ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Triveser Manigator Saga Del-Ahnian War

    ลำดับตอนที่ #69 : ตอนที่ 34 ปฏิบัติการณ์หลังการกลับสู่มาตุภูมิ ภารกิจแรกของกองกำลังหลังฉาก ครึ่งแรก

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 14
      0
      5 ต.ค. 64

              ณ.ระบบอีสทาล่าฟรอนเทียร์ นอกดาวแคสเซเดี่ยน-3

              "หน่วยที่ 12 รับมือการบุกของฝ่ายตรงข้ามกันไม่ได้แล้วละครับ" เจ้าหน้าที่สื่อสารบนยานของนายพลเดเรนซ่ากล่าว เช่นเดียวกับ

              "หน่วยที่ 4 6 7 11 ขอถอนกำลังกลับเพราะหุ่นได้รับความเสียหายจนนักบินได้รับบาดเจ็บกันนะคะ" เจ้าหน้าที่หญิงบนยานของนายพลพิคานัสรายงาน ซึ่งตอนนี้กองยานฝ่ายสหพันธมิตรได้พยายามต้านทานการบุกของพวกอัลแทเรี่ยน นำโดยแม่ทัพกัลดีม่ากันอยู่

              "แอร์ไพล์มมิส สถานีอวกาศของนายยังใช้การไม่ได้เลยหรือ" บัลโต้กล่าว

              แอร์ไพล์มมิสบอก "ไม่ใช่ว่าใช้การไม่ได้หรอกน่ะ ผบสส. แต่พวกมันแฮคเข้าระบบสถานีแห่งนี้ไปแล้ว โดยที่ทีมวิศวกรคอมพิวเตอร์ที่เป็นมนุษย์นั้นกำลังแก้ปัญหากันอยู่ ผมจึงเปิดใช้มันไม่ได้เลยนะ" เพราะตอนนี้สถานีอวกาศป้องกันดาวของแอร์ไพล์มมิสนั้น ถูกพวกอัลแทเรี่ยนจู่โจมด้วยการแฮคจากระยะไกลเข้าไป

              "แล้วนายไม่รีบู๊ตระบบเลยหรือ" บัลโต้ถาม

              แอร์ไพล์มมิสตอบ "เกรงว่าถ้าทำอย่างงั้น พวกมันก็แฮคเข้ามาได้ง่ายๆกันพอดีนะ ผบ.บัลโต้ ที่ผมทำได้ก็มีเพียงแค่หยุดระบบขับเคลื่อนกันไว้นี้แหละ"

              "แบบนี้ไม่ดีแล้วละ ถ้าพวกเราไม่มีการสนับสนุนจากแนวหลังแล้วละก็ พวกเราโดนพวกเดลอาเนี่ยนถล่มเข้าได้แน่ๆน่ะ" นายพลกาลิเทนบอก

              นายพลเลนอฟบอก "แต่พวกเดลอาเนี่ยนมันแฮคสถานีอวกาศไปได้ไง ทั้งๆที่ในสถานีอวกาศได้เปลี่ยนคอมพิวเตอร์ใหม่และซอฟท์แวร์ของพวกเราไปแล้วกันมิใช่หรือ"

              "เปล่าหรอก เราเปลี่ยนแค่บางส่วนเท่านั้น เพราะถ้าเปลี่ยนใหม่หมดมันต้องใช้เวลากันไม่น้อยนะสิ" บัลโต้กล่าว "แต่ตอนนี้ กองรบของวอลเลนซ์ล่ะ"

              นายพลกาลิเทนกล่าว "เกรงว่าพวกเขาเจอเรื่องยุ่งพอๆกับพวกเราแล้วละ" โดยตอนนี้วอลเลนซ์และกองรบของเขารับมือกองรบอัลแทเรี่ยนที่แห่มาอีกฝั่งหนึ่งกันอยู่

              "ดูเหมือนว่าพวกแมนิเกเตอร์จะแตกตื่นกันไม่น้อยนะครับ ท่านกัลดีม่า" ทหารอัลแทเรี่ยนที่อยู่ในยานธงของกัลดีม่ากล่าว ซึ่งแม่ทัพกัลดีม่ายิ้มขึ้นมา

              "แน่ละ พวกมันกล้าใช้ฐานทัพลอยฟ้าของฉันเป็นสถานีป้องกันดวงดาวกันแบบนี้ มีหรือที่ฉันจะไม่เอาคืนพวกมันด้วยการเปลี่ยนมาเป็นป้อมจู่โจมยานแนวหลังของพวกมันเลยน่ะ" และหันมาถาม "เจ้าหน้าที่ของเรายึดป้อมไปได้ถึงไหนละ"

              "ตอนนี้เรายึดระบบอาวุธและระบบป้องกันไว้ถึง 40-50 เปอร์เซนต์แล้ว เว้นแต่ระบบขับเคลื่อนที่มีการป้องกันหลายชั้นด้วยกันนะครับ" เจ้าหน้าที่อัลแทเรี่ยนอีกาบอก

              กัลดีม่ากล่าว "แสดงว่าพวกมันไม่ยอมให้เราควบคุมสถานีนั้นให้พุ่งลงไปในดาวเลยสิน่ะ" แล้วก็สั่งการให้ "รีบแฮคระบบขับเคลื่อนนั้นโดยเร็ว และสั่งให้กองยานทั้งหมด ถอยออกห่างออกไป เราจะให้สถานีอวกาศของพวกมันทำหน้าที่ของมันให้เราเอง"

              "ท่านแม่ทัพ มีสัญญาณคอมมานด์ไทแทนของแม่ทัพฟุโกลว์กับกองยานจำนวนมาก ตรงมาทางกองยานสมทบของพวกเราที่กำลังมาถึงกันนะครับ" เจ้าหน้าที่สื่อสารบอก

              กัลดีม่าบอก "แปลว่าฟุโกลว์จัดการกับพวกแมนิเกเตอร์หน้าโง่และพวกไทรเวเซอร์ลงไปแล้วสิน่ะ งั้น สั่งให้กองยานของฟุโกลว์มาสมทบกันได้เลย..."

              "เออ คอมมานด์ไทแทนของแม่ทัพฟุโกลว์เหมือนจะเคลื่อนตัวมาอย่างรวดเร็ว และกำลังจะมาถึงในไม่ช้ากันนะครับ" เจ้าหน้าที่รายงาน

              กัลดีม่ากล่าว "ไม่แปลกหรอก เพราะฟุโกลว์ใช้ระบบขับเคลื่อนความเร็วเหนือแสงกันแล้วนิ เตรียมรอรับการมาของฟุโกลว์กันได้...."

              "มีสัญญาณของกองยานเคลื่อนตัวด้วยความเร็วเหนือแสงตรงมาที่กองยานของพวกอัลแทเรี่ยนกันนะคะ" เอเรียเน่บอก บัลโต้กล่าว "พวกกองหนุนอีกละสิ"

              "เปล่าคะ สัญญาณของยานนั้นไม่ใช่ของพวกอัลแทเรี่ยนหรือพวกเดลอาเนี่ยนกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง แต่สัญญาณเหล่านั้น มีอยู่ในข้อมูลกองรบของฝ่ายเรากันนะคะ" เจ้าหน้าที่เลย์เยลกล่าว

              ไม่ทันไรก็.... "แว้งงงงง" คอมมานด์ไทแทนของฟุโกลว์พุ่งออกมา เพียงแต่.... "อะ...อะไรกันนิ นี้มันอะไรกันน่ะ แม่ทัพฟุโกลว์" กัลดีม่าบอก เพราะคอมมานด์ไทแทนของฟุโกลว์ถูกยานไทรแองเกิ้ลพุ่งชนเข้าใส่ พร้อมกับ "แว้งๆๆๆๆๆๆๆ" กองยานอีเนอไมนด์ ครอสตรีม แอตแลนไทซ์ โซลูนาสตี้ ควอเดี่ยม เวโนมิไนซ์ สโทรเพธห้าสี และยานอินสเปคทรัลได้โผล่มากันเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

              "ไทรแองเกิ้ลของไทรเวเซอร์นิน่า พวกเขากลับมาพร้อมกับกองยานของพวกแมนิเกเตอร์กันแล้วละ" เดเรนซ่ากล่าว

              บัลโต้บอก "มาได้ตรงจังหวะพอดีเลยสิน่ะ" ซึ่งก็ทำให้พวกกองยานสหพันธมิตรโล่งใจ และพวกแอร์ไพล์มมิสด้วย 

              "ไอ้พวกแมนิเกเตอร์ พวกมัน.....ใช้คอมมานด์ไทแทนของฉัน เป็นแบตเตอรี่สำหรับการเดินทางกลับระบบดาวของพวกมันทั้งหมด ทั้งๆที่ฉันพยายามจะใช้คอมมานด์ไทแทนไปทำลายพวกมันกันแล้วแท้ๆน่ะ" ฟุโกลว์บอก โดยย้อนกลับไปในช่วงที่มันกำลังจะบุกทำลายพวกไทรเวเซอร์และเหล่าแมนิเกเตอร์กันทั้งหมด

              "คลอเวฟ แจ้งบริคซ์และพวกให้หาที่ยึด กองยานทุกลำ เตรียมพร้อมสำหรับการเดินทางด้วยความเร็วเหนือแสง เดียวนี้เลย" เนคมาดูซัมบอก

              "เข้าใจแล้วละ" คลอเวฟกล่าวและดันคันโยกไปข้างหน้า แล้วก็.... "ซูมมมมมมมม ฟ้าวววววววว" ยานไทรแองเกิ้ลบุกชาร์จเข้าใส่คอมมานด์ไทแทนไปเต็มๆ "โครมมมม" จนหัวยานพุ่งชนใส่คอมมานด์ไทแทนของฟุโกลว์อย่างจังๆ

              "หนอยยย พวกแกโง่มากเลยสิน่ะ ที่คิดจะชนคอมมานด์ไทแทนและยิงเผาขนทำลายทิ้งกัน ทั้งๆที่พวกแกก็รู้ถึงผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นกันได้แล้วนิ" ฟุโกลว์บอก

              "ถ้าแกคิดจะระเบิดตัวเองละก็ แกก็คงจะดีดส่วนหัวหรือดีดตัวเองออกจากหัวไปนานแล้ว ไม่น่าอยู่ในนั้นไปได้กันหรอกน่ะ" คลอเวฟบอก

              ไซโคลเนียกล่าว "และเรารู้ด้วยว่า น้ำหน้าอย่างแกไม่ได้คิดจะระเบิดพลีชีพใส่เราจริงๆหรอก แค่แกหลอกให้เราตกใจและจัดการวาร์ปตัวเองไปที่ระบบดาวของเรา ตามที่แกวางแผนร่วมกันกับแม่ทัพกัลดีม่าละสิน่ะ" แล้วก็บอก "แย่หน่อย ที่แกไม่มีทางหนีไปได้หรอกน่ะ"

              "ว่ายังไงน่ะ" ฟุโกลว์กล่าวและพยายามกดปุ่มบนแผงควบคุมรอบตัว แต่หน้าจอโฮโลแกรมสีแดงก็โผล่ขึ้นมา บ่งบอกว่าระบบดีดตัวและระบบทุกอย่างใช้การไม่ได้เพราะถูกควบคุมไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

              มาสวาร์ทาร์บอก "ตอนนี้แกหนีไปไหนก็ไม่ได้แล้วด้วย แต่เราใจดีพอที่จะไม่จัดการกับแกในตอนนี้ เพราะ เราจะใช้คอมมานด์ไทแทนของแกพาพวกเรากลับระบบดาวกันนี้แหละ"

              "นี้แปลว่า พวกแกไม่ได้ถูกกวาดล้างตามที่เราได้รับรายงาน แต่พวกแกเล่นแบบนี้กันเลยสิน่ะ" กัลดีม่ากล่าวอย่างเจ็บแค้น แต่ก็ยังยิ้มเพราะยังเป็นต่ออยู่ "แต่ ถ้าแกเล่นบุกมาข้างหลัง งั้นฉันจะเป็นฝ่ายลงมือกันบ้างแล้วละ" โดยที่กัลดีม่าเตรียมกดปุ่มที่โผล่มาตรงหน้า

              "ถ้าให้เดาน่ะ นายคิดจะใช้สถานีอวกาศของพวกเราที่แกยึดไปแล้วมาใช้จัดการกับกองยานของเราที่ปกป้องดาวละสิน่ะ" มาสวาร์ทาร์บอก

              "ฉลาดดีนิ และพวกแกไม่มีทางหยุดพวกเรากันแล้วด้วยน่ะ" กัลดีม่าบอก "จบเห่กันละ ไอ้พวกแมนิเกเตอร์"

              ฟุโกลว์ร้องลั่น "อย่า อย่ากด กัลดีม่า อย่านะโว้ยยยย" แต่ "ปี้บบบบ" ช้าไปแล้ว นิ้วของกัลดีม่ากดบนปุ่มนั้นไปแล้ว

              "แกร็กๆๆๆๆๆๆๆ" ฉับพลัน ด้านหลังคอมมานด์ไทแทนของฟุโกลว์เปิดออก ซึ่งเผยป้อมมิไซล์จำนวนมากที่อยู่ข้างในออกมา และ "ฟิ้วๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ" ปล่อยห่ามิไซล์หลายร้อยลูกออกมา "ป้ากๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ" เข้าถล่มใส่กองยานและกองรบของกัลดีม่าจนวินาศสันตะโรไปกันหมด "ฟ้าวววว ตรูมมมม" มิไซล์ลูกหนึ่งพุ่งชนใส่อัสแทรมิคที่พยายามจะยิง แต่ก็ยิงไม่ทัน "ฟ้าววว ฟ้าววว ตรูมๆๆๆ" วิงค์เซปเตอร์พยายามจะบินหนีแต่ก็หนีมิไซล์ไม่พ้น "ฟ้าวววว ตรูมๆๆๆ บรึมมม" วิงค์ฮาเคนถูกมิไซล์สี่ลูกพุ่งชนจนระเบิดไป "ฟ้าวๆๆๆๆๆ ตูมๆๆๆๆๆ" มิไซล์ส่วนมากพุ่งเข้าใส่ท้ายยานรบ ป้อมปืนบนและล่างยานรบของพวกอัลแทเรี่ยน รวมถึงสะพานเดินเรือกันด้วย "นี้มันหมายความว่าไงกันน่ะ ทำไมแกถึงยิงมิไซล์มาถล่มเรากันด้วยละ ฟุโกลว์" กัลดีม่ากล่าว

              ฟุโกลว์บอก "ฉันไม่ได้เป็นคนยิง แต่นายเป็นคนกดสวิตซ์ให้ถล่มกองยานของนายเอง เพราะ....ระบบมิไซล์ของฉัน ถูกแฮคโดยยานของนายกันน่ะ"

              "เออ เกรงว่าแม่ทัพฟุโกลว์จะพูดจริงนะครับ เพราะ.....ระบบการแฮคนั้น มันถูกสลับสับเปลี่ยนจากสถานีอวกาศของพวกแมนิเกเตอร์ มาที่ป้อมมิไซล์ถล่มกองยานของคอมมานด์ไทแทนของแม่ทัพฟุโกลว์ โดยปุ่มกดเปิดระบบอาวุธของท่านที่ควรจะเปิดระบบอาวุธของสถานี มันถูกโยกไปกันแล้วละครับ" เจ้าหน้าที่กล่าว

              กัลดีม่าเห็นก็ถึงกับเดือดดาลขึ้นมา "งั้นฉันจะทำลายพวกแกก่อนแล้วกันไอ้พวกแมนิเกเตอร์" และเตรียมจะยิงปืนใหญ่

              "แย่หน่อยนะ ที่พวกแกทำเช่นนั้นไม่ได้หรอกน่ะ" คลอเวฟกล่าว "และ เราไม่รับของของพวกแกกันอีกแล้ว เอาคืนไปเลยแล้วกัน" แล้วก็ "หึมๆๆๆๆๆๆๆ ครืนนนนนนนนน" ปืนใหญ่พลังคลื่นทั้งสี่กระบอกยิงเป่าคอมมานด์ไทแทนของฟุโกลว์เข้าใส่กองยานสมทบแนวหลังของกัลดีม่าจน

              "ไอ้พวกแมนิเกเตอร์ จำเอาไว้เลยยยยย อ้ากกกกกกกก" ฟุโกลว์ร้องลั่นเป็นครั้งสุดท้ายก่อนที่ "แวบบบบบบ ตรูมมมมม" ตัวเองจะสิ้นชีพไปพร้อมกับการระเบิดของคอมมานด์ไทแทนที่เป่าทำลายกองยานอัลแทเรี่ยนที่มาสมทบ จนแหลกไปเป็นจำนวนมากด้วยกัน

              "กรอดดดดด เลวมากเลยน่ะ พวกแก" กัลดีม่าสบถ เพราะกองยานรบที่มาสมทบนั้นได้ถูกทำลายไป แถมพวกไทรเวเซอร์และเหล่าแมนิเกเตอร์เองก็แห่นำกำลังออกมากันแล้ว

              "แย่แล้วละครับ กองยานป้องกันดาวของพวกแมนิเกเตอร์เอง มันก็เคลื่อนตัวด้วยนะครับ" ทหารสื่อสารรายงาน เพราะตอนนี้กองรบของบัลโต้เคลื่อนตัวกันเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

              "พยายามต้านพวกมันไว้ให้ได้ พวกเราเป็นกองยานที่ทรงอำนาจมากที่สุดของท่านจักรพรรดิ์อาร์ควีท พวกเราไม่ยอมให้พวกแมนิเกเตอร์มาบดขยี้พวกเรากันไว้ได้หรอก" กัลดีม่าสั่งการอย่างโกรธแค้นขึ้นมา "แชดดดดด แชดดดด แชดดดด แชดดดด ปังๆๆๆๆๆๆ ฟิ้วๆๆๆๆๆๆๆๆๆ" กองรบการ์เซนท์มาร์คทรี เซนครีทมาร์คทู อาร์ซโทรน ฟาลครีด้า สกรีแทนทั้งมาร์ควันและมาร์คทูกระหน่ำจู่โจมใส่กองรบอัลแทเรี่ยนจากด้านหน้าด้วยอาวุธปืนกระสุน เลเซอร์ ลำแสงพลังงานกำลังสูง อาวุธปืนพลังพลาสม่าเข้าใส่ฝูงยานบินวิงค์เซปเตอร์ วิงค์ลิบรอน และวิงค์ฮาเคนที่ออกมาเป็นจำนวนมาก ในขณะที่พวกอิคารอไนซ์ วิงค์ฮาเคนบุกเข้าจู่โจมใส่พวกไทรเวเซอร์และเหล่ากองยานแมนิเกเตอร์จากด้านหลังอย่างหนักหน่วง

               "เราเสียยานรบหมายเลข 2 5 7 10 13 15 และ 18 จากฝีมือของพวกแมนิเกเตอร์ที่มาจากด้านหลังแล้วละครับ" เจ้าหน้าที่กล่าว โดยยานรบอัลแทเรี่ยนที่คอยระวังหลังยานของกัลดีม่านั้น "ตรุ้งๆๆๆๆๆๆๆๆๆ ป้ากๆๆๆๆๆ" โดนกองรบดิสเซเบอร์ของโดแกนและซันเบิร์ทถล่มจากระยะไกลด้วยปืนใหญ่พลังไลฟ์พลาสม่าจนพังไป 2 ลำ ถูกพวกเดฟวอชถล่มใส่จนสนามพลังหุ้มเกราะสลาย เปิดช่องให้เฮฟโวลของเดฟวอชเข้าบดขยี้จนจมยานร่วงไป 4 ลำด้วยกัน อีกลำที่มีพวกอิคารอไนซ์นั้น ถูกพวกครอสตรีมจัดการกับพวกอิคารอไนซ์จนพัง เปิดช่องให้อากาเมมนอส "แชดดดด ป้ากกก" ยิงใส่ยานจนทะลุและระเบิดไปในทันที

              "ท่านกัลดีม่า ขอกำลังมาช่วยพวกเราโดย.... ว้ากกกกกกก" กัปตันยานนกเอี้ยงร้องอย่างหวาดกลัว แต่ต้องโวยลั่นขึ้น เพราะ.... "แชดดดดด ตรูมมมม" คอสทารอนกันเนอร์ยิงลำแสงอีเนลเซี่ยมเป่าสะพานเดินเรือที่อยู่ตรงส่วนหัวจนกระจุยไป หลังจากที่กองรบคอสทารอนบ็อกเซอร์ตะบันหน้าพวกอัสแทรมิคจนกระเจิงกันแล้ว 

              "บัดซบที่สุด กองยานที่เหลือ รีบยิงขีปนาวุธถล่มดวงดาวใส่พวกมันเดียวนี้เลย" กัลดีม่าโวย แต่.... "ซูมมมมม ปั้กๆๆๆๆๆๆ ตรูมมมมม" อิชเชเตียนควิกสไตร์คใช้อิชเชเตียนทอร์เนโดว์ บดขยี้ยานรบที่บรรทุกหัวรบขีปนาวุธนิวเคลียร์เข้าใส่ด้านข้างยานทั้งสองข้าง จนมีรอยครูดลากยาวจากท้ายยานไปหัวยานจนระเบิดวินาศสันตะโร เพราะหัวรบได้รับความเสียหายจนระเบิดจากภายในเข้า "เปรี้ยงงงงงง ป้ากๆๆๆ ตรูมๆๆๆ" อิคารอไนซ์ถูกฟาร์โอเวี่ยนควิกสไตร์คยิงปริซึมธันเดอร์แคนน่อนช็อตจนระเบิดเพราะลัดวงจรไป 4 ตัวด้วยกัน อีกทั้งยานรบต่างก็ถูกพวกเนคมาดูซัมบุกมาถล่มจนพังไปสองสามลำด้วย "รีบใช้ปืนใหญ่ยิงไอ้พวกกองยานของพวกแมนิเกเตอร์โดยเร็วเลย อย่างน้อยแค่ให้พวกมันสูญเสียไปสักลำสองลำก็...." กัลดีม่าสั่ง แต่ "ตรูมมมมม" เสียงระเบิดดังมาจากข้างหลังจนทำให้กัลดีม่าสะดุดล้มจนจงอยปักพื้น จนต้องรีบดึงตัวเองขึ้นมาโดยเร็ว

              "เราต้องรีบหนีแล้วละครับ ไอ้พวกไทรเวเซอร์ มันยิงท้ายยานของเราแล้วละครับ" เจ้าหน้าที่บอก

              "ฉันไม่ยอมหรอก รีบไปเตรียมยานมา ฉันจะไปจัดการกับพวก...." กัลดีม่ากล่าว โดยที่พวกทหารอัลแทเรี่ยนทำหน้าซีดขึ้นมา "เป็นอะไรไป พวกแกกลัวนักหรือ" กัลดีม่าได้เห็นก็รู้สึกโกรธมากๆ ทหารอัลแทเรี่ยนเลยชี้มาข้างหลัง ก็เห็นทริสตรอนดีวาสเทรดของคลอเวฟยืนอยู่ตรงหน้าสะพานเดินเรือ

              "บอกตรงๆนะ ว่าตอนนี้กูรำคาญมึงแล้วน่ะ ไอ้แม่ทัพนกอวดดี" แล้วก็.... "แกร็ก" เหนี่ยวไกเพื่อยิงไฮโดรบาซูก้าเข้าใส่ "ตรุ้งงงง"

              ".....บ้าที่สุด นี้พวกแกเหนือกว่าพวกเราอย่างงั้นนะหรือ ว้ากกกกกก" กัลดีม่ากล่าวด้วยความเจ็บแค้นเมื่อกระสุนไฮโดรฟอสขนาดใหญ่พุ่งเข้า "เปรี้ยงงง ตรูมมมมม" เป่าสะพานเดินเรือตรงหัวยานธงของกัลดีม่าระเบิดกระจุยไป ซึ่งก็แรงพอจนทำให้ร่างของกัลดีม่าและทหารอัลแทเรี่ยน แหลกเป็นชิ้นๆปลิวลอยเคว้งในอวกาศกัน

              "ถ้าไม่อยากจะแหลกตามแม่ทัพของพวกนายละก็ ถอนตัวกลับไปซะ" พีวิลกล่าว

              "......ฝากไว้ก่อนเถอะ ไอ้พวกแมนิเกเตอร์" พวกอัลแทเรี่ยนที่เหลืออยู่ก็ต้องถอยกลับด้วยระบบขับเคลื่อนความเร็วเหนือแสงในทันที

               เอเรียเน่รายงาน "กองยานอัลแทเรี่ยน ถอยกลับไปแล้วละคะ" ซึ่งก็ทำให้กองยานรบของบัลโต้ที่เฝ้าดาวอยู่ร้องเฮลั่นและโล่งใจขึ้นมา

              "ไม่เป็นไรใช่มั้ยละ ผบ.บัลโต้" เนคมาดูซัมกล่าว

              บัลโต้พยักหน้า "พวกนายรีบกลับมาช่วยพวกเราได้ตรงเวลาพอดี แม้ว่าพวกมันจะเล่นงานสถานีของแอร์ไพล์มมิสเลยก็ตามน่ะ"

              "และโชคดีมากที่พวกเรารู้ ว่าพวกอัลแทเรี่ยนมันต้องเล่นพวกเราแบบนี้แน่ๆ พวกเราเลยต้องรับมือกับการจู่โจมทางไซเบอร์เอาไว้ แม้ว่าพวกนายจะโต้ตอบกลับด้วยวิธีเดียวกันกับพวกอัลแทเรี่ยนเลยก็ตามน่ะ" แอร์ไพล์มมิสบอก "ฉันกับพวกต้องขอบใจพวกนายด้วย ที่ช่วยมิให้พวกอัลแทเรี่ยนที่เป็นเจ้าของสถานีแห่งนี้ ทวงคืนและนำไปใช้ทำอะไรบ้าๆขึ้นมากันน่ะ"

              พีวิลบอก "และพวกเราเองก็ไม่ยอมติดกับที่พวกอัลแทเรี่ยนวางไว้กันง่ายๆหรอกน่ะ ถึงแม้ว่าพวกเราจะเหนือยอ่อนจากการสู้รบและการหลบหนีการไล่ล่ากันก็ตามน่ะ"

              "และไม่คิดเลยน่ะ ว่าพวกนายยังรอดมาได้เลยน่ะ แอร์ไพล์มมิส แสดงว่าการอยู่ภายใต้บัญชาของฝ่ายสหพันธ์ทำให้พวกนายมีที่คุ้มกะลาหัวละสิน่ะ" ซาบัลท์ติดต่อเข้ามา

              แอร์ไพล์มมิสบอก "โอ้ว ไม่นึกเลยว่า นายกับพวกยังลอยหน้าลอยตาเหมือนเคยเลยน่ะ แม้ฉันและพวกแคร์เรี่ยนคิดว่าพวกนายล้องจุ้นไปพร้อมกับพวกซาเบล่าในเขตอวกาศภาคกลางเสียอีกน่ะ"

              "พวกเราไม่ตายง่ายๆหรอกน่ะ แอร์ไพล์มมิส และต้องขอบใจพวกเนคเกอร์ด้วย ถึงแม้ว่าพวกนี้จะทำให้เราแพ้แบบไม่มีทางสู้เลยน่ะ" ซาเบล่าติดต่อเข้ามา

              แอร์ไพล์มมิสกล่าว "และเกรงว่าพวกนายควรจะกลับไปยังที่ๆพวกพ้องของนายอยู่กันได้แล้วละ"

              "มาสวาร์ทาร์ ดูเหมือนว่าฉันคงต้องกลับดาวกันแล้ว และขอบใจมากสำหรับความร่วมมือของนายกันน่ะ" อากาเมมนอสบอก

              มาสวาร์ทาร์กล่าว "และหวังว่าพวกนายคงไม่หาเรื่องออกนอกดาวกันอีกน่ะ"

              "ไอ้น้องคลอฟ แม้จะไม่ชอบเลยน่ะที่นายมาแย่งจมยานหลักได้ก่อนพวกเรา แต่....คราวหน้า นายคงไม่หาเรื่องมาหยุดเรากันอีกน่ะ" อิงก็อตบอก

              คลอเวฟบอก "ไม่แน่หรอกมั่ง ไอ้คุณพี่ ตราบใดที่ไอ้คุณพี่ยังทำตามคำสั่งของไอ้คุณพี่แพนแทคกันน่ะ"

              "ขอบคุณมากเลยน่ะ คุณสเตฟอร์ด คุณโฟรซ่า แล้วก็ไซโคลเนียด้วย หวังว่าทางเราต้องการความช่วยเหลือจากพวกคุณกันน่ะ" เรมิลญ่าบอก "ฉันกับพวกจะกลับไปรายงานตัวต่อคุณโซแลชและลูแนชถึงภารกิจดังกล่าว แน่นอน ว่าฉันจะรับผิดชอบเรื่องอโพลอฟและอัลเทมิตต้าให้ เพราะทั้งคู่ควรจะได้รับการสอนสั่งมากขึ้นสักหน่อยน่ะ"

              สเตฟอร์ดบอก "งั้นฝากบอกโซแลชและลูแนชด้วย ว่าพวกเราไม่เป็นไรด้วยน่ะ"

