ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [FIC GOT7] Never Ending Stories

    ลำดับตอนที่ #15 : [OS] ตัวร้าย #6

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 1.41K
      22
      28 พ.ย. 57

    ตัวร้าย

     









     

    เคยเจอเรื่องเหลือเชื่อในชีวิตกันมั๊ย?

     




     

    ในชีวิตนึงเราจะเจอเรื่องประหลาดๆจนต้องอุทานว่า “เหลือเชื่อเลย!” คนละประมาณกี่ครั้ง

     




     

    สำหรับคนที่ใช้คำนั้นเป็นคำอุทานจนติดอาจจะพูดบ่อย แต่กับหวังแจคสันที่มีคำอุทานอย่างอื่นให้พูดประจำอยู่แล้ว คำอุทานว่า “เหลือเชื่อเลย!” จะหลุดออกมาก็ต่อเมื่อเรื่องที่กำลังพบเจอเป็นเรื่องที่เกินความคาดหมายมากจริงๆ

     




     

    อย่างเช่นตอนนี้

     




     

    แจคสัน แบมแบม จินยอง มาร์ค นั่งมองหน้ากันสลับกับกระพริบตาปริบๆด้วยความเหลือเชื่อกับภาพที่เห็นตรงหน้า

     




     

    ชเวยองแจนั่งอยู่ในร้านเหล้า

     




     

    เรื่องเหลือเชื่อนี่มันเกิดเพราะความขี้แกล้งของแจคสันคนเดียว ก็นึกสนุกอยากจะแกล้งอิมแจบอมให้หลุดมาดเล่นเฉยๆ แจคสันก็เลยแอบหยิบมือถือเพื่อนจิ้มเข้าโปรแกรมแชทแล้วพิมพ์ข้อความไปบอกเด็กที่กำลังตามจีบเพื่อนให้รู้ว่าวันนี้แจบอมถูกวานให้ขึ้นมาร้องเพลงแทนนักร้องประจำที่รู้จักกันเพราะฝ่ายนั้นติดธุระด่วน แถมด้วยการยืมมือถือแบมแบมเอามาถ่ายรูปสาวๆโต๊ะใกล้กันที่นั่งมองแจบอมตาหวานเยิ้มส่งไปให้

     




     

    แค่นั้นเอง

     




     

    ชเวยองแจก็พุ่งมาถึงร้านภายในยี่สิบนาที แถมเหมาโต๊ะหน้าสุดริมเวทีไปหมดเลยแบบไม่ให้ใครนั่ง ทั้งที่ตัวเองมาคนเดียว มิหนำซ้ำยังสั่งเหล้ากับโซดามานั่งชงเองกินเอง ซดแก้วแล้วแก้วเล่าด้วยความรวดเร็ว

     




     

    เหลือเชื่อป่ะล่ะ?

     




     

    “เรื่องนี้กูไม่เกี่ยวเลยนะเว้ยแจคสัน มึงคิดของมึงเองคนเดียว”

     




     

    จินยองออกตัว หลังจากที่สังเกตสถานการณ์มาได้ซักระยะ นั่งมองมาตั้งแต่ตอนแรกที่ยองแจมาถึงร้าน และเมื่อแจบอมเห็นว่ายองแจเดินมาก็มีสีหน้าที่อธิบายไม่ถูก แต่ก็เปลี่ยนกลับไปเป็นสีหน้าปกติ เก็บอาการแล้วร้องเพลงต่อไปตามหน้าที่ แต่จินยองดูแล้วก็รู้ว่ามันต้องโกรธมากแน่ๆ

     




     

    “พี่แจบอมโกรธพี่ตายแน่ คราวนี้แบมไม่ช่วยพูดให้นะ ความคิดตัวเองคนเดียวเลย”

     




     

    แจคสันเลิกคิ้วอย่างไม่เชื่อหู จับแขนแบมแบมแล้วร้องโวยวาย “Baby, you’re so cruel!”

     




     

    แต่ดูเหมือนว่าวันนี้จะไม่มีใครอยู่ข้างแจคสันเลยแม้แต่คนเดียว แม้แต่มาร์คที่ปกติจะไม่หือไม่อืออะไรก็ยังยักไหล่ขอไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้

     




     

    “เหลือเชื่อเลยพวกมึง!

