ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    NoHero&LSK : ถ้าเทพอัศวินไปเซ็ตติ้งซัน

    ลำดับตอนที่ #31 : บุกศาสนจักร!!! [7]

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 961
      4
      22 ก.ย. 52

    ++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

    “เอายังไงล่ะตะวันรัตติกาล ท่าทางพวกเขาจะอาละวาดเละเทะจนไม่ต้องให้พวกเราไปช่วยเลยนะ”เฟิร์สวินด์หัวเราะเบาๆ

    “น่ากลัวจริงๆ...ที่คนของลีฟบัดต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าอย่าหาเรื่องกับสิบสองเทพอัศวินเพราะแบบนี้เองน่ะเหรอ”ดราก้อนพีชคราง

    “เพราะเวลาทำพวกเขาแค้น...มันน่ากลัวแบบนี้นี่เองสินะ”ผีเสื้อเดียวดายหัวเราะคิกคัก ถึงจะเพิ่งเคยเห็นเป็นครั้งแรกแต่เธอก็รู้สึกถูกใจคนของลีฟบัดขึ้นมาเสียแล้ว

    “นี่ยังน่ากลัวไม่ที่สุดหรอกครับ เชื่อผมเถอะ”โจซัวถอนหายใจ “ผมว่า...ถ้าคุณลองมาเห็นภาพการอาละวาดเดี่ยวของคุณครีอุสแบบพวกผมจะรู้สึก”

    “ระเบิดตูมตามไม่เกรงใจใครเลยจริงๆ”เมโลดี้พึมพำ

    “แล้วจะเอายังไง จะต้องวไปช่วยรึเปล่าหรือจะแยกย้ายกลับกันเลย”ผีเสื้อเดียวดายถาม

    “ยัง”ตะวันรัตติกาลตอบสั้นๆ “ผมสังหรณ์ใจไม่ดีแปลกๆ...อยู่ต่ออีกซักพักเถอะ”



    ฟู่~~~

    “เรียบร้อย”เฮฟเตตัสยิ้มยิงฟัน

    “ง่ายกว่าที่คิดนะ”ไทรอนเช็ดเลือดออกจากดาบ [เน้นว่า...เลือด!!!]

    “ไม่ต้องเปลืองแรงมากเลยจริงๆ พวกสวะก็อย่างนี้ล่ะนะ อ่อนแอ ไร้กำลังสิ้นดี”เอกอนสะบัดๆมีดสั้นไล่รอยเลอะที่ไม่พึงประสงค์ออกไป

    “......”เทอร์มิสกุมขมับนิดๆ

    ......พวกเขาจะเอานิสัยแบบเกรเซียสมามากไปแล้ว......

    ......ความแค้นแค่นิดเดียวก็ต้องชำระ...ให้ตาย......

    คิดพลาง ร่างในชุดคลุมสีดำก็อดหันไปมองต้นตอของความชั่วร้ายไม่ได้ ซึ่งก็ทันเห็นรอยยิ้มระรื่นของเจ้าตัวเสียด้วย

    “...เฮ้อ...”เทอร์มิสเทอร์มิสถอนหายใจ

    “ทำใจซะ เจ้าหนูสามสิบแปดก็แบบเนี้ยแหละ”

    “!”เทอร์มิสสะดุ้ง รีบหันหลังกลับทันที แต่ก็ไม่พบแม้แต่เงาของเสียงนั้น ขนาดไอซอทที่ยืนอยู่ข้างหลังแท้ๆยังทำหน้าสงสัย

    “มีอะไรรึ”ไอซอทถามอย่างแปลกใจ เมื่ออยู่ๆเทอร์มิสก็หันกลับมา

    “...เมื่อครู่...เจ้าพูดอะไรรึเปล่า?...”

