ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Tales of Yuyan ตำนานเรื่องเล่าแห่งยูยาน

    ลำดับตอนที่ #140 : ดัดสิ่งที่คดงอให้เข้าที่

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 9.13K
      438
      11 ม.ค. 61



    ร่างของบัลลาตและเหล่าผู้ติดตามถูกมัดอย่างแน่นหนา ถึงแม้บัลลาตจะมีพลังถึงระดับ 7 แต่ด้วยกำลังของมันยังคงไม่สามารถทลายโซ่ตรวนที่เป็นเหล็กได้

    "เบากว่านี้ พี่ท่านเบากว่านี้" หนึ่งในผู้ติดตามของบัลลาตเอ่ยร้องขอต่อทหารตระกูลบุสโซ่

    "หืม เมื่อไม่นานมานี้พวกเจ้ามิใช่ทำท่าทีใหญ่โตอยู่หรอกหรือ? เหตุใดบัดนี้จึงได้ร่ำร้องเหมือนหมููหมาเพื่อขอความเมตตากันเล่าหืม เอ่ยบอกว่าจะยึดเขตแดนของตระกูลบุสโซ่เราหรือ เฮอะอย่างพวกเจ้าจะเข้ามาปกครองพวกเราหรือ? ช่างเป็นคำกล่าวที่น่าตลกขบขันนัก" ทหารของตระกูลบุสโซ่กล่าวเสร็จคำหนึ่งก็เตะใส่พวกมันเท้าหนึ่งกล่าวอีกคำก็เตะใส่มันอีกเท้าหนึ่ง

    "เจ้าขุนนางโฉดอย่าว่าแต่นี่เป็นข่าวลวงต่อให้เป็นข่าวจริงก็ตามทีพวกเจ้ากลับปฎิบัติต่อผู้มีพระคุณเช่นนี้หรือ นายน้อยเราต่อสู้อย่างยากลำบากไม่เพียงแต่เพื่อปกป้องเขตแดนของตนยังคงเพื่อปกป้องทั้งอาณาจัก หืม พอมีข่าวว่านายน้อยพวกเราพลาดท่าเสียทีบาดเจ็บสาหัส พวกเจ้าขุนนางชาติสุนัขก็คิดคดทรยศเนรคุณ ไม่ยกย่องนายน้อยของพวกเรายังไม่พอกลับคิดเข้ายึดครองทำลายบ้านช่องของผู้มีพระคุณให้พังพินาศอีกหรือ" ทหารอีกผู้หนึ่งถือโอกาสด่าทอและเตะใส่ชายโครงบัลลาตเท้าหนึ่งอย่างเจ็บแค้น

    "ต่อสู้อย่างยากลำบากอันใด เมื่อครู่หัวหน้าของพวกเจ้าพึ่งบอกต่อข้าว่าเขาไม่ได้รับบาดแผลแม้สักนิดเดียวหรือเรื่องนี้พวกเจ้าก็ยังโป้ปดด้วย" โจเซพที่ถูกมัดอยู่กล่าวประท้วงออกมาอย่างไม่รู้สถานการณ์

    ทหารหลายคนเมื่อได้ยินโจเซพกล่าวก็หันไปทางโจเซพ เมื่อเห็นว่ามันมีท่าทีที่แสดงออกว่ายังไม่สำนึกพร้อมทั้งไม่ยอมสยบเหมือนดั่งผู้อื่น เหล่าทหารก็ได้แต่ยิ้มและก้าวเท้าเข้าหามันจากนั้นจึงเตะใส่มันอีกหลายเท้า

    "หืม แม้แต่สุนัขมันยังรู้บุญคุณผู้ให้อาหาร นายน้อยของเราจะบาดเจ็บหรือไม่มีหรือพวกกากเดนเช่นพวกเจ้าจะทราบได้? หากมิใช่นายน้อยของพวกเรากำชับไว้ว่าให้อดทนอดกลั้นมีหรือที่พวกข้าจะยอมให้กากเดนชาติสุนัขเช่นพวกเจ้าชูคอเดินไปมาเที่ยวแทะโลมสตรีของตระกูลบุสโซ่เรา ยังคงเป็นนายน้อยของพวกเรามีเมตตาสั่งไว้ไม่ให้สังหารกากเดนชาติสุนัขเช่นพวกเจ้า" ทหารผู้หนึ่งกล่าวพลางเตะใส่โจชัวอีกหลายเท้า

