ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [FIC GOT7] Never Ending Stories

    ลำดับตอนที่ #16 : [OS] ตัวร้าย #7

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 1.45K
      23
      18 ธ.ค. 57

    ตัวร้าย 

     














     

    อิมแจบอมไม่คุยกับชเวยองแจมาเกือบอาทิตย์แล้ว

     




     

    ไม่คุยในที่นี้หมายถึง เดินเข้าไปทักแล้วเดินหนี ชวนคุยแล้วไม่ยอมตอบ หนักสุดคือทำเป็นมองไม่เห็นแล้วเดินผ่านไป รวมไปถึงไม่ตอบไลน์ ไม่รับโทรศัพท์ ไม่ตอบข้อความ

     




     

    “พี่โกรธอะไรผมบอกตรงๆได้มั๊ย? ไม่ยอมคุยกันแบบนี้ผมไม่ชอบเลย”

     




     

    ยองแจเดินตรงเข้าไปดักแจบอมที่เพิ่งเดินออกจากห้องเลคเชอร์ไว้แล้วเอ่ยปากถาม จ้องตาคาดคั้นให้แจบอมยอมเปิดปากพูดซักนิดก็ยังดี ฝ่ายชายหนุ่มก็ชะงักไปครู่หนึ่งเพราะไม่คิดว่ายองแจจะมารอหน้าห้องเรียน แจบอมมองซ้ายขวา เพื่อนร่วมคลาสที่เดินออกมามองเขาแล้วยิ้มล้อ ไม่พ้นคงตกเป็นประเด็นให้คนอื่นได้ซุบซิบกันอีก เพราะไม่อยากให้มีเรื่องอะไรให้คนอื่นเอาไปพูดเยอะ แจบอมเลยตัดสินใจจะเดินเลี่ยงออกมา

     




     

    “พี่อย่าหนีได้ป่าว คุยกันให้รู้เรื่องก่อนสิ”

     




     

    แต่ทว่าแจบอมกลับไม่สนใจ รีบเบี่ยงตัวออกแล้วเดินเลี่ยงมาไม่สนใจเสียงตะโกนเรียกชื่อจากด้านหลัง “พี่แจบอม!!!

     




     

    “เป็นเชี่ยไรวะ!

     




     

    ยองแจสบถด้วยความหงุดหงิด ขอบตาร้อนผ่าวทั้งอายทั้งไม่พอใจ แจบอมรีบเลี่ยงออกไปเพราะไม่ชอบสายตาที่คนอื่นมองมาแล้วคิดว่าที่ยองแจมายืนอยู่ตรงนี้ชอบหรือไง แต่ขอร้องให้คุยกันดีๆอีกฝ่ายก็เอาแต่หลบหน้า ยองแจยังไม่รู้เรื่องเลยว่าตัวเองทำอะไรผิด ถ้าไม่ทำแบบนี้จะทำแบบไหนถึงจะได้คุยกันให้รู้เรื่อง

     




     

    เด็กหนุ่มกำหมัดแน่นด้วยความโกรธ นึกอยากต่อยแจบอมซักสองสามทีคลายความหงุดหงิดแต่ก็ทำได้แค่คิดเท่านั้น เพราะเจ้าตัวเดินหนีไปไหนแล้วก็ไม่รู้ แต่เรื่องแค่นี้ไม่ทำให้ชเวยองแจยอมแพ้หรอก ไม่ยอมคุยกันที่นี่ก็จะตามจนกว่าจะคุยกันรู้เรื่องเลยคอยดู!

     









     

    .




     

    .




     

    .

     









     

    “ห้ามปิดประตูใส่หน้าผมจนกว่าเราจะคุยกันรู้เรื่อง!

     




     

    ยองแจร้องแล้วรีบสอดมือเข้าไปขวางระหว่างบานประตูเอาไว้เพราะแจบอมทำท่าจะปิดประตูใส่ทันทีที่เห็นว่าใครคือคนที่มาเคาะประตู

     




     

    “ฉันไม่มีเรื่องจะคุยกับนาย ออกไป ไม่งั้นจะปิดประตูหนีบมือ” ชายหนุ่มว่าพลางทำท่าจะดันประตูปิด

     




     

    “แต่ผมมีนี่! ห้ามปิดประตูนะ!” เด็กหนุ่มจ้องอีกฝ่ายเขม็ง พยายามบังคับให้แจบอมยอมเปิดแต่ชายหนุ่มก็ไม่มีทีท่าจะยอมเลย มิหนำซ้ำยังดันบานประตูเข้ามาชิดอีก

     




     

    “ออกไป”

     




     

    “ไม่!

