ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Triveser Manigator Saga Del-Ahnian War

    ลำดับตอนที่ #38 : ตอนที่ 19 ทัศนศึกษาวันหยุดที่แคสเซรอน-4 ปรากฎเหล่าเทพธิดาในยามที่นักรบแห่งแสงดาวมาถึง พาร์ทกลาง

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 3
      0
      30 ก.ย. 64

              หลังจากนั้น เช้าวันต่อมา
              "เฮ้อออ ไม่คิดนะคะ ว่าต้องทำเช่นนี้เลยนะคะ" เทาฟาดิลกล่าว เมื่อรัคชูมี่จัดการโกนผมของลิเนียร์ตี้จนโล้นไปหมดแล้ว
               "ถึงแม้ว่าเธออาจจะตกใจไม่น้อย แต่โชคดีมากที่ระบบเซลเส้นผมเทียมนั้นสามารถงอกเส้นผมใหม่ได้อยู่ เพียงแต่ ในสภาพที่เธอไม่ได้สตินั้น ระบบนั้นจะหยุดชะงักลงและอาจจะทำให้ความร้อนไหลขึ้นมาทำให้หัวร้อนถึงขั้นไฟเผาผมทั้งหัวได้เลยน่ะ"
              "นั้นเป็นความรู้ของท่าน หรือว่าท่านรู้จากผู้ว่าการที่เป็นหมอสนามของท่านประธานาธิบดีกันแน่ละคะ" เทาฟาดิลเดา เพราะเธอรู้จักเซริซ่ามาจากเหล่าทหารที่ร่วมรบรวมถึงทีมแพทย์ของเธอด้วย
              รัคชูมี่กล่าว "ฉันรู้ว่าเธออาจจะไม่ชอบวิธีการของเซริซ่ากันก็จริง แต่ ด้วยประสบการณ์ที่เธอดูแลแมนิเกเตอร์ทั้งมนุษย์ ทั้งหุ่นยนต์และมนุษย์ชีวภาพมาตลอดนั้น เธอจึงมีความรู้ในการดูแลและรักษาพวกเขาอยู่ไม่น้อย และสอนพวกเขาให้รู้จักดูแลตนเองและผู้อื่นกันบ้างน่ะ" แล้วก็บอก "ที่สำคัญ พวกเราเองก็ต้องปรับตัวเข้ากับสถานการณ์และรับเอาองค์ความรู้ใหม่ๆมาศึกษาเอาไว้ใช้กับพวกเราด้วยน่ะ"
              "แต่พวกเรามีเส้นผมบนหัวกันซะทีไหนละคะ" เทาฟาดิลแย้ง และหันมาถาม "แบบนี้มันจะได้ผลจริงๆหรือคะ"
              รัคชูมี่กล่าว "ฉันแค่ลองเสี่ยงดูน่ะ แม้ฉันจะรู้สึกได้ว่า ลิเนียร์ตี้ พยายามที่จะต่อสู้กับความเป็นความตายนี้กันอยู่ก็ตาม"
              "ท่านรู้ว่าลิเนียร์ตี้พยายามจะฟื้นตัวเองให้ได้เลยหรือคะ ทั้งๆที่เธอ...." เทาฟาดิลถามอย่างไม่เชื่อ
              รัคชูมี่ตอบ "....ถึงกายเธอจะไม่สามารถขยับได้ แต่ร่างจิตของลิเนียร์ตี้พยายามที่ยืนยันขึ้นมา แม้จะต้องสู้กับพลังที่อยู่ในกายเธอที่อาจจะลบจิตของเธอให้หายไปได้ก็ตาม ฉันมั่นใจว่าลิเนียร์ตี้ต้องผ่านมันไปให้ได้อยู่แล้วละ"
              "ที่ท่านเชื่อมานิ ส่วนหนึ่งเพราะว่าลิเนียร์ตี้เคยถูกเล่นงานจนร่างถูกทำลายไปแล้วอย่างงั้นละสิคะ" เทาฟาดิลกล่าว
              รัคชูมี่พยักหน้า "นั้นแค่ครึ่งหนึ่งน่ะ ส่วนอีกครึ่งนั้น มาจากการที่ฉันได้เจอเพื่อนที่มีสภาพเดียวกันมาก่อนนะสิ"

              โดยในขณะที่รัคชูมี่กับเทาฟาดิลกำลังคุยกันอยู่นั้น ภายในจิตใต้สำนึกของลิเนียร์ตี้นั้นก็...
              "นี้ฉันกลับมาในที่แบบนี้อีกแล้วหรือ ในห้วงแห่งความว่างเปล่าซึ่งไม่มีอะไรเลยน่ะ" ลิเนียร์ตี้กล่าวโดยที่ร่างจิตของเธออยู่ท่ามกลางห้วงความมืดอันเปล่าเปลียว "เพียงแต่ ฉันไม่ได้ยินเสียงใครเลย คุณมอร์ทิสซ่าเองก็จากไปกันแล้ว เท่ากับว่าฉันก็...ไม่ได้ยินเสียงคนอื่นกันเลยน่ะ" แต่ก็มีเสียงหนึ่งดังขึ้น
              "ที่เจ้าไม่สามารถได้ยินได้ เพราะว่าเจ้าได้ละเลยคำเตือนจากฉันเองนะสิ"
              "เสียงนี้ เสียงอันอ่อนโยนที่คอยเตือนฉันตอนอยู่เลนิลเกรดและก่อนหน้านี้นิน่า เป็นคุณเองหรือคะ" ลิเนียร์ตี้กล่าว
              เสียงนั้นตอบ "เจ้ารู้ดีแล้วสิน่ะ ถ้าเจ้าหลีกเลี่ยงการต่อสู้ไปได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การท้าทายกับอันตรายที่เกินกำลังของเจ้าที่จะรับมือกันได้ อย่างการเข้าแข่งขันเกมกีฬาอันโหดร้ายและป่าเถื่อนนั้น เจ้าคงไม่ต้องมาลงเอยในที่แบบนี้กันหรอกน่ะ"
              "หมายความว่ายังไงกันละคะ" ลิเนียร์ตี้ถามอย่างแปลกใจไม่น้อย
              เสียงนั้นอธิบายไปว่า "พลังของเจ้า จะเพิ่มพูนมากขึ้น หากเจ้าเผชิญหน้ากับภยันตรายที่อยู่ตรงหน้า และโต้ตอบด้วยการต่อสู้กัน ถึงแม้ว่าเจ้าจะไม่ได้ใช้พลังจากแกนหัวใจที่เจ้าได้รับมา เจ้าก็เผลอใช้พลังนั้นอยู่ดี บวกกับว่าเจ้าพึ่งจะถูกอำนาจชั่วร้ายครอบงำจนพลังของเจ้าเสียสมดุลย์ขึ้นมา ต่อให้มีเครื่องมือช่วยควบคุมพลังไว้ พลังที่เจ้ามีก็ยังเป็นอันตรายกับเจ้ากันอยู่นี้แหละ"
              "แต่ ฉันรู้สึกได้ถึงพลังพลาซอนของนายแม่รัคชูมี่ได้อยู่ ท่านก็คงจะ...." ลิเนียร์ตี้กล่าว
              เสียงนั้นชะงักไปพักใหญ่ก่อนจะบอกว่า "ถึงกระนั้น นายแม่แห่งควอเดี่ยมก็ช่วยได้แค่ชั่วคราวเท่านั้นเอง เผลอๆอาจจะช่วยอะไรเจ้าไม่ได้เลยน่ะ"
              "แล้ว ฉันควรจะทำเช่นไรละคะ" ลิเนียร์ตี้ถามด้วยความกังวลใจ
              เสียงนั้นบอก "ตอนนี้เจ้าควรจะทำใจให้สงบกันไว้ และเจ้าไม่จำเป็นต้องทำอะไรกันทั้งนั้นเลยนะ" แล้วก็ปรากฎลูกแก้วแสงขึ้นมา "เพราะฉันจะพาเจ้าไปดูสภาพที่เจ้าถือกำเนิดขึ้นมากันน่ะ ว่าก่อนหน้าที่เจ้าจะเดินทางมายังอวกาศแห่งนี้ เกิดอะไรขึ้นกันบ้าง" จากนั้นก็ "แวบบบบ" เปล่งแสงสว่างจนลิเนียร์ตี้ต้องปิดตาเอาไว้

              "ปี้บๆๆๆๆๆๆ" เสียงคอมพิวเตอร์ดังขึ้นมา โดยที่ลิเนียร์ตี้ลืมตาหลังจากที่ได้ยินเสียง จนพบว่า.... "ที่นี้มัน ห้องวิจัยนะหรือ...." ลิเนียร์ตี้มองเห็นเครื่องคอมพิวเตอร์รวมถึงหน้าจอมอนิเตอร์สีฟ้าและสีน้ำเงินอยู่เหนือหัว "อือ ทำไมภาพถึงมืดครึ่มกันละเนี้ย แล้วทำไมฉันถึงขยับตัวไม่ได้กันละ" ลิเนียร์ตี้กล่าวเพราะเธอเห็นว่าภาพที่เธอมองเห็นนั้นไม่ชัดเจนกว่าเดิม จนกระทั่ง "ครืดดดด" ประตูเลื่อนเปิดขึ้นมาพร้อมกับทอฟนิคซ์หญิงเดินนำมาก่อน พร้อมกับ....
              "ไหนขอดูผลงานชิ้นเยี่ยมที่ท่านแจ้งข้ามาให้ดูหน่อยได้มั้ยละ ท่านแพทรีออท" แมนิเกเตอร์หุ่นหัวแหลมกล่าวกับแมนิเกเตอร์อดีตมนุษย์ในชุดทหารที่มีผลึกสีน้ำเงิน
              "แพทรีออทนะหรือ....นั้นคงเป็นแม่ทัพกองรบอีเนอไมนด์บนโลก ต้นสังกัดที่คืนชีพพีวิลขึ้นมา และเป็นผู้สร้างเมดลิคซ์ ซึ่งฉันเป็นหนึ่งในนั้นด้วยสิน่ะ" ลิเนียร์ตี้กล่าวและมองหน้าแมนิเกเตอร์หุ่นหัวแหลม "และนั้นต้องเป็นขุนพลครองคอร์ด แม่ทัพใหญ่ที่รับผิดชอบกองกำลังอีเนอไมนด์ ครอสตรีมและแอตแลนไทซ์ สมุนมือขวาของโอเวอร์เดส ซึ่งเป็นยอดขุนพลที่ชาญฉลาดแต่มากเล่ห์เพทุบายสูงมากแน่ๆ แต่ เขามาที่นี้ทำไมกันน่ะ" แล้วลิเนียร์ตี้ก็มองดูแม่ทัพต้นสังกัดเก่าของเธอกับขุนพลมือขวาของโอเวอร์เดสเดินมา
               "เมดลิคซ์รหัส L3NRT4 ตัวนี้ มีขีดความสามารถทางสมองกลที่รวดเร็วกว่าปกติถึง 3 เท่าด้วยกัน ซึ่งทีมตรวจสอบได้แจ้งผมและพลาทูนั่มให้รับทราบกันไว้แล้ว ว่าเธอสามารถประมวลผลการปฏิบัติงานได้เร็วกว่าเมดลิคซ์ปกติด้วยกัน" แพทรีออทอธิบาย
              "เข้าใจแล้วละ ฉันถูกแม่ทัพแพทรีออทสร้างขึ้นมาในฐานทัพของโฮปป้าสคาโพรนอส ในฐานะเมดลิคซ์ที่มีความพิเศษกันอยู่ โอ้ว ฉันเกือบลืมไปน่ะว่าฉันเคยอยู่ในสภาพที่ต้องสวมหมวกและใส่แว่นตลอดเวลากันน่ะ" ลิเนียร์ตี้กล่าว
              แพทรีออทบอก "ว่าแต่ ท่านมีความคิดเห็นเป็นเช่นไรละครับ"
              "แค่ท่านพูดมา ข้ายังไม่เชื่อสนิทใจกันเสียเลยน่ะ" ครองคอร์ดได้ฟังก็สนใจแต่ถามเพื่อความแน่ใจมากกว่านี้ แพทรีออทพยักหน้า แล้วก็สั่งการให้ "L3NRT4 ถ้าเกิดว่ากองกำลังมนุษย์หลอกล่อเราให้ติดกับ ซึ่งเป็นพื้นที่จุดตกของปืนใหญ่เลเซอร์กำลังสูงขึ้นมา โดยมีกองรถถังเตรียมล้อมเอาไว้อยู่ ทั้งๆที่ในกองมีเมดลิคซ์ 5 ตัว กริมลิคซ์ 4 ตัว และทอฟนิคซ์เพียง 2 ตัว แล้วเจ้าอยู่ในกองกำลังนั้นด้วย เจ้าจะแก้ไขยังไง"
              "........ในสถานการณ์เช่นนี้ เราไม่จำเป็นต้องติดตามกลุ่มศัตรูที่มีท่าทีว่าถอยหนีแต่หวังผลเอาไว้ แต่ให้เปลี่ยนเป็นการแยกกลุ่มออกเป็น สองหน่วยไปจู่โจมกองรบรถถัง โดยให้ทอฟนิคเป็นตัวนำเพื่อรับมือกับอาวุธเลเซอร์และระเบิด เมดลิคซ์รวมถึงตัวฉันเอง ให้บุกฝ่าไป 3 ตน โดยทำหน้าที่เป็นตัวหลอกล่อให้พลปืนด้านหน้าเกิดความสับสน เปิดช่องให้กริมลิคซ์ 2 ตัวบุกเข้าไปใกล้กับรถถังเพื่อปล่อยสัญญาณลวงให้พลปืนใหญ่ ถล่มใส่พวกกองรบมนุษย์ที่ถูกหลอกว่าพวกเราเข้ายึดรถถังไปใช้แล้วนะคะ" ลิเนียร์ตี้ในสภาพของเมดลิคซ์รหัส L3NRT4 กล่าว โดยที่ตัวเธอในตอนนี้นั้น "เดียวสิ นี้ฉันวิเคราะห์แบบนั้นเลยหรือ"
              ครองคอร์ดได้ฟังก็หัวเราะ "หึๆๆๆ เยี่ยม ไม่คิดเลยว่าจะมีเมดลิคซ์ที่ฉลาดกว่านี้เลยน่ะ แล้วท่านให้เธอออกภาคสนามกันหรือเปล่าละ"
         "ถึงแม้ว่า L3NRT4 จะมีประสิทธิภาพในการต่อสู้สูงกว่าเมดลิคซ์ แม้จะไม่ได้ส่งลงภาคสนามกันเลยก็ตาม ท่านเองก็น่าจะรู้สถานการณ์ในตอนนี้ดีแล้วใช่มั้ยละ" แพทรีออทกล่าว
              ครองคอร์ดได้ฟังก็พยักหน้า "ท่านหมายถึง พีวิลและมาสวาร์ทาร์ คนทรยศทั้งสองได้เข้าร่วมกับโคเคสและพวกกบฎกัน หลังจากที่จัดการกับหน่วยนักล่าสังหารของท่านไปแล้วสิน่ะ"
              "สมุนของคาวาดันที่เหลือรอดอยู่รายงานมา ว่าพีวิลใช้มัคซ์แฟนท่อมได้แล้ว ล่าสุด พีวิลพึ่งจะใช้พลังอีเนลเซี่ยมยึดคอสทารอนมาเป็นของตัวเองได้ ซึ่งนั้นไม่ใช่แค่ข้าคนเดียวที่หวั่นเกรงต่อพีวิลเสียแล้วน่ะ" แพทรีออทบอก
              ครองคอร์ดกล่าว "แม้กระทั่งพลาทูนั่มด้วยละสิน่ะ ท่านแพทรีออท" และหันมามองลิเนียร์ตี้ในสภาพดั่งเดิมอยู่ "แล้วท่านคงไม่คิดที่จะเสียสมุนมือดีตนนี้ไปเลยสิน่ะ"
              "L3NRT4 มีค่าเกินกว่าจะให้พังพินาศคามือของพีวิล หรือดาบของมาสวาร์ทาร์ หรือจากคำสั่งของพลาทูนั่มกัน โดยเฉพาะอย่างหลังนั้นแหละ ที่ข้ากังวลไม่น้อย" แพทรีออทอธิบาย "นับแต่ชัยชนะของพีวิลปรากฎขึ้นมา ไม่ใช่แค่ข้ากับพวกอีเนอไมนด์ที่อยู่ในทวีปแอฟริกาเท่านั้นเริ่มอกสั่นขวัญแขวนกันอย่างเดียว แต่นั้นจะทำให้เพลิงแค้นของพลาทูนั่ม มีมากจนข้าไม่สามารถใช้คำพูดเกลี้ยกล่อมให้ใจเย็นลงได้แล้ว ความริษยาและเกลียดชังในตัวพีวิลนั้น ได้ทำให้สมุนมือขวาที่ข้าหวังให้เขาสืบทอดต่อจากข้านั้น ตายไปครึ่งหนึ่งแล้ว หากแต่ ข้าจะรอให้พลาทูนั่มทำผิดพลาดครั้งใหญ่ขึ้นมานี้แหละ"
              ครองคอร์ดได้ฟังก็คาดเดา "ท่านเลย ให้ข้า ส่งผลงานชิ้นเยี่ยมนี้ไปที่แรซัลก้าพร้อมกับเหล่าสมุนผลิตจำนวนมากเลยสิน่ะ แล้วไม่กลัวว่าข้าจะหักหลังท่านเลยหรือ"
              "การที่ท่านหักหลังมาสวาร์ทาร์นั้น เพราะท่านไม่อยากให้แผนการกำจัดดร.เดลวีแองนูที่หลบหนีอยู่ต้องจบลงด้วยความล้มเหลว แม้จะทำให้ดาบมือหนึ่งกลายเป็นคนทรยศในภายหลังก็ตาม ในฐานะที่ท่านเป็นสมุนเอกที่องค์จักรพรรดิ์บิดรเทพไว้ใจมากที่สุดนั้น ถ้าท่านหักหลังข้า ก็เท่ากับว่าท่านแส่หาเรื่องกับท่านบิดรเทพไปเลยน่ะ" แพทรีออทกล่าว
              ครองคอร์ดยิ้มและบอกไปว่า "บวกกับว่าข้ายอมรับในความสามารถของท่าน จนขอร้องให้ท่านโอเวอร์เดสรับท่านเป็นส่วนหนึ่งของกองกำลัง และกลายเป็นแม่ทัพของพวกอีเนอไมนด์กันด้วยแล้ว ถ้าข้าทำอย่างงั้นกับท่าน แล้วข้าจะได้อะไรขึ้นมากันละ กลัวว่า เจ้าเกซิคซ์จะได้ใจเสียซะมากกว่าน่ะ"
              "ส่วนหนึ่งเพราะว่า คนของลูนาสตี้โผล่มาที่โลกในเขตป่าเขี้ยวเสือเลยสิน่ะ" แพทรีออทกล่าว
              ครองคอร์ดพยักหน้า "เกซิคซ์มีพวกลูนาสตี้และโซลาสตี้อยู่ในกำมือ หากท่านกับพวกพลาดพลั้ง เกซิคซ์ก็มีเหตุผลมากพอที่จะให้ท่านโอเวอร์เดสอนุญาตให้พวกลูนาสตี้และโซลาสตี้ลงมาที่โลกได้แน่นอน ซึ่งไม่ใช่แค่โครเต้และเกซเฟลิคเท่านั้นที่จะไม่มีบทบาท หากพวกนั้นทำสำเร็จขึ้นมาเสียก่อนน่ะ" แล้วก็เดินวนเวียนไปมา "เว้นเสียแต่....โคเคสและพวกสามารถหยุดยั้งพวกนี้ได้ ก็เท่ากับว่า กำแพงที่ใช้ขวางพวกที่พยายามหนีออกนอกโลกก็จะไม่มีไปด้วยนะสิ ซึ่งนั้นหมายถึง เกซิคซ์จะไม่เหลือกองกำลังรบใต้อำนาจของตนด้วยน่ะ"
              "เท่าที่ข้าทราบมา ว่าเกซิคกักพวกแมนิเกเตอร์นอกโลกเอาไว้ ซึ่งท่านไม่มีอำนาจในการโยกย้ายหรือทำอะไรพวกนั้นได้เลยน่ะ" แพทรีออทบอก
              ครองคอร์ดยิ้มและบอกไปว่า "เว้นเสียแต่พวกนั้นโผล่มาที่โลกได้นี้แหละ ข้าถึงสามารถจัดการได้ เหมือนที่ข้าจะทำกันอยู่นี้แหละ" แพทรีออทได้ฟังก็พยักหน้าด้วยความเชื่อมั่นต่อขุนพลระดับมือขวาของโอเวอร์เดสผู้นี้ "เพื่อให้ท่านสามารถจัดการกับเบรซซิ่งแฮนด์ลงด้วยมือของท่านเองได้นั้น ข้าคงต้องตัดกำลังของพวกท่านลงไปเสียหน่อย พร้อมกับทำลายความหวังของพลาทูนั่มกันด้วย ท่านคงจะไม่ขัดข้องหรือเปลี่ยนใจกันบ้างน่ะ"
              "ข้าหวังว่า L3NRT4 ตนนี้จะช่วยเป็นกำลังสำคัญให้กับอีเนอไมนด์ที่อยู่ในอวกาศ ไม่สิ ในระบบดาวเดียวกับดาวแรซัลก้ากันบ้าง อย่างน้อย เธอก็จะช่วยพวกพ้องหยุดยั้งพีวิลและพวกโคเคสที่หลุดออกนอกโลกได้ หากว่าพวกเขาเอาชนะท่านโอเวอร์เดสไปแล้วน่ะ" แพทรีออทบอก และส่ายหน้าให้กับทอฟนิคซ์หญิงเพื่อไม่ให้เธอปากสว่างไว้
              ครองคอร์ดบอก "ข้ากลัวว่า เตาพลังงานที่ติดตั้งไว้ให้กับเมดลิคซ์ตนนี้ คงไม่พอสำหรับขีดความสามารถที่สูงมากกันหรอก เว้นเสียแต่ โชคช่วยกันบ้างน่า" โดยที่แพทรีออทเดินมาเพื่อปิดสวิตซ์เพื่อปิดการทำงานของลิเนียร์ตี้กันไว้

