ตอนที่ 72 : คนสวนกับต่างโลก ภาค พิภพพฤกษา ตอนที่ 70 วางแผนร้านยา
คนสวนกับต่างโลก ภาค พิภพพฤกษา ตอนที่ 70 วางแผนร้านยา
วาเลนใช้เวลาหลังจากนั้นนั่งคุยและตอบคำถามต่าง ๆ ของมารดาและผู้เป็นอาจารย์อาวุโสทั้งสองของเขา เรื่องเล่าต่าง ๆ ที่น่าตกใจได้พ้นผ่านไปแล้วเหลือทิ้งไว้เพียงความจริงในเรื่องเหล่านั้นที่ต้องทำใจเผชิญกับมันให้ได้
ก่อนหน้านี้ท่านหญิงวิเรร่าและอาจารย์ทั้งสองของวาเลนนั้นต่างภาคภูมิใจกับสถานการณ์ในด้านพลังที่พัฒนาล้ำหน้าขึ้นมาบ้าง แต่หลังจากการพูดคุยในช่วงระยะเวลาสั้น ๆ ที่ผ่านมากลับพบว่าความภาคภูมิใจนั้นเหมือนกับถูกมรสุมลูกใหญ่พัดกวาดออกไปไม่เหลือชิ้นดี
ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการตื่นขึ้นบางส่วนของจิตวิญญาณภัยพิบัติโบราณอย่างยักษ์ไททันหรือการสนองตอบของเหล่าจตุรเทพผู้พิทักษ์ป่าบรรพกาลในอดีตที่ทยอยกันตื่นขึ้นมาเช่นกัน นับได้ว่านี่คือสัญญาณขั้นต้นของความวุ่นวาย
ส่วนเรื่องของพิภพต่างแดนนั้นนอกจากสร้างความตื่นตระหนกตกใจก็แทบจะไม่มีใครให้ความสนใจกับมันนานนัก เพราะนั่นเป็นเรื่องที่ไกลตัวเกินไป
"อย่างที่ท่านแม่และท่านอาจารย์ได้ยินแล้วราชินีดรายแอดส์ให้เวลาข้าเตรียมตัวแค่สามสิบวัน ช่วงเวลาที่เหลือนั้นข้าคงต้องไปตระเตรียมการหลายอย่าง"วาเลนไม่ต้องการทิ้งภาระต่าง ๆ ที่เขาได้เริ่มเอาไว้ให้คนข้างหลังต้องหนักใจ
"ไปเถอะ..ทำสิ่งที่ต้องทำ" ท่านหญิงวิเรร่าพยักหน้าน้อย ๆ ตอบรับและยิ้มให้กำลังใจ เธอยังคงเป็นมารดาที่ยิ่งใหญ่พร้อมสนับสนุนบุตรของเธอในทุกช่องทาง
"เช่นนั้นอาจารย์อยากให้เจ้าเริ่มที่ร้านดาราโอสถก่อนเป็นไง...." อาวุโสเอียนลุกขึ้นและพูดจองตัววาเลนก่อนสหายอีกคนที่ได้ชื่อว่าเป็นอาจารย์เช่นกัน อาวุโสเมลล์หน้างอง้ำราวกับถูกช่วงชิงอาหารโปรดตรงหน้าไปโดยไม่สามารถทำสิ่งใดได้ ชายชราทำได้เพียงสบถคนเดียวในใจอย่างขุ่นเคือง 'เจ้าเฒ่านี่ช่างชอบตัดหน้าคนอื่นเสียจริง อย่าให้ถึงทีข้าบ้าง'
คารีสและท่านหญิงวิเรร่าต่างรอบขำกับท่าทางของสองอาวุโสที่ฮึมฮัมใส่กันราวกับเด็กแย่งขนม ในครั้งนี้ปรากฏว่าอาวุโสเอียนลอบยิ้มยินดีกับชัยชนะเล็ก ๆ ของตนเองเมื่อวาเลนตอบรับที่จะไปยังร้านดาราโอสถที่ทั้งคู่บูรณะมันขึ้นมา
ตอนนี้วาเลนเสมือนเป็นหัวใจหลักของขุมกำลังเล็ก ๆ ที่อยู่รอบกายเขาตอนนี้ไม่ว่าเขาจะทำสิ่งใดหรือสิ่งใดที่ต้องตัดสินใจบรรดาคนรอบกายมักจะถามความเห็นของวาเลนเป็นอันดับแรกก่อนเสมอนั่นแสดงให้เห็นว่าพวกเขานั้นเชื่อมั่นในตัวของคุณชายเจ็ดขนาดไหน
