ลำดับตอนที่ #5
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #5 : การกลับมาของโจเซพ [รีไรท์ 2020]
"กาเล็ท ว่างหรือเปล่าลูก แม่อยากให้กาเล็ทเอาเสื้อผ้าเข้าไปส่งร้านค้าในตัวเมืองให้แม่หน่อย" นีน่าเคาะประตูห้องเพื่อเอ่ยปากถามกาเล็ทซึ่งเก็บตัวฝึกฝนต่อเนื่องยาวนานมาสองอาทิตย์แล้ว อันที่จริงการให้เอาเสื้อผ้าไปส่งนั้นเป็นเพียงข้ออ้างเพราะนีน่าเห็นว่าลูกชายของตัวเองเก็บตัวฝึกฝนมาเป็นเวลานานแล้วจึงรู้สึกเป็นห่วงและอยากให้กาเล็ทพักบ้าง
กาเล็ทที่กำลังรวบรวมสมาธิในการปรุงยาอยู่ได้ยินเสียงของนีน่าซึ่งกำลังเรียกตัวเองอยู่ก็หน่วงรั้งรัศมีพลังกลับเข้าสู่ร่าง "เท่านี้ก็น่าจะพอแล้ว" กาเล็ทเอ่ยกล่าวกับตัวเองอย่างรู้สึกพอใจเมื่อพบว่าตลอดระยะเวลากว่าหนึ่งอาทิตย์ที่ผ่านมาตนเองสามารถที่จะหลอมสร้างยาเทพโอสถได้จำนอนไม่น้อย
"ท่านแม่ทำให้ท่านเป็นกังวลแล้ว" กาเล็ทที่เปิดประตูออกมาเอ่ยกล่าวกับนีน่า
"กาเล็ทอย่าหักโหมจนเกินไปนะลูก" นีน่าเข้ามาสำรวจดูกาเล็ทอย่างรู้สึกเป็นห่วงพร้อมกับที่ชะโงกมองเข้าไปดูภายในห้องของกาเล็ทอย่างรู้สึกอยากรู้
เห็นอย่างนั้นกาเล็ทก็ทำได้แต่ยิ้มให้กับนีน่า "ท่านแม่ ท่านไม่ได้เข้าไปในตัวเมืองรีเวลนานแล้ว นานๆทีท่านเข้าเมืองไปเดินเล่นกับข้าดีหรือเปล่า?" กาเล็ทเอ่ยชักชวนนีน่าเพื่อช่วยคลายความรู้สึกเป็นกังวลของนีน่าขึ้นมาอีกทาง ทว่านีน่ากลับเงียบไม่ตอบคำ
นีน่านั้นไม่ต้องการเข้าไปในตัวเมืองรีเวล สาเหตุก็เพราะทุกครั้งที่นีน่าเดินทางเข้าไปในตัวเมืองก็จะต้องผ่านเส้นทางซึ่งเป็นบ้านหลังเก่าของตน บ้านที่ตนเองกับกาลานสามีอันเป็นที่รักเคยอยู่ ทุกครั้งที่ผ่านบ้านหลังนั้นมันทำให้ตัวนีน่ารู้สึกเจ็บปวดและเกิดความรู้สึกเศร้าหมอง ไม่เพียงแค่นั้น ทุกครั้งที่เข้าไปในเมืองยังมีสายตาของผู้คนมากมายที่จับจ้องทิ่มแทงมาอย่างดูถูกเหยียดหยาม เนื่องเพราะข้อกล่าวหาที่กาลานผู้เป็นสามีได้รับ ข้อกล่าวหาที่นีน่าไม่เชื่อ ไม่มีทางเชื่อโดยเด็ดขาดว่าสามีของตัวเองจะกระทำอย่างที่ถูกกล่าวหาว่ากาลานสามีของตัวเองเป็นขุนนางขี้ขลาดซึ่งรักตัวกลัวตาย ละทิ้งประชาชนเพื่อหนีเอาชีวิตรอดเพียงลำพัง ตัวของนีน่านั้นรู้จักสามีตัวเองอย่างกาลานดีกว่าใคร กาลานไม่มีทางที่จะทำอย่างนั้น กาลานซึ่งนีน่ารู้จักนั้นเป็นบุคคลที่จะยอมตายดีกว่าการหนีจากปัญหา และหากเป็นดังเช่นคำกล่าวหาจริงๆ เพราะเหตุใดสามีของตัวเองกลับไม่มีชีวิตรอดกลับมา? แม้แต่ร่างที่ไร้วิญญาณเองก็ยังไม่อาจหาเจอ
