ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    คำสารภาพของฆาตกร ภาค3 (The Message)

    ลำดับตอนที่ #17 : ตอนที่ 12 ทาง 75%

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 293
      5
      3 ส.ค. 56

    อรัญนั่งลงข้างๆ ชาญเดชโดยไม่รอคำอนุญาต ทำตัวเหมือนไม่สังเกตความเงียบที่เกิดขึ้นหลังจากที่เขาเอ่ยปาก แต่แม้ว่าโต๊ะสี่เหลี่ยมขนาดไม่เล็กนักจะกั้นระหว่างสัมมากับหนุ่มรุ่นน้อง ทว่าหมอหนุ่มก็ยังรู้สึกถึงอารมณ์โหยหาที่อีกฝ่ายส่งมาถึง ซึ่งมันอาจเป็นเพราะคนที่ช่างเจรจาดูเคร่งขรึมมากกว่าเดิม สัมมาอาศัยแสงไฟสลัวสังเกตอากัปกิริยาของอีกฝ่าย แล้วพบว่าเวลาผ่านไปไม่นานจากคืนที่เขาได้อยู่ใกล้ชิดอรัญ  ผิวขาวใสมีร่องรอยของความเคร่งเครียด ปากแดงที่เขาเคยเกือบจะสัมผัสเม้มนิดๆ เหมือนเจ้าตัวไม่รู้จะพูดอะไรดี จึงเลือกที่จะผสมเหล้าแล้วดื่ม ขณะแสร้งทำเป็นสนใจเพื่อนร่วมห้องเล่นดนตรี

           “เมื่อคืนก่อน แกไปไหนหรออาร์ม” ชาญเดชถามเรื่อยๆ เพื่อสืบข้อมูล เนื่องจากคืนนั้นสมเจตยืนยันว่าอรัญหายหน้าไปจากผับแล้วกลับมาอีกทีตอนสาย

           “ผมก็ต้องเกี่ยวหญิงได้มั้งสิพี่” อรัญตอบด้วยรอยยิ้มฝืดฝืน แต่ชั่วเสี้ยววินาทีก็เหมือนหน้ากากความอดทนถูกถอดออก ชายหนุ่มเชื้อสายเกาหลีวางแก้วในมือเกือบแรงกว่าปกติ แล้วย้อนถามบ้าง

    “หรือพวกพี่คิดว่าผมจะทนรอพี่สัมรับรักจนวันตาย”

    ระเบิดถูกหย่อนมาโดยที่สองเพื่อนซี้ไม่ได้คาดหวัง ทั้งคู่มองตากันเพราะไม่รู้จะตอบโต้คำประกาศรักที่ออกจากปากผู้ต้องสงสัยอันดับหนึ่งยังไง

    “นี่แสดงว่าพี่สัมเล่าเรื่องผมให้พี่ฟังแล้วใช่ไหม” อรัญอาจจะถามชาญเดช แต่สายตาจับจ้องอยู่ที่สัมมา และกล่าวต่อกับหมอหนุ่ม

    “ผมก็คิดอยู่เหมือนกันว่าระหว่างพี่ทั้งสองคนไม่เคยมีความลับ แต่ก็ไม่นึกว่าพี่สัมจะบอกพี่ชาญทุกเรื่อง แม้แต่เรื่องแบบนี่”

    สัมมาเลือกที่จะไม่แก้ตัวคำต่อว่ากลายๆ เพราะมันคือเรื่องจริง ความรู้สึกละอายใจเล็กน้อยผุดขึ้นแล้วจางไป เมื่อเหตุผลเข้ามาแทนที่ อรัญจะคาดหวังให้เขาเก็บเรื่องแบบนี้ไว้กับตัวเป็นความลับได้ยังไง ในเมื่อเหตุการณ์ต่างๆ ประเดประดังมาอย่างนี้ เมื่อไม่มีคำพูดที่จะใช้โต้ตอบ สองหนุ่มที่ยืนบนเส้นรักคนละด้านเลือกที่ไม่พูดต่อเพื่อป้องกันความเสี่ยงจากอารมณ์ตึงเครียด ดังนั้นคนที่ทำลายความเงียบจึงเป็นชาญเดชแทน

    “วันนี้กูเพิ่งคุยกับไอ้หมอเองว่าคนเราเลือกที่จะรักหรือถูกรักไม่ได้”

    แม้อรัญจะไม่ออกปากว่า จริง แต่การดื่มรวดเดียวหมดแก้วก็เป็นคำตอบว่าเขาเห็นด้วย ก่อนจะหันไปพูดเรื่องอื่นขณะผสมเหล้าแก้วต่อไป

    “ผมว่าจะซื้อหุ้นร้านนี้ ต่อไปพวกพี่มาบ่อยๆ นะ ได้รับส่วนลดค่าเหล้าแน่”