              "นายกองฮารีท หวังว่าคุณหรือนายกองคนอื่นคงจะไม่ออกนอกดาวกันอีกนะครับ" พีวิลบอก

              ฮารีทกล่าว "นั้นก็ขึ้นกับว่า พวกเดลอาเนี่ยนจะเล่นงานพวกเราหนักหนาแค่ไหนกันน่ะ ร้อยเอกแอนเดอร์สัน แล้วเจอกันใหม่น่ะ"

              "งั้นทางเราจะนำทุกๆคนกลับไปหาท่านทรอลลอฟกันแล้ว แน่นอน ว่าคลาสดีจิสคงต้องฝึกเยอะสักหน่อยแล้วละ" เบเลียร์กล่าว

              แอบไบออสบอก "และคุณก็ควรจะช่วยดูแลพวกเขาอย่าให้ออกนอกดาวนี้ หรืออย่าให้พวกเขาทำแบบคุณซะละ"

              "ฟิเกซอท เนคเกอร์ ฉันกับซาแรคจะนำตัวพวกซาบัลท์และซาเบล่าไปให้ทาลดีสรับผิดชอบเลยแล้วกัน และ อย่าให้พวกเดลอาเนี่ยนจับตัวกันอีกน่ะ" เทาฟาดิลบอก

              ฟิเกซกล่าว "และเธอคงจะรู้น่ะ ว่าป้าจะจัดการกับเธอยังไงละ"

              "เอาละ พวกนาย ว่าแต่ โดซี่กับพวกปลอดภัยดีใช่มั้ยละ" บัลโต้ติดต่อเข้ามา

              มาสวาร์ทาร์พยักหน้า และบอกไปว่า "จะว่าอะไรมั้ยครับ ถ้าพวกเราขอตัวลงไปรายงานตัวกับนายพลเพอซิอัสถึงเรื่องนี้สักหน่อยนะ"

              "และ คุณควรจะรู้ดีแล้วสินะคะ ถึงผลที่เกิดขึ้นจากการกระทำของคุณเลยน่ะ" แอนเดรียบอก

              บัลโต้พยักหน้า "งั้นนายกับโดซี่นำยานกลับเฟิร์สฮิลล์กันได้เลย ส่วนกองยานแมนิเกเตอร์จากแคสเซรอน-4 เดียวให้ฉันกับเดเรนซ่าพาไปส่งแล้วกัน"

     

              หลังจากนั้น ที่กองบัญชาการของกองรบที่ 11 ที่เฟิร์สฮิลล์

              "พวกเธอคงจะก่อเรื่องยุ่งให้กับมหาจักรวรรดิ์ไปไม่น้อยเลยสิน่ะ แม้ว่าพวกเธอส่วนหนึ่งจะได้รับการเยียวยาในระหว่างทางเลยน่ะ" เพอซิอัสกล่าวกับพวกเมนซิกส์ทีน และโดซี่ ที่แวะมารายงานตัวในห้องประชุม

              จูเดทต้าบอก "จ่าสิบโทแอนเดรีย คงจะลำบากไม่น้อยเลยสิน่ะ กับภาระที่หนักเกินตัวไปเลยน่ะ"

              "ฉันแค่ทำในสิ่งที่ควรทำกันนะคะ นายพลจูเดทต้า อีกอย่าง คุณโดซี่เองก็ช่วยสอนฉันในบางเรื่องก็เท่านั้นนะคะ" แอนเดรียกล่าว

              โดซี่บอก "เจ้าหน้าที่แอนเดรียปฏิบัติภารกิจตามที่ฉันสั่งไว้ แม้ว่านั้นจะทำให้เธอต้องเสี่ยงอันตรายกันมากเกินไปหน่อยก็ตาม เธอก็ทำหน้าที่นี้ได้ดีมากเลยนะคะ"

              "ว่าแต่ คุณมีข้อข้องใจในรายงานของทางเราที่ให้ดูกันหรือเปล่าละครับ" พีวิลกล่าว

              เพอซิอัสพิจารณารายงานการปฏิบัติการณ์ที่พวกพีวิลทำส่งมาให้ "พวกเราและผบสส.บาโธโรมิวคิดถูกแล้วที่ส่งพวกเธอไป โดยให้พวกลูกชายของจนท.มาร์ตินถูกจับตัวไปพร้อมกับผู้ลี้ภัยด้วย ซึ่งการไปเขตอวกาศของพวกเดลอาเนี่ยนครั้งที่สองของพวกเธอนั้น ช่วยทำให้เรารู้เรื่องที่คาดไม่ถึงของพวกเดลอาเนี่ยนกันด้วยน่ะ"

              "ตั้งแต่แผนการลอบสังหารด้วยการแทนที่บุคลากรทางทหารและทางการเมืองก็ดี แผนสร้างกองทหารไฮบริดจ์ที่แอบแฝงการทำลายชาติพันธุ์ดั่งเดิมก็ดี เรื่องการจับกุมชนเผ่าจากดาวที่ถูกยึดครองไปเป็นแรงงานก็ดี รวมไปถึง การมีตัวตนของสุดยอดอาวุธของพวกเดลอาเนี่ยนที่เคยใช้กวาดล้างพวกออร์เลี่ยนก็ดีนั้น ถึงแม้ว่าฉันอาจจะคิดว่านี้เป็นเรื่องไม่มีมูล เรื่องเล่าลือหรือเรื่องแต่งกันก็ตาม แต่จากการปฏิบัติการณ์ดังกล่าวของพวกเธอและกองกำลังแบ็คไซด์ในคราวนี้ ฉันคงต้องเชื่อพวกเธอกันเสียแล้วน่ะ" จูเดทต้าบอก

              เพอซิอัสบอก "รวมไปถึงเรื่องที่ริดโอบุลท์โผล่มาสั่งซื้อสัตว์ประหลาดอวกาศ ที่กลุ่มบริษัทในเดลอาเนี่ยนลักลอบจับมาค้าขาย เพื่อนำมาใช้สร้างความเดือดร้อน รวมไปถึงการติดต่อให้พวกแดคน็อกซ์ส่งคนดำเนินตามแผนการมือสังหารแทนที่นั้น แสดงว่า พวกริดโอรู้ว่าริดโอบิทหนีเข้าประตูมิติมายังเขตอวกาศของเดลอาเนี่ยนแล้ว" แล้วก็ดื่มกาแฟไปแก้วหนึ่งก่อนจะบอกว่า "แล้วพวกเธอมีตามล่าริดโอบิทกันหรือเปล่าละ"

              "ที่ถูกคือ พวกเราแค่ต้องรีบไปช่วยพวกรุ่นพี่กันนะครับ ท่านนายพล เพราะถ้าเราเสียเวลากับเรื่องที่พาเราออกนอกเส้นทางขึ้นมา เกรงว่าพวกรุ่นพี่คนใดคนหนึ่งหรือพวกแมนิเกเตอร์กลุ่มใดกลุ่มหนึ่งคงไม่รอดแน่นอนละครับ" พีวิลบอก

              จูเดทต้ากล่าว "นั้นคงเป็นเหตุผลที่พลัสเชอริทต้องปลอมแปลงคำสั่งให้พวกนักล่าเงินรางวัลที่ถูกว่าจ้างให้ตามหาริดโอบิท มาเป็นไล่ล่าเอาค่าหัวกันสิน่ะ" และหันมาถาม "คิดว่าราชทายาทเดลวูลรู้เรื่องนี้ด้วยหรือเปล่าละ"

              "เดลวูลต้องรู้แน่นอน เพราะอิทธิพลของเขาสามารถเข้าถึงและติดต่อสั่งการทุกกลุ่มในทุกชนเผ่าพันธมิตรของพวกเดลอาเนี่ยนนั้น เขาจึงติดต่อกับกลุ่มนอกกฎหมายอย่างพวกนักล่าเงินรางวัลและพวกนักฆ่ากันด้วยนะครับ" พลัสเชอริทบอก "เพียงแต่ เดลวูลไม่มีอำนาจสั่งการคนระดับจักรพรรดิ์หรือจักรพรรดินีเหมือนบูเรนนอฟก็เท่านั้นเอง ซึ่งผมมั่นใจว่า เดลวูลคงเอาด้วยกับเรื่องนี้แน่นอนนะครับ"

              คลอเวฟเสริม "แน่ละ ราชทายาทอันดับหนึ่งนั้น คงจะหลอกใช้ไอ้พวกริดโอให้บันทอนพวกเราเพื่อเปิดทางให้พวกมันบุกเข้าครอบครองระบบดาวของเราได้ง่ายขึ้น ดังนั้นเรื่องที่มันจะต้องโกหกพวกริดโอเรื่องริดโอบิทเอง มันก็ต้องทำแน่นอน"

              "แล้วท่านนายพล มีความเห็นกับเรื่องนี้ยังไงละครับ" เนคมาดูซัมบอก

              เพอซิอัสบอก "ทุกเรื่องที่อยู่ในรายงานของพวกเธอนั้น พวกเราไม่ยอมปล่อยผ่านหรือมองข้ามกันไปได้หรอกน่ะ ยิ่งเป็นเรื่องสุดยอดอาวุธของพวกเดลอาเนี่ยนกันด้วย ถ้าพวกนั้นกล้าใช้อาวุธเพื่อกวาดล้างพวกชาวดาวฤกษ์ให้ราบคาบได้ แปลว่าพวกเขามั่นใจในแสนยานุภาพของอาวุธนี้ไปได้แน่นอนน่ะ"

              "เพียงแต่ ทำไมพวกนั้นถึงไม่ใช้อาวุธนั้นไปเลย หลังจากที่กวาดล้างชาวออร์เลี่ยนไปพร้อมกับดาวบ้านเกิดกันเลยน่ะ" จูเดทต้าบอก

              มาสวาร์ทาร์กล่าว "ผมคิดว่า ในระหว่างการรุกรานพวกออร์เลี่ยนนั้น พวกเขาคงจะสร้างความเสียหายให้กับอาวุธลับสุดยอดของเดลอาเนี่ยนนี้ และคงจะเสียหายหนักมาก ชนิดที่ต้องใช้เวลาและวัตถุดิบในการซ่อมแซมกันเป็นทศวรรษหรือศตวรรษเลยก็ได้นะครับ เพราะถ้าอาวุธนั้นไม่พังเสียหายจริง สมาพันธ์อวกาศ กลุ่มชาวดาวฤกษ์ และกลุ่มชนเผ่าทั้ง 24 เผ่า แม้กระทั่งระบบสุริยะของพวกเราและระบบดาวแรซัลก้าคงวอดวายไปนานแสนนานแล้วละครับ"

              "และสุดยอดอาวุธลับนั้น ถ้ามันทรงพลานุภาพชนิดที่กวาดล้างระบบดาวหรือดาวหนึ่งดวงให้สิ้นสูญไปได้ มันก็มีค่ามากพอที่จะทำให้ชนเผ่าพันธมิตรต้องก่อสงครามกับพวกเดลอาเนี่ยนเพื่อช่วงชิงมันมา จนเกิดความแตกแยกภายในกันขึ้น พวกเดลอาเนี่ยนคงต้องปิดความลับเรื่องสุดยอดอาวุธลับเอาไว้ เพื่อมิให้พวกเดลอาเนี่ยนสูญเสียกำลังรบจากเผ่าอื่นๆไปในความขัดแย้งนี้เลยสิน่ะ" เพอซิอัสบอก

              จูเดทต้ากล่าว "แต่โชคไม่ดี ที่พวกเธออยู่ในช่วงปฏิบัติการณ์ช่วยเหลือเหล่าแมนิเกเตอร์ที่ถูกจับ หรือหลุดเข้าไปในเขตอวกาศเดลอาเนี่ยน จึงทำให้พวกเธอไม่รู้ที่ตั้งของสุดยอดอาวุธลับกันไว้ เลยทำให้เรื่องนี้ไม่รู้ว่ามันเป็นเรื่องจริงหรือเล่าลือกันเลยน่ะ"

              "ผมคิดว่า ถ้าสุดยอดอาวุธนั้นอยู่ในความครอบครองของพวกเดลอาเนี่ยนมาหลายรุ่น และยังคงอยู่มาตั้งแต่ช่วงที่พวกนั้นใช้ทำลายชาวออร์เลี่ยนไปจนถึงบัดนี้แล้ว อาวุธนั้นก็คงจะอยู่ในเขตปกครองของพวกเดลอาเนี่ยนกันแน่ๆละครับ" เนคมาดูซัมบอก

              เพอซิอัสกล่าว "ฉันก็คิดเช่นนั้นน่ะ เพราะถ้าพวกเดลอาเนี่ยนจะเก็บสุดยอดอาวุธเอาไว้ ก็ต้องเก็บไว้ใกล้ตัวมากที่สุด ซึ่งก็คือ พวกนั้นมีสุดยอดอาวุธอยู่ในเขตดาวนครหลวงอันเป็นเขตอวกาศศูนย์กลางการปกครองของพวกเดลอาเนี่ยน หรือไม่ก็ อยู่ในดาวที่เป็นนครหลวงของมหาจักรวรรดิ์กันแน่นอน เพราะพื้นที่ดังกล่าวเป็นโซนอันตรายสำหรับพวกเธอและพวกเรา เนื่องจากว่าพวกเดลอาเนี่ยนยังมีกองยานปกป้องมหาจักรวรรดิ์อยู่หลายลำด้วยกันน่ะ"

              "ซึ่งพวกเราส่วนมากคงไม่เสี่ยงบุกถึงเขตนครหลวงของพวกเดลอาเนี่ยนกันแน่ละครับ" มาสวาร์ทาร์บอก

              พีวิลกล่าว "และยิ่งพวกเราสร้างความปั่นป่วนให้พวกเดลอาเนี่ยนกันด้วยแล้ว พวกเดลอาเนี่ยนและพันธมิตรคงไม่ปล่อยให้เราลอยนวลกันแน่ๆละครับ"

              "ดังนั้น ทางเราจึงต้องสั่งให้พวกเธออยู่ที่เฟิร์สฮิลล์ตลอด 3 เดือนด้วยกัน โดยที่พวกเธอไม่สามารถออกปฏิบัติการณ์นอกเขตเฟิร์สฮิลล์กันเลยน่ะ" เพอซิอัสกล่าว

              จูเดทต้าบอก "ถึงแม้ว่าตลอด 3 สัปดาห์ที่พวกเธอไม่อยู่ที่ดาวดวงนี้จะเกิดเรื่องกันมากมายเลยก็ตาม กองทัพของทางเราและหน่วยต่อสู้กลุ่มต่างๆในดาวดวงนี้ก็ทำหน้าที่แทนพวกเธอกันอยู่แล้วละ"

              "ที่ว่ามานิ รวมถึงพวกเราด้วยหรือเปล่าละคะ" โดซี่ถาม

              เพอซิอัสบอก "เกรงว่ากองกำลังหลังฉากของคุณ ที่มีหน่วยรบวิหครุ่นสองและหน่วยใหม่ คงจะต้องโดนหางเลขตามกฎระเบียบที่พวกคุณและผบสส.บาโธโรมิวรู้สาแก่ใจดีแล้วนะ หัวหน้าโดโรเซีย"

              "คิดซะว่า นี้เป็นการพักผ่อนและการบำบัดร่างกายของพวกเธอบางคนที่ต้องเจอเรื่องแย่ๆ ก่อนที่จะได้รับความช่วยเหลือจากพวกแมนิเกเตอร์ที่ล่วงหน้าไปก่อนกันน่ะ" จูเดทต้ากล่าว เนคมาดูซัมและพวกเมนซิกส์ทีนพยักหน้า

              เพอซิอัสกล่าว "แล้วก็ เรามีเรื่องจะบอกกับพวกเธอสักหน่อย ในช่วงที่ พวกเธอไม่ได้อยู่ที่ดาวดวงนี้กันน่ะ"


    TriVeser Manigator Saga:The Del-Arnian War
    ตอนที่ 34 ปฏิบัติการณ์หลังการกลับสู่มาตุภูมิ ภารกิจแรกของกองกำลังหลังฉาก


              สามเดือนต่อมา ที่เฟิร์สฮิลล์ ดาวแคสเซรอน-4

              "อรุณสวัสดิ์นะ ทุกๆคน หาวววววว" ไซโคลเนียเดินลงบันไดมาในสภาพงัวเงีย โดยเห็นทุกคนนั่งอยู่บนโซฟาที่ชั้นล่างและกินข้าวกันแล้ว

              สเปียริทบอก "ยังสายเหมือนเดิมเลยน่ะ ทั้งๆที่แผลบนหัวของเธอหายดีแล้วนิ"

              "ใช่ แค่หลับยาวไปหน่อยก็เท่านั้นเองน่ะ" ไซโคลเนียกล่าว แล้วก็นั่งโซฟาเพื่อกินข้าวเช้า

              เจเนลบอก "พอกินเสร็จคงจะไม่นอนตำแหน่งเดียวกับที่กริมเบอรี่นอนเลยละสิ"

              "อีกแล้วน่า เจเนล หยุดแซวฉันแบบนี้จะได้มั้ยละ" ไซโคลเนียบ่นแล้วก็กินข้าวต่อ

              โฟรซ่าบอก "คงยากมั่ง หากเธอทำตัวแบบนี้ต่อ เกรงว่าเธออาจจะบินไม่ขึ้นไปเลยก็ได้น่ะ"

              "แน่ละ ไขมันส่วนเกินบนท้องอาจจะทำให้ฟริตซีร่าบินเร็วกลายเป็นนกตัวอ้วนๆเลยก็ได้น่ะ" เจเนลแซว สเตฟอร์ดกระแอ่มด้วยความโมโหขึ้นมา

              พีวิลบอก "อย่างน้อยพวกเราก็โชคดีมากที่พวกบรอนเซอรูทและพวกบาร์ทอยู่ดูแลเมืองนี้ และช่วยปกป้องความสงบสุขในช่วงที่พวกเราไม่ได้อยู่ที่ดาวดวงนี้เลยละ"

              "ใช่ และกูก็ต้องไปซื้อเหล้ามาอีก 3 โหลจากการที่ไอ้แรมเบจมันขอกุญแจจากโพโบโวโล่มาเอาเหล้าไปขาย เพื่อเอาเงินไปซื้อเหล้านารีแดงมา ซึ่งมันจะยุ่งยากทำไม ในเมื่อผบ.บัลโต้จ่ายค่าตอบแทนในการปฏิบัติการณ์เหมือนกับพวกบรอนเซอรูทกันแล้วน่ะ" คลอเวฟบอกอย่างโมโห

              มาสวาร์ทาร์กล่าว "นายลืมไปแล้วหรือ ว่าผบ.บัลโต้ถูกคาดโทษเรื่องการส่งพวกเฟรดที่เป็นพลเรือนเข้าไปทำงานในยานรบ และโดนลงโทษเรื่องที่เขาส่งพวกเฟรดไปพร้อมกับผู้ลี้ภัยและถูกพวกเดลอาเนี่ยนจับตัวไปกันน่ะ"

              "แต่เรื่องนี้ ไม่น่าจะเป็นเหตุผลให้เบื้องบนสั่งลงโทษให้ผบ.บัลโต้ต้องทำงานภายใต้การจับตามองของสารวัตรทหารและต้องรายงานผลการปฏิบัติการณ์ทุกสัปดาห์กันเลยนิคะ" ลิเนียร์ตี้กล่าว

              แอนเดรียบอก "ผบ.บัลโต้ทำไปเพื่อให้คุณแดน คุณทันกุนและหมอเบ็ตตี้วางมือจากการปฏิบัติการณ์เพื่อให้พวกเขาไปพักฟื้นรักษาตัวกันเองนิคะ"

              "ใช่ ถึงพวกเราจะคิดเช่นนั้น แต่คนในกองทัพไม่ว่าจะมาจากโลกหรือแรซัลก้า ย่อมคิดว่าผบ.บัลโต้วางแผนเลือกสมาชิกที่เป็นญาติของจนท.ปฏิบัติการณ์เข้ามาแทนที่ในตำแหน่งโดยไม่ผ่านการทดสอบหรือการคัดเลือกจากกองทัพ โดยที่พวกคุณโดซี่และพวกเรา ซึ่งเป็นกองทหารภายใต้การบังคับบัญชาของผบ.บัลโต้มีส่วนในเรื่องนี้กันไปด้วยนะสิ" มาสวาร์ทาร์กล่าว "นั้นไม่แปลกใจหรอก ที่นายพลเพอซิอัสและนายพลจูเดทต้าสั่งพักงานพวกเรา รวมถึงพวกคุณโดซี่ไม่ให้ออกปฏิบัติการณ์ ซึ่งพวกเราทั้งหมดน่าจะโดนเยอะมากกว่านี้ ต่อให้เราสมรู้ร่วมคิดกันหรือไม่ก็ตามน่ะ"

              ฟิเกซกล่าว "ถ้าไม่เพราะว่าพวกเราถูกพวกเดลอาเนี่ยนจับตัวไปพร้อมกับพวกเฟรด และพวกนายก็เข้ามาช่วยพวกเราจนรอดมาได้ ก็เท่ากับว่าเรามีเหตุผลให้เบื้องบนลดหย่อนผ่อนโทษได้สิน่ะ"

              "แต่มันน่าหงุดหงิดตรงที่ว่า....ผู้ต้องสงสัยคนหนึ่งรอดตัวไปได้กันนะสิ" แอบไบออสกล่าว เนคมาดูซัมพยักหน้า โดยนึกถึงเรื่องในห้องประชุมเมื่อ 3 เดือนก่อน

              เพอซิอัสกล่าว "เรามีเรื่องที่จะต้องบอกกับพวกเธอสักหน่อย ในช่วงที่พวกเธอไม่ได้อยู่ที่ดาวดวงนี้กันน่ะ"

              "ว่ามาเลยครับ ท่านนายพล พวกเราอยากรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกันน่ะ" เนคมาดูซัมกล่าว

              เพอซิอัสบอก "พวกเธอยังจำกูมิชได้มั้ยละ"

              "หมายถึงนายทหารในกองรบของท่าน ซึ่งได้เห็นข้อมูลรายชื่อเกณฑ์เข้าเป็นสมาชิกในกองกำลังแบ็คไซด์คอมแบทฟอส และเอาไปแจ้งให้นายทหารรับทราบ จนพวกริดโอส่งคนไปเก็บพลทหารที่อยู่ในรายชื่อ 4-5 นายจนเสียชีวิตอย่างงั้นละสิครับ" มาสวาร์ทาร์กล่าว เพราะเขาทราบเรื่องจากพีวิลและพวกมาแล้ว จูเดทต้าพยักหน้า

              สเตฟอร์ดถาม "แล้วกูมิชก็สารภาพว่าเขาขายรายชื่อให้นายพลวอลเลนซ์ไป แล้วตอนนี้ผลออกมาเป็นเช่นไรละครับ"

              "เป็นอย่างที่เราคาดไว้ กูมิซ ต้องโทษฐานกล่าวหาใส่ความนายทหารระดับสูงโดยไม่มีหลักฐานชัดเจนกันนะสิ" จูเดทต้าบอก

              โฟรซ่ากล่าว "เดียวก่อนนะคะ ที่คุณบอกว่า เป็นอย่างที่คาดนิ คงไม่ได้หมายความว่า ตัวคนถูกกล่าวหานั้น...."

              "ใช่ นายพลวอลเลนซ์บอกกับทุกคนในที่ประชุม ว่าเขาไม่รู้เรื่องที่กูมิซส่งรายชื่อไปให้ และไม่ได้รู้จักกับกูมิซกันแต่แรกนะสิ" เพอซิอัสบอก "ซึ่งถ้าเป็นนายทหารปกติจะคิดว่า กูมิซหาเรื่องกลั่นแกล้งวอลเลนซ์เลยทำแบบนี้ แน่นอน ว่าในฐานะที่ฉันกับจูเดทต้าซึ่งเป็นผู้บังคับบัญชาเองก็ต้องคิดตามด้วย เพราะ หลักฐานที่เป็นมือถือของกูมิซ มันเป็นหลักฐานที่ยังไม่หนาแน่นพอที่จะยืนยันว่าวอลเลนซ์เป็นคนรับการติดต่อจากกูมิช และเป็นคนสั่งให้กูมิชกระทำการดังกล่าวนะสิ"

              โฟรซ่าบอก "ส่วนหนึ่งเพราะว่า มือถือนั้น แม้จะเป็นของนายพลวอลเลนซ์จริง แต่อาจจะมีใครก็ได้ที่เลียนเสียงเป็นท่านนายพล มาหลอกกูมิชให้ทำตามคำสั่งเลยสิคะ"

              "ถูกแล้วละ พันโทแลงค์รูท อีกทั้งมือถือเอง ก็เป็นของที่ทุกๆคนสามารถใช้ได้ รวมถึงเป็นของที่สามารถสูญหายหรือถูกขโมยได้เช่นกัน ซึ่งวอลเลนซ์ก็ใช้ตรงนี้มาอ้าง ว่ามีคนแอบใช้มือถือของเขาไปทำเรื่องเสียหายแบบนั้นน่ะ" จูเดทต้าบอก

              เจเนลบอก "แบบนั้นก็แย่แล้วละ ถ้านายพลวอลเลนซ์อ้างไม่รู้เรื่องแบบนี้ ก็เท่ากับว่าเขาเล่นงานพวกนายพลได้เลยละสิ"

              "ยังดีหน่อยหนึ่งน่ะ ร้อยเอกแอสตัน ที่ทางเรา ก็อ้างว่าพวกเราดูแลลูกน้องไม่ดีจนมีบางส่วนเกิดความไม่พอใจและต้องการจะกลับเข้าสู่แนวหน้า เลยก่อเรื่องนี้ขึ้นมาเพื่อบีบให้เราลงโทษส่งเขาออกไปจากกอง แต่เรื่องมันบานปลายถึงขั้นที่มีทหารถูกฆ่าตาย ซึ่งเขายอมรับผิดในข้อหาตรงนี้ไว้" เพอซิอัสกล่าว "แน่นอน ว่าวอลเลนซ์ไม่ถือสาเอาเรื่องเอาความกับทางเรา เพราะมันเป็นปัญหาที่เกิดขึ้นในกองกำลังของเราเอง นายพลวอลเลนซ์จึงไม่มีสิทธิ์มายุ่ง และขอร้องให้เราตัดสินโทษกูมิชตามเห็นสมควร ซึ่งจอมพลแฮซกริฟเองก็เห็นด้วย เพราะท่านจอมพล ไม่อยากให้เรื่องวุ่นวายแค่เล็กน้อยบานปลายใหญ่โตจนก่อปัญหาภายใน ในเวลาที่พวกเดลอาเนี่ยนยังไม่เลิกราในการรุกรานระบบดาวของเราเสียทีกันน่ะ"

               จูเดทต้าบอก "ดังนั้น เราจำต้องปลดกูมิชออกจากกองรบที่ 11 และโยกย้ายเขา ไปเป็นลูกทีมของนาธาเอลในหน่วยที่ 67 ของลากูด้ากันแล้ว ส่วนพวกเราเองก็โดนตำหนิจากจอมพลแฮซกริฟ รวมถึงนายพลวอลเลนซ์ด้วยน่ะ ดังนั้น เรื่องที่พวกเธอกับกองกำลังหลังฉากถูกลงโทษสามเดือนนั้น ก็คือเหตุผลดังกล่าวนี้แหละ"

              "ส่วนหนึ่ง เพื่อให้แน่ใจว่า พวกเราที่ตอนนี้อยู่ใต้การบังคับบัญชาของพวกคุณ แล้วก็พวกคุณโดซี่ที่ทำงานภายใต้คำสั่งของผบ.บัลโต้ต้องได้รับการลงโทษ เพราะเรื่องนี้เกี่ยวข้องกับรายชื่อผู้เข้ามาเป็นเจ้าหน้าที่สำรองของกองกำลังหลังฉากละสิครับ" พีวิลบอก

              เพอซิอัสตอบ "ใช่ เพราะเรื่องรายชื่อนี้ แม้จะทำให้ผบ.บัลโต้ต้องถูกสั่งลงโทษในสถานกลาง เนื่องจากว่าเขาใช้อำนาจในการคัดเลือกเจ้าหน้าที่ในรายชื่อโดยเอาพลเรือนเข้าไปรวมด้วย ซึ่งนั้นเป็นการกระทำผิดกฎเกณฑ์ ในเรื่องที่เอาคนที่ไม่ได้รับการฝึกเข้าอยู่ในกองกำลังปฏิบัติการณ์ ที่ต้องการความสามารถในการต่อสู้ที่ดีเด่นและผ่านการทดสอบมา แม้ว่าผบ.บัลโต้ทำไปเพื่อให้เจ้าหน้าที่ชุดเดิมที่มีปัญหาทางร่างกายนั้นต้องยุติการปฏิบัติการณ์ แต่เขาได้ทำให้พวกเฟรดต้องมาเสี่ยงอันตรายและเกือบตายมาหลายครั้งนั้น ย่อมหมายถึงเขาต้องโดนลงโทษหนักมากแน่นอน" แล้วก็กล่าว "เพียงแต่....โชคยังดีมาก ที่จนท.แดนและจนท.ทันกุนถอนตัว เพราะได้รับบาดเจ็บสาหัสในระหว่างการรบ หมอลาเกรนัวร์วางมือเพราะปัญหาสุขภาพตาที่ย้ำแย่เกิดขึ้นฉับพลัน จนมีเหตุให้หน่วยรบวิหคต้องยุบลง และยิ่งมีสถานการณ์ที่พวกเดลอาเนี่ยนรุมล้อม จนพวกเฟรดและพวกน็อกกี้ต้องสวมเกราะทางทหารออกไปสู้กับพวกเดลอาเนี่ยนเพื่อปกป้องกันตัว โดยที่พวกเขายอมรับเองตามรายงาน แม้ว่าจะมีจนท.แอนเดรียอยู่เป็นหัวหน้า ซึ่งได้รับการแต่งตั้งจากหัวหน้าโดโรเซียในสถานการณ์จำเป็น แม้ว่าจนท.แอนเดรียไม่มีประสบการณ์ในเรื่องเป็นหัวหน้าสั่งการ และเป็นแค่อาจารย์สอนพวกไทรเมร่าและสมาชิกทีมปฏิบัติการณ์เมนซิกส์ทีนกันก็ตาม ที่ว่ามานั้น คือเหตุผลที่ทำให้ผบ.บัลโต้ยังไม่ถูกลงโทษสถานหนักไปได้หรอกน่ะ"

              "ส่วนหนึ่งเพราะว่า พวกคุณแดนยืนยันในความสามารถของพวกเฟรดในช่วงที่ฉันคุมพวกเขาเลยสิคะ" แอนเดรียบอก จูเดทต้าพยักหน้า

              ไซโคลเนียบอก "แต่คุณแดนถูกลอบสังหารจนเกือบตายไปแล้วมิใช่หรือ ทำไมคุณถึงไม่รายงานเรื่องนั้นไปเลยละคะ"

              "เราไม่อยากให้หนอนบ่อนไส้รู้ตัวว่ามือสังหารที่ส่งไปจัดการกับแดน มาร์ตินนั้นได้ทำงานพลาด จนถึงแก่ความตายขึ้นมานะสิ แม้ว่านั้นจะทำให้นายทหารในกองทัพนั้นรู้เพียงแค่ว่า แดน มาร์ตินและพวกส่งต่อฐานะยอดนักรบหน่วยรบวิหคให้กับพวกเฟรดกันไปแล้ว ทางเดียวที่จะทำให้หนอนบ่อนไส้เกิดความประมาทได้ ก็มีแค่ต้องทำให้เขาเชื่อว่าแดน มาร์ตินถูกลอบสังหารจนเสียชีวิตไปแล้วน่ะ" เพอซิอัสบอก "เพราะตามรายงานที่ทางเราได้จากโดซี่มานั้น มือสังหารที่ทำงานพลาดนั้น เป็นคนในหน่วยทหารลับที่ฉาวโฉ่มากที่สุดและคิดว่าน่าจะถูกยุบด้วยการกวาดล้างกันไปแล้วน่ะ"

              เนคมาดูซัมได้ฟังบอก "ท่านนายพลครับ นี้อย่าบอกนะ ว่ามือสังหารที่ลอบกัดคุณแดนนั้น..."

