ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Tales of Yuyan ตำนานเรื่องเล่าแห่งยูยาน

    ลำดับตอนที่ #221 : ท่าทีเป็นมิตรที่ทำให้ลำบากใจ

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 6.82K
      522
      19 มิ.ย. 61



    หลังจากลูกน้องของตนเองเคลื่อนกายจากไปซานซานก็รีบเอ่ยบอกต่อจักรพรรดิทั้งสองที่คอยท่าอยู่ "คงต้องขอรบกวนให้ท่านจักรพรรดิทั้งสองรอคอยอีกสักครู่แล้ว เมื่อครู่ข้าได้มีการแจ้งจากจุกสังเกตการณ์มาว่ามีผู้อ้างตนว่าเป็นจักรพรรดิทมิฬแห่งทวีปตะวันออกกำลังมุ่งหน้ามายังงานประชุม"

    หลังจากได้รับฟังเรื่องราวจากจักรพรรดินีซานซานก็เป็นจักรพรรดิแห่งทวีปเหนือที่เปิดปากหัวเราะฮ่า ฮ่าขึ้นมาก่อน "รอคอยอีกสักหน่อยจะเป็นไรไป ท่านเองก็อยากเห็นว่าผู้ที่สามารถโค่นล้มไทสันลงได้จะเป็นบุคคลเช่นไรใช่หรือไม่ออก้อ"

    จักรพรรดิออก้าได้แต่ผงกหัวรับกับคำเอ่ยกล่าวของจักรพรรดิแห่งทวีปเหนือ

    "สถานการณ์ของทวีปตะวันตกเป็นเช่นไรบ้าง ไม่ทราบว่าท่านจักรพรรดิออก้ามีสิ่งใดต้องการให้ซานซานช่วยเหลือหรือไม่" จักรพรรดินีซานซานถือโอกาสเอ่ยถามขึ้นเมื่อคลายความตึงเครียดที่เกิดขึ้นภายในห้องประชุม

    ได้ยินคำเอ่ยถามของจักรพรรดินีแห่งทวีปใต้ แววตาของจักรพรรดิออก้าก็เสมือนว่าจะปรากฎเค้าลางแห่งความอะอายใจออกมาให้ได้เห็นวูบหนึ่งแต่แล้วก็กลับคืนเป็นปกติด้วยเวลาอันสั้น "ขอบใจท่านจักรพรรดินีที่เป็นห่วงแต่ทางทวีปตะวันตกของข้านั้นสงบเรียบร้อยดีไม่มีสิ่งใดที่น่าเป็นห่วงเกรงว่าคงไม่ต้องลำบากท่านจักรพรรดินีให้ลงมือช่วยเหลือ"

    ได้ยินคำกล่าวปฎิเสธของจักรพรรดิแห่งทวีปตะวันตกแล้วซานซานยังคงเผยรอยยิ้มเป็นมิตรออกมา "ท่านจักรพรรดิออก้าอย่าได้กล่าวเช่นนั้น พวกเราเป็นพันธมิตรกันมาอย่างยาวนานก็สมควรที่จะถามไถ่สารทุกข์สุขกันอยู่เสมือนและการช่วยเหลือซึ่งกันและกันก็ไม่ถือว่าเป็นเรื่องลำลากเลยแม้แต่น้อย"

    "ยังคงเป็นซานซานที่มีจิตใจละเอียดอ่อน หากปราศจากซานซานเกรงว่าการที่สี่ทวีปจะรวมตัวกันได้เช่นทุกวันนี้คงเป็นไปไม่ได้" จักรพรรดิแห่งทวีปเหนือเซอกีย์เอ่ย

    "ขอบใจท่านจักรพรรดิเซอกีย์ที่เอ่ยชม" แม้ปากจะเอ่ยกล่าวเช่นนั้นหากแต่ว่าสีหน้าของจักรพรรดินีซานซานกลับหม่นหมองลงเหตุก็เพราะนางนึกคิดถึงจักรพรรดิทมิฬ จักรพรรดิคนใหม่แห่งทวีปตะวันออก เขาใช่จะให้ความร่วมมือกับตนเองหรือไม่? เขาจะเป็นคนเช่นไร?

