ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    NoHero&LSK : ถ้าเทพอัศวินไปเซ็ตติ้งซัน

    ลำดับตอนที่ #30 : บุกศาสนจักร!!! [6]

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 869
      2
      22 ก.ย. 52

    ++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

    “ตกลง...ว่ายังไงล่ะครีอุส”เนเฟลถาม

    “อะไรคือว่ายังไงของเจ้า เทพอัศวินเนเฟล”ครีอุสทำหน้าสงสัย

    “เรื่องลูฟ”เนเฟลพูดสั้นๆ

    “เหอะๆ”เท่านั้นล่ะ สีหน้าของครีอุสก็เปลี่ยนไปเป็นแบบที่เนเฟลไม่เคยเห็นมาก่อน มันเป็นสีหน้าหนักใจอย่างแท้จริง แม้จะแค่แวบเดียวก็มากพอจะทำให้เทพแห่งสายลมตกใจจนเกือบช็อคได้

    “เชื่อข้า...เจ้าไม่อยากรู้หรอก”ครีอุสตอบ

    “หา!?!”



    “อะไรนะ! ครีอุสเห็นร่างจริงของเจ้า!?!?!”ลอเรนตกใจแทบสิ้นสติ

    “เออสิ ดีที่มันไม่พูดอะไรเทือกๆนั้น ก็เลยยังรอดมาได้อยู่อย่างที่เห็น”ลูฟเข่นเขี้ยวเคี้ยวฟัน ซึ่งลอเรนก็รู้ดีแก่ใจว่าอะไรคือ “เทือกๆนั้น” ที่ลูฟพูดถึง

    “แล้ว...เจ้าไปทำยังไงกันล่ะถึงได้เผยร่างจริง ไหนว่าเกลียดนักเกลียดหนาไง”ลอเรนถาม

    “เจ้าอย่ารู้เลย”ลูฟตัดบท

    “ทำไมล่ะ? ข้าไม่เข้าใจ???”

    “บอกว่าอย่ารู้ก็อย่ารู้ แค่นั้น จบ”ลูฟชิ่งหายตัวไปเสียก่อนที่จะโดนเค้นคอมากกว่านี้

    “อะไรของเขากันนะ?”ลอเรนพึมพำ



    “น่าอับอายขายหน้าที่สุด ชริๆๆๆๆๆ”ร่างบางกระฟัดกระเฟียดอย่างคับแค้นใจ

    ตอนนี้ลูซิเฟอร์กลับมายัง “บ้าน” ของตัวเองในโลกต่างมิติอีกครั้ง ในสภาพร่างจริงๆของตนเอง ผมยาวสยายสีม่วงเข้มแผ่เต็มเตียง ร่างบางนอนแผ่หลาอยู่กับเตียงอย่างหมดแรง

    “บ้าที่สุด เจ้าครีอุสสารเลว!!!”

    “อะแฮ่ม เจ้าว่าผิดคนอีกแล้วนะ”

    “ข้าจะว่าใครจะทำไม! ถึงพูดผิดคนแต่จริงๆเจ้าก็เลวจริงๆนั่นแหละครีอุส! เข้าบ้านคนอื่นไม่เคาะประตูได้ยังไง!!!”ลูฟลุกขึ้นนั่งโวยวาย

    “ตอนแรกเจ้าจะด่าเกรเซียสไม่ใช่เหรอ ไหงพาลมาโดนข้าด้วยล่ะ”ครีอุสหัวเราะกับอาการงอนเป็นเด็กๆของลูซิเฟอร์

    “ไม่รู้ไม่สน! คนที่ใช้ชื่อครีอุสเลวๆๆๆๆๆเลวกันหมดทุกคนนั่นแหละ!!!”ลูฟสะบัดหน้าหนี

    “อ้าว แบบนี้มันพ่วงเอาพวกข้าไปหมดเลยนา”ไซนาสอ้าปากค้าง

    “คนเขาอุตส่าห์มาเยี่ยมเพราะเป็นห่วง โดนด่าซะงั้น”เดเมียสบ่นอุบอิบ

    “เจ้าไม่เป็นไรมากนะลูฟ?”เอมไพร์ถามอย่างเป็นห่วง

    “ไม่เป็นไร...ตรงไหนกันล่ะ!!!”ลูฟโวยลั่น “ข้าโดนเห็นร่างจริงนะ! เห็นร่างจริง!!! อ๊า~~~ จะบ้าตาย”ลูฟเอนตัวลงไปนอนแปะกับเตียงต่อ

    “เอาน่า เกรเซียสไม่พูดว่าเจ้าหน้าตาเหมือนผู้...แว๊ก!!!”