              "เป็นคนของหน่วยดัสท์คิลเลอร์นะสิ" จูเดทต้าบอก

              มาสวาร์ทาร์กล่าว "ว่าแต่หน่วยนั้น เป็นหน่วยมือสังหารแบบไหนกันละครับ ท่านนายพล...."

              "ดัสท์คิลเลอร์นั้นเป็นหน่วยทหารที่ถูกฝึกให้เป็นมือสังหารเงียบด้วยอาวุธ และทุกยุทธวิธีเพื่อกำจัดเป้าหมายให้เร็วและง่ายดายมากขึ้น แต่เดิม ทางเราจัดตั้งหน่วยนี้ขึ้นเพื่อให้พวกเขาจัดการกับสายลับของเฮซเทิร์ซที่แฝงตัวเข้ามาในดวงดาว หรือกำจัดตัวหัวหน้าและบุคคลสำคัญที่เป็นภัยคุกคามต่อแรซัลก้า ซึ่งหน่วยนี้ทำงานได้ดีกว่ามาตราฐานที่ทางเราวางไว้กันก็จริง" จูเดทต้ากล่าว "แต่....พวกดัสท์คิลเลอร์กลับเพิ่มเป้าหมายมาเป็นพวกข้าราชการ พวกบุคคลสำคัญภายในจักรวรรดิ์ ไม่ว่าจะเป็นเหล่าขุนนางหรือนายทหารระดับสูง ซึ่งพวกนี้ไม่เพียงไม่ฟังคำสั่งของทางเรา หรือไม่ยอมรับบทลงโทษที่พวกนั้นก่อเรื่องเกินกว่าเหตุกันอย่างเดียว แต่พวกเขารับคำสั่งจากพวกกังฉินทั้งขุนนางและนายทหาร ให้กำจัดคนที่เป็นอุปสรรคต่อแผนการของพวกนั้น ขัดขวางกระบวนการตรวจสอบและการตัดสินทางกฎหมาย ที่แย่ไปกว่านั้นก็คือ พวกนี้รับคำสั่งให้ก่อวินาศกรรมเพื่อหวังผลทางการเมืองหรือผลประโยชน์อันสูงสุดดังกล่าว ดังนั้น ท่านจอมพลแฮซกริฟและพวกเราจำต้องกวาดล้างหน่วยดัสท์คิลเลอร์นี้ทิ้งเสียเอง เพื่อมิให้มีนายทหารในกองทหารใช้พวกเขาไปก่อเรื่องบ้าๆจนเกิดการนองเลือดกันขึ้นมา ซึ่งตลอด 6 ปีที่ผ่านมานี้ พวกเราทำงานโดยไม่มีพวกดัสท์คิลเลอร์มานานแล้วละ"

              พลัสเชอริทกล่าว "แต่จากการที่มีคนในหน่วยโผล่มาลอบฆ่าจนท.แดน ก็แปลว่ายังมีหน่วยนี้หลงเหลือรอดเลยสิครับ"

              "ถูกต้องแล้ว และหนอนบ่อนไส้คงจะให้หน่วยนี้แฝงตัวอยู่ในกองกำลังของเขาไว้อย่างแนบเนียนแน่นอน เพราะหน่วยนี้ถูกฝึกให้ทำตัวกลมกลืนกับสภาพแวดล้อมให้มากพอ ที่จะทำให้เหยื่อและเป้าหมายเกิดความประหม่ากันขึ้นมา โดยพวกเขาถูกสอนให้ต้องลงมือก่อนที่เป้าหมายจะหนีหรือขัดขืนไปได้น่ะ" เพอซิอัสบอก

              แอนเดรียกล่าว "และจัดการกับตัวพวกเขา หากพวกเขาคนใดคนหนึ่งทำงานพลาดอย่างงั้นละสิคะ"

              "เป็นเช่นนั้น และที่แย่ไปกว่านั้นก็คือ เหตุการลอบสังหารนายทหารเรือในช่วงก่อนและหลังการรุกรานครั้งแรกของเดลอาเนี่ยนนั้น ไม่ได้มีแค่พวกแดคน็อกซ์กลุ่มเดียวที่ลงมือ เพราะพวกนี้ได้เชือดนายทหาร 3 ใน 7 นายลงเป็นที่เรียบร้อยแล้วน่ะ" จูเดทต้าบอกและหันมายังคลอเวฟ "แน่นอน ว่าผู้พันไบเทน แฟรงค์ ถูกพวกดัสท์คิลเลอร์ลอบฆ่าตาย และอำพรางให้ดูเหมือนเป็นอุบัติเหตุกันไปแล้วน่ะ"

              คลอเวฟกล่าว "เป็นความจริงหรือ แต่ ลิเนียร์ตี้เห็นตัวพวกแดคน็อกซ์อยู่ในที่เกิดเหตุ และพวกมันก็หายตัวไปแล้วน่ะ"

              "ถ้าเป็นพวกแดคน็อกซ์ละก็ พวกมันต้องทำมากกว่าการระเบิดบ้านด้วยก๊าซหุงต้มกัน เผลอๆ พวกมันอาจจะปลอมเป็นไบเทนมาหลอกพวกเธอทั้งสาม และเกิดเหตุแบบเดียวกับที่พีวิลและสเปียริทตอนอยู่ที่หน่วย 67 เจอก็เป็นได้น่ะ" เพอซิอัสบอก

              สเปียริทบอก "จริงด้วยน่ะ ถ้าเป็นอย่างที่ท่านนายพลว่ามา ผู้พันไบท์ แฟรงค์ตัวปลอมต้องแปลงเป็นลิเนียร์ตี้ นายบื้อหรือไม่ก็เนคมาดูซัมกันแน่ๆ และอาจจะทำให้พวกเอ็นซิสที่มาถึงนั้น พลอยเข้าใจผิดไปด้วยนะคะ"

              "และที่พวกมันหายตัวไปจากสายตาของลิเนียร์ตี้นั้น คงเพราะว่าพวกแดคน็อกซ์ถูกเรียกตัวให้ไปที่เกิดเหตุ ถูกหลอกให้เป็นตัวดึงความสนใจของพวกเนคเกอร์ที่ไปถึงที่เกิดเหตุก่อน ให้เชื่อว่าผู้พันไบท์ แฟรงค์ ตายเพราะสายลับของพวกเดลอาเนี่ยน มิใช่พวกดัสท์คิลเลอร์กันนะสิ" จูเดทต้ากล่าว

              เนคมาดูซัมกล่าว "งั้นแปลว่าทางเอ็นซิสตรวจสอบศพผู้พันไบท์ แฟรงค์จนรู้ว่าเขาไม่ได้ถูกฆ่าตายเพราะอาวุธของพวกแดคน็อกซ์กันละสิครับ"

              "ใช่ เพราะผลชันสูตรศพล่าสุดที่เอ็นซิสส่งมานั้น ผู้พันไบท์ แฟรงค์ถูกมีดอาบยาพิษฟันเข้าจุดสำคัญ โดยที่ยาพิษนั้นไม่ได้ระเหยเพราะไอร้อนและไฟจากแรงระเบิดในบ้าน เลยทำให้มีหลักฐานชี้ชัดตรงนี้ไปด้วย" เพอซิอัสกล่าว "เพียงแต่...ผบ.แวงค์ปิดเรื่องนี้เอาไว้ เพราะถ้าเรื่องนี้ถูกแพร่งพราย นั้นหมายถึงพวกเธอต้องเป็นเหยื่อรายต่อไปแน่นอน เขาเลยยุติการสอบสวนไว้เพียงเท่านี้ เช่นเดียวกันกับการสืบหาตัวหนอนบ่อนไส้ด้วย"

              แอบไบออสกล่าว "ที่ต้องยุติ เพราะหนอนบ่อนไส้อย่างวอลเลนซ์ไหวตัวหลังจากที่รู้ว่ากูมิชทำงานพลาดอย่างงั้นละสิน่ะ"

              "เหตุที่เราต้องยุติ ไม่ใช่เพราะว่าเราไม่ต้องการเกิดความขัดแย้งภายในกองทัพกัน จนทำให้พวกเดลอาเนี่ยนบุกมาถล่มพวกเราและพวกเธอได้ง่ายขึ้น แต่เพื่อให้หนอนบ่อนไส้วางใจได้ว่า ไม่มีใครหน้าไหนหยุดเขากันได้แล้วนะสิ" จูเดทต้าบอก "การที่เราสั่งพวกเธอทั้งหมดมิให้ทำเช่นนี้ เพราะทุกกองทหารต่างรู้จักชื่อเสียงของพวกเธอ ในเรื่องการแก้ปัญหายากและแก้สถานการณ์ที่ย่ำแย่ รวมไปถึงปัญหาที่เลวร้ายที่เกิดขึ้นจากภายใน ซึ่งหนอนบ่อนไส้คงไม่ยอมให้พวกเธอทำสำเร็จได้แน่ๆ ตราบใดที่เขารู้ว่าพวกเธอรู้ความเคลื่อนไหวของเขามาโดยตลอด ที่สำคัญ พวกเธอเองยังมีภาระหน้าที่ในเรื่องการปกป้องระบบดาวและเขตอวกาศนี้จากพวกเดลอาเนี่ยน รวมถึงพวกทรอยอาร์และสเตรดาร์ธกันด้วยแล้ว จะดีกว่ามาก หากเราไม่ให้พวกเธอถล่ำลึกจนติดกับฝ่ายตรงข้ามที่มีพวกริดโอเป็นมือเท้ากันน่ะ"

              มาสวาร์ทาร์พยักหน้า "งั้นที่พวกเราถูกจับตัวไปนั้น ส่วนหนึ่งเพราะหนอนบ่อนไส้ลงมือกับพวกเดลอาเนี่ยนและพวกริดโอด้วยละสิครับ"

              "ดังนั้น สามเดือนที่พวกเธอไม่ได้ปฏิบัติการณ์พร้อมกับพวกแบ็คไซด์ฯนั้น ไม่เพียงให้พวกเธอฝึกฝนตัวเองและลูกศิษย์ของพวกเธอกันอย่างเดียว แต่เวลาสามเดือนนั้นก็มากพอ ที่จะฝึกฝนและขัดเกลาเจ้าหน้าที่หน้าใหม่ในกองกำลังของโดโรเซียกันด้วย ซึ่งเจ้าหน้าที่อีกทีมเองก็พร้อมจะช่วยพวกเธอฝึกกันด้วยนะ" เพอซิอัสกล่าว "ที่สำคัญ พวกเธอต้องมารายงานความประพฤติต่อพวกเรา ทุกๆ 3-5 วันหรือ 1 สัปดาห์กันด้วย แน่นอน ว่าพวกเธอต้องแจ้งกับเบติสและวิลด้าให้รับทราบไว้ด้วยน่ะ"

              ฟิเกซถาม "แล้วจะให้ทำยังไงกับพวกคุณแดนละครับ"

              "ทันกุนและหมอลาเกรนัวร์ต้องเข้ารับการบำบัดจากทีมแพทย์กันไว้ ส่วนจนท.แดน มาร์ติน ทางเราจะให้เขาพักอยู่กับครอบครัวสักหนึ่งสัปดาห์ ก่อนจะย้ายไปรับการบำบัดในโรงพยาบาลของกองบัญชาการกันน่ะ" เพอซิอัสกล่าว "ส่วนเรื่องเฟรด นาเดีย และพวกน็อกกี้นั้น เดียวทางเราจะส่งคนไปชี้แจงให้พวกเขาทราบเอง อย่างน้อยก็ช่วยให้พวกเขารู้ว่าลูกๆของพวกเขาอยู่ในช่วงคุมประพฤติกันอยู่น่ะ"

               จูเดทต้ากล่าว "และอย่าลืมน่ะ ว่ากองกำลังหลังฉากนั้น เป็นกองกำลังที่ไม่อยากให้ใครเห็นโฉมหน้าที่แท้จริงของหน่วย เพราะพวกเขามีหน้าที่ในการหยุดยั้งภัยคุกคามที่นอกเหนือจากกลุ่มหลัก อย่างพวกทรอยอาร์และสเตรดาร์ธด้วยน่ะ"

              "ว่าแต่ ในช่วงที่พวกเราไม่อยู่นิ มีกลุ่มผู้ก่อการร้ายจากดาวสเตรดัสท์เซคเตอร์กันบ้างหรือเปล่าละ" แอบไบออสบอก

              ฟิเกซกล่าว "แล้วมีข่าวเรื่องริชเชลลิอาร์ลส่งกองรบอัศวินทรอยอาร์เข้ามาราวีกันหรือเปล่าละครับ"

              "สามสัปดาห์ที่พวกเธอไม่ได้อยู่ที่ระบบดาวนี้ แทบไม่มีพวกทรอยอาร์และสเตรดาร์ธโผล่มาเลยนะสิ เป็นไปได้ว่า พวกเขากำลังเกิดปัญหาภายในกันอยู่ เพราะทางเรารู้ ว่าริชเชลลิอาร์ลคิดจะรวบรวมอำนาจให้เหนือกว่าฝ่ายจงรักภักดีต่อองค์ราชา หรือใช้อำนาจขององค์ราชากดดันพวกจงรักภักดีอย่างพวกอัศวินกางเขนขาว และตระกูลบาลานซ์โคลานซ์ให้อยู่ใต้คำสั่ง ซึ่งน่าจะเป็นอย่างหลังกันนี้แหละ" จูเดทต้าคาดเดา

              เพอซิอัสบอก "ฝ่ายสเตรดาร์ธเองก็มีแค่กลุ่มผกก.กลุ่มเล็กๆที่ออกมาป้วนเปี้ยนและไม่ได้สร้างความวุ่นวายมากมายโผล่มา ซึ่งนั้นบ่งบอกได้ว่าพวกสเตรดาร์ธพยายามจะยั่วยุให้ฝ่ายสมาพันธ์อวกาศโกรธ ถึงขั้นยกทัพใหญ่เข้ามาก่อสงคราม ในช่วงเวลาที่พวกเดลอาเนี่ยนพร้อมจะกวาดล้างพวกสมาพันธ์ด้วยสุดยอดอาวุธนี้กันไว้นะ"

              "แต่พวกริดโอเองก็ไม่ได้เคลื่อนไหวมาให้เราเห็นมาตลอด 3 สัปดาห์กันด้วย ส่วนหนึ่งคงจะออกไปยังเขตอวกาศเดลอาเนี่ยนเพื่อสะสมและรวบรวมอาวุธร้ายแรงจากที่นั้น หรือจ้างวานพวกต่างดาวในเขตอวกาศของเดลอาเนี่ยนให้ลงมือทำงานสกปรกกันแน่ๆ" จูเดทต้ากล่าว "ถึงแม้ว่ากูมิซมิได้บอกกับวอลเลนซ์เรื่องริบอยและริเกิร์ล แต่คงไม่ดีแน่ๆ ที่พวกริดโอรู้ว่าทั้งคู่ยังอยู่กับพวกเรากันน่ะ"

              จิลกล่าว "ทั้งๆที่พวกเราและพวกคุณต่างรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับริดโอบิทนะหรือคะ"

              "ตอนนี้ ทางเราจึงต้องให้ริบอยและริเกิร์ลอยู่ช่วยพวกเธอบนยานไทรแองเกิ้ลกันไปก่อนนะ เพราะการที่ให้พวกเขาอยู่ในกองบัญชาการของเรานั้น อาจจะมีทหารที่หนอนบ่อนไส้ส่งมาก็เป็นได้น่ะ" เพอซิอัสกล่าว "ดังนั้น ฉันจะให้พรุ่งนี้ เป็นวันเริ่มต้นการลงโทษของพวกเธอแล้วกันน่ะ"

              จูเดทต้าบอก "และหวังว่าพวกเด็กใหม่ของเธอคงจะพร้อมกันบ้างน่ะ โดโรเซีย"

              "แล้วเราก็กลับมาที่บ้าน ซึ่งพวกบรอนเซอรูทกับพวกบาร์ทกลับมาพอดี แน่นอน ว่าเราได้พูดคุยสอบถามกันถึงเรื่องที่พวกเขากับเหล่าจอมยุทธ์มิวแทนอยด์ต่อกรกับพวกเดลอาเนี่ยน ที่โผล่เข้ามาก่อกวนในดาวของเรากันน่ะ" พีวิลบอก

              คลอเวฟบอก "แล้วพวกนั้นก็รู้ด้วยว่า พวกพันธมิตรเดลอาเนี่ยนอย่างพวกอัลแทเรี่ยน บรูซาเรม ไซเอมนอยด์ แดคน็อกซ์ ซอร์แรค อินเซคเที่ยน และเทรโอเซี่ยมล่าถอยกลับไปทั้งๆที่โผล่มาที่ดาวเรานั้น เพราะฝีมือของพวกเราเองแหละ แม้ว่าไอ้แรมเบจจะหงุดหงิดที่ทำให้พวกเดลอาเนี่ยนถอนกำลังกลับเอาดื้อๆ มันก็เลยหาเรื่องเอาเหล้าในบาร์กูไปขายกันนี้แหละ"

              "เพียงแต่พวกเขาเซอร์ไพร์สไม่น้อย เมื่อเราพูดถึงเรื่องที่เกิดขึ้นกับพวกคุณแดนกันน่ะ" มาสวาร์ทาร์กล่าว และนึกถึงเรื่องที่พวกบรอนเซอรูทและพวกบาร์ทได้ยินเรื่องที่เกิดขึ้นกับพวกแดนกัน

               "นี้พวกมันเล่นงานคุณแดนกับพวกกันเลยหรือ" ช็อปเปอร์กล่าว "แต่เป็นไปไม่ได้ คุณแดนไม่น่าพลาดท่าให้กับพวกเดลอาเนี่ยนหรือพวกหัวนกนั้นเลยน่ะ"

              "คุณแดนไม่ได้พลาดท่าให้กับพวกอัลแทเรี่ยนหรอก แต่มือสังหารที่หนอนบ่อนไส้ส่งมานั้นต่างหากเล่า ที่เป็นตัวการกันน่ะ" เจเนลบอก "แต่เคราะห์ดีมาก ที่คุณแดนถูกยิงไม่ถูกจุดสำคัญมากมาย จากการที่เอาตัวเข้าช่วยเฟรดเอาไว้ แต่ยังถือว่าสาหัสพอตัวนี้แหละ"

              แรมเบจบอก "แล้วไอ้ทันกุนนิ คงจะถูกยิงจนหัวกระจุยแล้วสิ"

              "ไอ้บ้านั้นแค่ถูกยิงตรงต้นแขนซ้ายและต้นขาขวากันเท่านั้นเอง แม้จะไม่เสียแขนขาไปก็จริง แต่มันก็กลายเป็นไอ้ง่อยไปแล้วนะสิ" คลอเวฟกล่าว

              เซเทธบอก "แต่นายลืมไปแล้วหรือ ว่าทีมแพทย์ฝ่ายเราสามารถแก้ปัญหาเรื่องแขนขาใช้การไม่ได้กันแล้วน่ะ ดังนั้น ทันกุนก็ได้รับการรักษาจนใช้แขนขาได้เหมือนเดิมเลยน่ะ"

              "เซเทธว่ามาก็ตรงประเด็นเลยน่ะ ดังนั้น ทันกุนก็กลับมาใช้แขนขาที่เกือบเสียไปได้ตามเคยนี้แหละ เพียงแต่ คงให้วิ่งเร็วหรือแบกของหนักเหมือนเช่นเคยไม่ได้แล้วละ" สเตฟอร์ดกล่าว

              โฟรซ่าบอก "ส่วนยัยเบ็ตตี้นั้น เฮ้อ ไม่นึกเลยน่ะ ว่าอาการของเธอจะแย่ถึงขั้นที่เธอมองไม่เห็นไปเลยก็ได้ ถ้าเธอยังดื้อดึงที่จะออกปฏิบัติการณ์ภาคสนามกันต่อแล้วน่ะ"

              "อย่างน้อย คุณเบ็ตตี้ก็ทำถูกอย่างหนึ่ง ในเรื่องที่เธอวางมือจากภาคสนามมาเป็นหมอ และยอมใส่แว่นเพื่อรักษาสายตาของหมอไว้นะครับ" พีวิลบอก

              โรซารี่กล่าว "น่าเสียดายจริงๆเลยน่า ที่หมอไม่น่าเป็นแบบนี้เลยน่ะ ถ้ารู้วิชากดจุดรักษาดวงตาได้ละก็...."

              "คงยากน่ะ โรซารี่ เพราะอาการของหมอเบ็ตตี้นั้น ส่วนหนึ่งก็มาจากชุดเกราะรุ่นพิเศษที่ไปกระตุ้นการมองเห็นมากจนดวงตากระทบกระเทือน ซึ่งลักษณะนี้ไม่สามารถใช้วิชากดจุดได้หรอกน่ะ" ทินเหมาลีบอก "และการรักษาแบบนี้ก็ต้องใช้เวลาและการบำบัดต่างๆควบคู่กันไปด้วย ซึ่งนั้นคงจะเป็นเหตุผลที่ผบ.บัลโต้ต้องการให้พวกเขาถอนตัวกันนี้แหละ"

              เลอแชนกล่าว "เพียงแต่ไอ้พวกเดลอาเนี่ยนกับไอ้มือสังหารนั้นทำให้คุณแดนและคุณทันกุนสาหัสยิ่งกว่าเดิมนี้สิ...."

              "ถ้าในเมื่อคุณแดน คุณทันกุนและหมอเบ็ตตี้ออกรบไม่ได้กันนิ แล้วแฮรี่และมาริ รวมถึงหน่วยรบวิหคกันละ" บาร์ทถาม

              แอนเดรียจำต้องบอกไปว่า "หมอเบ็ตตี้ส่งมอบตำแหน่งและชุดเกราะบริซสวอลโลว์ให้กับคาเซคาว่าไปแล้ว ส่วนแฮรี่ ยังคงรักษาตำแหน่งอินทรีต่อเหมือนเช่นเคย เพียงแต่...." แล้วก็จิบชาก่อนจะพูดต่อว่า "....เฟรด นาเดีย และคีธ ได้ใช้ชุดเกราะเหยี่ยวดินระเบิด พิราบทะยานฟ้าและแร้งผยองมาร่วมสู้กันไปแล้วนะสิ"

              "เดียวก่อนนะ นี้เธอคงไม่ได้หมายความว่า พวกเขาฝ่าฝืนกฎในเรื่องใช้ยุทธภัณฑ์ทางทหารออกไปสู้กับพวกเดลอาเนี่ยน ทั้งๆที่เป็นพลเรือนกันนะหรือ" โมคุโตะกล่าว

              แอนเดรียพยักหน้า "และชุดเกราะเกซตัลท์ทั้งสามชุดที่เป็นชุดเกราะที่อันตรายนั้น พวกน็อกกี้ก็ยึดเอามาใส่ ส่วนหนึ่งเพราะว่ากีลใช้ชิ้นส่วนเมคทรูปเปอร์ของพวกเขาเอามาติดตั้งใส่เกราะเกซตัลท์เอาไว้กันนะสิ"

              "อะไรกันวะ นี้เธอปล่อยให้เด็กเกรียนสามตัวมันได้เกราะโคตรอันตรายไปเลยหรือ แล้วพวกมันคงไม่เดี้ยงแบบเดียวกับพวกแดนเลยหรือ" แรมเบจบ่น

              แอนเดรียกล่าว "เป็นเคราะห์ดีมาก ที่เกราะถูกลดสเปคลง บวกกับการใช้ชิ้นส่วนเกราะเมคทรูปเปอร์เดิมของพวกน็อกกี้มาใช้ ทำให้พวกเขาสามารถเชื่อมต่อกับเกราะได้โดยไม่เป็นอันตรายได้ แต่ก็ทำให้พวกเขาอ่อนแรงลงในระดับหนึ่งกันน่ะ" แล้วก็พูดต่อไปอีกว่า "แน่นอน ว่าคุณเบย์แทนด์ที่มากับพวกคุณแอสเทลน่านั้น ต้องลงมาแก้ไขชุดเกราะ ด้วยการลดอัตราพลังที่มากเกินของชุดเกราะเกซตัลท์ลง และเพิ่มขีดจำกัดของชุดเกราะหน่วยรบวิหคให้มากขึ้น เพราะเฟรด นาเดีย และคีธได้ดึงขีดความสามารถของชุดเกราะออกมาตั้งเกินครึ่งในครั้งแรกที่พวกเขาได้ใส่ไว้นะสิ"

              "เกินครึ่งเลยหรือ...แต่ ลูกคุณแดน และลูกสาวนายช่างเจฟไม่น่าจะมีสมรรถนะทางร่างกาย เทียบเท่ากับพวกซุปเปอร์โซลเยอร์อย่างพวกบรูโน่หรือพวกท่านประธานาธิบดีกันได้นิน่า" กริมเบอรี่บอก

              พีวิลกล่าว "แต่ก็อย่าลืมสิ ว่าคุณแดนและคุณเจฟ ผ่านการดัดแปลงเป็นซุปเปอร์โซลเยอร์มาเหมือนกัน และได้แต่งงานกับหญิงที่เคยผ่านการดัดแปลงเป็นแมนิเกเตอร์เพื่อการทดลองทางทหารมา ดังนั้นทั้งเฟรดและนาเดียจึงเกิดมาเป็นแมนิเกเตอร์มนุษย์กันอยู่แล้ว แน่นอน ว่าคีธก็เกิดเพราะพ่อแม่เป็นแมนิเกเตอร์เหมือนกันน่ะ"

              "จะว่าไปมันก็ใช่น่ะ เพราะคุณแดนก็เป็นเพื่อนกับผู้การเฮลิค ซึ่งเป็นซุปเปอร์โซลเยอร์เหมือนกันนิน่า" บาร์ทกล่าว พีวิลพยักหน้า

              บรอนเซอรูทบอก "เพียงแต่ พวกนายมิได้บอกกับพวกเฟรดเรื่องพวกเราและพวกบาร์ทด้วยสิ"

              "ฉันคิดว่า น็อกกี้และพวกคงไม่บอกกับพวกเฟรดแน่ๆเลยละ เพราะฉันรู้ ว่าพวกเขาอยากจะแกล้งพวกเฟรดให้ตกใจเล่นๆเลยนะคะ" แอนเดรียคาดเดา