    "ซานซานอย่าได้เป็นกังวลไปเลย สิ่งใดจะเกิดก็ให้มันเกิดเถอะ" จักรพรรดิแห่งทวีปเหนือที่สัมผัสได้ถึงความรู้สึกไม่สบายใจของจักรพรรดินีซานซานเอ่ยกล่าวขึ้น

    จักรพรรดินีซานซานได้ยินเช่นนั้นก็ฝืนยิ้มออกมา

    ขณะที่บรรยากาศภายในห้องประชุมดูกำลังหม่นหมองลงที่นอกห้องประชุมกลับมีผู้มาเยือน

    ผู้มาเยือนย่อมเป็นใครไปไม่ได้นอกเสียจากจักรพรรดิแห่งทวีปตะวันออก

    "แม้จะเผื่อเวลาไว้แล้วแต่สุดท้ายก็ยังมาสายจนได้" กาเล็ทเอ่ยออกมาอย่างรู้สึกผิด

    "ผู้ใดจะนึกว่าทวีปเมืองหลวงของทวีปใต้จะสลับซับซ้อนและมีขนาดใหญ่ถึงเพียงนี้" เทลเล่อเอ่ยเช่นกันขณะที่ร่อนลงสู่พื้น

    "ยังดีที่พวกเขาจัดผู้คนไว้ช่วยอำนวนความสะดวกหาไม่คงล่าช้ากว่านี้" กาเล็ทเอ่ยจากนั้นจึงเร่งเดินทางเข้าสู่สถานที่จัดการประชุม เมื่อก้าวเท้าเข้าสู่สถานที่จัดประชุมทุกสายตากลับหันจ้องมองมายังผู้มาใหม่อย่างเช่นกลุ่มของกาเล็ทเป็นสายตาเดียว พร้อมกับที่ผู้ทำหน้าที่ดูแลบริเวณสถานที่จัดประชุมตรวจเทียบเชิญจากเทลเล่อเสร็จมันก็เปิดปากของมันขึ้นตะโกนบอกด้วยเสียงอันดัง "จักรพรรดิแห่งทวีปตะวันออกมาถึงแล้ว"

    ทุกสายตาที่จ้องมองมาทั้งจากผู้คนของทวีปใต้ ทวีปตะวันตกและทวีปเหนือต่างสำรวจตรวจดูผู้คนทั้งสองกับหนึ่งสัตว์อสูรที่ถูกอุ้มอยู่อย่างถี่ถ้วน หลายคนในบริเวณพื้นที่ถึงกับลอบขมวดคิ้วเข้าหากันเนื่องเพราะที่ว่าจักรพรรดิทมิฬแห่งทวีปกลางนั้นคือผู้ใดกันแน่ หากจะบอกว่าคือเด็กหนุ่มที่อุ้มชูสัตว์อสูรแปลกประหลาดอยู่ก็ไม่น่าจะใช่สาเหตุก็เพราะคนผู้นี้หาได้มีบุคคลิคแห่งราชันย์ดั่งเช่นจักรพรรดิแห่งทวีปคนอื่นๆแต่หากจะบอกกล่าวว่าเป็ยชายหัวล้านที่ด้านข้างก็ยังไม่แน่ใจเท่าใดนัก แม้ว่าคนผู้นี้จะมีบุคคลิคและการวางตัวที่สามารถจะบอกได้ว่าเป็นผู้มีอำนาจบารมีอยู่หากแต่กลับผิดแผกจากข่าวที่ได้ยินมาบ้าง จักรพรรดิคนใหม่แห่งทวีปกลางนั้นสมควรที่จะมีอายุน้อยกว่านี้จึงถูกต้อง

    "เรียนท่านจักรพรรดิทมิฬ เพื่อเป็นการป้องกันเหตุวุ่นวายซึ่งอาจจะเกิดขึ้นได้จึงไม่อนุญาติให้นำสัตว์เลี้ยงเข้าไปภายในห้องประชุมขอรับ สามารถนำเข้าไปได้แต่ผู้ติดตามเพียงสองคน" ผู้ดูแลหน้าห้องประชุมที่ยังไม่ทราบว่าที่แท้แล้วผู้ใดคือจักรพรรดิทมิฬกันแน่เอ่ยกล่าวขณะที่ตัวมันพยายามหันหน้าไปหาทั้งเทลเล่อและกาเล็ทขณะที่เอ่ยกล่าววาจา นับว่าคนผู้นี้มีไหวพริบไม่น้อย

    กาเล็ทได้ฟังเช่นนั้นก็ยิ้มออกมา "นางมิใช่สัตว์เลี้ยงหากแต่เป็นลูกสาวบุญธรรมและผู้คุ้มกันของข้าง" กาเล็ทเอ่ยบอกกล่าวออกไปตามตรง