     




     

    “ถ้าประตูหนีบมือแล้วเจ็บขึ้นมาฉันไม่รับผิดชอบนะ ถือว่าบอกแล้ว”

     




     

    “อยากปิดก็ปิดสิ ผมไม่ไปไหนจนกว่าพี่จะยอมคุยกับผม”

     




     

    “ออกไป”

     




     

    แจบอมดื้อเท่าไหร่ยองแจจะดื้อให้มากกว่า ชายหนุ่มถอนหายใจแต่ไม่ได้เปิดประตูให้อย่างที่ยองแจคิด

     




     

    “งั้นก็ตามใจ”

     




     

    บานพับอัตโนมัติดีดตัวกลับทันทีที่แจบอมปล่อยมือ

     




     

    “โอ๊ย!!!

     




     

    แล้วมันก็หนีบมือยองแจจนต้องร้องโอดครวญแล้วรีบชักมือออกมา เด็กหนุ่มน้ำตารื้นด้วยความเจ็บ มองประตูที่ปิดใส่หน้าสลับกับข้อนิ้วที่แดงเป็นปื้น

     




     

    “เชี่ย แม่ง เจ็บนะโว้ย ปิดมาได้ ไอ้คนใจร้าย แม่ง โอ๊ย เจ็บ!

     




     

    ยืนเป่านิ้วตัวเองที่เริ่มแดงขึ้นและอีกไม่นานคงกลายเป็นสีม่วงช้ำด้วยความเจ็บใจ ทั้งโกรธทั้งโมโหที่แจบอมไม่ยอมคุยด้วยแถมยังใจร้ายปิดประตูหนีบมือจนต้องยกเท้าขึ้นเตะประตูห้องอีกทีแถมให้

     




     

    “โอ๊ยยย!!!

     




     

    แล้วก็กลายเป็นว่าตอนนี้เจ็บทั้งเท้าเจ็บทั้งนิ้วมือ

     




     

    “เจ็บจะตายอยู่แล้ว คนใจร้าย” บ่นพึมพำแต่ยองแจก็ยังไม่ไปไหน ก็บอกแล้วว่าจะตามจนกว่าจะคุยกันรู้เรื่อง จะรอดูว่าพี่แจบอมจะใจร้ายได้ขนาดไหน

     




     

    “ถ้าฉันใจร้ายมากก็กลับบ้านไป”

     




     

    แล้วแจบอมเปิดประตูแล้วโผล่หน้าออกมา ชายหนุ่มปรายตามองข้อนิ้วขาวที่แดงเป็นปื้นแล้ววกกลับมาทำหน้านิ่งใส่ยองแจอีกครั้ง

     




     

    “ไม่กลับ! จะอยู่นี่จนกว่าเราจะคุยกันรู้เรื่อง” เด็กหนุ่มเงยหน้าขึ้นตวัดเสียงใส่ทั้งที่น้ำตายังคลออยู่  

     




     

    แจบอมถอนหายใจ ขยับตัวออกมาจากหลังบานประตูแล้วคว้ามือยองแจขึ้นมา

     




     

    “โอ๊ยยย!!! เจ็บนะ” ยองแจร้องแล้วชักมือกลับด้วยความเจ็บ น้ำตาที่กำลังจะแห้งแล้วรื้นขึ้นมาใหม่เพราะแจบอมจับโดนตรงที่ช้ำพอดี

     




     

    “ก็บอกแล้วว่าถ้าประตูหนีบมือจะไม่รับผิดชอบ”

     




     