    “เปล่า”ไอซอทตอบสั้นๆ

    “...งั้นรึ...”เทอร์มิสหันกลับมาอีกครั้ง แต่คราวนี้ก็พบสายตาสงสัยจากครีอุสอีก

    “เจ้าเป็นอะไรไปรึเทพอัศวินเทอร์มิส”ครีอุสถาม

    “ไม่ใช่เรื่องของเจ้า”

    เรื่องไร้สาระน่ะ อย่าใส่ใจเลย

    “ถ้าเจ้าว่าเช่นนั้น...ข้าก็จะไม่ก้าวก่ายความเป็นส่วนตัวของเจ้าแล้วกัน”ครีอุสยิ้มบางๆ

    งั้นก็ดี ข้าคิดว่าเป็นเรื่องอะไรแปลกๆเสียอีก

    “เรื่องส่วนตัวของข้าไม่ต้องการให้เจ้าเข้ามาก้าวก่ายแน่นอน”เทอร์มิสตอบ

    ถ้าเป็นเรื่องแปลกๆเมื่อไหร่จะบอกแล้วกัน

    “แบบนั้นก็น่าเสียดาย เพราะ...”

    “พวกเจ้าสองคนจะทะเลาะกันอีกนานมั๊ย ข้าฟังแล้วปวดหัวแทน”เทมเพสแทรกอย่างไม่กลัวตาย [?]

    “เจ้าต้องถามเทพอัศวินครีอุสหัวหน้าของเจ้าแล้ว ไม่ใช่ข้า”

    บอกเจ้าครีอุสสิ! ข้าผิดอะไร!!! อีกอย่าง เราไม่ได้ทะเลาะกันซักหน่อย!!!

    “ข้ากำลังสนทนาเรื่องทั่วๆไปกับเทพอัศวินเทอร์มิสเล็กน้อยน่ะ เทมเพสที่รักอย่าใส่ใจเลย”ครีอุสยิ้มกว้าง

    ข้าคุยกับเขาอยู่ อย่าแทรก!

    “พวกเจ้าสองคนนี่มันพอกันจริงๆ”เทมเพสบ่นเบาๆ “บทจะดีก็ดีซะ...แต่บทจะชั่วก็เกินไปจริงๆ แถมบทชั่วยังเยอะกว่าบทดีอีกต่างหาก”

    “ขออภัย ต้องเป็นความบังเอิญอันงดงามของเทพแห่งแสงสว่างเป็นแน่ที่ทำให้หูของข้าพิการกระทันหัน ไม่อาจได้ยินคำที่เจ้าว่าได้ โปรดเอ่ยอีกครั้งเถิดเทพอัศวินเทมเพส”

    ข้าได้ยินนะเจ้าเทมเพส! แน่จริงกล้าพูดอีกครั้งมั๊ย!!!

    “ถ้าเช่นนั้นคงเป็นความต้องการของเทพแห่งแสงสว่างเสียแล้ว เพราะข้าก็เกิดอาการเช่นเดียวกัน เจ้าลองพูดใหม่อีกครั้งซิเทพอัศวินเทมเพส”เทอร์มิสทำตาขวาง

    ข้าก็ได้ยินนะ! เจ้าพูดใหม่ให้มันดีๆ ไม่งั้นโดนแน่!!!

    “พอเถอะ ข้ายอมแพ้แล้ว”เทมเพสถอนหายใจ “ที่ข้าแทรกเพราะข้าจะบอกว่า เราใกล้จะถึงสุดทางแล้ว เลิกพูดกันซักที”

    “อ้อ คงเป็นพระเมตตาของเทพแห่งแสงสว่างที่ส่งเจ้ามาเตือนข้าจริงๆเทพอัศวินเทมเพส หากว่าเจ้ามาช้ากว่านี้อีกนิดเทพแห่งแสงสว่างต้องไม่พอใจแน่ๆ”

    เจ้าก็หัดบอกให้มันเร็วกว่านี้เซ่!

    “มันคือความเด็ดขาดของเทพเจ้าแห่งแสงสว่างที่ต้องการให้พวกเราลงฑัณฑ์คนบาปโดยเร็วสินะ”เทอร์มิสว่า

    ทำไมมันเร็วจัง ข้ายังไม่ทันรู้ตัวเลยนะเนี่ยว่าจะถึงแล้ว

    “...เฮ้อ...”ไอซอทลอบถอนหายใจ

    ......พวกเจ้าช่วยพูดให้คนอื่นฟังเข้าใจหน่อยได้มั๊ย อย่างน้อยๆก็เห็นแก่เฮฟเตตัสหน่อยเถอะเขางงจนตาแทบจะถลนออกมานอกเบ้าแล้ว......

