ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    คำสารภาพของฆาตกร ภาค3 (The Message)

    ลำดับตอนที่ #16 : ตอนที่ 12 ทาง 55%

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 181
      1
      2 ส.ค. 56

    ในที่คุ้นเคยกับคนที่ไม่คุ้นชินบรรยากาศอาจเหมือนคืนเดิมๆ แต่คนแปลกหน้าที่แวะเวียนเปลี่ยนกันเข้ามาก็ทำให้เกิคความต่างได้เสมอ เสียงดนตรีคืนนี้คล้ายกับคืนก่อน เพียงแต่คืนนี้คนที่นั่งอยู่ ณ ที่เดิมไม่ได้เพียงมานั่งเพื่อให้ผ่านเวลาไปอีกคืน สัมมาเสยผมที่เริ่มหมาดชื้นจากการฝ่าสายฝนจากที่จอดรถเข้ามาในร้านเพื่อมองคนที่เหมือนน้องชายสร้างสรรเวทมนต์ด้วยเสียงดนตรีอยู่บนเวที อาจจะเพราะความรู้สึกในใจของคนฟังที่ยังเต็มไปด้วยอารมณ์ที่หลากหลาย จึงรู้สึกว่าเสียงเพลงที่เคยฟังได้เรื่อยๆ ไม่รื่นหูเหมือนทุกวัน

    “อย่ากดดันตัวเองนักเลย มึงควบคุมทุกอย่างไม่ได้หรอก” คำพูดลอยๆ แสดงให้เห็นว่าชาญเดชยังคงเป็นบุคคลที่ล่วงรู้ถึงสิ่งที่สัมมาคิดได้เช่นเคย

    “คนเราเกิดมาเพื่อไล่ตามเงาทุกคนหรือเปล่าวะ” สัมมาตอบกลับคำพูดนั้นด้วยคำพูดลอยๆ ที่แฝงปรัญญา แต่ก็เช่นเดิมที่คนนั่งข้างๆ เข้าใจ

    “ถ้ายังมีชีวิต มันก็ต้องมีอะไรที่เราอยากได้เสมอแหละ แต่ไม่ทุกคนหรอกที่จะได้มา” ชาญเดชคั้นคำพูดด้วยน้ำสีอำพัน แล้วบอกคนที่นั่งดื่มเครื่องดื่มปราศจากแอลกฮอล์ข้างๆ “กูรู้ว่ามึงคิดว่าสิ่งที่ฆาตกรทำเป็นเพราะมึง แต่มึงไม่จำเป็นต้องพยายามเข้าไปนั่งในใจมันก็ได้”

    มันยากที่จะโกหกคนที่รู้ใจเราเสมอสัมมาจึงยอมรับตรงๆ

    “กูเคยบอกมึงแล้วไงว่าถ้าอยากจะจับคนร้ายก็ต้องคิดล่วงหน้าก้าวนึง”

    “แล้วมันมีประโยชน์เหรอวะที่จะคิดตอนที่ตัวเองไม่มีสมาธิ” เมื่อเห็นคนฟังนิ่วหน้า ชาญเดชก็รุกต่อ “ตอนนี้สมองมึงสับสนวุ่นวายไปหมดแล้วไอ้หมอ”

    ประโยคหลังเรียกเสียงหัวเราะจากสัมมาได้ ทำเอาคนพูดแปลกใจ

    “ขำอะไรของมึงไอ้หมอ” หลังจากฟังคำถามของชาญเดช สัมมายังหัวเราะอีกครู่นึงก่อนจะตอบด้วยสีหน้าที่ดีขึ้นกว่านาทีก่อนเล็กน้อย

    “ปกติกูต้องเป็นคนเตือนมึงไม่ใช่เหรอวะ”  เมื่อเพื่อนพยักหน้า สัมมาก็ยอมรับกับชาญเดชตรงๆ “เวลาผงเข้าตาตัวเองนี่มันเขี่ยยากวะ”

    “ให้คนอื่นช่วยมั้งก็ได้”

    สัมมาตอบรับด้วยการพยักหน้าเพราะคืนนี้ก็เป็นหนึ่งในคืนที่เขาต้องการความช่วยเหลือจากเพื่อน หมอหนุ่มยกแก้วเครื่องดื่มขึ้นจิบเพื่อให้ตัวเองไม่ว่าง ขณะจับจ้องสมเจตที่กำลังทำงานสองอย่างพร้อมๆ กันทั้งเล่นดนตรีและสังเหตการณ์ เหมือนกับที่ชาญเดชกำลังทำอย่างแนบเนียนด้วยการกวาดสายตาไปรอบๆ เพื่อมองดูคนที่อาจจะคุ้นหน้าจากโรงเรียนเก่า แต่เหมือนว่าแผนที่วางกันคร่าวๆ จะไม่ประสบผลสำเร็จ

