ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    แฮรี่ ภาคอลวนฮอกวอตส์

    ลำดับตอนที่ #9 : เริ่มเปิดเทอม

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 1.07K
      2
      22 ส.ค. 49

    บทที่ 9

    วันนี้เป็นวันเกิดของแฮรี่ ซึ่งจัดงานเล็กๆในบ้าน เชิญแค่แขกสนิทแค่ไม่กี่คนโดยมีท่านตา บรรดาพ่อทูนหัวของแฮรี่อย่างรีมัส ซีเลียสและคนรักของพ่อทูนหัวอย่างศ.สเนปและครอบครัวมัลฟอย

    "นี่ของขวัญวันเกิดนาย"เดรโกบอกก่อนยื่นกล่องของขวัญสีฟ้าสดให้

    "ขอบคุณมาก"แฮรี่บอกก่อนก้มหน้าไม่ยอมสบตาร่างสูงเพราะยังเขินเรื่องเมื่อวันก่อนไม่หาย

    "เรื่องวันก่อนฉันไม่ขอโทษ เพราะฉันทำไปด้วยความรู้สึกทั้งหมด และฉันจริงใจกับนาย นายจะลองคิดเรื่องของฉันบ้างได้ไหม"เดรโกบอกเสียงจริงจังหนักแน่น

    แฮรี่ไม่ตอบรับหรือปฎิเสธในทันที เพราะยังไม่แน่ใจในความรู้สึกของตัวเอง ส่วนเดรโกก็รู้สึกมีความหวัง พวกเขาตกลงจะเป็นเพื่อนกันต่อไปตามเดิมก่อน

    พวกรอนและเฮอร์ไมโอนี่ส่งของขวัญมาให้ แฮกริดก็เช่นกัน

    แฮรี่ส่งจดหมายขอบคุณไปให้

     เด็กชายเป่าเค้กวันเกิดก่อนตัดแบ่งเสริฟแขกในงาน อย่างสนุกสนาน ก่อนที่ทั้งหมดจะแยกย้ายกันกลับ

    โวลเดอมอร์ตกลงจะสอนคาถาป้องกันตัวเพิ่มให้หลานรักเพื่อความปลอดภัย ลูเซียสเลยฝากเดรโกให้ร่วมเรียนด้วย

    "พรุ่งนี้ตาค่อยมาสอนพิเศษให้เราก็แล้วกันนะแฮรี่" โวลเดอมอร์บอกหลานรัก

    "ผมฝากเดรโกด้วยสิครับ "ลูเซียสบอก

    "ได้สิ ฝึกกันสองคนจะได้สนุก" โวลเดอมอร์รับคำอย่างเต็มใจ

    วันรุ่งขึ้นที่สนามหลังบ้าน โวลเดอมอร์กางเขตเวทมนต์ไม่ให้ใครรู้สึกถึงอายของเวทมนต์ เพื่อฝึกพวกเด็กได้อย่างสบายใจ ต่อการจับผิดของกระทรวง
     
    "เราจะฝึกคาถาป้องกันตัวกันก่อนแล้วกัน" โวลเดอมอร์บอกนักเรียนทั้งสอง ก่อนสอนคาถาป้องกันตัวให้เด็กๆ

    "จริงสิครับ แล้วเรามีคาถาป้องกันตัวจากผู้คุมวิญญาณไหมครับ" เดรโกถามอย่างสงสัย

    "มีสิ คาถาผู้พิทักษ์ แต่ก็ต้องใช้เวทมากเหมือนกัน" โวลเดอมอร์บอกก่อนสอนเมื่อเห็นทั้งคู่สนใจกัน

    ตอนบ่ายก็ให้คลายเครียดกันด้วยควิชดิช ทำให้ทั้งคู่สนุกกันอย่างมาก

    วันรุ่งขึ้นพวกเขาก็ซ้อมคาถากันต่อ

    "อาจารย์ผมเสกคาถาผู้พิทักษ์ไม่ได้ครับ ลองตั้งหลายทีแล้ว"เดรโกบอก

    "เธอต้องคิดถึงเรื่องที่ทำให้เธอมีความสุข และความคิดอยากปกป้องอย่างรุนแรงก่อน" โวลเดอมอร์บอกลูกศิษย์ผมบรอนซ์