เมื่อตัดสินใจว่าจะไปยังร้านดาราโอสถกับอาวุโสเอียนแล้ววาเลนกล่าวลามารดาและอาวุโสเมลล์ก่อนจะออกเดินทางไปพร้อมกับอาวุโสเอียนในทันที ปิดท้ายด้วยคารีสที่ตามติดวาเลนเป็นดังเงา
"ข้าไม่กล้าคาดเดาอนาคตของคุณชายเจ็ดผู้นี้อีกต่อไปท่านหญิง...เบื้องหลังของเขายิ่งใหญ่กว่าที่เราจะคาดคิดได้...นับเป็นโชคร้ายของตระกูลจริง ๆ ที่ไม่สามารถได้หัวใจของคุณชายเจ็ดผู้นี้ " อาวุโสเมลล์พูดในสิ่งที่เขากังวลออกมา ไม่ว่าจะมองทางไหนนี่คือความสูญเสียที่ยิ่งใหญ่ของตระกูลโอเดลรอสอย่างแน่นอน
ท่านหญิงวิเรร่ายิ้มน้อย ๆ และไม่ตอบสิ่งใดเธอปล่อยให้มันเป็นไปตามโชคชะตา ในเมื่อตระกูลเลือกที่จะนิ่งเฉยและไม่ทำสิ่งใดชดเชยให้แก่บุตรของเธอในช่วงระยะเวลาที่ผ่านมา ในฐานะมารดาหากว่าตระกูลไม่ยุติธรรมแก่เธอ เธอยอมได้ แต่หากเขาไม่ยุติธรรมแก่บุตรของเธอนั่นคือเรื่องที่เลวร้ายที่สุดที่เธอจะไม่มีวันยอม
วาเลนออกเดินทางไปยังจัตุรัสอัคเคล่า สถานที่ตั้งของร้านดาราโอสถ หนึ่งในเมืองที่ใกล้กับพระราชวังกรีนแลนด์และยังเป็นย่านการค้าที่คึกคักที่สุดในอาณาจักรอีกด้วย
วาเลนแทบไม่อยากจะเชื่อสายตา ร้านดาราโอสถแห่งนี้กลายสภาพเป็นร้านที่มีชีวิตชีวาขนาดนี้ได้อย่างไร ไม่น่าเชื่อว่าภายใต้การบริหารของอาวุโสเอียนจะทำให้ชื่อเสียงของร้านขจรไกลไปทั่วทั้งอาณาจักรได้อย่างรวดเร็ว ชายชรายืดอกเผยยิ้มเต็มใบหน้าเมื่อเห็นสีหน้ายินดีและแววตาที่แปลกใจของวาเลน
"นี่อาจจะยังไม่ดีมาก แต่มันกำลังค่อย ๆ พัฒนาด้วยโอสถที่เจ้าหลอมออกมาจนสามารถเพิ่มระดับการบ่มเพาะได้ มันยิ่งสร้างความสนใจและดึงดูดผู้คนให้หลั่งไหลมาเป็นจำนวนมาก พูดได้ว่าหากไม่มีโอสถตัวนี้ ผู้คนก็ยังมีความนิยมในการรักษาของเหล่าผู้ใช้มนตรา" อาวุโสเอียนชี้ให้เห็นว่าตอนนี้กำลังมาได้ถูกทาง แม้แต่เขาก็ยังคาดหวังให้วาเลนพัฒนาสูตรยาเพิ่มระดับการบ่มเพาะให้สูงล้ำยิ่งกว่าเดิม ยิ่งมันทรงคุณค่ามากเท่าไหร่ ความรุ่งเรืองของเหล่าผู้ปรุงยาในอดีตยิ่งหวนกลับคืนมาได้เร็วเท่านั้น
"นี่นับว่าดีกว่าที่ข้าคาดคิดเอาไว้มากท่านอาจารย์ เรื่องตัวยานั้นท่านไม่ต้องเป็นกังวล ข้าจะตระเตรียมเอาไว้ให้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ ด้วยระยะเวลาฝึกของราชินีดรายแอดส์ที่ข้าไม่อาจล่วงรู้ได้ว่ามันจะยาวนานเพียงใด อาจจะต้องใช้กลยุทธ์จำกัดการขายในแต่ละวัน" อาวุโสเอียนมองออกว่าวาเลนนั้นมองขาดในด้านการค้า หากว่าปล่อยของดีจนหมดมือ คนซื้อก็จะไม่กลับมาของที่คุณภาพด้อยกว่าก็จะไม่ถูกจำหน่ายออกไป
