ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Tales of Yuyan ตำนานเรื่องเล่าแห่งยูยาน

    ลำดับตอนที่ #60 : เบื้องหลังของเหตุการณ์[รีไรท์]

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 23.26K
      721
      29 ต.ค. 60



         


         "มิร่า รู้หรือเปล่าว่าทำไมสัตว์อสูรจากป่าอสูรฟ้าอยู่ๆถึงได้คลุ้มคลั่งและกรูกันออกจากป่าอสูรฟ้า" กาเล็ทเอ่ยถามเด็กหญิง อาจบางทีนางน่าจะรู้สาเหตุ

         ได้ยินคำถามของกาเล็ท มิร่าที่โอบกอดร่างของกาเล็ทอยู่ก็เงยหน้าขึ้นมามอง "ก็มิร่าเองแหละเพราะมิร่าเอง"

         กาเล็ทแม้จะได้ยินเช่นนั้นแค่กลับไม่เข้าใจความหมายในวาจานางแม้แต่น้อย แต่พอสอบถามดูกาเล็ทกลับพบเรื่องนี้มีที่มาที่ไปยืดยาวไม่น้อย หากจะกล่าวก็ต้องย้อนกลับไปเมื่อแปดปีก่อนที่เป็นจุดเริ่มต้นของทั้งหมด เมื่อแปดปีก่อน ศิลาเทพเจ้าได้ถูกขโมยออกไปจากป่าอสูรฟ้าโดยน้ำมือของมนุษย์ผู้หนึ่ง ส่วนรายละเอียดว่ามนุษย์ผู้นั้นเป็นใครและสามารถขโมยศิลาจากมิร่าไปได้ยังไงกาเล็ทก็ไม่ได้ไต่ถามอย่างละเอียด เมื่อมิร่าพบว่าศิลาเทพเจ้าถูกขโมยออกไปจากป่าอสูรฟ้านางก็ร้อนลุ่มใจอย่างมาก เหตุเพราะหากปราศจากศิลาตัวนางย่อมไม่อาจพิสูจน์ทราบได้ว่าผู้ใดเป็นคนที่นางรอคอยมาตลอด หากแต่ว่าตัวนางนั้นไม่สามารถออกจากเขตของหุบเขาอสูรฟ้าได้ด้วยเหตุนี้นางจึงให้อำนาจของนางขู่ขวัญสัตว์อสูรจำนวนมากให้เตลิดเปิดหนีออกจากป่าอสูรฟ้าเพื่อตามหาศิลานั้นแทนตนเอง 

         ได้ฟังมิร่าเล่ามาถึงจุดนี้กาเล็ทพลันนึกถึงงูสายรุ้นขึ้นมา อาจบางทีสัตว์อสูรระดับสูงบางสายพันธ์ก็มีภูมปัญญา แต่ถึงจะเป็นเช่นนั้นเมื่อศิลาถูกนำออกจากป่าอสูรฟ้าไปแล้ว เพียงแค่สัตว์อสูรจะสามารถนำมันกลับมาคืนได้หรือ ? คำตอบคือย่อมไม่ 

         "แล้วมิร่าได้ศิลาเทพเจ้านี้กลับคืนมาได้ยังไง" กาเล็ทกล่าวพร้อมกับเดินเข้าไปหยิบศิลาเทพเจ้าขึ้นมาจากพื้น พร้อมทั้งเหล่มองดูท่าทีของมิร่าเล็กน้อย แต่มิร่ากลับไม่มีท่าทีหวงแหนมันดังเช่นเมื่อแรกเริ่มเลย

         "มีมนุษย์ผู้ชายนำมาคืน ศพของมนุษย์ผู้นั้นยังอยู่ที่หน้าถ้ำของมิร่าอยู่เลย" มิร่าเอ่ยตอบพร้อมทั้งเข้ามานั่งตักของกาเล็ท

         ได้ฟังคำตอบของมิร่ากาเล็ทก็หวนนึกถึงโครงกระดูกที่หน้าถ้ำแห่งนี้

         "มิร่าเป็นคนฆ่าเขาหรือ" กาเล็ทเอ่ยถาม

         "ม ไม่ใช่นะ" มิร่าหยุดการถูไถใบหน้าของตนเองกับร่างของกาเล็ทและเงยหน้าขึ้นมาตอบคำ "มนุษย์คนนั้นบาดเจ็บสาหัสมาก่อน เมื่อมาถึงบริเวณนี้เขาก็ใกล้ตายแล้ว ตอนที่มิร่าเจอเขา เขาก็ส่งศิลาให้กับมิร่าพร้อมทั้งกล่าวฝากฝังให้มิร่านำศิลาไปคืนที่ซึ่งมันควรอยู่" มิร่าเอ่ยอธิบายอย่างหวนนึกถึงความหลัง "เห็นว่ามนุษย์คนนั้นมีชื่อว่ากาลาน"