    เด็กทั้งสองพยายามคิดกันอย่างหน้านิ่วคิ้วขมวด เอาเรื่องไหนดีน้อ

    โวลเดอมอร์มองลูกศิษย์อย่างขำขัน สงสัยเรื่องมีความสุขจะมากเกินจนเลือกไม่ถูก

    หลังพยายามอยู่สามวัน เดรโกก็เรียกผู้พิทักษ์เป็นเสือสีขาวตัวโตได้ ส่วนแฮรี่ก็เรียกกวางตัวโตสีทองได้เช่นกัน ทำเด็กทั้งสองดีใจมาก

    "ท่านตาฮะ ห้องแห่งความลับคืออะไรฮะ" แฮรี่ถามอย่างติดใจ เดรโกก็หยุดฟังด้วยอย่างสนใจ

    "มันเป็นเรื่องเล่าขาน ว่าซัลลาซาร์ สลิธีริน มีสัตว์เลี้ยงแสนรักอยู่ตัวหนึ่ง ตาคิดว่าน่าจะสัตว์จำพวกงูนะ แต่มันอันตรายจึงไม่สามารถพาเดินทางไปด้วย ตอนท่านออกจากฮอกวอตส์ จึงได้สร้างห้องขึ้นมาเพื่อให้สัตว์ตัวโปรดอยู่อย่างปลอดภัย ไม่มีใครไปรบกวนได้นะ" โวลเดอมอร์เล่า

    "แต่เห็นว่าห้องนี้เคยถูกเปิดและมีคนตายด้วยนี่ฮะ" เดรโกถาม

    "มันเป็นอุบัติเหตุนะ เรื่องจริงเป็นอย่างไรตาก็ไม่ทราบ เพราะตาก็ยังหาห้องที่ว่าไม่เจอ บังเอิญว่าเรื่องห้องนะตายกมาเป็นข้ออ้างเบี่ยงเบนประเด็นให้พ้นจากเรื่องอาราก็อกของแฮกริดนะ"โวลเดอมอร์บอก

    "แล้วคนที่ตายเป็นใครนะครับ"แฮรี่ถามต่อ

    "ก็เมอร์ทิลจอมคร่ำครวญนะ" โวลเดอมอร์บอก

    "งั้นพวกนั้นก็ยกเรื่องห้องมาอ้างเหมือนกัน และสร้างเรื่องเองสินะครับ"เดรโกวิเคราะห์

    "ฉันก็คิดอย่างนั้นเหมือนกัน เพราะมันง่ายกว่าที่จะหาห้องและอาจเสี่ยงกับสัตว์ที่อันตรายจริงๆ" โวลเดอมอร์เห็นด้วย

    "แต่ผมว่าเราน่าจะหาห้องที่ว่านะครับ" แฮรี่ชวนอย่างตื่นเต้น ราวกับการหาสมบัติ

    "อันตรายน่า" เดรโกปราม

    แต่สองตาหลานสบตากันอย่างมีความหมาย

    ในที่สุดก็ถึงวันเปิดเทอม


    ที่ชานชาลาเก้าเศษสามส่วนสี่ ครึ้กครื้นอีกครั้ง

    "แฮรี่"รอนเรียกเพื่อนรักอย่างยินดี ตามมาด้วยเฮอร์ไมโอนี่ และสาวน้อยผมแดง

    "ดีใจที่เจอเธอแฮรี่" เฮอร์ไมโอนี่บอก

    "นี่จินนี่น้องสาวฉัน จะได้เข้าเรียนปีนี้ จินนี่ นี่แฮรี่เพื่อนพี่" รอนแนะนำ

    "ยินดีที่จะรู้จักคะ"จินนี่บอกอย่างเขินอาย เมื่อมองหน้าหวานของเด็กหนุ่มร่างบาง

    "ยินดีที่ได้รู้จักเช่นกัน" แฮรี่บอกพร้อมส่งรอยยิ้มให้อย่างอ่อนโยน เพราะเขาเป็นลูกคนเดียวเลยเอ็นดูอีกฝ่ายอย่างน้องสาว