              แรมเบจบอก "ไม่แปลกหรอก พวกสามตัวนั้นเป็นพวกเด็กเกรียนและแสบในระดับเดียวกับพวกไทรเมร่าเลยน่ะ"

              "ว่าแต่ จะเริ่มการฝึกทีมใหม่ทั้งสองนี้กันตอนไหนละ" รอมมิชถาม

              มาสวาร์ทาร์กล่าว "พรุ่งนี้เช้าเลย เพราะหลังวันนี้ไป ก็เริ่มเวลาภาคทัณฑ์ของพวกเราทั้งหมดกันแล้วละ"

              "เยี่ยม งั้นพวกเราไปก่อนแล้วกันน่ะ เพราะเราจะไปเตรียมเครื่องมือสำหรับการสอนเหล่าเด็กใหม่กันสักหน่อยน่ะ" แรมเบจกล่าวและเดินออกจากบ้านไป เช่นเดียวกับรอมมิชด้วย

              โรซารี่กล่าว "เกรงว่าจะเตรียมตัวหาเรื่องพวกน็อกกี้กันซะมากกว่า งั้นพวกเรารบกวนพวกนายเพียงเท่านี้แหละ"

              "พรุ่งนี้เช้าเจอกันใหม่แล้วกันน่ะ" บรอนเซอรูทกล่าว แล้วก็พาพวกบาร์ทและพวกเซเทธออกไป

              เนคมาดูซัมบอก "งั้นพวกเราก็พักผ่อนเพื่อการฝึกหนักทั้งวันเลยแล้วกันน่ะ"

              แล้วเช้าวันต่อมาและวันแรกของการฝึกก็เริ่มต้นขึ้น ที่เขตป่าหลังเมือง โซนฝึกฝนของพวกไทรเวเซอร์

              "โอ้ว ไม่นึกเลยว่าจะต้องเดินขึ้นเขาเข้าป่ากันแบบนี้เลยน่ะ" นาเดียบอก โดยที่เธอเหนือยจนเอาผ้าขนหนูมาซับเหงื่อบนหัวกัน

              คีธบอก "คงประหลาดใจละสิ ที่ต้องเดินเข้าป่าด้วยเท้า แทนที่จะใช้รถราขับไปเลยสิน่ะ"

              "แน่ละ เพราะว่าพวกไทรเวเซอร์เขาให้เราวอร์มด้วยการเดินเข้าป่ามาเอง ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการฝึกกันด้วยน่ะ" มาริบอก

              เฟรดกล่าว "และดูเหมือนว่าพวกนายคงจะไม่เหนือยมากเลยสิน่ะ ทั้งๆที่พวกนายเข้ามาที่นี้กันบ่อยๆน่ะ" เพราะเห็นพวกน็อกกี้เดินมา แต่ก็เหนือยพอๆกัน ในขณะที่นิคและรีฟเดินตามหลังมาด้วย

              "นายเองก็พอกันเถอะน่า เดียวไปถึงก็รู้ ว่านายจะต้องเจออะไรกันด้วยน่ะ" น็อกกี้กล่าว

              ไกซ์บอกไล่หลังไปว่า "เออ พวกนายอย่ามัวโอ้เอ้เลยดีกว่า เดียวพวกนายจะโดนมากกว่านี้กันน่ะ"

              "รู้แล้วน่า ไกซ์ หวังว่าหลังของนายคงไม่หักเหมือนเพื่อนเนิร์ดของนายกันหรอกน่ะ" แจ็สบอก ไกซ์ไม่ตอบอะไรและรีบเดินนำไปโดยเร็ว

              นาเดียถามคีธ "พอจะรู้มั้ย ว่าเพื่อนนายพูดถึงเรื่องอะไรกันละ"

              "ไปถึงเดียวก็รู้เองนี้แหละ" คีธตอบได้เพียงเท่านี้ แล้วหลังจากนั้นพวกเฟรดและพวกน็อกกี้ก็เข้ามาในป่า ซึ่งพวกเฮเรเค้นมานั่งรออยู่นานแล้ว กลุ่มที่พึ่งมาถึงนั้นก็รีบนั่งลงโดยทันที จากนั้นพวกเมนซิกส์ทีน พวกแปดพี่น้องยอดยุทธ์และกลุ่มจอมยุทธ์วูเซียททั้ง 5 ก็เดินออกมาด้วยกัน แฮรี่และมาริพยักหน้าให้กับพวกบาร์ท เพราะรู้จักกันมาแล้ว

              พีวิลเลยเกิร์นนำไปว่า "พวกเธอคงจะทราบเรื่องที่เกิดขึ้นกันมาแล้วละสิน่ะ ว่าเรามีเพื่อนกลุ่มใหม่มา แม้ว่าจะมีส่วนหนึ่งที่เคยเข้าป่ามารับการฝึกมาหลายครั้งแล้วก็ตาม ดังนั้น พวกเราจึงขอให้พวกเธอให้ความร่วมมือในการฝึกครั้งนี้ ว่าอย่าทำเป็นเล่น อย่าหาเรื่องทะเลาะเบาะแว้ง และ อย่าได้คิดทำอะไรบ้าๆกันเป็นอันขาดเลยน่ะ"

              "เพราะว่าการฝึกของพวกเธอนั้น ก็คือภาคทัณฑ์ของพวกเราทั้งหมดนี้กันด้วย ซึ่งทุกการกระทำของพวกเธอไม่ว่าดีหรือร้าย จะถูกรายงานไปยังเบื้องบน ซึ่งก็คือกองรบที่ 11 และกองกำลังพิทักษ์ดวงดาว ที่ต้องมาโดนหางเลขนี้ตามไปด้วย หนึ่งเรื่องยุ่งๆต่อให้เล็กน้อยแค่ไหน ก็คือปัญหาอันใหญ่หลวงของพวกเราทุกๆคนกันนี้แหละ" มาสวาร์ทาร์บอกอย่างจริงจังไม่น้อย จนพวกน็อกกี้หรือพวกเฟรดไม่กล้าที่จะโต้แย้งใดๆทั้งสิ้น เช่นเดียวกับพวกเมนซิกส์ทีนรายอื่นๆ รวมถึงเบติสและวิลด้ากันด้วย

              เนคมาดูซัมกล่าว "ฉะนั้น ตลอด 3 เดือนหลังจากนี้ไป พวกเธอจะได้รับการสอนสั่งจากพวกเราทุกวันจันทร์ถึงศุกร์ ส่วนเสาร์และอาทิตย์นั้น คือเวลาว่างของพวกเธอ ให้เวลาพวกเธอไปทบทวนในสิ่งที่พวกเราสอนมาด้วย เพียงแต่ พวกเธอไม่ได้รับอนุญาตให้ออกนอกเมืองนี้ไปก็เท่านั้นเอง หรือออกไปได้ แต่ต้องมีพวกเราไปด้วยสักสองสามตนด้วยกัน" แล้วก็หันมาถาม "ว่าแต่ วันนี้จะเริ่มทำอะไรกันก่อนละ"

              "ก่อนอื่นเลย เฟรด มาร์ติน แฮรี่ ไมท์ คีธ สตาร์ คาเซคาว่า มาริ แล้วก็นาเดีย ออโต้ ขอให้ลุกขึ้นยืนเดียวนี้เลย" มาสวาร์ทาร์กล่าว แล้วเฟรด แฮรี่ คีธ มาริ และนาเดียลุกขึ้นยืน พวกเฮเรเค้น ชาร์เครฟและเทรอนเร็กซ์แสยะยิ้มกันขึ้นมา จากนั้นก็... "ตามพีวิลและพวกมา ที่เหลือ ฝึกตามปกติ" มาสวาร์ทาร์กล่าว

              คลอเวฟบอก "เว้นแต่พวกสติลลิมป์นั้น อยู่นี้ไว้ก่อน จนกว่าเราจะเรียกตัวมาน่ะ" แล้วตนก็เดินมาพร้อมกับพลัสเชอริท แอบไบออส และจายด์เข้าล้อมพวกน็อกกี้เอาไว้ 

              "พวกลุงไม่น่าลำบากมาเฝ้าพวกเราแบบนี้กันเลยน่า" แด็กซ์บอก

              โดยตอนนี้พวกเฟรดเดินตามพวกพีวิลเข้ามาแล้ว นาเดียถาม "ว่าแต่ พวกคุณจะทำอะไรพวกเราละคะ"

              "พวกเราจะไม่ตอบอะไรพวกเธอกันหรอกน่ะ ขอแค่ พวกเธอใส่พวกนี้ก็พอ" โฟรซ่ากล่าว โดยเอาเสื้อเกราะมาให้พวกเฟรดสวม

              คีธบอก "คงจะไม่ได้ให้พวกเรามาเล่นเพนส์บอลเลยละสิ"

              "รีบๆใส่ไปเหอะน่า" เจเนลโวยด้วยน้ำเสียงที่จริงจัง ซึ่งพวกเฟรดสวมชุดเกราะแบบเพนส์บอลมาแล้ว

              "พวกเราสวมเสร็จแล้วละครับ ว่าแต่จะให้เราทำอะไรกันต่อ" แฮรี่ถาม

              "งั้นพวกเธอก็....ช่วยหลบการโจมตีของพวกเรากันสักหน่อยได้มั้ยละ" พีวิลบอก โดยเขา เจเนล ฟิเกซ โฟรซ่า และลิเนียร์ตี้เดินเข้ามา

              นาเดียกล่าว "แต่จะดีหรือ ที่คุณลิเนียร์ตี้มาร่วมด้วยกันน่ะ แม้ว่าจะได้ฝึกกันจริงก็ตาม" โดยที่เธอรู้สึกดีใจที่ได้ฝึกร่วมกับลิเนียร์ตี้ หากแต่ยังสงสัยไม่น้อยว่าจะให้ฝึกอะไรกันแน่

              "แล้วจะให้เริ่มตอนไหนกันละ" คีธกล่าว

              พีวิลและพวกเลยหันหน้ามา เนคมาดูซัมและสเตฟอร์ดพยักหน้าให้ แล้วก็.... "ฟึ่บบบบ" พีวิลหายตัวไปจากจุดที่เขายืนอยู่ และมาโผล่ตรง.... "อา..." เฟรดสะดุ้งเพราะพีวิลอยู่ตรงหน้าภายในเวลาอันสั้น แต่ก็... "ป้าบบบ" ยังไม่ทันที่เฟรดจะออกอาวุธใดๆ พีวิลชิงลงมือก่อนโดยทันที ด้วย.... "นี้ยังไม่ได้สั่งเริ่ม ก็ลงมือแบบไม่ให้ตั้งตัวกันเลยหรือครับ" เฟรดบอก เพราะเขาเห็นท่อแอร์ในมือขวาของพีวิลที่ฟาดเข้าตรงต้นขาซ้าย ซึ่งก็ไม่ถึงกับเจ็บมาก

              "จะบอกอะไรให้ก็ได้น่ะ ว่าในจังหวะที่เซวอนถามว่าจะให้เริ่มตอนไหน คำตอบง่ายๆน่ะ ก็ตอนนี้แหละ" แรมเบจบอก

              นาเดียกล่าว "เดียวสิคะ นี้เล่นไม่ให้ตั้งตัวแบบนี้ มันไม่แฟร์กันเลยนะคะ"

              "นั้นแหละคือปัญหาละ เพราะไอ้ตอนที่พวกเธอไม่ทันตั้งตัวนั้น คือตอนที่พวกเธอพลาดท่าได้ง่ายที่สุดกันนี้แหละ" สเตฟอร์ดบอก ไม่ทันไรก็.... "ฟ้าวววววว ป้าบบบ" ฟิเกซพุ่งสไลด์มาหวดพัดกระดาษใส่แฮรี่ที่รีบยกการ์ดขึ้น แต่ยกช้าไปเพียงเสี้ยววินาทีจนล้มหลังถูกฟาดไปแล้ว ตามด้วย "เฮ้ยยยย" เจเนลพุ่งโดดถีบใส่คีธ ซึ่งรีบหลบออกมา แต่.... "ฟึ่บบบ ป้าบบบ" โดนพีวิลโผล่มาหวดฟาดใส่หน้าคีธไปเต็มๆ "ตึกๆๆๆๆๆๆ ตึกๆๆๆๆๆ" โฟรซ่าและลิเนียร์ตี้วิ่งวนรอบมาริและนาเดียอย่างรวดเร็ว

              "เร็วขนาดนี้ มองแทบไม่ทันเลยน่ะ" นาเดียกล่าวอย่างตกใจ จน.... "เพี้ยะ" โดนลิเนียร์ตี้โผล่มาหวดพัดกระดาษใส่ตรงหลังแขนซ้ายไปเต็มๆ ส่วนมาริพยายามจะจะจับทิศทาง จน "ย้า" เธอหมุนตัวถีบเข้าใส่โฟรซ่า "หวับบบ" แต่โฟรซ่าหลบออกด้านข้างและ "เพี้ยะ" หวดพัดกระดาษตีเข้าหลังขาขวาของมาริอย่างจังๆ "ย้าก" คีธพยายามจะถีบใส่ฟิเกซที่พุ่งเข้ามา แต่... "ป้าบบบ" เจเนลโผล่มาหวดฟาดใส่เข้าสีข้างซ้ายไปอย่างจังๆ "ฮึซๆๆๆๆ" แฮรี่พยายามจะต่อยใส่พีวิลด้วยหมัดเปล่าๆ "ฟึ่บๆๆๆๆ" แต่พีวิลก็โยกหลบได้เพราะเขาเคยต่อยมวยมาก่อน และ "หวับบบ ป้าบบ" เอาท่อแอร์มาฟาดใส่แฮรี่ ซึ่งตั้งการ์ดไขว้แขนไว้โดยเร็วจนล้มลงกับพื้น "ว้ากกก" เฟรดเลยกระโดดเข้าแทงเข่าใส่ฟิเกซที่วิ่งเข้ามา แต่ "ฟึ่บบ ครูดดดด" ฟิเกซเอียงตัวลงหลบเข่าและสไลด์กับพื้นหญ้าลอดผ่านตัวเฟรดไปได้ และ "เพี้ยะ" ใช้พัดกระดาษฟาดเข้าเอวซ้ายของเฟรดอย่างจังๆ แล้วมหกรรมการฝึกระหว่างเมนซิกส์ทีนขาไวทั้งห้ากับหน่วยรบวิหคเงารุ่นสองก็ดำเนินต่อไป

              "ปรี้ดดดดด" สเตฟอร์ดเป่านกหวีดเมื่อหมดเวลาการฝึกไปแล้ว "ดูเหมือนว่าพวกเธอต้องใช้ยาหม่องเยอะเป็นโหลแล้วละเนี้ย" สเปียริทกล่าว เพราะพวกเฟรดโดนระดมตีกันยกใหญ่ ในขณะที่มาริโดนตีเพียงแค่ 4 จุด โดยเฉพาะตรงบั้นท้ายของเธอโดนตีถึง 3 ทีด้วยกัน

              "นี้พวกเราทำอะไรให้พวกคุณโกรธละคะ อยู่ๆก็เล่นมาแบบไม่มีการบอกกล่าวกันเลยน่ะ" นาเดียบอก

              "เออ นิคและรีฟไม่ได้บอกพวกเธอมาก่อนหน้าที่จะเข้ามาเลยหรือ....ว่าพวกเขาเจอพวกเราแล้วโดนอะไรไปบ้างน่ะ" เจเนลกล่าว

              เฟรดกล่าว "ยังนะสิครับ นี้อย่าบอกนะครับ ว่าคุณนิคและคุณรีฟโดนเหมือนกับที่พวกคุณทำกับพวกเรากันน่ะ"

              "ใช่ เพราะพวกเราทดสอบการโต้ตอบของพวกเธอทั้งห้า ด้วยยุทธวิธีจู่โจมสายฟ้าแลบด้วยท่อแอร์และพัดกระดาษกันนี้แหละ" โฟรซ่าบอก "ซึ่งเรารู้อยู่แล้ว ว่าพวกเธอส่วนมากนั้นคุ้นชินกับการพึ่งพาระบบล็อกเป้าผ่านแว่นบนหมวกกัน จนไม่ได้พึ่งพาประสาทสัมผัสของพวกเธอเอง แม้ว่า พวกเธอจะสามารถโต้ตอบพวกเราได้ แม้จะรู้ว่าการบุกเข้าใส่โดยไม่คิดนั้น คือการโดดเข้าไปหาเรื่องเจ็บตัวกันนี้แหละ"

              แฮรี่กล่าว "เพราะอย่างงั้น พวกคุณเลยให้คุณพีวิลและคุณลิเนียร์ตี้ที่เป็นอีเนอไมนด์ ซึ่งเป็นแมนิเกเตอร์ที่มีความเร็วและความว่องไว มาพร้อมกับคุณฟิเกซที่มีความรวดเร็ว และบุกเข้าถึงตัวได้ง่ายมาร่วมกับคุณที่มีความว่องไวและแม่นยำกันเลยสิน่ะ"

              "แล้วพวกคุณเอาคุณเจเนลเข้ามาทำไม ในเมื่อเขาไม่ได้เป็นสายไวเหมือนพวกคุณน่ะ" คีธกล่าว

              แอบไบออสบอก "ถึงเจเนลไม่ได้ไวเท่าร้อยเอก แต่เขาอาสามาเพื่อให้ครบชุดเท่านั้นเอง และเหมาะมากที่จะเอามาฝึกกับเธอนี้แหละ"

              "ว่าแต่ คุณนิคและคุณรีฟ ผ่านการฝึกจากพวกคุณหรือเปล่าละคะ" นาเดียกล่าว

              สเปียริทบอก "ถ้าขนาดนิคและรีฟยังไม่ผ่าน แล้วนับประสาอะไรกับพวกเธอกันละ" แล้วก็บอก "ต่อให้พวกเธอว่องไวและมีทักษะการต่อสู้มาก่อน รวมถึงผ่านการต่อสู้กับพวกเดลอาเนี่ยนมาพร้อมกับแอนเดรียกันก็จริง แต่พวกเธอก็น่าจะรู้ไว้น่ะ ว่าถ้าพวกเธอไม่มีพวกเรา พวกเธอแย่แน่ๆเลยละ"

              "นั้นไม่แปลกหรอก เพราะพวกเธอทั้งห้ากระจัดกระจายออก ในทันทีที่พวกเราบุกเข้ามากันแล้ว แม้ว่าพวกเราใช้แค่พัดกระดาษและท่อแอร์มาตีไว้ก็จริง" โฟรซ่าบอก "แต่ถ้านี้เป็นดาบมีคม เป็นดาบเลเซอร์หรืออาวุธที่ร้ายแรงชนิดที่ทำให้พวกเธอตัวขาดเป็นสองท่อน หรือสองซีก หรือตายได้ในเวลาอันสั้นละก็ พวกเธอตายยกทีมกันไปนานแล้วละ"

              มาริกล่าว "งั้นที่ท่านพี่และพวกไม่บอกกล่าว เพราะการรบจริงพวกศัตรูไม่ได้มาบอกแบบนั้นเลยสิคะ"

              "ถูกเผงเลยนะ คาเซคาว่า แต่....ต่อให้เธอเก่งแค่ไหน ถ้าทีมเวิร์คไม่ดี ทีมนี้ก็ไม่รอดเช่นกัน" โฟรซ่ากล่าว

              ลิเนียร์ตี้บอก "และเพื่อให้แน่ใจว่าพวกเธอจะมีทีมเวิร์คที่ดีนั้น เราเลยต้องให้ทีมที่สองของกองกำลังหลังฉากมาช่วยฝึกพวกเธออีกแรงกันนี้แหละ"

              "ทีมที่สองนะหรือ หมายถึงพวกคุณลุงนี้นะหรือคะ" นาเดียกล่าว

              ทินเหมาลีบอก "พวกคุณลุงที่เธอว่ามานั้น คือทีมวูเซียท เหล่ายอดยุทธ์สวมชุดเกราะเฟงซิน ทีมปฏิบัติการณ์สวมชุดเกราะทีมที่สองในกองกำลังแบ็คไซด์คอมแบทฟอสกันนะจ๊ะ"

              "เอ้ นี้พวกคุณก็เป็นยอดฮีโร่กันนะหรือ แต่ ทำไมพวกลุงแดนหรือคุณป้าโดซี่ถึงไม่เล่าให้พวกเราฟังกันเลยละคะ" นาเดียบอก และสงสัยบางอย่างขึ้นมา "แต่ ถ้าพวกคุณลุงเป็นส่วนหนึ่งของกองกำลัง แล้วทำไมพวกคุณลุงเหล่านี้ถึงไม่...."

              เจเนลบอก "พวกบาร์ทได้รับคำสั่งให้อยู่ช่วยพวกบรอนเซอรูทปกป้องเมืองนี้และรับมือกับภัยคุกคามบนดาวดวงนี้ ในช่วงที่พวกเราออกตามหาพวกเธอกันนะสิ"

              "งั้นพวกคุณก็คงจะร่วมรบด้วยกันกับพวกคุณพ่อเลยสิครับ" เฟรดกล่าว

              บาร์ทตอบ "ถูกแล้วละ และพวกเราเป็นผู้รักษาความลับของหน่วยรบวิหคเงาภายใต้การนำของพ่อของเธอด้วยน่ะ เฟรด ถึงแม้ว่า พวกเราไม่เก่งในการใช้อาวุธปืน ไม่ชำนาญในการใช้อาวุธหนักเหมือนกับพวกพีวิลเลยก็ตาม แต่ด้วยวิทยายุทธ์มวยจีนที่เราฝึกฝนมาก็เหลือเหล่แล้วละ" แล้วก็กล่าว "เกือบลืมไปน่ะ ฉันชื่อ บาร์ท รีเวอร์เชนจ์ มือกระบี่คู่ ยินดีที่ได้รู้จักกันน่ะ"

              "ส่วนฉัน ช็อปเปอร์ ไอรอนเฟิร์จ ถ้ามีปัญหาเรื่องอะไรพังๆเสียๆ ก็แวะมาหาฉันได้เลย ฉันอยู่ซ่อมได้กันน่ะ" ช็อปเปอร์บอก

              ฟันดิวเรคบอก "แต่ของที่ซ่อมอยู่ได้ไม่ถึง 3 นาที ก็กลับมาพังใหม่แล้วละมั่ง"

              "พอเหอะน่า ฟันดิวเรค" รอมมิชบอก แล้วก็แนะนำตัว "ฉัน รอมมิช แมสอินดอส เป็นหัวหน้ากลุ่ม หวังว่าพวกเธอคงจะช่วยงานพวกเรา เหมือนที่พวกเราช่วยงานพวกทีมเดิมกันบ้างน่ะ"

              แรมเบจบอก "ส่วนฉัน แรมเบจ น้องของพี่รอม ไม่คิดเลยน่ะ ว่าพวกหน้าอ่อนอย่างเธอ 3 คนจะร่วมรบพร้อมกับแฮรี่และมาริกันด้วย แถมยังดึงไอ้พวกเด็กเกรียนสามตัวเข้ามาด้วยอีก แม้ว่าพวกนั้นจะสวมเกราะที่โคตรอันตรายแบบนั้นไปแล้วน่ะ"

              "เออ ขอโทษนะคะ ที่พวกน็อกกี้เอาชุดเกราะเกซตัลท์มาใส่นั้น ล้วนเป็นการกระทำของพวกเขาเอง เฟรด นาเดียและคีธไม่ได้เป็นต้นเหตุสักหน่อยนะคะ" แอนเดรียบอก

              รอมมิชกล่าว "แล้วถ้าพวกเราเจอสถานการณ์เดียวกันกับคุณแอนเดรียและพวกคุณโดซี่เจอขึ้นมาละ นายเองก็คงทำแบบเดียวกันละสิน่ะ แรมเบจ" แรมเบจถอนใจอย่างหงุดหงิดที่โดนรอมมิชตำหนิ

              "แต่อย่างน้อย แค่พวกเขารอดมาได้ก็ถือว่าเกินพอแล้วละ" โรซารี่บอก "ลืมไปแนะ ฉันชื่อ โรซารี่ แดนดีส สมาชิกในทีมจอมยุทธ์ ออกจะตกใจไม่น้อยที่พวกเธอเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในกองกำลังของเราด้วยน่ะ"

              นาเดียถาม "แล้วตอนที่พี่อยู่ในเมืองนั้น พี่ทำอะไรกันบ้างน่ะ เพราะหนูไม่เห็นพี่อยู่แถวเมืองเลยน่า"

              "โรซารี่อยู่ในชุมชนจีน ซึ่งฝึกสอนเพลงมวยให้กับพวกเด็กๆในเขตนั้นทั้งวัน เลยไม่ค่อยเห็นเธอเดินออกอยู่ในเมืองเลยนะสิ" โมคุโตะบอก

              เฟรดถาม "แล้วที่ให้พวกเขามาด้วยนิ คงไม่ได้ให้พวกเขาฝึกพวกเราเลยสิครับ"

              "ถูกแล้วละ เฟรด มาร์ติน เพราะว่าพวกเราจะมาฝึกพวกเธอเพิ่มเติม ด้วยวิทยายุทธ์เพลงมวยจีนที่ได้รับการถ่ายทอดมาตลอด 4 พันปีเต็มๆของพวกเรากันนี้แหละ" บาร์ทกล่าว แล้วก็ "ฟึ่บๆๆๆๆ" ทั้งหมดรำเพลงมวยจีนอยู่ตรงหน้า "แม้ว่าพวกเธอจะสามารถสู้กับพวกเดลอาเนี่ยนกันได้ก็จริง แต่พวกเราเองก็อยากจะรู้ว่าฝีมือของพวกเธอแน่แค่ไหนกันน่ะ"

              นาเดียกล่าว "เดียวก่อนนะคะ นี้จะลุยกันตอนนี้เลยหรือ ทั้งๆที่พวกเรายังเจ็บอยู่เนี้ยนะคะ"

              "เกรงว่าคงไม่ทันหรอกมั่ง เพราะพวกคุณบาร์ทเป็นประเภท เครื่องสตาร์ทแล้วไม่มีทางหยุดได้นะสิ โดยเฉพาะเรื่องสู้กันด้วยน่ะ" แฮรี่กล่าว

              เฟรดบอก "ผมน่าจะรู้น่ะ ว่าพวกเขาเป็นพวกชื่นชอบการต่อสู้กันอยู่แล้วน่า"

               "งั้นก็ประเดิมด้วยท่วงท่าซอฟท์ๆก่อนแล้วกันน่ะ" บาร์ทกล่าว แล้วก็ "ฟึ่บๆๆๆๆ" กระโดดเข้าใส่เฟรดพร้อมกับจู่โจมด้วยเพลงดรรชนีอย่างรวดเร็ว จนเด็กหนุ่มรีบถอยหลบแทบไม่ทัน "เฮ้ยยยยย" แรมเบจวิ่งเข้ามาชกใส่แฮรี่อย่างต่อเนื่อง โดยที่แฮรี่โยกหลบหมัดไป รวมถึงบล็อกหมัดของแรมเบจที่ชกมาด้วย "ฟ้าว ฟึ่บๆๆๆๆ หวับ ฟึ่บๆๆๆๆ" ช็อปเปอร์วิ่งเข้ามาสบัดขาเตะและถีบใส่คีธ ซึ่งรีบโต้ตอบด้วยการเตะกลับ แม้จะออกอาวุธช้ากว่าช็อปเปอร์เลยก็ตาม "ย้า ว้ากกก" โรซารี่และรอมมิชเลยพุ่งเข้ามา "ฟึ่บ ฟึ่บ ฟึ่บ ฟึ่บ ฟึ่บ" โดยรอมมิชเข้าจู่โจมใส่มาริด้วยเพลงมวยตั้กแตนตำข้าว ซึ่งมาริรีบตีลังกาหลบการโจมตีพร้อมกับสวนกลับด้วยการจ้วงฝ่ามือใส่รอมมิช "ปึก" ที่โต้กลับด้วยนิ้วชี้และนิ้วกลางหนีบฝ่ามือเอาไว้ แล้ว "ฮา!!!" รอมมิชตะเบ็งเสียงพร้อมกับใช้พลังปราณผลักมาริถอยออกไป "อาจ้าๆๆๆๆ" โรซารี่ซัดฝ่ามือเข้าใส่นาเดีย ที่รีบสาวเท้าถอยออกมาแทบไม่ทัน "ไฮย้า" โรซารี่เลยหวดขาซ้ายเตะเข้าใส่ "ย้า" นาเดียเห็นเช่นนั้นเลยเตะสวนกลับไป "ป้าก!!!!" ขาของทั้งสองฝ่ายปะทะกันจนทำให้โรซารี่หยุดชะงักลง เปิดช่องให้นาเดีย "ฟึ่บบบ" ตั้งท่าพร้อมสู้กันได้ในทันที

              "นี้คงไม่ซอฟท์แล้วสิ คุณนิไวกว่าที่ฉันคิดไว้เลยน่ะ" นาเดียกล่าว

              "ไม่นึกเลยว่าเธอจะมีฝีมือด้านเพลงมวยกันเช่นนี้ คงจะฝึกไว้ป้องกันตัวเลยละสิ" โรซารี่กล่าว "แต่เธอคงจะรู้ใช่มั้ย ว่าพวกเราเอาจริงไม่ว่าจะซ้อมหรือฝึกฝนเลยก็ตามน่ะ"