    แต่ไอซอทก็ไม่ได้พูดออกไป ปล่อยให้เฮฟเตตัสงงอยู่แบบนั้นต่อไปแหละดีแล้ว

    ......จิตใจของเจ้าหมอนี่...ขืนมาเห็นการทะเลาะกันแบบเด็กๆของครีอุสที่ตนนับถือคงช็อคน่าดู มันยิ่งบ๊องๆบวมๆอยู่จะอ้าปากค้างเอา อับอายขายหน้าเทพอัศวินหมด......

    แปะ

    “อ๊ะ ขออภัยครับ เทพอัศวินไอซอท”ฮาเดสทำหน้าตาตื่น พร้อมกับดึงตุ๊กตาประหลาดๆนั่นออกจากหัว

    “ใครโยนมา”ไอซอทถามเสียงต่ำ

    “เอ่อ...ข้าเผลอสะบัดมือแรงไปหน่อย มันก็เลยปลิวน่ะครับ”ฮาเดสก้มหน้าหลบสายตา อาการแบบนี้ทำให้ดูแวบเดียวก็รู้ว่าโกหก

    “ข้าช่วยดีกว่านะ ของสำคัญไม่ใช่เหรอ”ครีอุสยิ้มกว้าง ก่อนจะคว้าตุ๊กตาไปถือซะเอง

    “เจ้ามีรสนิยมแบบนี้ด้วยเหรอครีอุส”ไทรอนขมวดคิ้ว

    “เปล่า ข้าแค่ช่วยเทพอัศวินฮาเดสรักษาของสำคัญเท่านั้นเอง”ครีอุสฉีกยิ้ม

    จริงๆตั้งแต่เห็นอาการประหลาดๆของเทอร์มิสกับครีอุสตอนที่กลับมา เทพอัศวินทั้งหลายต่างก็เริ่มสงสัยกับไอ้ตุ๊กตาธรรมดาๆที่ไม่น่าจะธรรมดาตัวนี้เป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ยิ่งได้รับคำยืนยันว่าเป็นของฮาเดส ซึ่งก็รู้กันดีแก่ใจว่าจริงๆเขาเป็น “อะไร” ก็ทำให้เดาได้แปดเก้าส่วนแล้วว่าเจ้าตุ๊กตานี่น่าจะเป็นหนึ่งใน “ปิศาจ” แน่ๆ

    แต่การที่ขนาดคนอย่างเทอร์มิสยังไม่ยอมทำอะไรนี่สิแปลก ทำให้พวกเขาไม่มีใครกล้าทำอะไรเลย

    ฟิ้ว...

    ครั้งนี้สายลมแปลกๆพัดวนอยู่รอบตัวเทอร์มิสอีกครั้ง ว่าตามจริงไอซอทสังเกตตั้งแต่ทีแรกแล้วว่ามีสายลมแปลกๆพัดวนอยู่รอบร่างของเทอร์มิส แต่ขนาดผู้ใช้สายลมอย่างเนเฟลกับเทมเพสยังไม่รู้สึก เพราะฉะนั้นก็หมายความว่า...

    เจ้านี่ไม่ใช่ลม

    แต่...มันเป็นอะไรล่ะ???



    “เจ้าลูฟ...ประมุขแห่งความตายตัวแสบ”

    ชายหนุ่มเข่นเขี้ยวเคี้ยวฟันอย่างแค้นเคือง ร่างเลือนรางสีเหลืองนวลลอยอยู่ไม่ไกลจากเจ้าตุ๊กตาตัวแสบซักเท่าไหร่ ผมสีบลอนด์ทองยาวประบ่ามีเชือกสีแดงสดตัดกับสีผมมัดเอาไว้เป็นปมเล็กๆที่ข้างหู ปลายเชือกยาวจนเกือบถึงปลายเท้า ดูเกะกะแปลกๆ ดวงตาสีน้ำเงินเข้มนั้นคมกริบชนิดเพียงแรกสบตาก็คงแทบจะฆ่ากันให้ตายไปข้าง ที่ข้อมือสองข้างก็มีเชือกแบบเดียวกันผูกยู่ แถมความยาวยังเกือบถึงปลายเท้าเหมือนกันอีกต่างหาก ดูไปคงน่ารำคาญและลำบากเวลาขยับตัว แต่ร่างสูงก็เคลื่อนไหวอย่างคล่องแคล่วแบบที่แม้จะมีเชือกยาวๆสามเส้นก็ไม่ได้พันกันจนมาเกะกะเลยซักนิด