    ผู้ดูแลหน้าห้องประชุมได้ยินเช่นนั้นก็ลอบคิดในใจ "คิดล้อเราเล่นหรือ?" ขณะที่มันครุ่นคิดวุ่นวายว่าจะเอ่ยบอกเช่นไรดีก็มีเสียงของจักรพรรดินีแห่งทวีปตะวันออกดังเล็ดลอดออกมา "จินหลงให้พวกเขาเข้ามาเถอะ" ได้ยินเช่นนั้นจินหลงผู้ทำหน้าที่รักษาความปลอดภัยหน้าห้องประชุมก็ไม่ขัดขวางกาเล็ททีอุ้มมิร่าไว้อยู่อีก

    ก่อนที่จะก้าวเข้าสู่ห้องประชุมกาเล็ทยังก้มหน้าลงไปกระซิบที่ข้างหูของมิร่า "ได้ยินแล้วใช่ไหม ภายในห้องประชุมให้หนูอยู่นิ่งๆไว้ถ้าก่อความวุ่นวายขึ้นปะป๋าจะตีก้น"

    ได้ยินคำกล่าวของผู้เป็นบิดามิร่าก็ส่งเสียงร้องสั้นๆออกมาคราหนึ่งจากนั้นนางจึงขยับตัวที่อยู่นะอ้อมกอดของกาเล็ทเล็กน้อยก่อนที่จะบังคับร่างให้แน่นิ่งไม่ไหวติง

    ผ่านพ้นเข้ามาในห้องประชุมแล้วกาเล็ทก็กวาดสายตามองดูสำรวจภายใน ภายในห้องประชุมกลับมีผู้คนอยู่ถึง 9 คน มองดูปราดเดียวกาเล็ทก็ทราบได้ว่าทุกผู้คนต่างเป็นผู้ฝึกฝนพลังระดับสูงกันทั้งนั้น กาเล็ทรู้สึกแปลกใจไม่น้อยที่จักรพรรดินีแห่งทวีปใต้กลับมาหน้าตาที่หมดจดงดงามถึงเพียงนี้ กาเล็ทกวาดตามองผ่านบุคคลที่สมควรจะเป็นจักรพรรดิแห่งทวีปตะวันตก เมื่อกาเล็ทสบตาเข้ากับคนผู้นี้กาเล็ทกลับสัมผัสได้ถึงความรู้สึกไม่พอใจต่อตนเองที่มันปกปิดไว้ สุดท้ายแล้วสายตาของกาเล็ทก็สบเข้ากับจักรพรรดิแห่งแดนเหนือ สีผมของมันกลับเป็นสีเดียวกับผู้เป็นบุตรชายอังเดรซึ่งถูกตนเองสังหารไปเมื่อหลายเดือนก่อน "สายตาของมันที่มองมากลับไม่ปรากฎเค้าลางแห่งความแค้นให้ได้เห็นเลยแม้แต่น้อยหนำซ้ำยังแสดงออกถึงความเป็นมิตรมากกว่าศัตรูหรือว่ามันจะยังไม่ทราบเรื่องที่เราเป็นผู้สังหารบุตรชายของมันจริงๆ?" กาเล็ทลอบคิดสรุปกับตนเอง

    "ขออภัยทุกท่านที่ข้ามาข้าร่วมการประชุมล่าช้า" กาเล็ทยกมือขึ้นเอ่ยกล่าวขออภัยต่อความผิดของตนเอง

    ได้ยินคำกล่าวขออภัยที่ออกมาจากปากของเด็กหนุ่มผู้มาใหม่ดวงตาคู่สวยของจักรพรรดินีซานซานซึ่งลอบสังเกตุการดูอยู่อย่างใกล้ชิดก็เสมือนว่าจะเกิดประกายบางอย่างขึ้น ความรู้สึกกังวลไม่สบายใจของนางเสมือนว่าจะถูกลดทอนให้หายลงไปหลายส่วน "ท่านจักรพรรดิทมิฬแห่งทวีปตะวันออกให้เกียรติเดินทางมาเข้าร่วมประชุมซานซานไม่กล้าถือโทษโกรธท่านจักรพรรดิทมิฬที่มาสาย" จักรพรรดินีซานซานเอ่ยออกมาเป็นคนแรก

    กาเล็ทที่ได้ยินจักรพรรดิแห่งทวีปใต้เรียกแทนตนเองด้วยชื่อกลับรู้สึกแปลกประหลาดใจไม่น้อย