     




     

    แจคสันก็แค่หวังดี ก็ใครจะไปคิดวะว่าเรื่องมันจะเป็นงี้

     




     

    ทั้งแก๊งค์นั่งสังเกตการณ์อยู่ไม่ห่าง จนในที่สุดก็หมดคิวแจบอมร้องเพลง

     




     

    “มึงตายแน่แจคสัน”

     




     

    จินยองกระซิบ มองแจบอมที่ลงจากเวทีด้วยสีหน้าพร้อมจะเอาเรื่องทุกคน แจคสันขยับไปนั่งชิดแบมแบม พยายามจะหลบหลังแฟนเผื่อว่าแจบอมลงจากเวทีแล้วจะเดินเข้ามาที่โต๊ะแล้วต่อยแจคสันโทษฐานที่เล่นไม่รู้เรื่อง

     




     

    แต่ก็ผิดคาด

     




     

    อิมแจบอมไม่ได้เดินกลับมาแล้วเอาเรื่องแจคสันอย่างที่คิดไว้ ตรงกันข้าม ชายหนุ่มตรงเข้าไปที่โต๊ะหน้าเวทีที่มีชเวยองแจนั่งตัวเอนอยู่

     




     

    เหลือเชื่อเลย!

     









     

    .




     

    .





     

    .

     










     

    “ไม่ได้ขับรถมาใช่มั๊ย?”




     

     

    ประโยคแรกจากอิมแจบอมทันทีที่เข้าถึงตัวชเวยองแจ ชายหนุ่มมีสีหน้าไม่พอใจ ยองแจเงยหน้าขึ้นมอง เด็กหนุ่มยังโกรธอยู่ที่แจบอมมาร้องเพลงโดยไม่บอกแต่ก็พยักหน้ารับ

     




     

    “งั้นโทรบอกให้เพื่อนมารับกลับเดี๋ยวนี้เลย เพื่อนชื่ออะไร? คิมยูคยอมใช่มั๊ย?” แจบอมทิ้งตัวลงนั่งที่เก้าอี้ตัวข้างๆแล้วถือวิสาสะหยิบมือถือของยองแจที่วางอยู่บนโต๊ะมากดหาเบอร์เพื่อนสนิทของอีกฝ่าย

     




     

    “ไม่เอา ไม่โทรนะ” ยองแจยื่นมือไปตะปบแย่งโทรศัพท์กลับมา

     




     

    “ไม่โทรแล้วจะกลับยังไง กลับห้องเลย เดี๋ยวนี้” แจบอมออกคำสั่ง พยายามแย่งมือถือที่ยองแจเอาไปซ่อนไว้ด้านหลัง

     




     

    “พี่ไปส่งผมไม่ได้หรอ ถ้าพี่ไม่ไปส่ง ผมไม่กลับ” ยื่นข้อเสนอสุดแสนจะเอาแต่ใจทั้งที่รู้ว่าแจบอมไม่ชอบขนาดไหนก็ตาม

     




     

    “ไปส่งไม่ได้ ฉันยังทำงานไม่เสร็จ แต่นายต้องกลับเดี๋ยวนี้” แจบอมเองก็ไม่ยอม นี่เป็นเพียงเวลาพักครึ่งเท่านั้น ยังเหลือร้องต่ออีกจนถึงเที่ยงคืน แต่ยองแจก็ดูเมาจนไม่ควรจะนั่งอยู่ที่นี่ต่อไปแล้ว

     




     

    “ไม่เอา ถ้าพี่ไม่ไปส่ง ผมก็ไม่กลับ” แต่ยองแจก็ดื้อจนไม่รู้จะปราบยังไง เด็กหนุ่มยืนกรานคำเดิมว่าถ้าแจบอมไม่ไปส่งก็จะไม่กลับพร้อมกับยกแก้วเหล้าที่ยังเหลืออยู่ขึ้นมาซดเอาๆ แถมยังจะชงใหม่จนแจบอมต้องดึงแก้วออกจากมือแล้วกวาดให้ขยับไปอยู่ไกลๆ

     




     

    “ทำไมอยู่ดีๆก็พูดไม่รู้เรื่อง”

     




     

    “พี่ต่างหากที่พูดไม่รู้เรื่อง ก็บอกแล้วไงว่าถ้าพี่ไม่ไปส่งผมก็ไม่กลับ”