    “นี่มึงจะแดกเหล้าเป็นล่ำเป็นสันขนาดซื้อร้านเลยเหรอ” คนขี้งกอย่างสัมมาอดที่จะติงไม่ได้ เขาก็เข้าใจว่าพวกรุ่นน้องมาที่ร้านนี้บ่อยๆ ทั้งจากการเล่นดนตรีของสมเจตและการสังสรรค์แต่ถึงขั้นซื้อร้านเอาไว้กินเหล้า เขาว่ามันออกจะเกินไปหน่อย

    “ร้านนี้เปิดมานานแล้วนะพี่ เท่าที่ดูมันก็คงตัว ผมว่ากำไรแน่” อรัญอ้างตามสิ่งที่ทั้งหมดรับรู้ พวกเขามากินเพราะพ่อของยุ่นสมาชิกวงสมเจตเป็นเจ้าของร้านด้วยส่วนนึง และนับสิบปีแล้วที่ร้านยังขายได้เรื่อยๆ

    “ถ้ามันดีทำไมไอ้ยุ่นมันต้องการหุ้นส่วนล่ะ”

    “พ่อไอ้ยุ่นมันจะเอาเงินไปลงทุนที่ญี่ปุ่นเพิ่มเลยบังคับจะเอาเงินจากมันอีก ไอ้ยุ่นเลยต้องหาหุ้นส่วน” อรัญอธิบายสั้นๆ ถึงพ่อของโยอิจิหรือยุ่นตามที่เพื่อนๆ เรียกที่แก่ตัวแล้วอยากกลับบ้านเกิด

    “แล้วแกรู้ไหมว่าร้านนี้ปรับปรุงล่าสุดเมื่อไหร่ ไม่ใช่ต้องจ่ายค่าซ่อมอานเลยนะมึง” สัมมายังเตือนต่อ แต่อรัญที่วิเคราะห์ดีแล้วหันมายืนยัน

    “พี่หมายถึงระบบรักษาความปลอดภัยใช่ไหม” อรัญว่าพลางหันมามองหน้ารุ่นพี่สองคนที่ชะงัก “พี่คิดว่าผมไม่สังเกตณ์ตำรวจที่เข้าๆ ออกๆ หรือไง งวดที่แล้วก็ลานจอดรถ งวดนี่ก็ในร้าน ผมรู้น่าว่ากล้องที่นี่มันเจ๊ง ผมบอกไอ้ยุ่นแล้วว่าให้ซ่อมให้ดีก่อน ไม่งั้นผมก็ไม่เอาเงินมาลงหรอก”

    คำตอบช่วยในแง่ความสบายใจที่รุ่นน้องคิดก่อนลงทุน แต่มันเพิ่มคำถามว่าอรัญรู้ดีแค่ไหนเรื่องเมย์ที่ถูกล่อลวงจากที่นี่ไป

    “คืนก่อนแกสังเกตเห็นผู้หญิงคนนั้นไหมวะอาร์ม” ชาญเดชลองหยั่งเชิงถาม หวังจะได้ข้อมูลเพิ่ม

    “ทำไมจะไม่เห็นล่ะพี่หมวด ผมยังเห็นตอนที่พี่หมอไปซั๊มกะเขาที่ห้องน้ำเลย แต่พี่หมอก็ไม่ได้คิดจะปิดบังอะไรนี่จริงไหม” แล้วนัยตาสีดำลึกก็ปราดมองมาที่สัมมาครั้งหนึ่งก่อนจะตั้งหน้าตั้งตาดื่มต่อ

    หมอหนุ่มแอบสบตาเพื่อนสนิทที่ต่างฝ่ายต่างรู้กันว่าสงสัยในตัวของอรัญมาก แต่ก็ไม่อาจหาคำถามอะไรมาซักถามได้โดยไม่เป็นที่ผิดสังเกต

    หลังจากจบเพลงที่บอกว่ารักเท่านั้นที่ทำให้ได้ทุกสิ่ง เสียงเพลงเปลี่ยนไปยังจังหวะที่กระชั้นเหมือนเร่งบางสิ่งให้มีปฏิกิริยาตอบสนอง ทำให้ความคิดหลากหลายของสัมมาหมุนวนไปมาอยู่ในหัว จนลืมตัวดื่มแอวกอฮอล์ที่อรัญถือวิสาสะชงแก้วที่สองให้เกือบหมด ทั้งที่ชาญเดชก็ท่วงติง  ทว่าเมื่อจ้องมองลงไปยังแก้วน้ำที่ไหวกระเพื่อมในมือ สัมมาก็คิดวิธีหาคำตอบได้สำเร็จ

    “ไอ้หมวดมันมีธุระจะรีบกลับ คืนนี้มึงอยู่เป็นเพื่อนพี่ได้ไหมอาร์ม”

    To be continue.

    ลดอาการค้างลงบ้างไหมค่ะ

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×