คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #31 : บุกศาสนจักร!!! [7]
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
“เอายังไงล่ะตะวันรัตติกาล ท่าทางพวกเขาจะอาละวาดเละเทะจนไม่ต้องให้พวกเราไปช่วยเลยนะ”เฟิร์สวินด์หัวเราะเบาๆ
“น่ากลัวจริงๆ...ที่คนของลีฟบัดต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าอย่าหาเรื่องกับสิบสองเทพอัศวินเพราะแบบนี้เองน่ะเหรอ”ดราก้อนพีชคราง
“เพราะเวลาทำพวกเขาแค้น...มันน่ากลัวแบบนี้นี่เองสินะ”ผีเสื้อเดียวดายหัวเราะคิกคัก ถึงจะเพิ่งเคยเห็นเป็นครั้งแรกแต่เธอก็รู้สึกถูกใจคนของลีฟบัดขึ้นมาเสียแล้ว
“นี่ยังน่ากลัวไม่ที่สุดหรอกครับ เชื่อผมเถอะ”โจซัวถอนหายใจ “ผมว่า...ถ้าคุณลองมาเห็นภาพการอาละวาดเดี่ยวของคุณครีอุสแบบพวกผมจะรู้สึก”
“ระเบิดตูมตามไม่เกรงใจใครเลยจริงๆ”เมโลดี้พึมพำ
“แล้วจะเอายังไง จะต้องวไปช่วยรึเปล่าหรือจะแยกย้ายกลับกันเลย”ผีเสื้อเดียวดายถาม
“ยัง”ตะวันรัตติกาลตอบสั้นๆ “ผมสังหรณ์ใจไม่ดีแปลกๆ...อยู่ต่ออีกซักพักเถอะ”
ฟู่~~~
“เรียบร้อย”เฮฟเตตัสยิ้มยิงฟัน
“ง่ายกว่าที่คิดนะ”ไทรอนเช็ดเลือดออกจากดาบ [เน้นว่า...เลือด!!!]
“ไม่ต้องเปลืองแรงมากเลยจริงๆ พวกสวะก็อย่างนี้ล่ะนะ อ่อนแอ ไร้กำลังสิ้นดี”เอกอนสะบัดๆมีดสั้นไล่รอยเลอะที่ไม่พึงประสงค์ออกไป
“......”เทอร์มิสกุมขมับนิดๆ
......พวกเขาจะเอานิสัยแบบเกรเซียสมามากไปแล้ว......
......ความแค้นแค่นิดเดียวก็ต้องชำระ...ให้ตาย......
คิดพลาง ร่างในชุดคลุมสีดำก็อดหันไปมองต้นตอของความชั่วร้ายไม่ได้ ซึ่งก็ทันเห็นรอยยิ้มระรื่นของเจ้าตัวเสียด้วย
“...เฮ้อ...”เทอร์มิสเทอร์มิสถอนหายใจ
“ทำใจซะ เจ้าหนูสามสิบแปดก็แบบเนี้ยแหละ”
“!”เทอร์มิสสะดุ้ง รีบหันหลังกลับทันที แต่ก็ไม่พบแม้แต่เงาของเสียงนั้น ขนาดไอซอทที่ยืนอยู่ข้างหลังแท้ๆยังทำหน้าสงสัย
“มีอะไรรึ”ไอซอทถามอย่างแปลกใจ เมื่ออยู่ๆเทอร์มิสก็หันกลับมา
“...เมื่อครู่...เจ้าพูดอะไรรึเปล่า?...”
“เปล่า”ไอซอทตอบสั้นๆ
“...งั้นรึ...”เทอร์มิสหันกลับมาอีกครั้ง แต่คราวนี้ก็พบสายตาสงสัยจากครีอุสอีก
“เจ้าเป็นอะไรไปรึเทพอัศวินเทอร์มิส”ครีอุสถาม
“ไม่ใช่เรื่องของเจ้า”
เรื่องไร้สาระน่ะ อย่าใส่ใจเลย
“ถ้าเจ้าว่าเช่นนั้น...ข้าก็จะไม่ก้าวก่ายความเป็นส่วนตัวของเจ้าแล้วกัน”ครีอุสยิ้มบางๆ
งั้นก็ดี ข้าคิดว่าเป็นเรื่องอะไรแปลกๆเสียอีก
“เรื่องส่วนตัวของข้าไม่ต้องการให้เจ้าเข้ามาก้าวก่ายแน่นอน”เทอร์มิสตอบ
ถ้าเป็นเรื่องแปลกๆเมื่อไหร่จะบอกแล้วกัน
“แบบนั้นก็น่าเสียดาย เพราะ...”