    “ถ้าหลุดปากพูดออกมาระวังเงาหัวจะไม่มี!!!!!”ลูฟแยกเขี้ยว แต่ไม่ได้แค่ขู่ เพราะสายฟ้าสีดำเพิ่งแผลงฤทธิ์ไปหมาดๆ

    “ไซนาส สงบปากสงบคำหน่อย”ครีอุสเอ่ย

    “คร้าบ ท่านครีอุส”ไซนาสชักสีหน้าแหยๆ

    “ที่ข้าถามน่ะคือเอาจริงๆนะลูฟ เจ้าไม่เป็นไรตรงไหนใช่มั๊ย”เอมไพร์ถาม

    “เอาจริงๆก็ไม่มีอะไรบาดเจ็บ แค่ข้าขายหน้า!”ลูฟแหว

    “นั่นก็ยังดีแล้วกัน ดีกว่าเจ็บตัวกลับมา”เอมไพร์บอก

    “นั่นสิๆ”เดเมียสเห็นด้วย

    “แต่ข้าไม่ชอบให้ใครเห็นนี่ พวกเจ้าก็รู้”ลูฟนอนหันหลังให้ทุกคนเสียเลย

    “แต่ลอเรนยังไม่พ้นอันตรายนะ ท่าทางเกรเซียสจะยังไม่จบแค่ลูกกระจ๊อกพวกนั้นหรอก เพราะในคฤหาสถ์นั่นยังมีตัวหลักอยู่อีกตัวนี่นา”ครีอุสพูดลอยๆ

    “อะไรนะ! เจ้าจอมมารนั่นยังไม่ออกมาจากคฤหาสถ์อีกเหรอ!?!”ลูฟสะดุ้ง

    “ก็ใช่น่ะสิ”ไซนาสพยักหน้า

    “...อึก...”ลูฟชักหน้าเสีย

    ......ไม่ไปก็ไม่ได้...ลอเรนตกอยู่ในอันตราย แต่......

    “ข้าไม่อยากไปง่ะ”ลูฟทำหน้าตาเหมือนจะร้องไห้

    “อะโอ๋ๆ อย่าร้องไห้สิ เจ้าเป็นประมุขแห่งความตายนะ มาขี้แยได้ไง”เดเมียสเริ่มลนลาน

    “เอาไงล่ะท่านครีอุส”เอมไพร์ถาม

    “เฮ้อ...ช่วยไม่ได้นี่นะ”ครีอุสถอนหายใจ “ยังไงนั่นก็เป็นทายาทของเจ้า แถมยังเป็นผู้สืบทอดของลูฟ จะปล่อยทิ้งไปคงไม่ดี งั้น...ไซนาส!”

    “ครับ”ไซนาสรับคำ

    “กลับไปที่บ้าน เรียกตัวชาเพรย์ไปแทนที”

    “ชาเพรย์!!!!!”ทุกคนสะดุ้ง

    “ไม่ได้นะ! เจ้าก็รู้ว่าชาเพรย์เกลียดประมุขแห่งความตาย! เขาได้ฆ่าลอเรนกันพอดี!!!”ลูฟลุกพรวด

    “ก็ข้าไม่เห็นว่าจะมีใครว่างนี่นา”ครีอุสทำท่าไม่ใส่ใจ

    “หยุด! ไม่ต้องให้ชาเพรย์ไป ข้าไปเองก็ได้!!! พอใจรึยังเจ้าจอมเจ้าเล่ห์!!!!!”ลูฟตะโกนลั่น

    “อ้าว ก็ข้าคิดว่าจะ...”

    “ไม่ต้องพูดเลย! อย่ามาสวมเป็นเทพอัศวินฮาเดสจอมโฉดตอนนี้!”ลูฟตะโกน “ข้าไปเองก็ได้! ข้าไม่ได้กลัวเจ้าจอมมารขนาดนั้นซักหน่อย!!!”

    วูบ~

    ร่างเล็กเลือนหายไปทันที

    “กลับไปหาลอเรนแล้วเหรอครับ”เดเมียสถอนใจเฮือก “ข้าคิดว่าท่านจะให้ชาเพรย์ไปจริงๆเสียอีก”

    “เขาเป็นเทพอัศวินครีอุสที่สิบสองที่เกือบจะฆ่าประมุขแห่งความตายรุ่นที่สี่ไม่ใช่เหรอครับ ท่านน่าจะรู้ว่าเขา...”เอมไพร์คราง

    “ข้าไม่ได้ล้อเล่นนะ ไซนาส ทำไมเจ้าไม่ไปตามชาเพรย์เสียทีล่ะ”

    “ท่านครีอุส!!!!!”