    บัดนี้ทั้งบัลลาตและเหล่าผู้ติดตามกลับมีสถาพเหมือนกระสอบทรายไม่มีผิดและกลายเป็นที่ระบายอารมณ์ของทหารตระกูลบุสโซ่ที่อดทนอดกลั้นมานานนับเดือน

    "ข้าว่าพอแค่นี้ดีกว่า หากพวกเราเตะมันจนตกตาย มิใช่คราเคราะห์จะตกอยู่ที่พวกเราแล้วไม่ได้ยินหัวหน้าโรสเอ่ยบอกเมื่อครู่หรือว่านายน้อยสั่งไว้ว่าให้นำพวกมันไปคุมขังไว้ในคุกหลวงอย่างมีชีวิตก่อน นายน้อยของพวกเราจะเป็นผู้จัดการพวกมันด้วยตัวเองในคราเดียว หากว่าพวกมันตกตายไปก่อนข้าเกรงว่าพวกเราคงต้องถูกนายน้อยตำหนิต่อว่าแล้ว" ทหารคนหนึ่งเอ่ยห้ามพักพวกของตนเองขึ้น

    ได้ยินดังนั้นทหารของตระกูลบุสโซ่ต่างก็หยุดเท้าลงแต่ก็ยังไม่วายหันไปหาบัลลาตและถุยน้ำลายใส่ "อาศัยพลังระดับ 7 ของเจ้าหรือจะมาปกครองพวกเรา เฮอะๆ" เหล่าทหารต่างหัวเราะเยาะออกมา

    ทางด้านตระกูลเรนเดล

    ในระยะหนึ่งเดือนที่ผ่านมานั้นตระกูลเรนเดลแทบไม่มีความเคลื่อนไหวใดในทางโจ่งแจ้ง แต่ในทางลับ ครู่โซ่นั้นกลับเป็นหัวเลี้ยวหัวต่อในการสืบหาข่าวของเหล่าขุนนางให้กับกาเล็ท กาเล็ทยังให้ครูโซ่สอดส่องดูว่าผู้ใดมีความสามารถสมควรใช้สอย ผู้ใดสามารถไว้ใจได้ ผู้ใดไม่สามารถไว้ใจได้ ข่าวสารส่วนใหญ่ที่สืบได้นั้นล้วนแล้วแต่มาจากครู่โซ่แทบทั้งสิ้น

    "ท่านพ่อเมื่อครู่ข้าเห็นทหารของตระกูลบุสโซ่พึ่งจากไปเขานำข่าวใดมาแจ้งหรือ?" แชลเทียเอ่ยถามครูโซ่ผู้เป็นบิดา

    "โอ้ ลูกเขยพึ่งส่งคนมาแจ้งว่าถึงเวลากวาดล้างแล้วให้ข้าเตรียมตัวไว้อีกไม่นานเขาจะมารับพวกเราไปขมดูเรื่องสนุกกัน" ครูโซ่บอกแก่แชลเทีย

    ได้ยินคำพูดของผู้เป็นบิดาใบหน้าของแชลเทียก็ปรากฎเค้าลางของความยินดีขึ้น "ดีแท้ ข้าเบื่อหน่ายแทบตายแล้วที่ต้องเสแสร้งแกล้งแสดงเฮอะข้าคิดไม่ถึงเลยจริงๆว่าคนบางคนที่ยิ้มแย้มเป็นมิตรกับเราในยามที่เรามั่งมี พอเราล้มลงมิเพียงไม่ช่วยเหลือแต่กลับเหยีบซ้ำอย่างไร้ปราณี ฮึ บางคนเมื่อก่อนทำทีเข้ามาพูดดีกับข้าเอาอกเอาใจข้าแต่ว่าพอมีข่าวว่ากาเล็ทบาดเจ็บสาหัสกลับตีตัวออกห่างทำเหมือนไม่รู้จักอีกทั้งยังกล่าวคำพูดเหน็บแนมบาดหูนัก"

    "เอาเถอะอย่างน้อยเหตุการณ์นี้ไม่เพียงแต่กวาดล้างทำความสะอาดอาณาจักรโรฮานเราแต่ยังทำให้เรารู้ได้ด้วยว่าผู้ใดเป็นมิตรแท้ ผู้ใดเป็นมิตรเทียม" ครูโซ่เอ่ยปลอบใจลูกสาวของตน

    "เป็นอย่างที่กาเล็ทบอกจริงๆว่าคนเรารู้หน้าไม่รู้ใจ ต่ข้าก็ยังดีใจที่อย่างน้อยข้ายังมีเพื่อนที่ดีอยู่บ้าง ฮิ ฮิ ข้าจะเข้าวังไปชมดูเรื่องสนุกกับท่านพ่อด้วย" กล่าวถึงช่วงท้ายแชลเทียกลับหัวเราะออกมาอย่างซุกซน

