั้น สิ่งที่ฮันบินพูดมาหลังจากนี้ต่างหากคือความจริง
“ไม่ตอบไลน์เลยนะ”
“เออ ยังไม่ได้อ่านเลย”
“รู้แล้วล่ะ” ฮันบินลุกขึ้นมานั่งข้างแทฮยอน “พี่มินโฮโอเคมะ ?”
“เหมือนนายเลย พี่มองไม่เห็น...”
“คนที่พี่มองไม่เห็นนี่ตอนหลังจะต้องสนิทกับพี่ทุกคนเลยรึไง ฮ่าๆ”
ฮันบินหัวเราะขึ้น แต่พอหันไปมองแทฮยอนที่ขมวดคิ้วเอียงคออยู่ก็เลยหยุดขำไปแล้วเกาท้ายทอยแก้เก้อ แทฮยอนเริ่มรู้สึกว่าหรือนี่จะเป็นภูมิคุ้มกันของธรรมชาติที่ปกป้องหัวใจของเขาไม่ให้เจ็บปวด หากมองเห็นความรู้สึกของทุกคนมันจะแย่ไปหรือเปล่า ยิ่งเป็นคนที่สำคัญกับชีวิตแล้ว การไม่รับรู้อะไรมันคงจะดียิ่งกว่า
“อาจจะใช่นะฮันบิน...” แทฮยอนถอนหายใจ “อย่างน้อยก็สนิทใจที่จะคบหา”
“พี่คิดมากเกินไปนะ อยากมองไม่เห็นไม่ใช่เหรอ นี่ไง คนที่พี่มองไม่เห็นก็อยู่ตรงนี้แล้ว อย่าคิดมากเลย”
แทฮยอนพยักหน้ารับ อาจจะจริงที่ฮันบินพูดก็ได้ เพราะถึงอย่างไร ธรรมชาติก็ไม่ได้ใจร้ายกับเขาเสมอไป อย่างไรธรรมชาติก็มีกลไกการทำงานทำงานของมัน ที่จะช่วยปกป้องเรา ทำให้เรารักตัวเองและสนิทใจที่จะรักคนอื่นได้ ทุกคนถูกสร้างมาเพื่ออยู่ร่วมกัน อย่างน้อยนี่อาจจะเป็นสิ่งหนึ่งที่ทำให้แทฮยอนรู้สึกว่าตัวเองไม่โชคร้าย
คนเราจะรู้สึกสบายใจเมื่อได้เชื่อ ถ้าเชื่อแล้วทำให้รู้สึกดี คงไม่แปลก ถ้าแทฮยอนจะขอเชื่อไปแบบนี้...
>> TO BE CONTINUED.
△△△△△
ฉลองผลแอดออก ได้ SCCU#81 นะคะ เย่ะ ><
#ฟิคแสง
with love : vizecoren.
ความคิดเห็น