     




     

    “ฉันก็บอกแล้วเหมือนกันว่ายังทำงานไม่เสร็จ และนายก็ต้องกลับตอนนี้”

     





     

    “แล้วทำไมผมต้องกลับตอนนี้ด้วยล่ะ!” ยองแจขึ้นเสียง พยายามจะคว้าแก้วที่ถูกแจบอมดันให้ไกลออกไปแต่อีกฝ่ายก็ปัดมือทิ้งไม่ให้จับ

     




     

    “บอกว่าต้องกลับตอนนี้ก็คือต้องกลับตอนนี้”

     




     

    “ให้รีบกลับไปตอนนี้พี่จะได้รอคนอื่นมาจีบได้หรือไง จะได้รอให้สาวๆมานั่งล้อมหน้าล้อมหลังทำตาหวานให้ได้ใช่มั๊ยล่ะ”

     




     

    “พูดกันไม่รู้เรื่องแล้วชเวยองแจ เอามือถือมาเดี๋ยวนี้” แจบอมพูดเสียงเย็น มองอีกฝ่ายที่เม้มปากแน่นด้วยความโกรธ ตัวเขาเองยังไม่รู้เลยว่าทำไมอยู่ดีๆอีกฝ่ายก็มาหวีดใส่แบบนี้ ก่อนหน้านี้ก็ยังดีๆอยู่ แต่ทดไว้ว่าที่ชเวยองแจมานั่งโวยวายใส่อยู่ตรงนี้ส่วนหนึ่งเป็นความผิดของหวังแจคสันที่แจบอมจะตามไปชำระความทีหลังแน่นอน

     




     

    “ทำไมพี่ต้องชอบทำเสียงเหมือนรำคาญผมด้วยวะ ทำไม ถ้าไม่กลับแล้วมันจะเป็นไร” แต่ยองแจก็ยังไม่หยุด ดูเหมือนว่าค่อนข้างเมาเอาเรื่องก็เลยหยุดไม่อยู่แล้ว

     




     

    “ชเวยองแจ” แจบอมพยายามนับหนึ่งถึงสิบอยู่ในใจ ดูท่าว่ายังไงคุยกันแบบนี้ก็ไม่มีทางรู้เรื่องแน่ๆ ชายหนุ่มเลยลุกแล้วตรงไปยังโต๊ะที่เพื่อนๆนั่งอยู่

     




     

    “จินยอง กูมีธุระต้องเคลียร์ แต่เหลือร้องอีกครึ่งชั่วโมง มึงขึ้นไปร้องแทนกูหน่อยได้มั๊ย”

     









     

    .




     

    .




     

    .










     

     

    “ไม่ต้องมายุ่งเลย ผมกลับเองได้ พี่กลับไปร้องเพลงต่อเหอะ” ยองแจหยุดเดินแล้วบอกแจบอมที่เดินตามมาข้างๆ หลังจากฝากให้จินยองร้องเพลงแทน แจบอมก็เดินกลับไปที่โต๊ะ สั่งเช็คบิลแล้วลากยองแจลงมาจากร้าน

     




     

    “จะเอาไงกันแน่ บอกให้กลับเองก็บอกว่าจะให้ไปส่ง พอจะไปส่งก็บอกจะกลับเอง”

     




     

    “ก็ไม่เอาไง กลับเองก็ได้ ไม่ต้องไปส่งผมหรอก” ยียวนจนแจบอมเองก็นึกโกรธขึ้นมาแล้วเหมือนกัน

     




     

    “กลับเองได้ใช่มั๊ย? งั้นฉันไปล่ะ” แต่พอทำท่าว่าจะเดินกลับขึ้นไปบนร้าน ยองแจก็คว้าข้อมือไว้แล้วร้องโวยวาย

     




     

    “ไม่ไปนะ ไปส่งผมไม่ได้หรือไง!” แจบอมถึงกับขมวดคิ้วด้วยความทึ่ง ก็เมื่อกี๊ยังบอกกลับเองได้อยู่เลย

     




     

    “สรุปจะเอายังไงกันแน่ กลับเองได้หรือไม่ได้” ถามย้ำอีกที คราวนี้ชเวยองแจเม้มปากน้ำตารื้น

     




     

    “ไม่รู้!” ตะโกนใส่แล้วลงไปนั่งกับพื้น

     