กาเล็ทซึ่งเห็นว่านีน่าผู้เป็นแม่ของตัวเองแสดงอาการเศร้าหมองออกมาให้ได้เห็นก็เกิดความรู้สึกเจ็บปวดใจขึ้น "ท่านแม่ ข้าขออภัย" กล่าวจบกาเล็ทก็บอกกับตัวเองว่าในสักวันหนึ่งจะต้องพิสูจน์เรื่องนี้ให้เห็นชัด "สักวันเมื่อเรามีพลังมากพอเราจะต้องทำเรื่องนี้ให้กระจ่าง" จากความทรงจำที่กาเล็ทมีต่อผู้เป็นพ่อของตนเอง แม้มันจะเป็นเพียงความทรงจำในวัยเด็กที่เลือนลาง แม้แต่คลาวด์ในร่างของกาเล็ทก็ไม่เชื่อเหมือนกันว่าผู้เป็นพ่อของตนเองอย่างกาลานจะทำเรื่องอย่างที่ถูกคนอื่นๆกล่าวหา
ขณะที่บรรยากาศภายในบ้านกำลังเศร้าหมองก็มีเสียงของชายวัยกลางคนดังขึ้น "นายหญิงข้ากลับมาแล้ว"
ได้ยินเสียงดังกล่าวก็ปรากฎเข้าลางความยินดีขึ้นบนใบหน้าที่เศร้าหมองของนีน่า "เป็นโจเซพ ท่านพ่อบ้านโจเซพกลับมาแล้ว"
กล่าวถึงโจเซพ โจเซพนั้นเป็นข้ารับใช้เก่าของกาลานในครั้งอดีตที่ตระกูลบุสโซ่ยังไม่ได้ตกต่ำลง โจเซพนั้นมีความภักดีต่อกาลานด้วยใจจริง สาเหตุก็เพราะกาลานสมัยยังหนุ่มเคยเสี่ยงชีวิตเพื่อช่วยโจเซพไว้ จากนั้นเป็นต้นมาโจเซพก็สาบานกับตัวเองว่าชั่วชีวิตของตนเองจะภักดีต่อกาลานและรับใช้ตระกูลบุสโซ่ตลอดไป ด้วยสาเหตุนี้เองทำให้ถึงแม้ว่าตระกูลบุสโซ่จะตกต่ำลงเท่าไหร่ โจเซพก็ยังยืนยันที่จะไม่จากไป ไม่เพียงไม่จากไป โจเซพในวัย 50 ปี ยังคงออกไปทำงานเสี่ยงชีวิตเพื่อล่าสัตว์อสูรมาเป็นรายได้เสริมในการจุนเจือช่วยเหลือเป็นค่าใช้จ่ายรักษา กาเล็ทซึ่งเป็นลูกชายเพียงคนเดียวของกาลานที่เป็นความหวังของตระกูลบุสโซ่ โจเซพนั้นหวังอยู่ลึกๆตลอดมาว่าสักวันตระกูลบุสโซ่จะกลับมารุ่งเรืองอีกครั้งและในสักวันจะสามารถแก้ข้อกล่าวหาที่ไม่เป็นธรรมซึ่งคนอื่นๆตราหน้ากาลานและตระกูลบุสโซ่ไว้ได้
"นายหญิง ครั้งนี้ข้าออกไปนานกว่าปกติสืบเนื่องเพราะการล่าสัตว์อสูรครั้งนี้นั้นลำบากยากเย็นกว่าทุกครั้ง สัตว์อสูรรอบนอกของหุบเขาอสูรฟ้าเริ่มเบาบางลงทำให้ข้าต้องเข้าไปในป่าลึกเพื่อล่าพวกมัน ขออภัยนายหญิง รอบเดือนที่ผ่านมาท่านคงได้รับความลำบากมามาก" โจเซพเอ่ยกล่าวอย่างรู้สึกละอายใจ
"ท่านกลับมาอย่างปลอดภัยก็ดีแล้ว .." นีน่ายังไม่ทันกล่าวต่อ โจเซพก็ปรากฎเค้าลางของความรู้สึกยินดีขึ้นบนสีจนทำให้ข้าวของที่มือทั้งสองข้างถืออยู่ร่วงลงสู่พื้นอย่างไม่อาจควบคุม
"นายน้อย นายน้อย ท่านฟื้นแล้ว เป็นข้า เป็นข้าไม่ดีเองที่ปล่อยให้ท่านเข้าเมืองไปเพียงผู้เดียว" โจเซพเอ่ยกล่าวพร้อมกับที่วิ่งเข้ามาคุกเข่าลงกอดขาของกาเล็ทไว้แน่น