“พวกเจ้าสองคนจะทะเลาะกันอีกนานมั๊ย ข้าฟังแล้วปวดหัวแทน”เทมเพสแทรกอย่างไม่กลัวตาย [?]
“เจ้าต้องถามเทพอัศวินครีอุสหัวหน้าของเจ้าแล้ว ไม่ใช่ข้า”
บอกเจ้าครีอุสสิ! ข้าผิดอะไร!!! อีกอย่าง เราไม่ได้ทะเลาะกันซักหน่อย!!!
“ข้ากำลังสนทนาเรื่องทั่วๆไปกับเทพอัศวินเทอร์มิสเล็กน้อยน่ะ เทมเพสที่รักอย่าใส่ใจเลย”ครีอุสยิ้มกว้าง
ข้าคุยกับเขาอยู่ อย่าแทรก!
“พวกเจ้าสองคนนี่มันพอกันจริงๆ”เทมเพสบ่นเบาๆ “บทจะดีก็ดีซะ...แต่บทจะชั่วก็เกินไปจริงๆ แถมบทชั่วยังเยอะกว่าบทดีอีกต่างหาก”
“ขออภัย ต้องเป็นความบังเอิญอันงดงามของเทพแห่งแสงสว่างเป็นแน่ที่ทำให้หูของข้าพิการกระทันหัน ไม่อาจได้ยินคำที่เจ้าว่าได้ โปรดเอ่ยอีกครั้งเถิดเทพอัศวินเทมเพส”
ข้าได้ยินนะเจ้าเทมเพส! แน่จริงกล้าพูดอีกครั้งมั๊ย!!!
“ถ้าเช่นนั้นคงเป็นความต้องการของเทพแห่งแสงสว่างเสียแล้ว เพราะข้าก็เกิดอาการเช่นเดียวกัน เจ้าลองพูดใหม่อีกครั้งซิเทพอัศวินเทมเพส”เทอร์มิสทำตาขวาง
ข้าก็ได้ยินนะ! เจ้าพูดใหม่ให้มันดีๆ ไม่งั้นโดนแน่!!!
“พอเถอะ ข้ายอมแพ้แล้ว”เทมเพสถอนหายใจ “ที่ข้าแทรกเพราะข้าจะบอกว่า เราใกล้จะถึงสุดทางแล้ว เลิกพูดกันซักที”
“อ้อ คงเป็นพระเมตตาของเทพแห่งแสงสว่างที่ส่งเจ้ามาเตือนข้าจริงๆเทพอัศวินเทมเพส หากว่าเจ้ามาช้ากว่านี้อีกนิดเทพแห่งแสงสว่างต้องไม่พอใจแน่ๆ”
เจ้าก็หัดบอกให้มันเร็วกว่านี้เซ่!
“มันคือความเด็ดขาดของเทพเจ้าแห่งแสงสว่างที่ต้องการให้พวกเราลงฑัณฑ์คนบาปโดยเร็วสินะ”เทอร์มิสว่า
ทำไมมันเร็วจัง ข้ายังไม่ทันรู้ตัวเลยนะเนี่ยว่าจะถึงแล้ว
“...เฮ้อ...”ไอซอทลอบถอนหายใจ
......พวกเจ้าช่วยพูดให้คนอื่นฟังเข้าใจหน่อยได้มั๊ย อย่างน้อยๆก็เห็นแก่เฮฟเตตัสหน่อยเถอะเขางงจนตาแทบจะถลนออกมานอกเบ้าแล้ว......