    “ไม่มีใครคุ้นตาเลยใช่ไหม” สัมมาถามหลังจากฟังเสียงถอนหายใจของชาญเดช เวลากำลังจะล่วงเข้าสี่ทุ่ม ถึงราตรีจะอีกยาว แต่สิ่งที่คิดกันเอาไว้ไม่น่าจะเกิดขึ้นในคืนนี้

    “กูไม่เห็นใครหน้าคุ้นเหมือนพวกที่มาจากโรงเรียนเก่าเราเลยวะ”

    ถ้าคนที่มีสายตาเหมือนเครื่องถ่ายเอกสารอย่างชาญเดชบอกว่าไม่มี ก็แสดงว่าผู้ต้องสงสัยไม่ได้ตามเขามาในคืนนี้ จากเดิมที่ตกลงกันว่าจะตระเวนกลางคืนเพื่อเป็นเหยื่อล่อคงไม่สมดังที่ตั้งใจแน่ สัมมามองเพื่อนกดโทรศัพท์หาคนรักเพื่อเช็คความปลอดภัยด้วยความรู้สึกกึ่งขำกึ่งเศร้า เขาแอบบ่นตัวเองในใจที่อิจฉาเพื่อน แต่ก็ห้ามความรู้สึกไม่ได้

    “ธัญญ่าอยู่กับเอย แถมมีไอ้กอร์ฟอยู่ด้วยจะเป็นอะไรได้วะ” หมอหนุ่มแกล้งแซวเพื่อนเพื่อกลบเกลื่อนอารมณ์ตัวเอง แล้วก็เป็นดังคาดเมื่อชาญเดชหันมาเถียง

    “กูไม่ได้โทรไปเช็คความปลอดภัยธัญญ่า กูแค่โทรไปบอกเขาว่ากูสบายดี เขาจะได้ไม่ห่วง”

    สัมมากรอกตาด้วยความระอาที่เพื่อนยังกล้าทำปากแข็ง วันนี้เกือบไม่ได้ทำตามแผนเพราะชาญเดชห่วงหน้าพะวงหลัง เนื่องจากต้องมีตำรวจคอยอารักขาอย่างน้อยหนึ่งนายเพื่อความปลอดภัย แต่ผู้กองธนูไม่ถนัดเที่ยวกลางคืน และยังติดเฝ้าแฟน จึงไม่สะดวกมาทำงานนอกสถานที่ ชาญเดชจึงเป็นตัวเลือกที่ดีกว่าในงานบอร์ดี้การ์ด โดยเฉพาะเมื่อหมวดหนุ่มจำหน้าคนที่เคยเรียนร่วมกันสมัยมัธยมได้ ติดแค่นายตำรวจไม่อยากทิ้งธัญญ์ชยาไว้ลำพัง โชคดีที่อริญอยู่คุยเรื่องงานบริษัท และมีตัวพ่วงเป็นนักมวยสมัครเล่นอย่างวิทยาจึงพอที่จะทำให้ชาญเดชสบายใจขึ้น แต่ก็ไม่วายโทรหาทุกครึ่งชั่วโมงเพื่อตรวจสอบว่าคนรักไม่ได้อยู่ตามลำพัง

    “คืนนี้คงไม่มีอะไรแล้วล่ะมั้ง มึงกลับไปก่อนก็ได้ เดี๋ยวกูกลับพร้อมไอ้จุ๊ยตอนห้าทุ่ม” เมื่อเห็นว่าเพื่อนกระสับกระส่าย สัมมาจึงเสนอทางออก แต่ชาญเดชส่ายหน้าคว้าแก้วมาดื่มต่อ

    “ไม่เป็นไร ฟังวงไอ้จุ๊ยเล่นก่อนก็ได้ อีกแค่ชั่วโมงเดียวเอง”

    แล้วสองหนุ่มก็ฟังเพลงต่อเรื่อยๆ แต่อาจเป็นเพราะภายนอกร้านอึงคะนึงไปด้วยสายฝน ทำให้วงที่ปกติจะเล่นเพลงเร็ว กลับเลือกที่จะเล่นเพลงช้า และที่แย่ที่สุดคือเลือกเพลงที่บาดใจของสองหนุ่ม