    "ไม่คิดว่าผู้ที่โค่นล้มไทสันลงได้จะยังหนุ่มแน่นถึงเพียงนี้ ท่านจักรพรรดิแห่งทวีปตะวันออกคงจะเดินทางมาทวีปใต้เป็นครั้งแรกเช่นนั้นแม้จะมาร่วมประชุมล่าช้าไปบ้างก็ไม่นับว่าเป็นเรื่องแปลกอันใด" จักรพรรดิแห่งแดนเหนือเอ่ยกล่าว

    ได้ยินคำกล่าวของจักรพรรดิแห่งทวีปเหนือที่ดูเหมือนเปี่ยมไปด้วยรู้สึกเป็นมิตรที่ไม่ได้เสแสร้งแกล้งทำขึ้นกาเล็ทกลับเกิดความรู้สึกไม่สบายใจขึ้นมา

    "แม้จะเดินทางมาครั้งแรกก็ไม่สมควรที่จะมาสาย" จู่ๆจักรพรรดิแห่งทวีปตะวันตกออก้าก็เปิดปากเอ่ยกล่าวตำหนิขึ้น "ท่านไม่ทราบหรือว่านี่เป็นสถานที่ใด? สถานที่แห่งนี้เป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่ผู้นำของทวีปทั้งสี่ใช้ในการรวมตัวประชุมเรื่องสำคัญกันดังนั้นแล้วไม่สมควรนำสัตว์หน้าขนใดเข้ามาให้เป็นที่แปดเปื้อนที่ประชุมอันศักดิ์สิทธิ์แห่งนี้"

    กาเล็ทที่ได้ฟังเช่นนั้นก็เกิดความรู้สึกไม่พอใจขึ้น หากว่าจักรพรรดิแห่งทวีปตะวันตกผู้นี้ตำหนิด่าว่าแต่เพียงตนเองที่มาสายกาเล็ทย่อมยินดีที่จะน้อมรับผิดต่อเรื่องราวหากแต่มันกลับเอ่ยกล่าวดูแคลนผู้เป็นบุตรสาวในอ้อมกอด

    "ท่านจักรพรรดิออก้าหูหนวกหรือ จักรพรรดิแห่งทวีปตะวันออกก็ได้กล่าวขออภัยแล้วยังมีเจ้าภาพอย่างซานซานก็เอ่ยปากอนุญาติให้นำสัตว์เลี้ยงเข้ามาได้เองแล้วท่านยังจะกล่าวมากความให้ได้อะไรขึ้นมา" จักรพรรดิแห่งทวีปเหนือเอ่ยกล่าวเพื่อช่วยคลายวงล้อมให้แก่กาเล็ท

    เห็นเช่นนั้นกาเล็ทกลับยิ่งเกิดความรู้สึกที่ลำบากใจขึ้นมากกว่าเดิม

    "ขอให้ทุกท่านได้โปรดเห็นแก่หน้าของซานซาน อย่าได้ทำเรื่องเล็กให้เป็นเรื่องใหญ่เลย ขอเรียนเชิญท่านจักรพรรดิทมิฬโปรดนั่งลงก่อน" สุดท้ายแล้วก็เป็นจักรพรรดินีซานซานผู้เป็นเจ้าภาพที่ต้องออกหน้ามาไกล่เกลี่ยเรื่องราว

    เมื่อเห็นว่าจักรพรรดิแห่งทวีปตะวันออกนั่งลงดีแล้วซานซานก็เอ่ยเปิดการประชุมขึ้นอย่างเป็นางการ "ในเมื่อมากันจนครบแล้วเช่นนั้นซานซานก็ขอถือโอกาสเปิดการประชุมสี่ทวีปครั้งที่ 5 ขึ้นอย่างเป็นทางการ" เอ่ยกล่าวจบจักรพรรดินีแห่งทวีปใต้ก็เว้นช่วงไว้สักครู่หนึ่งจากนั้นจึงเอยต่อ "เรื่องสำคัญที่ซานซานต้องการปรึกษาหารือกับทุกท่านในวันนี้ก็สืบเนื่องมาจากเรื่องของทวีปกลาง ซานซานมีความรู้สึกว่าทวีปกลางจะถือเอาโอกาสที่ทวีปตะวันออกมีการผลัดเปลี่ยนผู้ปกครองเพื่อชิงเคลื่อนไหวก่อสงครามขึ้นอีกครั้ง"