     

    “ไม่รู้โว้ย แม่ง ทำไมเป็นงี้วะ พี่ไม่เข้าใจอ่อว่าผมกลับเองได้แต่ก็อยากให้พี่ไปส่ง แต่ผมก็กลับเองได้อ่ะ” พูดเองโวยวายเองแล้วก็น้ำตาไหลเอง นั่งร้องไห้อยู่ตรงนั้นจนแจบอมต้องดึงข้อมือให้ลุกขึ้นมายืนดีๆ

     




     

    “แม่งโคตรปัญญาอ่อนเลย พี่ขึ้นไปร้องเพลงต่อเหอะ ปล่อยผมไว้ตรงนี้ก็ได้เดี๋ยวหาทางกลับเอง”

     




     

    ถึงจะพูดแบบนั้นแต่น้ำตาก็ไหลไม่หยุด แจบอมจนใจจะเถียงด้วยเลยจูงมือเดินออกมาด้านนอก โบกเรียกแท้กซี่บอกจุดหมายปลายทางเป็นคอนโดของเด็กที่ตลอดทางเอาแต่สะอื้นแล้วก็ถอนหายใจ

     




     

    “พอใจยัง?” ถามคนที่นั่งหันหน้าออกไปมองวิวด้านนอกแต่ยังไม่หยุดร้องไห้แล้วก็ไม่ยอมปล่อยมือที่จับแจบอมไว้ด้วย

     




     

    “ไม่พอ” ตอบทั้งที่ไม่มองหน้า แล้วก็ไม่ยอมมองอยู่แบบนั้นจนกระทั่งถึงจุดหมายปลายทาง แจบอมจ่ายค่ารถแล้วดันให้อีกฝ่ายลงไปยืนอยู่หน้าคอนโด

     




     

    “ถึงแล้ว ขึ้นห้องได้แล้ว” จนป่านนี้ก็ยังทำเป็นมองไปที่อื่น ไม่ยอมหันมาคุยกับแจบอมดีๆ

     




     

    “ไม่”

     




     

    “ชเวยองแจ” แจบอมเรียกชื่อแล้วถอนหายใจ “อย่าทำให้เรื่องมันยากได้มั๊ย? ทำแบบนี้มันได้อะไรขึ้นมา ฉันลำบากใจ นายเองก็เหนื่อย”

     




     

    “พี่รู้ด้วยหรอว่าผมเหนื่อย ผมนึกว่าพี่ไม่เคยรู้อะไรเลยซะอีก” ประชดประชันแถมยังทำหน้างอ

     



     

    “ทำไมอยู่ดีๆก็เป็นแบบนี้ เราคุยกันรู้เรื่องแล้วไม่ใช่หรือไง นายพูดเองว่ารอได้”

     




     

    “รอได้ก็ไม่ได้แปลว่าอยากรอไม่ใช่หรือไงวะ!” คราวนี้ยองแจหันมาสบตาแล้วขึ้นเสียง แจบอมขมวดคิ้ว เพราะเกลียดการตะโกนใส่กันไปมาเขาเลยเลือกที่จะยืนมองอีกฝ่ายเงียบๆ

     




     

    “พี่พูดเหมือนรู้ว่าผมเหนื่อยแต่เอาเข้าจริงพี่ก็ไม่รู้หรอกว่ามันเป็นไงบ้าง เคยเข้าใจความรู้สึกคนชอบบ้างเปล่า คนที่แม่งชอบพี่มากๆจนไม่รู้จะทำไงดี คนที่อยากเจอพี่ทุกวันอ่ะ เคยเข้าใจบ้างมั๊ย แล้วอาทิตย์ที่แล้วทั้งอาทิตย์พี่แม่งก็หายไปเลย ไลน์ไปก็ไม่ตอบ รอที่คณะก็ไม่เจอ อยากไปรอที่ห้องก็กลัวพี่รำคาญ แล้วอยู่ดีๆก็มีข้อความส่งมาบอกว่าพี่มีร้องเพลงแถมมีรูปที่ผู้หญิงคนอื่นกำลังมองพี่แบบอยากได้แม่งจะให้ทำยังไงวะ ตอบผมมาดิพี่เข้าใจผมรึเปล่าอิมแจบอม”

     




     