แต่ไอซอทก็ไม่ได้พูดออกไป ปล่อยให้เฮฟเตตัสงงอยู่แบบนั้นต่อไปแหละดีแล้ว
......จิตใจของเจ้าหมอนี่...ขืนมาเห็นการทะเลาะกันแบบเด็กๆของครีอุสที่ตนนับถือคงช็อคน่าดู มันยิ่งบ๊องๆบวมๆอยู่จะอ้าปากค้างเอา อับอายขายหน้าเทพอัศวินหมด......
แปะ
“อ๊ะ ขออภัยครับ เทพอัศวินไอซอท”ฮาเดสทำหน้าตาตื่น พร้อมกับดึงตุ๊กตาประหลาดๆนั่นออกจากหัว
“ใครโยนมา”ไอซอทถามเสียงต่ำ
“เอ่อ...ข้าเผลอสะบัดมือแรงไปหน่อย มันก็เลยปลิวน่ะครับ”ฮาเดสก้มหน้าหลบสายตา อาการแบบนี้ทำให้ดูแวบเดียวก็รู้ว่าโกหก
“ข้าช่วยดีกว่านะ ของสำคัญไม่ใช่เหรอ”ครีอุสยิ้มกว้าง ก่อนจะคว้าตุ๊กตาไปถือซะเอง
“เจ้ามีรสนิยมแบบนี้ด้วยเหรอครีอุส”ไทรอนขมวดคิ้ว
“เปล่า ข้าแค่ช่วยเทพอัศวินฮาเดสรักษาของสำคัญเท่านั้นเอง”ครีอุสฉีกยิ้ม
จริงๆตั้งแต่เห็นอาการประหลาดๆของเทอร์มิสกับครีอุสตอนที่กลับมา เทพอัศวินทั้งหลายต่างก็เริ่มสงสัยกับไอ้ตุ๊กตาธรรมดาๆที่ไม่น่าจะธรรมดาตัวนี้เป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ยิ่งได้รับคำยืนยันว่าเป็นของฮาเดส ซึ่งก็รู้กันดีแก่ใจว่าจริงๆเขาเป็น “อะไร” ก็ทำให้เดาได้แปดเก้าส่วนแล้วว่าเจ้าตุ๊กตานี่น่าจะเป็นหนึ่งใน “ปิศาจ” แน่ๆ
แต่การที่ขนาดคนอย่างเทอร์มิสยังไม่ยอมทำอะไรนี่สิแปลก ทำให้พวกเขาไม่มีใครกล้าทำอะไรเลย
ฟิ้ว...
ครั้งนี้สายลมแปลกๆพัดวนอยู่รอบตัวเทอร์มิสอีกครั้ง ว่าตามจริงไอซอทสังเกตตั้งแต่ทีแรกแล้วว่ามีสายลมแปลกๆพัดวนอยู่รอบร่างของเทอร์มิส แต่ขนาดผู้ใช้สายลมอย่างเนเฟลกับเทมเพสยังไม่รู้สึก เพราะฉะนั้นก็หมายความว่า...
เจ้านี่ไม่ใช่ลม
แต่...มันเป็นอะไรล่ะ???