              "นั้นคงเป็นครั้งแรกที่เจ้าได้เห็น บิดาผู้ให้กำเนิดเจ้าขึ้นมาแล้วสิน่ะ" เสียงนั้นกล่าว
              ลิเนียร์ตี้ตอบ "ฉันพอรู้จากมาสวาร์ทาร์ จากนายแม่รัคชูมี่และคนอื่นๆเล่ามานะคะ ว่าฉันมีค่าเกินไปที่จะให้ถูกทำลายไปได้น่ะ" แล้วก็กล่าวต่อ "เพียงแต่ ฉันไม่รู้มาก่อนว่าฉันสามารถวิเคราะห์สภาพการณ์ได้เหมือนกับพลัสเชอริทมาก่อน และจำในช่วงที่ถูกสร้างมาก่อนหน้าจะถูกส่งไปที่เทเดม-7 ไม่ได้เลยนะคะ"
              "งั้นฉันจะเล่าให้เจ้าฟังต่อ หากแต่ เจ้าจะรู้ได้ในตอนกลางคืนเท่านั้นเองนะ" เสียงนั้นบอก แล้วลูกแก้วนั้นก็หายไป
              ลิเนียร์ตี้กล่าว "เดียวสิคะ เดียวสิ เดียว...." และพยายามเอื้อมมือไป จน... เธอมองเห็นภาพเพดานไม้ขึ้นมา พร้อมกับ... "นายแม่รัคชูมี่ คุณเทาฟาดิล นี้ฉัน....อยู่ที่นี้กันนะหรือคะ" ลิเนียร์ตี้เอ่ย เมื่อเธอเห็นรัคชูมี่และเทาฟาดิลมองหน้าเข้ามา
              "รู้สึกตัวแล้วสิน่ะ ลิเนียร์ตี้ แม้ว่าการที่เธอหลับไปนั้นจะทำให้ทุกๆคนเป็นห่วงไปด้วยน่ะ" รัคชูมี่กล่าว
              ลิเนียร์ตี้ได้ฟังก็พยักหน้า "นั้นสินะคะ และคงต้องลำบากนายแม่และคุณเทาฟาดิลด้วยนะคะ" และเธอรู้สึกได้ว่า "เออ นี้คุณโกนหัวฉันไปนะหรือคะ เพราะอยู่ๆ หัวของฉันรู้สึกเย็นกว่าปกติ ทั้งๆที่ควรจะมีผมอยู่น่ะ"
              "ท่านรัคชูมี่แค่ต้องการให้หัวของเธอไม่ร้อนจนเกินไปกันนะสิ แต่ไม่คิดเลยว่ามันจะได้ผลจนเธอเพ้อพูดอะไรไปบ้างน่ะ" เทาฟาดิลบอกอย่างหงุดหงิดเล็กน้อย
              ลิเนียร์ตี้กล่าวอย่างแปลกใจ "เออ แล้วคุณก็คงจะเห็นภาพความทรงจำของฉันได้เลยสิคะ"
              "เออ ฉันยัง ฝึกไปไม่ถึงขั้นนั้นหรอกน่ะ แค่ระดับขั้นต้นเท่านั้นเอง" เทาฟาดิลกล่าวอย่างกระอักกระอ่วนเล็กน้อย
              รัคชูมี่บอก "แต่อย่างน้อย เสียงที่เธอได้ยินมาก่อนหน้านั้น ก็คือตัวคนๆเดียวกันเลยสิน่ะ ลิเนียร์ตี้...."
              "คะ เพียงแต่ยังไม่รู้ว่ามันเกิดอะไรกับฉันหลังจากนั้นเลยนะคะ" ลิเนียร์ตี้กล่าว และพยายามจะลุก แต่เทาฟาดิลเข้ามาห้ามไว้
              รัคชูมี่กล่าว "ตอนนี้เธอไม่ควรจะลุกขึ้นหรือขยับตัวเลยน่ะ เพราะเรากลัวว่าเธอจะกลับมาเป็นแบบเดิมขึ้นมานะสิ"
              "และคราวนี้ เราก็คงหยุดยั้งอะไรไม่ได้แล้วละ" เทาฟาดิลกล่าว
              ลิเนียร์ตี้ได้ฟังก็พยายามหันมายังรัคชูมี่ ซึ่งส่ายหน้าแทนคำตอบ "นี้แปลว่า ไม่มีทางไหนช่วยฉันได้เลยหรือคะ" ลิเนียร์ตี้บอก
              "เอาเป็นว่าตอนนี้เธอหลับอยู่บนเตียงน้ำแข็งนี้ไปก่อนแล้วกัน จนกว่าสภาพพลังของเธอเสถียรขึ้นมากันน่ะ" รัคชูมี่บอก "เทาฟาดิล ไปเอาก้อนน้ำแข็งมาเปลี่ยนหน่อย เพราะชั้นบนละลายไปแล้วละ" เทาฟาดิลพยักหน้าและรีบออกไป
              ลิเนียร์ตี้บอก "ว่าแต่ คุณรู้จักเจ้าของเสียงในหัวฉันหรือเปล่าละคะ"
              "ก็ได้ยินมาบ้าง แต่เสียงนั้นแผ่วเบา ราวกับว่าไม่ให้ฉันได้ยินกันนี้แหละ ว่าแต่ เธอถามทำไมกันหรือ" รัคชูมี่กล่าว
              ลิเนียร์ตี้บอก "พอฉันพูดถึงท่านขึ้นมา เจ้าของเสียงก็ชะงักไปสักพักหนึ่ง เหมือนกับว่า เขารู้จักกับท่านมาก่อนนะคะ"
              "........" รัคชูมี่นิ่งไปพักหนึ่ง จนกระทั่ง ควอเดี่ยมเรนเจอร์เดินเข้ามา "เรียนนายแม่ ข้าพเจ้ามีเรื่องด่วนที่ต้องแจ้งให้ทราบกันนะครับ"
              รัคชูมี่กล่าว "ว่ามาสิ"
              "คือว่า กลุ่มเราพบค่ายพักแห่งหนึ่ง ซึ่ง....มีประตูมิติแบบเดียวกันกับที่พวกเดลอาเนี่ยนใช้อยู่ เพียงแต่ว่า...." เรนเจอร์กล่าว และบอกไปว่า "....เออ ขอพูดกับท่านกันแบบไม่ให้ใครได้ยินได้มั้ยละครับ" รัคชูมี่พยักหน้า แล้วเอากรวยมาจ่อตรงหู เพื่อให้เรนเจอร์พูดผ่านกรวยโดยตรง ซึ่งรัคชูมี่ได้ฟังก็ตกใจไม่น้อย ในจังหวะเดียวกันกับที่เทาฟาดิลเข้ามาพอดี
               "เออ ท่านรัคชูมี่ มีเรื่องอะไรเกิดขึ้นหรือคะ"
              "เจ้าพาพวกกลับมาแล้วหรือยังละ" รัคชูมี่กล่าว
              เรนเจอร์รายงาน "ผมแจ้งกับท่านคาราล่าให้ทราบ โดยท่านคาราล่าสั่งให้พวกเราถอยกลับไปกันนะครับ" จนนายแม่ควอเดี่ยมพยักหน้า แล้วก็สั่งให้
              "เจ้ากลับไปได้แล้ว เทาฟาดิล พอเสร็จจากการเติมน้ำแข็งให้ลิเนียร์ตี้ รีบไปแจ้งเนคเกอร์กับพวกกันโดยด่วน" เทาฟาดิลพยักหน้ารับคำสั่ง และรีบจัดการเติมน้ำแข็งใส่ในเตียงของลิเนียร์ตี้กันไว้

              "ดีแล้วน่า ที่ลิเนียร์ตี้ตื่นขึ้นมาได้น่ะ ไม่อย่างงั้นแย่แน่ๆเลยละ" จิลบอก หลังจากที่รัคชูมี่แจ้งให้ทราบแล้ว
              พีวิลบอก "ทีนี้ นายวางใจได้สิน่ะ เนคมาดูซัม"
              "ใช่ เพียงแต่ ลิเนียร์ตี้ต้องนอนแบบนี้ไปโดยไม่รู้ว่าจะทำยังไงกันต่อนะสิ" เนคมาดูซัมกล่าว
              เจเนลถาม "แต่ปัญหาคือ ทำไมพวกเราต้องมาเตรียมพร้อมรบกันด้วย" โดยในเวลานี้ เนคกี้และเนคกัสเอาเพริแกรมบินกลับมาพร้อมกับอาวุธในกล่อง
              "คนของคุณคาราล่าเจอค่ายของพวกเดลอาเนี่ยนตั้งอยู่ในเขตป่ากันนะสิ เลยต้องให้พวกเรามาเตรียมพร้อมเพื่อรับมือกับการบุกของพวกศัตรูกันน่ะ" ฟิเกซบอก
              สเปียริทกล่าว "บ้าชะมัด พวกมันไม่ยอมให้เราได้พักกันเลยหรือไงน่ะ"
              "เอาเถอะ อย่างน้อย เราก็ควรเตรียมพร้อมไว้ เผื่อว่าพวกมันจะบุกถล่มที่นี้และหมู่บ้านใกล้เคียงกันนี้แหละ" โฟรซ่ากล่าวโดยเดินออกมาพร้อมกับฟาร์ไซน์ไรเฟิ่ลและโซลริปเปอร์มาด้วย ซึ่งก็ส่งซีคเก้ไรเฟิ่ลสองกระบอกให้กับเนคมาดูซัม
              คลอเวฟบ่น "แย่ชะมัดเลยน่า ที่กูยังไม่หายดีเลยวะ"
              "คิดซะว่า นายช่วยฉันในแนวหลังแล้วกัน เพราะลิเนียร์ตี้ทำอะไรไม่ได้กันอยู่น่ะ" เนคมาดูซัมกล่าว สเตฟอร์ดเลยส่งช็อคแคนน่อนให้กับคลอเวฟไว้ใช้เพียงกระบอกเดียวสำหรับป้องกันตัว
              พีวิลถาม "ว่าแต่ พวกเดลอาเนี่ยนที่บุกมาในคราวนี้ เป็นพวกไหนกันละ"
              "คุณป้าไม่ได้บอกอะไรกันนะสิ หากแต่ให้ระวังตัวเอาไว้ก็พอน่ะ" ฟิเกซกล่าวพร้อมกับเตรียมอาวุธจตุธาตุเทพศาสตราออกมา
              แอบไบออสกล่าว "ที่นายแม่ไม่ได้บอกนิ เพราะคงรู้ว่าศัตรูเป็นใครกันสิน่ะ"
              "เอาเป็นว่าตอนนี้ พวกเราเตรียมการรับมือไว้แล้วกัน ซึ่ง เราได้ขอให้พวกลุงเบติสเดินทางกลับไปที่ยานไทรแองเกิ้ลกันก่อนน่ะ เผื่อว่าพวกมันจะเอาวอร์บอทออกมาด้วยน่ะ" เนคมาดูซัมกล่าว "มาส นายกับพีวิลคุมทีมรับมือกับพวกผู้บุกรุกแล้วกันน่ะ"
              มาสวาร์ทาร์ถาม "ได้อยู่แล้วละ ว่าแต่ แล้วนายละ เนคมาดูซัม"
              "ฉันจะอยู่เฝ้าเรือนหลักของป้ารัคชูมี่ไว้นะสิ เผื่อว่าพวกศัตรูมันเล็งมาทางป้ากันเลยน่ะ" เนคมาดูซัมกล่าว
              พลัสเชอริทบอก "ส่วนหนึ่งเพราะนายไม่อยากให้ลิเนียร์ตี้มีอันตรายอย่างงั้นสิน่ะ"
              "ถึงนายไม่พูดออกมา เราก็เดาออกอยู่แล้วละ ว่านายคิดยังไงน่ะ" จิลบอก
              ไซโคลเนียกล่าว "นั้นสิ ลินี่เองก็ทำอะไรไม่ได้เช่นนี้ ถ้านายอยู่ช่วยพวกเราแล้วเกิดเรื่องกับนายแม่และลินี่ขึ้นมา นายไม่เสียใจแย่กันพอดีนะสิ"
              "ถ้าเช่นนั้นก็ เนคกี้ เนคกัส พวกเธอช่วยเนคเกอร์ไปเลยแล้วกันน่ะ" สเตฟอร์ดบอก เนคกี้พยักหน้า
              เนคกัสบอก "หวังว่าพวกคุณคงจะโชคดีกันบ้างนะครับ" แล้วก็ไปกับเนคมาดูซัมที่เรือนหลักของรัคชูมี่

              "ดูเหมือนว่าทุกๆคนคงจะวุ่นวายไม่น้อยเลยสิคะ" ลิเนียร์ตี้กล่าว
              เทาฟาดิลบอก "อย่าไปสนใจดีกว่าน่ะ ตอนนี้เธอควรจะหลับก่อนดีกว่า ไม่งั้น พลังในตัวของเธอจะคุมไม่ได้กันน่ะ"
              "แต่ สภาพในเวลานี้ ฉันหลับได้ที่ไหนละคะ" ลิเนียร์ตี้บอก แต่ทว่า.... "เออ ทำไม ภาพมันมั่วๆกันละ นี้คุณ ให้ยาสลบกับฉันนะหรือ"
              เทาฟาดิลบอก "ฉันไม่ได้ใช้ยาสักหน่อย แค่เติมน้ำแข็งไปก็เท่านั้นเอง ซึ่งเธอก็คงจะหลับเพราะความเย็นเลยสิน่ะ"
              "มันก็จริง แต่ อือ อือ....เออ..." ลิเนียร์ตี้กล่าวโดยเปลือกตาของเธอปิดลง จน...ตัวเธอหลับสนิทขึ้นมา
              เทาฟาดิลกล่าว "ดีแล้วละที่หลับไปได้...." แต่ยังไม่ทันจะพูดต่อ ก็ "แว้ง แว้ง แว้ง" กลางหน้าอกเรืองแสงขึ้นมาสามครั้งด้วยกัน "อีกแล้วหรือ คราวนี้อะไรอีกละเนี้ย"
              "มีอะไรเกิดขึ้นงั้นหรือ" รัคชูมี่กล่าวโดยที่เธอเตรียมพร้อมออกรบกันแล้ว
              เทาฟาดิลบอก "แกนหัวใจของลิเนียร์ตี้เปล่งแสงขึ้นอีกแล้วนะคะ หากแต่ พลังมันไม่ได้รุนแรงกว่าที่คิดไว้นะคะ แต่ไม่รู้ว่ามันเป็นอะไรกันน่ะ"
              "ดูเหมือนว่า เจ้ากำลังตกอยู่ในอันตรายกันแล้วสิน่ะ" เสียงนั้นกล่าวขึ้น หลังจากที่ลิเนียร์ตี้หลับสนิทและจิตเข้าสู่ห้วงแห่งความมืดแล้ว
              ลิเนียร์ตี้บอก "คุณรู้ด้วยหรือคะ แต่ ฉันไม่ได้บอกอะไรกับคุณเลยนิน่า"
              "ถึงเจ้าไม่ได้บอก ฉันก็รู้สภาพการณ์ที่เกิดขึ้นกันแล้ว ซึ่งข้า จะพาเจ้าออกจากวงล้อมของปัญหาดังกล่าวกันเดียวนี้แล้วละ" เสียงนั้นบอก
              ลิเนียร์ตี้กล่าว "แต่เดียวก่อนสิคะ ฉันไม่สามารถขยับตัวได้ แล้วคุณจะพาฉันไปได้ไงกันละ"
              "จากการที่ฉันติดต่อทางจิตกับเจ้าได้ในครั้งแรกๆนั้น ฉันไม่สามารถใช้พลังกับเจ้าได้เนื่องจากว่าข้าอยู่ห่างไกลไปมาก แต่ตอนนี้ ฉันอยู่ในที่เดียวกันกับเจ้าแล้ว ซึ่งเท่ากับว่า ฉันสามารถใช้พลัง ทำให้เจ้ามาหาฉันได้นี้แหละ" เสียงนั้นกล่าว และเรืองแสงจนร่างจิตของลิเนียร์ตี้ "แว้งงง แว้งงง แว้งงง" เรืองแสงสีชมพูอ่อนขึ้นมา ในเวลาเดียวกันกับ.... "แว้ง แว้ง แว้ง" ร่างของลิเนียร์ตี้เรืองแสงตามไปด้วย
              รัคชูมี่บอก "ลักษณะแบบนี้มัน....หรือว่านั้นจะ..."

              "ฮือออ" เนคมาดูซัมรู้สึกขึ้นมา
              คลอเวฟถาม "เกิดอะไรขึ้นวะ เนคเกอร์"
              เนคมาดูซัมตอบ "ฉันรู้สึกว่า ลิเนียร์ตี้กำลังมีปัญหากันนะสิ"
              "คงไม่ใช่ว่าแกนหัวใจของเธอโอเวอร์โหลดจนเกิดการระเบิดขึ้นเลยสิวะ" คลอเวฟบอก
              เนคมาดูซัมได้ฟังเลยรีบเข้าไปดูในห้องโถง จนได้เห็น "ลิ ลิเนียร์ตี้ นี้เกิดอะไรขึ้นกันละเนี้ย" เนคมาดูซัมอุทาน เมื่อได้เห็นลิเนียร์ตี้ลอยอยู่เหนือเตียงน้ำแข็งในสภาพที่เรืองแสงอยู่
              "แว้งๆๆๆ" ร่างของลิเนียร์ตี้เรืองแสงโดยที่เธอลืมตาขึ้นมา หากแต่ปราศจากแววตาของเธอ บ่งบอกว่าเธอยังอยู่ในสภาพไร้การรับรู้ พร้อมกับ "ฟึ่บบบบบบ" กางปีกแห่งแสงออกจากปีกหลังทั้งสองข้างพร้อมกัน แล้วก็ "ฟ้าวววววว" บินออกไปจากด้านข้างโดยเร็ว "เธอ... เธอบินไปแล้ว ป้า นี้ลิเนียร์ตี้ บินไปแล้วใช่มั้ย" เนคมาดูซัมอุทานขึ้นมา
              เทาฟาดิลบอก "แทบไม่เชื่อเลยว่ามันจะเกิดขึ้นจริงๆนะคะ ท่านรัคชูมี่"
              "ใช่ แม้จะตกใจไม่น้อยกับเรื่องที่เกิดขึ้นก็ตาม เพราะฉันไม่เคยเห็นเพรแครเดี่ยนกางปีกแห่งแสงนี้ออกมา ตั้ง 20 ปีบนแรซัลก้ากันแล้วน่ะ" รัคชูมี่กล่าว
              เนคมาดูซัมบอกอย่างร้อนรน "แล้วลิเนียร์ตี้คงไม่บินหนีไปไกลเลยหรือ ป้า"
              "เนคเกอร์ ใจเย็นๆ ฉันรู้ว่าเธอเป็นห่วงลิเนียร์ตี้มาก แต่ เธอไม่ควรวู่ว่ามและใจร้อนเกินไปกันหรอกน่ะ เพราะฉันคิดว่า คนที่ดึงลิเนียร์ตี้มานั้น ไม่อยากให้เธอติดตามไปได้แน่นอน" รัคชูมี่เตือนสติ แล้วก็วิ่งไปหยิบกล่องไม้ออกมา และเปิดฝากล่อง ซึ่งมีจี้ห้อยคอติดผลึกสีขาวอยู่สามอันด้วยกัน "เอาไบลนด์แอมเบรมนี้สวมไว้ซะ นั้นจะช่วยปกป้องมิให้ผู้ที่ดึงลิเนียร์ตี้ รู้ถึงพลังควอตไซเซอร์อันกล้าแกร่งจากตัวเธอได้กันน่ะ"
              เนคมาดูซัมเลยหยิบจี้ห้อยคอมาสวมไว้ "แล้วอีกสองอันนั้นละคะ" เทาฟาดิลถาม
              "เนคเกอร์ ลำพังเธอไปคนเดียวไม่ได้แน่ๆ ดังนั้น เรียกเนคกี้และเนคกัสให้มาช่วยเธอโดยด่วน" รัคชูมี่กล่าว เนคมาดูซัมพยักหน้าและรีบออกไปข้างนอก เพื่อให้เนคกี้และเนคกัสเข้ามา
              "ถ้าสวมอันนี้แล้ว คิดว่าพวกคุณพีวิลและคุณมาสวาร์ทาร์จะรู้หรือเปล่าละครับ" เนคกัสถาม หลังจากที่ได้ฟังรัคชูมี่อธิบายไปแล้ว และสวมสร้อยกันแล้ว
              "พวกเขาเองก็ไม่รู้นะสิ ซึ่งฉันจะให้เทาฟาดิลอธิบายกันไว้เองน่ะ" รัคชูมี่บอก "เวลาไม่ค่อยท่าแล้ว พวกเธอต้องรีบติดตามลิเนียร์ตี้กันไว้โดยเร็วดีกว่า"
              เนคมาดูซัมบอก "แต่ ผมไม่รู้ว่าจะตามหาเธอได้ไงละครับ"
              "ติดตามตุ๊กตานกพิราบตัวนี้ไป ฉันใส่เส้นผมของลิเนียร์ตี้เอาไว้ มันจะช่วยนำทางให้พวกเธอเอง" รัคชูมี่กล่าว โดยใช้พลังพลาซอนกับตุ๊กตานกพิราบที่วางบนโต๊ะ ซึ่งก็ "แว้งง พึ่บๆๆๆๆๆ" แม้จะมีนุ่นยัดไว้ข้างใน(พร้อมเส้นผมของลิเนียร์ตี้) แต่ก็มีโครงเหล็กอยู่ด้วยเพื่อช่วยให้ตุ๊กตาบินได้ นำทางสามพี่น้องมาสซั่มเดินออกด้านข้างเรือนหลัก และเข้าป่าไปอย่างรวดเร็ว
              เทาฟาดิลถาม "ท่านรัคชูมี่คะ ทำแบบนี้มันจะดีหรือคะ ที่ให้พวกเนคมาดูซัมออกไป...."
              "ดีอยู่แล้วละ เพราะว่าศัตรูที่พวกไทรเวเซอร์เผชิญหน้ากันนั้น เป็นชนเผ่าที่พวกเรารู้จักกันดีมากแล้ว" รัคชูมี่บอก "หากแต่ พวกไทรเวเซอร์กำลังจะเจอศึกหนักกับศัตรูที่เป็นเหมือนพี่น้องกับสามพี่น้องมาสซั่มกันนะสิ"
               เทาฟาดิลพยักหน้า "แล้วท่านคิดว่าพวกนี้คงมาเพื่อแก้แค้นพวกเราที่มีส่วนร่วมในการทำให้โอเวอร์เรสสิ้นชีพนะหรือคะ"
              "ฉันคิดว่าพวกที่บุกมาในคราวนี้ มาเพราะคนที่ดึงลิเนียร์ตี้เข้ามาเองต่างหากละ ที่จะนำปัญหามาให้เธอกับพวกโดยไม่รู้ตัว ฉันจึงต้องส่งเนคมาดูซัมและเนคกี้และเนคกัสออกไปกันนี้แหละ เพื่อหยุดยั้งพวกบุกรุกเข้ามากันน่ะ" รัคชูมี่กล่าว และเดินออกไปข้างนอก "เทาฟาดิล ฉันฝากที่นี้ให้เธอกับฟิเกซดูแลให้หน่อยน่ะ"
              เทาฟาดิลพยักหน้า "แล้วท่านละคะ"
              "ลำพังเนคเกอร์คงช่วยลิเนียร์ตี้จากคนที่ดึงเธอมาไม่ได้แน่ๆ แม้ว่านั้นจะเสี่ยงไม่น้อยกับการที่ฉันต้องเจ็บตัวกันก็ตาม" รัคชูมี่บอกพร้อมกับเอาผ้ามาคลุมหน้าเอาไว้
              เทาฟาดิลพยักหน้า "ถ้าเช่นนั้น พวกท่านก็ระวังตัวด้วยคะ" แล้วรัคชูมี่ก็เดินออกไป
        