"ท่านลุงโจเซพ เป็นข้าไม่ดีเอง ช่วงเวลาหลายเดือนที่ข้านอนไม่ได้สติคงสร้างความลำบากให้ท่านแม่และท่านลุงแล้ว" กาเล็ทกล่าวออกมาอย่างรู้สึกผิดเช่นกัน "ท่านเองก็ต้องออกไปเสี่ยงอันตรายมากมายเพื่อหาเงินทองก็เพราะข้า ตัวข้าที่ไม่ได้ความรู้สึกละอายใจนัก ต่อจากนี้ท่านไม่ต้องไปเสี่ยงอันตรายแบบนั้นอีกแล้ว ท่านลุงตอนนี้ข้ามีช่องทางในการหาเงินทองมากมายนับไม่ถ้วน" กาเล็ทเอ่ยกล่าว
"นายน้อย ท่าน ท่านมีพลังระดับนี้ได้อย่างไร?" เมื่อโจเซพสงบจิตใจลงได้แล้วกลับสัมผัสได้ถึงรัศมีพลังจิตวิญญาณจากร่างของกาเล็ทซึ่งเป็นนายน้อยที่ตัวเองสาบานว่าจะดูแลและจงรักภักดีตลอดไปต่อจากกาลาน อยู่ๆพลังจิตวิญญาณที่ไม่เคยมีมาก่อนในร่างของกาเล็ทก็เปล่งรัศมีออกมาจนตัวเองสามารถที่จะรับรู้สัมผัสได้แบบนี้ทำให้โจเซพเกิดความรู้สึกสบสนงุนงงอย่างหาคำอธิบายไม่ได้ออกมา และที่น่าตกใจไปกว่านั้นรัศมีพลังที่ตัวเองสัมผัสได้กลับเป็นรัศมีพลังที่แข็งแกร่งกว่าตัวเองซึ่งมีระดับพลังอยู่ในขีดขั้นที่สี่อีกด้วย
กาเล็ทที่เห็นอาการของโจเซพแสดงรอยยิ้มปลอดโปร่งออกมา "ข้าบอกแล้วว่าท่านลุงไม่ต้องออกไปเสี่ยงอันตรายอีกต่อไป ตอนนี้ข้ามีระดับพลังอยู่ที่ระดับขั้นที่ห้า ด้วยพลังระดับนี้ทำให้ข้ามีช่องทางอีกมากมายที่จะสามารถช่วยเหลือแบ่งเบาภาระของท่านลุงกับท่านแม่"
"ระดับห้า!" โจเซพอุทานออกมาอย่างรู้สึกตกใจ ที่จริงแล้วพลังระดับที่ห้านั้นไม่ได้ถือว่าสูงส่งลึกล้ำเท่าไรนัก เพราะเหนือกว่าระดับที่ห้าขึ้นไปยังคงมีพลังระดับหก เจ็ด แปดและเก้า และเหนือล้ำกว่าระดับที่เก้าขึ้นไปยังคงมีขีดขั้นพลังระดับราชา เหนือระดับราชาขึ้นไปยังมีพลังระดับจักรพรรดิซึ่งเป็นระดับสุงที่สุดซึ่งเคยมีบันทึกไว้ว่ามนุษย์ในโลกของดินแดนยูยานสามารถจะไขว่คว้าเอื้อมถึงและเป็นระดับพลังที่ผู้ปกครองทวีปทั้ง 5 ของโลกแห่งนี้ครอบครอง พลังระดับจักรพรรดิแห่งทวีป! ถึงแม้พลังระดับขีดขั้นที่ห้านั้นไม่ได้ถือว่าสูงส่งไร้เทียมทานหากแต่จะลึกล้ำหรือไม่ก็ต้องดูด้วยว่าอยู่กับใคร หากพลังระดับที่ห้าปรากฎขึ้นในร่างของโจเซพซึ่งมีอายุอยู่มากว่าห้าสิบปีแล้วคงถือว่าไม่ได้มีอะไรพิเศษทว่าเมื่อพลังในขีดขั้นระดับที่ห้าปรากฎขึ้นในร่างของเด็กหนุ่มอย่างกาเล็ทก็ถือว่าเป็นอีกเรื่องที่ต่างออกไปโดยสิ้นเชิง
"นายน้อยท่านมีพลังถึงระดับนี้ได้อย่างไร? สวรรค์! มันไม่น่าจะเป็นไปได้ หรือข้ากำลังฝันไปจริงๆ?" โจเซพที่กำลังรู้สึกตื่นเต้นยินดีจนแทบจะคลุ้มคลั่งเอ่ยกล่าวพร้อมกับยกมือขึ้นมาตบไปที่ใบหน้าของตัวเองเพื่อหวังจะใช้ความรู้สึกเจ็บเป็นเครื่องพิสูจน์
ทางด้านนีน่าซึ่งไม่ได้เข้าใจถึงโลกของผู้ฝึกฝนพลังถึงกลับต้องส่งเสียงร้องอุทานออกมาทันทีเมื่อสังเกตเห็นการกระทำของโจเซพ "ท่านพ่อบ้าน ท่านทำอะไร!"