    “ข้าแค่ต้องการความแน่ใจเท่านั้น ถึงชาเพรย์จะเกลียดประมุขแห่งความตายแต่เขาก็ยึดมั่นในคำสั่งของข้าน่า”ครีอุสยิ้ม

    “...ก็ได้...ครับ...”ไซนาสตอบด้วยน้ำเสียงแห้งผาก

    “ข้าไปด้วย เผื่อเจ้าจะกล่อมเจ้าหัวแข็งนั่นไม่ไหว”เดเมียสเสนอ

    “ข้าด้วยดีกว่า ท่านอาจารย์”เอมไพร์เองก็เห็นด้วยเหมือนกัน

    ฟุ่บ!

    ทั้งสามรีบหายตัวไปทันที

    “...เอ...เขาจะเชื่อฟังข้าจริงๆรึเปล่านะ? คิดไปคิดมาข้าเองก็ชักไม่แน่ใจแล้วสิ”

    ......ก็ชาเพรย์...เกลียดประมุขแห่งความตายเข้าใส้เลยนี่นา......



    วูบ...

    “อ๊ะ”

    “มีอะไรเหรอเคเรส?”

    “อืม...ไม่รู้สิ”เคเรสพึมพำ

    “เจ้าเห็นอะไรรึเปล่า?”ครีอุสถาม เพราะเคเรสสายตาดีกว่าคนปรกติเกือบเท่าตัวแล้วในตอนนี้

    “ข้าเห็น...เหมือนข้างหน้า...มีเงาคน”เคเรสตอบ

    “เห...จะได้ลงมือแล้วล่ะสิ”เฮฟเตตัสทำตาเป็นประกาย

    “ใครจะเอา”เทอร์มิสถามสั้นๆ

    “ข้า!!!”เฮฟเตตัส เอกอน และไทรอนเสนอตัวแทบจะทันที

    “งั้นตามสบาย พวกเราจะล่วงหน้าไปก่อนนะ”เทมเพสยิ้มบางๆ เกือบหลุดเสียงหัวเราะ

    ......อืม...สามคนจอมเลือดร้อน...แบบนี้พวกนั้นไม่ตายดีแน่......

    “ว่าแต่ เจ้าคาดเอาไว้รึเปล่าว่าใครเป็นตัวการใหญ่”อาร์เมลถาม

    “ข้าไม่แน่ใจ แต่เขาต้องมีตำแหน่งสูงในศาสนจักรแน่ และข้าคิดจะ “เกลี้ยกล่อม” เขาอย่างละมุนละม่อมที่สุดเท่าที่จะทำได้...น่ะนะ”ครีอุสยิ้มด้วยรอยยิ้มแห่งแสงสว่างเต็มพิกัด

    “โอ้~ ข้าล่ะชอบคำนี้จัง”เฮฟเตตัสหัวเราะ

    “จะถึงแล้ว เหยื่อของข้า~”เอกอนหัวเราะ มีดสั้นในมือควงไปมาอย่างน่าหวาดเสียว [เอกอนใช้มีดสั้นเป็นอาวุธนะคะ]

    “งั้นก็...แข่งเก็บจำนวนกันมั๊ย?”ไทรอนเสนอ

    “น่าสน!”

    “นี่พวกเจ้า อย่าพูดเรื่องไม่สง่างามได้มั๊ย”ครีอุสทำหน้าเหมือนซาบซึ้งในพระธรรมคำสอนอย่างยิ่ง “พวกเจ้าต้องพยายามทำตัวให้ดีๆ อย่าใช้ความรุนแรงก่อนแม้ว่าอีกฝ่ายจะเป็นศัตรู เราก็ต้องใช้พระเมตตาของเทพแห่งแสงสว่างเข้าปราบให้พวกเขาเข้าถึงหลักความจริงของการมีชีวิตอยู่”

    “อ๋อ จะบอกว่าให้ล่อให้พวกมันลงมือก่อนค่อยจัดการใช่มะ จะได้มีข้ออ้างทีหลัง”เฮฟเตตัสหัวเราะ

    “และจะบอกอีกว่าต้องเล่นงานให้เละอย่าให้ลุกขึ้นมาได้อีกล่ะสิ จะได้เอาเวลานอนไปซาบซึ้งกับการมีชีวิตที่เจ้าว่า”ไทรอนเสริม

    “...เฮ้อ...”ครีอุสไม่พูดอะไร แต่ทำหน้าแปลกๆ ทั้งๆที่ในใจ...

    ......โอ้! พวกเขาเริ่มแปลความหมายของข้าออกแล้ว! ขอบคุณพระเมตตาของเทพเจ้าแห่งแสงสว่างจริงๆที่ข้าไม่ต้องมาแปลให้พวกเขาฟังซ้ำสอง......

    ++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×