         กาเล็ทซึ่งได้ยินคำกล่าวของมิร่าก็สะท้านขึ้นทั้งร่าง "ก กาลานหรือ" กาเล็ทเอ่ยถามเสียงสั่น

         "ใช่ ถ้ามิร่าจำไม่ผิด เขาชื่อกาลาน" มิร่ากล่าวตอบคำ

         ได้ยินเช่นนั้นร่างของกาเล็ทก็ลุกขึ้นอย่างรวดเร็วพร้อมทั้งวิ่งออกไปที่หน้าถ้ำ ครั้งเมื่อแรกพบกับโครงกระดูกนี้กาเล็ทไม่ได้สำรวจตรวจดูอย่างถี่ถ้วนก็ถูกศิลาเทพเจ้าดึงดูดความสนใจไป แต่เมื่อได้กลับมาสำรวจโครงกระดูกนั้นอย่างถี่ถ้วนกาเล็ทกลับพบเศษของเสื้อผ้าที่ศพนั้นสวมใส่อยู่ดูไปคล้ายกับชุดขุนนางของโรฮานไม่น้อย กาเล็ทค่อยๆก้มลงเพื่อที่จะควานหาบางสิ่งจากซากศพนั้น มือไม้ของกาเล็ทนั้นสั่นเทา

         "กาลาน บุสโซ่!" ตราประจำตัวของขุนนางโรฮาน มือขอกาเล็ทที่ถือตราเหล็กนั้นอยู่สั่นเทาอย่างไม่อาจควบคุม น้ำตาของลูกผู้ชายไหลหลั่งออกมาจากดวงตาทั้งสอง "ท่านพ่อ ท่านอยู่ที่นี่เอง" กาเล็ทเอ่ยออกมาอย่างแผ่วเบา

         มิร่าซึ่งสัมผัสได้ถึงอารมณ์ที่เศร้าหดหู่ของกาเล็ทก็รู้สึกกระวนกระวายใจเดินเข้ามาหากาเล็ทพร้อมกับยื่นมือเล็กจ้อยของตนเองออกมาเพื่อกุมมือของกาเล็ทไว้ แม้จะไม่รู้ว่ากาเล็ทหดหู่ด้วยเรื่องใด

         "มิร่ายามที่ชายผู้นี้สิ้นใจลงเขาทรมาณหรือไม่" กาเล็ทเอ่ยถามบนใบหน้ายังปรากฎคาบน้ำตาขึ้น

         "เขาจากไปด้วยรอยยิ้มหลังจากส่งมอบศิลาได้ไม่นาน เพื่อเป็นการตอบแทนมิร่าจึงดูแลรักษาร่างของเขาไว้" มิร่าเอ่ย

         กาเล็ทลุกขึ้นเก็บตราเหล็กประจำตำแหน่งของบิดาเข้าในอกเสื้อในสมองเริ่มครุ่นคิดปะติดปะต่อเรื่องราว ภารกิจลับจากราชา? ใช่เป็นภารกิจนำส่งศิลานี่กลับคืนหรือไม่ บิดาของตนหาใช่คนขี้ขลาดตาขาวไม่ หากแต่เป็นบุคคลที่กล้าหาญที่สุด กล้าหาญกว่าขุนนางใดในโรฮาน กล้าหาญถึงกับรับภารกิจเสี่ยงตายเช่นนี้ ถึงจะเป็นเช่นนั้นสิ่งที่ได้รับตอบแทนกลับมาจากความกล้านั้นหาใช่คำชื่นชมสรรเสริญ หากแต่กลับกลายเป็นด่าทอประนามหยามเหยียด "ราชาเบรุท!!" กาเล็ทคบกรามแน่นเมื่อหวนนึกถึงราชาแห่งโรฮาน ตลอดมาเป็นเขารู้เรื่องราวกระจ่างดีกว่าผู้ใด หากแต่กลับกระทำเป็นหูหนวกตาบอด ไม่เพียงแต่ไม่ยอมแก้ต่างให้กับบิดาตนแม้แต่ความช่วยเหลือสักน้อยนิดต่อครอบครัวก็ไม่เคยมี