"นายหญิง ยินดีด้วย นายหญิงตระกูลบุสโซ่ของเรามีความหวังแล้ว มีความหวังแล้ว" โจเซพหันไปเอ่ยกล่าวแสดงความยินดีกับนีน่ายกใหญ่ ถึงแม้ว่านีน่าจะไม่รู้และเข้าใจถึงความมหัศจรรย์ของสิ่งที่เกิดขึ้นแต่มีหรือที่โจเซพซึ่งเป็นผู้ฝึกฝนพลังจะไม่สามารถเข้าใจได้
ในตอนนี้ถึงแม้ดูเหมือนว่าโจเซพกับกาเล็ทจะมีระดับพลังที่ไล่เลี่ยไกล้เคียงกัน แต่ในความเป็นจริงหาใช่เป็นเรื่องธรรมดาทั่วไปถึงขนาดนั้น เหตุผลก็เพราะว่าโจเซพนั้นใช้เวลาไปถึง 35 ปีในการฝึกฝนบ่มเพาะพลังกว่าจะสามารถไต่เต้าขึ้นมาถึงระดับขั้นที่สี่ได้ แต่กาเล็ทนั้นยังคงมีอายุเพียง 16 ปีเท่านั้น ด้วยระยะเวลาของการฝึกฝนที่ห่างกันถึงสามเท่านี้ ย่อมแสดงให้เห็นถึงระดับพรสวรรค์ที่แตกต่างกันอย่างชัดเจน ยิ่งไม่ต้องพูดถึงว่ากาเล็ทใช้เวลาเพียงแค่ 1 เดือน ไม่ใช่ 10 ปีในการเริ่มบ่มเพาะพลังขึ้นมา ซึ่งหากโจเซพมีโอกาสได้รู้ถึงความจริงแล้ว ไม่ทราบว่าจะแสดงอาการรู้สึกตกใจออกมาให้เห็นในลักษณะไหน?
"นายน้อยเป็นไปได้อย่างไร?" โจเซพเอ่ยถามอย่างตื่นเต้นสงสัยเมื่อพบว่าเรื่องที่เกิดขึ้นนี้เป็นความจริงไม่ใช่ความฝัน
"ท่านลุงเพราะสวรรค์ส่งเสริมข้า ช่วงที่ข้าหลับไหลข้ากลับบังเอิญไปค้นพบบางอย่างที่วิเศษเข้า จึงทำให้ข้ารู้ถึงเคล็ดลับพิเศษในการบ่มเพาะพลัง" กาเล็ทเลือกที่จะบอกความจริงเพียงบางส่วนออกไป เพราะหากให้บอกว่าตัวเองได้มีโอกาสพบกับตัวตนที่คล้ายกับเทพพระเจ้าและตัวเองนั้นเป็นตัวตนที่เดินทางมาจากโลกอื่น ตัวคลาวด์ในร่างของกาเล็ทยังไม่กล้า ไม่กล้าแม้แต่จะคิดว่านีน่าจะเสียใจถึงขนาดไหน ดังนั้นคลาวด์ในร่างของกาเล็ทจึงตัดสินใจอย่างเด็ดขาดที่จะไม่บอกความลับนี้ออกไป
"ท่านลุง ท่านกลับมาจากการเดินทางไกลคงรู้สึกเหน็ดเหนื่อยไม่น้อย ท่านลุงไปอาบน้ำพักผ่อนก่อนเถอะ หลังจากนั้นข้าเองก็มีเรื่องมากมายที่ต้องการจะสอบถามและขอความช่วยเหลือจากท่านลุงเหมือนกัน" กาเล็ทเอ่ยพร้อมกับเข้าไปรับเอาข้าวของที่กองอยู่รอบตัวโจเซพมา
ปล.รีไรท์ 2020
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น