              "เป็นความจริงหรือ ที่เนคมาดูซัมนั้นเดินออกไปกันน่ะ" สเปียริทบอก
              คลอเวฟติดต่อเข้ามา "ก็ใช่นะสิ พอกูถามว่ามันเกิดเรื่องอะไรขึ้น เทาฟาดิลบอกแค่ว่ามันเป็นเรื่องเฉพาะของพวกเนคเกอร์เองน่ะ"
              "แล้วนายแม่รัคชูมี่ล่ะ" โฟรซ่าถาม
              เทาฟาดิลตอบ "ท่านออกนอกหมู่บ้านไปแล้วละ แต่คงไม่ดีแน่ ถ้าเกิดว่าศัตรูผู้บุกรุกมันแห่เข้ามากันได้น่ะ" แล้วก็บอกไปว่า "ซึ่งฉันคงจะไล่ตามไปไม่ได้ด้วย เพราะท่านรัคชูมี่ฝากให้ฉันช่วยพวกนายกับฟิเกซปกป้องโฟรเทรดิลไว้น่ะ"
              "แสดงว่า ป้าต้องมีเหตุผลแน่ๆเลยละ ถึงต้องรีบออกไปกันนี้แหละ" ฟิเกซกล่าว
              พีวิลบอก "แต่ นายแม่ออกไปด้วยนั้น เกิดถูกพวกศัตรูลงมือคงไม่เข้าท่าแน่ๆเลยละ"
              "แต่ตอนนี้ เรามีพวกศัตรูกันอยู่ เกิดพวกมันแห่มาตอนพวกเราไม่อยู่นิ มันก็แย่ไม่น้อยเลยละ" ไซโคลเนียกล่าว
              มาสวาร์ทาร์พยักหน้า "พีวิล นายกับสเปียริทไปกับเจเนล พลัสเชอริทและแอบไบออส ตามนายแม่รัคชูมี่ไป ฉันกับพวกที่เหลือจะคุมที่นี้เอง"
              "ให้ฉันไปด้วยสิ เมื่อกี้นี้เห็นลินี่บินออกไป อย่างน้อยฉันกับพวกฟลาแน็กซ์น่าจะช่วยมองหาจากมุมสูงได้บ้างน่ะ" ไซโคลเนียอาสา
              โฟรซ่าแย้ง "ไม่ได้หรอก ไซโคลเนีย อย่าลืมสิ ว่าเราอยู่ในเขตป่าทึบกันน่ะ พวกเราไม่รู้ว่าศัตรูเป็นใคร และถนัดการสู้แบบไหนกันบ้าง ถ้าเธอกับพวกฟลาแน็กซ์บินขึ้นไป อาจจะเป็นเป้าให้ถูกสอยร่วงไปได้กันน่ะ"
              "ยิ่งตอนนี้เป็นช่วงกลางคืนด้วยแล้ว ยิ่งเสียเปรียบกันเข้าไปใหญ่เลยน่ะ" สเตฟอร์ดบอก
              เจเนลกล่าว "ลูกพี่ว่ามาก็มีส่วนน่ะ ถึงแม้ว่าเราได้เปรียบในแง่ชัยภูมิ แต่ถ้าฝ่ายศัตรูเก่งในเรื่องสู้ในป่าด้วย ก็ไม่ดีเข้าไปใหญ่น่ะ"
              "คงมีแต่ต้องใช้การตั้งรับและตอบโต้สวนกลับอย่างเดียวแล้วละ" มาสวาร์ทาร์บอก
              ฟิเกซเห็นด้วย "เออ พวกนายช่วยดูแลป้าให้หน่อยนะ เพราะถึงป้าจะกล้าแกร่งและทรงพลังแค่ไหน แต่ถ้าเจอกับศัตรูที่ไม่รู้ว่าเป็นใครกันด้วยแล้ว ฉันอดเป็นกังวลไม่ได้เลยละ"
              "วางใจได้เลย ฟิเกซ เราจะช่วยปกป้องนายแม่ให้เองแหละ นายไม่ต้องเป็นห่วงหรอก" พีวิลรับคำ แล้วรีบไปพร้อมกับพวกโดยเร็ว
              จิลบอก "หวังว่าลิเนียร์ตี้คงไม่เป็นไรกันบ้างน่ะ"
              "ตอนนี้ เรารีบไปเตรียมพร้อมกันก่อนดีกว่าน่ะ" มาสวาร์ทาร์กล่าว แอนเดรียพยักหน้า
              เทาฟาดิลบอก "แต่ คงจะไม่คิดที่จะสู้ด้วยปืนโตนั้นหรอกน่ะ" เพราะสเตฟอร์ดเตรียมแรปิดเดเตอร์มาโรวเดอร์มาด้วย
              "เราต้องเตรียมตัวกันเผื่อเราไม่สามารถรับมือกันได้นะ" โฟรซ่าบอก
              เทาฟาดิลกล่าว "หวังว่าพวกนายคงไม่หาเรื่องยิงโดนพวกเดียวกันเลยน่ะ" แล้วทั้งหมดก็ประจำสถานีรบที่กำแพงหน้าหมู่บ้าน

              ณ.ค่ายลับในป่าลึกของพวกเดลอาเนี่ยน
              "โดรนของพวกเราตรวจจับสัญญาณพลังงานบางอย่างเคลื่อนตัวจากเขตชุมชนของพวกแมนิเกเตอร์กันแล้วละ" ทหารเดลอาเนี่ยนกล่าวกับนายกอง ซึ่งถามกลับไปว่า
              "แล้วมีอะไรอีกบ้างมั้ยละ"
              "โดรนจับภาพของตัวหัวหน้ากองกำลังไทรเวเซอร์ออกมาจากหมู่บ้านกันด้วย โดยออกจากเขตชุมชนหลังจากที่เราตรวจจับสัญญาณพลังงานได้ 5 นาทีด้วยกันนะครับ" ทหารเดลอาเนี่ยนบอก
              โดยที่ร่างเงาลึกลับนั้นได้ยินเข้า "สงสัยว่า เจ้านั้นคงจะตามไปหาพวกนางฟ้าแน่ๆเลยละ"
              "นางฟ้านะหรือ หมายถึงพวกติดปีกเรืองแสงที่ปรากฎตัวในเขตอวกาศของพวกเราอย่างงั้นใช่มั้ยละ" นายกองกล่าว
              ร่างเงาลึกลับบอก "ถูกต้อง และโชคดีมากที่หมอนั้นจะนำทางมาให้พวกเราจับกุมพวกนั้นไว้ยังไงละ" แล้วก็ก้าวเดินออกมา "ดังนั้น เรื่องนี้ให้พวกเราจัดการเองจะดีกว่า"
              "แต่คงจะไม่ขนสมุนของพวกเจ้าไปกันหมดเลยละสิ" นายกองถาม
              ร่างลึกลับกล่าว "คิดว่าเราโง่มากใช่มั้ยละ หึ เรามีแผนการเอาไว้ ซึ่งนั้นจะทำให้เพื่อนของตัวหัวหน้าพวกไทรเวเซอร์ไม่มีทางมาช่วยได้ทันแน่นอน" พร้อมกับเดินจากไป

              "แว้งงงง แว้งงง แว้งงงงง" ร่างของลิเนียร์ตี้โบยบินอยู่ในป่า โดยที่เนคมาดูซัมเดินตามไป ซึ่งเนคกี้และเนคกัสติดตามไปแบบกระชั้นชิด "พี่ใหญ่ พี่เคยเห็นนักรบเพรแครเดี่ยนกันหรือเปล่าละครับ" เนคกัสบอก
              เนคมาดูซัมส่ายหน้า "พี่ไม่เคยได้เห็นนักรบเพรแครเดี่ยนตัวเป็นๆเลย อย่างมากแค่ได้ยินเรื่องราวจากทหารชาวซัลคาเลี่ยน หรือเพื่อนชาวแกตไทซ์ที่ได้รู้เห็นมา ต่อให้พี่อยากจะออกตามหา พ่อก็ขวางไม่ให้พี่ไปยุ่งกับพวกเขาเลยนะสิ"
              "แต่เท่าที่ทราบมา คุณแม่เคยช่วยเหลือพวกเขากันมาก่อน เพราะมีบางครั้งที่พวกเขาเจอศัตรูที่แข็งแกร่งเกินการรับมือได้นะคะ ซึ่งพวกเขาต่างก็เคารพนับถือคุณแม่มาก่อนนะคะ" เนคกี้บอก
              เนคกัสพยักหน้า "เออ ใช่ คุณแม่เคยเล่าเรื่องนี้มาก่อน" และหันมาถาม "แล้วพี่ใหญ่ทราบเรื่องที่แม่เล่ามาหรือเปล่าละครับ"
              "เคย แต่ไม่ค่อยเชื่อสักเท่าไหร่ เพราะคิดว่านั้นเป็นเรื่องเล่าหลอกเด็ก ว่ามีเทวดาหญิงปรากฎตัวกลางเมืองสู้กับสัตว์ประหลาดแห่งความมืดกันอยู่น่ะ" เนคมาดูซัมกล่าว "แต่พอพี่ได้ยินและรับรู้เรื่องเพรแครเดี่ยนตอนอยู่แรซัลก้ามากขึ้นนั้น พี่ก็รู้สึกเสียใจไม่น้อยที่พี่ไม่เชื่อที่แม่เล่ามาแต่แรก หลังจากที่คุณแม่จากไปกันแล้วน่ะ"
              เนคกี้บอก "ตอนนี้คุณลิเนียร์ตี้ก็มีพลังแบบเดียวกันกับพวกเพรแครเดี่ยนด้วยแล้ว ทั้งๆที่พวกเขาถูกไซมาเทนกวาดล้างไปแล้วน่ะ"
              "ไซมาเทนอาจจะอำมหิตกันก็จริง แต่ถ้าเป็นอย่างงั้นจริง ลิเนียร์ตี้คงแหลกไม่เหลือซากไป และพี่คงไม่รอดมาจนถึงปานนี้หรอกน่ะ" เนคมาดูซัมบอก "แน่นอน ว่าการฆ่าของไซมาเทนนั้น คงไม่น่าเป็นการสังหารให้ถึงตายกันจริงๆ แม้ว่าเขาไม่ปราณีต่อพวกเฮซเทิร์ซ หลังจากที่เขาสูญเสียเหล่าองครักษ์ทั้งหมดไปเลยก็ตามน่ะ"
              เนคกัสกล่าว "งั้นไซมาเทนคงจะส่งเควโทรดิมัสมาจับตัวคุณลิเนียร์ตี้ไป เพื่อบีบบังคับให้พี่และพวกเราบุกเข้าไปหยุดยั้งเหตุร้าย เพื่อกำจัดเควโทรดิมัสและช่วยคุณลิเนียร์ตี้กลับมาเลยสิครับ"
              "ใช่ จากการที่ป้ารัคชูมี่เล่าว่า ลิเนียร์ตี้นึกถึงเหตุการณ์ตอนที่เธอถูกสร้างขึ้นในฐานทัพของอีเนอไมนด์บนโลกได้ ว่าเธอมีความสามารถในการวิเคราะห์และแก้ไขสถานการณ์เหมือนกับที่พลัสเชอริททำอยู่ เพียงแต่....มีบางอย่างที่ทำให้เธอจำตรงนั้นไม่ได้ไม่ว่า ซ้ำ เธอไม่สามารถฆ่าคนได้เลยกันน่ะ" เนคมาดูซัมบอก โดยพิจารณานึกคิดถึงตอนแรกที่เขาเจอกับลิเนียร์ตี้ที่เทเดม-7 และ... "จริงสิ พี่นึกออกแล้วละ ว่าเกิดอะไรขึ้นกับลิเนียร์ตี้กันน่ะ"
              เนคกี้ถาม "แล้วมันคืออะไรละคะ"
              "ตอนนี้ ตามพี่มาก่อน เดียวพี่จะเล่าให้กันน่ะ" เนคมาดูซัมกล่าว โดยตอนนี้ ลิเนียร์ตี้บินเข้าพงหญ้าไปแล้ว สามพี่น้องมาสซั่มเลยต้องค่อยๆเดินอย่างระมัดระวังไว้ ส่วนร่างจิตลิเนียร์ตี้นั้น....

              "คราวนี้ อยู่ในยานขนส่งเลยสิน่ะ ใช่ ครองคอร์ดส่งฉันไปพร้อมกับเพื่อนพ้องเมดลิคซ์และเหล่าสมุนที่แพทรีออทสร้างขึ้นมา ไม่ว่าจะเป็นมนุษย์ยอดทหารที่หลับอยู่ในบังเกอร์ใต้ดิน และแบบหุ่นยนต์เหมือนกับฉัน โดยส่งไปยังดาวเทเดม-7 ซึ่งเป็นฐานทัพของพวกอีเนอไมนด์ที่ถูกส่งไปก่อนหน้านั้น โดยฉันพร้อมออกปฏิบัติการณ์ได้ในทันที หลังจากที่เรียนรู้แพทเทิร์นการต่อสู้ทุกรูปแบบตั้งแต่ต้น รวมถึงการฆ่าเป้าหมาย ซึ่งควรจะอยู่ในหัวของฉันไว้แล้ว แต่ มันเพราะอะไรกันน่ะ"
              "เจ้าถูกสร้างมา เพราะสมองกลของเจ้านั้นมีสมรรถนะภาพในการทำงานเหนือกว่าเพื่อนแบบเดียวกับเจ้าถึง 3 เท่าอย่างงั้นใช่มั้ยละ" เสียงนั้นกล่าว
              ลิเนียร์ตี้พยักหน้า "คะ เพราะว่าฉันในตอนนั้นประมวลผลได้เร็วกว่าคนอื่น ซึ่งก็....อือ เออ โอ้ โอ้ อา..." ไม่ทันไร เธอก็เกิดชักขึ้นมา "ทำไม รู้สึก เหมือน พลังงานลดลง ทั้งๆที่เตาพลังงานในตัวของฉัน ชาร์จเต็มอยู่แล้ว เป็นไปได้ไงกันละ"
              "มันเป็นไปแล้วนะสิ ถึงสมองของเจ้าและร่างกายของเจ้ามีความสามารถเหนือกว่าเพื่อนของเจ้าถึง 3 เท่ากันก็จริง อนิจจา เตาพลังงานของเจ้านั้น คงให้พลังไม่มากพอต่อสมองกลของเจ้าไว้นะสิ" เสียงนั้นบอก ซึ่งภาพจากสายตาของลิเนียร์ตี้มีคลื่นแทรก บิดเบี้ยวขึ้นมา พร้อมกับเสียงดังเตือนขึ้นมา "แน่นอนว่า สมองกลได้ใช้พลังในตัวมากไปจนไม่เหลือพลังงานที่ให้เจ้าขยับตัวไปได้เลย และนั้นหมายถึง ชีวิตของเจ้าจะต้องดับสูญไป ทั้งๆที่เจ้า ยังไม่ได้ทำอะไรกันแน่นอน"
              ลิเนียร์ตี้กล่าว "แล้ว ไม่มี ทางไหน ช่วยได้ เลยหรือ คะ เพราะฉัน ยังไม่ได้ทำ อะไรสักอย่างเลย...." โดยสภาพของเธอในตอนนี้ใกล้จะหมดพลังไปแล้ว คำพูดของเธอจึงตะกุกตะกักขึ้นมา
              "แน่นอน ว่าเมดลิคซ์ตัวอื่นๆเองก็ไม่มีทางช่วยเจ้าได้ เพราะพวกนี้อยู่ในโหมดเซฟพลังงานไว้ แม้เจ้าจะเปิดโหมดนี้ แต่ เจ้าใช้พลังงานหมดไปกับสมองกลที่เหนือกว่าถึง 3 เท่ากันอยู่ดีนะสิ" เสียงนั้นบอก โดยที่รอบนอกนั้น "วือออ ตรึงงงง" มีเสียงดังขึ้นมา พร้อมกับ "ครืดดด อืดดดดด ตรึงงง" เสียงระบบไฮโดรลิคดังมาจากข้างหลัง บ่งบอกว่าตอนนี้คอนเทนเนอร์ขนส่งพวกเมดลิคซ์จากโลกที่มีลิเนียร์ตี้ ได้ถูกโยกย้ายจากยานอวกาศมายังรถบรรทุกกันแล้ว "แน่นอนว่า พวกพ้องของเจ้าที่ทำหน้าที่พาเจ้าและพวกไปนั้นก็ไม่รู้ว่าเจ้ากำลังจะตายกันอยู่ และเจ้าเองก็ไม่มีพลังมากพอที่จะขอความช่วยเหลือใดๆได้เลย เนื่องจากว่าเจ้าถูกตรึงเอาไว้กันนี้แหละ"
              ลิเนียร์ตี้ถาม "แล้ว ฉัน รอดมา ได้ยังไง กันละคะ...."
              "บรืนนนนนนนน ตรึงงง" เสียงรถบรรทุกแล่นไปสักระยะหนึ่งก็ต้องลงจอดขึ้นมา "เกิด อะไรขึ้นกันน่ะ" ลิเนียร์ตี้ถาม
              เสียงนั้นบอก "รถบรรทุกนั้นจอดตรงจุดพัก เนื่องจากว่าต้องเติมพลังงานก่อนจะเดินทางไปยังกองบัญชาการหลัก ซึ่งมีระยะทางที่ไกลมาก แน่นอนว่าคนที่คุมคอนเทนเนอร์เองไม่รู้ว่าเจ้าใกล้จะตายแล้ว และไม่รู้ว่า มีคนๆหนึ่งแอบหลบเข้ามากันด้วย" ไม่ทันไร ก็มีหญิงสาวผมยาวสีขาวในชุดกระโปรงสีชมพูที่ขาดวิ้นพร้อมบาดแผลตามตัว กระโดดเข้ามาพอดี "ใคร ใครกันน่ะ" ลิเนียร์ตี้กล่าวโดยตอนนี้ดวงตาหลังแว่นดำกระพริบถี่ๆกันแล้ว
              "เธอเองสิน่ะ ที่ส่งเสียงให้ฉันได้ยินกันน่ะ" หญิงสาวผมยาวขึ้นมา ลิเนียร์ตี้ยังงุนงงอยู่ หญิงสาวเลยพูดต่อ "ถึงเธอไม่มีพลังที่จะพูดอะไรได้ แต่ฉันรู้สึกได้ว่า พลังงานของเธอเหลือน้อยลงไปเลยสิน่ะ"
              ลิเนียร์ตี้บอก "แล้ว คุณ เป็น ใคร ละ คะ..."
              "เธอคงจะไม่รู้ว่าฉันเป็นใครเลยสิน่ะ ดีแล้วละ เพราะอย่างน้อย...ฉันคงไม่มีวันที่ได้พบกันอย่างแน่นอน" หญิงสาวกล่าวโดยล้วงไปยังตลับสีขาว เพื่อเอาเพชรทรงหัวใจสีชมพูแดงออกมา โดยหญิงสาวผู้นี้จ้องมองลิเนียร์ตี้อย่างละเอียด แล้วก็ "ปี้บๆๆ" กดปุ่มตรงเหนือทรงอกหุ่นยนต์ทั้งสองของลิเนียร์ตี้ จนเปิดให้เห็นภายใน ที่เป็นแกนหัวใจพลังอีเนลเซี่ยม ซึ่งเหลือเศษผลึกเพียงนิดเดียวแล้ว ".....ฉันหวังว่า พลังของเพื่อนของฉันอันนี้ จะเป็นประโยชน์กับเธอในทางที่ดีกันบ้าง แม้จะรู้ว่า เธอถูกสร้างมาเพื่อเข่นฆ่าผู้คนและสร้างความเดือดร้อนกันก็ตาม ขอให้เธอคุมพลังนี้เอาไว้ให้ดีแล้วกัน ไม่เช่นนั้น เธอจะต้องตายเพราะพลังอันยิ่งใหญ่นี้แน่นอน" ลิเนียร์ตี้ได้ฟังก็ตกใจไม่น้อย แล้วหญิงสาวก็เอาเพชรหัวใจสีแดงชมพูนั้น "แกร็ก" ใส่ไว้ในช่องแกนหัวใจของลิเนียร์ตี้ แทนที่ผลึกอีเนลเซี่ยมกันไว้ "อะๆๆๆๆๆๆ" ลิเนียร์ตี้กระตุกเพราะพลังจากแกนหัวใจอันใหม่ได้ไหลเข้าร่างของเธอไว้
              "พลัง มาก เกินไป ทำการลบโปรแกรมที่ไม่จำเป็นออก เพื่อรักษาสภาพร่างกายเอาไว้ เปิดระบบบาลานเซอร์ควบคุมพลังงาน" เธอจึงรีบจัดการกับสภาพของตนเอง ซึ่งเธอลบโปรแกรมออกไปเพียงส่วนหนึ่งอย่างรวดเร็ว
              "พี่ครับ ทุ่งดอกไม้แห่งนี้มันมีอยู่ในป่าด้วยหรือครับ" เนคกัสบอก โดยพวกเขาเดินผ่านทุ่งดอกไม้หลากสีที่เรืองแสงในยามค่ำคืนอยู่
              เนคมาดูซัมกล่าว "พี่คิดว่า พวกเราเข้ามาอยู่ในโซนที่ไม่ได้มีแต่แรกแล้วนะสิ เพราะต้นไม้ในป่าที่เราเข้ามานั้นไม่ใช่ต้นทาววอคจากควอดาน่า ซึ่งอยู่รอบๆหมู่บ้านไปมากเลยน่ะ"
              "แล้วคุณลิเนียร์ตี้ผ่านมาทางนี้ด้วย หวังว่าคงไม่เป็นไรกันบ้างนะคะ" เนคกี้กล่าว โดยตอนนี้ตุ๊กตานกพิราบบินลงมาเกาะตรงพุ่มไม้ใกล้ๆ ซึ่งมีขนาดใหญ่พอที่ให้แกตไทซ์สามตนก้มคุกเข่าหลบไว้ได้อย่างมิดชิด โดยทั้งสามแง้มมองดูก็เห็น
              "นิ นี้มัน ชุมนุมของเหล่านางฟ้านะหรือ" เนคกัสกล่าว เพราะเห็นแมนิเกเตอร์มนุษย์เพศหญิง ซึ่งมีปีกเรืองแสงสีขาวอยู่กลางหลัง นั่งเรียงรายกันหลายตน อยู่ท่ามกลางต้นไม้ขนาดใหญ่ขึ้นมา
              "นั้นเป็นเรื่องที่ไม่น่าเชื่อกันเลยน่ะ ว่าจะได้เห็นอะไรแบบนี้..." เนคมาดูซัมกล่าว และสังเกตุเห็นลิเนียร์ตี้นั่งคุกเข่าอยู่กับ "นั้นคงจะเป็น คนที่เรียกลิเนียร์ตี้มาละสิ" หญิงสวมหมวกกลมในชุดนักบวชสีขาวโดยมีปีกแห่งแสงสีขาวอยู่สี่ปีกด้วยกัน
              เนคกี้บอก "จะทำยังไงกันดีละคะ พี่ใหญ่ จะให้เราเข้าไปเลยมั้ย"
              "อย่า เนคกี้ เนคกัส ถ้าเราขัดจังหวะในช่วงที่เขาช่วยลิเนียร์ตี้ขึ้นมา นอกจากเราจะถูกจับได้แล้ว ลิเนียร์ตี้อาจจะไม่รอดไปได้กันน่ะ" เนคมาดูซัมห้ามเอาไว้โดยพูดเสียงเบามากที่สุด
              เนคกัสบอก "ส่วนหนึ่งเพราะเราไม่รู้ว่า พวกเขาเป็นพวกไหนกันละสิครับ"