         กาเล็ทค่อยๆลุกขึ้นพร้อมทั้งลงมือตัดต้นไม้เพื่อมาต่อเป็นโรงสี่เหลี่ยมสำหรับบรรจุโครงกระดูกกาลานผู้เป็นบิดา จากนั้นจึงนำโรงนั้นเก็บเข้าสู่แหวนมิติอย่างระมัดระวัง "ขอบใจมิร่ามากที่ช่วยดูแลร่างนี้ไม่ให้สัตว์อสูรใดกัดกินไป" กาเล็ทที่ลงมือสร้างโรงไม้อยู่นานโดยไม่ปริปากพูดจาเลย สุดท้ายแล้วจึงหันมาเอ่ยคำขอบใจกับมิร่า

         "ปะป๋ารู้จักกับมนุษย์คนนั้นหรอ" มิร่าเอ่ยถามอย่างหวั่นใจ

         "เขาเป็นบิดาของปะป๋าเอง" กาเล็ทเอ่ยขึ้นพร้อมทั้งฝืนยิ้มออกมา "หากว่ามิร่าต้องการเป็นลูกของปะป๋า โครงกระดูกร่างนี้ก็ต้องเป็นปู่ของมิร่า"

         ได้ฟังคำกล่าวอธิบายของกาเล็ทมิร่าก็เข้าใจถึงสาเหตุความหดหู่ของกาเล็ทขึ้นมาทันที "งืออ" นางได้แต่ส่งเสียงรำพันออกมาไม่ทราบว่าจะปัดเป่าความเศร้าหดหู่ออกไปจากกาเล็ทอย่างไรดี

         "ได้ศิลาเทพเจ้ากลับคืนมาแล้ว ทำให้เมื่อไม่นานมานี้ยังเกิดเหตุการณ์คล้ายกับเมื่อ แปดปีก่อนอีก" กาเล็ทที่สงบใจลงได้หันมาเอ่ยถามกับมิร่า

         มิร่าซึ่งบัดนี้แสดงออกถึงความกังวลใจออกมาอย่างเห็นได้ชัดก็เกิดอาการลังเลเล็กน้อย จะไม่ให้นางหวั่นใจได้อย่างไร หากหวนคิดให้ดีตนเองเป็นสาเหตุของการที่สัตว์อสูรคลุ้มคลั่งออกจากหุบเขาอสูรฟ้า การที่กาลานตกตายย่อมเกี่ยวพันกับตนเองไม่มากก็น้อย "มิร่า มิร่ารอมันนานมาก นับตั้งแต่ได้ศิลากลับคืนมาก็ไม่มีมนุษย์เข้ามายังส่วนลึกของป่าอสูรฟ้าอีกเลย มิร่าเลยคิดว่า คิดว่าถ้าส่งสัตว์อสูรออกไปเป็นจำจวนมากอีก บางทีอาจจะมีมนุษย์เดินทางเข้ามาในหุบเขา มิร่าอาจจะ อาจจะได้พบกับปะป๋าเร็วขึ้น" นางกล่าวตอบอย่างหวาดๆ

         กาเล็ทได้ฟังเช่นนั้นก็เกิดความรู้สึกโมโหไม่น้อย ด้วยการกระทำของนางไม่ทราบว่ามีผู้คนมากน้อยเท่าใดต้องตายลง ชาวบ้านมากมายเท่าใดต้องบ้านช่องพินาศย่อยยับ แต่ถึงจะไม่พอใจอย่างไรกาเล็ทกลับเก็บมันเอาไว้ไม่กล้าแสดงออกมา 

         "งืออ อย่าโกรธมิร่าเลยนะ มิร่าอยู่คนเดียวมิร่าเหงา อย่าโกรธเลยนะ" มิร่าที่สัมผัสได้ถึงอารมณ์โกรธเคืองของกาเล็ทวิ่งเข้ามากอดขาของกาเล็ทไว้พร้อมกล่าวถ้อยคำวิงวอน

         กาเล็ทแสดงสีหน้าที่สับสนออกมาพร้อมทั้งก้มมองยังร่างเล็กที่เอ่ยคำอ้อนวอนอยู่เบื้องล่าง ไม่ทราบว่าตนเองต้องทำเช่นไร ทั้งยังเกิดความสงสัยใจว่าเหตุใดนางจึงเรียกตนเองเป็นบิดา เหตุใดท่าทีของนางจึงเปลี่ยนไปจากเมื่อแรกพบจากหน้ามือเป็นหลังมือ นางเสแสร้งแกล้งดัดหรือไม่? ตนเองควรเร่งรีบจากไป? หากว่าตนเองต้องการจากไปนางจะทำเช่นไร ?  ตนเองสำควรนำนางออกจากป่าอสูรฟ้าหรือ?   คำถามมากมายเกิดขึ้นในจิตใจของกาเล็ท "เอาเถอะจะอย่างไรเรื่องก็เกิดไปแล้ว มิร่าปะป๋าต้องไปแล้ว" กาเล็ทเอ่ยบอกกล่าวกับร่างเล็ก