              นาเดียกล่าว "แน่ละ เพราะว่าคุณเป็นแมนิเกเตอร์มิวแทนอยด์ระดับจอมยุทธ์ ซึ่งพวกคุณคงไม่ออมมือให้กันแน่ๆเลยละ" แล้วก็ "ย้า" กระโดดเข้าเตะก้านคอใส่โรซารี่ "ปึกกกก" ซึ่งเธอยกแขนซ้ายมาบล็อกการเตะของนาเดียไว้ และ "ย้า" ตะเบ็งเสียงพร้อมกับใช้แขนปัดการเตะของนาเดียเข้า ในเวลาเดียวกันกับที่ "ป้ากกก ปึกกก" แฮรี่เสยหมัดชกใส่แรมเบจไปสองที "ว้ากก ว้ากกก" แรมเบจเลยชกใส่แฮรี่ ซึ่งรีบโยกหลบออกมาได้ "ป้ากกก" แม้จะหลบสองหมัดได้แต่โดนถีบดอกที่สามเข้าเต็มๆ "หวับบบ หวับบบ" คีธหวดเตะใส่ช็อปเปอร์มาอย่างต่อเนื่อง "ฟ้าววว ปึกกก" และถีบใส่ท้องของช็อปเปอร์ไปเต็มๆ แต่ช็อปเปอร์ยิ้มเหมือนไม่รู้สึกเจ็บ คีธเลยกระโดดถีบด้วยเท้าซ้าย "หมับบบ" แต่ช็อปเปอร์คว้าจับข้อเท้าคีธพร้อมกับ "ฟึ่บ หวับๆๆๆๆ โครมมม" จับขาข้างที่ถีบและสบัดมือหมุนตัวคีธให้หมุนควงสว่านไปหลายตลบก่อนลงพื้นไป "ย้าๆๆๆๆๆๆๆๆๆ" มาริจู่โจมด้วยการระดมถีบใส่รอมมิชจากกลางอากาศ แต่... "ฮะๆๆๆๆๆๆๆๆ" รอมมิชใช้มือซ้ายรับเพลงถีบต่อเนื่องของมาริได้หมด และ "หมับบ หวับ หวับๆๆๆๆๆๆ" คว้าจับเท้าของมาริและสบัดเหวี่ยงให้ตัวมาริหมุนตีลังกาลงกับพื้น แต่เธอรีบทรงตัวลงกับพื้นในท่าคุกเข่าไว้ และ "ฟึ่บบบ" รีบตีลังกาหลบการถีบใส่มาอย่างรวดเร็ว "ฟึ่บๆๆๆๆๆ" ส่วนบาร์ทก็ใช้เพลงดรรชนีทิ้มใส่เฟรดแบบไม่ยั้ง โดยที่เฟรดรีบโยกหลบหลีกไปบ้าง "วาช้าก" บาร์ทเลยเสยดรรชนีข้างขวาเข้าใส่เฟรดมา "หวับบบ" เฟรดเอี้ยวตัวหลบและพุ่งตัวแทงศอกเข้าใส่บาร์ท "ปึกกกกก" แต่บาร์ทใช้มือซ้ายรับข้อศอกเอาไว้ "ว้า!!!!" และผลักเฟรดล้มลงในทันที

              "ดูท่าว่าการสู้กับพวกเดลอาเนี่ยนจะทำให้เธอกล้ามากขึ้นเลยสิน่ะ แม้จะรู้ว่าเธอสู้กับฉันไม่ได้เลยก็ตามน่ะ" บาร์ทกล่าว "แต่ไม่คิดเลยว่า ลูกคุณแดนอย่างเธอนั้นจะมีฝีมือเพลงมวยที่ว่องไวเอาเรื่องเลยนิ คงจะแอบฝึกมาก่อนสิน่ะ"

              เฟรดบอก "ส่วนหนึ่งเพราะคุณรู้จากพ่อ หรือว่ารู้จากพวกคุณแอนเดรียกันแน่ละครับ"

              "พ่อเธออาจจะไม่รู้ แต่จากที่เธอออกอาวุธมาแบบไม่กลัวเกรงเพลงดรรชนีที่ฉันจู่โจมใส่เธอไปนั้น ฉันรู้ว่าฝีมือเธอดีแค่ไหนกันน่ะ" บาร์ทบอก แล้วก็ "ฟึ่บๆๆๆๆ" สบัดแขนไปมาพร้อมกับตั้งท่าด้วยการยกขาซ้ายขึ้น ตั้งแขนสองข้างเอียงลงมาข้างหน้า "แต่เธอควรรู้ไว้ ว่าการนิ่งนอนใจก็คือหนทางแห่งความประมาทกันน่ะ"

              เฟรดกล่าว "แต่คุณก็รู้ไว้ ว่าผมพร้อมรับมือกันได้ทุกเมื่อแล้วน่ะ" แล้วก็ "ฟึ่บๆๆๆๆ" วิ่งเข้าชกใส่บาร์ท ซึ่งรีบใช้ฝ่ามือปัดป้องไปโดยเร็ว

              "หน่วยรบวิหครุ่นใหม่นิ ดูแอคทีฟมากกว่าที่เราคิดไว้เสียอีกน่ะ" จิลกล่าว

              มาสวาร์ทาร์พยักหน้า "ถึงแม้ว่าพวกเขาจะผ่านการต่อสู้กับพวกเดลอาเนี่ยนมาจนถึงเวลานี้กันก็จริง แต่...ฉันคิดว่า พวกทรอยอาร์และพวกสเตรดาร์ธคงจะดูออก ว่าหน่วยรบวิหคนั้นไม่เหมือนเดิม เพราะแพทเทิร์นการต่อสู้แบบปะทะกันตรงๆของพวกเขากันนี้แหละ"

              "ส่วนหนึ่งเพราะพวกทรอยอาร์และพวกสเตรดาร์ธคงไม่เจอกับคู่ต่อสู้ที่ใช้วิชามวยไทยและเทควันโด้เลยละสิน่ะ" บรอนเซอรูทกล่าว

              กริมเบอรี่กล่าว "แถมตัวมาริเองก็อัพเกรดมาใส่เกราะนกนางแอ่นกันด้วยแล้ว นั้นคงจะทำให้ทั้งสองฝ่ายงงเต็กกันแน่ๆเลยละ"

              "พูดถึงเรื่องของพวกเฟรดแล้วนิ แล้วพวกนายกับพวกมิวแทนอยด์กันละ เป็นยังไงบ้างละ" เจเนลบอก

              เซเทธกล่าว "พวกเราได้ร่วมสู้กับพองเพื่อนจอมยุทธ์มิวแทนอยด์กันบ่อยๆ ตลอด 3 สัปดาห์ที่ผ่านมานั้น พวกเราร่วมทีมกันแทบไม่ซ้ำหน้าเลยน่ะ" แล้วก็กระซิบบอก "แน่นอน ว่าฉันรู้สึกได้ว่า แซนรอฟแห่งสโตนไฮด์ จะแอบชอบน้องสาวของเราแล้วละสิ"

              "คงไม่ใช่ทินเหมาลีกันใช่มั้ยละ เพราะเท่าที่ดูมา แซนรอฟอายุอ่อนกว่าเหมาลีกันเลยน่ะ" จิลกล่าว

              เลอแชนบอก "ใครบอก แซนรอฟแอบชอบเจ้ห้าต่างหากเล่า" โดยชี้มายังโมคุโตะ ซึ่งคุยกับไซโคลเนีย โฟรซ่าและฟิเกซกันอยู่

              "ยัยโมคุโตะนะหรือ ตลกละ ยัยทอมนั้นไม่มีตรงไหนให้หมอนั้นแอบชอบกันได้เลยนิ" เจเนลกล่าวอย่างไม่เชื่อหู

              เซเทธกล่าว "แต่มันเป็นไปแล้วนะสิ ทุกครั้งที่เราร่วมทีมพร้อมกับพวกสโตนไฮด์นั้น แซนรอฟพยายามจะกระโดดเข้าไปช่วยโมคุโตะกันอยู่บ่อยๆ แม้จะอ้างว่าทำไปเพื่อช่วยไม่ให้โมคุโตะเป็นอันตราย และพอเธอขอบคุณปุ๊บ แซนรอฟก็ทำหน้าข่วยเขินแทน จนทำให้ฉันรู้ว่าแซนรอฟคิดยังไงกับโมคุโตะกันน่ะ"

              "แล้วนายมีบอกกับบรอนเซอรูทกันหรือเปล่าละ" พีวิลถาม เซเทธส่ายหน้า

              เลอแชนกล่าว "นายลืมไปแล้วหรือ ว่าพี่ใหญ่ไม่ชอบให้เจ้โมคุโตะแสดงความเป็นหญิงมากนัก ต่อให้เพศสภาพของอาเจ้เป็นหญิงมาแต่เกิดก็ตามน่ะ สู้เราปิดเงียบไปเลยจะดีกว่า"

              "แล้วพวกนายไม่กลัวว่าไอ้เวปรู้ไปซะทุกเรื่อง มันจะแฉเรื่องนี้เลยหรือวะ" เจเนลถาม

              เลอแชนส่ายหน้า "ไม่มีทางหรอก เพราะพวกเราไม่ได้เล่นมือถือ ไม่ได้ใช้เครือข่ายสังคม แค่เราไม่ใช้เครื่องสื่อสารเหมือนกับพวกนาย หมอนั้นก็ทำอะไรเราไม่ได้หรอกน่ะ"

              "ที่ถูกคือ พวกนายใช้ไม่ค่อยเป็นซะมากกว่าน่ะ" สเปียริทบอก

              ฟันดิวเรคบอก "ถึงแม้ว่าพี่ใหญ่ของเราที่พยายามห้ามมิให้อาเจ้ห้ายุ่งกับผู้ชายหรือแสดงออกถึงความเป็นหญิงกันก็ตาม ดูเหมือนว่าพี่ใหญ่เองก็ปิดเงียบในเรื่องแอบชอบใครบางคนกันอยู่น่ะ"

              "บรอนเซอรูทนะหรือ....ว่าแต่ เขาชอบใครกันน่ะ คงไม่ใช่หนึ่งในพวกเรากันเลยละสิ" พีวิลกล่าว

              เซเทธส่ายหน้า "เปล่าหรอก พีวิล ฉันรู้สึกได้ว่าพี่ใหญ่ จะแอบชอบริเกิร์ลกันแล้วนะสิ เพราะตอนที่เธอไม่อยู่ที่ดาวนั้น พี่ใหญ่เหมือนทำหน้าเศร้าสร้อยและเป็นห่วงใครบางคน แต่ก็รีบกลบเกลือนและทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ครั้นฟันดิวเรคหรือกริมเบอรี่ถาม พี่ใหญ่ก็อ้างทำนองว่า ไม่ต้องมายุ่ง หรือ ไม่เป็นไร กันนี้แหละ"

              "บอกตรงๆน่ะ ว่าถ้าบรอนเซอรูทพูดทำนองนี้ แสดงว่าเขาเป็นจริงๆแล้วละสิ" เจเนลบอก เซเทธพยักหน้า

              พีวิลกล่าว "แต่บรอนเซอรูทก็น่าจะรู้ดีแล้วนิ ว่าริเกิร์ลเป็นนักโทษในความดูแลของพวกเรา เพราะเธอเป็นลูกพี่ลูกน้องกับพวกริดโอกันน่ะ"

              "ใช่ พวกเราจึงหวังว่าพี่ใหญ่น่าจะแยกแยะเรื่องนี้กับเรื่องที่กำลังทำอยู่บ้างน่ะ" เลอแชนกล่าว

              เจเนลเสริม "เพราะว่าพวกเราต่างรู้สาแก่ใจดี ว่าการคบหาคนที่เกี่ยวข้องกับแก็งค์มาเฟียหรือกลุ่มอาชญากร ต่อให้เกี่ยวข้องกับสมาชิกในแก็งค์ทั้งทางตรงหรือทางอ้อมนั้น ล้วนผิดกฎไม่ทางใดทางหนึ่ง ไม่ว่าจะลึกซึ้งหรือไม่ก็ตาม จะได้รับการลงโทษสูงสุดกันนะสิ" แล้วก็ถอนใจขึ้นมา พร้อมกับบอกกับพวกเซเทธว่า "ฉันจึงอยากจะให้พวกนายช่วยจับตามองดูบรอนเซอรูทกันสักหน่อยน่ะ"

              "แล้วพวกนายไม่คิดจะพูดกับพี่ใหญ่เลยหรือ" เซเทธบอก

              พีวิลพยักหน้า "ฉันไม่ให้เรื่องนี้ถูกปล่อยผ่านหรือมองข้ามไปได้หรอกน่ะ" โดยตอนนี้พวกบาร์ทฝึกพวกเฟรดกันแล้ว แม้ว่าพวกเฟรดจะเจ็บตัวมากเลยก็ตาม 
     

               หลังจากนั้น พวกน็อกกี้ก็ถูกเรียกตัวมารับการฝึกจากพวกพีวิลต่อ ซึ่งเนคมาดูซัมกับพวกคอยดูอยู่ "ว่าแต่ นายคุยกับเซเทธและพวกนิ มีเรื่องอะไรกันหรือ" บรอนเซอรูทถาม

              พีวิลบอก "ว่าแต่ นายชื่นชอบริเกิร์ลกันหรือเปล่าละ"

              "เออ...." บรอนเซอรูทชะงัก และเดินพาพีวิลออกไปห่างๆ "....นายพูดอะไรกันแน่น่ะ ฉันไม่ค่อยเข้าใจเลยน่า พีวิล หรือว่าเซเทธพยายามจะร้องขอนายไม่ให้ฉันเอาเรื่องโมคุโตะกันนะ" บรอนเซอรูทบอก

              พีวิลกล่าว "บรอนเซอรูท ถ้านายยังเป็นเพื่อนของฉันละก็ ช่วยบอกมาตามตรงเลยจะดีกว่า อย่าพาอ้อมยาวไปไกลจากประเด็นหลักกันน่ะ"

              "อืมมมมมม นายนิจริงจังมากเลยน่ะ ฉันคงจะโกหกไม่เก่งเลยละสิ ต่อให้ฉันเป็นลูกพ่อไวซ์ไมเซลน่ะ" บรอนเซอรูทกล่าว

              พีวิลตอบ "นายต่างจากไวซ์ไมเซลก็ตรงที่ว่านายรู้จักผิดชอบชั่วดีกันนี้แหละ บรอนเซอรูท" แล้วก็ถาม "ที่เซเทธเล่ามาว่านายชอบริเกิร์ลนิ เป็นความจริงหรือเปล่าละ"

              "ก็....ตั้งแต่ตอนที่เจเนลช่วยริบอยและริเกิร์ลกลับมาอยู่ในความดูแลของนายพลจูเดทต้ากันนี้แหละ แม้ว่าฉันจะเจอเธอและริบอยในบางครั้งเลยก็ตาม โดยที่พวกเขายังสวมหมวกปิดหน้าส่วนหนึ่งกันก็จริง" บรอนเซอรูทบอก "แต่ฉันได้มองใบหน้าของเธอแล้ว ฉันรู้สึกได้ถึงความงามที่อยู่ใต้หมวกและหน้ากาก รวมถึงใบหน้าของเธอกันด้วย แม้ว่าเธอจะเป็นลูกพี่ลูกน้องของกลุ่มพี่น้องที่เลวระยำที่สุดเลยก็ตาม ถ้าเธอเป็นคนธรรมดา ฉันคงขอเธอแต่งงานกันแล้วละ"

              พีวิลได้ฟังก็อึ้งๆ แต่ก็ถามกลับไปว่า "นายคิดอยากงั้นจริงๆนะหรือ เพื่อน มันไม่เร็วไปหน่อยเลยหรือไงกันน่ะ"

              "กะแล้ว ว่านายต้องตอบแบบนี้จนได้สิน่า ต่อให้ไปถามคนอื่นกันก็ตามน่ะ" บรอนเซอรูทยิ้มและส่ายหน้าขึ้นมา

              พีวิลตอบ "ทุกคนก็ให้คำตอบเหมือนเดิมกันนี้แหละ บรอนเซอรูท ถึงนายไม่มาถามฉันก่อนเลยก็ตามน่ะ" แล้วก็บอก "แต่ นายก็รู้น่ะ ว่าฉัน และพวกเราทุกคนเป็นห่วงนาย แล้วก็ห่วงโมคุโตะกันด้วย ซึ่งพวกเราก็ไม่อยากให้นายทำอะไรผิดพลาดไปมากกว่านี้เลยน่ะ"

              "ส่วนหนึ่งเพราะว่า พวกริดโอบุลท์ ยังไม่ถูกจับกุมหรือถูกปราบปรามกันจริงสิน่ะ" บรอนเซอรูทถาม

              พีวิลพยักหน้า "และถ้านายเป็นห่วงริเกิร์ลกันจริงๆ นายก็ไม่ควรที่จะผิดกฎกันเลยน่ะ อีกอย่าง พวกเราเองยังไม่รู้ว่าภายภาคหน้าจะเกิดอะไรขึ้นกันบ้าง ต่อให้เรารู้ว่าพวกเดลอาเนี่ยน ทรอยอาร์ สเตรดาร์ธจะโผล่มาเอาเรื่องพวกเรากันก็ตาม เช่นเดียวกับพวกริดโอกันด้วย สำหรับฉัน ฉันยังเห็นว่ามันยังเร็วไปกันน่ะ"

              "มันก็จริงของนายกันนี้แหละ แม้ว่าพวกนายจะช่วยดูแลริบอยและริเกิร์ลในช่วงที่ทั้งคู่อยู่ในไทรแองเกิ้ลเลยก็ตาม แต่....ก่อนที่พวกริดโอจะจบเห่ลงไปนั้น ฉันจะทำตามที่นายขอเลยแล้วกัน" บรอนเซอรูทบอก พีวิลยิ้มขึ้น แต่บรอนเซอรูทกล่าวไปว่า "ถ้าหากนายพูดให้ฉันละเว้นโมคุโตะกันละก็ อย่าดีกว่าน่ะ เพราะถึงแม้ว่าเธอจะได้รับการช่วยเหลือจากแซนรอฟเลยก็ตาม"

              พีวิลถอนใจก่อนจะบอกว่า "แต่นายก็รู้ดีแล้วนิ ว่าโมคุโตะเป็นผู้หญิงน่ะ นายอาจจะห้ามไม่ให้เธอตายได้ แต่นายจะมาทำตัวเป็นก้อนหินขวางกระแสน้ำไม่ได้หรอกน่ะ เผลอๆ ก้อนหินนั้นอาจถูกกระแสน้ำสาดจนแตกกระจุยก็เป็นได้"

              "แน่ละ เพราะพวกเราและพวกนายต่างก็เป็นก้อนหินก้อนเป้งๆ ที่ขวางกระแสน้ำที่เป็นภัยคุกคามเข้ามาในดาวของเราแล้วนิ" บรอนเซอรูทกล่าว "ที่แย่ก็คือ เหล่ากองก้อนหินทั้งหลายนั้น มีก้อนหนึ่งที่ผุกร่อนรวมอยู่ด้วยและพร้อมจะหลุดจากกองได้ทุกเมื่อกันน่ะ"

              พีวิลพยักหน้า "เพียงแต่ตอนนี้ พวกเราไม่อยู่ในฐานะที่จะทำอะไรได้กันนะสิ เพราะขนาดคุณแดนเข้าใกล้ตัวแล้ว ยังเกือบตายด้วยน่ะ"

              "พีวิล นายกับพวกเองก็ระวังตัวไว้หน่อยน่ะ เพราะฉันรู้สึกได้ว่า ตอนนี้ศัตรูผู้รุกรานทั้งหลายคงไม่เอาพวกนายไว้แน่ๆเลยน่ะ" บรอนเซอรูทบอก

              พีวิลพยักหน้าเห็นด้วย "พวกนายเองก็เช่นกันน่ะ ตอนนี้ผบ.บัลโต้เหมือนถูกลงโทษหนักแล้ว พยายามอย่าสร้างปัญหาให้ผบ.บัลโต้และท่านประธานาธิบดีปวดหัวกันอีกละ"


               "แล้วหลังจากนั้น พวกเราก็ฝึกฝนพวกเฟรดและพวกน็อกกี้กันมาตลอด แม้ว่าในบางครั้ง ริบอยและริเกิร์ลแวะมาดูแลพวกเรากันเลยก็ตามน่ะ" เจเนลเล่าต่อ

               ลิเนียร์ตี้กล่าว "ไม่นึกเลย ว่าบรอนเซอรูทจะชอบริเกิร์ลกันด้วย ทั้งๆที่ริบอยและริเกิร์ลเป็นลูกพี่ลูกน้องของพวกริดโอบุลท์ ซึ่งเป็นพวกอาชญากรระดับเป้งกันด้วยน่ะ"

              "ดีแล้วละ พีท ที่เธอเกลี้ยกล่อมบรอนเซอรูทกันไว้ เพราะตามกฎแล้ว ถ้าเจ้าหน้าที่คนไหนคบหา หรือสนิทสนมฉันชู้สาวต่อผู้เกี่ยวข้องกับอาชญากรระดับอันตราย หรือเป็นคนร้ายเสียเอง ไม่ว่าจะสนิทกันมากแค่ไหน โทษที่ได้รับนั้นถือว่าหนักหนาไม่น้อยเลยน่ะ" โฟรซ่าบอก

              มาสวาร์ทาร์กล่าว "และยิ่งมีการปกปิดบังมิให้มีคนอื่นล่วงรู้ แล้วปล่อยให้เวลาผ่านไปนาน ก็จะยิ่งทวีความผิดกันมากขึ้น ถ้ายิ่งฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งตั้งครรภ์นั้น ต่อให้คนที่ก่อไม่ถูกประหารก็ต้องถูกจำคุกตลอดชีวิตกันด้วยนะสิ"

              "แล้วไม่มีการผ่อนปรนใดๆเลยหรือคะ" แอนเดรียกล่าว

              เนคมาดูซัมบอก "พวกเราพึ่งจะมารู้จากท่านนายพลเพอซิอัสมาเมื่อ 2 เดือนก่อนนะสิ ว่านายพลวอลเลนซ์เพิ่มกฎเกณฑ์ให้หนักข้อมากขึ้น ถึงขั้นที่ ห้ามนายทหารห้ามมีสัมพันธ์รักกันในระหว่างงานเลยน่ะ" แล้วก็เล่ามาว่า "ที่สำคัญ ไอ้กฎนี้มันเคยถูกนำมาใช้ในช่วงที่โอเวอร์เดสไม่ได้อยู่ในแรซัลก้ามาตลอด 20 ปีกันด้วยน่ะ"

              "แล้วลุงเบติสและป้าวิลด้า รวมถึงนายพลเพอซิอัสและนายพลจูเดทต้าแต่งงานได้ยังไงกันละ" โฟรซ่าบอก

              ฟิเกซกล่าว "ลุงเบติสและป้าวิลด้าแต่งงานได้ เพราะไซมาเทนอนุญาตให้สมรสพระราชทานกันนะสิ เนื่องจากว่าลอร์ดเฟรมิเดรก้า พ่อของป้าวิลด้าเห็นว่าเหล่าลูกเขยที่เข้ามาสู่ขอนั้น เป็นลูกชายของพวกกังฉินหรือพวกหาผลประโยชน์บนความทุกข์ของผู้อื่น บวกกับว่าป้าวิลด้าสนิทกับลุงเบติสมาอย่างช้านาน เนื่องจากทั้งคู่ร่วมรบด้วยกัน แม้จะอยู่ต่างกองกันก็ตาม อีกทั้งลอร์ดเฟรมิเดรก้าเห็นว่าลุงเบติสเป็นคนซือตรงและเป็นลูกผู้ชายที่เหมาะสมจะเป็นลูกเขย ซึ่งไซมาเทนเองก็รู้เรื่องเลยยื่นมือเข้ามาช่วย แน่นอน ว่าเรื่องการสมรสพระราชทานของไซมาเทนนั้น มีหรือที่พวกเราและพวกเนคมาดูซัมจะไม่รู้เรื่องกันน่ะ"

              "ส่วนกรณีของนายพลเพอซิอัสและนายพลจูเดทต้านั้น เป็นความเห็นชอบของจอมพลแฮซกริฟ ในช่วงที่เขาดำรงตำแหน่งเป็นผบสส.ของกองยานรบ โดยที่ทั้งคู่นั้นได้ขออนุญาตจากจอมพลแฮซกริฟเหมือนกับคู่อื่นๆ เพราะกฎนั้นระบุไว้ ว่าถ้าอยากจะแต่งงานก็ต้องมาขออนุญาตจากผู้บังคับบัญชาและมีความเห็นชอบจากพ่อแม่ทั้งสองฝ่ายกันก่อน ทั้งคู่จึงแต่งงานได้ ไม่ว่าจะเป็นการแต่งด้วยความรักหรือผู้ใหญ่จับคลุมถุงชนเลยก็ตามน่ะ" เนคมาดูซัมบอก "แน่นอน ว่ากรณีนี้รวมถึงพวกคุณพ่อคุณแม่ของเรากันด้วยน่ะ" ฟิเกซพยักหน้า

              แอบไบออสถาม "แล้วที่แรซัลก้า ไม่มีสวัสดิการให้กับทหารหญิงที่ลาจากราชการเพราะการตั้งครรภ์หรือออกไปเลี้ยงลูกกันเลยสิน่ะ"

              "ก็ต้องมีอยู่แล้วน่ะ เพราะตอนที่ป้าวิลด้าตั้งท้องบรูทูซนั้น ป้าใช้สิทธิ์ลาจากราชการ 8 เดือน โดยที่ลุงเบติสเองก็ใช้สิทธิ์นั้นด้วย เพราะตอนนั้นป้าวิลด้าอยู่ที่บ้านเกิดของลุงเบติสกันด้วยน่ะ" ฟิเกซกล่าว

              เนคมาดูซัมบอก "ส่วนแกตไทซ์และควอเดี่ยมนั้น แต่งงานแล้วต้องมาขออนุญาตผู้บังคับบัญชาให้ลากลับดาวบ้านเกิด ในช่วงที่ฝ่ายหญิงตั้งท้องแล้วนะสิ โดยที่ฝ่ายชายนั้นจะเลือกว่าจะอยู่ที่แรซัลก้าหรือตามไปบ้านเกิดกันด้วย ซึ่งก็ต้องมาขออนุญาตจากแม่ทัพโอลดาธกันนี้แหละ"

              "ส่วนหนึ่งเพื่อให้แน่ใจว่า จะไม่มีใครหนีหายไปเหมือนกับคุณเมซ่าหายไปจากมือของแม่ทัพโอลดาธเลยสิน่ะ" แอบไบออสกล่าว เนคมาดูซัมพยักหน้า

              พีวิลกล่าว "แปลว่า ทางแรซัลก้าเองก็ใส่ใจบุคลากรทางทหารเหมือนกันด้วยนะสิ"

              "แต่มันไม่เกินไปหน่อยเลยหรือ เพราะถ้าคนที่รักกันอยู่ดีๆเกิดต้องมาเลิก เพราะไอ้กฎบ้าๆแบบนี้กันน่ะ" ไซโคลเนียบอก

              สเตฟอร์ดกล่าว "ทีแรกฉันก็เห็นด้วยกับเธอน่ะ แต่....จากสถานการณ์ที่พวกเราไปก่อเรื่องในเขตอวกาศของพวกเดลอาเนี่ยนกันนั้น ย่อมหมายถึงการทำให้พวกมันโมโหเรายิ่งขึ้น ถึงขั้นที่อาจจะสร้างความรุนแรงให้กับกองทัพและกองรบกันด้วย เพื่อหลีกเลี่ยงมิให้เกิดความสูญเสียจากเหตุร้ายดังกล่าว เลยต้องเบรคมิให้มีเจ้าหน้าที่คบหาในระหว่างงาน และไม่ให้มีการแอบไปแสดงความรักนอกกองบัญชาการกันด้วย" แล้วก็อธิบายไปว่า "ลองคิดดูน่ะ ว่าถ้าเกิด ฉันรู้ว่าโฟรซ่าถูกฆ่าตายขึ้นมา ฉันจะทำเช่นไรกันละ"

              "ลูกพี่ก็ต้องยั้วะและบันดาลโทสะ ออกไปจัดการกับพวกที่มันฆ่าอาเจ้โฟรซ่าเพียงลำพังกันนะสิ" เจเนลบอก

              สเตฟอร์ดพยักหน้า "ที่สำคัญ พวกนายเองก็ระมัดระวังเรื่องรักๆใคร่ๆกันด้วยน่ะ เพราะพวกเรายังไม่รู้ว่าฝ่ายตรงข้ามมาไม้ไหน อันตรายแค่ไหนกันก็ตาม พวกเราก็ต้องทำตัวไปตามปกติ เพราะไม่ใช่แค่พวกเราไม่ถูกเบื้องบนเอาเรื่องมาลงโทษ เนื่องจากว่าพวกเราเป็นกลุ่มเสี่ยงจากการที่พวกเราแชร์ห้องกันนอนเลยน่ะ" แล้วก็บอก "ที่แย่ไปกว่านั้นก็คือ ไอ้ราฟโฟ่รู้ไปซะทุกเรื่อง เริ่มหาเรื่องนายกับจายด์แล้วละ ว่าเป็นพวกกินเด็กแล้วนะสิ เจมส์"