              "อย่างงี้นี้เอง...เหตุผลที่ฉันไม่สามารถลงมือสังหารมนุษย์ ไม่ใช่เพราะว่าฉันเกิดสงสารหรือลังเลใจจากการพัฒนาเอไอกันอย่างเดียว แต่โปรแกรมนั้น มันถูกลบไป จนไม่มีอะไรมาบีบบังคับให้ฉันสังหารมนุษย์ตามที่โปรแกรมที่ถูกใส่ไว้ในหัวของฉันกันแต่แรก เพื่อรักษาชีวิตของฉันจากพลังที่มากมายของแกนหัวใจอันใหม่ที่ใส่มาในตัวไว้ รวมถึงเหตุการณ์ก่อนหน้าที่ฉันถูกสร้างขึ้นมาและถูกส่งไปยังเทเดม-7 กันน่ะ" ลิเนียร์ตี้กล่าว โดยเธอได้สติขึ้นมาจนเห็นสตรีในชุดสีขาวอยู่ตรงหน้า ซึ่งแบมือซ้ายที่เรืองแสงอยู่ "และคุณ ก็คือคนที่ช่วยชีวิตฉันไว้ในตอนนั้นเลยสิคะ"
              สตรีในชุดขาวพยักหน้า "ในทีแรก ฉันไม่รู้ว่า นั้นเป็นโชคชะตาหรือพรหมลิขิตกันแน่ ที่ทำให้ฉันต้องช่วยชีวิตเธอขึ้นมา แม้ฉันจะรู้ว่าเธอถูกสร้างมาเพื่อทำลายล้างชีวิตกันก็ตาม แต่จากการที่ฉันรับรู้ว่า เธอได้ใช้พลังที่ฉันมอบให้นี้ ช่วยในการหยุดยั้งภัยคุกคามจากแรซัลก้ากันมา ฉันก็รู้สึกดีใจครึ่งหนึ่ง และเสียใจครึ่งหนึ่ง กับการตัดสินใจของฉันไว้น่ะ"
              "แต่อย่างน้อย ฉันก็ขอบคุณคุณมากที่ช่วยชีวิตฉันเอาไว้ แม้ฉันไม่รู้ว่า ทำไม คุณถึงเปลี่ยนไป นับแต่เจอกันครั้งแรกละคะ" ลิเนียร์ตี้กล่าว สตรีในชุดขาวนิ่งเงียบลง องครักษ์หญิงทั้งสอง ซึ่งเป็นหญิงผมสีดำและสีน้ำตาลเดินเข้ามา โดยองครักษ์ผมสีดำกล่าว
              "เจ้าไม่มีสิทธิ์ที่จะถามท่านโฮร่า ถึงเรื่องนี้กันหรอกน่ะ ผู้ไม่ศรัทธา"
              "เราไม่รู้หรอกน่ะ ว่าทำไมท่านโฮร่าถึงช่วยเจ้าไว้ แต่ทางที่ดี เจ้าไม่มีสิทธิ์ถามไถ่ใดๆทั้งสิ้นเลยน่ะ" องครักษ์หญิงผมสีน้ำตาลเสริม "ต่อให้เจ้ามีผลึกพลังที่สหายของท่านโฮร่าอยู่ ถ้าไม่เพราะท่านโฮร่าสงสารต่อเจ้าละก็...."
              สตรีในชุดขาวบอก "อาเดเลีย ทาเลเวีย พอได้แล้วละ เจ้าไม่ควรจะใช้อารมณ์กันเสียหน่อยน่ะ"
              "อภัยให้พวกเราด้วยเถอะคะ ท่านโฮร่า" องครักษ์ผมสีดำนามอาเดเลียกล่าว
              องครักษ์หญิงผมสีน้ำตาลนามทาเลเวียตอบ "พวกเราแค่อยากให้ผู้ไม่ศรัทธาที่อยู่ตรงหน้าท่าน หยุดถามในเรื่องที่ไม่จำเป็นกันนี้แหละ"
              "ลิเนียร์ตี้มีสิทธิ์ที่จะรู้ว่า ฉันรอดจากเงื้อมมือของเพชรฆาต ตนเดียวกับที่ทำให้ลิเนียร์ตี้เกือบสิ้นชีพไปแล้วน่ะ" โฮร่าบอก "ดังนั้น พวกเจ้าไม่ควรจะแย้งกันในเวลานี้ และควรสนใจในเรื่องความปลอดภัยของพวกเราจะดีกว่า" องครักษ์ทั้งสองพยักหน้า โดยทาเลเวียเดินออกไปเพื่อทำงานที่ได้รับไว้ ในขณะที่อาเดเลียยืนเฝ้าอยู่
              ลิเนียร์ตี้บอก "เพชรฆาตที่ทำให้ฉันเกือบตาย หมายถึงไซมาเทนอย่างงั้นนะหรือคะ"
              "ถูกต้อง หลังจากที่ฉันช่วยเธอไปแล้ว ฉันก็รีบหนีออกมาก่อนที่พวกพ้องของเธอจะรู้ตัวเข้า แน่นอน ว่าฉันพยายามหนีเพื่อเอาชีวิตรอด เพราะว่าตอนนี้ ฉันไม่เหลือใครไว้แล้ว นับแต่ฉันสูญเสียพวกพ้อง ที่ถูกกวาดล้างเพราะปฏิเสธที่จะมีส่วนร่วมในการรุกรานอวกาศของชนต่างดาวกลุ่มใหญ่ไป" โฮร่ากล่าว
              ลิเนียร์ตี้บอก "หมายถึง พวกเพรแครเดี่ยนนะหรือคะ"
              "ใช่ ฉันในตอนนั้นสูญเสียพี่น้องร่วมรุ่นและสมาชิกหน้าใหม่ไป เช่นเดียวกับเพื่อนสนิทที่อยู่เคียงข้างฉัน ซึ่งเป็นยอดนักรบที่กล้าแกร่งมากที่สุดไปแบบไม่หวนคืนกลับมา โดยเหลือเพียงผลึกเพชรที่มีพลังอันแรงกล้าเอาไว้ให้ฉันดูแลกันอยู่" โฮร่ากล่าว "แม้ฉันจะมอบเพชรพลังงานของเพื่อนสนิทของฉันไป เทพแห่งสงคราม ก็เข้ามาพบเจอพอดี ซึ่งฉันไม่มีอะไรจะเสียกันอีกต่อไปแล้ว เลยคิดที่จะสู้จนตัวตายไป เพราะรู้ดีว่า พลังของเราที่เป็นพลังแห่งผู้พิทักษ์นั้นไม่อาจทำอะไรเทพแห่งสงคราม ที่นำพาหายนะมาให้กับศัตรูผู้รุกรานและผู้ที่อยู่ตรงหน้าได้เลย"
               ลิเนียร์ตี้ถาม "แล้วหลังจากนั้นละคะ"
              "ในช่วงวินาทีสุดท้ายของฉันกำลังจะมาถึงนั้น เพรแครทไดรมอนด์ของฉันก็เรืองแสงขึ้นมาโดยเปลี่ยนจากสีแดงชมพูดั่งเดิมเป็นสีขาวนวลขึ้น โดยแปรเปลี่ยนร่างของฉันให้มีสภาพเป็นเหมือนเทวดาอวตารลงมา ซึ่งนั้น เป็นครั้งแรกที่ฉันปลดปล่อยพลังที่แท้จริงที่อยู่ในตัวออกมา ต่อหน้าเทพแห่งสงครามที่ตกใจกับสิ่งที่เกิดขึ้นในตอนนั้น" โฮร่ากล่าว "และ....ไม่เพียงแค่ฉันคนเดียวที่มีสภาพแบบนี้ พวกพ้องและเหล่าสาวกที่ควรจะตายไปนั้น ก็กลับมามีปีกแห่งแสงสีขาวกันทั้งหมด ทุกคนฟื้นคืนจากความตาย เกิดใหม่มาเป็นเพรแครกิส แมนิเกเตอร์เทพธิดา กันในเวลานี้เองแหละ"
              ลิเนียร์ตี้บอก "ถ้าเช่นนั้น พวกคุณก็คงจะพาหนีออกจากแรซัลก้ากัน โดยที่ไซมาเทนลงมือไม่ทันเลยสิคะ"
              "ที่ถูกก็คือ เทพแห่งสงคราม ไว้ชีวิตพวกเราซะมากกว่า" โฮร่ากล่าว "แม้จะรู้สึกแปลกใจไม่น้อยที่เทพแห่งสงครามนั้น มอบความปราณีให้กับพวกเรา ทั้งๆที่พวกเราเป็นฝ่ายถูกไล่ล่าและกวาดล้างกัน ในทีแรก ฉันไม่เชื่อใจเขา เพราะกลัวว่าเขามีแผนที่ไม่ดี เหมือนกับชาวเมืองส่วนมากที่ตกอยู่ในอำนาจการครอบงำโดยด้านมืดที่ถูกกระตุ้นไว้ จนกระทั่ง เขามอบยานอวกาศลำใหญ่ให้กับพวกเราลำหนึ่ง และสั่งให้พวกเรา ไปให้พ้นจากระบบดาวนี้และอวกาศแห่งนี้กันซะ รวมถึงไม่ให้พวกเราเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับเรื่องของเทพสงครามกันด้วยน่ะ"
              ลิเนียร์ตี้บอก "แล้วคุณกับพวกก็ทำตามอย่างงั้นนะหรือคะ"
              "ฉันในตอนนั้น รู้ตัวดีว่าการปฏิเสธหรือขัดขืนต่อเทพแห่งสงครามจะต้องพาพวกเราเข้าสู่หายนะกันอีกรอบ และในตอนนั้น พวกพ้องของฉันได้คืนชีพกลับมาแล้ว ฉันไม่อยากจะสูญเสียใครไปอีกครั้ง เลยจำต้องทำตามที่เทพสงครามสั่งไว้ โดยนำพาทุกๆคนขึ้นยานและออกจากดาวเทเดมโดยเร็ว" โฮร่าบอก "จากเดิม ฉันตั้งใจจะรวบรวมผู้เคราะห์ร้ายที่เป็นเพศหญิงเพื่อเป็นส่วนหนึ่งของกลุ่ม ในการหยุดยั้งการคุกคามของพวกแรซัลก้ากันไว้ โดยแสร้งทำเป็นไม่ได้ยินเรื่องราวที่เกิดขึ้นกับแรซัลก้า และฝ่ายที่ต่อสู้กับกลุ่มจักรวรรดิ์ เพื่อไม่ให้มีใครขัดคำสั่งที่เทพแห่งสงครามมอบให้ไว้ แน่นอน ว่าการรวบรวมผู้เคราะห์ร้ายนั้น นับวันยิ่งมีเยอะ เช่นเดียวกันกับผู้เดือดร้อนจากภัยสงครามยิ่งมีมากด้วย นับตั้งแต่ ฉันรู้เรื่องการปะทะกันระหว่างฝ่ายแมนิเกเตอร์จากโลก กับฝ่ายจักรวรรดิ์ ซึ่งมีเจ้าร่วมอยู่ในเหตุการณ์นั้นด้วยน่ะ"
              ลิเนียร์ตี้กล่าว "หมายถึง การต่อสู้ที่เอสเปรโด้-4 อย่างงั้นนะหรือคะ"

              "ใช่ แม้ว่าฉันจะรู้ว่าเจ้าร่วมมือกับฝ่ายต่อต้านจักรวรรดิ์ หลังจากที่พวกเขาเอาชนะบิดรเทพลงไปได้กันแล้ว ฉันถึงได้รู้ว่าตอนนี้เจ้าคงจะใช้พลังที่เพื่อนพ้องของฉันเข้าต่อสู้กับฝ่ายจักรวรรดิ์นั้นอยู่ โดยที่ฉันไม่สามารถรับรู้ถึงจิตของเจ้าได้ เพราะว่าเจ้ายังใช้พลังจากเพรแครทไดร์มอนด์ของเพรแครเดี่ยนที่เก่งกาจมากที่สุด ไหวพริบยอดเยี่ยมที่สุดและทรงพลังมากที่สุด ในตอนที่เรายังเป็นผู้พิทักษ์ฝ่ายธรรมะของทางแรซัลก้ากันอยู่น่ะ" โฮร่ากล่าว
              ลิเนียร์ตี้บอก "แล้ว แกนหัวใจ เออ เพรแครทไดรมอนด์ที่คุณมอบให้ฉันนั้น เป็นของใครละคะ พอจะบอกกับฉันได้มั้ยคะ"
              "เพรแครทไดรมอนด์ที่ให้พลังกับเจ้านั้น เป็นของ เพรแครทฮัลลีน่า ผู้มีสมญานามว่าสาวน้อยหลายโฉมหน้า ยอดนักสู้หญิงผมสีแดงผู้ผดุงความยุติธรรม ชาวแรซัลก้าจึงมอบนามของเธอไปว่า คิวตี้ฮัลลีน" โฮร่าบอก ซึ่งทำให้ลิเนียร์ตี้ได้ฟังก็ตกใจไม่น้อย "แม้ว่าเธอจะเป็นนักสู้เพรแครเดี่ยนที่ถือว่าเก่งกาจมาก แต่ก็มีอารมณ์ที่รุนแรงมากๆ โดยเฉพาะตอนที่เธอเห็นการสูญเสียอยู่ตรงหน้าซึ่งเกิดจากน้ำมือของพวกเฮซเทิร์ซที่อยู่เบื้องหลัง เธอได้ใช้พลังในการพิฆาตพวกนี้ลง ทั้งๆที่ พวกเราใช้พลังเพื่อช่วยเหลือผู้คนกันไว้ และทำได้แค่ชำระล้างความชั่วออกไปกันเท่านั้นเองน่ะ"
              ลิเนียร์ตี้ถาม "แล้วคุณฮัลลีน่าที่เป็นเจ้าของเดิมนิ คงคิดที่จะให้พวกคุณออกรบในแนวหน้าบนดาวโฟรเดริล-4 เมื่อ 3 ปีก่อนเลยหรือคะ"
              "ฮัลลีน่าเสนอเธอกับพวกที่เห็นด้วยกับเธอในการสู้รบครั้งนั้นให้กับกองทัพ แต่.....มารดรเทพเบรคพวกเธอไว้ได้เสียก่อน และคาดโทษเอาไว้ ว่าถ้าฝ่าฝืนคำสั่งจะต้องถูกจับประหารในฐานะผู้ประพฤตินอกรีต ซึ่งฮัลลีน่าแม้จะไม่พอใจกับคำสั่ง แต่ก็ไม่กล้าเป็นปรปักษ์กับมารดรเทพอันศักดิ์สิทธิ์นี้เลย" โฮร่าบอก "หลังจากการรบที่โฟรเดริล-4 จบลงที่ความสูญเสีย ฮัลลีน่ารู้ดีว่ากองทัพต้องโทษพวกเธอที่ไม่ได้เข้าร่วมจนมีแมนิเกเตอร์ต้องตายไปไม่น้อย บวกกับกลุ่มคนที่มองว่าพวกเราเป็นตัวขัดขวางแผนการอันไม่เป็นผลดี ต่อความสงบสุขของแรซัลก้าเสี้ยมสอนให้ผู้คนเกลียดชังพวกเรา โดยเฉพาะกองทัพที่ต้องการให้พวกเราเข้าโครงการเพื่อเปลี่ยนเราเป็นอาวุธสำหรับทำลายล้าง ซึ่งขัดกับหลักการของพวกเรา ที่ทำเพื่อช่วยเหลือผู้คนที่ตกทุกข์ได้ยากและปลดปล่อยพวกเขาจากอำนาจอันชั่วร้าย แน่นอน ว่าความชั่วร้ายที่เกาะกินชาวซัลคาเลี่ยนทั้งหลาย เราไม่สามารถใช้พลังชำระล้างได้ เพราะมันติดแน่นจนฝังลึกไปถึงแกนสันดานกันเป็นที่เรียบร้อยแล้ว นั้นไม่แปลก ว่าขนาด ยอดวีรบุรุษอันเก่าแก่และทรงภูมินั้น จะมีเมล็ดแห่งความอาฆาตแค้นและเกลียดชังติดแน่นในหัวใจเขากันไม่น้อยน่ะ"
              ลิเนียร์ตี้บอก "หมายถึงแม่ทัพโอลดาธเลยสิคะ แล้วคุณฮัลลีน่าละคะ"
              "ฮัลลีน่ารู้ตัวดีว่า ไม่ช้าก็เร็วพวกเราต้องถูกกวาดล้างโดยเทพแห่งสงคราม ซึ่งถูกบีบโดยพวกแมนิเกเตอร์ที่มีความชั่วร้ายติดแน่นกันไว้ให้จับกุมพวกเรา เธอจึงมอบเพรแครทไดรมอนด์ของเธอให้ฉันไว้ และบุกเดี่ยวเข้าไปสู้กับเทพแห่งสงคราม โดยรู้สาแก่ใจดี ว่าเธอต้องถูกรีไซเคิ้ลกลับมาแน่ๆ ฮัลลีน่า เลยพลีชีพและสละร่างเนื้อของเธอลงเพื่อจัดการกับพวกทหารทั้งหลายที่ดาหน้ามาจับตัวเธอไว้ แม้ว่านั้นจะทำให้เทพแห่งสงครามกริ้วและสั่งให้เข่นฆ่าพวกเราในภายหลังก็ตาม" โฮร่าบอก "ถึงแม้ว่าเจ้าจะสามารถใช้พลังที่ฮัลลีน่าเหลือไว้ ช่วยเหลือพวกพ้องของเจ้าพิชิตเทพแห่งสงครามและหยุดยั้งมารดรเทพมิให้ก่อเรื่องไปมากกว่านี้ได้ก็จริง แต่เพราะว่าเธอ ยังต่อสู้โดยที่พลังนั้นมีมลทินที่ทำให้เธอคุมมันไม่ได้ ดังนั้น ฉันจะหยุดพลังนี้เอาไว้กันนี้แหละ" แล้วก็ "แชดดดด" ยิงลำแสงเข้าใส่อกของลิเนียร์ตี้จน "ฉ่า....." สลายมลทินที่เกิดจากพลังของเควโทรดิมัสให้หายไป พร้อมกับ "ฟ้าวๆๆๆๆ" ลูกพลังบางส่วนออกจากร่างของลิเนียร์ตี้ไปอยู่ในฝ่ามือของโฮร่า แล้วก็หายไปโดยเร็ว
              "นี้คุณ ทำอะไรกับฉันละคะ"
              "ฉันดึงเอาพลังที่มากเกินไปของเธอออกมาจนทำให้แกนหัวใจของเธอสงบลงไปแล้ว หากแต่ ตราบใดที่เธอเผชิญหน้ากับอันตรายและลุกขึ้นสู้กันอีกละก็ เธอจะไม่สามารถคุมพลังจากแกนหัวใจของเธอได้อีกแน่ๆ" โฮร่ากล่าว "ดังนั้น ฉันจำต้องให้เธออยู่กับพวกเรา เพื่อให้เธอไม่ต้องพบเจอกับภัยคุกคามนั้นอีกยังไงละ"
              ลิเนียร์ตี้บอก "ไม่ได้นะคะ ถ้าฉันไปแล้ว ทุกๆคนจะเป็นยังไง ในเมื่อพวกเดลอาเนี่ยนเองก็...."