    “ก็พี่ไม่ยอมคุยกับผมก่อน ไม่บอกด้วยว่าทำไม อยู่ดีๆก็ทำแบบนี้เลย ผมไม่เข้าใจ ต้องการเหตุผล ถ้าผมผิดจริงก็จะยอมรับ ยอมให้พี่โกรธ แต่ต้องรู้ก่อนว่าโกรธเพราะอะไร” รีบร่ายยาวใส่ก่อนที่แจบอมจะได้โอกาสหนีกลับเข้าไปอีก

     




     

    “ฉันไม่คุยกับคนชอบคบซ้อน” แจบอมตอบแล้วเงียบไป

     




     

    “คบซ้อน? ผมเนี่ยนะ?” ยองแจเบิกตาแล้วชี้นิ้วเข้าหาตัวเอง “พี่เข้าใจอะไรผิดแล้ว ตอนนี้ไม่ได้คบใครเลยซักคน แม้กระทั่งพี่ยังไม่ยอมคบกับผมเลย แล้วจะมาหาว่าผมคบซ้อนได้ไง?”

     




     

    “หมายถึงนายคุยพร้อมกันสองคน ฉันไม่คุยกับใครที่คุยกับคนอื่นพร้อมกันหลายคน”

     




     

    ยองแจสะบัดหัวด้วยความงุนงงกับคำตอบของแจบอม “คุยกับคนอื่นมันผิดตรงไหน ก็พี่ไม่ยอมคบกับผมเองนะ”

     




     

    “แสดงว่ายอมรับแล้วสินะว่าคุยซ้อนอยู่จริงๆ ไอ้ผู้ชายที่ยืนจีบกันใต้คณะอาทิตย์ที่แล้ว” เสียงแจบอมห้วนขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ดวงตาเรียวหรี่ลงแล้วหันหลังจะเดินกลับเข้าห้องเมื่อยองแจยืนยันให้แน่ใจแล้วว่าสิ่งที่คิดคือความจริง

     



     

    “เดี๋ยวสิ!!!” ยองแจรีบคว้าแขนแจบอมไว้เพราะกลัวอีกฝายจะหนีเข้าห้องไปก่อน แต่รีบจนลืมว่ามือข้างที่คว้าออกไปเจ็บอยู่ พอจับแขนอีกฝ่ายได้ก็ต้องร้องโอดโอยด้วยความเจ็บออกมา

     




     

    “พี่โกรธผมแบบนี้ได้ไง ก็พี่ไม่ยอมคบกับผมเองนะ แล้วพี่จะมาโกรธที่คนอื่นจะมาชอบผมมาคุยกับผมได้ยังไง”

     




     

    กว่าจะรู้สาเหตุที่ทำให้แจบอมปั้นปึ่งใส่ยองแจมาเป็นอาทิตย์ ก็เล่นเอาพลังชีวิตหมดจนแทบจะท้อไปก่อน อันที่จริงแล้วพี่แจบอมเข้าใจผิดแต่ยองแจไม่แก้ให้เข้าใจถูกหรอก ก็อยากไม่ยอมตกลงเป็นแฟนกันซะทีเองนี่นา

     




     

    “พูดแบบนี้ได้ยังไงชเวยองแจ” แจบอมหันมาด้วยสีหน้าไม่เชื่อหู คงกำลังโกรธมากขึ้นเรื่อยๆ

     




     

    “ทีนายตามไปอาละวาดทุกคนที่เข้ามาหาฉัน ทั้งที่บางคนไม่ได้เข้ามาแบบนั้นด้วยซ้ำ แล้วทีตัวเองจะมาบอกว่าเพราะยังไม่ได้คบกันก็เลยให้ใครเข้ามาก็ได้แบบนั้นสินะ” ชายหนุ่มร้องเหอะพร้อมกับก้มมองมือยองแจที่ยังคว้าต้นแขนไว้อยู่

     




     

    “ถ้าคิดว่าสิ่งที่กำลังทำอยู่มันดีแล้วก็กลับบ้านไปเถอะ ฉันไม่คุยกับคนแบบนี้” พูดจบก็แกะมือยองแจที่จับไว้อยู่ออก แต่เพราะยองแจไม่ยอมคลายมือเลยทำให้แจบอมต้องออกแรงพยายามแกะมากขึ้น

     




     