ชายชราแย้มยิ้มเต็มใบหน้าและพยักหน้าตอบรับในแนวคิดเช่นนี้
นอกจากการฟื้นฟูกิจการร้านโอสถที่นับวันยิ่งตกต่ำมานานปี จนเกือบที่จะต้องขายทิ้งให้กับเหล่าผู้ใช้มนตรา อีกสิ่งหนึ่งที่อาวุโสเอียนกังวลตลอดมานั่นก็คือการพยุงให้หอโอสถในตระกูลยังสามารถเปิดต่อไปได้เมื่อไม่มีเงินจากตระกูลมาจุนเจือมันแทบเป็นไปไม่ได้ที่จะประคองไว้ได้นาน เหล่าผู้หลอมโอสถนั้นก็นับว่าต้องกินต้องใช้ ต่อให้รักในสาขาอาชีพมากเพียงใด มันก็ยังไม่มากพอต่อชีวิตของตนและคนในครอบครัวที่รออยู่เบื้องหลัง
หากจะพูดถึงสมุนไพรที่ถูกหลอมเอาไว้นั้นก็เป็นโอสถระดับต่ำสามัญทั่วไปแทบทั้งสิ้น มิสามารถเปลี่ยนเป็นเงินตราได้ สิ่งที่ยังพอทำให้ตระกูลไว้หน้าและตั้งเงื่อนไขต่าง ๆ เพื่อจะยุบหอโอสถให้ได้ก็มาจากการที่ยังเกรงใจในอาวุโสเอียน
ถึงแม้ว่าจะไม่สามารถหาประโยชน์จากการหลอมโอสถเพื่อขายได้ แต่ผู้หลอมโอสถระดับทองอย่างผู้อาวุโสเอียน มิใช่ว่าจะหากันได้ง่าย ๆ ผิดคาดที่จู่ ๆ คุณชายเจ็ดก็กลายเป็นอัจฉริยะที่ราวกับฟ้าประทานลงมา สร้างความตื่นตระหนกราวกับพลิกฟ้าคว่ำสวรรค์ได้ วิกฤติต่าง ๆ ของหอโอสถและร้านยาจึงถูกผลักออกไปอีกทั้งยังฟื้นฟูสถานะให้เกือบทัดเทียมได้กับภาคีนักล่าของตระกูล
แม้แต่สถานะในตระกูลของอาวุโสเอียนก็คล้ายจะสำคัญขึ้นมาอีกระดับเช่นกันไม่เพียงเท่านั้นผู้คนรายรอบคุณชายเจ็ดล้วนกลายเป็นผู้ทรงพลังได้ในช่วงระยะเวลาสั้น ๆ นี่ต่างหากคือพัฒนาการที่น่าหวาดกลัว
ในตระกูลไม่มีใครกล้าที่จะลืมเลือนการต่อสู้สะท้านฟ้าสะเทือนดินของท่านหญิงวิเรร่าและอาวุโสสองลงได้ มารดาคุณชายเจ็ดกลายเป็นนางสิงห์ที่ดุร้ายและน่าหวาดกลัวภายใต้สถานการณ์ที่บุตรชายของเธอถูกกดดันและโดนรังแก อาวุโสสองที่ไปแหย่หนวดเสือจึงต้องพบกับความพ่ายแพ้และสะบักสะบอมกลับมาหากไม่เกิดเหตุการณ์เช่นนี้จะมีใครรู้ว่ามารดาของคุณชายเจ็ดนั้นเป็นนักสู้ที่ทรงพลังและไม่สามารถตอแยได้
ไม่รู้ว่าเป็นโชคดีหรือร้าย ที่คุณชายเจ็ดแทบไม่ใส่ใจตระกูล หลายคนกลัวว่าเขาจะเป็นพวกแค้นฝังหุ่นที่ไม่ลืมเลือนเรื่องการกลั่นแกล้งต่าง ๆ ที่ผ่านมา ถึงแม้ว่าอาวุโสสูงสุดจะเป็นกลางและสั่งห้ามมิให้ใครยั่วยุอารมณ์ท่านหญิงวิเรร่าอีกทั้งยังประกาศให้เรือนที่เจ็ดเป็นสถานที่ต้องห้ามภายในตระกูลนอกจากได้รับอนุญาต นี่คือการถอยหนึ่งก้าวใหญ่ ๆ ที่ทางตระกูลหาทางออกให้ตัวเอง
แม้แต่บิดาของวาเลนก็เห็นชอบในข้อนี้ปัจจุบันไม่มีใครกล้าคาดเดาว่าระหว่างท่านหญิงวิเรร่าและอาวุโสสูงสุดนั้นใครจะทรงพลังมากกว่ากันแต่ไม่ว่าจะเป็นใครการต่อสู้เพื่อวัดระดับนั้นไม่ใช่ทางออกที่ดี เพราะหากวัดกันด้วยสิ่งนี้นั่นหมายถึงหายนะที่จะเกิดขึ้นกับตระกูล