              "ท่านโฮร่าคะ เรามีปัญหาแล้วคะ ผู้คุ้มกันของเรา พบเจอผู้บุกรุกสามตนอยู่นอกลาน แถมพวกเขามีอาวุธด้วยคะ" ทาเลเวียเข้ามารายงาน
              โฮร่าได้ฟังก็กล่าว "พาพวกเขามาเดียวนี้เลย" แล้วพวกสาวกเทพธิดาก็พาตัวเนคมาดูซัม เนคกี้และเนคกัสเข้ามา ซึ่งเหล่าสาวกต่างตื่นตระหนกกับตัวตนของสามพี่น้องมาสซั่มขึ้นมา
              "เนคมาดูซัม เนคกี้ เนคกัส นี้พวกนายมาที่นี้ด้วยหรือ" ลิเนียร์ตี้กล่าว เนคมาดูซัมพยักหน้า โฮร่าจึงลุกขึ้นโดยมองหน้าสามพี่น้องมาสซั่มด้วยสีหน้าที่บึงตึง แต่เธอชะงักขึ้นมา เมื่อมองตาของเนคมาดูซัม
              "สายตาแบบนี้ พวกเจ้าทั้งสามเป็นใคร เป็นบุตรของผู้ใดและผู้ใดกันละ" โฮร่าเลยถามขึ้นในทันที
              "ผมคือเนคเกอร์ มาสซั่ม ที่อยู่ข้างหลังผมคือ เนคกี้และเนคกัส น้องฝาแฝดของผมเอง พวกเรา เป็นบุตรของคุณพ่อเนคคูคัส แม่ทัพขวาของกองทัพแรซัลก้าซึ่งเสียชีวิตไปแล้ว กับคุณแม่แรนเบร่า ซึ่งได้เสียชีวิตไปก่อนหน้าท่านพ่อแล้วละ" เนคมาดูซัมกล่าว
              โฮร่าได้ฟังก็อุทาน "พวกเจ้า คือบุตรของแรนเบร่าอย่างงั้นนะหรือ แทบไม่เชื่อเลย ว่าเพื่อนแปลกหน้าที่คอยช่วยฉันและพวกพ้อง ซึ่งมองดูอุปนิสัยในทีแรกแล้ว ไม่น่าที่จะเป็นมารดาของบุตรได้เลยกันน่ะ"
              "คุณรู้จักแม่ของพวกเรานิ แปลว่า คุณคงเป็นนักรบเพรแคทเดี่ยนจริงๆสิคะ" เนคกี้กล่าว
              โฮร่าบอก "ถ้าเป็นเมื่อก่อนละ ใช่ แม่ของพวกเจ้านั้น แม้จะใช้กำลังในการแก้ไขปัญหาจนทำให้ฉันไม่พอใจอย่างมาก แต่ไม่เคยละทิ้งใครที่กำลังเดือดร้อนกันไว้ ต่อให้คนที่เดือดร้อนไม่ได้ขอหรือไม่อยากได้ก็ตาม ความจริงใจของแม่ของเจ้านั้นได้ช่วยชีวิตของเรากันไว้ แม้ว่าแม่ของเจ้าไม่อยากเป็นเหมือนพวกเราเลยก็ตามน่ะ"
              "คุณแม่เป็นแม่ที่ดีของพวกเราจวบจนวินาทีสุดท้ายกันเลยนะครับ ซึ่งเรายังสำนึกในบุญคุณของคุณแม่มาจนบัดนี้เลยนะครับ" เนคกัสบอก
              โฮร่ากล่าว "ถึงฉันจะรู้สึกเสียใจ ที่แรนเบร่าได้จากไปแล้วก็จริง และได้ให้กำเนิดพวกเจ้าขึ้นมาอยู่ตรงหน้าข้าไว้เป็นเหมือนตัวแทนของนางเลยก็ตาม" แล้วก็หยุดพูดไปพักหนึ่ง ก่อนจะตอบไปว่า "แต่ต่อให้เจ้าเป็นบุตรของผู้มีพระคุณกับฉันและพวกเรากันมาก่อน ฉันคงให้ลิเนียร์ตี้กลับไปเผชิญหน้ากับความเลวร้ายจากภายนอกไม่ได้อยู่แล้วละ"
              "คุณมีเหตุผลอะไรที่ไม่ยอมให้ลิเนียร์ตี้ออกไปได้กันน่ะ" เนคมาดูซัมกล่าว
              โฮร่าบอก "เนคเกอร์ ถึงเจ้าจะเป็นผู้มีพระคุณของลิเนียร์ตี้หลังจากที่เธอรอดตายไปได้กันก็จริง แต่เจ้า มีส่วนในการก่อมหาสงครามอันเลวร้ายขึ้นมา โดยเป็นตัวเริ่มหาเรื่องกับพวกครีซีแทนที่นำโดยแลมซีนีไนซ์ เจ้าพาลิเนียร์ตี้ร่วมมือกับพวกกองกำลังสหพันธมิตรต่อสู้กับฝ่ายจักรวรรดิ์ จนการรุกรานยิ่งหนักข้อมากยิ่งขึ้น มีผู้เดือดร้อนและเสียชีวิตนับไม่ถ้วน นำพาความวุ่นวายจนเกือบทำให้ลิเนียร์ตี้ต้องสิ้นชีพลง แถมยังถูกครอบงำด้วยอำนาจมืดจากผู้ที่โฉดชั่วมากที่สุด แม้ว่าเจ้าจะแก้ไขสถานการณ์ด้วยการพิชิตบุรุษผู้นั้นไว้ได้จริง เจ้าก็ได้สร้างรอยแผลให้กับลิเนียร์ตี้จนเธอไม่สามารถคุมพลังอันยิ่งใหญ่นี้ได้แล้ว ซึ่งเหตุผลเหล่านี้ มันมากพอ ที่ฉันจะกักตัวลิเนียร์ตี้เอาไว้ตลอดกาลนี้แหละ"
              "นั้นมัน บ้าชัดๆน่ะ คุณทำแบบนั้นมันก็เท่ากับว่าเป็นการบังคับลิเนียร์ตี้ให้ต้องทำตามคำสั่ง และทำในสิ่งที่เธอไม่อยากทำกันเสียหน่อยน่ะ" เนคมาดูซัมบอก
              โฮร่ากล่าว "แต่การที่เจ้าไม่ได้ห้ามลิเนียร์ตี้ในเรื่องเสี่ยงอันตรายไปนั้น คือการปล่อยให้เธอต้องเผชิญหน้ากับอันตรายที่เกินการควบคุม ยิ่งลิเนียร์ตี้ในเวลานี้ จิตใจอ่อนแอเกินกว่าที่จะคุมพลังในตัวไปได้นั้น ฉันยอมให้ลิเนียร์ตี้จากไปโดยสร้างความเสียหายไปมากกว่านี้ไม่ได้เป็นอันขาด..." แล้วก็บอกไปว่า "ซึ่งฉันกับพวกไม่อยากจะหาเรื่องเดือดร้อนมาให้กันด้วยแล้ว แม้ว่าคนของพวกเจ้านั้น พยายามปองร้ายพวกเรากันเลยก็ตาม ฉันขอให้พวกเจ้าอย่าใช้กำลังกันเลยจะดีกว่าน่ะ"
              "เนคมาดูซัม...." ลิเนียร์ตี้กล่าว "คุณโฮร่า ไม่มีทางอื่นแล้วหรือไงกันละคะ"
              โฮร่าบอก "ถ้าเธอไม่สามารถคุมพลังได้ด้วยตนเอง โดยที่ฉันไม่สามารถดึงพลังออกจากร่างของเธอได้ทันละก็ ฉันจำต้องผนึกปิดตายเธอเอาไว้เป็นการถาวรนี้แหละ ซึ่งนั้น เป็นทางเลือกเพียงทางเดียวที่ฉันจะทำกันนี้....."

              "ทำแบบนั้นมันดีแล้วหรือ....โฮลาโพลก้า" มีเสียงหนึ่งกล่าวขัดขึ้นมา....พร้อมกับเจ้าของเสียงที่ก้าวเดินมาโดยที่มีตุ๊กตานกพิราบเกาะบนหัวไหล่ซ้ายด้วย "ฉันยังจำประโยคนี้ดี ประโยคที่เธอพูดเสมอ เวลาที่ฉันคิดจะทำอะไรสักอย่างที่มันไม่เข้าท่า ไม่ได้อยู่ในตำรา ออกนอกกรอบและกฎเกณฑ์ หรือทำไปแล้วมันแย่หรือไม่ได้อะไรดีเลย ซึ่งคำพูดนี้ช่วยเตือนสติให้ฉันที่ไม่รู้จักใช้หัวคิด มีสติไตร่ตรองกันมากขึ้น ตัดสินและลงมืออย่างถี่ถ้วน ส่งผลให้ฉัน สามารถผ่านการทดสอบยากๆได้ดีมากขึ้น แน่นอน ว่าจนปานนี้แล้ว ฉันยังจำประโยคนี้มาตลอดหลายปีด้วยกันเลยน่ะ"
              ลิเนียร์ตี้บอก "นายแม่รัคชูมี่ นี้นายแม่มาด้วยหรือคะ"
              "เธอลืมไปแล้วหรือ ลิเนียร์ตี้ ว่าก่อนที่ฉันจะมาเป็นที่ปรึกษาของมารดรเทพ และนายแม่ของชาวควอเดี่ยมนั้น ฉันเคยเป็นนักล่าติดตามกันมาก่อน ถ้าฉันตามมาไม่เจอเธอขึ้นมา แปลว่า ฝีมือและความสามารถของฉันคงเสื่อมไปตามอายุแล้วละ" รัคชูมี่กล่าว
              อาเดเลียบอก "นี้เจ้า โผล่มาด้วยอีกหรือ งั้นเจ้าคงเป็นพวกเดียวกันกับผู้บุกรุกกัน..."
              "อาเดเลีย หยุดได้แล้ว เจ้ากำลังเสียมารยาทกับอดีตเพื่อนของฉันกันอยู่น่ะ" โฮร่ากล่าว อาเดเลียได้ฟังก็ต้องหยุด เพราะโฮร่าทำหน้าบึ้งขึ้นมา โดยผู้นำของเพรแครกิสลุกขึ้นและทักทาย "ไม่ได้เจอกันซะนานเลยน่ะ ราคาชูเมล แลมด้า รามาสซ่า เพื่อนร่วมชั้นในสถาบันเวทย์มนต์ของไทแทนัส เวลาบนแรซัลก้าและดาวบ้านเกิดของเธอ ไม่ทำให้เธอแปรเปลี่ยนไปจากเดิม แม้อายุเจ้าจะเพิ่มขึ้นก็ตามน่ะ"
              รัคชูมี่พยักหน้า "เช่นกันน่ะ โฮลาโพลก้า นับตั้งแต่ที่เธอกับพวกเข้ารับการเปลี่ยนเป็นนักสู้เพรแครเดี่ยน เพื่อใช้พลังอันใหม่นี้ช่วยเหลือผู้คนจากการคุกคามในเงามืด จนสร้างกลุ่มนักสู้เพรแครเดี่ยนขึ้นมาหลายสิบกลุ่มนั้น ฉันก็คอยติดตามเรื่องราวของเธออยู่ ไปพร้อมกับทำหน้าที่ที่มอบหมายกันไว้น่ะ"
              "แม้ว่าเธอเป็นส่วนหนึ่งในการต่อสู้อันหนักหนา จนมีผู้เดือดร้อนไปทั่วเขตอวกาศกันก็ตาม ฉันอดสงสัยไม่ได้เลยว่า จิตใจของเธอจะแปรเปลี่ยนไป หลังจากที่เธอ ปล่อยให้ดาวบ้านเกิดล่มสลายลงไปแล้วน่ะ" โฮร่าบอก
              รัคชูมี่บอก "ต่อให้มีพลังมากถึงขั้นเปลี่ยนทิศทางสายน้ำให้ไหลย้อนกลับ สยบลมพายุอันบ้าคลั่งลง และประสานแผ่นดินที่แตกแยกให้กลับมาเป็นเหมือนเดิมได้ หรือขับไล่พวกอาชูรัลทอสไม่ให้ยึดดาวของเราไปได้จริง เทพแห่งสงครามกับกองยานก็ย่อมมาทำลายควอดาน่าทิ้งไปเอง รวมถึงกำจัดพวกเราที่พยายามหนีกันไปนานแล้ว" และบอกไปว่า "ต่อให้เทพแห่งสงครามปราณีเธอกับพวกกันไว้ได้จริง แต่มิใช่กับแม่ทัพใหญ่โอลดาธและพวกทหารที่ต้องการกำจัดพวกเรา ที่เป็นก้างชิ้นโตขัดขวางเป้าหมายหลังฉากของพวกเขาที่แอบแฝงในมหาสงครามนี้กันได้หรอกน่ะ"
              "เธอเลยปล่อยให้กองยานชาวดาวฤกษ์ทำลายดาวบ้านเกิดของเธอเอง เพราะรู้ว่าพวกเธอไม่เสี่ยงให้ถูกความมืดที่ครอบงำพวกพ้องของเธอส่วนหนึ่ง ลามไปถึงตัวเธอและพวกที่เหลือกันเลยสิน่ะ" โฮร่ากล่าว "แต่ ถึงเธอจะมา ฉันก็ยอมให้ลิเนียร์ตี้กลับไปเผชิญหน้ากับอันตรายจากภายนอกกันได้หรอกน่ะ"
              รัคชูมี่บอก "นี้ฉันกำลังคุยกับเธอ หรือว่า คุยกับแม่ทัพโอลดาธกันแน่ละ"
              "ราคาชูเมล คำพูดของเธอมันเหมือนดูหมิ่นกันชัดๆเลยน่ะ" โฮร่ากล่าวโดยที่มีสีหน้าบึ้งตึงกับคำพูดของรัคชูมี่ ซึ่งบอกไปว่า
              "เธอกลัวว่าลิเนียร์ตี้ ซึ่งมีแกนหัวใจที่เป็นเพรแคทไดรมอนด์ของฮัลลีน่า ผู้เป็นเหมือนเพื่อนและพี่น้องของเธอนั้นจะต้องตายไปพร้อมกันนั้น เลยต้องกักตัวเธอเอาไว้ไม่ให้กลับไปสิ้นสูญอีก ทั้งๆที่ลิเนียร์ตี้เองก็มีหัวจิตหัวใจเป็นของตนเองกันแล้ว ไม่กลัวว่าลิเนียร์ตี้จะต่อต้านหรือทำอะไรที่เลวร้ายยิ่งกว่ากันเลยหรือ" แล้วก็หยิบผ้าเช็ดหน้ามาซับเหงื่อ พร้อมกับพูดต่อ "แม่ทัพโอลดาธมีจุดจบที่ไม่สวย ก็เพราะว่าเขาไม่ฟังเสียงคำเตือนของคนอื่นๆให้รู้จักปล่อยวาง ซึ่ง ฉันคิดว่าเธอคงสอนให้สาวกของเธอรู้จักปล่อยวางกันมา แต่คงจะมีคนเชื่อฟังกระมั่ง หากเธอทำขัดกับที่สอนไว้น่ะ"

              ".......นี้เป็นครั้งแรกเลยสิน่ะ ที่เธอชนะฉันในเรื่องเสนอความเห็น เพราะก่อนหน้านั้น ฉันมักจะชนะเธอในเรื่องออกความเห็นกันมาหลายครั้ง เวลาอันยาวนานบนดาวบ้านเกิดของเธอนั้น คงสอนให้เธอได้ดีมากเลยสิน่ะ" โฮร่าบอก
              รัคชูมี่กล่าว "ฉันไม่ได้คิดที่จะเอาชนะเธออย่างที่คิดกันหรอกน่ะ ฉันก็แค่ทำในสิ่งที่ควรทำ ต้องการให้เธอแก้ปัญหาให้ถูกจุด ถูกทางและถูกสถานการณ์กันไว้ ต่อให้ความเห็นของฉันมันขัดและสวนทางกับของเธอเลยก็ตาม อย่างน้อย เธอในตอนนี้ก็คงจะเข้าใจได้บ้างน่ะ"
              ".....ไม่เคยเห็นใครโต้เถียงกับท่านโฮร่ากันมาก่อนเลยน่ะ" ทาเลเวียกล่าว
              อาเดเลียบอก "ไม่นึกเลยว่า ผู้นำของชาวควอเดี่ยมที่ทรงอิทธิพลนั้น เคยเป็นเพื่อนกับท่านโฮร่ามาก่อน แม้ว่าเธอผู้นั้นเคยถูกมารดรเทพลงโทษฐานโอหังก็...."
              "เกิดเรื่องแล้วคะ ท่านโฮร่า....." ผู้คุ้มกันหญิงกล่าว "พวกนักล่าที่ติดตามหาพวกเรานั้น มาถึงแล้วละคะ" เหล่าสาวกได้ฟังก็ตกใจไม่น้อย
              โฮร่ากล่าว "ไม่นึกเลยว่าพวกนั้นจะโผล่มากันได้น่ะ เตรียมตัวเดินทาง...."
              "เดียวก่อน ถึงเธอจะพาพวกหนีไปได้ แต่จะแน่ใจได้หรือ ว่าพวกที่ติดตามเธอมานั้นจะไม่รังควานกันจริงๆน่ะ" รัคชูมี่บอก
              โฮร่ากล่าว "เธอกำลังจะบอกว่า มีแต่ต้องใช้กำลังในการโต้ตอบพวกที่ใช้กำลังด้วยกันเองสิน่ะ"
              "สภาพการณ์ในตอนนี้ อยู่นิ่งหรือถอยก็ไม่ได้ช่วยให้พวกที่ปองร้ายนั้นมันยอมเลิกราไปได้หรอกน่ะ" รัคชูมี่กล่าวและสั่งให้ "เนคเกอร์ เธอกับเนคกี้และเนคกัส ออกไปหยุดยั้งพวกศัตรูโดยเร็วเลย"
              เนคมาดูซัมพยักหน้า แต่ก็ถาม "แล้วลิเนียร์ตี้..."
              "อย่าห่วงไปเลย ฉันอยู่ตรงนี้ ลิเนียร์ตี้ไม่เป็นไรกันหรอกน่ะ" รัคชูมี่บอก ลิเนียร์ตี้พยักหน้าให้ จนเนคมาดูซัมยอมและรีบพาเนคกี้และเนคกัสออกไป ซึ่งผู้คุ้มกันนำทางให้ด้วย
              โฮร่าบอก "เธอรู้ดีแล้วมิใช่หรือ ว่าพวกศัตรูที่เหล่าบุตรของแรนเบร่าต้องเจอนั้นเป็นพวกไหนกันน่ะ แล้วไม่กลัวว่า...บุตรคนโตจะบันดาลโทสะกันเลยหรือไง"
              "นั้นถือว่าเป็นบทดสอบกันน่ะ ถ้าเนคมาดูซัมไม่สามารถคุมโทสะกันได้ละก็ เขาจะพ่ายแพ้กันตลอดนี้แหละ" รัคชูมี่บอก
              ลิเนียร์ตี้กล่าว "หวังว่าเนคมาดูซัมคงไม่ทำให้ใครผิดหวังกันน่ะ"

              "ตึงๆๆๆๆๆๆๆ" เสียงฝีเท้าของกลุ่มศัตรูดังมาจากในป่า โดยตรงไปอย่างดุดัน "ไม่ผิดแน่ ไม่ช้าเราก็จะไปถึงกันแล้วละ ลูกพี่" เสียงนั้นพูดกับตัวหัวหน้า ซึ่งบุกตามหลังมา
              "ดี ใครจับตัวพวกนางฟ้าเหล่านั้นได้ พวกเธอจะได้รางวัลอย่างงาม แต่ถ้าเจอพวกไทรเวเซอร์ ทางเราจะเพิ่มรางวัลเป็นสองเท่า ถ้าใครเด็ดหัวไอ้เนคเกอร์ มาสซั่มได้ หรือจัดการกับน้องของมันทั้งสองตน จะคิดเป็นสิบเท่ากันเลย"
              "โอ้วววว" เสียงลูกน้องดังลั่นขึ้นมา แต่ก็.... "ปังๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ" เสียงปืนดังขึ้นจนทำให้เหล่าลูกน้องที่อยู่แถวหน้าเกิดชะงักขึ้นจน "เหวอ ว้ากก โว้วว ว้ากกก อ้า เว้ยยย" ร้องลั่นและแตกฮือกันอย่างวุ่นวาย แต่ไม่กระจัดกระจายออกจากกลุ่มกัน "พวกแก กลัวเสียงปืนกันทำไมวะ ในเมื่อพวกแกกล้ามากเลยนิ" เสียงตัวหัวหน้าบ่นอย่างไม่พอใจ แล้วก็ "แว้งงงงงง" ปรากฎแสงสว่างขึ้นมาจนเผยตัวจริงของผู้บุกรุก ซึ่งก็คือ....
              "นึกแล้วเชียว ว่าต้องเจอกับพวกนายจนได้สิน่ะ" เนคมาดูซัมกล่าวโดยโผล่มาพร้อมกับเนคกี้และเนคกัส เพราะรู้ว่าพวกที่บุกรุกมาด้วยนั้น คือพวกแกตไทซ์นี้เอง
              "ไอ้พี่น้องมาสซั่ม พวกแกโผล่มาแบบนี้ ดีเลย เพราะพวกเรามานี้เพื่อเอาหัวพวกแกกันนี้แหละ" แกตไทซ์เกราะหนาและสวมหน้ากากปิดหน้ากล่าว โดยที่มีตราปีกที่พาดเป็นกากบาทมีเทพีอยู่ตรงกลาง
              เนคมาดูซัมบอก "ตราแบบนี้ นี้พวกแกยังอยู่อีกหรือ ไอ้สาวกลัทธิมอสวอร์ท ฉันนึกว่าพวกแกน่าจะสิ้นสูญไปแล้วเสียอีกน่ะ"
              "ดูเหมือนว่าแกจะรู้ดีแล้วสิน่ะ ไอ้เนคเกอร์ มาสซั่ม พวกเราไม่ใช่แค่พวกบูชาท่านมอสเดไวน์กันอย่างเดียว แต่เรา ร่วมมือกับกองกำลังสหัสดาราเพื่อหยุดยั้งพวกแกกันนี้แหละ" แกตไทซ์เกราะหนาบอก
              เนคกี้กล่าว "พวกนาย ก้มหัวให้กับพวกใช้อำนาจบาตรใหญ่เพื่อกดขี่และเหยียบย้ำชนต่างดาวของจักรวาลทั้งปวงกันเลย งั้นพวกนายก็ทำให้พวกแกตไทซ์ทั้งหมดยอมจำนนเลยละสิ"
              "ถ้าเพื่อจัดการกับพวกแก และลงโทษที่บังอาจมาทำลายแกตโตเดี่ยน ซึ่งควรจะเป็นของพวกเรากันละก็ พวกเราทำได้ทุกอย่างนี้แหละ" ตัวหัวหน้ากล่าว และสั่งให้ "เหล่าสเลฟเฟียน จัดการกับพวกพี่น้องมาสซั่มไปซะ" เหล่าแกตไทซ์ชั้นสเลฟเฟียนซึ่งเป็นแกตไทซ์ที่หัวไหล่ไม่มีส่วนเกราะหุ้มเหมือนกับเนคกี้และเนคกัส ตรงมาพร้อมกับสนับมือหรือนวมไม่ว่าจะทำด้วยหนังหรือหุ้มเหล็กก็แห่แหนเข้ามา
              "กล้ามากเลยน่ะที่ให้พวกแพรคทีซบุกเข้ามาทั้งๆที่พวกเรามีอาวุธกันน่ะ" เนคกัสพูดโดยเอ่ยชื่อเดิมของพวกสเลฟเฟียน ซึ่งเป็นชื่อเรียกขั้นที่ถูกต้อง
              "สงสัยว่าเราต้องเลี่ยงการใช้อาวุธเสียแล้ว เนคกี้ เนคกัส ไปพร้อมพี่เลย" เนคมาดูซัมกล่าวโดยเก็บซีคเก้ไรเฟิ่ลเอาไว้ด้านหลัง แล้วก็ "ฟ้าวววว ฟ้าวววว ฟ้าวววว" ทะยานขึ้นสูงโดยที่น้องฝาแฝดทั้งสองกระโดดตามมาด้วย "ว้ากกกกก" เนคมาดูซัมพุ่งเข้าถีบใส่สเลฟเฟียนจนปลิวกระเด็นไป โดยสเลฟเฟียนบุกเข้าชกด้วยหมัดติดสนับมือที่มีหนามยาวเข้ามา "หมับบบ" เนคมาดูซัมใช้มือซ้ายจับตรงหัวและผลักให้สเลฟเฟียนผ่านตัวไป ส่วนตัวเองก็หมุนตัวโดยเหวี่ยงท่อนแขนขวา "ป้ากกกก" กระแทกเข้ากลางหลังของสเลฟเฟียนไปเต็มๆ จนล้มลง "ป้ากกก เปรี้ยงงง" แล้วก็เตะเสยสูงเข้าตรงหน้าสเลฟเฟียนอีกตนจนชะงักและฟาดส้นลงมาตรงบ่าจนล้ม จากนั้นก็ "หวับบบ ป้ากกกก" กระทุ้งเกราะหัวไหล่ขวาอัดใส่สเลฟเฟียนที่บุกมาจากข้างหลังจนล้มกระแทกกับต้นไม้อย่างจังๆ "ว้ากกก ว้ากกก ว้ากกกก" สเลฟเฟียนกระหน่ำต่อยใส่เนคกี้แบบไม่ยั้ง ซึ่งเธอก็สวนกลับด้วย "แมชชีนกันฟิสท์" การระดมต่อยแบบไม่ยั้งใส่สเลฟเฟียนอย่างจังๆ แล้วก็ "โบลท์อัปเปอร์" เสยอัปเปอร์คัตเข้าตรงท้องสเลฟเฟียนให้ปลิวกระเด็นไป "ตาย" สเลฟเฟียนเสยหมัดที่สวมสนับมือติดคมขวานเข้าใส่เนคกัส แต่เขาหลบได้แล้วก็ "หมับบบบ" คว้าจับแขนที่ฝ่ายตรงข้ามต่อยเข้ามาแล้วก็ "ไทฟูนสวิงค์" จับเหวี่ยงไปหลายรอบซึ่งฟาดอัดใส่พวกสเลฟเฟียนอย่างหนักหน่วง จนล้มกระเจิดกระเจิงไป แล้วก็เหวี่ยงให้อัดใส่สเลฟเฟียนอีกสองตนที่กำลังเล่นงานเนคมาดูซัมจนล้มไปด้วย "ว้ากกกก" สเลฟเฟียน 3 หน่วยพุ่งชาร์จเข้ามาหมายจะชกเนคมาดูซัมด้วยสนับมือติดสว่านเกรียวเอาไว้ "อ่อนหัดน่า โบลท์นัคเคิ้ล" เนคมาดูซัมโต้ตอบด้วยหมัดพลังดาวหาง "ป้ากกกก" ชกใส่สเลฟเฟียนจนสนับมือสว่านแตกกระจุยไป
              แกตไทซ์ตัวหัวหน้ากล่าว "ร้ายกาจกันดีเลยนิ เฮ้ย พวกเรา ลงไปจัดการกับมันเลย" แล้วก็ส่งแกตไทซ์สวมเกราะเต็มยศออกไป โดยพวกนั้นบุกเข้ามาด้วยตะบองแฉก ดาบยาว และขวานอย่างรวดเร็ว "หวับบ หวับบ หวับบ หวับบ" แกตไทซ์เหล่านั้นหวดอาวุธเข้าใส่เนคมาดูซัมซึ่งพยายามใช้ท่อนแขนปัดป้องไว้ "แกร้งงงง เกร้งงง" แม้จะถูกทุบด้วยตะบองและขวานจ่าม แต่ปลอกแขนโครมเมทาเลี่ยมป้องกันเอาไว้ได้อยู่ "ย้ากกกกก" พวกแกตไทซ์ถืออาวุธบุกเข้าจู่โจมเนคกี้และเนคกัสที่ใช้เพียงมือเปล่า โดยทั้งคู่พยายามถอยและหลบการจู่โจมกันอยู่
              "พวกแกจงใจจะจัดการกับพวกเราให้ได้ โดยจัดการกับน้องฉันเลยสิน่ะ" เนคมาดูซัมกล่าว โดยที่พยายามจะจับปืน แต่.... "ฟึ่บบบ ปังๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ" แกตไทซ์แบบทหารโผล่มากราดยิงปืนกลยาวเข้าใส่ จนเนคมาดูซัมรีบกระโดดถอยออกมา
              หัวหน้ากลุ่มบอก "ถ้าคิดจะกราดยิงรั่วด้วยปืนคู่ละก็ อย่าดีกว่าน่า เนคเกอร์ พวกเราไม่ยอมตกเป็นเป้าให้กับกระสุนของปืนสั่วๆของแกได้หรอก" แล้วก็ "แกร็ก" นำปืนอิมแพคชู้ตเตอร์ลำกล้องยาวมา "ตรุ้งงงง" ยิงเข้าใส่เนคมาดูซัม ซึ่งรีบบล็อกด้วยหลังแขนจน "ป้ากกกกก ครูดดดด" ถูกเป่าให้ถอยไปสิบเมตรด้วยกัน ในขณะที่แกตไทซ์แบบทหารนั้นบุกเข้ามาล้อมเนคกี้และเนคกัส พร้อมกับเตรียมปืนหมายจะยิงเอาไว้
              "ร้ายมากเลยน่ะกับการใช้แกตไรฟอลกับนักรบฝึกหัดที่ไม่มีอาวุธในมือกันน่ะ ไม่กลัวว่าพวกนายจะต้องโดนอะไรบ้างน่ะ" เนคมาดูซัมบอก
              หัวหน้ากองกล่าว "เราไม่กลัวแก รวมถึงพวกพ้องของแกที่อยู่ในเขตชุมชนของพวกควอเดี่ยมกันหรอก ต่อให้ป้าแก่นั้นฉลาดมากแค่ไหน พวกควอเดี่ยมก็ไม่มีทางสู้กับพวกสเลฟเฟียนจำนวนมากกันได้อยู่ดี ซึ่ง สมุนของพวกแกก็คงโดนอัดยับไปแล้วละ"
              "แสดงว่าพวกแกที่มานี้ ไม่ได้ขนมาเพื่อจู่โจมพวกเพรแครทเดียนนะหรือ" เนคกี้กล่าว
              แกตไทซ์ทหารบอก "พวกเรามานี้เพื่อติดตามหาพวกนางฟ้า ซึ่งพวกเธอหลบหนีการติดตามของพวกเรามาหลายต่อหลายครั้งแล้ว แต่ ลูกพี่ของเราสั่งให้เรามาที่ดาวนี้เพื่อจู่โจมและยึดดาวมาเป็นฐานสำหรับยึดระบบดาวนี้ยังไงละ" แล้วก็จ่อปืนยาวมาตรงหัวของเนคกี้ "และโชคดีมากๆที่พวกแกช่วยให้เรารู้ตำแหน่งของพวกนางฟ้ากันไว้ เสร็จจากการเก็บพวกแกและพวกควอเดี่ยม พวกเธอจะเป็นกลุ่มต่อไปกันนี้แหละ"
              "ถ้าอย่างงั้นพวกแกก็คงติดตามพวกเรามาเลยละสิ" เนคกัสบอก
              หัวหน้ากองกล่าวกับเนคมาดูซัมไปว่า "ดังนั้น ฉันจะให้โอกาสแกทิ้งอาวุธที่ติดตัวแกลงไปซะ อย่างน้อย ฉันจะได้เก็บแกก่อนเป็นอันดับแรก ประเดิมให้พวกที่เหลือที่ยังรอดจากการปะมือกับสมุนของฉัน ต้องหวาดกลัวเมื่อเห็นหัวของแกและน้องๆของแกกันนี้แหละ"
              "ด้วยการใช้คำสั่งของราชทายาทของมหาจักรวรรดิ์ รวมถึงใช้ความเชื่อบ้าๆที่มีต่อเทพีจักรกลจำแลงครอบงำพวกแกตไทซ์วัยรุ่นหัวอ่อน และไม่รู้เท่าทันกันแบบนี้ เป็นเรื่องที่อภัยให้ไม่ได้แน่นอน ถึงพ่อฉันจะไม่อยู่แล้ว ฉันก็อภัยให้พวกนายไม่ได้กันหรอก" เนคมาดูซัมกล่าว
              หัวหน้ากองบอก "แน่ละ เพราะนายมันไม่น่าให้อภัยกันอยู่แล้วน่ะ เนคเกอร์ มาสซั่ม เตรียมตัวตายกันได้...." แล้วพวกแกตไทซ์ทหารก็เตรียมจ่อปืนหมายจะยิงใส่เนคมาดูซัมโดยเร็ว