“เจ้าลูฟ...ประมุขแห่งความตายตัวแสบ”
ชายหนุ่มเข่นเขี้ยวเคี้ยวฟันอย่างแค้นเคือง ร่างเลือนรางสีเหลืองนวลลอยอยู่ไม่ไกลจากเจ้าตุ๊กตาตัวแสบซักเท่าไหร่ ผมสีบลอนด์ทองยาวประบ่ามีเชือกสีแดงสดตัดกับสีผมมัดเอาไว้เป็นปมเล็กๆที่ข้างหู ปลายเชือกยาวจนเกือบถึงปลายเท้า ดูเกะกะแปลกๆ ดวงตาสีน้ำเงินเข้มนั้นคมกริบชนิดเพียงแรกสบตาก็คงแทบจะฆ่ากันให้ตายไปข้าง ที่ข้อมือสองข้างก็มีเชือกแบบเดียวกันผูกยู่ แถมความยาวยังเกือบถึงปลายเท้าเหมือนกันอีกต่างหาก ดูไปคงน่ารำคาญและลำบากเวลาขยับตัว แต่ร่างสูงก็เคลื่อนไหวอย่างคล่องแคล่วแบบที่แม้จะมีเชือกยาวๆสามเส้นก็ไม่ได้พันกันจนมาเกะกะเลยซักนิด
ชาเพรย์...เทพอัศวินครีอุสรุ่นที่สิบสองผู้เกือบฆ่าประมุขแห่งความตายรุ่นที่สี่มาแล้ว แม้จะได้รับฉายาว่าเป็นเทพอัศวินครีอุสที่รังเกียจประมุขแห่งความตายจนถึงขนาดจะฆ่าไม่ให้เหลือ แต่ด้วยคำสั่งของประมุขสูงสุดแห่ง “ครีอุส” จึงจำต้องออกมาดูแลประมุขแห่งความตายทั้งสองอย่างไม่ค่อยพอใจนัก ถึงแม้ว่าความจริง จากนิสัยและท่าทางแล้วเจ้าตัวจะเหมาะกับการเป็นเทพอัศวินเทอร์มิสมากกว่าก็เถอะ
“โยนข้าไปใส่หัวคนอื่นเนี่ย สนุกนักล่ะสิชาเพรย์”ลูฟมองตาขวาง ทั้งสองคนไม่กินเส้นกันอยู่แล้ว ด้วยว่าชาเพรย์เกลียดประมุขแห่งความตาย และลูฟก็เกลียดชาเพรย์ไม่แพ้กัน
เมื่อครู่ อยู่ๆชาเพรย์ก็โผล่ออกมา ทำเอาลอเรนถึงกับชะงัก เขาไม่เคยเจอสายตาไม่เป็นมิตรจาก “เทพอัศวินครีอุส” มาก่อน ทำให้ตกใจไม่น้อย ส่วนชาเพรย์ก็ดูจะไม่ได้สนใจลอเรนเท่าที่ควร ร่างสูงกระชากลูฟมาจากมือของลอเรนแล้วเขวี้ยงทิ้งอย่างแรงเป็นการระบายอารมณ์โกรธจัดที่ถูกสั่งคำสั่งสุดฝืนใจเช่นนี้
“แน่จริงเจ้าก็พูดออกมาสิ”ชาเพรย์ท้า เพราะตอนนี้ลูฟใช้การสื่อสารทางจิตแทน
“ข้าไม่โง่ให้ถูกเทพอัศวินจับได้หรอกนะ ขอผ่าน”ลูฟจ้องชาเพรย์นิ่ง
ในที่นี้ ลอเรนเป็นคนเดียวที่เห็นและได้ยินเสียงของทั้งสอง ซึ่งตอนนี้ร่างบางก็ราวกับเห็นเหมือนมีสายฟ้าแลบแปล็บๆมาจากสายตาของทั้งสองคน และยังมีบรรยากาศอึมครึมเป็นพื้นหลังอีกต่างหาก
“...น่ากลัว...”ลอเรนกอดตัวเองอย่างขนลุก เพียงแค่ชายคนนั้นโผล่มา บรรยากาศก็เปลี่ยนไปทันที แม้แต่ลูฟที่มักจะมาอ้อนเขาอยู่เสมอยังหันมาวางตัวเหมืน “ประมุขแห่งความตาย” หน่อยแล้ว
“เตรียมใจกันรึยังทุกคน”ครีอุสถาม เรียกสายตาของลอเรนและลูฟให้หันไปมองได้ ทั้งสองถึงเพิ่งรู้ว่าครีอุสพาพวกเขามาถึงจุดหมายแล้ว
“ในนี้มีตัวการใหญ่อยู่ ข้ามาที่นี่เพื่อเจรจากับเขา “อย่างสันติ” นะ”ครีอุสยิ้มสว่างไสว
“รู้แล้ว พวกเราไม่ลงมือหรอก”อาเทมิสว่า
......แต่ถ้าทางนั้นลงมือก่อนก็ไม่แน่......ทุกคนแอบคิด
“ไปกันเลย!”
ปัง!!!!!
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
ความคิดเห็น