    “ไอ้ยุ่นมันไม่มีเพลงอื่นจะเล่นแล้วหรือวะ” ชาญเดชพูดถึงหัวหน้าวงดนตรีด้วยความหงุดหงิดก่อนที่ดนตรีท่อนอินโทรจะบรรเลงจบเสียอีก  

    2 A.M. and the rain is falling Here we are at the crossroads once again
    you’re telling me you're so confused you can't make up your mind.
    Is this meant to be You're asking me
    (เพลงOnly Love ของศิลปิน Trademark)

    เสียงเพลงเศร้าไม่เพียงกระตุ้นความทรงจำที่เจ็บปวดในใจชาญเดช แต่มันยังรื้อฟื้นภาพที่ฝังตรึงอยู่ในสมองของสัมมา เท้าในคัชชูสีขาวที่เดินจากไปแล้วไม่เคยย้อนกลับมา เป็นความผิดที่เขาไม่มีทางแก้ไข นอกจากโทษตัวเอง ถ้าวันนั้นตอนถึงทางแยกเขาเลือกอีกทาง ทุกอย่างก็คงจะเปลี่ยนไป

    “ก็ข้างนอกฝนตก มันก็เล่นเพลงนี้นะสิ หรือมึงจะให้มันเล่นเพลงแดดออก” สัมาแกล้งพูดกลบเกลื่อนทั้งที่ในอกกำลังบีบเกร็ง

    “เยอะแยะไปเพลงเกี่ยวกับฝน” ว่าแล้วชาญเดชก็ยกแก้วดื่มเพื่อกลบอารมณ์รุนแรงที่ปะทุขึ้นมาเป็นระลอก แล้วก็ต้องแปลกใจเมื่อสัมมาหันไปคว้าขวดแบนที่วางข้างๆ มาเติมในแก้วน้ำอัดลมตรงหน้า

    “เฮ๊ย!!! เดี๋ยวก็น๊อคหรอกมึง” คำท้วงไม่ได้ผลเมื่อเพื่อนคออ่อนยังรินเหล้าปริมาณไม่น้อยลงในแก้วตนเอง

    “กูกินแก้วเดียวไม่เมาหรอก” สัมมาพูดแล้วก็ดื่มหน้าตาเฉย ชาญเดชจึงเลิกห้ามหันไปดื่มของตนเองบ้าง แล้วก็ต้องแปลกใจหนักกว่าเดิมในสิ่งที่สัมมาเลือกที่จะพูดต่อ

    “มึงโกรธกูไหมเรื่องพรรณ ถ้าตอนนั้นกูไม่มัวแต่วุ่นวายเรื่องอื่น ช่วยมึงสืบเรื่องของพรรณ มึงอาจไม่ตกหลุมพรางก็ได้”

    มันน่าจะเป็นเรื่องสุดท้ายที่สัมมาจะพูดให้เขาได้ยิน ชาญเดชจึงนิ่งงันไปชั่วครู่ก่อนจะพูดตามความจริง

    “ตอนกูเจ็บ กูก็โทษมึงอยู่เหมือนกันวะ แต่ส่วนใหญ่กูโทษตัวเอง ไม่มีใครบังคับให้กูไปเป็นแฟนเค้านี่หว่า” ชาญเดชพูดอย่างเปิดอก และสัมมาก็ไม่คิดแม้แต่น้อยว่าเพื่อนโกหก โดยเฉพาะประโยคต่อมา “คงเหมือนที่มึงโกรธกูเรื่องก้อยนั้นแหละ”

    “ใช่ ตอนกูเสียใจแรกๆ กูก็โทษมึงเหมือนกัน แต่ก็น้อยกว่าที่กูโทษสิ่งที่กูทำ ก็วันนั้นกูเลือกเองที่จะไปหามึง” ถ้าเพียงแต่ย้อนเวลาได้ก็คงดี คำพูดนี้สัมมาไม่ได้เอ่ยออกมาแต่มันวนเวียนอยู่ระหว่างทั้งคู่

    ถ้าเพียงแต่ คงเป็นประโยคสำคัญสำหรับคนที่เลือกทางผิดพลาดไป สัมมาคิดในใจขณะฟังเพลงเศร้าจากปากนักร้องต่อ

    “ผมนั่งด้วยคนได้ไหม” ประโยคคำถามแบบสุภาพ ทำเอาสัมมากับชาญเดชนิ่งเงียบ เนื่องจากไม่คาดคิดว่าจะเห็นหน้าอีกฝ่ายในคืนนี้

     To be continue.
     

     

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×