         "ไปไหน ปะป๋าจะไปไหน" มิร่าเอ่ยถามอย่างหวาดหวั่น

         "มิร่า ปะป๋ามีครอบครัว มีผู้คนมากมายที่รอการกลับไปของปะป๋าอยู่" กาเล็ทเอ่ยคำ

         "พามิร่าไปด้วยนะ พาไปด้วย" มิร่ากล่าวอ้อนวอน บนสีหน้าปรากฎเค้าแววของความกังวล

         เป็นดั่งที่กาเล็ทคาดเดา จะให้นำนางออกไปหรือ? ด้วยความแข็งแกร่งของตัวนางหากว่านางเกิดคุ้มคลั่งขึ้นมามิใช่ผู้คนนับพันนับหมื่นต้องตกตายใต้เงื้อมมือนาง ตนเองมิใช่ต้องกลายเป็นคนบาปไป ถึงตนเองจะอยากนำนางออกไปแล้วต้องทำเช่นไร? นางมิใช่บอกว่าตนเองมิสามารถออกไปจากหุบเขาได้หรอกหรือ

         "มิร่ารู้ไหมว่ามิร่าน่ะแข็งแกร่ง" กาเล็ทเอ่ย

         "รู้ มิร่ารู้" ร่างเล็กยังคงใช้สองมือเกาะกุมกาเล็ทไว้แน่น

         "บอกกับหนูตามตรง ปะป๋ายังไม่แน่ใจว่ามิร่าคนไหนคือตัวจริง มิร่าที่เกือบฆ่าปะป๋า หรือมิร่าในตอนนี้" กาเล็ทเอ่ยอย่างระมัดระวัง

         ได้ยินคำกล่าวของกาเล็ทร่างเล็กก็แสดงสีหน้าเสมือนดั่งจะร้องไห้ออกมา แต่แล้วผ่านไปไม่นานสีหน้าของนางก็ทอแววแห่งความหวังออกมา "ปะป๋ายื่นมือออกมา ยื่นมือออกมา"

         กาเล็ทได้ฟังเช่นนั้นก็ได้แต่ยื่นมือข้างหนึ่งของตนเองไปที่เบื้องหน้านาง จากนั้นมิร่าพลันกัดไปที่นิ้วโป้งของตนเอง เลือดสีแดงสดไหลออกมาจากบาดแผลบนนิ้วเล็กๆของนาง "เลือด ขอเลือดปะป๋ากาเล็ทหน่อย" นางกล่าวพร้อมทั้งกัดไปที่มือของกาเล็ทจนเกิดเป็นแผลเล็กน้อย "ข้าแต่อำนาจแห่งพันธะสัญญาโบราณ ตัวข้าขอทำพันธะสัญญาแห่งเลือดต่อเขาผู้นั้นเพื่ออุทิศตน ..." มิร่ากล่าวถ้อยคำแปลกประหลาดมากมายออกมาพร้อมทั้งนำนิ้วที่เปรอะเลือดของตนเองมาสัมผัสกับเลือดของกาเล็ท

         ทันทีที่นิ้วของมิร่าสัมผัสกับเลือดของกาเล็ทก็เกิดแสงสว่างจ้าขึ้น กาเล็ทพลันรู้สึกว่าจิตวิญญาณของตนเองถูกเชื่อมต่อเข้ากับบางสิ่ง ชั่วพริบตาเดียวกาเล็ทกลับสัมผัสได้ถุงแก่นจิตวิญญาณอีกดวงหนึ่ง แก่นจิตวิญญาณของมิร่า

         "เสร็จแล้ว ทีนี้ปะป๋าก็ไม่ต้องกลัวมิร่าแล้ว" เสียงเล็กเอ่ย

         "หมายความว่ายังไงมิร่า ?" กาเล็ทเอ่ยถาม

         "มิร่าทำพันธะสัญญาผู้วิญญาณกับปะป๋ากาเล็ท ต่อจากนี้มิร่าเป็นของปะป๋ากาเล็ท ปะป๋ากาเล็ทสามารถใช้พันธะสัญญาสั่งมิร่าให้ทำอะไรก็ได้ ถ้ามิร่าขัดคำสั่งมิร่าจะเจ็บปวด เจ็บปวดมาก" มิร่ากล่าวอธิบาย