    “พี่…. ผมขอโทษ อย่าโกรธเลยนะ บอกความจริงก็ได้” แต่ดูว่าท่าจะไม่ดีแล้ว ดูท่าว่าแจบอมจะโกรธจริง ยองแจเลยต้องยอมทนเจ็บมือต่ออีกนิดสู้แรงแจบอมก่อน

     




     

    “พี่ฮอนชอลไม่ได้มาจีบ เขาเป็นรุ่นพี่ที่โรงเรียนเก่า วันนั้นแวะมาแถวนี้เลยเข้ามาทักเฉยๆ ผมคุยกับพี่แค่คนเดียวจริงๆนะ”

     




     

    แจบอมถอนหายใจ ส่ายหน้าแล้วบอก “ฉันควรจะเชื่อนายรึเปล่า เมื่อกี๊พูดอย่างนึงตอนนี้เปลี่ยนมาพูดอีกอย่างนึง สรุปแล้วอะไรคือความจริง”

     




     

    “ความจริงก็คือผมไม่ได้คุยกับใครไม่ได้คบกับใครคนอื่นนอกจากพี่ไง เชื่อผมเถอะนะ”

     




     

    แจบอมส่ายหน้าไม่สนใจ คงโกรธมากจริงๆแล้วตอนนี้ ยองแจถึงกับทำอะไรไม่ถูกจนปล่อยให้มือที่จับแขนแจบอมไว้คลายออกมา

     




     

    “กลับไปเถอะ ตอนนี้ฉันเชื่อนายไม่ได้จริงๆ” ชายหนุ่มหันหลังให้แล้วจะเดินกลับเข้าห้อง ยองแจเห็นท่าไม่ดีเลยรีบพุ่งเข้าไปกอดเอวไว้จากด้านหลัง ถ้าปล่อยให้เข้าไปอีกคราวนี้ แจบอมคงไม่ยอมออกมาอีกจนถึงเช้า

     




     

    “พี่ผมขอโทษ ไม่ได้ตั้งใจจะโกหกพี่จริงๆ ผมขอโทษ ขอโทษนะ จะให้ขอโทษพี่กี่ครั้งก็ได้ เชื่อผมเถอะนะ จะไม่โกหกอีกแล้ว พี่แจบอม หายโกรธเถอะนะ นะครับ”

     





     

    ขยับแขนที่กอดอยู่ให้แน่นขึ้นเพราะกลัวว่าแจบอมจะแกะออกอีก แต่ดูเหมือนว่าทำยังไงแจบอมก็คงจะไม่เชื่อ ยองแจเลยตัดสินใจปล่อยมือข้างนึงแล้วหยิบโทรศัพท์ออกมากดโทรหาเบอร์คนที่อยู่ในประเด็นด้วยตอนนี้ กดเปิดลำโพงแล้วรออยู่ไม่นานปลายสายก็กดรับ

     




     

    “ฮยอง นี่ยองแจนะ ฮยอง บอกแจบอมฮยองทีว่าฮยองไม่ได้จีบผม” ยองแจละล่ำละลักเพราะกลัวแจบอมจะสะบัดตัวหนีออกไปก่อน ปลายสายพอได้ยินว่ายองแจพูดอะไรออกไปก็ระเบิดหัวเราะออกมาทันที

     




     

    “อะไรนะ ฉันเนี่ยนะจะไปจีบแก ไอ้เด็กอ้วน ไม่จีบหรอกโว้ย ไร้สาระ แค่นี้นะยุ่งอยู่” แล้วก็วางสายไปทันที ยองแจหน้าซีด พี่ฮอนชอลไม่ได้ช่วยอะไรกันซักนิด ไม่รู้ว่าที่ได้ยินเมื่อกี๊พี่แจบอมจะเชื่อมั๊ย แต่ถ้าไม่โทรไปให้ยืนยันก็ไม่รู้จะทำยังไงจริงๆ แล้วตอนนี้ก็ไม่เหลืออะไรให้ยองแจมายืนยันอีกแล้วด้วย

     




     

    “พี่….เชื่อผมเถอะ ผมไม่รู้ว่าต้องทำยังไงพี่ถึงจะเชื่อ แต่ผมชอบพี่คนเดียวจริงๆนะ”

     




     