หลังจากได้รู้ถึงความคืบหน้าต่าง ๆ จากผู้เป็นอาจารย์ วาเลนหันกลับมาสนใจตัวโอสถต่าง ๆ ที่ถูกวางขายไว้อย่างละลานตา โอสถที่มีคุณภาพสูงสุดยังคงเป็นยาระดับเงินขั้นกลางที่เขาหลอมขึ้นมา มันเป็นโอสถที่สามารถรักษาอาการเจ็บป่วยต่าง ๆ ได้ ทั้งยังสามารถเพิ่มระดับขั้นการบ่มเพาะของผู้ที่กินมันเข้าไป มันจึงถูกวางโชว์เอาไว้ในจุดที่ดีที่สุดของร้านดาราโอสถและมันก็เป็นยาที่แพงที่สุดด้วยเช่นกัน
วาเลนนั้นในยามนี้คือผู้ที่เรียกได้ว่ามีความสามารถถึงขั้นของผู้หลอมโอสถระดับทองได้แล้วแต่เขาไม่มีความคิดที่จะหลอมพวกมันออกมาขาย มีขุมอำนาจอื่นมากมายที่พร้อมจะจับจ่ายเพื่อให้ได้มันมาซึ่งหนทางเพิ่มพลังอำนาจ
หากวาเลนวาดหวังในเงินตราจำนวนมากและหลอมโอสถระดับทองออกมาขาย คาดว่าในอนาคตเขาอาจพลาดพลั้งเปลี่ยนโอสถเหล่านั้นให้กลายเป็นดาบในมือศัตรูแล้วย้อนกลับมาหาตัวเขาได้ในท้ายที่สุด สุดท้ายแล้วเขารู้สึกว่าโอสถที่ทรงคุณค่าเหล่านี้มิควรที่จะมีมากมาย ถึงมีคนที่ควรค่าให้ใช้ก็ต้องมิใช่ผู้ที่จะกลายมาเป็นศัตรูในอนาคต
วาเลนมองดูโอสถประเภทอื่น ๆ ที่เขามิได้หลอมขึ้นมา ส่วนใหญ่จะเป็นโอสถระดับทองแดงขั้นสูงเสียมากกว่าที่จะเป็นโอสถระดับเงินแต่ถึงอย่างนั้นมันก็ยังพอมีให้เห็นเป็นประปราย วาเลนมิได้ทำสิ่งใดเขาเพียงสำรวจและดูรายละเอียดของพวกมันอย่างสนใจเพียงเท่านั้น
การนำตัวยาเหล่านี้มาขายคือสิ่งที่ทำให้ผู้หลอมโอสถเกือบทั้งหมดของตระกูลโอเดลรอสยอมรับในตัวของคุณชายเจ็ดวาเลน เขานับได้ว่าเป็นผู้เปิดโอกาสให้ผู้หลอมโอสถมากมายได้นำผลงานที่พวกเขาหลอมออกมาได้วางขายอย่างอิสระเสรี
ตั้งแต่ที่ร้านดาราโอสถกลายเป็นที่รู้จักเม็ดเงินจำนวนมากก็ได้กลับมาแพร่สะพัดอีกครั้ง พวกเขาได้ลืมตาอ้าปากหลังจากที่ต้องทนอัปยศอดสูมานานจึงทำให้ตอนนี้นั้นร้านดาราโอสถกลายเป็นสถานที่ ๆ ราวกับเป็นหัวใจหลักที่เหล่าผู้หลอมโอสถของตระกูลโอเดลรอสล้วนให้ความสำคัญ พวกเขาเรียกมันว่าบ้านหลังที่สองด้วยซ้ำไป
วาเลนใช้เวลาแทบทั้งวันหมดไปกับการศึกษาสูตรยาต่าง ๆ คลังความรู้ในเรื่องของสมุนไพรในหัวของเขาที่ได้มาจากพลังของสัมผัสพิเศษถูกนำมาอนุมานความเป็นไปได้ในการหลอมสมุนไพรให้กลายเป็นโอสถประเภทต่าง ๆ ไม่ต่ำกว่าสิบชนิด
วาเลนวางแผนในการหลอมโอสถระดับเงินไว้ขาย ในขณะที่โอสถระดับทองนั้นเขาต้องการหลอมเอาไว้ใช้เป็นโอสถสำหรับรักษาขั้นสูงในกรณีฉุกเฉิน สำหรับคนของเขาเพียงเท่านั้น