              "ไอ้บ้านั้นมันคิดว่ายัยเปี้ยกมีอะไรดีนักหรือ ฉันกับจายด์ถึงต้องทำเช่นนั้นเลยนะ" เจเนลกล่าวอย่างไม่พอใจ

              จายด์บอก "นั้นสิ ต่อให้จิลเป็นผู้ใหญ่ที่ดูสวยแค่ไหน แต่สภาพนี้เหมือนลูกสาวของเพื่อนร่วมงานดีๆนี้เอง ฉันไม่คิดที่จะทำเช่นนั้นหรอกมั่ง"

              "นี้นายสองคนพูดมานิ ดีๆทั้งนั้นเลยน่า" จิลกล่าวอย่างหงุดหงิด และหันมาถาม "ฟิเกซ แล้วซาดูร่ายังหาตัวไอ้คนปล่อยข่าวรู้ไปซะทุกเรื่องเจอหรือยังละ"

              ฟิเกซกล่าว "คงยากน่ะ เพราะซาดูร่ายังถูกคุมตัวอยู่ จึงให้ออกมาข้างนอกไม่ได้เลยน่ะ ต่อให้ในช่วงนี้พวกริดโอมันไม่ออกมาป่วนเมืองเลยก็ตาม แต่มิใช่กับอดีตแก็งค์เดิมของเธอกันนะสิ"

              "กริเดี้ยนโร็คของคามาลตัสละสิน่ะ" เนคมาดูซัมกล่าว "แม้จะไม่ได้ยินข่าวคราวของมันมาตลอด 3 เดือนและสามสัปดาห์ แต่มันคงคิดที่จะหาเรื่องกับพวกเรา เพื่อหวังจะได้ตัวไซเมี่ยนมาแน่ๆ"

              มาสวาร์ทาร์กล่าว "เช่นเดียวกันกับกลุ่มกบฎของคิฟทรอนอฟด้วย ไม่รู้ว่าปานนี้ผบ.ฮาซาเดนกับพวกจะโดนอะไรไปบ้างน่า"

              "แม้ว่าตลอด 3 เดือนที่ผ่านมานั้น พวกเราฝึกพวกเฟรดและพวกน็อกกี้ไป โดยที่กองทหารและกลุ่มแมนิเกเตอร์อื่นๆเองรับมือกับภัยคุกคามที่พวกเดลอาเนี่ยนนำมาได้เรื่อยๆกันน่ะ" พีวิลบอก โดยนึกถึงในช่วง 2 สัปดาห์ต่อมาหลังจากการฝึกในป่าแล้ว "ตรึงๆๆๆๆๆๆๆๆๆ" เซนครีทโทรนฟอลคอนและวอลเจอร์วิ่งไปบนพื้นทะเลทรายที่เวลแซนดร้า พร้อมกับฟาลครีด้าพีเจี้ยนที่วิ่งตามหลังมาด้วย

              "นี้จำเป็นต้องวิ่งแบบนี้เลยหรือคะ ในเมื่อหุ่นเหล่านี้สามารถบินได้กันน่ะ" นาเดียบอก โดยที่เธอสวมเกราะและขับหุ่นไป ซึ่งเธอไม่ได้สวมหมวก เช่นเดียวกับเฟรดและคีธด้วย

              "ถ้าเกิดว่าเครื่องยนต์หรือบูสเตอร์ใช้การไม่ได้ขึ้นมากันละ อย่างน้อยโมบิลลอยด์ที่เธอขับก็มีสองขาที่ยังพอใช้การได้ ต่อให้ต้องวิ่งหนีพวกศัตรูหรือรับมือกับพวกที่บินได้กันก็ตามน่ะ" วิลด้าใช้โทรโข่งบอกโดยที่เธอจับตาการฝึกจากภาคอากาศกันอยู่ เช่นเดียวกับ

              "ลุงน่าจะให้หุ่นดีๆกับเราบ้าง ไม่ใช่หุ่นแบบที่พวกเฮเรเค้นใช้อยู่กันน่ะ" น็อกกี้บอก โดยที่เขาควบคุมการ์เซนครีท พร้อมกับแจ็สและแด็กซ์ด้วย เพียงแต่หุ่นของทั้งคู่ยังใช้แขนขาแบบการ์เซนเดิมกันอยู่

              "แต่ดูเหมือนว่าหุ่นรบดีๆที่พวกเธอว่ามานั้น เบื้องบนให้เราไม่ได้กันนะสิ แค่การ์เซนครีทที่ผู้การเดลิคมอบให้ก็เกินพอแล้วละ" เบติสบอก "อีกอย่าง บรูโน่กับพวกยังเร็วกว่าพวกเธออีกน่ะ ต่อให้พวกเขาใช้สองขาแบบนี้วิ่ง และไม่ได้มีการจูนเครื่องเพิ่มเลยก็ตามน่ะ"

              นิคกล่าว "แม้กระทั่งการปรับเครื่องก็ด้วยละสิครับ"

              "ในสถานการณ์จริง หากพวกเธอโดนเล่นงานจนเครื่องยนต์บูสเตอร์ใช้การไม่ได้ และทำให้ไอ้ที่จูนมานั้นกลับมาเป็นแบบเดิมละก็ เธอกับพวกก็ต้องพึ่งพาตัวเองกันนี้แหละ" เบติสกล่าว "ยิ่งพวกเธอมีแขนขาเหมือนกับพวกลิมฟ่านั้น ยิ่งต้องไปให้เร็วกว่าพวกเฟรดที่ยังมีแขนขาเป็นเลือดเนื้อปกติกันด้วย จะมาชักช้าแบบนี้กันไม่ได้เลยน่ะ"

              แด็กซ์บอก "รู้งี้น่าจะถามบรูโน่ซะก็สิ้นเรื่องแล้วนิ ว่าฝึกกับพวกลุงและป้ามันโหดขนาดไหนน่ะ"

               "ตอนนี้พวกเธอเอาตัวเองให้รอดกันก่อนเถอะ" วิลด้ากล่าว โดยตอนนี้พวกเนคมาดูซัมอยู่ที่ยานไทรแองเกิ้ล แต่มาอยู่ข้างนอกบนดาดฟ้ายาน

              "นี้คงจะเป็นการฝึกของลุงเบติสและป้าวิลด้าตอนอยู่ที่ควอดาน่าละสิครับ" ฟูลออเรสกล่าว

              "ใช่ แม้ว่าพวกเราไม่ได้มาดูด้วยตัวเองเพราะมีเรื่องต้องทำกันก็ตามน่ะ" พีวิลกล่าว

              เมดิน่าบอก "แต่มันจะดีหรือคะที่ให้เอาหุ่นออกมาวิ่งบนทะเลทราย ทั้งๆที่มีระบบบูสเตอร์อยู่กลางหลังกันน่ะ"

              "นั้นเป็นวิธีสร้างความคุ้นเคยระหว่างนักบินและโมบิลลอยด์กันนะสิ เพราะถ้าเราขยับตัวเร็วในขณะที่โมบิลลอยด์ของเราไม่เร็วตาม จนทำให้โมบิลลอยด์แสดงประสิทธิภาพได้ไม่เต็มที่ เผลอๆอาจจะทำให้หุ่นพังเร็วก็เป็นได้น่ะ" ฟิเกซกล่าว "ที่สำคัญ ลุงเบติสและป้าวิลด้าเองก็เคยผ่านการฝึกทำนองนี้กันมาแล้ว และเคยฝึกไกซ์ มิลด์และพวกบรูโน่กันมาด้วยน่ะ"

              ฟูลออเรสถาม "แล้วคุณกับพวกคุณคงจะฝึกทำนองนี้มาก่อนละสิครับ"

              "ถ้าเป็นฉัน พีวิล คลอเวฟละก็ พวกเราผ่านการฝึกควบคุมโมบิลลอยด์กันมาก่อนในช่วงที่อยู่ในสังกัดเดิมแล้วละ" มาสวาร์ทาร์กล่าว "แน่นอน ว่าเจเนล จายด์ จิล และพลัสเชอริทเองก็รู้วิธีการควบคุมโมบิลลอยด์ด้วยเช่นกัน ส่วนสเปียริทเองก็รู้วิธีการควบคุมจากการขับการ์เซนท์มาร์ควันมาก่อน และค่อยๆเรียนรู้เรื่อยๆในช่วงที่ได้ฟาลครีด้ามาจากคุณวูลลิเซียกันน่ะ"

              เนคมาดูซัมบอก "ส่วนฉันกับฟิเกซนั้น ก็ได้รับการฝึกควบคุมโมบิลลอยด์ประจำเผ่ากันนี้แหละ เพียงแต่เราจะเริ่มตั้งแต่อายุ 13 แล้วนะ"

              "13 เลยหรือ มันไม่เร็วไปหน่อยเลยหรือคะ" เมดิน่าบอก

              ฟิเกซกล่าว "เร็วนะ เร็วอยู่แล้ว เพราะหลังจากนั้น 2 ปี เราต้องรับการทดสอบร่วมกับเพื่อนร่วมรุ่นอีกหลายร้อยตน และต้องชนะการทดสอบนี้ เพื่อที่จะออกไปจากดาวไปยังแรซัลก้า รับการฝึกฝนศาสตร์การต่อสู้จากนักรบหรือหัวหน้าทหารกันที่นั้น ซึ่งก็คือพ่อของฉันและลุงเนคคูคัสนี้แหละ"

              "นั้นคงจะเป็นทำเนียมและประเพณีที่พวกคุณสืบต่อกันมาเลยสิครับ" ฟูลออเรสบอก

              เนคมาดูซัมพยักหน้า "แต่ถึงแม้ว่าตอนนี้พวกเราไม่เหลือดาวบ้านเกิดกันแล้วก็ตาม พวกควอเดี่ยมเองก็คงจะปรับตัวได้ เช่นเดียวกับพวกแกตไทซ์กันด้วยน่ะ"

              "นายยังกังวลเรื่องพวกแกตไทซ์กันอยู่สิน่ะ" พีวิลกล่าว

              เนคมาดูซัมพยักหน้าอีก และพูดด้วยความกังวลใจไปว่า "แม้ว่าพวกเราไม่ได้ปะทะกับพวกเขาเลยก็จริง แต่....ฉันแน่ใจว่าทั้งเมลกวินก็ดี ทั้งเกฟฟาร์ดก็ดี คงไม่ปล่อยให้พวกเราอยู่เป็นสุขได้แน่นอน" แล้วก็มองดูฝ่ามือขวาของตน "แม้ว่าฉันจะรู้ความจริงที่คุณแม่มีส่วนช่วยพวกแกตไทซ์ดำจนถูกฆ่าตายไปเลยก็ตาม แต่ทั้งหมดที่เกิด มันเป็นความผิดของฉันเองน่ะ"

              "พวกเราเข้าใจนายดีน่ะ เนคมาดูซัม ว่าการที่นายต้องมาสู้กับพี่น้องร่วมเผ่าของนายนั้น นายต้องเจ็บปวดกันแค่ไหนด้วยน่ะ" สเตฟอร์ดบอก

              มาสวาร์ทาร์กล่าว "เรื่องที่นายท้าทายต่อจักรวรรดิ์แรซัลก้าด้วยการจัดการกับแลมเซนนั้น นายทำถูกแล้ว เพราะว่าแลมเซนคงไม่คิดที่จะปล่อยฉัน พีวิล และลิเนียร์ตี้ไปได้แน่ๆ ซึ่งนายก็คงไม่มาถึงจุดนี้ด้วยน่ะ"

              "ที่นายตัดสินใจไปนั้น เพราะนายรู้ว่าการกระทำของฝ่ายจักรวรรดิ์แรซัลก้านั้นเป็นการกระทำที่ไม่ถูกต้องมาตั้งแต่ต้น ถ้านายไม่หยุดยั้งหรือนิ่งเฉย ปานนี้พวกเราและพวกประธานาธิบดีคงพ่ายแพ้อย่างรวดเร็วแน่นอนกันน่ะ" พีวิลบอก

              คลอเวฟกล่าว "และนายก็คงไม่ลืมน่ะ ว่าปัญหาของนายนั้น ก็เป็นปัญหาของพวกเรากันด้วยน่ะ"

              "ฉันเข้าใจเรื่องนี้ดีแล้วละ พวก และเราเองก็มีเรื่องที่ต้องทำกันแล้วนิ" เนคมาดูซัมกล่าว โดยตอนนี้พวกบาร์ทนั้นยังใช้การ์เซนที่ควบคุมด้วยระบบประสาทกันอยู่

              เจเนลบอก "เพราะพวกเรามีพวกศัตรูที่ไม่หวังดีอยู่เยอะด้วยน่ะ"

              แล้วการฝึกฝนของพวกไทรเวเซอร์กับเหล่าสมาชิกกองกำลังหลังฉากทั้งสองกลุ่มใหม่ก็ดำเนินไปตลอด 3 เดือนด้วยกัน

              "และตอนนี้เราเหลืออีก 4 วันในการฝึกพวกเฟรดและพวกน็อกกี้กันแล้ว หลังจากที่พวกเราขัดเกลาพวกเขาเอาไว้แล้ว" โฟรซ่าบอก "ตั้งแต่การฝึกให้พวกเฟรดใช้อาวุธดาบ ฝึกให้ควบคุมโมบิลลอยด์พร้อมกับพวกน็อกกี้ การรับมือกับกลุ่มศัตรูที่มารอบทิศ รวมถึงให้ฝึกพร้อมกับพวกน็อกกี้ และสู้กับพวกเฮเรเค้นกันด้วย ซึ่งเราคิดว่าคงจะใช้มากกว่า 3 วันในแต่ละบทเรียนแน่ๆ"

              มาสวาร์ทาร์กล่าว "โชคยังดีมาก ที่พวกเฟรดผ่านการประเมินจากพวกเรา เช่นเดียวกับพวกน็อกกี้กันด้วยนะสิ"

              "แต่ไม่ค่อยชอบเลยว้า กับการให้ไอ้พวกเด็กเกรียนสามตัวนั้นผ่านการทดสอบไปได้น่ะ" คลอเวฟบ่น

              สเตฟอร์ดกล่าว "อย่างน้อย พวกเขาก็พิสูจน์ให้เราเห็นถึงความสามารถของพวกเขาไว้ ซึ่งก็ดีกว่าปฏิเสธหรือให้พวกเขาตกกันนี้แหละ"

              "เพียงแต่ติดอยู่ตรงที่ว่าเฟรดและนาเดียยังขาดประสบการณ์ในภาคสนาม ซึ่งหมายรวมถึงงานหลักของพวกเขาด้วยนี้สิ ต่อให้มีคีธเป็นตัวช่วย และยังเหลือแฮรี่และคาเซคาว่าในหน่วยเป็นหัวหน้าและรองหัวหน้ากันก็ตามน่ะ" พีวิลบอก

              ฟิเกซพยักหน้า "จริงด้วยน่ะ เพราะงานของกองกำลังหลังฉากคือหยุดพวกทรอยอาร์และสเตรดาร์ธ ซึ่งพวกอัศวินกางเขนขาวและพวกองค์ชายสามรวมอยู่ในนั้นด้วยนะสิ"

              "และนั้นหมายถึง เฟรดต้องต่อกรกับสไปค์กันอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ด้วยน่ะ ต่อให้เฟรดเองยังไม่รู้ฐานะของสไปค์ เช่นเดียวกันกับสไปค์เองยังไม่รู้ว่าเฟรดรับช่วงต่อจากคุณแดนกันไว้แล้วน่ะ" เนคมาดูซัมบอก "ซึ่งพวกเราเองต่างก็รู้สาแก่ใจดี เพียงแต่ เรายังไม่รีบพูดออกมาก็เท่านั้นเองน่ะ"

              แอบไบออสบอก "พูดง่ายๆก็คือ พวกเราปล่อยให้เฟรดรู้ด้วยตัวเองอย่างงั้นสิน่ะ แต่พวกนายไม่กลัวว่าเฟรดจะโกรธเราในเรื่องปิดบังกันเลยหรือ"

              "ที่ถูกคือ เฟรดจะไม่เชื่อเรากันซะมากกว่า เพราะเขายังคิดว่าสไปค์เป็นเพื่อนของเขา เพียงแต่เฟรดยังไม่รู้ถึงสถานะที่แท้จริงของสไปค์ก็เท่านั้นเอง" พีวิลกล่าว

              สเปียริทบอก "แล้วรวมไปถึงนาเดียด้วยหรือเปล่าละ เพราะเราทราบดีแล้ว ว่าเธอหาเรื่องกับอัศวินทวนมังกรไฟสุดแสบนั้นแล้วน่ะ"

              "ถ้าเป็นนาเดียละก็ เราปล่อยให้เธอรู้ด้วยตัวเธอเองจะดีกว่า เพราะ....เธอเผชิญหน้ากับฮีธมาก่อน และคงจะรู้แพทเทิร์นของเขากันไว้แล้ว หากแต่ฮีธยังไม่รู้ว่า ไรซิ่งพิเจี้ยนที่เขาสู้เป็นนาเดียกันน่ะ" ฟิเกซกล่าว

              มาสวาร์ทาร์บอก "และถ้าให้พวกเฟรดและพวกน็อกกี้ออกภาคสนาม แล้วมาเจอกับพวกทรอยอาร์และสเตรดาร์ธกันละก็ พวกเขาก็ต้องรู้แน่ๆ ถึงความเปลี่ยนแปลงของหน่วยรบวิหคในตอนนี้ และรู้ว่ามีอีกทีมเพิ่มเข้ามากันด้วย ซึ่งนั้นหมายถึง ทั้งสองฝ่ายจะเบนเข็มมาเล่นงานพวกเขาเพิ่มได้แน่ๆน่ะ"


              "กิ้งก้องๆๆๆ" เสียงออดหน้าบ้านดังขึ้น "ผู้ว่าการของเรามาเก็บภาษีกันอีกละสิ" คลอเวฟบอก

              เจเนลบอก "เมื่อวานก็ให้ไปทีหนึ่งแล้ว ยังไม่พออีกหรือไงกันน่ะ" พีวิลเลยเดินไปดูข้างนอก

              "เออ แฮรี่แวะมาหาพวกเรากันน่ะ" พีวิลกล่าว

              ไซโคลเนียบอก "จริงด้วยน่ะ เพราะตอนนี้แฮรี่เป็นหัวหน้าหน่วยรบวิหคต่อจากคุณแดนกันไปแล้วนิน่า" พีวิลเลยเดินออกไป ซึ่งแฮรี่เดินเข้ามาในบ้าน

              "ว่าแต่ ที่แวะมานิ คงไม่ใช่เพราะว่าน็อกกี้ไปหาเรื่องชกต่อยกับเฟรดหรือนิคกันใช่มั้ยละ" เจเนลบอก

              แฮรี่กล่าว "เปล่าหรอกครับ ถึงทำเช่นนั้นได้ คุณแรมเบจหรือคุณช็อปเปอร์ก็เข้ามาร่วมแจมกันด้วยนะครับ" แล้วก็บอกไปว่า "แต่ที่แวะมานี้ เพราะว่าคุณโดซี่แจ้งข่าวให้พวกคุณทราบกันสักหน่อยนะครับ"

              "ว่ามาเลย พวกเราฟังอยู่น่ะ" พีวิลกล่าว

              แฮรี่พยักหน้า "อย่างที่คุณรู้มา ตอนนี้หมอเบ็ตตี้และคุณทันกุนพักฟื้นกันอยู่ จนตอนนี้พวกเขาพร้อมกลับมาทำงานได้แล้วละครับ"

              "แต่ถึงกลับมาทำงานได้ ก็คงกลับมาสวมเกราะออกรบต่อไม่ได้เลยสิน่ะ" แอนเดรียกล่าว

              แฮรี่ตอบ "ครับ คุณทันกุนสูญเสียสมรรถนะในการวิ่งลงไป เพราะการถูกยิงที่ขานั้นทำให้เขาวิ่งได้ช้าลง แม้จะได้รับการบำบัดจนทำให้คุณทันกุนขยับมือและเท้าไว้ได้ก็ตาม นั้นคงจะเบรคให้เขาใจเย็นลงได้บ้าง" แล้วก็พูดต่อ "ส่วนหมอเบ็ตตี้ คงต้องสวมแว่นสายตาต่อ เพราะถึงแม้ว่าดวงตาจะได้รับการบำบัดจนพอมองเห็นได้ แต่ยังต้องมารับการตรวจอาการทุกๆ 1 หรือ 2 สัปดาห์กันนะครับ"

              "นั้นไม่แปลกหรอก เพราะหมอเดเมี่ยนมาบอกกับพวกเรามาตลอดเวลาแล้วละ" พลัสเชอริทกล่าว

              เจเนลบอก "แต่ปัญหาจริงๆนั้นอยู่ที่คุณแดนละสิน่ะ" แล้วหันมาถาม "แล้วนายไม่ได้ติดต่อกับคุณแดนที่โรงพยาบาลทหารเลยหรือ"

              "บอกตรงๆนะครับ ว่าคุณโดซี่ ผม และมาริ ยังติดต่อหาคุณแดนไม่ได้เลยน่ะ นับตั้งแต่คุณแดนออกจากเมืองนี้ไปอยู่ที่โรงพยาบาลทหารมาได้ 2 เดือนแล้วนะครับ" แฮรี่บอก "ที่สำคัญ ผมไม่สามารถติดต่อไปหาทหารที่ผบ.บัลโต้ส่งไปคุ้มกันคุณแดนเลย แม้ว่าผมมียศที่ด้อยกว่าทหารที่คุ้มกันคุณแดนเลยก็ตาม ผมแค่หวังว่าคุณแดนคงไม่เป็นไรกันนะครับ"

              มาสวาร์ทาร์ถาม "แล้วเธอมีแจ้งบอกคุณเมย์หรือยังละ"

              "ผมบอกกับคุณเมย์ในช่วงที่เฟรดไม่ได้อยู่ที่บ้านกันนะครับ แม้ว่าคุณเมย์จะรู้สึกเป็นห่วงคุณแดนไม่น้อย ในเรื่องที่ขาดการติดต่อไปก็ตาม แต่ผมคิดว่าคุณเมย์คงไม่อยากให้เฟรดเป็นห่วงกันนะครับ" แฮรี่บอก

              พีวิลบอก "นั้นไม่แปลกหรอก สภาพของคุณแดนย่ำแย่หลังจากถูกยิงจนเกือบตายไปแล้ว คงรับมือกับมือสังหารมรณะนั้นไม่ได้น่ะ"

              "แต่เราจะมาปิดบังเฟรดก็ไม่ได้ด้วย เพราะเรารู้ว่าเฟรดในเวลานี้เป็นส่วนหนึ่งในกองกำลังที่คุณแดนทำงานให้กันไปแล้ว เพียงแต่พวกเรายอมให้เฟรดเสี่ยงไปด้วยไม่ได้แน่ๆน่ะ" มาสวาร์ทาร์กล่าว

              ฟิเกซบอก "แน่ละ เพราะคุณแดนรู้ว่านายพลวอลเลนซ์เกี่ยวข้องกับพวกเดลอาเนี่ยนกันแล้ว ยังเกือบตายเพราะน้ำมือของพวกดัสท์คิลเลอร์ ถ้าเฟรดรู้ขึ้นมา เกรงว่าเราต้องเสียเฟรดไปแน่ๆ เพราะพวกดัสท์คิลเลอร์เองไม่สนว่าใครเก่งใครอ่อน ถ้าได้รู้ว่าเป้าหมายเป็นใคร พวกนั้นทำได้เพียงอย่างเดียวก็คือเชือดเป้าหมายทิ้งกัน ซึ่งเรารู้ ว่าพวกดัสท์คิลเลอร์เองก็เก่งกาจพอตัวด้วยน่ะ"

              "ที่ว่าเก่งกาจพอตัวนั้น พวกนั้นคงจะหาเรื่องลอบสังหารแกตไทซ์และควอเดี่ยมกันละสิน่ะ" คลอเวฟกล่าว

              เนคมาดูซัมพยักหน้า "ถ้าแกตไทซ์และควอเดี่ยมที่ตกเป็นเป้านั้น มีฝีมืออ่อนหัดมากหรือไม่รู้ว่ากำลังเล่นกับใครกันอยู่ มันก็เป็นไปได้นี้แหละ แต่ส่วนมาก พวกดัสท์คิลเลอร์จะเป็นฝ่ายลงไปกองกับพื้นกันนะสิ" แล้วก็พูดต่อ "และไม่ต้องพูดถึงเป้าหมายที่เป็นพวกสโทรเพธกับครีซีแทน แล้วก็เพรโทรน็อกซ์กับเวโนมิไนซ์ด้วย เพราะพวกดัสท์คิลเลอร์ไม่เสี่ยงหรือแส่หาเรื่องตายแบบไม่สวย หรือลงเอยด้วยการเป็นส่วนหนึ่งของกลุ่มแมนิเกเตอร์จากฝั่งตะวันตกและตะวันออกกันน่ะ"

              "ถ้าเป็นอย่างที่นายว่ามาจริง ไอ้มือสังหารเหล่านั้นมันก็โง่บรมกันแล้วละ" คลอเวฟบอก

              ฟิเกซกล่าว "และการที่คุณแดนมาอยู่ในโรงพยาบาลทหารเช่นนี้ ย่อมหมายถึงหนอนบ่อนไส้ก็ต้องรู้ ว่าคุณแดนรอดจากการถูกลอบสังหารไว้แน่ๆ ต่อให้ผบ.บัลโต้ปิดบังข้อมูลของคุณแดนกันดีแค่ไหน แต่ผบ.บัลโต้เองก็อยู่ในช่วงภาคทัณฑ์ด้วย เขาจึงทำเช่นนั้นไม่ได้อยู่แล้วน่ะ"

              "ภาวนาว่า คุณแดนคงไม่เป็นไรกันบ้างน่า" พีวิลบอก และหันมาถาม "แล้วเธอยังไม่ได้บอกเฟรดเลยใช่มั้ยละ"

              แฮรี่พยักหน้า "ผมยังไม่รีบทำให้เฟรดเสียสมาธิ เพราะความกังวลใจกันได้นะครับ"

              "ดีแล้วละ ที่เธอรีบมาบอกกับพวกเราก่อนน่ะ" โฟรซ่ากล่าว "ตอนนี้เธอกลับไปได้แล้ว และช่วยทำตัวเป็นปกติก็พอ"

              แฮรี่บอก "แล้วคุณเช็คเวปข่าวรู้ไปซะทุกเรื่องแล้วหรือยังละครับ"

              "ขอบใจมากน่ะที่ช่วยเตือนน่ะ แฮรี่" พีวิลกล่าว แล้วแฮรี่ก็เดินออกจากเวเซอร์เฮาส์ไป


              ลิเนียร์ตี้กล่าว "แอมเบอร์ ตรวจเช็คเวปนั้น เพื่อดูข้อมูลในช่วง 3 เดือน 3 สัปดาห์ที่ผ่านมาให้หน่อยสิ"

              "ตอนนี้ฉันได้รวบรวมข้อมูลตามที่ว่ามากันแล้วละ" แอมเบอร์โผล่มาพอดี พร้อมกับข้อมูลข่าวทั้งหลายในช่วงเวลาที่พวกไทรเวเซอร์ไม่อยู่

              โฟรซ่าบอก "เยอะไปน่ะ แอมเบอร์ ขออันที่สำคัญๆหน่อยได้มั้ยละ"

              "คงจะเจาะจงได้ยากนะคะ เพราะว่า ข่าวทุกข่าวในช่วงเวลานั้น มีแต่เยอะมาก และไม่มีข่าวเรื่องพวกริดโอโผล่มาด้วยนะคะ" แอมเบอร์บอก

              สเปียริทกล่าว "แล้วลองข่าวที่เกี่ยวข้องกับ....ริดโอเบล่า ซาดูร่า หรือใครก็ตามที่เป็นอดีตลูกแก็งค์กริเดี้ยนโร็คกันบ้างมั้ยละ เพราะเรารู้ว่าคนที่สร้างเวปนั้นเป็นคนรู้จักกับซาดูร่าด้วยน่ะ"

              "สเปียริทพูดถูกน่ะ เพราะเรารู้ตัวจริงของคนทำเวปข่าวนั้นไปแล้ว และซาดูร่าเองก็ตามข่าวให้กันน่ะ" ลิเนียร์ตี้กล่าว

              แอมเบอร์ลองเช็คข้อมูลข่าวที่กระจัดกระจายไปกันอยู่ "บอกตรงๆน่ะ ว่านอกจากของเดิมที่เคยดูมาแล้ว ยังมีอันใหม่มาด้วย จะดูมั้ยละ"

              "พอเหอะ แอมเบอร์ ถ้าเป็นคลิปโป๊ละก็ ไม่ต้องเปิดมาดูเลยน่ะ" โฟรซ่ากล่าว

              แอมเบอร์บอก "แต่มีอันหนึ่งที่พวกคุณสมควรดูกันนะคะ" แล้วก็เปิดภาพที่ริดโอเบล่าเดินลงจากรถตู้ ซึ่งเดินมาพร้อมกับบุรุษที่ปิดหน้าด้วยเสื้อหนาวสีขาวกันอยู่ "ภาพนี้มาจากกล้องวงจรปิดตรงทางเข้าโรงแรม เมื่อ 2 สัปดาห์ก่อนนะคะ"