    ชาเพรย์...เทพอัศวินครีอุสรุ่นที่สิบสองผู้เกือบฆ่าประมุขแห่งความตายรุ่นที่สี่มาแล้ว แม้จะได้รับฉายาว่าเป็นเทพอัศวินครีอุสที่รังเกียจประมุขแห่งความตายจนถึงขนาดจะฆ่าไม่ให้เหลือ แต่ด้วยคำสั่งของประมุขสูงสุดแห่ง “ครีอุส” จึงจำต้องออกมาดูแลประมุขแห่งความตายทั้งสองอย่างไม่ค่อยพอใจนัก ถึงแม้ว่าความจริง จากนิสัยและท่าทางแล้วเจ้าตัวจะเหมาะกับการเป็นเทพอัศวินเทอร์มิสมากกว่าก็เถอะ

    “โยนข้าไปใส่หัวคนอื่นเนี่ย สนุกนักล่ะสิชาเพรย์”ลูฟมองตาขวาง ทั้งสองคนไม่กินเส้นกันอยู่แล้ว ด้วยว่าชาเพรย์เกลียดประมุขแห่งความตาย และลูฟก็เกลียดชาเพรย์ไม่แพ้กัน

    เมื่อครู่ อยู่ๆชาเพรย์ก็โผล่ออกมา ทำเอาลอเรนถึงกับชะงัก เขาไม่เคยเจอสายตาไม่เป็นมิตรจาก “เทพอัศวินครีอุส” มาก่อน ทำให้ตกใจไม่น้อย ส่วนชาเพรย์ก็ดูจะไม่ได้สนใจลอเรนเท่าที่ควร ร่างสูงกระชากลูฟมาจากมือของลอเรนแล้วเขวี้ยงทิ้งอย่างแรงเป็นการระบายอารมณ์โกรธจัดที่ถูกสั่งคำสั่งสุดฝืนใจเช่นนี้

    “แน่จริงเจ้าก็พูดออกมาสิ”ชาเพรย์ท้า เพราะตอนนี้ลูฟใช้การสื่อสารทางจิตแทน

    “ข้าไม่โง่ให้ถูกเทพอัศวินจับได้หรอกนะ ขอผ่าน”ลูฟจ้องชาเพรย์นิ่ง

    ในที่นี้ ลอเรนเป็นคนเดียวที่เห็นและได้ยินเสียงของทั้งสอง ซึ่งตอนนี้ร่างบางก็ราวกับเห็นเหมือนมีสายฟ้าแลบแปล็บๆมาจากสายตาของทั้งสองคน และยังมีบรรยากาศอึมครึมเป็นพื้นหลังอีกต่างหาก

    “...น่ากลัว...”ลอเรนกอดตัวเองอย่างขนลุก เพียงแค่ชายคนนั้นโผล่มา บรรยากาศก็เปลี่ยนไปทันที แม้แต่ลูฟที่มักจะมาอ้อนเขาอยู่เสมอยังหันมาวางตัวเหมืน “ประมุขแห่งความตาย” หน่อยแล้ว

    “เตรียมใจกันรึยังทุกคน”ครีอุสถาม เรียกสายตาของลอเรนและลูฟให้หันไปมองได้ ทั้งสองถึงเพิ่งรู้ว่าครีอุสพาพวกเขามาถึงจุดหมายแล้ว

    “ในนี้มีตัวการใหญ่อยู่ ข้ามาที่นี่เพื่อเจรจากับเขา “อย่างสันติ” นะ”ครีอุสยิ้มสว่างไสว

    “รู้แล้ว พวกเราไม่ลงมือหรอก”อาเทมิสว่า

    ......แต่ถ้าทางนั้นลงมือก่อนก็ไม่แน่......ทุกคนแอบคิด

    “ไปกันเลย!”

    ปัง!!!!!

    ++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×