              "ฟิ้วๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ ปั้กๆๆๆๆๆๆๆๆๆ" ฉับพลัน ห่าธนูแห่งแสงพุ่งลงมาเล่นงานพวกแกตไทซ์ทหารจนชะงัก และถอยออกไปเพราะธนูแสงนั้นพุ่งปะทะกับเกราะของพวกแกตไทซ์ไป เว้นแต่ตัวหัวหน้ากอง ที่มีพวกแกตไทซ์แบบนักรบเข้ามาคุ้มกันไว้ "ฟึ่บบบบบ" แกตไทซ์ถือตะบองแฉกคู่เห็นพีวิลปรากฎตัวอยู่ตรงหน้าเลยหวดเข้าใส่ แต่ "วืบบบบบบบ" หวดโดนแค่ร่างเงาของพีวิลจนหายไป "ชาร์จคิก" แล้วเจเนลพุ่งเข้าถีบใส่แกตไทซ์แบบนักรบเข้าตรงหน้าอกจนล้มไปเต็มๆ นักรบอีกตนที่ถือดาบพยายามจะฟันใส่เจเนล แต่ "ป้ากกกก" โดนพีวิลโผล่มาชกเข้าหน้าไปเต็มๆหมัดด้วยกัน พร้อมกับ "ฟ้าวววว ฟึ่บๆๆๆๆ ตึก" รีบถอยหลังกลับมา โดยที่เจเนลตีลังกากลับหลังมาอย่างรวดเร็ว
              "พีวิล เจเนล นี้พวกนาย..." เนคมาดูซัมกล่าว
              เจเนลบอก "มาสวาร์ทาร์เดาถูกเผงแล้วละ ที่ให้พวกเราตามหาพวกนายกันไว้น่ะ แม้ว่าศัตรูที่ป้ารัคชูมี่ไม่ได้พูดถึงนั้นจะเป็นเพื่อนร่วมเผ่าของนายเสียได้น่ะ"
              "พวกเราไม่นิ่งดูดายปล่อยให้พวกนายลำบากกันหรอก ลืมไปแล้วหรือ ว่าปัญหาของนายก็คือของพวกเรา ไทรเวเซอร์กันน่ะ" พีวิลกล่าว
              เนคมาดูซัมได้ฟังก็บอก "พวกนายนิมัน...." และหันมาถาม "และดูเหมือนว่าสเปียริทจะตามพวกนายมาด้วยสิ"
              "หนอยยย ห่าธนูแสงของพวกไทรเวเซอร์นั้น มันไม่ทิ้มแรงกันเลยนิหว่า" แกตไทซ์แบบทหารกล่าวโดยไม่รู้สึกเจ็บตัวจากการโจมตีเมื่อครู่ และเตรียมจะจัดการกับเนคกี้และเนคกัส แต่.... "ฟิ้วๆๆๆๆ ปั้กๆๆๆๆ" มีห่ามีดสั้นพุ่งปักลงพื้นและ "เปรี้ยะๆๆๆๆๆ" มีดสั้นก็ปล่อยระเบิดไฟฟ้าช็อตใส่พวกแกตไทซ์ทหารที่อยู่ใกล้ๆเข้า พวกแกตไทซ์นักรบเลยแห่แหนเข้ามา "ลูกถีบมังกรบิน" สเปียริทพุ่งเข้ามาถีบใส่แกตไทซ์นักรบเข้าตรงหน้าอก ส่วนอีกตัวที่วิ่งนำหน้าตัวแรกที่ถูกถีบไปนั้น "คลอว์ไบท์คิก ทูซไบท์เบรค" โดนแอบไบออสถีบขาคู่อัดใส่จนกงเล็บทิ้มตรงเกราะหน้าอกผลักตัวแกตไทซ์ตนนั้นให้ถอยออกไป "ฟึ่บๆๆๆๆ ตึกกก" สเปียริทและแอบไบออสตีลังกากลับหลังกลางอากาศมาสมทบกับเนคกี้และเนคกัส โดยที่พลัสเชอริทโดดลงมาในภายหลัง
              "คุณสเปียริท คุณพลัสเชอริท คุณแอบไบออส" เนคกัสกล่าวอย่างดีใจไม่น้อย
              "พวกคุณตามพวกเรามาเลยหรือคะ" เนคกี้ถาม
              สเปียริทกล่าว "ใช่ และดูเหมือนว่าป้ารัคชูมี่จะช่วยเราตามหาพวกเธอได้แล้วละ แม้ว่าจะมาเจอกับศัตรูที่เป็นพวกเดียวกับเธอเลยน่ะ"
              "ร้ายนักนะ พวกไทรเวเซอร์ ต่อให้พวกแกมีกี่คนเข้ามาช่วยพี่น้องมาสซั่มกัน นึกหรือว่าจะหยุดพวกเรากันได้น่ะ" แกตไทซ์นักรบกล่าว
              แกตไทซ์ทหารหญิงบอก "แน่นอน ว่าเพชรฆาตบิดรเทพและมารดรเทพ มือสังหารของมือขวาของบิดรเทพ แล้วก็เดธเทนนั้น เหมาะจะเป็นเกียรติภูมิของพวกเรา หากได้โค่นล้มพวกแกกันนี้แหละ" แล้วก็บอก "พวกเรา จัดการกับพวกมันทั้งห้าเดียวนี้เลย" แล้วพวกแกตไทซ์ก็แห่แหนกันเข้ามา พลัสเชอริทจึงส่งดาบโครมเมทาเลี่ยมคาตานะให้เนคกี้และเนคกัสใช้เอาไว้
              "ฆ่าไอ้สามเขาและมือโตสีน้ำเงินไปพร้อมกับไอ้เนคเกอร์ซะ" นายกองกล่าวแล้วพวกแกตไทซ์ก็บุกแห่เข้ามาโดยเร็ว ซึ่งพวกทหารหรือโซลยาร์ทบุกเข้ามาหมายจะใช้แกตไรฟอลกระหน่ำยิงใส่ "ปังๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ" พีวิลเปิดนำด้วยอาร์มชู้ตเตอร์เข้าใส่พวกแกตไทซ์โซลดาร์ฟเข้า ถึงแม้จะทำความเสียหายไม่ได้มาก แต่ก็ขัดจังหวะพวกทหารไปได้ "ทิ้วๆๆๆๆๆๆๆๆๆ" เจเนลช่วยกระหน่ำยิงด้วยจีบัสเตอร์เข้าใส่พวกทหารไปด้วย
              "เปลี่ยนตลับจากบุลเล็ตมาเป็นพลาสม่า" หัวหน้าหน่วยแกตไทซ์ทหารกล่าว โดยพวกโซลยาร์ทถอดแมกกาซีนจากปืนกลกระสุนมาเป็นตัวกระบอกพลังพลาสม่าเข้า "ฟ้าวๆๆๆ" โดยยิงกระสุนพลังพลาสม่าเข้าใส่ "เอนเนอจี้การ์ด" พีวิลป้องกันด้วยกำแพงพลังอีเนลเซี่ยมอย่างทันควัน "สปาร์คช็อต ชาร์จอัพ" เจเนลเลยยิงกระสุนไฟฟ้าขนาดใหญ่เข้า "เปรี้ยงงงงง" เพื่อช็อตพวกโซลยาร์ทให้ชะงักไป 3 ตัว อีก 4 ตัวนั้น "แกร็ก ฟิ้วๆๆๆๆๆๆๆๆ" ใช้บ็อกซ์บัสเตอร์ยิงห่ามิไซล์เข้าใส่ "ฟ้าววว ฟ้าววว ตรูมๆๆๆๆๆๆๆ บรึมๆๆๆๆๆ" เนคมาดูซัมโต้ตอบด้วยจรวดแตกระเบิดเป็นลูกบอลพลังงานเข้าสกัดกั้นห่ามิไซล์เอาไว้ทั้งหมด "ปังๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ" แล้วก็กราดยิงซีคเก้ไรเฟิ่ลสองกระบอกเข้าใส่พวกโซลยาร์ทให้ล้มลง "ย้ากกกกกกก" แกตไทซ์วอริอาร์ทบุกเข้ามาใช้ตะบองแฉกฟาดใส่เนคมาดูซัม "เซเคนด์สไตร์ค" พีวิลพุ่งเข้าเตะก้านคอใส่แกตไทซ์วอริอาร์ทจนตัวปลิวไปอย่างจังๆ แล้วก็ "วืมมมม ป้ากก ป้ากก ป้ากก" ใช้เอนเนอจี้ร็อดสองอันฟาดใส่พวกวอริอาร์ทให้ล้มไป "แคร้งงง ป้ากกก เชร้งงงงง หวับบบ หวับบบบ เปรี้ยงงง ป้ากกก เชร้งงง" เจเนลใช้เมทัลเบลดรับดาบของวอริอาร์ทหญิงไว้แล้วถีบเข้าที่ท้องไปเต็มๆ จากนั้นก็รีบโดดไปข้างหลังเพื่อหลบการฟาดขวานของวอริอาร์ทสองตัวโดยเร็ว แล้วก็โดดพุ่งเข้ามาถีบเข้าหน้าไปเต็มๆ พร้อมกับฟันใส่อีกตัวที่อยู่ใกล้ๆจนล้ม "ตายซะ" โซลยาร์ทโผล่มาพร้อมกับอิมแพคชู้ตเตอร์ในมือ "ตรุ้งงงงง" เพื่อยิงใส่เจเนล แต่... "โบลท์รีเฟรคเตอร์" เนคมาดูซัมโดดลงมาสะท้อนคลื่นจากปืนลูกซองพลังคลื่นกลับไป "ป้ากกกก" ไม่เพียงปืนอิมแพคชู้ตเตอร์บุบแต่ตัวคนยิงถูกแรงคลื่นที่ถูกสะท้อนมาเป่าอัดกับต้นไม้ด้วย
              "เจเนล ระวังด้วย เผื่อว่าพวกนั้นมีรีเฟรคเตอร์ด้วยน่ะ" เนคมาดูซัมบอก
              "รู้แล้วน่า ถ้าขนาดนายใช้ได้ ฝ่ายตรงข้ามก็ต้องมีบ้างแล้วน่า" เจเนลบอก โดยตอนนี้พีวิลหลบการหวดขวานคู่เข้าใส่
              "และคงไม่ดีแน่ๆ หากใช้กระสุนพลังจู่โจมพวกแกตไทซ์กันได้น่ะ" พีวิลบอกโดยประกบเอนเนอจี้ร็อดเป็นแบบพลองแล้ว