              "แล้วกล้องนั้นมันอยู่ที่ไหนกันน่ะ" พีวิลถาม

              แอมเบอร์กล่าว "โรงแรมทริปเปิ้ลเซเว่น ที่ลอสแซงเทส ซึ่งเปิดตัวมาได้เมื่อ 2 เดือนที่ผ่านมากันแล้วละคะ" แล้วก็นำภาพโรงแรมสูง 30 ชั้นพร้อมกับภาพคาสิโนขนาดกว้างใหญ่ถึง 4 ชั้นด้วยกัน "แม้ว่าเมืองแห่งการพนันขันต่อนั้น จะพึ่งสร้างเสร็จในช่วงก่อนหน้าพวกเดลอาเนี่ยนมาถึงได้ 2 เดือนก็ตาม แต่ก็น่าแปลกใจไม่น้อยเลยนะคะ"

              "คงไม่ได้หมายความว่า ไอ้ลาสเวกัสอวกาศของเราไม่ได้ถูกพวกเดลอาเนี่ยนถล่มในช่วงการรุกรานครั้งแรกของพวกมันละสิ" เจเนลบอก

              แอมเบอร์ตอบ "เป็นเช่นนั้นแหละคะ อีกทั้งแถบนั้นไม่มีทหารคุ้มกัน แต่ก็ไม่มีทหารแฝงตัวอยู่ในเขตเมืองนั้นด้วยเลยนะคะ" 


              "ดูเหมือนว่า เจ้าของเวปผู้รู้ไปซะทุกเรื่องนั้น จะช่วยเราได้ในเรื่องสืบความเคลื่อนไหวของพวกริดโอกันแล้วสิน่ะ" เพอซิอัสกล่าวหลังจากที่พวกพีวิลเข้ามารายงานด้วยภาพคลิปดังกล่าวไว้

              จูเดทต้าบอก "ที่จริงแล้ว ทางเราก็ทราบเรื่องริดโอเบล่าพาเป้าหมาย ซึ่งก็คือริดโอบิทเข้ามาในโรงแรมกัน หลังจากที่นีลเซนท์เช็คเวปข่าวจนเจอคลิปนี้ไว้แล้ว" แล้วก็นำภาพคลิปดังกล่าวมา หากแต่นำอีกภาพมาเปรียบเทียบกันด้วย "นีลเซนท์ได้ปรับแต่งความคมชัดของภาพจากกล้องวงจรปิดที่ไม่ละเอียดมาก จนมองเห็นหน้าของริดโอเบล่าได้แล้ว เพียงแต่เธอรู้ว่ากล้องอยู่ตำแหน่งไหน เลยต้องเอาเสื้อมาคลุมหัวริดโอบิทเพื่อไม่ให้เรารู้ว่าเธอพาใครเข้าโรงแรมมากันน่ะ"

              "แล้วมีภาพจากกล้องตัวอื่นบ้างหรือเปล่าละครับ" เนคมาดูซัมบอก

              เพอซิอัสกล่าว "เกรงว่าเราได้แค่ภาพจากกล้องตัวนี้เพียงแค่ตัวเดียวเท่านั้นแหละ ถึงแม้ว่าโรงแรมที่ว่ามานั้น มีการติดตั้งกล้องวงจรปิดเอาไว้หลายตัวกันก็ตาม เราจึงแน่ใจว่า พวกริดโอคงไม่ยอมให้ผู้รู้ไปซะทุกเรื่องนั้นได้ทุกอย่างที่ต้องการแน่นอน"

              "แสดงว่าพวกริดโอติดระบบโปรเทคการแฮคกล้องวงจรปิดละสิครับ" พลัสเชอริทกล่าว จูเดทต้าพยักหน้า

              เพอซิอัสบอก "แต่การที่ผู้รู้ไปซะทุกเรื่องนั้นเข้าถึงระบบกล้องดังกล่าว ก็เท่ากับว่าเขาทำให้พวกริดโอไหวตัวกันแล้ว เพราะเรารู้ดี ว่าพวกริดโอไม่ยอมให้ประวัติศาสตร์ซ้ำรอยกันแน่นอน การที่เขาได้ภาพจากกล้องนี้มาง่ายๆนั้น แปลว่าพวกริดโอจงใจใช้กล้องนี้เป็นตัวล่อเอาไว้นะสิ"

              "เพียงแต่พวกริดโอยังไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับริดโอบิทเลยสินะ แม้ว่าพวกเราจะรู้เรื่องมาแล้วน่ะ" เนคมาดูซัมกล่าว

              เพอซิอัสกล่าว "ใช่ เพียงแต่ตอนนี้ พวกเธอไม่สามารถลงมือไปจัดการกับเรื่องนี้ได้นะสิ"

              "อย่าบอกนะครับ ว่าจอมพลแฮซกริฟสั่งห้ามไม่ให้เรายุ่งเรื่องพวกริดโอกันนะครับ ท่านนายพล" เนคมาดูซัมบอก

              จูเดทต้าบอก "ไม่ใช่หรอก แต่ประธานสภาบาแลมโซ่ได้เรียกพวกเธอทั้งหมดให้ไปรายงานตัวกันที่ดิสก์เวิร์ดกันนะสิ" แล้วก็บอกไปว่า "ที่สำคัญ พวกเราและผบ.บัลโต้ แนะนำให้พวกเธอนำกองกำลังหลังฉากไปด้วยน่ะ"

              "เอาจริงเลยหรือคะ ท่านนายพล นี้จะให้พวกเราฝึกพวกหน่วยรบวิหคเงาและพวกสติลลิมป์ในสภาวะไร้แรงดึงดูดกันน่ะ" โฟรซ่าบอก เพอซิอัสพยักหน้า

              สเตฟอร์ดกล่าว "แต่ท่านก็น่าจะรู้ดีนิครับ ว่าถ้าเราทำเช่นนั้น พวกทรอยอาร์และพวกสเตรดาร์ธเองก็ต้องรู้เข้าได้แน่นอนกันน่ะ"

              "แต่ถึงพวกเธอจะให้พวกหน่วยรบวิหคเงา สติลลิมป์ และหน่วยวูเซียทอยู่ในดาวของเราตลอด คงไม่ดีแน่ๆ เพราะพวกทรอยอาร์และพวกสเตรดาร์ธคงจะรู้ว่าพวกเธอและพวกเขาเดินทางกลับมาที่นี้ได้สามเดือนแล้วน่ะ" จูเดทต้าให้เหตุผล "ที่สำคัญ พวกเธอต้องไปรายงานตัวต่อผบ.ฮาซาเดนในเรื่องที่พวกเธอทำในเขตอวกาศของพวกเดลอาเนี่ยนกันด้วย ถ้าพวกเธอไม่ไป แล้วเกิดกองกำลังพันธมิตรมนุษย์ได้รับคำสั่งจากประธานสภาให้มาพาพวกเธอไปกันละ"

              เนคมาดูซัมบอก "แล้วทำไมท่านนายพลถึงไม่ให้เราไปตั้งแต่ช่วง 3 เดือนที่แล้วละครับ"

              "เพราะว่าเฮนรี่ ไนท์ขอไว้นะสิ ว่าพวกเขาไม่อยากให้พวกเธอเป็นห่วงจนเสียสมาธิกัน และทางเราก็แจ้งกับทางสมาพันธ์อวกาศไว้แล้ว ว่าทางเราได้ลงโทษกักบริเวณพวกเธอกันไว้เลยน่ะ" เพอซิอัสบอก

              จูเดทต้ากล่าว "แน่นอนว่าการลงโทษนี้มีผลรวมถึงผบสส.บาโธโรมิวกันด้วย เลยทำให้ผู้การโดโรเซียต้องส่งร้อยโทแฮริสันขึ้นมาแจ้งกับพวกเธอเองนะสิ"

              "เพราะผบ.บัลโต้สั่งการพวกแบ็คไซด์คอมแบทฟอสกันละสิครับ" พีวิลกล่าว

              เพอซิอัสบอก "ดังนั้น ฉันจึงต้องให้พวกเธอไปแจ้งกับพวกหน่วยรบวิหคและสติลลิมป์ไว้ อ้อ รวมถึงพวกรีเวอร์เชนจ์ด้วยน่ะ"

              "แบบนั้นไม่เข้าท่าน่ะ ท่านนายพล ถ้าเอาทุกคนออกไปกันหมด แล้วเกิดพวกเดลอาเนี่ยนโผล่มา จะทำยังไงละ" เนคมาดูซัมกล่าว

              จูเดทต้าบอก "เรื่องนั้นเราเข้าใจดีน่ะ ว่าพวกเธอเป็นห่วงดาวของเรามากก็จริง แต่พวกเราและกองทัพจะช่วยปกป้องดาวในช่วงที่พวกเธอไม่อยู่ให้เองน่ะ"

              "ตอนนี้พวกเธอรีบไปแจ้งให้พวกหน่วยรบวิหคกลุ่มใหม่และทีมใหม่ให้รับทราบเลยแล้วกันน่ะ" เพอซิอัสบอก เนคมาดูซัมพยักหน้า

              จูเดทต้ากล่าว "และเราต้องให้ริบอยและริเกิร์ลไปกับพวกเธออีกรอบ อย่างน้อยก็เพื่อความปลอดภัยของทั้งคู่กันน่ะ"

              "แล้วจะให้ออกเดินทางตอนไหนกันละครับ" พีวิลถาม

              เพอซิอัสบอก "ห้าโมงเย็นของวันนี้เลยเป็นไงละ เพราะอย่างน้อย ผู้ปกครองของใครบางคนจะได้ไม่ต้องมาแสดงความหงุดหงิดให้กันน่ะ"

              "เป็นไงบ้างละ ลิเนียร์ตี้ นายช่างเจฟคงจะสวดเธอยับละสิ" สเปียริทกล่าว เพราะรู้ว่าลิเนียร์ตี้ลงไปเจรจากับนายช่างเจฟมา

              ลิเนียร์ตี้บอก "เขาแค่ขอร้องเราอย่างเดียว คืออย่าให้นาเดียทำงานหนัก อย่างช่วยแบกของหนักๆหรือให้เธอซ่อมอะไรที่ใหญ่เกินตัวเธอกันก็พอ และอย่าทำให้เธอเจ็บตัวกันด้วยนะสิ"

              "แย่หน่อยนะ เพราะไอ้ที่หนักๆและใหญ่ๆนั้นน่ะ มันก็อยู่ในอินสเปคทรัลและไทรแองเกิ้ลกันทั้งนั้นแหละ" ไซโคลเนียบอก และหันมาถาม "แล้วฝั่งนายละ ฟิเกซ"

              ฟิเกซบอก "ฉันกับพีวิลแวะไปหาคุณเมย์ที่บ้านแล้ว เธอฝากให้พวกเราดูแลเฟรดกันด้วย แล้วก็....คุณเมย์ทำขนมทองมาให้พวกเราทั้งนั้นน่ะ" แล้วก็เอาถุงใส่ขนมทอง ซึ่งก็คือ ทองหยิบ ทองหยอด และฝอยทองมาให้

              "ไม่แปลกใจแล้วละ ว่าทำไมขนมของคุณเมย์ฮิตกันนักน่ะ ขนาดพวกเฮเรเค้นยังหาเวลาแอบหลบในพุ่มไม้เพื่อกินขนมน่ะ" สเปียริทบอก

              พีวิลบอก "แต่บอกตรงๆน่ะ ว่าต่อให้ขนมที่คุณเมย์ทำ หวานจนมดขึ้นลิ้นได้ก็จริง แต่สถานการณ์ที่เราต้องเจอนั้น....ไม่หวานชื่นที่คิดไว้เลยน่ะ"

              "ใช่ เพราะเรารู้สาแก่ใจดี ว่าอะไรที่เราทำมาง่ายก็ต้องแลกเปลี่ยนอะไรได้ง่ายกว่าที่คิดกันน่ะ" เจเนลบอก

              โฟรซ่าบอก "และเรารู้ดีว่าหนอนบ่อนไส้นั้นเป็นใคร แต่ฉันรู้สึกได้ว่า ต่อให้เราจัดการกับนายพลวอลเลนซ์ได้ ก็ใช่ว่าเรื่องมันจะจบกันง่ายๆเลยน่ะ"

              "เพียงแต่ตอนนี้เรื่องของสมาพันธ์อวกาศและพันธมิตรมนุษย์นั้นสำคัญกว่าน่ะ เพราะ....เราไม่รู้ว่าคิฟทรอนอฟก่อเรื่องอะไรไว้กันน่ะ" พีวิลบอก

              ลิเนียร์ตี้กล่าว "รวมถึงพวกทรอยอาร์และสเตรดาร์ธด้วย ต่อให้พวกเขาไม่ออกมาเคลื่อนไหวมาตลอด 3 เดือนเลยก็ตาม แต่พวกบีสทอยด์ที่เมลลอท-4 คงจะมีปัญหาแน่ๆกันน่ะ"

              "มีแต่ต้องไปดูด้วยตาของพวกเราเองแล้วละ" พีวิลบอก


              หลังจากนั้นก็ "ฟ้าวววววววววว" ยานไทรแองเกิ้ลบินทะยานออกจากเฟิร์สฮิลล์ไปก่อน เช่นเดียวกับ "ซูมมมมมม ฟ้าวววว" ยานอินสเปคทรัลบินตามหลังมาด้วย "ไม่นึกเลยน่ะ ว่าจะได้ออกจากดาวของเรากันจริงๆ ถึงแม้ว่าครั้งแรกจะถูกพาตัวไปกันน่ะ" นาเดียบอก โดยที่มองวิวนอกยานไปด้วย

              "ว่าแต่ ตอนที่มาถึงดาวดวงนี้ครั้งแรกๆนิ คงไม่ได้เห็นเลยละสิ" น็อกกี้บอก

              นาเดียกล่าว "ก็คนอื่นบังกันทั้งนั้นเลยนิ เพราะเราไม่เคยเห็นดาวที่เป็นดาวบ้านเกิดดวงที่สองของพวกเรากันมาแล้ว ถึงแม้ว่าพวกคุณลิเนียร์ตี้จะเคยมาถึงแล้วก็ตามน่ะ"

              "แล้วนายล่ะ เฟรด นายคงไม่ได้เห็นดาวของเรากันด้วยสิ" น็อกกี้หันมาถาม

              เฟรดบอก "ก็ฉันเห็นมาเมื่อ 3 เดือนก่อนแล้วน่ะ ว่าดาวของพวกเรานั้น แม้จะเหมือนโลกที่เราจากมา แต่....ไม่นึกเลยว่าดาวของเราและดาวดวงอื่นในระบบที่เราอยู่จะกลายเป็นเป้าให้พวกเดลอาเนี่ยนรุกรานกันได้น่ะ"

              "นี้แหละคือเหตุผลที่พวกเราและพวกไทรเวเซอร์ต้องออกมาต่อสู้กันนะสิ เพราะถ้าเราปล่อยให้พวกเดลอาเนี่ยนยึดดาวและระบบนี้ลงได้ ก็เท่ากับว่าพวกเดลอาเนี่ยนก็จะทำลายระบบดาวในเขตสมาพันธ์อวกาศกันด้วยน่ะ" แฮรี่บอก

              รอมมิชกล่าว "และตอนนี้พวกเธอรีบไปนั่งประจำที่กันได้แล้วละ เพราะยานจะบินเหนือแสงกันในไม่ช้าแล้วน่ะ"

              "แล้วคุณแรมเบจไม่ออกมาดูเลยหรือครับ" เฟรดกล่าว

              คีธเลยพามาดูที่ห้องประชุม ซึ่งแรมเบจนั่งตัวติดเก้าอี้อยู่ "ทำไงได้ละ ลุงแรมเบจไม่กลัวความสูงกันก็จริง แต่แกกลัวตอนที่ยานเคลื่อนตัวด้วยความเร็วเหนือแสงกันน่ะ"

              "ก็มันเร็วยิ่งกว่าไอ้รถไฟเหาะตีลังกากันนะสิ พวกเธอไม่รู้สึกเหมือนถูกกระชากวิญญาณออกจากร่างก็ไม่แปลกกันหรอกน่ะ" แรมเบจบอก

              แจ็สกล่าว "สงสัยว่าลุงคงต้องฝึกอีกมากแล้วละมั่ง"

              "โอเค พวกเราจะเข้าสู่การเดินทางด้วยความเร็วเหนือแสง โดยไปพร้อมกับยานไทรแองเกิ้ลกันแล้ว ฉะนั้น หาที่นั่งดีๆและรัดเข็มขัดเอาไว้เลย" โดซี่กล่าวผ่านสำโพง เฟรดและพวกน็อกกี้เลยหาที่นั่งพร้อมกับรัดเข็มขัด โดยที่นิค รีฟ โรซารี่ และมาริเดินเข้ามาในห้องพร้อมกับนั่งเก้าอี้และรัดเข็มขัดไปด้วย

              "ออกบินได้เลย ที่หมาย ดิสค์เวิร์ด" เนคมาดูซัมกล่าว

              "รับทราบ" คลอเวฟกล่าว แล้วก็นำยานบินไปยังควอนตั่มรีเลย์ โดยที่ยานอินสเปคทรัลบินตามหลังมา "หึมๆๆๆๆๆๆ แฟ้วววววว หึมๆๆๆๆๆ แฟ้วววววววว" ซึ่งยานทั้งสองได้บินตรงดิ่งด้วยความเร็วเหนือแสงอย่างรวดเร็ว จนมาถึง....

              "ปลายทาง ดิสค์เวิร์ด ศูนย์กลางของฝ่ายสมาพันธ์อวกาศ หวังว่าผู้โดยสารทุกท่านคงจะปลอดภัยกับทริปบินเร็วเหนือแสงกันบ้างน่ะ" โดซี่กล่าว

               "เออ สงสัยว่าจะมีคนหนึ่งน็อกสนิทแล้วละมั่งครับ" แฮรี่กล่าว โดยเห็นแรมเบจชักตาตั้งกันยกใหญ่ จนรอมมิช "โป๊ก" ตบเข้าที่หัวจนแรมเบจเจ็บและรู้สึกตัวขึ้นมา

              "ฮะๆๆๆๆ คงจะลืมซดเหล้านารีแดงไปเลยละสิ ถึงได้หมดสภาพแบบนั้นน่ะ" คลอเวฟติดต่อเข้ามา

              "หุบปากไปเลย ไอ้คลอฟ ถ้าไม่เพราะว่าพวกเรามาพร้อมพวกนายละก็น่ะ" แรมเบจสบถ

              โดซี่เดินเข้ามากล่าว "เออ พวกเธอจะออกจากยานไปทั้งๆที่แบบนี้เลยหรือ"

              "ก็ใช่นะสิครับ ป้า" แด็กซ์กล่าว

              โดซี่ส่ายหน้าพร้อมกับบอกว่า "บอกตรงๆน่ะ ว่าพวกเธอยังเป็นแค่เจ้าหน้าที่ฝึกหัดกันอยู่ ซึ่งฉันยังให้เธอสวมชุดยูนิฟอร์มไม่ได้กันน่ะ" แล้วก็เอาบัตรมา "แต่โชคดีมาก ที่ฉันรู้ว่าพวกเราต้องมาที่ดิสก์เวิร์ดกันด้วย ดังนั้น ห้ามพวกเธอทำหายไม่ว่าจะยังไงก็ตาม ไม่เช่นนั้น พวกเธอจะโดนมิใช่น้อยๆเลยน่ะ" แจกให้กับพวกเฟรดและพวกน็อกกี้กันไว้

              "อ่า อะไรเนี้ย เจ้าหน้าที่ฝ่ายซ่อมแซมยานนะหรือ มันดูไม่เท่ห์เลยน่า" น็อกกี้บ่น

              โดซี่กล่าว "นั้นก็ดีกว่าลงชื่อเจาะจงจนคนที่เก็บได้นั้นรู้ทันทีนะสิ ว่าเธอเป็นคริมสันอัลฟ่ากันน่ะ" แล้วก็พูดไปว่า "สำหรับบางคนนั้น ฉันได้เปลี่ยนชื่อเป็นอย่างอื่นไว้แล้วน่ะ"

              "ว่าแต่ ของคุณเป็นชื่ออะไรละครับ" เฟรดกล่าวหลังจากที่เขาได้บัตร ซึ่งยังคงชื่อของเขาเหมือนเดิม เพียงแต่ระบุไปว่า เป็นผู้ช่วยแพทย์ในยาน

              นิคบอก "รอสซี่ เดลโค่ นักวิจัยประจำยานสำรวจลำนี้กันน่ะ"

              "ส่วนของฉัน ดีไรร่า มอร์แกน เป็นผู้ช่วยนักวิจัยด้วยน่ะ" รีฟกล่าว

              โรซารี่บอก "ส่วนหนึ่งเพราะว่าพวกมนุษย์ส่วนมากยังคิดว่าพวกเธอสองคนตายไปแล้วในอุบัติเหตุอย่างงั้นสิน่ะ"

              "เอาเป็นว่าตอนนี้ พวกเธอตามฉันมาดีๆเลยน่ะ บาร์ท รอมมิช แรมเบจ ช็อปเปอร์ แล้วก็โรซารี่ ดูแลพวกเฟรดและพวกน็อกกี้กันดีๆด้วยละ" โดซี่บอก พวกบาร์ทพยักหน้า แล้วทั้งหมดก็เดินลงจากยานมา ซึ่งพวกเมนซิกส์ทีนมารออยู่แล้ว เพียงแต่ "ตึกๆๆๆๆๆ" เกรเบคพาพวกทหารพันธมิตรมนุษย์จำนวน 20 นายมาต้อนรับ

              "ไม่นึกเลยว่าพวกคุณจะรอดกลับมาจากเขตอวกาศของฝ่ายมหาจักรวรรดิ์กันได้น่ะ แม้จะรู้ว่าพวกคุณแน่กว่าพวกเดลอาเนี่ยนก็ตามน่ะ" เกรเบคกล่าว

              "พวกเราแค่ได้ประสบการณ์ดีๆมาก็เกินพอแล้วละ" สเตฟอร์ดกล่าว

              เนคมาดูซัมถาม "แล้วผบ.ฮาซาเดนละ ผู้การเกรเบค"

              "แล้วคนกลุ่มนี้คงจะเป็น...." เกรเบคกล่าว

              แอบไบออสบอก "พวกเขาเป็นส่วนหนึ่งของกองกำลังสหพันธมิตรนี้แหละ ผบ.บัลโต้ส่งพวกเขามาดูงานที่นี้ไว้น่ะ"

              "อืมมมม" เกรเบคมองหน้าพวกเฟรด พวกน็อกกี้ ซึ่งเห็นนิคและรีฟด้วย หลังจากนั้นก็มองพวกบาร์ทไปด้วย "งั้นให้พวกเขามากับพวกนายแล้วกันน่ะ" เกรเบคกล่าว แล้วรถบรรทุกโฮเวอร์คราฟก็โผล่มาพอดี "ว้าวววว" แน่นอนว่าสำหรับพวกเฟรด (เว้นแต่แฮรี่และมาริ) รวมถึงพวกน็อกกี้ (เว้นแต่นิคและรีฟ) แล้วก็พวกบาร์ทต่างก็ได้เห็นภายในดิสก์เวิร์ด ตั้งแต่เขตที่อยู่อาศัยของทุกชนเผ่ารวมถึงพวกมนุษย์ด้วย

              "เออ รู้น่ะ ว่าพวกเธอไม่เคยมาเยือนสถานที่แบบนี้ แต่ก็อย่าเกินเลยไปด้วยละ" เจเนลกล่าว

              "ก็คนมันไม่เคยมาเลยนิน่า พวก แค่ตื่นเต้นที่ได้เห็นว่าพวกต่างดาวอยู่กันยังไงก็เท่านั้นเองแหละ" ช็อปเปอร์บอก

              แด็กซ์หันมาเห็นนิคและรีฟไม่มองวิว "เออ พวกนายไม่รู้สึกตื่นเต้นกันบ้างเลยหรือไงน่ะ"

              "นายลืมไปแล้วหรือ แด็กซ์ ว่านิคและรีฟทำงานในบริษัทใหญ่โตของกลุ่มพันธมิตรมนุษย์มาก่อน ซึ่งนั้นหมายถึงพวกเขาต้องมาติดต่อกับตัวแทนบริษัทใหญ่โต และเข้าร่วมสัมมนาทางธุรกิจในนี้กันหลายครั้งด้วยนะสิ" คีธกล่าว

              แจ็สบอก "สุดยอดไปเลยน่ะ งั้นที่ว่าสถานีอวกาศเต่ายักษ์ใหญ่นั้น เป็นศูนย์กลางของการปกครองและเศรษฐกิจของสมาพันธ์ฯนั้นก็เป็นเรื่องจริงละสิ"

              "และบ้านของครอบครัวเดิมของคุณก็อยู่ด้วยสิครับ คุณแอบไบออส" เฟรดบอก

              แอบไบออสพยักหน้า "แดนคงจะเล่าเรื่องฉันให้เธอรู้แล้วสิน่ะ แม้ว่าตอนนี้พวกเขาจะเป็นห่วงฉันไม่น้อยเลยน่ะ" โดยในตอนนี้รถบรรทุกลอยได้ลอยทะยานเข้าสู่เขตศูนย์กลางใหญ่ เซนเตอร์บาเบลท์ "เอาละ หวังว่าพวกเธอคงจะเก็บอาการตื่นเต้นและรักษามารยาทไว้ด้วยน่ะ" แอบไบออสกล่าว หลังจากที่เกรเบคนำรถมาจอดตรงลานจอดใกล้กับประตูทางเข้ากันแล้ว

              "ที่สำคัญ ห้ามพวกเธอส่วนมากมาก่อเรื่องกันด้วยละ" โดซี่กล่าว แล้วทั้งหมดก็เดินตามเกรเบคเข้าไปในเซนเตอร์บาเบลท์กัน

              "โว้ว ภายในเสานิ กว้างมากเลยงะ" แด็กซ์กล่าวอย่างทึ่งๆ แต่โดนคนอื่นทำหน้าบึ้งไว้ เพราะแด็กซ์ทำตัวเหมือนบ้านนอกเข้ากรุงกันขึ้นมา

              "ไม่คิดเลยว่า ภายในเสาศูนย์กลางนั้นจะใหญ่โตไม่น้อย สมกับที่เป็นศูนย์กลางของสมาพันธ์อวกาศกันน่ะ" คีธบอก

              นาเดียเห็นพวกเมนซิกส์ทีนเดินตามพวกเกรเบคไป "เออ สงสัยว่าพวกเขาคงมีธุระกันเลยสิน่ะ ถึงต้องตามนายทหารคนนั้นไปน่ะ"

              "นั้นคือเกรเบค ทิลเทอแรน นายทหารตระกูลทิลเทอแรน 1 ใน 10 พี่น้องทิลเทอแรน ซึ่งร่วมรบด้วยกันกับพวกเวเซอร์กันมาก่อนนะสิ" แฮรี่บอก

               มาริบอก "เดิมทีเขามีอคติกับทางเราและตกเป็นเป้าลอบสังหารของแพททริค ทิลเทอแรน ซึ่งเป็นพี่ใหญ่ของตระกูล ผู้มีคดีความและก่อเรื่องเลวร้ายมาหลายต่อหลายครั้ง รวมถึงความพยายามที่จะโค่นล่มเฮนรี่ ไนท์ ผู้นำกลุ่มพันธมิตรมนุษย์ และครอบครองสมาพันธ์อวกาศไว้เสียเองนี้แหละ" แล้วก็บอกไปว่า "แน่นอนว่าความชั่วของแพททริคและพวกนั้นถูกเปิดโปง สมาพันธ์อวกาศและเฮนรี่ ไนท์ได้ตรวจสอบหลักฐานเพิ่มเติมจนรู้ว่า แพททริคขายความลับและติดต่อกับไซมาเทน เทพแห่งสงคราม องค์ชายแห่งจักรวรรดิ์แรซัลก้ามาตลอดชั่วมหาสงครามกับแรซัลก้ากันนี้แหละ"

              "คุณคงหมายถึงการเปิดโปงของยอดนักป่วนไซเมี่ยนที่พวกเวเซอร์พยายามหยุดยั้ง แต่ไม่เป็นผลเลยสิครับ" เฟรดบอก

              บาร์ทกล่าว "แม้ว่าแพททริคกับพวกนั้นพยายามหลบหนีการจับกุม เพื่อเข้าสู่กระบวนการตัดสินโทษของทางสมาพันธ์อวกาศกันก็ตาม สุดท้าย ไซมาเทนและพวกได้ช่วยพวกแพททริคกันไว้ ซึ่งพวกเขาได้จบเห่ลงในช่วงสุดท้ายของมหาสงครามกันนี้แหละ"

              "แต่เหตุผลจริงๆก็คือ ไซมาเทนมีคุณเมซ่า แม่ของสิบพี่น้องทิลเทอแรนกันไว้นะสิ ซึ่งเดิม เธออยู่กับพวกเราในฐานะนักวิจัยที่ลี้ภัยจากแรซัลก้ามา และเป็นกุญแจดอกสำคัญในสุดยอดแผนการของฝ่ายแรซัลก้ากันด้วย แน่นอน ว่าแพททริคไม่มีทางเลือกนอกเสียจากต้องยอมทำตามที่ไซมาเทนร้องขอไว้กันน่ะ" รอมมิชบอก