    เห็นกริยาท่าทางของผู้เป็นบุตรสาวครูโซ่ก็ได้แต่ถลึงตาใส่ "ลูกเขยคงตามใจนางจนเกินไป" ครูโซ่ได้แต่คิดเช่นนี้ในใจ


    ณ โรงจอดเรือเหาะหลวงของโรฮาน

    "ข้ามาขอลงทะเบียนเพื่อยืมเรือเหาะ" โรสแจ้งต่อผู้ดูแลโรงจอดเรือเหาะ

    ได้ยินคำกล่าวของโรสผู้ดูแลโรงจอดเรือเหาะก็ใช้สายตามองโรสอย่างสำรวจตรวจดูตั้งแต่หัวจดเท้า "เจ้าเป็นใคร"

    "ข้ามาจากตระกูลบุสโซ่ มีเรื่องเร่งด่วนต้องขอยืมใช้เรือเหาะเพื่อกิจการของบ้านเมือง" โรสเอ่ยแจ้งถึงสาเหตุการมาและตำแหน่งหน้าที่ของตนออกไป

    "เรือเหาะของเรายังซ่อมบำรุงอยู่ไม่สามารถใช้การได้" ผู้ดูแลโรงจอดเรือเหาะเอ่ยกล่าวยกอ้างเหตุผลขึ้นมาเพื่อปฎิเสธ

    "หืม ตอนเข้ามาข้าก็เห็นว่าเรือเหาะหลายลำยังอยู่ในสภาพปกติพร้อมใช้งานนี่" โรสเอ่ย

    "หากไม่มีคำสั่งมาจากเบื้องบนข้าไม่สามารถอนุญาติให้นำเรือเหาะออกไปได้ หึใครจะทราบได้ว่าเจ้าแอบอ้างชื่อของผู้อื่นมาหรือไม่"ผู้ดูแลเรือเหาะนั้นเอ่ยด้วยน้ำเสียงที่ไม่เป็นมิตรเปิดเผยจิตเจตนาที่แท้จริงของตนเองออกมาว่าที่แท้แล้วไม่ต้องการให้ผู้คนของตระกูลบุสโซ่หยิบยืมเรือเหาะไปหาใช่เรือเหาะไม่พร้อมใช้งานดั่งที่มันเอ่ยบอกในคราแรก

    "นี่ตราประจำตระกูลบุสโซ่ที่องคร์ราชาเบรุททรงมอบให้แก่ตระกูลบุสโซ่เอง อีกตั้งด้วยตำแหน่งหน้าที่ซึ่งเป็นถึงมาร์ควิสของนายน้อยข้าจะเบิกเรือเหาะไปใช้สักลำสองลำต้องมีปัญหามากมายเช่นนี้ด้วยหรือ?" โรสเริ่มเอ่ยอย่างไม่พอใจพร้อมทั้งกระแทกตราประจำตระกูลบุสโซ่ที่เป็นเหล็กลงบนเค้าเตอร์ไม้จนยุบลงไป

    ผู้ดูแลเรือเหาะยังคงไม่รู้ตัวว่าตนเองกำลังจะต้องพบเจอกับสิ่งใด มันยังคงเอ่ยต่อ "มาร์ควิสบุสโซ่มิใช่ร่อแร่ใกล้ตายอยู่หรอกหรือ เฮอะจะอย่างไรถ้าจะนำเรือเหาะออกไปใช้ต้องมีคำสั่งจากเบื้องบ.." ยังกล่าวไม่ทันจบประโยคร่างของมันก็ถูกโรสใช้มือยกให้สูงขึ้น

    "ผายลม มีคำกล่าวไว้ว่าเห็นคนล้มไม่ควรข้าม นี่เจ้ากลับทำพฤติกรรมของคนต่ำช้าทรยศเนรคุณออกมาหรือ ถ้าเป็นเมื่อก่อนด้วยชื่อของนายน้อยพวกเราขอเพียงแค่เอ่ยปากคำเดียวอย่าว่าแต่เรือเหาะเพียงหนึ่งลำ แม้แต่เรือเหาะทั้งหมดเจ้าก็ยังประเคนให้อย่างง่ายดาย นี่พอมีข่าวว่านายน้อยของพวกเราบาดเจ็บกลับกลายเป็นยุ่งยากถึงเพียงนี้?" เอ่ยจบโรสก็ใช้มืออีกข้างหนึ่งตบไปที่ใบหน้าของผู้ดูแลนั้น "เชื่อหรือไม่ว่าหากเจ้ายังรีรอลังเลอยู่อีกข้าจะจับเจ้าในข้อหาขัดขวางการปฎิบัติหน้าที่ของข้าและช่วยเหลือพวกกบฎ"