    ทั้งหมดขึ้นรถไฟไปหาที่นั่ง ก่อนคุยอย่างสนุกสนาน

    "นี่รู้ไหมปีนี้เพอร์ซี่ได้เป็นประธานนักเรียน หมอนั่นยืดใหญ่เลย" เฟร็ดและจอร์จที่มานั่งเบียดด้วยเล่าให้ฟังอย่างสนุกสนาน

    "ใช่แถมมาสั่งพวกเราด้วยว่าอย่าก่อเรื่องยุ่งให้มากนัก เพราะจะไม่อ่อนข้อให้" จอร์จเสริมต่อ

    "ใช่อย่างกับพวกเรากลัวตายล่ะ" เฟร็ดต่อ หันไปมองรอนและจินนี่ที่พร้อมใจกันพยักหน้าอย่างเห็นด้วย

    ทั้งแฮรี่และเฮอร์ไมโอนี่หัวเราะอย่างสนุกสนาน โดยเฉพาะเฮอร์ไมโอนี่ดูสนิทกับเหล่าพี่น้องวิสลีย์มากขึ้นเพราะไปอยู่บ้านรอนช่วงปิดเทอมที่เหลือมาด้วย สองสามวันหลังเหตุการณ์วิ่งหนีในตรอกไดแอนกอน

    จนอาเทอร์แน่ใจว่าน่าจะปลอดภัยจึงค่อยส่งเด็กสาวกลับบ้าน ซึ่งพวกพี่น้องของรอนให้การต้อนรับเด็กสาวอย่างดี เพราะสนุกที่ได้ดูสีหน้าแดงของรอน เวลาถูกขัดจังหวะการอยู่ด้วยกันสองต่อสอง

    ในที่สุดรถไฟก็จอดที่ฮอกวอตส์

    การคัดสรร จินนี่ก็ได้อยู่บ้านกริฟฟินดอร์ตามคาด เพราะพวกวิสลีย์ทุกคนได้อยู่บ้านกริฟฟินดอร์ บนโต๊ะบ้านกริฟฟินดอร์จึงสลอนไปด้วยหัวแดงของตระกูลวิสลีย์ถึงห้าคนด้วยกัน

    ดัมเบิลดอร์ก็ประกาศข้อห้ามมากมายตามเดิม แต่ก็ไม่ทำให้พวกเด็กลดความสนุกลงได้ ก่อนงานเลี้ยงจะเริ่ม พวกเด็กๆทานอาหารอย่างสนุกสนานและเอร็ดอร่อย
    หลังงานเลี้ยงเลิก เหล่าฟรีเพ็คก็พานักเรียนกลับหอนอน

    วันเปิดเรียนก็ดำเนินตามปกติ

    ในเช้าวันหนึ่งก็เปิดด้วยเสียงกรีดร้องของนักเรียนบ้านเรเวนคลอ เมื่อตื่นมาพบเพื่อนของตนนอนแข็งเป็นหิน ต้องส่งห้องพยาบาลอย่างเร่งด่วน

    มาดามพรอมพรีย์ เรียกอาจารย์ใหญ่และศ.สเนปมาดูอาการเด็กอย่างเร่งด่วน

    ยังไม่ทันตั้งตัว เสียงร้องก็มาจากระเบียงทางเดิน เมื่อพวกอาจารย์ไปดูก็พบตัวอักษรเขียนไว้ว่า

    "พวกเลือดสีโคลนต้องตาย"

    ข้างๆตัวหนังสือก็มีร่างแมวของฟิลด์ถูกแขวนแข็งอยู่เช่นกัน

    ฟิลด์มองเห็นร่างคุณนายตัวโปรดก็ร้องไห้โฮ ทำให้ดัมเบิลดอร์ต้องปลอบ และพาคุณนายนอร์ริสไปห้องพยาบาล