    จักรพรรดิออก้าได้ฟังเช่นนั้นก็รอบครุ่นคิด "ช่างคาดเดาได้อย่างแม่นยำนัก"

    ทางด้านกาเล็ทเองก็ตื่นตัวขึ้นไม่น้อยเมื่อได้ฟังคำเอ่ยกล่าวของจักรพรรดินีผู้เลอโฉมแห่งทวีปใต้

    "หากพวกมันกล้าก่อสงครามขึ้นอีกครั้ง ครั้งนี้ทวีปเหนือของข้าจะให้พวกมันได้เห็นดีแน่นอน" จักรพรรดิแห่งทวีปเหนือเอ่ยกล่าวขึ้น

    ซานซานได้ยินคำเอ่ยกล่าวของจักรพรรดิเซอกีย์ก็ได้แต่ยิ้มออกมา "เพราะเหตุนี้ซานซานจึงครุ่นคิดว่าข้อตกลงที่เราได้ทำไว้กับทวีปกลางใช่สมควรยกเลิกทิ้งไปดีหรือไม่ อีกทั้งในรอบนี้สิ่งที่ทวีปกลางเรียกร้องก็เพิ่มมากขึ้นกว่าครั้งก่อนๆเกือบเท่าตัว"

    กาเล็ทได้ยินเช่นนั้นก็ลอบตื่นตระหนก จากรายงานการจัดส่งบรรณาการที่ตนเองได้อ่านดูของไอออน สิ่งที่แต่ละทวีปต้องรวบรวมจัดส่งในแก่ทวีปกลางในแต่ละรอบนั้นก็นับว่ามากโขแล้วมาในครั้งนี้จักรพรรดินีซานซานกลับเอ่ยบอกว่าทวีปกลางต้องการเพิ่มมากขึ้นกว่าเท่าตัว

    "จะบีบคั้นกันจนเกินไปแล้ว" จักรพรรดิแห่งทวีปเหนือกัดฟันเอ่ยกล่าวขึ้นมาอย่างไม่พอใจ

    "เพราะเหตุนี้ซานซานจึงคิดว่าทวีปกลางคงคิดใช้เรื่องนี้ในการบีบคั้นพวกเรา" เอ่ยกล่าวจบนางก็ใช้ดวงตาคู่สวยจ้องมองมาที่กาเล็ท "สำหรับเรื่องข้อตกลงที่พวกเราเคยทำไว้เกรงว่าท่านจักรพรรดิทมิฬคงยังไม่.."

    กาเล็ทได้ฟังที่จักรพรรดินีแห่งทวีปใต้เอ่ยก็ยกมือขึ้นข้างหนึ่งพร้อมกับเอ่ยบอก "เรื่องนี้ข้าก็พอที่จะทราบมาบ้างแล้ว"

    "เช่นนั้นท่านจักรพรรดิทมิฬมีความคิดเห็นเกี่ยวกับเรื่องนี้เช่นไร" จักรพรรดินีซานซานเอ่ยถามขึ้นในจิตใจของนางก็เฝ้ารองคำตอบจากจักรพรรดิทมิฬเพื่อที่จะประเมินถึงตัวตนที่แท้จริงของจักรพรรดิคนใหม่ที่นางไม่รู้จัก

    "ข้าคงต้องขออนุญาติบอกกล่าวความเห็นของข้าออกไปตามตรง ในความเห็นของข้านั้น ข้าไม่เห็นว่ามีความจำเป็นใดที่จะต้องทำข้อตกลงสงบศึกและส่งบรรณาการให้กับทวีปกลาง" กาเล็ทเอ่ย

    หลังจากที่กาเล็ทเอ่ยจบจักรพรรดิแห่งทวีปตะวันตกก็แค่นเสียงออกมาครั้งหนึ่งอย่างดูแคลน

    "หืม เห็นทีว่าหากไม่แสดงความแหลมคมออกมาให้เห็นบ้างผู้อื่นคนนึกคิดว่าเราเป็นลูกพลับที่สามารถบีบเค้นได้โดยง่ายแล้ว" กาเล็ทลอบคิดตัดสินใจกับตนเองเมื่อเห็นอากับกริยาของจักรพรรดิแห่งทวีปตะวันตกและผู้ติดตามจากนั้นจึงหันไปทางจักรพรรดิออก้า "ท่านจักรพรรดิออก้าไม่เห็นด้วยกับคำกล่าวของข้าหรือ?"


    ปล.รีบลงส่วนของพรุ่งนี้ให้ก่อนครับ









    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×