    ต่อว่าแจบอมเสียยืดยาวแล้วก็ทรุดลงไปนั่งกอดเข่าร้องไห้

     




     

    “พี่ชอบผมเท่าที่ผมชอบพี่รึเปล่าก็ไม่รู้ บางทีก็ทำเหมือนชอบบางทีก็ไม่ คนรอมันเหนื่อยนะเว้ย อยากเลิกรอตั้งหลายทีแล้วแต่ก็เลิกไม่ได้ซักที แถมยังชอบพี่มากขึ้นทุกวันๆด้วย เป็นแบบนี้จะให้ทำยังไง จะให้เข้าใจอะไร ผมเองยังไม่เข้าใจตัวเองเลยทำไมแม่งเป็นขนาดนี้”

     




     

    จากตอนแรกที่โกรธเหมือนกัน แจบอมก็รู้สึกว่าความโกรธมันลดลงไปเยอะ ถึงไม่อยากยอมรับแต่ในเมื่อยองแจพูดมาขนาดนี้แล้ว แจบอมก็ต้องยอมรับว่าตัวเองมีส่วนผิดด้วยเหมือนกัน ชายหนุ่มย่อตัวลงไปนั่งประจันหน้ากับคนที่ยังก้มหน้าก้มตาร้องไห้อยู่ แตะปลายนิ้วลงบนหลังมือนิ่ม

     




     

    “ขอโทษ….” ไม่รู้จะพูดอะไรนอกจากคำนี้ ครั้นจะอธิบายว่าที่หายไปเป็นอาทิตย์เพราะตามแก้โปรเจคที่ถูกสั่งแก้กะทันหันก็รู้สึกว่ามันไม่ได้จำเป็นอะไรขนาดนั้น  

     





     

    “หยุดร้องไห้ได้แล้ว ขึ้นห้องไปพักผ่อนเถอะ เดี๋ยวขึ้นไปส่งก็ได้” คว้าข้อมือแล้วรั้งคนที่ยังสะอื้นอยู่ให้ลุกขึ้นมา ยองแจมองหน้าแจบอมด้วยดวงตาแดงก่ำเพราะร้องไห้มานานเอาเรื่อง

     




     

    “ไม่ต้องเลย เนี่ย ทำให้เป็นบ้าแล้วก็มาทำแบบนี้ ถ้าจะไม่ให้ชอบก็บอกดีๆแต่แรกสิ ทำแบบนี้ใครจะไปเลิกชอบได้ล่ะ” แต่ก็ยังไม่หยุดว่าแจบอมแถมยังพยายามจะบิดข้อมือที่แจบอมจับไว้ให้หลุดออกด้วย

     




     

    “อือ รู้แล้วว่าชอบ ไม่ต้องบอกบ่อยๆก็ได้” แจบอมหัวเราะ อยู่ดีๆก็นึกขำคนตรงหน้าขึ้นมา อยากจะโกรธแต่ก็โกรธไม่ลงจริงๆ เล่นพูดทุกอย่างที่รู้สึกขนาดนี้

     




     

    “มันไม่ตลกเลยนะอิมแจบอม!” เด็กหนุ่มจ้องแจบอมด้วยความเหลือเชื่อ จะอ้าปากต่อว่าอีกซักหน่อยแต่ก็รู้สึกว่าอะไรบางอย่างจากกระเพาะกำลังจะตีขึ้นมาจนต้องเอามือปิดปากแล้ววิ่งเข้าหาพุ่มไม้ที่ใกล้ที่สุด

     









     

    .




     

    .




     

    .









     

     

    “แล้วมึงก็อ้วกต่อหน้าเขาอ่ะนะ”

     




     

    “ก็เอออ่ะดิ แม่งโคตรพังเลย” ยองแจพูดเสียงเบาใส่โทรศัพท์ ยกศีรษะขึ้นเช็คว่าแจบอมไม่ได้อยู่แถวนี้แล้วคุยกับยูคยอมต่อ

     




     

    “แต่รู้เปล่าว่าอะไรโคตรพีค”

     




     

    “อะไร?”

     





     

    “พี่แจบอมแม่งอยู่ห้องกูทั้งคืนเลย! หัวเราะคิกคักใส่คนปลายสายจนยูคยอมอดไม่ได้จะถอนหายใจด้วยความเบื่อหน่าย

     




     

    “มึงก็เลยปล้ำเขางั้นสิ?”