    แรงกดดันที่โรสปล่อยออกมานั้นหาใช่คนพื้นเพทั่วไปหรือผู้ฝึกตนระดับต่ำจะรับได้ ผู้ดูแลลานจอดเรือเหาะผู้นี้ย่อมไม่มีข้อยกเว้น มันตื่นตกใจหวาดกลัวจนฉี่รดกางเกงของตนเองออกมา "ข ข้าเข้าใจแล้ว เข้าใจแย้ว" มันพยายามพูดออกมาอย่างยากเย็น ใบหน้าซีกหนึ่งของมันตอนนี้บวมเปล่งอย่างเห็นได้ชัดจากการที่โดนฝ่ามือของโรสตบเข้าใส่

    ได้ยินดังนั้นโรสก็ยิ้มออกมาอย่างพอใจพร้อมกับวางร่างของมันลง "เข้าใจแล้วก็ดี เมื่อครู่ข้าได้ยินเจ้าเอ่ยวาจาไม่ดีต่อนายน้อยของข้าเลยทำให้ข้าควบคุมอารมณ์ไม่อยู่ ข้านี่ก็เหลือเกินจริงๆ นายน้อยของข้ายังอยู่ดีมีสุขแท้ๆไม่น่าจะถือสาหาความกับคำพูดเล็กน้อยของเจ้าเลยจริงๆ เฮ้อ ไม่ทราบว่าผู้ใดปล่อยข่าวลือเหลวไหลเช่นนั้นได้กัน" โรสเอ่ยขณะที่วางร่างของผู้ดูแลโรงจอดเรือลงจากนั้นจึงช่วยจัดแจงเสื้อผ้าที่ยุ่งเหยิงของมันให้กลับเข้าสู่สภาพปกติดังเดิม เมื่อเหลียวมองลงไปยังร่างท่อนล่างของมันโรสก็แสดงสีหน้ารังเกียจออกมาแวบหนึ่ง

    "เอ๊ หัวหน้าโรส !!!" ทหารผู้ติดตามที่โรสนำมาต่างส่งเสียงออกมาด้วยความประหลาดใจเมื่อเห็นว่าโรสจัดการกับผู้ดูแลโรงเก็บเรือเหาะอย่างไร

    "อะไร" โรสหันมาถาม

    "ระดับการฝึกฝนของท่านอยู่ที่ขั้นใดกันแน่ ข้าจำได้ว่าเมื่อเดือนก่อนพลังของท่านกับพวกข้ายังใกล้เคียงกันอยู่เลย ห..เหตุใดท่านจึงได้สามารถปลดปล่อยกระแสพลังที่มากมายมหาศาลน่าสพรึงเช่นนั้นออกมาได้กัน" ทหารผู้ติดตามของโรสต่างส่งเสียงเอ่ยถามอย่างใคร่รู้

    โรสได้ฟังเช่นนั้นก็เผยรอยยิ้มที่ดูลี้ลับแปลกประหลาดออกมา "อย่าได้ร้องถามให้วุ่นวายแล้ว เอาเป็นว่าพลังของข้าตอนนี้มากพอที่จะทำภารกิจซึ่งนายน้อยมอบหมายให้ในครั้งนี้อย่างเหลือเฟือ พวกเจ้าไม่ต้องตื่นกลัวตระกูลเกรย์ไป เมื่อเทียบกับนายน้อยของพวกเราแล้วตระกูลเกรย์นั้นเป็นเพียงเศษฝุ่นเศษดินที่ปลิวว่อนขวางเส้นทางของนายน้อยอยู่ก็เท่านั้น พวกเราเพียงแต่ต้องทำหน้าที่ปัดเศษฝุ่นเศษดินที่น่ารำคาญเหล่านั้นให้แก่นายน้อย เอาล่ะพวกเจ้าตามมันไปตรวจตราดูความเรียบร้อยของเรือเหาะ หากไม่มีปัญหาพวกเราจะได้ออกเดินทางไปยังเขตเอกีสเพื่อจับกุมผู้คนของตระกูลเกรย์กัน" โรสเอ่ยโดยเลี่ยงที่จะตอบคำถามของลูกน้องทั้งหมด
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×