    ออกแรงกอดเอวแจบอมให้แน่นขึ้นแล้วซุกหน้ากับแผ่นหลังกว้าง เพราะจนใจจะขอร้องให้แจบอมเชื่อแถมยังกลัวว่าจะโดนโกรธจนไม่ได้คุยกันอีก ยองแจก็เลยอดไม่ได้ที่จะร้องไห้ออกมา แถมแจบอมก็นิ่งไปนานมากจนน้ำตายองแจเปื้อนเสื้อเป็นวงๆ

     




     

    “ขอโทษ….อย่าโกรธเลยนะ”

     




     

    “พี่แจบอม ยองแจขอโทษ…. หายโกรธเถอะนะ”

     




     

    ย้ำคำว่าขอโทษซ้ำไปซ้ำมาทั้งเสียงเครือ ร้องไห้อยู่นานจนเสียงแหบแล้วสุดท้ายแจบอมก็ยอมหันกลับมา

     





     

    “เอามือมา” ว่าเสียงเข้มจนยองแจสะดุ้ง แต่ก็ยอมยื่นมือไปให้โดยดี

     




     

    “จะตีผมหรอ? ถ้าโกรธมากจะตีก็ได้ แต่ตีแล้วต้องหายโกรธนะ”

     




     

    เงยหน้ามองทั้งที่ตาปูดจนแทบจะมองอะไรไม่เห็นแล้ว แจบอมส่ายหน้าพร้อมกับถอนหายใจ มองข้อนิ้วที่เริ่มกลายเป็นสีม่วงแล้วเอ่ยปาก

     




     

    “ถ้าอยากให้หายโกรธก็กลับบ้านไปหายาทาแล้วหาน้ำแข็งมาประคบนิ้วซะ แล้วทีหลังก็ไม่ต้องเอามือมารองประตูอีกล่ะ เข้าใจมั๊ย?”

     




     

    ยิ้มกว้างทั้งหน้าเปื้อนน้ำตาแถมด้วยพยักหน้าจนหัวแทบหลุด กว่าแจบอมจะหายโกรธได้ก็เสียน้ำตาไปหลายลิตร ยองแจก็เลยฉวยโอกาสใช้เสื้อยืดอีกฝ่ายเป็นทิชชู่ด้วยการเกลือกหน้าลงไปกับผ้าเนื้อนิ่มแล้วอ้อนเสียงอู้อี้

     




     

    “ไม่เอามือรองประตูแล้วก็ได้ แต่พี่ต้องสัญญาว่าถ้าคราวหน้าทะเลาะกันอีก ต้องให้ผมเข้าไปอธิบายดีๆในห้องนะ










    END.



    uwith_b

    สวัสดีค่ะ กลับมาน้องก็ยังมารยาอยู่ ๕๕๕๕ ในความจริงนางก็มารยาด้วย อ่อหอ เดี๋ยวนี้เค้าชักร้ายขึ้นทุกวัน
    จนกลัวว่าฟิคที่เขียนนี่น่าจะร้ายไม่เท่าตัวจริง ๕๕๕ เอะอะจิกตา เอะอะควงแขน พี่บีของชั้น ๕๕๕๕๕๕๕
    เด็กขี้หวงนี่มัน.... น่าตีจริงๆ

    อย่างไรก็ดี เมื่อวานอยู่ดีๆก็คิดว่าตัวร้ายอาจจะเขียนให้จบแค่สิบตอน (เพราะเริ่มหมดมุกแล้ว) ๕๕๕๕๕ 

    นี่ก็ตอนเจ็ดแล้วเนอะ เขียนไปเขียนมาก็เจ็ดตอนแล้ว ลัคกี้เซเว่นมาก หรือจบแค่เจ็ดตอนดี /โดนปาขวด
    เก๊าล้อเล่นนะ ๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕ 

    ขอให้สนุกค่า ขอบคุณทุกคนที่ตามอ่านกันมาถึงตรงนี้ ทั้งคอมเมนท์ แฮชแท็ก แล้วก็ที่เมนชั่นคุยกันในทวิตเตอร์

    แล้วเจอกันตอนหน้าค้าบบบบบบ

    ปล. อย่าลืม #ทูแจตัวร้าย น้า


    themy butter

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×