     




     

    “ปล้ำก็เหี้ยแล้วโว้ย กูไม่สบาย อ้วกแล้วไข้ขึ้นเลยไง เขาก็เลยอยู่ดูแล พีคป่ะ”

     





     

    “สาบานว่ามึงป่วยจริง”

     




     

    “ป่วยจริงดิ กูทั้งร้องไห้ทั้งอ้วกขนาดนั้นแม่ง นี่ยังปวดหัวอยู่เลย”

     





     

    “ขอความจริง”

     




     

    “มึงรู้ทันกูตลอด บอกความจริงก็ได้ ป่วยสี่สิบที่เหลือหกสิบกูอยากอ้อน”

     




     

    “เจริญเถอะครับเพื่อน บาย!

     




     

    ยองแจหัวเราะให้กับคำสรรเสริญของเพื่อน แต่ก็ต้องรีบเอามือปิดปากเพราะได้ยินเสียงฝีเท้าเดินกลับเข้ามาใกล้ๆห้อง

     




     

    “เห้ยมึงพี่แจบอมกลับมาแล้ว แค่นี้ก่อนนะ บาย”

     




     

    ยองแจซ่อนมือถือไว้ใต้หมอนทันพอดีกับที่ประตูห้องนอนเปิดออกพร้อมกับอิมแจบอมและชามข้าวต้มเดินเข้ามายืนข้างเตียง

     




     

    “กินซะแล้วก็กินยา แต่ไม่รู้จะกินได้รึเปล่านะ ไม่เคยทำซะที” พูดพร้อมกับวางชามข้าวต้มลงที่โต๊ะข้างเตียง ยองแจขยับขาให้เหลือที่ว่างพอที่แจบอมจะนั่งลงบนเตียงได้ ฝ่ายแจบอมที่ยืนอยู่พอเห็นว่าอีกฝ่ายอยากจะให้นั่งลงข้างๆก็หัวเราะแต่ก็ยอมนั่งลงตามใจ

     




     

    “พี่ป้อนด้วยได้มั๊ย? ป่วยแล้วไม่ค่อยมีแรงเลย” หยอดนิดหยอดหน่อย เพราะเมื่อคืนด่าไปซะเยอะถ้าไม่อ้อนเรียกคะแนนคืนยองแจก็กลัวพี่แจบอมจะเกลียดที่ขี้โวยวายไปซะก่อน

     




     

    “ได้ทีแล้วเอาใหญ่เลยนะ” แต่ก็ยอมหยิบชามข้าวต้มมาคนๆให้คลายความร้อนแล้วตักขึ้นมาไว้ใกล้ๆริมฝีปาก

     




     

    “เป่าให้ด้วยได้มั๊ยครับ?” อ้อนอีกแล้วฉีกยิ้มหวาน

     




     

    แจบอมมองหน้ายองแจแล้วถอนหายใจ ส่ายหน้าแต่ก็ยอมเป่าให้แต่โดยดี

     




     

    “เห็นว่าป่วยหรอกนะ วันนี้จะตามใจวันนึงก็ได้”
















    END.



    uwith_b :
    หายหัวไปนาน ขออภัยทุกคนที่รอตัวร้ายอยู่นะคะ ๕๕๕ คือต้องเคลียร์งานหลวงก่อน(แต่ก็ยังมีเวลาเล่นทวิต) ๕๕๕๕๕๕
    กลับมาอีกทีน้องแจนก็แผลงฤทธิ์ซะ ๕๕๕ เขียนเองยังชังน้องเอง ว่าแกจะวีนอะไรขนาดนี้ ไร้สาระมาก นังเด็กนี่
    ๕๕๕๕๕๕๕๕ แต่ก็ต้องเข้าใจนะว่าเค้าชอบของเค้ามากจริงๆ ดูจากโมเมนท์สองสามวันนี้ โบ้มจ๊นนนน /น้ำตาฟินไหล

    เอนี่เวย์ ขอให้สนุกแล้วก็ขอบคุณทุกคนที่ยังติดตามกันมานะค้าาาา ร้ากกกกทุกคนเลย จู๊บบบบ
    ปล. อย่าลืม #ทูแจตัวร้าย

    เจอกันตอนหน้าค่า~


    themy butter

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×