              ทางด้านพวกสเปียริทเองก็ "แชดด แชดดด แชดดดด" พวกโซลยาร์ทระดมยิงแกตไรฟอลแบบเลเซอร์เข้าใส่สเปียริท ซึ่งเธอรีบหลบออกมา เช่นเดียวกับพลัสเชอริทและแอบไบออส รวมถึงเนคกี้และเนคกัสด้วย "ปังๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ" ฝาแฝดทั้งสองกราดยิงโพริด็อดซ์กันที่ติดตัวมาเข้าใส่ พร้อมกับ "ปังๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ ปังๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ ฟิ้วๆๆๆๆๆๆๆๆ" อินเกรต้าเพคชู้ตเตอร์สองกระบอกของสเปียริท ปืนกล AKC-49 ของแอบไบออสและชูริเคนชู้ตเตอร์ของพลัสเชอริทกระหน่ำยิงไล่พวกโซลยาร์ทไป พวกวอริอาร์ทบุกเข้ามาพร้อมอาวุธในมือ "ไฮย้า" สเปียริทบุกเข้าจู่โจมด้วยคริสทาลร็อดเฮฟวี่ดัมเบลเข้าฟาดใส่วอริอาร์ทที่หวดตะบองแฉกเข้าใส่ จนตะบองกระจุย พร้อมกับ "ป้ากกก ป้ากกกก ป้ากกก" ฟาดใส่วอริอาร์ทสองตนให้ล้มและกระทุ้งใส่ตัวที่สามแล้วก็ "นี้แน่" จับทุ่มข้ามหัวของเธอด้วยหัวลูกตุ้มไปล้มกระแทกกับต้นไม้อย่างจังๆ "ฟ้าววว ฟ้าวว ฟ้าวว ฟ้าวว" พลัสเชอริทพุ่งเข้าใส่พวกวอริอาร์ทด้วยความเร็วสูง ซึ่งทำให้วอริอาร์ทหวดอาวุธพลาดและหวืดไปหลายที
              "โดนแทงทะลุไปซะเหอะ ไอ้หุ่นไส้แห้ง" วอริอาร์ทตนหนึ่งยั้วะเลยบุกเข้าใส่พลัสเชอริทที่โผล่มาตรงหน้าและแทงด้วยดาบ "ฉึกกกก" ซึ่งแทงถูกตัวพลัสเชอริทจากด้านข้างเข้า วอริอาร์ทตนนั้นยิ้มด้วยความดีใจ แต่ "แชบบบบบบ ครืนนนน เปรี้ยะๆๆๆๆๆ" ร่างพลัสเชอริทก็เกิดคลื่นซ่าพร้อมปล่อยกระแสไฟฟ้าช็อตวอริอาร์ทจนชะงักงันไป ส่วนตัวจริงนั้นโผล่มาถีบต้นไม้กระเด้งขึ้นมา "แฟงค์สไลเซอร์" ซัดดาวกระจายขนาดใหญ่พลังไฟฟ้าแรงสูงเข้าใส่วอริอาร์ทที่ถือขวานในมือซึ่งเข้ามาช่วยพวกพ้อง "เดียวฉันจะสะท้อนกลับด้วยรีเฟรคเตอร์ชิลด์เลยสิ" โดยมันเตรียมเครื่องสร้างโลห์สะท้อนกลับหมายจะส่งดาวกระจายขนาดใหญ่ให้ย้อนกลับไปสับพลัสเชอริท แต่ "หวับบบบ ฟ้าวววว กรี้กกกก ป้ากกก" ดาวกระจายนั้นยังไม่ทันถึงตัวเป้าหมายก็เลี้ยวโค้งอ้อมไปกรีดด้านหลังวอริอาร์ทตนนั้นโดยเร็ว "เกร้งๆๆๆๆ" เนคกี้และเนคกัสใช้ดาบคาตานะโต้ตอบวอริอาร์ทที่ใช้ดาบและขวานสู้กันอยู่ "ย้ากกก" เนคกัสผลักขวานของวอริอาร์ทจนผงะแล้วก็ "ฉั้วะ ฉับ" ฟันใส่ไปสองทีจนเกราะเป็นรอยฟันยาวจากบ่าลงมาที่ท้อง ในขณะที่เนคกี้นั้น "กรี้กกกกกก" สไลด์ดาบครูดกับคมดาบของฝ่ายตรงข้ามจนแตกร้าวแล้วก็ "หวับบบบบ ป้ากกกก" หมุนตัวไปด้านข้างและถีบให้ล้มไปเต็มๆ ก่อนจะใช้ดาบฟันหน้าอกของวอริอาร์ทตนที่สามให้ล้มก่อนที่มันจะใช้ขวานฟันใส่ "เคร้งง เคร้งง เคร้ง หวับ แคว้ก แคว้ก แคว้ก" แอบไบออสจู่โจมด้วยโบนเซเบอร์และเบลดทาลอนใส่พวกวอริอาร์ทอย่างไม่ยั้ง แต่ก็.... "แชดดดด ป้ากกกก" โดนโซลยาร์ทยิงด้วยแกตไรฟอลจนขาซ้ายแหว่งทะลุไปอย่างจังๆ แล้วก็ "ฟิ้วๆๆๆๆๆ" โซลยาร์ทอีก 3 ตนยิงมิไซล์จากบ็อกซ์บัสเตอร์เข้าใส่ หมายจะจัดการกับแอบไบออส "แว้งงงงงง ตูมๆๆๆๆ" สเปียริทเลยใช้โฮลด์เซอเคิ้ลป้องกันห่ามิไซล์จนระเบิดไป เปิดช่องให้แอบไบออส "หวับบบ ฉั้วะ" ตัดขาซ้ายออกเพื่องอกขาใหม่ในเวลาอันสั้น
              "ดูท่าว่า พวกนี้กะจะเอาให้ถึงตายเลยสิ" แอบไบออสบอก
              "พวกนี้เป็นพวกแกตไทซ์ที่ดีกันหรือเปล่าน่ะ เพราะฉันดูแล้ว พวกนี้เล่นรุมสกัมกันเลยน่ะ" สเปียริทบอก
              เนคกี้กล่าว "พวกนี้ไม่ใช่พวกเราหรอกคะ แต่เป็นพวกคลั่งลัทธิมอสวอร์ท ลัทธิคลั่งหัวรุนแรง ซึ่งเป็นกลุ่มที่ก่อความเดือดร้อนบนแกตโตเดี่ยนกันมาก่อนนะคะ"
              "ลัทธิคลั่งหัวรุนแรงนะหรือ นี้ดาวของพวกนายมีพวกที่งมงายในความเชื่อผิดๆอยู่นะหรือ" เจเนลกล่าวพร้อมกับโต้ตอบกระสุนพลาสม่าด้วยจีบัสเตอร์ชาร์จช็อต
              เนคมาดูซัมบอก "มีสิ ถึงแม้ว่าแกตไทซ์จะเป็นแมนิเกเตอร์นักรบและทหารที่เก่งกาจและแข็งแกร่ง เป็นผู้พิทักษ์ความสงบสุขและยึดมั่นในกฎระเบียบและความถูกต้องกันก็จริง แต่ก็ย่อมมีแกตไทซ์ที่รวมตัวกันเป็นกลุ่มกองโจรบ้าง กลุ่มอันธพาลบ้าง กลุ่มต่อต้าน ไปจนถึงกลุ่มกบฎก็มี ซึ่งพวกเราพยายามแก้ไขปัญหานี้มาหลายครั้งด้วยกัน ทั้งใช้การเจรจาพูดคุยไปจนถึงใช้กำลังปราบปราม ซึ่งอย่างหลังนั้นเราใช้เมื่อยามจำเป็นหรือฝ่ายตรงข้ามเป็นฝ่ายเริ่มก่อนก็ตาม" แล้วก็ถีบวอริอาร์ทให้ชะงักแล้วก็ "ปังๆๆๆๆๆๆๆ" กราดยิงซีคเก้ไรเฟิ่ลในระยะเผาขนจนล้มไป "แต่กลุ่มที่สร้างจุดด่างพล้อยที่เลวร้ายที่สุดนั้น ก็คือพวกมอสวอร์ท เป็นพวกลัทธิบูชาเทพจำแลงของพวกแกตไทซ์หัวรุนแรง ซึ่งถือว่าเป็นกลุ่มศัตรูที่เลวระยำมากที่สุด และเป็นความอัปยศของพวกแกตไทซ์ที่ปรากฎขึ้นในช่วง 200 ปีที่ผ่านมาของแกตโตเดี่ยนกันนี้แหละ"
              "พวกบูชาเทพนะหรือ พวกนั้นคงไม่ได้เป็นเหมือนพวกทรอยอาร์ ที่บิดเบือนความเชื่อที่มีต่อโอเวอร์เรสเพื่อใช้เป็นเครื่องมือกันละสิ" พีวิลกล่าว
              เนคมาดูซัมบอก "เปล่า พวกมอสวอร์ทใช้เทพีมอสเดไวน์ เทพีขนาดใหญ่ ซึ่งพวกนั้นอ้างว่าเทพีแห่งนี้ทรงพลังมากกว่ามารดรเทพและบิดรเทพตั้งหลายเท่า เป็นผู้ชี้นำอนาคตของชาวแกตไทซ์ให้อยู่เหนือจักรวาลทั้งปวง เพราะสามารถดลบันดาลอะไรได้ทุกอย่าง จนทำให้มีชาวแกตไทซ์จำนวนไม่น้อยเข้าร่วมเป็นกลุ่มสาวกกัน ซึ่งมาจากพวกแกตไทซ์วัยรุ่นที่หัวอ่อน ขาดความเข้าใจอย่างลึกซึ้งเกี่ยวกับเทพผู้สร้างเรามา ไปจนถึงพวกที่ต่อต้าน ไม่เชื่อฟัง และท้าทายคำสอนของคนรุ่นเก่าที่พยายามสอนให้แกตไทซ์ยึดมั่นในความดี แม้กระทั่งพวกทหาร นักรบ ไปจนถึงพวกหัวหน้าเผ่าที่ชาญฉลาดที่สุดและเก่งกาจที่สุดเอง ก็ยังถูกชักจูงให้เป็นแนวร่วม ไม่ว่าพวกเขาจะเคยต่อต้านความเชื่อบ้าๆของพวกมอสวอร์ทกันก็ตาม แต่พวกมันก็ใช้อุบายทำให้พวกแกตไทซ์เหล่านั้นเสียท่ากลายเป็นส่วนหนึ่งของพวกมัน ในฐานะผู้นำกลุ่มก่อความไม่สงบให้กับพวกที่ต่อต้านและหยุดยั้งความทะเยอทะยานของพวกมัน ที่ต้องการนำพาพวกแกตไทซ์ ก่อสงครามบดขยี้แรซัลก้า รวมถึงโอเวอร์เดสผู้ที่สร้างพวกเรา และโอเวอร์เรสผู้ปกครองไปด้วยน่ะ"
              "แล้วพวกนายก็ปราบปรามพวกนั้นเลยสิน่ะ" พีวิลบอก
              เนคมาดูซัมพยักหน้า "ใช่ ด้วยความร่วมมือของหัวหน้าเผ่าที่ยึดมั่นในความยุติธรรม คุณธรรม ความถูกต้องและสันติภาพ ซึ่งมีคุณปู่ทวด ปู่ และคุณพ่อรวมอยู่ด้วยนั้น พวกเราได้ต่อสู้กับพวกมอสวอร์ทกันมาหลายปีด้วยกัน เพราะพวกนั้นใช้ทุกวิธีเพื่อเอาชนะ ตั้งแต่จับตัวแกตไทซ์เด็กไปเพื่อเสี้ยมสอนเป็นสาวกรุ่นเยาว์ ไปจนถึงหาวัตถุโบราณหรือสมบัติอันทรงพลังจากในดาวไปจนถึงนอกดาวเพื่อใช้สู้กับฝ่ายเราและแรซัลก้า" แล้วก็จับวอริอาร์ทตรงหัวเพื่อชกอัปเปอร์คัตใส่ไปอย่างจังๆ "ในที่สุด พวกเราสามารถปราบปรามและกวาดล้างพวกมอสวอร์ทจนราบคาบไปกันหมด และพบว่า มอสเดไวน์ที่พวกมันใช้เป็นสัญลักษณ์แห่งความเชื่อนั้น ก็คือหุ่นยนต์ขนาดใหญ่ที่ติดอาวุธมหาประลัยเอาไว้ ซึ่งทำให้เรารู้ว่า พวกมอสวอร์ทคิดโค่นโอเวอร์เดสและโอเวอร์เรสกันจริงๆ เพื่อเอาเทพจำแลงนี้มาแทนที่ ซึ่งเป็นเรื่องที่อภัยไม่ได้กันน่ะ"
              "แล้วพวกแม่ทัพเนคคูคัส จัดการยังไงกับพวกสาวกกันละ" สเปียริทถามโดยหวดพลองใส่โซลยาร์ทจนล้ม
              เนคกี้บอก "สาวกที่เหลือรอดจากการถูกมอสเดไวน์จู่โจมไปนั้น เมื่อรู้ว่าสิ่งที่พวกเขาเคารพนับถือมาตลอดเวลา เป็นแค่เครื่องมือของผู้นำลัทธิและสมาชิกตัวเอ้ที่หลอกลวงพวกเขาให้กลายเป็นศัตรูกับพี่น้องร่วมเผ่า ถึงขั้นเป็นศัตรูกับผู้สร้างอย่างโอเวอร์เดสและโอเวอร์เรสด้วย ส่วนมากนั้นต่างก็กลับตัวกลับใจ ยอมรับในความถูกต้องและกฎระเบียบกัน แต่ส่วนที่เหลือนั้น ถ้าไม่หลบหนีก็ลุกขึ้นมาสานต่อสิ่งที่ผู้นำลัทธิและสมาชิกตัวหลักทำค้างไว้ ซึ่งก็ถูกปราบปรามลงในฐานะผู้นอกรีตไปในที่สุดกันน่ะคะ" แล้วก็ฟันดาบใส่วอริอาร์ทให้ล้ม
              "ใช่ แต่แย่หน่อย ที่พวกเราเหลือรอดกลับมาเพื่อฟื้นฟูลัทธิขึ้นใหม่อีกครั้ง ซึ่งต้องขอบใจพี่ของแกด้วย ที่ช่วยขับไล่พวกพี่น้องร่วมเผ่าออกจากแกตโตเดี่ยนที่ถูกกวาดล้างไป จนเราสามารถเสี้ยมสอนให้พวกวัยรุ่นเลือดร้อนกลายเป็นส่วนหนึ่งของพวกเรากันอีกรอบนี้แหละ" โซลยาร์ทตนหนึ่งกล่าวพร้อมกับ "แชดดด แชดดด" ยิงเลเซอร์เข้าใส่เนคกี้ "เปร้งๆๆๆๆ" สเปียริทเอาตัวเองป้องกันเอาไว้จนสะท้อนลำแสงให้พุ่งถากต้นไม้ไป พร้อมกับ "หวับๆๆๆๆ ปึก" กระทุ้งพลองลงพื้นจน "แว้งงง ครี้งงงงงง" สร้างหอกแห่งแสงหลายเล่มพุ่งขึ้นจากพื้นเล่นงานโซลยาร์ทให้ล้มไปสามตนด้วยกัน
               "ที่สำคัญ พวกสเลฟเฟียนส่วนมากนั้น คงจะไล่กระทืบพวกพ้องของพวกแกลงไปแล้วละมั่ง" โซลยาร์ทตนที่ 4 ที่นำแกตคาไบน์ซึ่งเป็นปืนยาวกระบอกโตเข้า "ตรุ้งงงง ตรูมมม" โดยยิงกระสุนออกไป หมายจะจัดการกับเนคกัส "เหวอออ" เนคกัสรีบโพหลบออกด้านข้าง จน "เปรี้ยงงง" ต้นไม้ทะลุเป็นรูไปอย่างจังๆ จนกระสุนพุ่งปักกับต้นไม้ที่อยู่หลังเข้า วอริอาร์ท 4 ตนบุกเข้ามาหมายจะรุมเล่นงานเนคกัส "หวับบบ แคร้งงงงง" แอบไบออสกระโดดลงมาเปลี่ยนโบนเซเบอร์ให้กลายเป็นโบนซัมเบอร์ฟันใส่วอริอาร์ททั้งสี่ให้ล้มกลิ้งไป
              "ที่พวกแกมั่นใจว่าจะบดขยี้โฟรเทรดิลได้นั้น เพราะพวกแกมีเดลอาเนี่ยนถือหางอยู่นะหรือ" แอบไบออสกล่าว
              "พวกแกรู้ดีนิ เพราะถึงพวกสเลฟเฟียนไม่มีทางยึดหมู่บ้านของยัยรัคชูมี่ได้ พวกเดลอาเนี่ยนที่ตามหลังมานั้นจะจัดการต่อเองแหละ" โซลยาร์ทกล่าว "และถึงจะแบ่งกำลังออกไป ก็คงไม่มีทางจัดการทีเดียวสองกลุ่มได้พร้อมกันหรอก"
              พลัสเชอริทโผล่มาตรงหน้าโซลยาร์ทเข้า "พวกนายดูถูกความสามารถในการวางแผนของเอสมาสวาร์ทาร์กันเกินไปหน่อยแล้วละ" แล้วก็ "ไลท์นิ่งริปเปอร์" พุ่งฟันใส่โซลยาร์ทถือแกตคาไบน์จนได้แผลที่สีข้างและถูกช็อตไปพร้อมๆกัน

              ที่โฟรเทรดิล ซึ่งก็.... "แม่มเอ้ย นี้ไอ้พวกเดลอาเนี่ยน มันเล่นแรงกันเลยหรือวะ" ไลเอิร์ทสบถ เพราะเห็นสเลฟเฟียนแห่ออกจากป่ามาเป็นจำนวนมาก
              เฮเรเค้นบอก "มีแต่พวกเหมือนกับเนคกี้และเนคกัสกันเยอะแบบนี้ ชัวร์เลย ว่าเราเจอแกตไทซ์เยอะแน่นอน"
              "เออ คุณฟิเกซ คุณเทาฟาดิลคะ พวกนี้เป็นแกตไทซ์เหมือนกับคุณเนคกี้และเนคกัสหรือคะ" รีฟกล่าว
              ฟิเกซพยักหน้า และเห็นตราเทพีติดปีกกากบาทไว้ "ใช่ หากแต่พวกนี้เป็นสมุนของลัทธิมอสวอร์ท เป็นพวกคลั่งลัทธิหัวรุนแรงที่พยายามจะต่อต้านแรซัลก้ากันไว้ ซึ่งพวกนั้นไม่เพียงก่อสงครามบนแกตโตเดี่ยน แต่พวกมันหาเรื่องกันที่ควอดาน่ากันด้วยน่ะ"
              "เหอะ แกกับเหล่าสมุนตาดำๆนั้นคิดจะขวางทางพวกเราอย่างงั้นนะหรือ ฟิเกซอท ฉันเกรงว่า พวกแกจะต้องถูกพวกเราบดขยี้กันในเวลาอันสั้นแล้วละ" แกตไทซ์ตัวผู้นำกล่าว
              เทาฟาดิลบอก "พวกแกคิดว่าพวกเราควอเดี่ยม ซึ่งผ่านการต่อสู้กับพวกนอกรีตอย่างพวกแกมานานหลายปี จะไม่มีทางสู้กับพวกแกกันเลยนั้น คิดผิดสถานหนักแล้วละ"
              "ป้าแก่รัคชูมี่คงให้ความหวังลมๆแล้งๆกับพวกแกกันมากสิน่ะ เกรงว่าพวกแกจะทำให้ป้าแก่ผิดหวังแล้วละ" แกตไทซ์จ่าฝูงที่เป็นโซลยาร์ทบอก "เฮ้ย พวกแกทั้งหลาย กระทืบพวกหน้าโง่นี้ให้จมดินไปพร้อมกับบดขยี้หมู่บ้านที่อยู่ข้างหลังให้ราบคาบไปซะ" พวกสเลฟเฟียนแห่เข้ามาโดยที่ฝ่ายปกป้องโฟรเทรดิลนั้นมีฟิเกซ เทาฟาดิล พวกไลเอิร์ท พวกเฮเรเค้น พวกเวลลิท พวกฟลาแน็กซ์และมัลแด็กซ์เอาไว้
              "หวังว่าการฝึกร่วมกับเนคกี้และเนคกัสคงสู้กับไอ้พวกนี้ได้บ้างน่ะ" ฟิเกซกล่าวพร้อมกับชักอาวุธเทพศัสตราทั้งสี่ออกมา
              "คิดซะว่า ไอ้พวกนี้คือเนคกี้และเนคกัส แต่ใส่เกราะต่างสีไปเลยแล้วกันน่ะ" ฟลาแน็กซ์บอก
              วูลเฟลล่าบอก "ไอเดียนี้มันไม่เข้าท่าเสียเลยน่า" แล้วทั้งหมดก็บุกเข้าประจัญบานโดยเร็ว "ว้ากกกกก" สเลฟเฟียนบุกเข้าชกใส่แฮมชัค ซึ่งรีบหลบออกมาและยิงกระสุนน้ำอัดใส่สเลฟเฟียนในระยะเผาขนไป "ว้าก ย้าๆๆๆๆๆ" ชาร์เครฟพุ่งเข้าช่วยน้องชายจากสเลฟเฟียนด้วยการระดมถีบด้วยฝ่าเท้าปิรันย่าแบบไม่ยั้งและถีบขาคู่อัดใส่ "แคร้งงง เคร้งงง เคร้งงง" ดิเรนท์ใช้ดาบฟันใส่สเลฟเฟียนพร้อมกับใช้มีดสั้นหลังเท้าตวัดฟันใส่ไปทั้งสามตน แต่สเลฟเฟียนโผล่มาหมายจะจับตัวเธอไว้ "ฟ้าววววว ป้ากกกกกก" เฮเรเค้นกระโดดถีบขาคู่อัดใส่สเลฟเฟียนให้ล้มกลิ้งไป "ฟิ้วๆๆๆๆ ฟ้าววว" ฟลาแน็กซ์และสวอนน่าซัดขนนกเพลิงและขนนกใบมีดหลากสีเข้าใส่สเลฟเฟียนให้ชะงักลง แต่สเลฟเฟียนบางส่วนกระโดดเข้ามาพร้อมกับสนับมือติดใบมีด "ตรุ้งงง ป้ากกก" บีทเทมยิงกระสุนอากาศสอยสเลฟเฟียนตนหนึ่งให้ล้ม "ฟิ้วๆๆๆๆ แว้งๆๆๆๆ" อีกสามตนโดนกระสุนแสงของบัลตาฟรีพุ่งเข้าปะทะใส่จนล้มลงกับพื้นไป "เพี้ยะๆๆๆๆ" เวลลิทฟาดแส้ปลาไหลไฟฟ้าเข้าใส่สเลฟเฟียนสองตนให้ล้มพร้อมกับ "ฟึ่บบบบ ปึ้กๆๆๆๆๆๆๆๆ" ใช้ขาแยกหนวดปลาหมึกกระหน่ำกระแทกใส่สเลฟเฟียน 3 ตนไป อิคกรีทบุกโฉบเข้าใส่สเลฟเฟียนที่บุกมาเล่นงานเวลลิทจากด้านข้างพร้อมกับถีบให้ล้มไป "แคร้งง แคร้งงง แคร้งงง" วูลเฟลล่าข่วนด้วยกงเล็บเข้าใส่สเลฟเฟียนสองตนให้ล้ม แต่อีกตนบุกเข้าถีบใส่เธอ จนเธอหลบแทบไม่ทัน "เคร้งงง เคร้งงงง เคร้งงง" บราไทน่าและเรปไซท์หลบการโจมตีของสเลฟเฟียนที่ชกเข้าใส่โดยใช้โครมเมทาเลี่ยมคาตานะปัดป้องไป "ฟ้าวววววววว ป้ากกก" มัลแด็กซ์กระเด้งขึ้นสูงและพุ่งเข้าถีบสเลฟเฟียนให้ล้ม เช่นเดียวกับไลเอิร์ทที่พุ่งเข้ารั่วถีบสเลฟเฟียนแบบไม่ยั้งแล้วก็กระเด้งถอยหลัง แต่....
              "เสร็จเราละ ไอ้พวกตาดำๆเอ้ย" วอริอาร์ท 2 ตนกระโดดเข้ามาพร้อมกับตะบองแฉกในมือ "ไชน์นิ่งแฟลร์" รีฟยิงกระสุนพลุแสงเข้าเล่นงานวอริอาร์ทให้ชะงักลง "นีดเดิ้ลแกตลิ่ง" นิคกราดยิงห่ากระสุนเข็มพุ่งเข้าใส่วอริอาร์ท 3 ตนที่ดาหน้าเข้ามาจนเข็มปักทะลุตรงหัวไหล่ หน้าอก ต้นขาและหน้าแข้งอย่างจังๆ แต่ก็.... "แชดดด แชดดด แชดดด" โซลยาร์ทใช้แกตไรฟอลยิงเลเซอร์เข้าใส่นิคและรีฟ "ฟ้าวๆ เปร้งๆ" แต่ไซโคบิทโผล่ลงมากางโลห์พลังจิตป้องกันเลเซอร์เอาไว้ "ฟ้าววววว โครมมมม" พร้อมกับจายด์ที่กระโดดทิ้งตัวลงมาอัดใส่โซลยาร์ททั้ง 3 ตนจนล้มกลิ้งไปเต็มๆ "ฟ้าววว ฟ้าววว ป้าก ป้าก ป้าก ป้าก" จิลโผล่มาใช้ไซโคบิทอีก 4 อันพุ่งเข้าอัดใส่สเลฟเฟียนทั้งสี่ พร้อมกับโจมตีใส่โซลยาร์ทด้วย "ฟรีซสแปรชเชอร์" กระสุนน้ำแข็งเข้าใส่วอริอาร์ท 3 ตนที่บุกเข้ามาจนถูกแช่แข็งและล้มหน้าคว่ำกับพื้นไปเต็มๆ "ทวิสเตอร์เบรค" ฟิเกซพุ่งหมุนตัวถีบใส่โซลยาร์ทที่เตรียมแกตคาไบน์หมายจะยิงใส่เรปไซท์จากข้างหลังให้ล้ม แล้วก็ "เกรโวล์ค เฟรมทรัล ปัดเป่าพวกศัตรูไปให้ไกลๆซะ" ประกบกระบี่เพลิงและดาบเหล็กผ่าปฐพีเป็นดาบสองคมแล้วก็ "ฉึกกก ครืดดด ฟ้าววว" ทิ้มดาบลงพื้นพร้อมกับลากดาบเพื่อครูดพื้นดินให้เกิดรอยแล้วก็ตวัดให้เกิดคลื่นแมกม่า พุ่งเข้าเล่นงานสเลฟเฟียนให้ถูกผลักออกห่างจากเขตหมู่บ้านพร้อมกับแผดเผาไปด้วย
               "ลงไปเสียเหอะ ไอ้ฟิเกซอท" โซลยาร์ทตัวหัวหน้าหน่วยเตรียมแกตไรฟอลยิงกระสุนพลาสม่าโดยที่ลูกทีมอีก 4 มาพร้อมกับแกตไรฟอลแบบเลเซอร์
              "ไม่ให้พวกแกได้ยิงหรอกน่า" เทาฟาดิลซัดขวานสั้นทั้งสี่เล่มเข้า "หวับๆๆๆๆๆ ป้ากๆๆๆ" อัดใส่โซลยาร์ททั้งสี่จนล้มลง แต่ตัวหัวหน้าหน่วยพร้อมจะยิงใส่ฟิเกซกันแล้ว "ป้างงงงง เปรี้ยงงงง" แกตไรฟอลแตกกระจุยไปในทันที พร้อมกับ "ฟ้าวววววว ตรูมมมม" จรวดสี่ลูกยิงใส่โซลยาร์ทตรงหน้าอกจนล้มลงไปกองกับพื้นเข้า "ช้าจริงๆเลยน่ะ" เทาฟาดิลกล่าวโดยรับขวานที่ซัดไปและหมุนกลับมาที่มือทั้งสี่ของเธอไว้ โดยพูดกับโฟรซ่าซึ่งใช้ฟาร์ไซน์ไรเฟิ่ลยิงทำลายอาวุธปืนไป
              "แค่พยายามจะเล็งโดนอาวุธเท่านั้นเองแหละ แม้ว่าพวกนั้นมองไม่เห็นฉันที่พลางตัวไว้เลยก็ตามน่ะ" แล้วก็ "ป้างงงงงง ป้ากกก" ยิงเข้าใส่หัวไหล่ขวาของโซลยาร์ทที่อยู่ด้านหลังจนชะงักลงจน "ฟ้าวววว ป้ากกกก" โดนจีแฮมเมอร์ของจายด์พุ่งอัดใส่จนปลิวกระเด็นไป ครั้นโซลยาร์ทพยายามจะใช้บ็อกซ์บัสเตอร์เพื่อจัดการกับโฟรซ่า "ฟ้าววววว ตรูมมม" ไซโคลเนียก็โผล่มายิงมิเดี้ยมมิไซล์จากแขนซ้ายเข้าถล่มซ้ำจนตัวปลิว หลังจากที่ใช้แขนขวายิงไปก่อนแล้ว
              "สถานการณ์ไม่เข้าท่าแล้ว พวกเธอ รีบถอยกลับมาก่อนเลย" ฟิเกซบอก พร้อมกับ "หวับบบบ ฟ้าววววววว ป้ากๆๆๆๆๆ" ประกบง้าวทอร์เรมม่าและหอกสเตรมาร์คพร้อมกับซัดออกเป็นพายุวังน้ำวน เข้าสูบพวกวอริอาร์ทที่แห่มาเล่นงานพวกเฮเรเค้นเข้า
              ไลเอิร์ทบอก "กรอดดดด ช่วยไม่ได้แล้ววะ" แล้วก็รีบพาวูลเฟลล่าหนีออกมาโดยเร็ว เช่นเดียวกับอิคกรีทที่รีบแบกชาร์เครฟที่โดนเล่นงานกลับไป "ซาวนด์สครีมเมอร์" จิลใช้คลื่นเสียงความถี่สูงเล่นงานสเลฟเฟียนให้ชะงักด้วยอาการปวดหู ฟลาแน็กซ์ช่วยพามัลแด็กซ์ เช่นเดียวกับเฮเรเค้นที่ลากเอาเรปไซท์ออกไปก่อนจะโดนสเลฟเฟียนรุมกระทืบ ดิเรนท์ สวอนน่า บัลตาฟรีและเวลลิทรีบพาบราไทน่าและแฮมชัคหนีออกมาก่อน แต่โซลยาร์ทเตรียมยิงมิไซล์เล็กจากบ็อกซ์บัสเตอร์เข้า "ไมโครมิไซล์ ชู้ต" ไซโคลเนียยิงมิไซล์ขนาดเล็กจากข้างหัวไหล่และต้นขาเข้า "ตูมๆๆๆๆๆๆๆๆๆ" เป่าเล่นงานโซลยาร์ทให้ล้มกันอย่างจังๆ "ป้างงง ป้างงง ป้างงง" วอริอาร์ทโดนโฟรซ่ายิงตรงหัวไหล่บุบกระจุยไปสามตนด้วยกันเพื่อช่วยนิคและรีฟออกมา "สแตคไมท์จาเบริน" เทาฟาดิลซัดหลาวหินย้อยเข้าใส่วอริอาร์ทที่บุกเข้ามาจนล้มลง โดยที่เกราะบุบจากปลายแหลมของหลาวหินย้อยทิ้มเข้าใส่ไป
              "เฮ้ย รุมยิงควอเดี่ยมหญิงนั้นทิ้งซะ..." จ่าฝูงสั่งพวกโซลยาร์ทจำนวน 30 ตนเตรียมแกตไรฟอลหมายจะยิงเทาฟาดิลพร้อมกับพวกฟิเกซด้วย ต่อให้จายด์รีบโดดเข้ามาเพื่อช่วยคุ้มกันไว้ก็ตาม