    เป็นเช้าที่วุ่นวายจริงๆในความคิดของแฮรี่

    และเหตุการณ์ก็สงบลง โดยเด็กผู้เคราะห์ร้ายต้องนอนห้องพยาบาลรวมทั้งคุณนายนอร์ริส

    วันรุ่งขึ้นก็มีเหตุการณ์ร้ายเกิดขึ้นอีก คราวนี้เป็นเด็กบ้านเรเวนคลอ และกริฟฟินดอร์

     ทั้งหมดเป็นเด็กมักเกิ้ล

    ที่ห้องปรุงยามีการประชุมลับ

    "จากที่ดูอาการเด็กพวกนั้นแล้วผมคิดว่าพวกแกถูกพิษ" เซเวอรัสบอก

    "พิษอะไรหรือศ.สเนป" ดัมเบิลดอร์ถามอย่างสนใจ

    "พิษของต้นเมดูซ่าครับ มันทำให้นอนตัวแข็ง แต่ยังหายใจอยู่ ยาแก้คือต้นเมนเครก แต่ต้องเสียเวลาปลูกและรอมันโตก่อนถึงจะทำยาแก้ได้ครับ"เซเวอรัสบอก
     
    ซึ่งศ.สเปราต์รับปากว่าจะรีบเร่งให้มันโตเร็วที่สุด

    "แล้วใครเป็นคนวางยาพิษพวกเด็กๆล่ะครับ" ซิเลียสถามอย่างสงสัย เพราะเขาก็ช่วยเฝ้ายามให้เวลากลางคืนเช่นกันโดยแปลงร่างเป็นหมาดำเดินเล่นไปมา และนอนห้องเซเวอรัส

    "บางทีน่าจะมาจากห้องครัว และเป็นการวางยาแบบจงใจ ผมว่าเอลฟ์ผู้ปรุงอาหารน่าสงสัย" ศ.สลาเธเรนบอกข้อสังเกตุ

    "บางทีเราน่าจะส่องดูห้องครัวซะหน่อย ผมจะส่งเอลฟ์ประจำบ้านมาอยู่ห้องครัวให้"ลูเซียสว่า

    ก่อนเสนอจะให้ด็อบบี้มาทำงานห้องครัวเพื่อสอดส่องเอลฟ์ที่น่าสงสัยให้

    "ส่วนคุณผมขอมอบหมายให้หาห้องแห่งความลับให้เจอ" ดัมเบิลดอร์หันไปบอกศ.สลาเธเรน

    "ครับ"โวลเดอมอร์รับคำ

    พวกเขาคิดว่าไม่นานทางกระทรวงต้องให้ความสนใจปัญหานี้แน่นอน แม้ว่าอาจจะรู้อยู่แล้วว่าจะเกิดปัญหาก็ตาม

    ในห้องส่วนตัวของโวลเดอมอร์หนังสือต้องห้ามหลายเล่ม ถูกทั้งสองตาหลานกำลังเปิดอ่านกันอย่างเคร่งเครียด

    "เท่าที่สรุปได้ ผมคิดว่าสัตว์ที่น่าสงสัยว่าจะอยู่ในห้องแห่งความลับน่าจะเป็นเจ้าตัวนี้นะฮะ" แฮรี่ชี้ให้ดูรูปสัตว์ตัวหนึ่ง

    "ไหน บาซิลิกซ์ เหรอ อืมน่าสนใจนะ แต่ไม่แน่ใจว่าแค่ภาษาพาร์เซลจะสั่งมันได้นะ"โวลเดอมอร์บอกครุ่นคิดว่าเสี่ยงพอสมควรที่จะไปหามัน โดยไม่รู้ว่าจะจัดการควบคุมอย่างไร

    "ส่วนทางเข้าตาคิดว่า น่าจะไปดูสถานที่ตายของเมอร์ทิลเสียหน่อย เพื่อว่าอาจจะตายเพราะบาซิลิกซ์ก็ได้" โวลเดอมอร์บอกข้อสงสัย

    ในที่สุด ก็มีหมายจากกระทรวงมาให้ดัมเบิลดอร์ไปชี้แจงเรื่องราวที่เกิดขึ้นทั้งหมด
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×