         ได้ฟังเช่นนั้นกาเล็ทก็สำรวจดูตนเองอีกคราหนึ่ง กาเล็ทกลับพบว่าเป็นดั่งที่มิร่าเอ่ยแก่นจิตวิญญาณของตนเองกับนางนั้นเสมือนว่าจะเชื่อมต่อถึงกันได้ "มิร่าปล่อยปะป๋า" กาเล็ททดลองออกคำสั่งโดยใช้พันธัสัญญานั้น

         แต่ทว่าร่างเล็กนั้นกลับไม่ยอมปล่อยมืออกจากร่างของกาเล็ท เพียงชั่วครู่หลังจากที่กาเล็ทออกคำสั่ง บริเวณทรวงอกของมิร่าก็ปรากฎแสงเจิดจ้าขึ้นพร้อมกันนั้นมิร่าก็ส่งเสียงร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด แต่ถึงจะเจ็บปวดนางกลับไม่ยอมปล่อยมือออกจากร่างของกาเล็ท

         กาเล็ทกลับพบว่าจิตวิญญาณของมิร่าที่เชื่อมอยู่กับตนเองนั้นปั่นป่วน "ความเสียหายต่อจิตวิญญาณ" กาเล็ทพบว่าหากมิร่าไม่ทำตามที่ตนเองต้องการ จิตวิญญาณของนางจะเกิดความเสียหาย หากนางยิ่งขัดขืนอาจบางทีไม่เพียงแต่ความเจ็บปวดที่นางจะต้องเผชิญแม้แต่ชีวิตของนางก็อาจตกอยู่ในอันตราย ตระหนักได้ดังนั้นกาเล็ทก็รีบยกเลิกการออกคำสั่งนั้น พร้อมทั้งก้มลงโอบอุ้มร่างของมิร่าขึ้น "มิร่าทำให้ต้องทำแบบนี้ มันไม่คุ้มเลย" กาเล็ทเอ่ยถามอย่างไม่เข้าใจ การที่นางทำเช่นนี้นั้นเสมือนยอมมอบชีวิตของตนเองให้แก่กาเล็ทไปโดยปริยาย ทั้งๆที่ตนเองกับมิร่าพึ่งจะพบกันแท้ๆ

         "คุ้ม สำหรับมิร่ามันคุ้มค่า ถ้ามันทำให้ปะป๋ากาเล็ทยอมรับมิร่า" มิร่าเอ่ยอย่างอ่อนแรง

         "มิร่าเคยบอกว่า มิร่าออกจากหุบเขาอสูรฟ้าไปไม่ได้ ต้องทำยังไงมิร่าถึงจะออกไปได้" กาเล็ทเอ่ยถามน้ำเสียงดูอ่อนโยนขึ้นอยู่หลายส่วน

         "ตอนนี้ออกได้แล้ว" มิร่าเอ่ยตอบ "ทันทีที่มิร่าทำพันธะสัญญากับปะป๋ากาเล็ท มิร่าก็ออกจากหุบเขาอสูรฟ้าได้แล้ว" 

         ได้ฟังคำอธิบายของร่างเล็กกาเล็ทก็เข้าใจขึ้นมาทันทีพร้อมทั้งถอนหายใจออกมาอย่างหนักใจ เรื่องราวที่เกิดขึ้นกับตนเองในวันนี้มีมากมายเกินไปนัก ทั้งเรื่องของบิดา ทั้งเรื่องของเด็กหญิงผู้นี้ กาเล็ทได้สัมผัสความกลัวสุดขั้วหัวใจอีกครั้งหนึ่ง ความกลัวที่จะสูญสิ้นทุกสิ่ง ความกลัวที่จะไม่สามารถพบเจอหน้าคนที่ตนเองรักและห่วงใยอีก "มิร่า สังคมมนุษย์ที่ด้านนอกนั้นมีกฎเกณฑ์มากมาย ไม่เหมือนกับป่าอสูรฟ้านี้ ที่ด้านนอกมิร่าไม่อาจกระทำได้ตามอำเภอใจ สัญญากับปะป๋าว่ามิร่าจะเชื่อฟังและทำกฎ" กาเล็ทเอ่ยกับมิร่า

         "สัญญา มิร่าสัญญา" ร่างเล็กเอ่ยตอบโดยแถบที่จะไม่ได้ใช้เวลาขบคิดเลย

         "เอาเป็นว่าต่อจากนี้มิร่าคือบุตรบุญธรรมของปะป๋าก็แล้วกัน มิร่า บุสโซ่ ก็แลดูไม่เลวนัก" กาเล็ทเอ่ยพร้อมกับหอมแก้มมิร่า ความคลางแคลงใจที่เคยมีค่อยๆจางหายไป
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×