              แรมเบจกล่าว "พี่ชาย ต่อให้ไอ้บ้านั้นมีเหตุผลที่น่าเห็นใจแค่ไหน แต่มันคิดจะให้พวกเราถูกมองเป็นศัตรูเหมือนกับพวกรุกรานจากแรซัลก้ากันแบบนี้ มันไม่น่าให้อภัยกันน่ะ"


              "พวกนายมากันครบแล้วสิน่ะ" เฮนรี่กล่าวเมื่อพวกเมนซิกส์ทีนมาอยู่ในห้องประชุมกันแล้ว

              พีวิลบอก "เออ ผบ.ฮาซาเดนและผู้การทิคแซท ไม่มาด้วยละครับ"

              "เดียวพวกเราจะเล่าให้พวกนายฟังแล้วกัน แต่ตอนนี้ ประธานสภาบาแลมโซ่ต้องการให้พวกนายอธิบายเรื่องกันอยู่น่ะ" มิลเดียบอก เนคมาดูซัมพยักหน้าเพื่อให้เฮนรี่ "ปี้บๆๆๆ" กดปุ่มเพื่อให้พื้นห้องประชุมลอยขึ้นไปยังสภาสูงที่อยู่บนยอดเสาศูนย์กลางกัน

              บาแลมโซ่กล่าว "ไม่นึกเลยว่า พวกเดลอาเนี่ยนจะกล้าทำถึงขนาดนี้เลยน่ะ แม้เราจะรู้ดี ว่าพวกนั้นจับตัวพวกเธอไป เพื่อให้พวกเธอเป็นส่วนหนึ่งของพวกมหาจักรวรรดิ์เลยก็ตามน่ะ" หลังจากที่ฟังพวกเนคมาดูซัมเล่ามา

              "ครับ และทางเราเองก็รับทราบข้อมูลความเคลื่อนไหวของพวกเดลอาเนี่ยนกันด้วย ว่าพวกเขากำแหงมาก ถึงขั้นที่อยากจะกวาดล้างชาวดาวฤกษ์ให้ราบคาบกันไปแล้วละครับ" พีวิลบอก

              ไซบัลจ์บอก "ถ้าเป็นเรื่องสุดยอดอาวุธโบราณของพวกเดลอาเนี่ยนกันละก็....ซีคเทมพลาร์ที่เดินทางกลับมายังเขตอวกาศของเรา พร้อมผู้ลี้ภัยและเหล่าชนเผ่าที่ถูกจับเป็นทาสนักโทษนั้น มาแจ้งให้ทราบกันแล้วน่ะ"

              "นี้แปลว่า พวกคุณรู้เรื่องสุดยอดอาวุธอันน่ากลัวของพวกเดลอาเนี่ยน ที่ใช้ถล่มชาวออร์เลี่ยนมาเมื่ออดีตกาลนะหรือครับ" มาสวาร์ทาร์กล่าว

              บาแลมโซ่พยักหน้า "พวกเธอคงจะรู้ใช่มั้ย ว่ามีชาวออร์เลี่ยนกลุ่มหนึ่งเดินทางมาหาพวกเรา โดยได้มอบแผนที่อิสทาล่าฟรอนเทียร์ให้กับทางเรา เพื่อให้ระบบดาวที่เป็นพรมแดนเชื่อมต่อกับเขตอวกาศของพวกเดลอาเนี่ยนอยู่ในความดูแลของทางเรา และกลุ่มกองกำลังพิทักษ์อวกาศของดาวฤกษ์กันน่ะ"

              "พวกเราทราบจากข้อความสุดท้ายของพวกออร์เลี่ยนที่เหลือไว้ในยานไทรแองเกิ้ลมาแล้วละคะ" ลิเนียร์ตี้กล่าว

              ไซบัลจ์บอก "แต่พวกเธอยังไม่รู้หรอกน่ะ ว่าเหตุผลที่พวกเดลอาเนี่ยนไม่สามารถเข้ามายังเขตอวกาศของพวกเรามา หลังจากที่ชาวดาวออร์เลี่ยนส่วนมากได้สิ้นสูญ เพราะสุดยอดอาวุธโบราณกันไว้น่ะ" แล้วก็พูดต่อไปว่า "แต่เพราะว่า พวกออร์เลี่ยนที่ต่อกรกับพวกเดลอาเนี่ยนนั้น ได้สร้างความเสียหายให้กับสุดยอดอาวุธอย่างหนักหนาขึ้นมากันนะสิ"

              "สร้างความเสียหายนะหรือ นี้แปลว่าพวกออร์เลี่ยนไม่สามารถทำลายสุดยอดอาวุธเหล่านั้นเลยสิครับ" เนคมาดูซัมกล่าว

              บาแลมโซ่พยักหน้าและเล่ามาว่า ".......บรรพบุรุษของเรารับทราบเรื่องจาก 1 ในชาวออร์เลี่ยนกลุ่มที่เดินทางมานั้น พวกเขาพบว่าสุดยอดอาวุธที่พวกเดลอาเนี่ยนนำมาใช้กวาดล้างเพื่อนพ้องของพวกเขา จนสูญสิ้นไปพร้อมกับดาวบ้านเกิดนั้น มันเป็นนาวาอันเก่าแก่และถูกสร้างมาก่อนหน้าชาวออร์เลี่ยนและชาวเดลอาเนี่ยนไปตั้งหลายรุ่น ซึ่งนั้นหมายถึง....สุดยอดอาวุธที่พวกเดลอาเนี่ยนนำมาใช้นั้น ขับเคลื่อนและใช้พลังงานจากแหล่งพลังงานที่ไม่มีใครใช้มาหลายร้อยหลายพันปีด้วยกัน หรือสูญหายไปจากหน้าประวัติศาสตร์ของจักรวาลแห่งนี้ไปโดยถาวรแล้วน่ะ"

              "แม้ว่าชาวออร์เลี่ยนจะไม่สามารถทำลายสุดยอดอาวุธนี้ทิ้งได้ก็จริง แต่....พวกเขาสามารถยับยั้งมิให้พวกเดลอาเนี่ยนนำกองยานรุกรานระบบอวกาศของพวกเรามาตลอดหลายชั่วรุ่นกันแล้ว บวกกับว่าพวกเฮซเทิร์ซจากเขตอวกาศทางเหนือ และกลุ่มผู้รุกรานจากเขตอวกาศภาคกลางเข้ามารุกรานเขตอวกาศของเดลอาเนี่ยนด้วยนั้น ทำให้พวกเรารอดตัวจากการรุกรานของพวกเดลอาเนี่ยนมาตลอดน่ะ" ไซบัลจ์บอก

              บาแลมโซ่กล่าว "แต่เรารู้ดี ว่าพวกเดลอาเนี่ยนคิดจะรุกรานเขตอวกาศของพวกเรากันมาอย่างแน่นอน แม้จะรู้ว่าพวกเรามีชาวดาวฤกษ์คุ้มครองกันอยู่ก็ตาม ทางเดียวที่จะทำให้พวกเดลอาเนี่ยนได้ครอบครองเขตอวกาศของฝ่ายสมาพันธ์ของพวกเราโดยสมบูรณ์ ก็มีแต่ต้องใช้สุดยอดอาวุธที่ว่ามานั้นเองแหละ"

              "นั้นไม่แปลกหรอกคะ เพราะทหารเดลอาเนี่ยนระดับนายกองตนหนึ่งบอกว่า พวกเขาไม่กลัวเกรงชาวดาวฤกษ์กันแล้วน่ะ" แอนเดรียบอก

              ไซบัลจ์กล่าว "ถ้าขนาดทหารระดับนั้นพูดเช่นนี้ แปลว่าพวกเดลอาเนี่ยนพยายามไม่น้อยที่จะฟื้นฟูสุดยอดอาวุธกันอย่างลับๆกันแน่ๆเลยละ" แล้วก็บอกไปว่า "ท่านพี่....ถ้าเป็นเช่นนั้นจริง แปลว่าตอนนี้พวกเดลอาเนี่ยนคงจะฟื้นฟูสุดยอดอาวุธนั้นจนใกล้เสร็จแล้วสิครับ"

              "เพียงแต่ พวกเธอยังไม่ได้ตามหาสุดยอดอาวุธเพื่อทำลายทิ้งเลยละสิน่ะ" บาแลมโซ่กล่าว

              เนคมาดูซัมพยักหน้า "คือ พวกเราโฟกัสไปที่ช่วยเหลือพวกพ้องของเราที่เดินทางเข้าเขตอวกาศ และถูกพวกเดลอาเนี่ยนจับตัวมา แม้พวกเราจะรู้เรื่องนี้ แต่พวกเราก็ไม่อยากจะถูกพวกเดลอาเนี่ยนกวาดล้างกันตอนนี้เลยนะครับ"

              "ผมเองก็เห็นด้วยกับพวกไทรเวเซอร์นะครับ เพราะว่าพวกเขาอยู่ในถิ่นของพวกศัตรู ที่คิดจะจัดการกับพวกเขาให้ราบคาบกันได้ทุกเมื่อ แค่พวกเขากลับมาเพื่อรายงานกับทางเราได้ก็ถือว่าดีพอแล้วละครับ" เฮนรี่กล่าว เกรเบคและมิลเดียพยักหน้าเสริมด้วย

              บาแลมโซ่ได้ฟังก็บอกไปว่า "ทางเราต้องขอบใจพวกเธอด้วยน่ะ ที่ช่วยนำข่าวความเคลื่อนไหวอันร้ายแรงของพวกเดลอาเนี่ยนมาให้เรารับทราบกันไว้ ถึงแม้ว่าในตอนนี้ เรามีปัญหาแย่ๆเกิดขึ้นกันในช่วงที่พวกเธออยู่ในเขตอวกาศของพวกเดลอาเนี่ยนกันน่ะ" แล้วก็บอก "ผู้นำเฮนรี่ ไนท์ ช่วยอธิบายให้พวกไทรเวเซอร์รับทราบกันหน่อยน่ะ"

              "ได้เลยครับ" เฮนรี่กล่าว และเล่าไปว่า "ในช่วงที่พวกนายไม่อยู่กันนั้น กลุ่มเคอแรซลิเบอรอนของคิฟทรอนอฟโผล่มาป้วนเปี้ยนแถวๆดาว ที่ตกเป็นเป้าการรุกรานของพวกแรซัลก้าในช่วงมหาสงครามกันอยู่บ่อยๆ แม้ว่าพวกที่บุกมานั้นจะมีเพียงแค่ 10 หรือ 20 หน่วย แต่พวกนั้นก็โผล่มาแค่ก่อกวนสร้างความรำคาญให้กับกองทหารของพวกเรา และของฝ่ายสมาพันธ์อวกาศกันด้วยน่ะ"

              คลอเวฟบอก "แต่นายก็คงจะสั่งไม่ให้หน่วยรบหรือกองรบที่โดนก่อกวนนั้นไล่ตามไปเลยสิน่ะ"

              "พี่รองสั่งไว้เองแหละ เพราะรู้ดี ว่าคิฟทรอนอฟต้องการยั่วยุให้ทุกกองรบนั้นไล่ตาม และถูกตลบหลังจนกลุ่มที่ไล่ตามกับกลุ่มที่เหลือพลอยซวยไปด้วยน่ะ" เกรเบคบอก

              มิลเดียกล่าว "และไม่ใช่แค่ที่ดาวที่พี่ใหญ่ขายและมอบให้พวกไซมาเทนกันอย่างเดียวน่ะ ซากนาวามังกรตัวยักษ์ใหญ่เองก็ถูกพวกคิฟทรอนส่งคนมาก่อกวนและยั่วยุเป็นสิบๆเที่ยวกันแล้วนะสิ"

              "แล้วกองรบที่ประจำการที่ซากยานมังกรยักษ์นั้น มีตรวจตราภายในยานหลังจากที่มีคนมาก่อกวนกันด้วยหรือเปล่าละ เพราะคิฟทรอนอฟอาจใช้แผนส่งพวกนกต่อเข้ามาหลอกล่อ แล้วให้กองกำลังส่วนมากลอบเข้าไปเก็บเกี่ยวภายในซากยานยักษ์กันน่ะ" มาสวาร์ทาร์บอก

              เกรเบคกล่าว "พี่รองและแม่ทัพไซบัลจ์มีสั่งการไปแล้ว แต่ไม่พบใครหรืออะไรที่เข้ามาในยานนี้เลย ต่อให้ใช้สแกนเนอร์ระดับพิเศษกันด้วยน่ะ"

              "แล้วดาวเดียนาลล่ะ" สเปียริทกล่าว

              มิลเดียบอก "เฮนรี่ ไนท์ได้สั่งกองทหารจำนวน 5 กองเข้าคุ้มกันดาวดวงนี้กันไว้แล้วละ แม้ว่าดาวดวงนี้จะโดนแบบเดียวกันเลยก็ตาม เพียงแต่พวกที่บุกมานั้นคงจะกลัวเกรงกองรบคุ้มกันอย่างมาก เนื่องจากว่าพวกนั้นโผล่มาแค่ครึ่งทางก็รีบเผ่นหนีไปแล้ว" แล้วก็บอกไปว่า "แม้ว่าพี่แปดไม่ได้ก่อความเดือดร้อนให้ก็จริง แต่กองรบทั้งห้ากองเกิดความรำคาญขึ้นมาบ้างแล้วน่ะ"

              "เจ้าคิฟทรอนอฟมันต้องทำอะไรบ้าๆกันแน่ๆเลยละ เพราะถึงมันไม่ได้ส่งกองกำลังมาเพื่อซ้ำเติมกองรบกันเลยก็ตามน่ะ" คลอเวฟบอก

              พีวิลเลยหันมาถาม "แล้วมีความเคลื่อนไหวจากเขตสเตรดัสท์เซคเตอร์กันบ้างหรือเปล่าละครับ"

              "นี้แหละคือความผิดปกติกันละ เพราะกลุ่มผกก.สเตรดาร์ธนั้นไม่ออกมาก่อความเดือดร้อนกันในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมากันแล้วน่ะ" เฮนรี่บอก "แม้ว่าทางเราจะได้เห็นตัวบุคคลสำคัญที่ออกจากระบบดาวสเตรดัสท์เซคเตอร์กัน ที่ดาวของสมาพันธ์อวกาศและของพันธมิตรมนุษย์ของเรากันก็ตาม พวกเราไม่มีเหตุผลไปจับกุมพวกเขาไว้ เพราะพวกเขาไม่ได้มีเจตนาร้ายตามที่ทางเราสงสัยกันไว้น่ะ" แล้วก็นำภาพของ....

              "องค์ชายสามคงจะสนใจในเรื่องธุรกิจของสมาพันธ์อวกาศกันดีจังเลยน่ะ" เจเนลบอก เมื่อเห็นรูปของจาฟฟาร์ลมากับบอดี้การ์ด 7-8 คน ซึ่งเป็นพวกอับดุลลอยด์ติดตามมาด้วยกัน

              "แล้วมีข่าวเรื่องการมาของพวกทรอยอาร์กันบ้างมั้ยละครับ" เนคมาดูซัมถาม

              เกรเบคบอก "พวกเราเห็นพวกอัศวินเหล่านี้อยู่ตามดาวที่ตกเป็นเป้าการรุกรานของแรซัลก้ากันแล้ว เพียงแต่พอเราไปถึง พวกเขาก็รีบออกไปจากดาวดวงนั้นในทันที ซึ่งทำให้เราไม่รู้ว่ากลุ่มที่มานั้นเป็นพวกไหนกันนะสิ" แล้วก็เล่าไปอีกว่า "และไม่รู้ว่านี้เป็นเหตุบังเอิญหรือไงกัน เพราะทางเราได้จับภาพคนต้องสงสัยเหล่านั้นไว้ในช่วงที่องค์ชายจากสเตรดัสท์เซคเตอร์โผล่มา ซึ่งไม่มีอยู่ในฐานข้อมูลผู้ต้องสงสัยกันนะสิ"

              "ขอพวกเราดูรูปกันหน่อยได้มั้ยละครับ" ฟิเกซกล่าว มิลเดียเลยส่งรูปประมาณ 6 รูป ซึ่งเป็นรูปของ.... "ชัดเลย บารอนวินเซนท์ เลดี้ฟรีเซีย สไปค์ บาทหลวงบัฟ แล้วก็ เวนดี้....รวมถึงนาตาเช่และมิวนิสด้วยน่ะ" ฟิเกซมองภาพก็รู้ได้ในทันที ถึงแม้ว่าคนในรูปนั้นสวมแว่นดำและแต่งตัวเหมือนคนธรรมดากันก็ตาม

              มิลเดียบอก "พวกนายเอ่ยชื่อคนในรูปได้นิ แปลว่าคงจะรู้จักพวกเขามาแล้วละสิ"

              "สองคนแรกและสองคนหลังนั้นเรารู้จักกันตอนที่เราอยู่ฝ่ายแรซัลก้ากันนะสิ ที่เหลือนั้น เราเจอพวกเขาอยู่ที่อิริเดมเซต้า โดยที่พวกเขาสวมชุดเกราะออกมาจู่โจมกองกำลังที่เข้าไปสำรวจเขตดาวในระบบออริงก้ากันนะสิ" เนคมาดูซัมบอก

              บาแลมโซ่บอก "แล้วพอจะรู้มั้ย ว่าคนในรูปที่พวกเธอเอ่ยชื่อมานั้น มาด้วยวัตถุประสงค์ใดกันน่ะ"

              "ต้องขอโทษด้วยนะครับ คือทางกองกำลังของฝ่ายเราไม่ทราบถึงความเคลื่อนไหวของพวกทรอยอาร์มาตลอด 3 เดือนเลยนะครับ" พีวิลกล่าว

              บาแลมโซ่บอก "ส่วนหนึ่งเพราะพวกเธอรับมือกับการคุกคามของพวกเดลอาเนี่ยนกันอยู่สิน่ะ" แล้วก็กล่าวไปว่า "ตอนนี้พวกเราจะพิจารณาเรื่องที่พวกเธอปฏิบัติการณ์กันที่เขตอวกาศของพวกเดลอาเนี่ยนกันก่อน พวกเธออยู่พูดคุยกับเฮนรี่ ไนท์และพวกไปก่อนน่ะ"

              "เออ เฮนรี่ ไนท์ ว่าแต่ ผบ.ฮาซาเดนและผู้การทริปเปิ้ลทีไปไหนกันน่ะ" แอบไบออสบอก

              ไซโคลเนียกล่าว "แล้วก็ผู้การฮัลไทร์กันด้วย คงไม่ได้ออกไปปฏิบัติการณ์ในระบบดาวไหนแล้วยังไม่กลับมากันเลยละสิ"

              "อืมมมมมม" เฮนรี่ ไนท์นิ่งไปพักหนึ่งก่อนจะบอกไปว่า "ทางเรา ได้ส่งผบ.โทมาส ผู้การทิคแซทและผู้การฮัลไทร์ พร้อมกับกองกำลังที่ 1 ถึง 3 ออกเดินทางไปที่โลกกันแล้วละ" พวกพีวิลถึงกับตกใจขึ้นมา

              สเตฟอร์ดบอก "เมื่อกี้นี้นายบอกว่า นายส่งพวกผบ.ฮาซาเดนไปที่โลกนิ คงไม่ได้หมายความว่า...."

              ".....ในระหว่างที่พี่แปดส่งคนมาก่อกวนและยั่วยุกองกำลังฝ่ายเราและของท่านไซบัลจ์กันนั้น พี่แปดได้หลอกให้พวกเฮซเทิร์ซมุ่งหน้าไปยังระบบสุริยะจักรวาล อันเป็นระบบดาวบ้านเกิดของพวกเราและพวกนายบางคน เพื่อบีบให้ทางเราส่งพวกพี่รองไปช่วยกองกำลังของทางโลก หยุดพวกเฮซเทิร์ซกันไว้นะสิ" มิลเดียบอก "และมันก็เกิดขึ้นจริงเสียด้วย เพราะพี่รองติดต่อมา ว่าพวกเฮซเทิร์ซถล่มประเทศแคนาดา รัสเซียฝั่งตะวันตก ไอร์แลนด์เหนือ ตุรกี ฟิลิปปินส์ไปก่อนหน้าที่พวกเขาจะมาถึงกันแล้วน่ะ"

              คลอเวฟกล่าว "แล้วกองกำลังรบที่โลกนั้น มีใครตายหรือเปล่า อย่างไอ้ฟลินท์ แฟนดิแอร์โรวกันน่ะ"

              "ถ้าเป็นกองกำลังของฝ่ายมหาสหรัฐอเมริกาละก็ พวกเขามีการเตรียมพร้อมเอาไว้หลังจากที่พวกนายเอาชนะโอเวอร์เดสกันแล้ว พวกเขาจึงรับมือกับพวกเฮซเทิร์ซจนเอาตัวรอดไว้ แน่นอน ว่าพี่รอง พี่สามและพี่หก เข้าช่วยนายพลเวสวิงตันและสมาชิกกองรบทุกคนไว้ได้ทันนะครับ" เกรเบคกล่าว พีวิล เจเนล สเตฟอร์ด โฟรซ่าและไซโคลเนียถึงกับถอนใจ

              "โชคดีแล้วละ ที่พวกผบ.ฮาซาเดนไปทันเวลาพอดีเลยน่ะ" พีวิลกล่าว

              "แล้วทางเราติดต่อไปหาพวกผบ.ฮาซาเดนได้มั้ยละคะ" ลิเนียร์ตี้กล่าว

              มิลเดียบอก "แม้ว่าที่โลกนั้นได้ฟื้นฟูระบบสื่อสารเครือข่ายควอนตั่มกันไว้จนทางเราติดต่อไปได้เลยก็ตาม แต่ตราบใดที่พี่แปดยังก่อกวนพวกเราและกองรบของแม่ทัพไซบัลจ์กันแบบนี้ เกรงว่าพวกพี่รองคงจะถูกพวกเฮซเทิร์ซบดขยี้ลงไปได้แน่ๆกันน่ะ"

              "แล้วเรื่องระบบคูลดาลนัสนั้นละ" เจเนลถาม

              เฮนรี่บอก "ถึงแม้ว่าทางเราจะรู้ความเคลื่อนไหวที่ผิดปกติในระบบดาวดังกล่าวไว้ก็จริง แต่....ทางเราไม่สามารถส่งกองยานลงไปตรวจสอบระบบดาวดังกล่าวไว้น่ะ" แล้วก็กล่าว "และ....พวกเราก็ไม่อนุญาตให้พวกนายลงไปที่ดาวคูลดาลนัสกันด้วย เพื่อมิให้มีข้อพิพาทเกิดขึ้นในภายหลังกันน่ะ"

              "แล้วไม่กลัวว่าพวกคิฟทรอนอฟจะควบคุมผู้นำของกลุ่มดาวเหล่านั้น จนกลายเป็นกองกำลังที่ยิ่งใหญ่และก่อสงครามกันขึ้นมาเลยหรือครับ" พีวิลบอก

              มาสวาร์ทาร์กล่าว "นั้นสิครับ ถ้าคิฟทรอนอฟมีเหล่าผู้นำกลุ่มดาวอยู่ในกำมือ และถ้าพวกเขาหลงในคารมของคริฟทรอนอฟจนกลายเป็นแนวร่วมกันขึ้นมา เท่ากับว่าพวกคุณกับฝ่ายสมาพันธ์จะเสียเปรียบกันไม่น้อยเลยนะครับ"

              "พวกเราก็คิดเหมือนกับพวกนายกันนี้แหละ เพียงแต่ พี่รอง พี่สามและพี่หกยิ้มให้ก่อนที่จะออกเดินทางไปกันน่ะ" มิลเดียบอก

              แอบไบออสบอก "ยิ้มให้นะหรือ โอ้ว ชัดเลย" แล้วก็หันมาบอกกับทุกๆคนไปว่า "ดูเหมือนว่าผู้การทริปเปิ้ลที ผู้การฮัลไทร์และผบ.ฮาซาเดนคงจะรู้นิสัยของคิฟทรอนอฟดีแล้ว ถึงได้ยิ้มด้วยความแน่ใจอย่างมากเลยน่ะ"

              "นายกำลังจะบอกว่า ต่อให้พวกเราไม่ทำอะไร คิฟทรอนอฟ ซึ่งเป็นพวกที่พร้อมจะหักหลังและทรยศคนอื่นได้ทุกเมื่อนั้นจะทำลายกองกำลังของเขาเองเลยสิน่ะ" คลอเวฟบอก แอบไบออสพยักหน้า

              เนคมาดูซัมบอก "แต่ถึงกระนั้น เรายังต้องนึกถึงส่วนที่คิฟทรอนอฟไม่คิดจะทำเช่นนั้น เพราะเรารู้ดี ว่าคิฟทรอนอฟเองก็เป็นคนฉลาด และฉลาดมากพอที่จะรู้ว่ายังไม่ถึงเวลาที่จะหักหลังใครได้กันน่ะ"

              "แต่ก็ไม่แน่หรอกน่ะ เพราะ....ต่อให้พี่แปดได้ขุมกำลังที่มาจากพวกพี่ใหญ่มา แต่....พวกนายคิดว่าจะมีใครสักกลุ่มที่โง่มากพอที่จะอยู่ภายใต้คำสั่งของพี่แปดกันได้ละ หลังจากที่พวกพี่ใหญ่ถูกเปิดโปงความชั่วกันไปแล้วน่ะ" เกรเบคบอก

              จายด์กล่าว "มันก็จริงอยู่น่ะ เพราะไม่ใช่แค่พวกเดลอาเนี่ยน พวกชนเผ่าต่างดาวที่อยู่ในอวกาศกันอย่างเดียวที่รู้เรื่องนี้ แต่รวมถึงพวกเฮซเทิร์ซ ซึ่งคริฟทรอนอฟร่วมมืออย่างลับๆ แม้กระทั่งพวกเคอแรซทรูปเปอร์ที่หลบซ่อนกันด้วยน่ะ"

              "และพวกที่ถูกฆ่าตายไปนั้น คงต้องเป็นพวกที่รู้ความจริงว่าพวกเขาร่วมมือกับพวกแพททริค เพื่อก่อการยึดครองสมาพันธ์อวกาศกันไว้แน่ๆเลยละ" พีวิลกล่าวโดยนึกถึงสภาพศพของเหล่าทหารที่ตายด้วยน้ำมือของพวกแพททริคกันแล้ว

               เฮนรี่บอก "อีกอย่าง ถึงคิฟทรอนอฟจะเจรจา เกลี้ยกล่อมหรือใช้วาทะศิลป์เกลี้ยกล่อมเหล่าผู้นำในระบบดาวปกครองพิเศษให้มาเป็นแนวร่วมกันก็จริง แย่หน่อย ที่เขาคิดผิดเสียแล้วละ"

              "แต่ยังไง คุณเองก็ต้องคาดการณ์ไปถึงจุดที่คิฟทรอนอฟมันทำสำเร็จกันด้วยนะคะ" สเปียริทบอก

              เฮนรี่พยักหน้า และหันมาถาม "ว่าแต่ กลุ่มแมนิเกเตอร์มากับพวกนายนิ เป็นกองกำลังหลังฉากของผู้การเฮลิคละสิน่ะ"

              "คุณแอสเทลน่ามารายงานพวกคุณแล้วละสิคะ" แอนเดรียกล่าว

              มิลเดียพยักหน้า "แม้พวกเราจะแปลกใจไม่น้อยที่พวกนายมีอีกกองรบหนึ่งที่รับมือกับพวกทรอยอาร์ พวกสเตรดาร์ธ รวมถึงพวกหน่วยลับของฝ่ายแรซัลก้า แม้กระทั่งหน่วยทหารที่พวกพี่ใหญ่ส่งไปรังควาน หลังจากที่กองกำลังเคอแรซทรูปเปอร์ของพี่ใหญ่ เกือบจะเล่นงานผู้การเฮลิคและเหล่าผู้ลี้ภัยจากแรซัลก้ากันแล้วน่ะ" และหันมาถาม "แล้วพวกนายก็คงรู้เรื่องพวกเขามาก่อนละสิ"

              "เออ พวกเขาเป็นกองกำลังหลังฉากที่ปฏิบัติการณ์คู่ขนานกับพวกเราและท่านประธานาธิบดี ซึ่งถ้าพวกเขาเป็นหน่วยลับที่มีน้อยคนรู้กันอย่างงั้น มีหรือ ที่กองกำลังหัวหอกอย่างพวกเราจะรู้ได้กันน่ะ" โฟรซ่าบอก

              สเปียริทกล่าว "อีกอย่าง ผู้การเฮลิคเองก็ไม่ได้บอกพวกเราเรื่องพวกเขา รวมถึงภารกิจที่พวกเขาทำด้วย กว่าเราจะรู้การมีตัวตนของพวกเขาและสิ่งที่พวกเขาทำไปนั้น ก็หลังจากที่พวกเราจัดการกับพวกเดลอาเนี่ยนในการรุกรานครั้งแรกไปแล้วนะสิ"  
     

    ต่อช่วงที่ 2 กัน เพราะมีเหตุไม่คาดคิดแล้ว

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×