              "ฟ้าวววว ตรึงงงง" สเตฟอร์ดกระโดดข้ามกำแพงมาพร้อมกับแรปิดเดเตอร์มาโรวเดอร์อย่างทันท่วงทีแล้วก็ "ปังๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ" กระหน่ำยิงใส่พวกโซลยาร์ทด้วยกระสุนตะกั่วและโครเมี่ยมจำนวนมาก ซึ่งก็ "ปิ้วๆๆๆๆ ป้ากกก ป้ากก ป้ากก ป้ากก" แรงมากพอจนเจาะเกราะหน้าอกโครมเมทาเลี่ยมแตกกระจุยไป ต่อด้วย "ปังๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ" กราดยิงใส่พวกวอริอาร์ทที่แห่แหนมาจนล้มเสียหลักไป 7-8 ตนด้วยกัน
              "เทาฟาดิล ขอพายุทรายหน่อย" ฟิเกซกล่าว
              เทาฟาดิลบอก "ถึงนายไม่ขอ ฉันก็ทำอยู่นี้ยังไงละ ย้า แซนด์สตอร์มบริซ" แล้วก็สบัดมือทั้งสี่ไปข้างหน้าจน "หวู่ ซูมมมมม" บังเกิดคลื่นพายุทรายโหมพัดกระหน่ำใส่พวกแกตไทซ์มอสวอร์ทกันอย่างหนักหน่วง ซึ่งทำให้พวกนั้นถอยเพราะต้านแรงพายุทรายไม่ไหว แม้จะมีบางส่วนดื้อด้านพยายามวิ่งฝ่าพายุทรายไปก็ตาม
              "อย่าไปกลัวพวกมัน พวกมันแค่เตะถ่วงเพื่อขอกำลังเสริมก็เท่านั้นเอง พายุแค่นี้ทำอะไรพวกเราไม่ได้หรอก" จ่าฝูงกล่าว แล้วก็พาพวกวอริอาร์ทบุกไปโดยที่พวกนั้นใช้รีเฟรคเตอร์ชิลด์ป้องกันไว้ แต่ก็..... "ฟ้าวววววว ตรูมมมม" โดนร็อกเก็ตบัสเตอร์พุ่งเป่าจนล้มกระเด็นไป ซึ่งพอพายุทรายสลายตัวไปกันแล้ว "ปังๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ ปังๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ" ฟิเกซมาพร้อมกับแรปิดเดเตอร์มาโรวเดอร์ ช่วยสเตฟอร์ดกราดยิงใส่พวกมอสวอร์ทที่อยู่แถวหน้าอย่างไม่ยั้งจนวอริอาร์ทล้มลง โซลยาร์ทถึงกับเสียเกราะตามตัวไป ซึ่งบางตนพยายามจะใช้รีเฟรคเตอร์ชิลด์ "ทิ้วๆๆๆๆๆ ปั้กๆๆๆ" นิคกราดยิงนีดเดิ้ลแกตลิ่งเข้าสกัดกั้นไว้ก่อน เช่นเดียวกับ "วอเตอร์วัลแคน" รีฟยิงกระสุนน้ำเข้าเล่นงานสเลฟเฟียนที่อยู่แถวหน้าจนล้มไป
              "อย่ากลัวพวกมัน พวกมันไม่ทำร้ายพวกเรากันง่ายๆหรอก" จ่าฝูงกล่าวและเตรียมปืนยาวหมายจะสอยโฟรซ่าและไซโคลเนียที่อยู่บนกำแพง "แนชเชอรอลบาเรีย ชาร์จช็อต" จิลสกัดกั้นด้วยพายุใบไม้และกลีบดอกไม้จนทำให้พวกแกตไทซ์ชะงักงันตาม
              "ตอนนี้แหละ พลธนู ออกมาเลย" เทาฟาดิลชูมือซ้ายขึ้น โดยตอนนี้เรนเจอร์ควอเดี่ยมโผล่มาจากหลังกำแพงพร้อมกับคันธนูยาวในมือ "ฟิ้ววว ฟิ้ววว ฟิ้วววว ฟิ้วววว" พวกเขาใช้แขนรองจับลูกธนูที่ใส่แล่งที่อยู่หลังเอวมาขึ้นสาย และใช้มือหลักยิงธนูเข้าใส่พวกแกตไทซ์อย่างต่อเนื่อง ซึ่งธนูที่พวกควอเดี่ยมยิงไปนั้น "ป้ากกกก ป้ากกก ป้ากกก ป้ากกก" กระแทกใส่หน้า หมวก คอเสื้อเหล็ก ไปจนถึงตามตัวอย่างหนักหน่วง เพราะพวกเขาใช้ธนูเอลฟ่าเมทาเลี่ยมที่มีความแข็งและเบาจนยิงเข้าเป้าหมายได้อย่างแม่นยำและหนักหน่วงกัน
              "อย่าไปกลัว ไอ้พวกสี่แขนมันยิงธนู มันสู้พวกเราไม่ได้กันหรอก" จ่าฝูงบอก แต่พวกสเลฟเฟียนส่วนมากที่เจ็บตัวเริ่มถอยหนีกันแล้ว "จะหนีทำไม เรามีกำลังเสริมมาช่วยจากข้างหลังกันอยู่น่ะ" แต่ไม่ทันไรก็ "ตรูมมมมมม" ด้านหลังเกิดระเบิดวินาศสันตะโรขึ้นมา
              สเตฟอร์ดบอก "เกรงว่า กำลังเสริมของพวกนายไม่มีทางมาช่วยได้หรอกน่า"
              "พวกเรารู้แล้วว่าพวกนายมากับพวกเดลอาเนี่ยน ซึ่งลำพังพวกนายเอายานลงมาโดยผ่านการตรวจจับของพวกเราไม่ได้แน่ๆ เลยต้องใช้บริการประตูมิติที่พวกเดลอาเนี่ยนชอบใช้เข้าออกดาวของพวกเราโดยไม่ต้องนำยานลงชั้นบรรยากาศกัน โดยที่พวกเดลอาเนี่ยนต้องอยู่ทั้งสองฝั่ง นั้นคือฝั่งที่หมายเพื่อช่วยคุ้มกันโครงประตูที่ถูกปักตำแหน่งไว้ กับฝั่งต้นทางที่เป็นได้ทั้งจุดรวมพล ฐานบัญชาการ โรงทหารและอื่นๆอีกมากที่ใช้บริการโผล่เข้ามาที่หมายกันได้น่ะ" สเตฟอร์ดบอก "แน่นอนว่าพอพวกเรามั่วแต่สนใจพวกนายกันจนอ่อนแรงขึ้นมา พวกเดลอาเนี่ยนจะโผล่มาตลบหลังพวกเราเพื่อช่วยพวกนายที่กำลังแย่ไว้สิน่ะ"
              จ่าฝูงบอก "เดียวก่อนน่ะ แล้วเพื่อนพ้องของแกนั้นก็...."
              "ปานนี้คงถล่มพวกเดลอาเนี่ยนยับเยิ่นไปแล้วละมั่ง" จายด์บอก "มาสวาร์ทาร์ ฝั่งนายกับพวกคาราล่าจัดการแล้วหรือยังละ"
              มาสวาร์ทาร์บอก "จัดการแล้วละ พวกเดลอาเนี่ยนที่ตามมาสมทบนั้น มีจำนวนคนอยู่มาก และมีอาวุธหนักกันอยู่ เลยทำให้งานของเราง่ายขึ้นกว่าเดิมกันน่ะ" โดยตอนนี้ทหารเดลอาเนี่ยนโดนไรแกท บุลพลาทกระทืบ เช่นเดียวกับพวกเทรอนเร็กซ์ที่จัดการกับสเลฟเฟียนที่มาด้วยกันถึง 10 ตนลง แม้พวกเขาจะเจ็บตัวไปเลยก็ตาม คาราล่าและพวกนักรบของเธอ ช่วยแอนเดรียจัดการกับพวกเดลอาเนี่ยนลงไปด้วยการทำลายแทงค์เซลพลังงานสำหรับอาวุธหนัก ซึ่งถูกบรรทุกมาด้วยรถเข็นติดระบบโฮเวอร์คราฟไว้
              "พวกแก เหอะ ถึงพวกแกจะจัดการได้ แต่ไอ้สามพี่น้องมาสซั่มนั้นคงไม่แคล้วโดนเล่นงานกันอยู่ดีนี้แหละ" จ่าฝูงกล่าวแล้วก็หยิบปืนกลเล็กแบบสองลำกล้องออกมา "ปังๆๆๆๆๆๆๆๆ" กราดยิงใส่รีฟ แต่นิคเข้ามา "ครี้งงงง ปิ้วๆๆๆๆๆ เพล้งงง" ใช้โลห์หนามน้ำแข็งเข้าป้องกันไว้จนถูกยิงล้มลงไป "ฟ้าวววว ตรูมมม" ไซโคลเนียยิงมิเดี้ยมมิไซล์เป่าใส่จ่าฝูงจนชะงักด้วยแรงระเบิด และเตรียมจะยิงใส่ "ป้างงง ปังๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ" จ่าฝูงก็โดนโฟรซ่ายิงเข้าที่หมวกจนบิ่นไปอย่างจังๆ ก่อนจะถูกสเตฟอร์ดและฟิเกซระดมยิงด้วยแรปิดเดเตอร์เข้าจน "อะ อ้า......" กระสุนทะลุร่างโครมเมทาเลี่ยมจนล้มลงไปในทันที แม้จะมีแรงยกปืนกลเล็กขึ้น แต่ "อั้ก" ก็สิ้นใจไปในทันที
              "คุณนิค คุณนิคคะ ทำใจดีๆไว้นะคะ" รีฟกล่าวอย่างตกใจไม่น้อยเพราะนิคเอาตัวเข้าป้องกันไว้
              "รีบพานิโคลัสเข้าไปทำแผลข้างในหมู่บ้านเดียวนี้เลย ที่เหลือ รีบช่วยควบคุมพวกสเลฟเฟียนส่วนที่น็อกสลบโดยเร็ว" เทาฟาดิลสั่งพวกเรนเจอร์ให้ลงมาเคลียร์โดยเร็ว ซึ่งส่วนหนึ่งรีบหามนิคเข้าไปรักษาแผลด้วย โดยที่รีฟเดินตามมาด้วยความเป็นห่วง
              ฟิเกซบอก "แย่ละสิ หวังว่าเนคมาดูซัมคงไม่แย่มากหรอกน่ะ"
              "ฟิเกซอท นายพาเพื่อนของนายไปช่วยเนคเกอร์โดยเร็วเลย ฉันกับพวกที่เหลือจะคุ้มกันโฟรเทรดิลเอง" เทาฟาดิลบอก
              ฟิเกซพยักหน้า "จายด์ จิล รีบตามฉันไปช่วยเจเนลโดยเร็วเถอะ พวกเขาต้องการคนช่วยกันอยู่น่ะ"

              "ปังๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ แกร็กๆๆๆๆๆๆ" ซีคเก้ไรเฟิ่ลของเนคมาดูซั่มรั่วกระสุนจนหมดแมกกาซีนลง ไม่ใช่แค่กระบอกเดียว แต่เป็นทั้งสองกระบอกด้วยกัน โดยที่พีวิล เจเนล สเปียริท พลัสเชอริท แอบไบออสหอบเหนือยขึ้นมา เมื่อนายกองของมอสวอร์ทแกตไทซ์มีพวกเดลอาเนี่ยนโผล่มาเป็นกองหนุนเข้ามา "ปืนคู่ใจของนายหมดกระสุนจนได้สิน่ะ เนคเกอร์ คราวนี้ถึงจุดจบของพวกนายกันละ" นายกองกล่าวอย่างหัวร่อ
              เจเนลกล่าว "ร้ายนักน่ะ พวกแกนิ...."
              "ดูท่าว่า บุตรของแรนเบร่าคงรับมือพวกคลั่งลัทธิไม่ได้แล้ว เห็นทีคงต้องหลบหนีไปให้ไกลๆแล้วละ" โฮร่าบอก
              รัคชูมี่กล่าว "ถึงเธอพยายามจะหนีไปยังไง พวกมอสวอร์ทที่ร่วมมือกับพวกเดลอาเนี่ยนก็หาเรื่องตามล่าพวกเธอกันอยู่ดีนี้แหละ"
              "แต่การเผชิญหน้านั้น มีแต่เสียกับเสียกันน่ะ ซึ่งฉันยอมให้มีการสูญเสียไปไม่ได้หรอก และไม่อยากให้ใครต้องสูญเสีย เพราะการต่อสู้กันด้วยน่ะ" โฮร่ากล่าว
              รัคชูมี่บอก "ส่วนหนึ่งเพราะว่าเธอกลัวจะต้องสูญเสียพวกพ้องและบริวารไปเลยสิน่ะ จริงอยู่ที่เธอทำเพื่อปกป้องชีวิตของสาวกใกล้ชิดของเธอไว้ได้จริง แต่ถ้าเธอไปโดยที่ทิ้งผู้กำลังเดือดร้อนไปเช่นนี้ นั้นนะหรือ คือการกระทำของนักรบเพรแครเดี่ยนที่เธอเคยเป็นกันมาก่อนน่ะ"
              "อดีตก็คืออดีต ฉันละทิ้งการต่อสู้เพื่อที่จะช่วยเหลือผู้เดือดร้อนในจักรวาล ถึงแม้ว่าจะเจอการต่อสู้ แต่ไม่ถึงกับต้องรุนแรงมากกว่าที่เธอกับพวกทำเอาไว้ ซึ่งการที่พวกเธอกับพวกแกตไทซ์สูญเสียดาวบ้านเกิดไปนั้น เป็นเพราะว่าพวกเธอร่วมมือกับกลุ่มต่อต้านกันก่อนน่ะ" โฮร่าบอก
              รัคชูมี่กล่าว "ฉันร่วมมือกับโคเคสและกลุ่มสหพันธมิตรแมนิเกเตอร์ ก็เพื่อความอยู่รอดของชาวควอเดี่ยม เฉกเช่นเดียวกันกับแกตไทซ์ที่เนคคูคัสและพวกเข้าช่วยปกป้องไว้ แม้จะรู้ว่าผลที่เกิดขึ้นจะทำให้แกตไทซ์รุ่นใหม่ กลายเป็นส่วนหนึ่งของพวกมอสวอร์ทที่ยังเหลือรอดจากการถูกปราบปรามไปก็ตาม ซึ่งนั้นไม่เพียงเป็นการตัดสินใจของฉันในฐานะผู้นำของพวกควอเดี่ยมทั้งหมด แต่เป็นจุดมุ่งหมายของท่านโอเวอร์เรสและโอเวอร์เดสด้วย"
              "จุดมุ่งหมายอย่างงั้นนะหรือ เจ้ากำลังจะบอกว่า ที่โอเวอร์เรสและโอเวอร์เดสสิ้นชีพไปนั้น เป็นแค่กุศโลบายที่วางเอาไว้ โดยที่เจ้ามีส่วนในแผนการนี้เลยหรือ" โฮร่าบอก
              รัคชูมี่พยักหน้า "เธอคงไม่รู้ใช่มั้ย ว่าเหตุใดที่ไซมาเทน เทพแห่งสงครามผู้ไร้ความปราณีต่อศัตรู ซึ่งตอนนี้ได้หันปลายหอกมาทางผู้บริสุทธิ์ ผู้ที่ต่อต้านใครหน้าไหนกันไว้แล้ว ถึงปล่อยให้พวกเธอรอดไป ทั้งๆที่ควรจะลงมือกำจัดไปตั้งนานแล้วน่ะ" แล้วก็ตอบไปอีกว่า "นั้นเพราะว่า โอเวอร์เรส ต้องการให้พวกเธอรอดเพื่อเป็นตัวแทนของแมนิเกเตอร์ฝ่ายดีของแรซัลก้า ออกไปจากดวงดาวที่เต็มไปด้วยโรคร้ายที่พวกเธอไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้ด้วยอำนาจชำระล้างที่พวกเธอมี นอกเสียจากต้องใช้สงครามเท่านั้นน่ะ"
              "เจ้าจะบอกว่า ที่ไซมาเทนปล่อยให้พวกเรารอดไปนั้น เป็นโองการของโอเวอร์เรสนะหรือ....ถ้าเช่นนั้น ทั้งดาวของพวกเจ้าและของพวกแกตไทซ์นั้นก็...." โฮร่ากล่าว
              รัคชูมี่ตอบ "ถ้าปล่อยให้ทั้งแกตโตเดี่ยนและควอดาน่ายังอยู่ต่อไป กองทหารที่ติดโรคบ้าอำนาจและความทะเยอทะยานสูง รวมถึงพวกแมนิเกเตอร์ที่อยู่ใต้อำนาจของไซมาเทนจะแห่มายึดพื้นที่บนดาวทั้งสองดวง เพื่อใช้เป็นฐานผลิตกำลังผล เพราะดาวทั้งสองล้วนมีเวลาที่ยาวนานกว่าปกติและมีทรัพยากรที่มากมายมหาศาล ซึ่งขุดไปตั้งหลายศตวรรษก็ไม่มีทางหมดสิ้นลงไปได้แน่นอน" แล้วก็บอกไปว่า "และโชคดีมากที่เนคเกอร์และลิเนียร์ตี้ ร่วมมือกับพีวิลและมาสวาร์ทาร์หยุดยั้งการรุกรานของพวกครีซีแทนที่เอสเปรโด้-4 นั้น คือเหตุผลที่ไซมาเทนใช้ขับไล่พวกแกตไทซ์ทั้งดีและเลวออกไปจากดาวแกตโตเดี่ยน ด้วยการทำลายดวงดาวให้แหลกเป็นจุล เพื่อทำลายโอกาสของพวกซัลคาเลี่ยนที่ติดโรคบ้าอำนาจเหล่านั้น ไม่ให้ยึดดาวไปใช้สร้างขุมกำลังเพื่อยึดแรซัลก้า แทนที่จะช่วยจักรวรรดิ์กันไว้น่ะ"
              "แล้วเจ้าก็ยอมให้พวกสหพันธมิตรยืมใช้ดาวของพวกเจ้าเป็นที่ฝึกฝนกำลังพล และยอมให้คนของเจ้าที่ถูกอำนาจมืดครอบงำดาวบ้านเกิดเพื่อให้มีการทำลายดาวทิ้งเลยสิน่ะ" โฮร่ากล่าว
              รัคชูมี่บอก "ควอดาน่าถูกอาชูรัลทอสทำให้มีมลทินมาก่อนแล้ว แม้จะเบาบาง แต่ก็อาจจะทำให้ทั้งดาวล่มสลายลงได้ หากปล่อยให้เวลาผ่านไปนานมากจนอำนาจมืดเพิ่มพูนขึ้นมาจนฉันหยุดมันไม่ได้แน่ๆ บวกกับว่าพลังนั้นก็ดันเป็นพลังของฝ่ายตรงข้ามกับชาวดาวฤกษ์กันด้วยแล้ว ฉันยอมให้ดาวของฉันได้รับการปลดปล่อยจากชาวดาวฤกษ์เสียเอง เพื่อให้พวกเรากลับเข้าสู่เวลาปกติกันไว้น่ะ"
              "แต่ถึงอย่างงั้น เจ้าก็นำพาชนเผ่าของเจ้ากลับสู่วังวนแห่งความวุ่นวายกันอยู่นี้แหละ" โฮร่าบอก
              อาเดเลียบอก "เออ ท่านโฮร่าคะ ลิเนียร์ตี้ในตอนนี้...." เพราะตอนนี้ลิเนียร์ตี้เปล่งแสงขึ้นมากันแล้ว
              "แย่ละสิ ลิเนียร์ตี้นึกถึงปัญหาที่อยู่ภายนอก จนทำให้พลังในแกนหัวใจพุ่งพล่านขึ้นมาแบบนี้ คงต้องหยุด..." โฮร่าเลยรีบตรงมา แต่ลิเนียร์ตี้เปล่งแสงสีชมพูอ่อนขึ้น "นิ นี้มัน พลังนั้น ไม่จริงน่ะ" โฮร่าอุทาน โดยที่เห็นผมของลิเนียร์ตี้ที่เหลือเพียงเล็กน้อย งอกกลับมาเต็มหัวเหมือนเดิม และเปลี่ยนสีผมจากสีแดงชมพูมาเป็นผมบลอนด์สีทองขึ้นมา "แวบๆๆๆๆ ซูมมมม ฟึ่บบบบ" ตรงหลังปีกทั้งสองข้างนั้นงอกปีกแห่งแสงสีขาวออกมาอย่างรวดเร็ว จนสะบัดขนนกออกมา
              "รอก่อนน่ะ ทุกๆคน ฉันจะไปช่วยแล้ว" ลิเนียร์ตี้กล่าวโดยที่แววตาของเธอเป็นสีชมพูขึ้นแล้วก็ "ฟ้าวววว แว้งงงง" ทะยานบินออกไปอย่างรวดเร็ว
              "ท่านโฮร่าคะ ลักษณะของลิเนียร์ตี้ในตอนนี้มัน...." อาเดเลียกล่าว
              โฮร่าพยักหน้า "....สภาพของเธอเหมือนกับฮัลลีน หากแต่....เธอไม่กางปีกแห่งแสงแบบเดียวกับพวกเราเลย มันเพราะอะไรกันนะ..."

    ต่อพาร์ทถัดไปเลย


    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×