สำหรับการบ่มเพาะขั้นพลังของมารดา อาจารย์ทั้งสองของเขาหรือแม้แต่คารีสนั้น วาเลนไม่เคยกังวลในเรื่องเหล่านี้ เขามีแก่นเวทย์อสูรระดับสูงที่ได้มาจากผาคืนวิญญาณสถานที่ลึกลับในป่าบรรพกาลเขตใน
มันมีมากพอที่จะใช้ได้เป็นสิบ ๆ ปีทรัพยากรเหล่านี้มิคาดว่าต่อให้ใช้สุรุ่ยสุร่ายก็แทบจะไม่มีวันหมดได้โดยง่าย ไม่ต้องพูดถึงการซึมซับพลังจากแก่นเวทย์อสูรก้อนใหญ่ขนาดเท่าหัวคนนี้ คาดว่าต้องใช้เวลาเกือบปีกว่าจะใช้ร่างกายซึมซับพลังเหล่านี้ได้ถึงครึ่งหนึ่งของมัน
ในขณะที่วาเลนกำลังคิดอะไรเรื่อยเปื่อยอยู่นั้น ปรากฏว่าภายนอกร้านก็มีเสียงเอ็ดตะโรดังขึ้นฟังดูวุ่นวาย
"เกิดอะไรขึ้น?..."วาเลนไม่รู้ว่าใครเป็นคนถามขึ้นมาแต่ทว่าเขากลับตั้งใจฟังคำตอบมากกว่าด้วยเพราะต้องการรู้ว่าอะไรคือต้นเหตุของเสียงโวยวายที่เกิดขึ้น
"ท่านมารีนและท่านเอสด้า.....พวกเขาปะทะกับผู้ใช้มนตราอีกแล้ว" มีเสียงหนึ่งดังตอบกลับมา ดูท่าว่าจะเร่งรีบไม่แพ้กัน
"ให้ตายสิ ...เจ้ายังช้าอยู่ทำไม มีใครไปแจ้งเบญจดาราท่านอื่น ๆ แล้วหรือยัง ?" ชายที่ถามลอบตกใจ
"แล้วเจ้าคิดว่าข้ารีบกลับมาเพราะเหตุใดถ้าไม่ใช่เรื่องนี้ .....หลบออกไปซักทีเจ้างั่ง" เสียงตอบโต้ดังไม่แพ้กันตะโกนกลับมา
คารีสที่เงียบฟังจนรู้ว่าเกิดสิ่งใดขึ้นหันกลับมาเพื่อจะถามวาเลนว่าจะเอาเช่นไรแต่สิ่งที่เขาเห็นถึงกับทำให้เด็กชายชะงักงันทันที เขาหันมาทันเห็นหลังไว ๆ ของคุณชายเจ็ดที่เปรียบได้ดังสหายสนิทนั้น แวบหายไปต่อหน้าต่อตา หากเดาไม่ผิดคาดว่าคุณชายของเขาคงเร่งไปยังสถานที่ ๆ น่าจะกำลังวุ่นวายอยู่ในขณะนี้
"คุณชายเจ็ด....นี่ท่าน....." คารีสถอนหายใจออกมาอย่างเหนื่อยใจ เรื่องวุ่นวายของผู้อื่นกลายเป็นเรื่องสนุกสนานไปได้อย่างไรกัน
----------------------------------------------------------------------
กลับมาแล้วววววววว เดี๋ยวไม่แน่ดึก ๆ กลับมาอัพให้อีกตอนนะครับ
ขอโทษที่หายไปนานเลย แหะ ๆ ขอบคุณทุกคนที่ยังติดตามกันอยู่นะครับ เลิฟ ๆ
ผู้ใช้มนตรา CR. www.pinterest.co.kr
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

หายไปเกือบเดือนกลับมาแล้ว น่าลงให้ 4 ตอน
ขอบคุณค่ะ คิดถึงคุณชายเจ็ด รออ่านตอนต่อไปอยู่ค่ะ
กำลังสนุกเลยยย ยย ยย ยย ย ยย ย
รอตอนต่อไปปปป ป ปป ปปป ป ปป ป ปป ป
ล้ว
ยังจำไม่เคยลืมเลือน
//ไรท์กลับมาต่อนิยายแล้ว ฮื่อ ดีใจ
ดีงาม
รอ ร๊อ รอ เธออยู่ นิยายรายเดือนของเรา สู้ๆนะไรท์ รอติดตามจนกว่านิยายเรื่องนี้จะจบนะ